ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ระบบนักเขียนมืออาชีพ

    ลำดับตอนที่ #5 : จิ้งจอกมาร อวี้หลัน

    • อัปเดตล่าสุด 15 ก.พ. 64


    ตอนที่ 5 จิ้งจอกมาร อวี้หลัน

     

    ตงฟางรุ่ยจื่อเรียกสติของตนเองกลับมาหลังจากนั่งซึมอยู่สักพัก ไม่เป็นไร…เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้

     

    “นี่…เจ้าน่ะ สมองยังปกติดีหรือไม่ ? ข้าเห็นเจ้าเดี๋ยวยิ้มเดี๋ยวซึม แล้วก็พูดอะไรไม่รู้อยู่คนเดียวมาสักพักแล้ว” เว่ยหลางมองตงฟางรุ่ยจื่อด้วยสีหน้าแปลก ๆ หรือว่าเขาทำพันธสัญญากับมนุษย์สติฟั่นเฟือน…

     

    “ข้าเหรอ…ข้าปกติดี โอ้! ทางเข้าถ้ำเปิดแล้วนี่ ไป! ไปช่วยสหายเจ้ากันเถอะ” ช่วงที่ตงฟางรุ่ยจื่อกำลังโศกเศร้ากับเงินที่หายไป จิ้งจอกน้อยเว่ยหลางก็ได้ทำการปลดล็อกกลไกของถ้ำจนทางเข้าเปิดออกเรียบร้อยแล้ว 

     

    “เขาไม่ใช่สหายของข้า!! ศัตรูต่างหากล่ะ ศัตรู!!” เว่ยหลางรีบแก้คำพูดของตงฟางรุ่ยจื่อ…แต่ใครที่ไหนจะยอมฝ่าฝืนกฏของเผ่าเพื่อช่วยเหลือศัตรูกัน ? 

     

    แม้ว่าหลี่เว่ยหลางจะรู้สึกว่าตงฟางรุ่ยจื่อนั่นน่ากลัวแปลก ๆ แต่ก็ยอมเดินตามตงฟางรุ่ยจื่อเข้าไปในถ้ำ ยังไงซะ…การช่วยชีวิตอวี้หลันก็ต้องมาก่อน

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    “อวี้หลัน ปลดม่านลวงตาของเจ้าซะ ข้าพาคนมาช่วยเจ้าแล้ว” หลี่เว่ยหลางร้องบอกกับความว่างเปล่า สักพักก็ค่อย ๆ มีร่างจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ขนสีดำตัวนึงปรากฏขึ้นมา

     

    “ทำไมวิญญาณของเจ้าอ่อนแอลงแบบนี้อวี้หลัน!!” เว่ยหลางพุ่งไปหาจิ้งจอกมารตัวนั้นเมื่อเห็นสภาพที่ปรากฏขึ้น พลังวิญญาณที่แผ่ออกมาเบาบางเหมือนจะพร้อมจะแตกหักลงได้ทุกเมื่อ 

     

    “รีบดื่มเข้าไปเร็วเข้าเจ้าโง่!! ตัวเองอ่อนแอขนาดนี้แล้วยังฝืนใช้พลังลวงตาอีก!!” เว่ยหลางยื่นแขนมือของตัวเองที่ยังมีเลือดไหลอยู่ไปใกล้ ๆ ปากอวี้หลัน แต่เจ้าจิ้งจอกมารน้อยจอมยะโสตัวนั้นกลับเบือนหน้าหนี 

     

    “สกปรก…”

     

    เว่ยหลางเม้มปากแน่นด้วยความโกรธ ไอ้เจ้าบ้านี่…จะตายอยู่รอมร่อยังจะเกี่ยงว่าเป็นเลือดของใครอีก เว่ยหลางพยายามใช้กำลังง้างปากของอวี้หลันให้ดื่มเลือดของตัวเองลงไป

     

    ร่างกายของอวี้หลันครึ่งนึงเป็นมาร…มารมีชีวิตอยู่ได้ด้วยการดื่มกินวิญญาณ เลือดของมนุษย์และสัตว์อสูร 

     

    และที่อวี้หลันอยู่ในสภาพเกือบตายอยู่แบบนี้ก็เพราะว่าไม่ยอมดื่มกินเลือดของสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ตาย…เขาพยายามปฏิเสธสายเลือดของมารในร่างกายตัวเอง

     

    ตงฟางรุ่ยจื่ออดชื่นชมในตัวอวี้หลันไม่ได้ ในบรรดาตัวละครที่เขาสร้างขึ้นมา อวี้หลันมีชะตากรรมที่น่ารันทดเป็นอันดับแรก ๆ และเขาก็ค่อนข้างชอบตัวละครนี้เอามาก ๆ แต่มีอยู่ช่วงนึงที่เขาอยากแต่งฉากเรียกน้ำตา…ก็เลยตัดสินใจฆ่าตัวละครนี่ทิ้งซะเพื่อให้เว่ยหลางที่มีนิสัยเด็ก ๆ ในเรื่องได้เติบโตขึ้น…

     

    แต่พอมาเห็นภาพแบบนี้แล้วก็อดรู้สึกผิดไม่ได้…

     

    “ข้าบอกแล้วยังไงว่าข้าไม่กิน…ข้าไม่จำเป็นต้องดื่มเลือดของเจ้า” 

     

    “แต่ถ้าเจ้าไม่กินเจ้าก็จะตาย!! เจ้ายังไม่ทันได้พิสูจน์ให้พวกตาแก่หัวโบราณในเผ่าจิ้งจอกเห็นเลยว่าเจ้าเองก็เป็นจิ้งจอก…ไหนจะท่านแม่ของเจ้าอีก!! เจ้าจะตายตอนนี้ไม่ได้!!!” 

     

    อวี้หลันกับเว่ยหลางถกเถียงกัน ต่างคนต่างจ้องหน้ายืนกรานการกระทำของตัวเอง คนนึงก็หัวรั้น…อีกคนก็อารมณ์ร้อน

     

    “เอาล่ะ พวกเจ้าเลิกเถียงกันได้แล้ว…เว่ยเว่ย ข้าบอกแล้วไงว่าข้ามีวิธีช่วยอวี้หลัน เจ้าไม่ต้องให้เขาดื่มเลือดเจ้าหรอก” ร่างกายของสัตว์อสูรก็เหมือนกับมนุษย์…ยิ่งเสียเลือดก็ยิ่งอ่อนแอลง หากจะช่วยอวี้หลันที่สภาพร่อแร่นี่ คงไม่พ้นต้องให้เลือดของเว่ยหลางหมดทั้งตัว

     

    สิ้นเสียงของตงฟางรุ่ยจื่อจิ้งจอกน้อยทั้งสองก็หันมามองเขาด้วยสายตาแตกต่างกัน อวี้หลันมองด้วยความหวาดระแวง…ส่วนเว่ยหลางมองด้วยความดีใจระคนไม่มั่นใจ 

     

    “ข้าช่วยเจ้าได้จริง ๆ ข้ามียาฟื้นฟูวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูง” คราวนี้ทั้งอวี้หลันและเว่ยหลางต่างมองตงฟางรุ่ยจื่อด้วยความแปลกใจ 

     

    ใช่…ยาฟื้นฟูวิญญาณสามารถช่วยอวี้หลันได้จริง ๆ แต่ต้องเป็นระดับ 4 ขั้นต่ำ ขึ้นไป แต่ในที่เมืองห่างไกลนี้อย่าว่าแต่ยาฟื้นฟูวิญญาณระดับ 4 เลย…ระดับ 2 ขั้นต่ำ ยังหาแทบไม่เจอ แล้วนี่ตงฟางรุ่ยจื่อบอกว่าตัวเองมียาฟื้นฟูวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงเนี่ยนะ ?

     

    “ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าจะพูดจาเพ้อเจ้อข้าคงไม่พาเจ้ามาที่นี่…ยาระดับ 6 มันหาง่ายนักหรือไง ?? ขนาดข้าที่เป็นองค์ชายของเผ่าจิ้งจอกยังหาไม่ได้โดยง่าย ราคาที่แพงมหาศาลก็เรื่องหนึ่ง…แต่เจ้าที่เป็นเพียงมนุษย์ไร้ปราณจะไปมีความสามารถเอายาระดับ 6 มาจากไหนกัน”

     

    “ข้าบอกว่ามีก็คือมี เจ้าจะสนที่มาของมันทำไม ? หรือเจ้าไม่อยากช่วยสหายของเจ้าแล้ว ??” เว่ยหลางเมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของตงฟางรุ่ยจื่อก็มีความหวัง เจ้ามนุษย์นี่อาจจะมียาจริง ๆ ก็ได้!! 

     

    “งั้นก็รีบเอาออกมา! ข้ารับรองจะไม่เอาเปรียบเจ้าแน่ หากข้ากลับเผ่าจิ้งจอกข้าจะเอาสมบัติมาให้สมกับราคาของเม็ดยาระดับ 6”

     

    “ข้าไม่ได้อยากได้สมบัติ…ข้าอยากให้อวี้หลันทำพันธสัญญากับข้า” เมื่ออวี้หลันได้ฟังก็มีสีหน้ามืดครึ้มทันที…มนุษย์นี่ถึงกับคิดจะเอาเขาไปเป็นทาส!!

     

    “เรื่องนี้ข้าเกรงว่า…” 

     

    “เอามนุษย์นี่ออกไปให้พ้นสายตาข้าซะเว่ยหลาง” เว่ยหลางยังพูดไม่ทันจบ อวี้หลันก็พูดขัดขึ้นมา…หากสายตาสามารถฆ่าคนได้ ตงฟางรุ่ยจื่อคงจะถูกสับเป็นพัน ๆ ชิ้น!! 

     

    “แต่อวี้หลัน…เจ้าต้องการยาฟื้นฟูวิญญาณ…” หูและหางของเว่ยหลางลู่ตกลงจนดูน่าสงสาร พลางกะพริบตาปริบ ๆ ไปทางอวี้หลัน

     

    “นี่เจ้าคิดจะให้ข้ายอมเป็นทาสมนุษย์เพื่อยื้อชีวิตตัวเองอย่างนั้นเหรอ ?” 

     

    “ไม่! ไม่อยู่แล้ว!! เจ้าเข้าใจผิดแล้วอวี้หลัน…ที่เจ้ามนุษย์นี่…ข้าหมายถึงที่ตงฟางรุ่ยจื่อพูดน่ะหมายถึงสัญญาคู่พันธะ ไม่ใช่พันธสัญญาทาส!!” อวี้หลันขมวดคิ้วมองเว่ยหลางที่แก้ตัวแทนตงฟางรุ่ยจื่อ ปกติเจ้าจิ้งจอกนี่ไม่ใช่คนที่จะพูดแทนใคร ทำไมถึงต้องพูดแทนมนุษย์ไร้ปราณผู้นี้ด้วย ?

     

    “เอ่อ…เจ้าอย่ามองข้าแบบนี้สิ ข้ารู้สึกแปลก ๆ”

     

    “ทำไมเจ้าต้องพูดแทนมนุษย์นี่…หากเจ้าไม่มีกลิ่นอายของหลี่เว่ยหลางจิ้งจอกโง่เง่า ข้าคงนึกว่าเจ้าเป็นสัตว์อสูรหรือมนุษย์ปลอมตัวมาหลอกข้า” 

     

    การปลอมแปลงร่างกายนั้น หากผู้ที่มีปราณสูงส่งจะสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาได้ในระดับหนึ่ง ยิ่งหากเป็นเผ่าจิ้งจอกมายาแล้วการปลอมแปลงจะยิ่งแนบเนียน…แต่ก็ไม่อาจกลบกลิ่นอายเฉพาะตัวจากจมูกของอวี้หลันได้…เขาค่อนข้างมีความสามารถในด้านนี้

     

    “เจ้าสิโง่เง่า!! หนอย…ข้ารึอุตส่าห์เป็นห่วงกลัวเจ้าตายจึงไปล่ามนุษย์มาให้จนเจอกับตออันเบ้อเริ่ม ข้าเลยต้องมาทำพันธสัญญากับเจ้ามนุษย์นี่!! แล้วดูความจองหองของเจ้าที่ทำกับข้าสิ!!!”

     

    “เจ้าทำพันธสัญญากับมนุษย์งั้นเหรอ ?” เว่ยหลางรู้ตัวว่าหลุดปากเรื่องที่ตัวเองโดนบังคับทำพันธสัญญากับมนุษย์เข้าก็เหงื่อตก…จากความฉลาดของอวี้หลันแล้วเจ้านี่ต้องรู้แน่ ๆ ว่าส่วนนึงที่เขาอยากให้อวี้หลันทำพันธสัญญากับตงฟางรุ่ยจื่อก็เพราะว่าไม่อยากขายหน้าคนเดียว

     

    ถึงหลัก ๆ แล้วเขาจะอยากช่วยชีวิตอวี้หลันจริง ๆ ก็เถอะ…แต่การมีเพื่อนร่วมขายหน้าด้วยกันก็มีส่วนเล็กน้อย…แค่เล็กน้อยจริง ๆ นะ…

     

    สีหน้าของอวี้หลันเย็นชาขึ้นหลายส่วน…เขารู้จักเจ้างี่เง่านี่ดี ไม่อยากจะขายหน้าโดนมนุษย์จับทำพันธสัญญาผู้เดียวสินะ

     

    “ก็อย่างที่เว่ยเว่ยพูด…ข้าจะทำสัญญาคู่พันธะกับเจ้าเป็นเวลาพันปี หลังจากนั้นเจ้าจะเป็นอิสระ แน่นอนว่าเจ้าสามารถปฏิเสธได้…เพราะอาการของเจ้าก็แค่กลืนกินเลือดและวิญญาณของสิ่งมีชีวิตไม่กี่ร้อยชีวิตก็น่าจะหายดีแล้ว” 

     

    เดิมทีอาการของอวี้หลันไม่รุนแรงมากนัก แต่อวี้หลันดื้อเกินไป…ไม่อยากจะกลายเป็นมารจึงเฝ้าทรมานตัวเองจนวิญญาณอ่อนแอ 

     

    อวี้หลันลำบากใจที่จะทำพันธสัญญากับมนุษย์ แต่เขาก็รู้ดีว่าวิญญาณเขาตอนนี้อ่อนแอมาก…จะสติหลุดจนออกไปเข่นฆ่าผู้คนหรืออาจทำร้ายเว่ยหลางเพื่อรักษาชีวิตตนเองตอนไหนก็ไม่รู้ แล้วเขาก็ยังตายตอนนี้ไม่ได้…อวี้หลันมีหนี้เลือดที่ต้องสะสาง

     

    “เจ้า…ตงฟางรุ่ยจื่อใช่มั้ย ? ข้า…ตกลง” 

     

    หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว อวี้หลันก็ตกลงทำพันธสัญญากับตงฟางรุ่ยจื่อ เมื่อวงเวทย์แห่งพันธสัญญาเสร็จสิ้น ตงฟางรุ่ยจื่อก็ยื่นยาฟื้นฟูวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงให้อวี้หลัน เมื่ออวี้หลันรับไปกิน ร่างกายก็รู้สึกปลอดโปร่ง ดวงวิญญาณที่อ่อนแอค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นมา ปราณของอวี้หลันเหมือนได้รับการชำระล้างจนบริสุทธิ์ ปราณการบ่มเพาะที่อยู่ในขอบเขตเส้นทางเทพขั้น 5 ก็ยกระดับขึ้น! 

     

    ตอนนี้จิ้งจอกมารอวี้หลัน อยู่ในระดับเส้นทางเทพขั้น 6 แล้ว!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×