คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 10 : พิสูจน์
กิจกรรมการตกหมึกของเราต้องพับเก็บไปเนื่องจากสภาพฟ้าฝนที่ไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่นัก หน้าร้อนแท้ ๆ แต่กลับมีฝนหลงฤดูตกลงมาโครมใหญ่
พวกเราจึงตัดสินใจแยกย้ายกันมาพักผ่อนก่อน แล้วค่อยมารวมตัวกันที่ห้องไอเต้ตอน 4 ทุ่มครึ่ง ยังเหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดฉันเลยอาบน้ำแล้วนอนกลิ้งไปกลิ้งมาเช็คโซเชียลฆ่าเวลา ปัดสตอรี่ไอจี เลื่อนฟีดข่าวเฟซบุ๊กไปเรื่อย ๆ
ก็อก ๆๆ
เสียงเคาะประตูห้องฉันดังขึ้น ฉันเลยลุกขึ้นจะไปเปิดประตูแต่ก็ชะงัก
คงไม่ใช่มาวินอีกหรอกนะ...
"ใครอะ?"
"กูเอง เปิดประตูหน่อย"
อยากจะกวนตีนมันอยู่ว่ากูที่ว่านี่ใคร แต่เห็นแก่ว่าฝนที่สาดข้างนอกเลยรีบเปิดประตูให้มัน ไอนิวตันที่หัวและเสื้อเปียกนิดหน่อยเดินเข้ามาแล้วสะบัดผมใส่ฉัน
"มึงจะสะบัดขนใส่กูทำไมเนี่ย!"
อดด่ามันไม่ได้ ผ้าขนหนูก็มีไม่เช็ดดี ๆ ฉันเลยไปหยิบผ้าขนหนูมาโยนใส่มันให้มันเช็ดผม ก่อนจะไปล้มตัวนอนบนเตียงเล่นโทรศัพท์เหมือนเดิม
ฟุ่บ!
ไอนิวตันนั่งลงข้างเตียงจนทำให้พื้นเตียงยวบไปนิดหน่อย ฉันหันไปมองมันแวบนึงเมื่อเห็นมันไม่พูดอะไรนอกจากจ้องฉันนิ่ง ๆ ฉันเลยเบือนหน้าหนีไม่สนใจมันต่อ...เดี๋ยวมันอยากจะพูดอะไรก็คงพูดเองนั่นแหละ
“เม...กูมีเรื่องสงสัย"
"ว่า? "
"มึงกับไอซีนี่มีซัมติงอะไรป้ะ"
"...ทำไมมึงถามงั้นอะ" แอบตกใจนิดหน่อยตอนมันถาม แต่ก็ต้องทำนิ่ง ๆ แล้วถามมันกลับ
"ท่าทางพวกมึงอะ มันแปลกไป คือ...กูจะอธิบายไงดีวะ..." มันเกาหัวแล้วทำสีหน้ายุ่งยาก ทิ้งไว้เป็นความเงียบอยู่พักใหญ่
“...กูกับซีเนียร์จูบกัน”
“ฮะ? อ๋อ...ที่เกมเมื่อวานอะนะ”
“ไม่...ที่ห้องมึง...วันปีใหม่”
“...”
พอฉันบอกออกไปมันก็มีสีหน้าอึ้งไปนิดนึง เหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยู่อย่างนั้น
“ช่วงที่เจอกันกูทำตัวไม่ถูก ก็เลยดูแปลก ๆ ไปมั้ง แต่ตอนนี้กูโอเคแล้วนะ”
“แล้ว...พวกมึงสองคนแบบ...กิ๊กกันไรงี้เหรอ?”
“ไม่นะ...คืนนั้น...กูก็แค่เมาอะมึง คงอารมณ์แบบเล่นเกมเมื่อวาน จูบก็จบ ไม่ได้มีอะไรพิเศษมากไปกว่านั้น”
พอฉันยิ่งพูด นิวตันก็ยิ่งขมวดคิ้วขึ้นเรื่อย ๆ สีหน้ามันเหมือนตอนที่ฉันโดนวินเทครั้งที่ 2 3 และ 4 เลย สีหน้าแบบพ่อเตรียมเทศน์ฉันน่ะ
“เม...มึงเป็นผู้หญิง”
“อาฮะ กูก็ไม่ได้มี...เหมือนมึงหนิ”
พูดพลางกดสายตาลงไปมองตรงเป้ากางเกงมัน จนมันผลักหน้าฉันหงายหลังไปทีนึง
“ไอสัส! ทะลึ่งใหญ่ละ กูกำลังซีเรียส!”
“ฮ่า ๆๆๆ อะ...ว่ามา จะเทศน์อะไรคะคุณพ่อ”
อดขำกับท่าทางมันที่ยกมึงมาปิดเป้ากางเกงไม่ได้ ไอนี่...หวงเหมือนฉันมองทะลุกางเกงได้ซะอย่างงั้น
“เฮ้อออออ ที่กูจะบอกก็คือ... มึงโตแล้ว มึงจะไปจูบ ไปลูบ ไปคลำ หรือไปเอากับใครมันก็ไม่ใช่เรื่องของกูหรอก”
“อาฮะ...แล้ว?”
“แต่มึงควรทำกับคนที่เขาจริงจังกับมึง...ไม่ใช่คนที่ทำตัวสถานะคลุมเครือหาความชัดเจนไม่ได้ มึงเข้าใจกูมั้ย?”
“แต่กูก็ไม่ได้คิดอะไรกับซีนะมึง โอเค...กูยอมรับว่ากูมีแอบใจสั่นบ้าง แต่เป็นเพราะว่าซีหล่ออะ มึงเก็ทป้ะ? คือก็เหมือนกับมึงจูบกับคนสวย ๆ อะ มันก็ต้องใจสั่นบ้างแหละ” ปฏิเสธไปก่อน แต่พอไอนิวตันทำหน้าเหมือนไม่เชื่อก็ต้องกลับลำ
การโกหกที่เนียนที่สุดคือการพูดความจริงไม่หมดนะรู้มั้ย
แต่ยิ่งฉันพูดไอนิวตันก็ยิ่งทำหน้าดุมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันเข้าใจนะว่ามันเป็นห่วงฉัน เพราะสภาพตอนฉันอกหักคือเฮงซวยมาก มันคงไม่อยากเห็นฉันในสภาพนั้นอีก
แต่กับซีเนียร์ ฉันว่าฉันยังไม่ได้ลงลึกอะไรขนาดนั้นอะ แบบก็หวั่นไหว กับหน้าตา บอดี้ฟิต ๆ รอยยิ้มสวย ๆ แล้วก็สัมผัสเวลาจูบ...
“มึงบอกว่ามึงแค่หวั่นไหวเพราะหน้าตาใช่มะ อะ งั้นมึงหลับตาแล้วคิดตามกู”
“อ่า...โอเค”
“มึงลองนึกถึงหน้าไอทิศเหนือดิ๊...แล้วมึงคิดถึงตอนมึงจูบกับมัน”
พอมันพูดจบฉันก็ลืมตาโพลงขึ้นมาทันที
“อิ้วววว มึงให้กูคิดภาพไรเนี่ย กูกับไอเหนืออะนะ”
“งั้นไอเต้ก็ได้ มึงนึกภาพตอนมึงจูบกับมันอะ เอาแบบดูดดื่มลิ้นพัวพัน จูบเหมือนจะแดกกันเลยนะ”
เพี๊ยะ!
“ไอสัส! ไม่ต้องบรรยาย กูขนลุก รับไม่ได้” ฉันฟาดมือไปที่ต้นแขนของมัน ก่อนจะยกแขนขึ้นมาให้มันดูขนอ่อนที่เริ่มลุกขึ้นชันตามคำบอกเล่าของมันเมื่อครู่
“ทำไมอะ ไอทิศเหนือก็หล่อ ไอเต้ก็เท่ ทำไมมึงจะจูบกับมันไม่ได้”
“ก็นั่นเพื่อนป้ะ”
“เออ ไอซีเนียร์ก็เพื่อน”
พอฉันพูด ไอนิวตันก็สวนกลับทันที จะว่าไงดีวะ มันไม่เหมือนกันอะ!
“...อย่างน้อยซีก็สเปคกูไง แล้วกูกับซีก็สนิทกัน แล้ว…แล้ว…แล้วกูก็แบบ…กับไอเต้ไอเหนือคือกูพูดกูมึงกับมันอะ จะว่ายังไงดีวะ…” เกาหัวแกร่ก ๆ พยายามจะอธิบายให้นิวตันเข้าใจ
คือทุกคนเข้าใจใช่มะ มวลมันไม่มี เคมีมันไม่ได้อะ!!
“แต่ถึงอย่างนั้นก็เหอะ กูยืนยัน นอนยัน นั่งยัน! กูไม่ได้คิดอะไรกับซีจริง ๆ มันเป็นแค่ความหวั่นไหวชั่วคราว แป๊บเดียวก็หาย...ถ้าไม่ได้มีอะไรมาเพิ่มอะนะ”
ประโยคท้ายแอบลดเสียงจนเหมือนพูดกับตัวเองมากกว่าพูดให้นิวตันฟัง
“งั้นมึงจะบอกว่า ถ้าเป็นสเปคมึง สนิทกับมึงมาก ๆ มึงก็จูบได้ว่างั้น?”
“...ก็น่าจะใช่”
“อะ งั้นกูขอถาม มึงสัญญามาว่าต้องตอบกูตามตรง”
ยื่นนิ้วก้อยมาตรงหน้าฉัน ฉันงง ๆ แต่ก็ยอมยกนิ้วไปเกี่ยวกับมัน จริง ๆ นอกจากเรื่องซีเนียร์ฉันก็ไม่เคยมีความลับอะไรกับมันอยู่แล้ว
“ถ้ามึงโกหกกูจะแช่งให้มึงไม่มีผัว”
“เออออ กูไม่โกหกหรอก ถามมา!” ฉันเริ่มจะหงุดหงิดมันนิดหน่อย ลีลาชิบหายกว่าจะพูดแต่ละที
“กูเป็นเพื่อนสนิทมึงใช่ป้ะ?”
“ฮะ? ถามอะไรของมึง...ก็ต้องสนิทดิวะ ถ้าเป็นเพื่อนผู้ชาย ก็มึงนี่แหละสนิทที่สุดละ”
“โอเค...ข้อต่อไป กูหล่อมั้ย?”
“ก็หล่อดิ ไม่งั้นมึงจะเป็นเดือนคณะได้ไง นี่เป็นข้อดีไม่กี่ข้อในชีวิตมึงเลยนะ”
“มึงตอบแบบไม่ต้องขยายความได้มะ...ข้อสุดท้าย หน้าตาแบบกูเนี่ย ถ้าตัดอคติมึงไป สเปคมึงป้ะ?” ไอนิวตันเริ่มทำหน้าหงุดหงิดกับการขยายคำตอบของฉัน แต่ฉันผิดอะไรอะ…ก็แค่อยากให้เข้าใจมากขึ้นเอง
ฉันฟังคำถามข้อสุดท้ายก่อนจะลุกขึ้นมาเริ่มพิจารณาใบหน้ามันแบบพยายามไม่ใช้อคติ ฉันจ้องทุกส่วนของใบหน้ามัน ผิวขาว ๆ ใส ๆ ละเอียดแบบที่ดาราหลายคนยังอาย
คิ้วเข้มเรียงตัวสวยได้รูป หน้าเป็นรูปไข่ ดวงตาเรียวรีเหมือนเม็ดอัลมอลด์เป็นประกายสดใส จมูกโด่งพอดีไม่เวอร์จนเกินไป แก้มก็อมชมพูดูมีเลือดฝาด ริมฝีปาก...ก็บางเป็นกระจับ
“ไหนมึงลองยิ้มดิ๊”
ยิ้มแล้วฟันเรียงสวย ตากลายเป็นรูปสระอิเวลายิ้ม รวม ๆ แล้ว...
“อือ...สเปค”
“เออ กูก็รู้นานแล้วแหละ มึงเคยบอกกูตอนที่มึงมาทักกูครั้งแรก มึงบอกว่ากูหน้าตาตรงสเปคมึงเลย”
“เอ้า! ถ้ารู้แล้วมึงจะถามกูทำไมวะ?” ฉันงงกับมัน ที่มันถามมาทั้งหมดคือต้องการอะไร หรือจะอวยว่าตัวเองหล่อ?
“เพราะว่ากูจะจูบมึง”
“อ๋อ...ก็แค่จะ...ฮะ!!! มึงจะจูบกู!? ” ฉันรีบยกมือปิดปากเบิกตามองมันเหมือนเห็นผี
มันบ้าไปแล้วอะ ต้องกินยาลืมเขย่าขวดแน่ ๆ หรือไม่ก็ผีเข้า! เออ มันต้องผีเข้าแน่ ๆ!! มิน่า วันนี้มันทำตัวแปลก ๆ ทั้งวัน
“มึงเป็นใคร! มึงไม่ใช่ไอนิวตัน มึงเอาเพื่อนกูไปไว้ไหน!!”
ฉันถอยห่างพร้อมเอานิ้วชี้หน้ามัน แต่แปลกที่มันยังคงทำหน้านิ่ง ๆ แล้วเอื้อมมือมาจับข้อมือฉันแล้วกระตุกแขนฉันให้เข้าหาตัวมัน
ตุบ!
ตัวฉันที่เข้าปะทะกับตัวมันทำให้รู้สึกจุกนิด ๆ พอเงยหน้ามองมันก็ดูทำหน้าจริงจังไม่ล้อเล่นเลยสักนิด ฉันจึงกลับมานั่งพับเพียบเรียบร้อยตรงหน้ามันดี ๆ
“ไหนมึงบอกเหตุผลดี ๆ สักข้อดิ๊ ทำไมมึงถึงต้องจูบกู”
“กูจะพิสูจน์”
“พิสูจน์?”
“กูรู้จักมึงดีกว่าที่มึงรู้จักตัวเองอีกนะเมษา...ตอนนี้มึงอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับไอซี แต่ต่อไปมึงก็อาจจะคิด กูดูท่าทีของพวกมึงมาสักพักแล้ว ไม่ใช่แค่มึง...ไอซีก็เหมือนกัน ตอนนี้กูว่ามันลังเล แต่ต่อไปก็ไม่แน่”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการที่มึงจะจูบกูวะ?”
“เพื่อพิสูจน์คำพูดมึง ว่ามึงไม่ได้คิดอะไรกับซี มึงแค่หวั่นไหวเพราะหน้าตา”
“คือ...หมายความว่าถ้ากูจูบมึงได้ เพราะว่ามึงสนิทกับกู หล่อ แล้วก็เป็นสเปคกูได้แบบไม่คิดอะไร ก็หมายความว่ากูก็ไม่ได้คิดอะไรกับซีเหมือนกัน ถูกมะ?”
“ก็ไม่โง่หนิ” พูดแล้วก็เอามือมาลูบหัวฉัน ฉันเลยปัดมือมันออก
"ตลก…กูว่ากูสวยจนมึงอดใจไม่ไหวมากกว่า มดแดงแฝงพวงมะม่วงเหรอมึงอะ" ฉันแหย่มันเพื่อลดบรรยากาศกระอักกระอ่วนนี่
เชี่ย…เหมือนมวลเปลี่ยนว่ะ เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน อยู่ ๆ จะมาจูบกันเนี่ยนะ ?
"อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง…มึงอึดอัดอะดิ รู้สึกแปลก ๆ ใช่มะ กูว่าถ้าเป็นไอซีมึงคงไม่มาลังเลแบบนี้หรอก"
ฉันเริ่มคิดตามคำพูดมัน…ตอนแรกฉันจูบกับซีแบบไม่ได้ตั้งใจก็จริง แต่จากนั้นก็เริ่มใจสั่นมาเรื่อย ๆ เพราะเอาแต่วนเวียนคิดถึงจูบนั้น ถ้าฉันจูบกับไอนิวตัน มันจะช่วยให้ฉันหยุดคิดได้มั้ยนะ...?
“จูบแล้วจบใช่ป้ะ แบบไม่เวิ่นเว้อต่อ?”
อดถามมันเพื่อความชัวร์ไม่ได้ เกิดมันติดใจปากนุ่ม ๆ เด็ด ๆ ของฉันขึ้นมา ฉันไม่อยากจะใจร้ายหักอกเพื่อนรักตัวเอง
“กูอะไม่คิด แต่มึงอะ อย่ามาติดใจปากนุ่ม ๆ ลีลาเด็ด ๆ ของกูละกัน กูไม่อยากจะหักอกเพื่อนตัวเอง มันบาป”
ฟังที่มันพูดแล้วอดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่าสมแล้วที่เป็นเพื่อนกัน มึงไม่ไต้องคิดเหมือนกูทุกอย่างก็ได้ป้ะ!
“หลงตัวเอง มา! จะจูบก็จูบ!” ฉันยื่นหน้าทำปากจู๋ไปพร้อมกับจ้องมันเขม็ง
“หลับตาดิสัส ใครสอนให้มึงลืมตาเวลาจูบแบบนี้ หมดอารมณ์!”
ฉันเบ้ปากใส่มันไปทีนึง เรื่องมาก! มันก็เบ้ปากใส่ฉันกลับแบบไม่ยอมแพ้ ฉันไม่อยากจะตีกับมันต่อเลยเลือกหลับตา แล้วรอให้มันจูบมาสักทีจะได้จบ ๆ
ฉันหลับตารออยู่พักใหญ่ก็ไม่เห็นมันจะจูบฉันสักทีเลยแอบหรี่ตาขึ้นมานิดนึงแล้วเห็นใบหน้าของมันเคลื่อนเข้ามาใกล้เลยหลับตาปี๋ ฉันรู้สึกว่าหน้ามันเริ่มเข้ามาใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รดตรงใบหน้าฉัน
ฟึ่บ!
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยตอนที่มือข้างนึงของมันเลื่อนเข้ามาแตะที่แก้มซ้ายของฉัน ส่วนอีกข้างก็เลื่อนมายึดจับที่ต้นคอ มือข้างที่จับแก้มฉันไล่มาเชยคางฉันขึ้นไป
ฉันแอบหรี่ตาดูอีกครั้งก็เห็นว่าใบหน้ามันใกล้ฉันมาก อีกประมาณสองเซนริมฝีปากฉันกับมันก็จะสัมผัสกันอยู่แล้ว…
“หลับตา...”
ความคิดเห็น