ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบนักเขียนมืออาชีพ

    ลำดับตอนที่ #6 : เงิน เงิน และเงิน!!

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.พ. 64


    ตอนที่ 6 เงิน เงิน และเงิน!!

     

    “อวี้หลัน ระดับปราณการบ่มเพาะของเจ้า!!” เว่ยหลางตื่นเต้นจนหูและหางสั่นไหว เมื่อพลังที่แผ่ออกมาของอวี้หลันมีมากกว่าเดิม 

     

    จริง ๆ ก็ไม่ถือว่าแปลกหากระดับการบ่มเพาะของอวี้หลันจะยกระดับขึ้นมา 

     

    ต้องรู้ก่อนว่ายาที่อวี้หลันกินเข้าไปนั้นในสี่ดินแดนมนุษย์ สัตว์อสูร มังกรและมาร นับคนที่สามารถสร้างมันได้ไม่ถึงร้อยคน ทั่วทั้งดินแดนมนุษย์แล้วกวาดตามองดูคงไม่ถึงสามสิบ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็เป็นคนของสมาคมใหญ่ สำนักศึกษาใหญ่ในฐานะผู้อาวุโสหรือแม้กระทั่งเจ้าสำนัก หรือหัวหน้าสมาคม 

     

    ส่วนในเมืองท้อสวรรค์อันห่างไกลนี้ไม่มี!! 

     

    อวี้หลันนั้นโชคดีที่ตงฟางรุ่ยจื่อนั้นมียาฟื้นฟูวิญญาณระดับหก ไม่อย่างนั้นแล้วเขาคงคลุ้มคลั่งและธาตุไฟเข้าแทรกอย่างแน่นอน 

     

    “เส้นทางเทพขั้นที่ 6…” อวี้หลันพึมพำกับตัวเองเมื่อตรวจสอบพลังปราณของตัวเอง 

     

    “ยินดีด้วย…ปราณของเจ้ายกระดับขึ้นแล้ว” ตงฟางรุ่ยจื่อกล่าวกับอวี้หลัน อวี้หลันมองตงฟางรุ่ยจื่อนิ่ง ๆ ก่อนจะก้มหัวลงและกล่าวเบา ๆ กับตงฟางรุ่ยจื่อ “ขอบคุณมาก…”

     

    ขอบคุณที่กล่าวยินดีและขอบคุณที่มอบยาฟื้นฟูวิญญาณนั่นให้เขา

     

    “เจ้า…เอ่อ…ท่านต้องการให้ข้าทำอะไรต่อ ?” อสี้หลันเอ่ยถามตงฟางรุ่ยจื่อ เว่ยหลางเองก็หันมาทางตงฟางรุ่ยจื่อเช่นกัน ในฐานะสัตว์อสูรในสัญญาเขาต้องติดตามตงฟางรุ่ยจื่อไปจนกว่าสัญญาจะสิ้นสุด

     

    เวลาพันปีจะว่ายาวก็ยาวจะว่าสั้นก็สั้น ในฐานะผู้อยู่ในเส้นทางการบ่มเพาะระดับเส้นทางเทพแล้ว เวลาหนึ่งพันปีเป็นระยะเวลาประมาณหนึ่งในห้าส่วนของอายุขัย 

     

    ยิ่งมีระดับการบ่มเพาะที่สูงเท่าไหร่ อายุขัยยิ่งยาวนานมากขึ้นเท่านั้น 

     

    เช่น ท่านคิวบิสัตว์อสูรจิ้งจอกมายาศักดิ์สิทธิ์ ตอนนี้ก็มีชีวิตอยู่ได้เกือบห้าหมื่นปีแล้ว ใกล้สิ้นสุดอายุขัยในฐานะผู้บ่มเพาะระดับจักรพรรดิเทพขั้นสูงสุดแล้ว 

     

    หากไม่ได้เลื่อนขั้นขึ้นไปในระดับเส้นทางเซียน…ไม่เกิดห้าร้อยปีเผ่าจิ้งจอกคงจะไม่มีผู้อาวุโสที่ชื่อคิวบิอีกต่อไป 

     

    แต่ระดับเส้นทางเซียนนั้นจากบันทึกกว่าล้านปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครที่ไปถึงระดับนั้นเลยสักคน…จนหลายคนแอบคิดว่าระดับเส้นทางเซียนนั้นมีอยู่จริงหรือไม่ 

     

    มีเพียงบันทึกของ ‘อ๋าวฟ่านปิ่ง’ บรรพบุรุษเผ่ามังกรเท่านั้นที่ระบุว่าเขาเคยพบกับตัวตนลึกลับคนนึงที่กล่าวว่าตนเองอยู่ในระดับเส้นทางเซียน เขาได้เอาชนะอ๋าวฟ่านปิ่งที่ตอนนั้นอยู่ในระดับจักรพรรดิเทพขั้นสูงสุดได้เพียงพลิกฝ่ามือ!! 

     

    บุคคลลึกลับผู้นั้นเป็นแค่เพียงคนผ่านทาง…เขากล่าวกับอ๋าวฟ่านปิ่งว่า “เป็นแค่ระดับจักรพรรดิเทพก็อาจหาญมาท้าสู้กับข้าที่เป็นผู้บ่มเพาะระดับเส้นทางเซียน…เอาเถอะ ข้าไม่อยากเสียเวลาถือสากับลูกวัวไม่กลัวเสืออย่างเจ้า”

     

    แน่นอนว่าด้วยบันทึกเพียงสองบรรทัดนั้นช่างมีน้ำหนักน้อยเกินกว่าจะยืนยันได้ว่ามีระดับการบ่มเพาะเส้นทางเซียนอยู่จริง

     

    แต่เมื่อคิดถึงความเย่อหยิ่งของเผ่ามังกรและอ๋าวฟ่านปิ่งแล้วความเป็นไปได้ก็มีมากขึ้นถึงแปดส่วน…ไม่มีประโยชน์ที่เผ่ามังกรที่มองว่าตัวเองสูงส่งจะยอมรับว่าตัวเองพ่ายแพ้จนหมดสภาพ 

     

    อีกทั้งที่ผ่านมาเผ่ามังกรเองก็เพียรพยายามกว่าใครที่จะก้าวผ่านระดับจักรพรรดิเทพเพื่อเข้าสู้เส้นทางเซียน 

     

    แต่ผ่านมาล้านปีกว่าแล้ว…ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต จักรพรรดิเทพนับสิบนับร้อยคนได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่ามีกำแพงที่ทำให้ไม่สามารถข้ามผ่านไปได้อยู่ และลงความเห็นว่าขอบเขตจักรพรรดิเทพคือจุดสิ้นสุดของการบ่มเพาะ

     

    กลับมาที่ตงฟางรุ่ยจื่อกับจิ้งจอกน้อยทั้งสอง ที่กำลังรอคำตอบจากตงฟางรุ่ยจื่อ

     

    “เจ้าไม่จำเป็นต้องสุภาพกับข้าขนาดนั้น…ยังไงซะเราก็ทำสัญญาคู่พันธะที่เท่าเทียมกันทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว พูดปกติเถอะ” ตงฟางรุ่ยจื่อกล่าวกับอวี้หลัน อวี้หลันลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับ

     

    “ข้ามีบางอย่างที่ต้องจัดการในถ้ำ…พวกเจ้ามีอะไรต้องจัดการก่อนติดตามข้าไปหรือไม่ หากมีก็ไปทำเสีย แล้วค่อยกลับมาหาข้าที่นี่ในอีกสามวัน”

     

    “ข้าคงต้องขอกลับไปที่เผ่าก่อน…เจ้าไปกับข้ามั้ยอวี้หลัน?” แม้อวี้หลันจะไม่อยากไปที่เผ่าจิ้งจอก แต่เขาก็ไม่อยากอยู่ที่ถ้ำนี่ตามพังกับตงฟางรุ่ยจื่อ ถึงจะทำพันธสัญญากันแล้วแต่เขาก็ยังไม่สนิทใจมากนัก คิดอยู่ชั่วครู่จึงตอบตกลงไปกับเว่ยหลาง

     

    “อืม…แต่ข้าคงไม่เข้าไปในเผ่า จะรออยู่ใกล้ ๆ ก็แล้วกัน” หลี่เว่ยหลางพยักหน้าเข้าใจ อวี้หลันไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีนักกับผู้คนในเผ่าจิ้งจอก 

     

    พูดให้ถูกก็คือนอกจากเขากับเสด็จแม่ที่เป็นองค์ราชินีของเผ่าจิ้งจอกแล้วอวี้หลันก็ไม่ได้พูดคุยกับใครทั้งนั้น จิ้งจอกส่วนมากรังเกียจอวี้หลันเพราะสายเลือดของมารในตัวเขา

     

    หลังจากที่จิ้งจอกน้อยทั้งสองได้จากไป ตงฟางรุ่ยจื่อก็เรียกไอแพดออกมาเพื่อตรวจสอบรางวัลภารกิจที่เขาช่วยชีวิตอวี้หลัน

     

    ภารกิจหลักที่ 1

    ศึกษาวิทีการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ในไอแพด [ยังไม่เสร็จ]

    (ทำการศึกษาไปทั้งสิ้น 10%)

    เวลา :

    3 วัน (เหลือเวลาอีก 2 วัน 22 ชั่วโมง 27 นาที)

    บทลงโทษ :

    ไม่มี

    ของรางวัล :

    - เงิน 20000 เหรียญทองแดง

    - เพิ่มคะแนนสุขภาพ 20 คะแนน

    - เพิ่มหน่วยความจำไอแพด 20 GB

    - หมุดเคลื่อนย้าย 10 หมุด

    - หม้อหลอมโอสถขั้นต้น 1 หม้อ

    - สมุนไพรขั้นต้น

    - วัตถุดิบหลอมขั้นต้น

    - ตำราสายอาชีพพิเศษ

     

    ภารกิจประจำวัน

    สร้างความแข็งแกร่งให้ร่างกายขั้นต้น [ยังไม่เสร็จ]

    วิ่ง 10 กิโลเมตร (0 / 10 กิโลเมตร)

    วิดพื้น 50 ครั้ง (0 / 50 ครั้ง)

    สควอช 50 ครั้ง (0 / 50 ครั้ง)

    แพลงกิ้ง 2 นาที (0 / 2 นาที)

    เวลา :

    1 วัน (เหลือเวลาอีก 22 ชั่วโมง 27 นาที)

    บทลงโทษ :

    หากล้มเหลว ระบบจะส่งไปโฮสต์อยู่เหวมิหวนคืน 2 ชั่วโมง

    ของรางวัล

    - เงิน 100 เหรียญทองแดง

    - คะแนนสุขภาพ 2 คะแนน

     

    ภารกิจย่อยที่ 2

    ช่วยชีวิตและทำพันธสัญญากับอวี้หลัน [เสร็จสิ้น] [รับของรางวัล]

    ของรางวัล 

    - เงินรางวัล 2000 เหรียญทองแดง

    - เพิ่มคะแนนสุขภาพ 5 คะแนน

    - แอปพลิเคชั่นสัญญาจ้าง เวอร์ชั่น 1.0 (ดาวน์โหลดได้ที่แอปสโตร์)

    - เพิ่มหน่วยความจำของไอแพด 1 GB

     

    ตงฟางรุ่ยจื่อกดรับรางวัลทั้งหมดนั่น และเมื่อเห็นภารกิจประจำวันและภารกิจหลักที่ค้างอยู่เขาก็ลังเลระหว่างการตรวจสอบไอแพดนี่กับเข้าไปในถ้ำจิ้งจอก

     

    ในตอนแรกนั้นตงฟางรุ่ยจื่อตั้งใจจะเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำนี้เพื่อล่าสมบัติของบรรพบุรุษเผ่าจิ้งจอกทิ้งไว้ แต่เขาก็นีกได้ว่าจริง ๆ แล้วถ้ำแห่งนี้มีความลับอีกอย่างซ่อนอยู่…

     

    ‘ระบบ สิ่งที่ยังไม่ถูกเขียนลงไปในนิยายจะปรากฏในเรื่องมั้ย?’ ตงฟางรุ่ยจื่อถามระบบ เขารู้สึกกังวลเล็กน้อย…มันเป็นสิ่งที่ยังไม่เปิดเผยในนิยายของเขา ไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาคิดเอาไว้ยังจะมีอยู่มั้ย 

     

    [สิ่งที่โฮสต์กังวลคือการมีอยู่ของ ‘หินเซียน’ อย่างนั้นเหรอ?] 

     

    ‘โอ้!! เจ้ารู้จักมันสินะ! ใช่แล้ว…ข้าหมายถึงมันนั่นแหละ หินที่จะทำให้ผู้ที่มีระดับบ่มเพาะในขั้นจักรพรรดิเทพเปิดเส้นทางขึ้นสู่ระดับเส้นทางเซียน!!’ 

     

    [เป็นโชคดีของโฮสต์ที่ถึงแม้ว่าโฮสต์จะไม่ได้วางพล็อตการดำเนินเรื่อง แต่โฮสต์วางพื้นเพของโลกใบนี้เป็นอย่างดี และยังบันทึกสิ่งต่าง ๆ ที่โฮสต์คิดลงในไอแพด ดังนั้นหินเซียนที่โฮสต์พูดถึงจึงมีอยู่ในโลกเต๋าสวรรค์]

     

    ‘เยี่ยมไปเลย! งั้นไอเทมโกง ๆ หลาย ๆ อย่างที่ข้าคิดไว้ก็คงมีเหมือนกัน หึ ๆ การอยู่บนโลกใบนี้คงจะไม่แย่เกินไปนัก’ 

     

    [สิ่งที่ควรมีในโลกนี้ล้วนมีครบถ้วน ระบบแนะนำให้โฮสต์รีบทำความเข้าใจกับแอปพลิเคชั่นในไอแพดและทำภารกิจที่โฮสต์มีอยู่ให้เสร็จสิ้น]

     

    เสียงโมโนโทนเอื่อย ๆ ของระบบไม่ได้ทำให้ตงฟางรุ่ยจื่อกระตือรือร้นมากนัก เขากำลังคิดถึงสมบัติที่อยู่ในถ้ำนี่เพราะเจ็บใจที่เสียค่าโง่ให้ระบบไปหลายพันเหรียญทองแดง 

     

    เขาคิดว่าในอนาคตก็คงต้องมีเรื่องให้ใช้เงินอีกมากโข ไม่ต้องคิดอะไรมากเลย แค่กวาดสายตามองผ่าน ๆ แล้ว สิ่งที่จะทำให้เขาอยู่รอดได้ก็คือเงิน!!! 

     

    กินก็ต้องใช้เงิน

     

    ยืมอาวุธก็ต้องใช้เงิน 

     

    ไหนจะแอปพลิเคชั่นร้านค้าที่ระบบนั่นบอกอีก ก็คงต้องใช้เงิน 

     

    เงิน เงิน และเงิน เท่านั้นที่ทำให้ตงฟางรุ่ยจื่อมีไฟลุกโชนได้!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×