ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fake Friend ใครเพื่อนคุณ ? [รีไรท์]

    ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 10 : พิสูจน์

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 64


    กิจกรรมการตกหมึกของเราต้องพับเก็บไปเนื่องจากสภาพฟ้าฝนที่ไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่นัก หน้าร้อนแท้ ๆ แต่กลับมีฝนหลงฤดูตกลงมาโครมใหญ่

     

    พวกเราจึงตัดสินใจแยกย้ายกันมาพักผ่อนก่อน แล้วค่อยมารวมตัวกันที่ห้องไอเต้ตอน 4 ทุ่มครึ่ง ยังเหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดฉันเลยอาบน้ำแล้วนอนกลิ้งไปกลิ้งมาเช็คโซเชียลฆ่าเวลา ปัดสตอรี่ไอจี เลื่อนฟีดข่าวเฟซบุ๊กไปเรื่อย ๆ

     

    ก็อก ๆๆ

     

    เสียงเคาะประตูห้องฉันดังขึ้น ฉันเลยลุกขึ้นจะไปเปิดประตูแต่ก็ชะงัก

     

    คงไม่ใช่มาวินอีกหรอกนะ...

     

    "ใครอะ?"

     

    "กูเอง เปิดประตูหน่อย"

     

    อยากจะกวนตีนมันอยู่ว่ากูที่ว่านี่ใคร แต่เห็นแก่ว่าฝนที่สาดข้างนอกเลยรีบเปิดประตูให้มัน ไอนิวตันที่หัวและเสื้อเปียกนิดหน่อยเดินเข้ามาแล้วสะบัดผมใส่ฉัน

     

    "มึงจะสะบัดขนใส่กูทำไมเนี่ย!"

     

    อดด่ามันไม่ได้ ผ้าขนหนูก็มีไม่เช็ดดี ๆ ฉันเลยไปหยิบผ้าขนหนูมาโยนใส่มันให้มันเช็ดผม ก่อนจะไปล้มตัวนอนบนเตียงเล่นโทรศัพท์เหมือนเดิม

     

    ฟุ่บ!

     

    ไอนิวตันนั่งลงข้างเตียงจนทำให้พื้นเตียงยวบไปนิดหน่อย ฉันหันไปมองมันแวบนึงเมื่อเห็นมันไม่พูดอะไรนอกจากจ้องฉันนิ่ง ๆ ฉันเลยเบือนหน้าหนีไม่สนใจมันต่อ...เดี๋ยวมันอยากจะพูดอะไรก็คงพูดเองนั่นแหละ

     

    “เม...กูมีเรื่องสงสัย"

     

    "ว่า? "

     

    "มึงกับไอซีนี่มีซัมติงอะไรป้ะ"

     

    "...ทำไมมึงถามงั้นอะ" แอบตกใจนิดหน่อยตอนมันถาม แต่ก็ต้องทำนิ่ง ๆ แล้วถามมันกลับ

     

    "ท่าทางพวกมึงอะ มันแปลกไป คือ...กูจะอธิบายไงดีวะ..." มันเกาหัวแล้วทำสีหน้ายุ่งยาก ทิ้งไว้เป็นความเงียบอยู่พักใหญ่

     

    “...กูกับซีเนียร์จูบกัน”

     

    “ฮะ? อ๋อ...ที่เกมเมื่อวานอะนะ”

     

    “ไม่...ที่ห้องมึง...วันปีใหม่”

     

    “...”

     

    พอฉันบอกออกไปมันก็มีสีหน้าอึ้งไปนิดนึง เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยู่อย่างนั้น

     

    “ช่วงที่เจอกันกูทำตัวไม่ถูก ก็เลยดูแปลก ๆ ไปมั้ง แต่ตอนนี้กูโอเคแล้วนะ”

     

    “แล้ว...พวกมึงสองคนแบบ...กิ๊กกันไรงี้เหรอ?”

     

    “ไม่นะ...คืนนั้น...กูก็แค่เมาอะมึง คงอารมณ์แบบเล่นเกมเมื่อวาน จูบก็จบ ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากไปกว่านั้น”

     

    พอฉันยิ่งพูด นิวตันก็ยิ่งขมวดคิ้วขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้ามันเหมือนตอนที่ฉันโดนวินเทครั้งที่ 2 3 และ 4 เลย สีหน้าแบบพ่อเตรียมเทศน์ฉันน่ะ

     

    “เม...มึงเป็นผู้หญิง”

     

    “อาฮะ กูก็ไม่ได้มี...เหมือนมึงหนิ”

     

    พูดพลางกดสายตาลงไปมองตรงเป้ากางเกงมัน จนมันผลักหน้าฉันหงายหลังไปทีนึง

     

    “ไอสัส! ทะลึ่งใหญ่ละ กูกำลังซีเรียส!”

     

    “ฮ่า ๆๆๆ อะ...ว่ามา จะเทศน์อะไรคะคุณพ่อ”

     

    อดขำกับท่าทางมันที่ยกมึงมาปิดเป้ากางเกงไม่ได้ ไอนี่...หวงเหมือนฉันมองทะลุกางเกงได้ซะอย่างงั้น

     

    “เฮ้อออออ ที่กูจะบอกก็คือ... มึงโตแล้ว มึงจะไปจูบ ไปลูบ ไปคลำ หรือไปเอากับใครมันก็ไม่ใช่เรื่องของกูหรอก”

     

    “อาฮะ...แล้ว?”

     

    “แต่มึงควรทำกับคนที่เขาจริงจังกับมึง...ไม่ใช่คนที่ทำตัวสถานะคลุมเครือหาความชัดเจนไม่ได้ มึงเข้าใจกูมั้ย?”

     

    “แต่กูก็ไม่ได้คิดอะไรกับซีนะมึง โอเค...กูยอมรับว่ากูมีแอบใจสั่นบ้าง แต่เป็นเพราะว่าซีหล่ออะ มึงเก็ทป้ะ? คือก็เหมือนกับมึงจูบกับคนสวย ๆ อะ มันก็ต้องใจสั่นบ้างแหละ” ปฏิเสธไปก่อน แต่พอไอนิวตันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อก็ต้องกลับลำ

     

    การโกหกที่เนียนที่สุดคือการพูดความจริงไม่หมดนะรู้มั้ย

     

    แต่ยิ่งฉันพูดไอนิวตันก็ยิ่งทำหน้าดุมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันเข้าใจนะว่ามันเป็นห่วงฉัน เพราะสภาพตอนฉันอกหักคือเฮงซวยมาก มันคงไม่อยากเห็นฉันในสภาพนั้นอีก

     

    แต่กับซีเนียร์ ฉันว่าฉันยังไม่ได้ลงลึกอะไรขนาดนั้นอะ แบบก็หวั่นไหว กับหน้าตา บอดี้ฟิต ๆ รอยยิ้มสวย ๆ แล้วก็สัมผัสเวลาจูบ...

     

    “มึงบอกว่ามึงแค่หวั่นไหวเพราะหน้าตาใช่มะ อะ งั้นมึงหลับตาแล้วคิดตามกู”

     

    “อ่า...โอเค”

     

    “มึงลองนึกถึงหน้าไอทิศเหนือดิ๊...แล้วมึงคิดถึงตอนมึงจูบกับมัน”

     

    พอมันพูดจบฉันก็ลืมตาโพลงขึ้นมาทันที

     

    “อิ้วววว มึงให้กูคิดภาพไรเนี่ย กูกับไอเหนืออะนะ”

     

    “งั้นไอเต้ก็ได้ มึงนึกภาพตอนมึงจูบกับมันอะ เอาแบบดูดดื่มลิ้นพัวพัน จูบเหมือนจะแดกกันเลยนะ”

     

    เพี๊ยะ!

     

    “ไอสัส! ไม่ต้องบรรยาย กูขนลุก รับไม่ได้” ฉันฟาดมือไปที่ต้นแขนของมัน ก่อนจะยกแขนขึ้นมาให้มันดูขนอ่อนที่เริ่มลุกขึ้นชันตามคำบอกเล่าของมันเมื่อครู่

     

    “ทำไมอะ ไอทิศเหนือก็หล่อ ไอเต้ก็เท่ ทำไมมึงจะจูบกับมันไม่ได้”

     

    “ก็นั่นเพื่อนป้ะ”

     

    “เออ ไอซีเนียร์ก็เพื่อน”

     

    พอฉันพูด ไอนิวตันก็สวนกลับทันที จะว่าไงดีวะ มันไม่เหมือนกันอะ!

     

    “...อย่างน้อยซีก็สเปคกูไง แล้วกูกับซีก็สนิทกัน แล้ว…แล้ว…แล้วกูก็แบบ…กับไอเต้ไอเหนือคือกูพูดกูมึงกับมันอะ จะว่ายังไงดีวะ…” เกาหัวแกร่ก ๆ พยายามจะอธิบายให้นิวตันเข้าใจ

     

    คือทุกคนเข้าใจใช่มะ มวลมันไม่มี เคมีมันไม่ได้อะ!!

     

    “แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะ กูยืนยัน นอนยัน นั่งยัน! กูไม่ได้คิดอะไรกับซีจริง ๆ มันเป็นแค่ความหวั่นไหวชั่วคราว แป๊บเดียวก็หาย...ถ้าไม่ได้มีอะไรมาเพิ่มอะนะ” 

     

    ประโยคท้ายแอบลดเสียงจนเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดให้นิวตันฟัง

     

    “งั้นมึงจะบอกว่า ถ้าเป็นสเปคมึง สนิทกับมึงมาก ๆ มึงก็จูบได้ว่างั้น?”

     

    “...ก็น่าจะใช่”

     

    “อะ งั้นกูขอถาม มึงสัญญามาว่าต้องตอบกูตามตรง”

     

    ยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าฉัน ฉันงง ๆ แต่ก็ยอมยกนิ้วไปเกี่ยวกับมัน จริง ๆ นอกจากเรื่องซีเนียร์ฉันก็ไม่เคยมีความลับอะไรกับมันอยู่แล้ว

     

    “ถ้ามึงโกหกกูจะแช่งให้มึงไม่มีผัว”

     

    “เออออ กูไม่โกหกหรอก ถามมา!” ฉันเริ่มจะหงุดหงิดมันนิดหน่อย ลีลาชิบหายกว่าจะพูดแต่ละที

     

    “กูเป็นเพื่อนสนิทมึงใช่ป้ะ?”

     

    “ฮะ? ถามอะไรของมึง...ก็ต้องสนิทดิวะ ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชาย ก็มึงนี่แหละสนิทที่สุดละ”

     

    “โอเค...ข้อต่อไป กูหล่อมั้ย?”

     

    “ก็หล่อดิ ไม่งั้นมึงจะเป็นเดือนคณะได้ไง นี่เป็นข้อดีไม่กี่ข้อในชีวิตมึงเลยนะ”

     

    “มึงตอบแบบไม่ต้องขยายความได้มะ...ข้อสุดท้าย หน้าตาแบบกูเนี่ย ถ้าตัดอคติมึงไป สเปคมึงป้ะ?” ไอนิวตันเริ่มทำหน้าหงุดหงิดกับการขยายคำตอบของฉัน แต่ฉันผิดอะไรอะ…ก็แค่อยากให้เข้าใจมากขึ้นเอง

     

    ฉันฟังคำถามข้อสุดท้ายก่อนจะลุกขึ้นมาเริ่มพิจารณาใบหน้ามันแบบพยายามไม่ใช้อคติ ฉันจ้องทุกส่วนของใบหน้ามัน ผิวขาว ๆ ใส ๆ ละเอียดแบบที่ดาราหลายคนยังอาย

     

    คิ้วเข้มเรียงตัวสวยได้รูป หน้าเป็นรูปไข่ ดวงตาเรียวรีเหมือนเม็ดอัลมอลด์เป็นประกายสดใส จมูกโด่งพอดีไม่เวอร์จนเกินไป แก้มก็อมชมพูดูมีเลือดฝาด ริมฝีปาก...ก็บางเป็นกระจับ

     

    “ไหนมึงลองยิ้มดิ๊”

     

    ยิ้มแล้วฟันเรียงสวย ตากลายเป็นรูปสระอิเวลายิ้ม รวม ๆ แล้ว...

     

    “อือ...สเปค”

     

    “เออ กูก็รู้นานแล้วแหละ มึงเคยบอกกูตอนที่มึงมาทักกูครั้งแรก มึงบอกว่ากูหน้าตาตรงสเปคมึงเลย”

     

    “เอ้า! ถ้ารู้แล้วมึงจะถามกูทำไมวะ?” ฉันงงกับมัน ที่มันถามมาทั้งหมดคือต้องการอะไร หรือจะอวยว่าตัวเองหล่อ?

     

    “เพราะว่ากูจะจูบมึง”

     

    “อ๋อ...ก็แค่จะ...ฮะ!!! มึงจะจูบกู!? ” ฉันรีบยกมือปิดปากเบิกตามองมันเหมือนเห็นผี

     

    มันบ้าไปแล้วอะ ต้องกินยาลืมเขย่าขวดแน่ ๆ หรือไม่ก็ผีเข้า! เออ มันต้องผีเข้าแน่ ๆ!! มิน่า วันนี้มันทำตัวแปลก ๆ ทั้งวัน

     

    “มึงเป็นใคร! มึงไม่ใช่ไอนิวตัน มึงเอาเพื่อนกูไปไว้ไหน!!”

     

    ฉันถอยห่างพร้อมเอานิ้วชี้หน้ามัน แต่แปลกที่มันยังคงทำหน้านิ่ง ๆ แล้วเอื้อมมือมาจับข้อมือฉันแล้วกระตุกแขนฉันให้เข้าหาตัวมัน

     

    ตุบ!

     

    ตัวฉันที่เข้าปะทะกับตัวมันทำให้รู้สึกจุกนิด ๆ พอเงยหน้ามองมันก็ดูทำหน้าจริงจังไม่ล้อเล่นเลยสักนิด ฉันจึงกลับมานั่งพับเพียบเรียบร้อยตรงหน้ามันดี ๆ 

     

    “ไหนมึงบอกเหตุผลดี ๆ สักข้อดิ๊ ทำไมมึงถึงต้องจูบกู”

     

    “กูจะพิสูจน์”

     

    “พิสูจน์?”

     

    “กูรู้จักมึงดีกว่าที่มึงรู้จักตัวเองอีกนะเมษา...ตอนนี้มึงอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับไอซี แต่ต่อไปมึงก็อาจจะคิด กูดูท่าทีของพวกมึงมาสักพักแล้ว ไม่ใช่แค่มึง...ไอซีก็เหมือนกัน ตอนนี้กูว่ามันลังเล แต่ต่อไปก็ไม่แน่”

     

    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่มึงจะจูบกูวะ?”

     

    “เพื่อพิสูจน์คำพูดมึง ว่ามึงไม่ได้คิดอะไรกับซี มึงแค่หวั่นไหวเพราะหน้าตา”

     

    “คือ...หมายความว่าถ้ากูจูบมึงได้ เพราะว่ามึงสนิทกับกู หล่อ แล้วก็เป็นสเปคกูได้แบบไม่คิดอะไร ก็หมายความว่ากูก็ไม่ได้คิดอะไรกับซีเหมือนกัน ถูกมะ?”

     

    “ก็ไม่โง่หนิ” พูดแล้วก็เอามือมาลูบหัวฉัน ฉันเลยปัดมือมันออก

     

    "ตลก…กูว่ากูสวยจนมึงอดใจไม่ไหวมากกว่า มดแดงแฝงพวงมะม่วงเหรอมึงอะ" ฉันแหย่มันเพื่อลดบรรยากาศกระอักกระอ่วนนี่

     

    เชี่ย…เหมือนมวลเปลี่ยนว่ะ เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน อยู่ ๆ จะมาจูบกันเนี่ยนะ ?

     

    "อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง…มึงอึดอัดอะดิ รู้สึกแปลก ๆ ใช่มะ กูว่าถ้าเป็นไอซีมึงคงไม่มาลังเลแบบนี้หรอก"

     

    ฉันเริ่มคิดตามคำพูดมัน…ตอนแรกฉันจูบกับซีแบบไม่ได้ตั้งใจก็จริง แต่จากนั้นก็เริ่มใจสั่นมาเรื่อย ๆ เพราะเอาแต่วนเวียนคิดถึงจูบนั้น ถ้าฉันจูบกับไอนิวตัน มันจะช่วยให้ฉันหยุดคิดได้มั้ยนะ...?

     

    “จูบแล้วจบใช่ป้ะ แบบไม่เวิ่นเว้อต่อ?”

     

    อดถามมันเพื่อความชัวร์ไม่ได้ เกิดมันติดใจปากนุ่ม ๆ เด็ด ๆ ของฉันขึ้นมา ฉันไม่อยากจะใจร้ายหักอกเพื่อนรักตัวเอง

     

    “กูอะไม่คิด แต่มึงอะ อย่ามาติดใจปากนุ่ม ๆ ลีลาเด็ด ๆ ของกูละกัน กูไม่อยากจะหักอกเพื่อนตัวเอง มันบาป”

     

    ฟังที่มันพูดแล้วอดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าสมแล้วที่เป็นเพื่อนกัน มึงไม่ไต้องคิดเหมือนกูทุกอย่างก็ได้ป้ะ!

     

    “หลงตัวเอง มา! จะจูบก็จูบ!” ฉันยื่นหน้าทำปากจู๋ไปพร้อมกับจ้องมันเขม็ง

     

    “หลับตาดิสัส ใครสอนให้มึงลืมตาเวลาจูบแบบนี้ หมดอารมณ์!”

     

    ฉันเบ้ปากใส่มันไปทีนึง เรื่องมาก! มันก็เบ้ปากใส่ฉันกลับแบบไม่ยอมแพ้ ฉันไม่อยากจะตีกับมันต่อเลยเลือกหลับตา แล้วรอให้มันจูบมาสักทีจะได้จบ ๆ

     

    ฉันหลับตารออยู่พักใหญ่ก็ไม่เห็นมันจะจูบฉันสักทีเลยแอบหรี่ตาขึ้นมานิดนึงแล้วเห็นใบหน้าของมันเคลื่อนเข้ามาใกล้เลยหลับตาปี๋ ฉันรู้สึกว่าหน้ามันเริ่มเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รดตรงใบหน้าฉัน

     

    ฟึ่บ!

     

    ฉันสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่มือข้างนึงของมันเลื่อนเข้ามาแตะที่แก้มซ้ายของฉัน ส่วนอีกข้างก็เลื่อนมายึดจับที่ต้นคอ มือข้างที่จับแก้มฉันไล่มาเชยคางฉันขึ้นไป

     

    ฉันแอบหรี่ตาดูอีกครั้งก็เห็นว่าใบหน้ามันใกล้ฉันมาก อีกประมาณสองเซนริมฝีปากฉันกับมันก็จะสัมผัสกันอยู่แล้ว…

     

    “หลับตา...”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×