คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 2 กระอักกระอ่วน
กริ๊ง! กริ๊ง!
เสียงนาฬิกาปลุกของโทรศัพท์มือถือใครสักคนแผดเสียงร้องขึ้นมา ทำให้ฉันอดสะดุ้งตื่นกับเสียงนั้นไม่ได้
“โทรศัพท์ใครวะปิดเสียงดิ๊ กูจะนอนนนนนน” นิวตันโวยขึ้นมาหลังจากเสียงนั้นดังไม่เลิกเนื่องจากไม่มีใครไปปิดเสียงมัน
ฉันชะโงกหน้าลงไปดูหาต้นตอของเสียงนั้นก่อนจะเห็นว่าเป็นโทรศัพท์ของไอนิวตันนั่นแหละที่ตั้งปลุกไว้ แถมโทรศัพท์ยังอยู่บนหัวมันด้วย!
เห็นดังนั้นฉันจึงหยิบหมอนใบเล็ก ๆ แล้วขว้างใส่มัน
ปึก!
“โทรศัพท์มึงนั่นแหละไอนิว ปิดเสียงดิ๊ กูจะนอน”
“...อ่าว โทรศัพท์กูเหรอ โทษที”
นิวตัวที่โดนหมอนปาอัดหน้าลุกขึ้นมากดปิดเสียงนาฬิกาที่ตั้งปลุกไว้ในโทรศัพท์ ก่อนจะหันมามองฉัน แล้วทำสีหน้าแปลก ๆ เมื่อเลื่อนสายตาไปเห็นมือของซีเนียร์ที่กำลังกอดก่ายฉันอยู่
“ทำอะไรอะรับผิดชอบด้วยนะ ไอซีมันเมาแล้วมึงจะไปทำมิดีมิร้ายมันแบบนี้ไม่ได้ ลูกเขามีพ่อมีแม่นะเว้ยไอเม”
“มิดีมิร้ายบ้านมึงดิ แหกตาดูด้วยว่าซีกอดกู ไม่ใช่กูกอดซี”
อดโวยวายไม่ได้จริงๆ ทั้งตอนนี้แล้วก็เมื่อคืน เป็นฉันที่โดนกระทำชัด ๆ!
“มึงอาจจะเอามือมันมากอดก็ได้ มึงยิ่งไว้ใจไม่ได้อยู่ ได้นอนข้าง ๆ คนหล่อหน่อย หวังเคลมเลยน้า”
“F*ck you” พูดจบก็ชูนิ้วกลางให้มันพร้อมล้มตัวนอนหันหลังไม่อยากจะเสวนากับมันต่อ
แต่พอหันมาก็รู้สึกอยากจะหันกลับไปมาก เพราะตอนนี้ซีเนียร์กำลังลืมตาแป๋วมองมาที่ฉันแบบไม่กระพริบตา แล้วสายตาแบบนี้มันทำให้ฉันอดคิดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้
“อ...อ่าว ตื่นแล้วเหรอ”
“อือออ เสียงคุณกับนิวทะเลาะกัน”
“อ่า โทษที...นอนต่อมั้ย?”
ซีเนียร์ยกมือที่กอดฉันออกก่อนจะลุกขึ้น มองซ้ายมองขวาก่อนจะเอื้อมมือผ่านตัวฉันไปหยิบโทรศัพท์ของเขาที่วางอยู่ข้าง ๆ ฉัน กดหน้าจอมองเวลาแล้วเงยหน้าขึ้นมาตอบคำถามของฉัน
“ไม่ดีกว่า เที่ยงแล้ว เดี๋ยวผมกลับบ้าน”
“อ่อ โอเค กลับบ้านดี ๆ นะ”
“...อ่า โอเค กลับก่อนนะ บ๊ายบาย”
“บ๊ายบาย”
สีหน้าตอนท้ายของเขายุ่งเหยิง คิ้วขมวดเหมือนจะพูดอะไรแต่ก็ไม่พูด จริง ๆ ฉันก็รออยู่เหมือนกันว่าเขาจะพูดอะไรเรื่องเมื่อคืนมั้ย เพราะดูจากปริมาณแอลกอฮอล์ที่เขากินเข้าไป พูดได้เลยว่าเมามากกกกก ฉันเลยไม่กล้าเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน กลัวจะได้คำตอบว่า จำไม่ได้หรือเมาอะไรทำนองนี้ แล้วมันจะกระอักกระอ่วนซะเปล่า ๆ
บางทีการปล่อยเบลอไปอาจจะดีกว่า เพราะเอาเข้าจริง ๆ ฉันก็ไม่แน่ใจความหมายของจูบเมื่อวานนั่นเหมือนกัน
เพราะเขายังมีข้อแก้ตัวว่าเมาได้ แต่ฉันล่ะ...โอเคฉันอาจจะมึน กรึ่ม ๆ บ้าง แต่ไม่เมาแน่ ๆ สติสัมปชัญญะก็ครบถ้วน แต่ฉันก็ยังจูบกับเขา จูบกับคนที่คบกันเป็นเพื่อนกันมาสิบปีแล้วก็ต้องยอมรับว่าฉันรู้สึกดีกับจูบเมื่อคืนนั้นมาก ๆ ด้วย
แต่ว่า...
คนนี้ไม่ได้
ถึงจะรู้สึกดีกับจูบนี้สุด ๆ ก็ไม่ได้ เขาเหมือนบุคคลต้องห้ามสำหรับฉัน
ฉัน
ต้อง
ปล่อย
วาง!
โอเค คิดซะว่าเรื่องวันนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำตัวปกติ เป็นเพื่อนกันปกติ ซีเนียร์ก็ดูเหมือนจะจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ (หรือต่อให้จำได้ถ้าซีไม่พูดก็ไม่จำเป็นต้องขุดขึ้นมา)
เมื่อคืนนี้ต่างคนต่างนอน ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ฉันเมาหลับปุ๋ยยันเช้า และตื่นมาตอนที่โทรศัพท์ของไอเวรนิวตันปลุกแค่นั้น
ฟุ่บ!
หลังจากสะกดจิตตัวเองจนพอใจฉันก็ล้มตัวนอนต่ออย่างสงบ พักผ่อนให้เต็มที่ เดี๋ยวตื่นมาอีกทีก็มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นเองแหละ!
.
.
.
.
ฉันตื่นขึ้นมาตอนเย็น ๆ ของวันนั้นก่อนจะพบว่ากองศพเพื่อน ๆ เมื่อคืนเริ่มหายกันไปหมดแล้ว เหลือแค่ฉันคนเดียวที่อยู่ในห้อง
แอ๊ด
เสียงเปิดประตูห้องน้ำออกมา เป็นไอเจ้าของห้องที่เข้ามาในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวพันช่วงล่างอย่างหมิ่นเหม่ หยดน้ำเกาะตามผิวขาว ๆ ทั่วตัว ฉันไล่มองตั้งแต่หัวเปียก ๆ จนลงมาถึงซิกแพคและวีไลน์ช่วงปั้นเอวของมัน แต่ก่อนที่จะมองต่ำลงไปกว่านั้นก็มีเสียงหมา ๆ ขัดขึ้นมาก่อน
"กูเพื่อนมึงไงเม ก็เข้าใจนะว่ากูหล่อ แต่สายตาที่เหมือนจะแดกกูเข้าไปนั่นคือไรวะ" ไอนิวตันดัดจริตเอามือสองข้างขึ้นมาปิดนมแล้วทำท่าหวาดกลัวฉัน
'หล่อเสียของ' นี่เป็นนิยามที่ฉันมีให้มัน เวลาอยู่เฉย ๆ ก็ชวนน้ำลายหกดีอยู่หรอก แต่พอเปิดปากเท่านั้นแหละ กระเดือกไม่ลง
"แดกไม่ลงหรอก กลัวท้องเสีย"
"โห ดูถูกกูมาก ให้เกียรติดำแหน่งเดือนคณะตลอดกาลของกูด้วยครับเพื่อนครับ"
"คนอื่นกลับบ้านกันหมดแล้วเหรอวะ" เปลี่ยนเรื่องขึ้นมาเฉย ๆ นี่แหละ เถียงกับมันไปก็เสียเวลา
"เออ กลับไปช่วงบ่าย ๆ มั้ง กูก็ตื่นก่อนมึงได้ไม่นาน ตื่นมาก็เห็นแต่มึงนอนน้ำลายยืดอยู่คนเดียวละ"
ฉันมองหาโทรศัพท์มือถือที่ไม่รู้ไปวางไว้ไหน ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นเสื้อคลุมกับนาฬิกาที่คุ้น ๆ วางอยู่ไม่ไกลจากโทรศัพท์ของฉัน ฉันลุกขึ้นไปหยิบโทรศัพท์ดูเวลา อืม…หกโมงครึ่ง นี่นอนหรือซ้อมตายนะเรา แล้วเสื้อกับนาฬิกานี่...คุ้นๆ เหมือนเป็นคนถอดแล้ววางไว้เองกับมือเลย
"เออไอเม นั่นใช่เสื้อกับนาฬิกาไอซีป้ะ มันให้กูหาให้ บอกลืมเอากลับไป"
"อ่า…น่าจะใช่"
"พอดีเลย เดี๋ยวมันจะแวะมาเอา มึงจะกลับกับมันเลยป้ะ บ้านก็ทางเดียวกันอยู่แล้วหนิ"
"ไม่ ๆๆ กูหิวข้าว เดี๋ยวกูไปอาบน้ำแล้วมึงก็พาก็ไปกินข้าว กินเสร็จก็พากูไปส่งบ้านด้วย" ฉันบอกมันเสร็จสรรพ ก่อนจะรื้อกระเป๋าหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำแบบไม่ฟังเสียงบ่นของมัน
"นี่กูเป็นเพื่อนหรือผัวมึงวะเม กูแนะนำให้มึงรีบ ๆ มีผัวซะนะจะได้ไม่เป็นภาระกู!"
เสียงตะโกนของนิวตันดังแว่ว ๆ เข้ามาในห้องน้ำ แต่ฉันต้องแคร์มั้ย? มีเพื่อนก็ต้องใช้งานเพื่อนให้คุ้มสักหน่อย ทีมันยังใช้ฉันทำงานส่งอาจารย์ ใช้เป็นไม้กันสาว ๆ ของมันอยู่เรื่อยเลย กะอีแค่พาไปกินข้าวไปส่งแค่นี้ทำมาเป็นบ่น!
.
.
.
.
"อิรัชชัยมาเสะ!"
เสียงพนักงานต้อนรับดังขึ้นเมื่อฉันกับนิวตันเดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดังเจ้าหนึ่ง หลังจากเถียงกันมาสักพักว่าจะกินชาบูหรืออาหารญี่ปุ่น สุดท้ายก็มาจบลงที่อาหารญี่ปุ่นในคอมมูนิตี้มอลล์แถว ๆ บ้านนิวตัน
"มึงกับซึเป็นไรกันวะ ทำไมทำตัวแปลก ๆ" อยู่ ๆ นิวตันก็ถามขึ้นมา ขนาดคนสมองกลวงอย่างนิวตันยังจับสังเกตได้ นี่ฉันต้องทำตัวแปลกแค่ไหนเนี่ย!
"เปล่านี่ แปลกยังไงวะ?" แอบหลอกถามมันหน่อยดีกว่า จะได้ทำตัวให้มันปกติ
"อืม...มันก็แบบ พวกมึงดูปวดขี้กันทั้งคู่อะ"
"ฮะ?"
"ก็กูอธิบายไม่ถูกอะ! แบบพวกมึงเหมือนคนปวดขี้ไง อย่าถามกูมาก หิวข้าวแล้ว สั่งดิสั่ง!"
ฉันผิดเองแหละที่ไปหวังอะไรกับสมองคนอย่างมัน กวาดสายตาดูเมนูไปงั้น ๆ สุดท้ายก็สั่งเมนูประจำกันเหมือนเดิม
"หมูผัดซอสญี่ปุ่นกะทะร้อน ไก่คาราอาเกะสไปซี่ ไข่ตุ๋น แล้วก็ชาเขียวเย็นค่ะ"
"เหมือนกันครับ"
"ขออนุญาตทวนรายการอาหารนะคะ หมูผัดซอสญี่ปุ่นกะทะร้อน 2 ที่ ไก่คาราอาเกะสไปซี่ 2 ที่ ไข่ตุ๋น 2 ที่ แล้วก็ชาเขียวรีฟิลเย็น 2 ที่นะคะ"
พยักหน้ากับรายการการอาหารที่สั่งไปนั้น ไม่นานนักอาหารก็มาเสิร์ฟ ฉันกินไป เขี่ยโทรศัพท์เล่นไป แล้วก็มาสะดุดกับการแจ้งเตือนนึงเข้า
Senior Thanapob ได้แสดงความคิดเห็นบนโพสต์ของคุณ
ฉันคลิกเข้าไปดูและพบว่าเป็นโพสต์ที่ฉันเพิ่งโพสต์รูปอาหารที่เพิ่งมาเสิร์ฟเมื่อกี้นี้ เลื่อนดูความคิดเห็นส่วนใหญ่ก็มาแซวเพราะว่าฉันแท็กไอนิวตันด้วย อ่อ ฉันกับนิวตันเพื่อน ๆ ชอบล้อว่าพวกเราเป็นแฟนกันน่ะ
Sunior Thanapob : อ้วน
อะไรอะ...
งงไปหมดแล้ววว ปกติเขามาคอมเมนท์ฉันซะที่ไหน แค่กดไลก์โพสต์ยังยากเลย นี่มาคอมเมนท์เนี่ยนะ ฉันคิดอยู่พักนึงก่อนจะพิมพ์ตอบกลับไป
April Sasirin : ผอมมากกกกก ไม่เชื่อมากอดดูได้
เขี่ย ๆ โทรศัพท์สักพัก ซีเนียร์ก็ตอบกลับมา ในตอนที่ฉันเข้าไปดู อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าเลือดมารวมอยู่ที่หน้าเป็นจุดเดียว ฉันวางโทรศัพท์ลงแล้วหันไปสนใจอาหารที่วางอยู่เต็มโต๊ะ ในระหว่างกินก็อดเหลือบไปมองโทรศัพท์ไม่ได้ เลยเรียกสติตัวเองด้วยการแอบหยิกแรง ๆ ที่หน้าขาจนน้ำตาคลอ
"มึงเป็นไรวะ ทำไมหน้าแดง ๆ "
"ฮะ...อ๋อ ร้อนอะ แอร์ไม่เย็นเลยเนอะ"
"หืม กูว่าเย็นออก หนาวจนขนลุกแล้วเนี่ย"
"แต่กูร้อนไง! มึงหนาวก็เรื่องของมึง"
"เสียงดังทำไมวะ เบา ๆ ดิ เออ ๆ ร้อนก็ร้อน รีบกินดิจะได้กลับบ้าน"
สาเหตุของสิ่งที่ทำให้ฉันร้อนขนาดนี้มันไม่ใช่แอร์หรอก แต่เป็นคนในโทรศัพท์ต่างหาก เพราะคอมเมนท์บ้า ๆ นั่นทำให้ฉันอดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนอีกครั้งไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่คิดว่ากำลังจะลืมได้แล้วแท้ ๆ
Senior Thanapob : อืม ก็กอดไปแล้วนะ
ความคิดเห็น