ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FanFic บารามอส] เจ้าชายเมืองสวรรค์

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2(100%)

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ค. 49


         จอมปราชญ์เลโมธีหอบแฮก มือกำคทาสีทองสุกอล่ามแน่น แล้วเอ่ยปากร่ายมนตร์ต่อไป


              กระสุนแสงนับหมื่นๆนัดถูกยิงออกมาจากหัวคทาของเลโมธี พุ่งเข้าใส่เด็กหนุ่มผมสีดำอย่างรวดเร็ว


             
    เปรี๊ยะ



              กระสุนแสงปะทะบาเรียสีใส แต่ไม่สะเทือนแม้แต่น้อย แต่ฮาวด์ขยับยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะพึมพำมนตราเบาๆ


             
    เปรี้ยง


              ก้อนเพลิงขนาดมหึมาปะทะบาเรียสีใสของเลโมธี ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ฮาวด์สร้างออกมา เด็กหนุ่มยิ้มอย่างพึงพอใจ เมื่อเห็นว่าเพลิงนั้นไม่สามารถเจาะบาเรียเข้ามาได้เลยแม้แต่น้อย


             
    "เข้ามา!!"เลโมธีผ่อนลมหายใจเบาๆ ดาบเล่มงามปรากฏบนมือ มันส่องแสงสีเงินอล่าม ก่อนที่เลโมธีจะตวัดดาบในมือข้างซ้ายเป็นคลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์


              ฮาวด์ขยับหลบอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพุ่งมาประชิดตัวเลโมธี ชายชรายกมือข้างขวาที่สวมแหวนทองเกลี้ยงเกลาขึ้นมาป้องกัน บาเรียสีฟ้าใสถูกกางขึ้นป้องกันหมัดของฮาวด์ได้อย่างฉิวเฉียด มงกุฎบนหัวของจอมปราชญ์สะท้อนแสงสีคราม ดวงตาสีฟ้าของเลโมธีตั้งสมาธิอย่างยิ่งยวด


              ฮาวด์ผละตัวออกไปจากเลโมธี ขยับยิ้มกวนๆบนใบหน้า และหลับตาเบาๆ


             
    "ดีแล้วแหละ ฝึกเพิ่มอีกนิดหน่อยก็จะครบกำหนดแล้ว อย่าให้ฉันผิดหวังละ"กล่าวจบขนนกสีขาวบริสุทธิ์ก็ร่วงหล่นมากระทบใบหน้าของจอมปราชญ์



    .................................................




         กษัตริย์ วิลเลี่ยม โบแดง เดอะ เกรท ออฟ เวนอล


              ชายผมสีชานั่งนิ่งเครียดอยู่ ดวงตาสีเขียวมรกตเหลือบมองแผนที่ ก่อนจะกลับมามองคิงร่างกำยำ มีใบหน้าหล่อเหลา ผมสีทอง ตาสีฟ้า


             
    "เนโร ข้าคิดว่าเราคงต้องตั้งค่ายที่เมืองหน้าด่าน และยกทัพไปบุกรุกแดนคนบาป ที่คิงเอวิเดสตั้งทัพใหญ่เอาไว้ ส่วนแผนนั้น ข้าจะบอกเอง"เนโรพยักหน้าเบาๆ


             
    "ยังไงเราก็ต้องจบชีวิตของปีศาจลงให้ได้ พวกหนักแผ่นดินพวกนั้น"วิลเลี่ยมกัดฟันกรอดๆ อย่างโกรธแค้น เมื่อนึกถึงภรรยาตนเอง ที่ถูกพวกปีศาจฆ่าตาย ไฮคิงแห่งเวนอลมองไปที่กองทหารร่วมประชุมอย่างเด็ดเดี่ยว


             
    "เตรียมเคลื่อนทัพ!! พรุ่งนี้เราจะไปแดนคนบาป อย่าให้ปีศาจมันหยามว่า เอเดนไร้น้ำยา"เสียงเหล่าแม่ทัพเฮลั่นกระโจม อำนาจประหลาดแห่งกษัตริย์วิลเลี่ยม ผู้สามารถปลุกขวัญของประชาชนได้เสมอ



    .................................................



             
    "เอ้า ในที่สุดก็สำเร็จซักที เลโมธี ท่านจะช้าได้อย่างไร รีบๆหน่อย"


              ฮาวด์ตะโกนว่า ชายชราค่อยๆยันตัวอย่างยากเย็น พลันเรี่ยวแรงที่สาปสูญกลับคืนมามากกว่าเดิมอีกหน เพราะขนนกสีขาวประหลาดของอาจารย์ตรงหน้า เด็กหนุ่มพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะดีดนิ้วทีหนึ่ง


              เหยี่ยวสีขาวบริสุทธิ์ ปรากฏกายขึ้น มันบินรอบๆเลโมธีเบาๆ ก่อนจะยืนบนไหล่ชายชรา และออเซาะอย่างรักใคร่


             
    "นั่นคือเหยี่ยวที่ฉันให้มา มันสามารถแปลงร่างเป็นเหยี่ยวขนาดใหญ่พอที่จะโดยสารได้ มันบินเร็วกว่ามังกรเสียอีก"ฮาวด์หัวเราะหึหึ ก่อนจะคำนวณเส้นทาง พวกเขาอยู่ในหุบเขาของคาโนวาล กว่าจะไปถึงเขตแดนเดมอส คงใช้เวลาหลายชั่วโมง ต่อให้ใช้เจ้าเหยี่ยวนี่ก็เหอะ คงต้องรีบเดินทางเสียแล้ว


             
    "เลโมธี รีบเดินทางเถอะ พวกเขากำลังรอท่าน"เลโมธียิ้มให้กับฮาวด์ ก่อนจะโค้งคำนับขอบคุณ


             
    "ขอบคุณท่านอาจารย์ ข้าจะไม่ให้ท่านผิดหวัง"ว่าแล้วเจ้าเหยี่ยวสีขาวก็ขยายใหญ่ขึ้น ก่อนที่เลโมธีจะขึ้นไปนั่ง พริบตาเดียว มันกระพือปีกอย่างรุนแรง ก่อนจะพุ่งฉลิวออกจากหุบเขาอย่างรวดเร็ว


             
    "โชคดี"ฮาวด์พึมพำ



    .................................................



         ทันทีที่ทัพทั้งสองปะทะกัน เสียงแตรโห่ร้องไปทั่ว ทัพทั้งคู่ต่างพากันปะทะกัน เวทมนตร์หลากหลายบทถูกใช้เพื่อจู่โจม วิลเลี่ยม และ เนโร สหายร่วมรบ ต่างพากันจับดาบพุ่งเข้าใส่จ้าวปีศาจแห่งเดมอส ซึ่งเอวิเดสนี้ เห็นการต่อสู้นั้นเป็นแค่เรื่องเด็กๆเท่านั้น


             
    "ย๊าก"เนโรพุ่งเข้าประดาบกับเอวิเดสอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่วิลเลี่ยมถอยออกมากล่าวเวทมนตร์


             
    ตูม ตูม



              คลื่นเพลิงมหาศาลพุ่งเข้าใส่จ้าวปีศาจเอวิเดส แต่เขากับร่ายเวทสร้างเกราะน้ำแข็งออกมาป้องกันคลื่นเพลิงได้อย่างง่ายดาย เนโรขยับดาบประจำราชวงศ์คาโนวาลพุ่งเข้าปะทะอย่างหักหาญ ก่อนจะรวมสมาธิไปที่ดาบ


             
    ฉัวะ


              โลหิตของจ้าวปีศาจนั้นไหลริน... เพราะวิถีแห่งจิตของกษัตริย์นักรบ ดาบที่บาดลึก ได้แม้กระทั่งจ้าวแห่งปีศาจผู้แข็งแกร่ง แต่เอวิเดสกลับขยับรอยยิ้มอย่างตื่นเต้น ก่อนจะใช้จิตปะทะจิต ดาบปะทะดาบ


             
    "ดาบ ปราบ มาร"


              เนโรใช้เพลงดาบของราชวงศ์คาโนวาลทันที เรียกเลือดเจ้าปีศาจจำนวนมาก ชโลมดาบแห่งคาโนวาล ก่อนที่ไฮคิงแห่งเวนอล จะสะบัดดาบสีขาวเล่มมหึมาเข้าใส่ แต่จ้าวปีศาจกลับหัวเราะน้อยๆ และยกดาบสีดำสนิทของตนขึ้นรับ ก่อนจะรับเพลงดาบของทั้งสองอย่างรวดเร็ว


              เสียงโห่ร้องของคนมากมายดังขึ้น เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของผู้คน สงครามที่ปะทะกันอย่างบ้าคลั่ง เสียงกรีดร้องโหยหวนที่ทำให้เอวิเดส หน้าตาระรื่นด้วยความเป็นสุข


              เนโรสะบัดดาบไปมาอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีฟ้าจ้องเขม็ง ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวอย่างน่ากลัว


             
    นักรบปีศาจแห่งคาโนวาล


              ปีศาจแห่งแดนนักรบ ปีศาจในคราบมนุษย์ ปีศาจผู้บ้าสงคราม


             
    เคร้งเคร้ง


              เพลงดาบของเนโรเร็วขึ้นเรื่อยๆ เอวิเดสขยับรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะเริ่มดันเพลงดาบสวนไปบ้าง จนต่างฝ่ายต่างรุกต่างรับกันมั่วไปหมด


              จ้าวปีศาจก้มหลบคมดาบที่ฟาดใส่หวังบั่นคออย่างรวดเร็ว ดาบเล่มบางแทงสวนกลับ จนทะลุท้องไฮคิงแห่งเวนอล


              วิลเลี่ยมทรุดล้มลงอย่างเจ็บปวด ส่งผลให้เนโรยิ่งคลั่งขึ้นไปอีก เพลงดาบของเนโรยิ่งหนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนน่ากลัว ปีศาจแห่งคาโนวาลกำลังเริงระบำอย่างหนำใจ


             
    "ดาบ ปราบ มาร!!!"


             
    "ต่อสู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ มนุษย์นี่ช่างอิจฉาจริงๆ"เอวิเดสกล่าวเรียบๆ หลบเพลงดาบของผู้ยิ่งใหญ่จากคาโนวาลอย่างรวดเร็ว แต่ดาบปราบมารนั้นยังถูกส่งมาโดยต่อเนื่อง จนตนเองต้องงัดเพลงดาบประจำราชวงศ์มาใช้บ้าง


             
    "อสูรเริงระบำ!!"


              ชั่วพริบตา การจู่โจมของเอวิเดสนั้นแปรเปลี่ยนไป ท่วงท่าที่ดึงดูด งดงามราวกับเริงระบำ แต่ร้ายกาจราวกับอสูร ปะทะกับเพลงดาบปราบมารกันอย่างรุนแรง


             
    ฉึก


              กษัตริย์นักรบแห่งคาโนวาลทรุดตัวลงอย่างเจ็บปวด เมื่อถูกดาบแทงเต็มท้อง เอวิเดสแสยะยิ้มอย่างพึงใจ ก่อนจะกระชากดาบออกมา โลหิตจากกษัตริย์นักรบไหลชโลมทั่วผืนแผ่นดินคนบาป


             
    "จบสิ้นกันซักที"สุรเสียงของจ้าวปีศาจดังขึ้น คทาสีดำสนิทปรากฏขึ้นในมือ หัวคทาสีขาวขุ่นส่องสว่างวูบ


             
    คทาพิพากษา คทาผู้พิพากษามนุษย์



              แต่จู่ๆจอมเวทผมสีดำสนิทก็ปรากฏขึ้น ใบหน้าหล่อเหลาเป็นประกายเคร่งเครียด คทาเล่มยาวในมือส่องสว่างวูบ ชั่วพริบตาเดียวพลังแห่งความมืด ปะทะกับเกราะพลังของจอมเวทผู้นั้น


             
    "เซเรเนี่ยน ดอร์น นักบวชแห่งแอเรียส"เสียงกล่าวเนิบนานดังขึ้น พร้อมรอยยิ้มพึงใจจากจ้าวปีศาจแห่งเดมอส แต่ชายผมดำยังคงนิ่งสนิท ดวงตาสีแดงเพลิง ความสงบเยือกเย็น และกลิ่นอายแห่งเทพ


             
    มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์ แห่งตระกูลดอร์น



              การพบเจอครั้งนี้ยิ่งทำให้เอวิเดสแย้มยิ้มขึ้นไปอีก รอยยิ้มพึงใจ เลือดแห่งปีศาจเริ่มเดือดพล่านด้วยความอยากที่จะต่อสู้ อยากที่จะสนุกสนาน


             
    "ท่านเอวิเดส สงครามนั้น ท่านชนะแล้ว โปรดถอยทัพเถิด เอเดนพ่ายแพ้แล้ว"เซเรเนี่ยนกล่าวอย่างสงบ แต่กลับทำให้เจ้าปีศาจจิจ๊ะ อย่างไม่พออกพอใจ


             
    "โธ่ๆ เซเรเนี่ยน เซเรเนี่ยน หากเราไม่กำราบให้สูญเสีย มนุษย์ก็ยังคงเป็นมนุษย์วันยันค่ำ ชอบท้าทายสิ่งที่ลึกลับเสมอ ชอบคิดว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เลวร้าย สิ่งที่จ้องจะทำลายพวกตนเอง สุดท้ายก็มาอวดเบ่งอำนาจตนเอง ทั้งๆที่อำนาจที่ว่านั้น ช่างน้อยนิดเหลือเกิน"เอวิเดสกล่าวเสียงยียวน ดวงตาสีดำสนิทเก็บงำความอัจฉริยะไม่มิด การคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าของจ้าวปีศาจนั้น นับว่ายอดเยี่ยมจริงๆ


             
    "หากแต่เพราะแบบนี้ มนุษย์ผู้เจ็บแล้วต้องรู้จักเรียนรู้ เมื่อมนุษย์ทราบว่าปีศาจนั้นไม่ควรหาญต่อกรด้วย มนุษย์ก็ย่อมเกรงกลัวที่จะพบ ได้แต่อยู่นิ่งเฉย โปรดจ้าวปีศาจพิจารณาด้วย"เซเรเนี่ยนกล่าวอย่างสงบ


              รอยยิ้มอย่างจริงใจปรากฏบนริมฝีปาก เหนือหัวแห่งเดมอส


             
    "หากว่าท่านสามารถต้านทานข้าได้ถึงหนึ่งเล่มเทียน ข้าจะยอมถอนทัพกลับไป"


              เอวิเดสกล่าวอย่างนึกสนุก ยังไม่ทันที่จะรอคำตอบ จ้าวเหนือหัวแห่งเดมอสก็ยิงเวทมนตร์ดำทมิฬใส่ทันที


             
    เปรี้ยง


              พลังดำทมิฬปะทะกับเกราะเวทของนักบวชแห่งแอเรียส ชายนัยน์ตาสีเพลิงยังคงยืนนิ่งอย่างสงบ ปากเริ่มพึมพำคาถาเบาๆ


              ก้อนพลังสีขาวบริสุทธิ์พุ่งเข้าใส่จ้าวปีศาจ แต่เอวิเดสกลับปัดมันได้อย่างง่ายดาย ราวกับปัดแมลงวัน เซเรเนี่ยนยิงคาถาต่อไปใส่ทันที


              สายฟ้าเส้นใหญ่มหึมาฟาดเข้าใส่จ้าวปีศาจ แต่เอวิเดสสร้างเกราะพลังป้องกันสายฟ้าได้ทันท่วงที ก่อนจะสวนเวทมนตร์คืน


              ลูกไฟนับแสนๆลูกปรากฏขึ้นล้อมตัวนักบวชแห่งแอเรียส เซเรเนี่ยนรีบกระแทกคทาลงบนพื้น เขตอาคมป้องกันถูกกางขึ้นอย่างรวดเร็ว หัวคทาสีฟ้าใสส่องสว่างเป็นแสงสีเงินวูบวาบ


             
    เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ


              เกราะพลังที่เซเรเนี่ยนสร้าง ร้าวทันที ชายหนุ่มหอบน้อยๆ เลือดไหลหยดออกมาจากมุมปาก แต่ดวงตาสีแดงยังเป็นประกายเจิดจ้าแห่งความหวังอยู่ เอวิเดสยกคทาพิพากษาขึ้น เมฆดำทมิฬปรากฏกาย ก่อนที่สายฟ้านับไม่ถ้วนจะฟาดใส่เป้าหมายเพียงผู้เดียว


             
    กลิ่นอายแห่งความสูญเสีย


              การสูญเสียครั้งใหญ่ที่ชาวมนุษย์คิดเตรียมไว้อยู่แล้ว แต่เป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่จริงๆ...


              นักบวชศักดิ์สิทธิ์ แห่งแอเรียส ผู้ตายไปโดยเสียเวลาไม่ถึงครึ่งเล่มเทียน


              วิลเลี่ยมกัดฟันกรอดๆ บาดแผลที่ท้องพึ่งจะรักษาจนสมาน เขาชูคทาอย่างมั่นคง แต่กลับเจอลูกพลังดำทมิฬสวนกลับจนกระเด็นไปติดมังกรบริเวณนั้น กระดูกแทบแตกไปทั้งร่าง


             
    รอยยิ้มอย่างพึงพอใจแสยะออกมาจากจ้าวปีศาจแห่งเดมอส


             
    "จบสิ้นซักที ความโลภในอำนาจของพวกเอเดนทั้งหลาย"


             
    ตูม


              จู่ๆเอวิเดสก็ถูกคลื่นลมกระแทกจนปลิว ชนชาวเดมอสต่างนิ่งอย่างตกตะลึง มีผู้ใดที่สามารถทำแบบนี้กับจ้าวปีศาจได้
    ?


              ชายชราผมสีขาวบริสุทธิ์ ดวงตาสีฟ้าเรืองรองไปด้วยอำนาจ และกลิ่นอายบริสุทธิ์ กำลังยืนนิ่งบนหลังของนกสีขาวตัวใหญ่ยักษ์ มันมีขนาดใหญ่กว่ามังกรเสียอีก ดวงตาสีดำสนิทของเอวิเดสฉายประกายโกรธจัด พลังทมิฬจากจ้าวปีศาจถูกยิงออกไปไม่ยั้ง


             
    เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง


              เสียงดังกัมปนาทไปทั่วเอเดนและเดมอส พลังสองสายปะทะกันอย่างรุนแรง เลโมธียังคงยืนนิ่งบนหลังเจ้าเหยี่ยวสีขาว ศรแสงนับแสนนัดถูกปล่อยออกมาจากชายชราจนเอวิเดสต้องกางเวทป้องกันระดับสูงไว้ และหรี่ตามอง


              เวทระดับสูง ของสายแสงสว่าง... ไอพลังและพลังอำนาจที่สูงส่ง


              เอวิเดสยิงพลังทมิฬใส่เลโมธีอีกหน แต่เขากลับใช้มือข้างขวากันไว้ แหวนสีทองเกลี้ยงเกลาส่องสว่างวูบวาบ เกราะสีฟ้าป้องกันพลังทมิฬได้อย่างไม่ยากเย็น


             
    "ที่แท้ก็นึกว่าใคร... จอมปราชญ์เลโมธี อัจฉริยะบุคคลด้านมนตราแห่งเอเดน"จ้าวปีศาจเอวิเดสกล่าวเสียงเนิบนาน ยังคงรับและรุกพลังของเลโมธีอยู่อย่างต่อเนื่อง เกราะดำทมิฬที่ถูกสร้างขึ้นป้องกันเริ่มร้าวจากศรแสงอันรุนแรง


             
    "ท่านราชาเอวิเดส โปรดถอยทัพกลับด้วย เอเดนแพ้แล้ว"เลโมธีกล่าวอย่างนอบน้อม มือข้างซ้ายปรากฏดาบเล่มงามขึ้น เขายกมันรับลำแสงสีดำทมิฒที่พุ่งลงมาจากฟากฟ้า และปัดมันออกไป ชายชรากำอาวุธทั้งสองแน่น หัวคทาสีทองในมือขวาส่องสว่างวูบ


             
    "ด้วยอำนาจแห่งมนตรา ข้าพเจ้าผู้ต่ำต้อย ขอสะกด..."มนตราของเลโมธีถูกร่ายออกมาอย่างต่อเนื่อง จ้าวปีศาจผู้อหังการยังคงยืนนิ่งอย่างไม่หวั่นเกรง เกราะเวทมนตร์ถูกปิดป้องกันทางหนีของจ้าวปีศาจ  ขอบเขตเวทมนตร์สีทองสุกสว่างถูกวางไว้รอบตัวจ้าวปีศาจ มงกุฎบนหัวของเลโมธี แหวนในนิ้ว คทา และดาบในมือ ส่องแสงสว่างวูบวาบ


             
    อัก



              จ้าวปีศาจทรุดตัวลง เขาพยายามเร่งพลังเพื่อทำลาย แต่กลับกลายเป็นพลังถูกดูดขึ้นมาเรื่อยๆ เอวิเดสเห็นดังนั้นจึงร่ายเวทมนตร์แก้บทอย่างรวดเร็ว แสงสว่างสีทองจึงดับหายไป พร้อมร่างของจ้าวปีศาจที่ทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรง


             
    "นี่มันมนตราดูดพลังนี่"เอวิเดสคำราม แต่เลโมธีกลับยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน


             
    "ท่านจ้าวปีศาจ โปรดเลิกแล้วต่อกันเถิด สงครามครั้งนี้ฝ่ายเอเดนพ่ายแพ้แล้ว และท่านผู้นั้นฝากกล่าวมาด้วยว่า ขอให้ท่านอย่าทำสงครามเลย มนุษย์นั้นย่อมเต็มไปด้วยกิเลส แต่มนุษย์นั้นก็ย่อมมีความดี ปีศาจก็เช่นกัน"เลโมธีกล่าวอย่างนิ่มนวล  คทา ดาบ มงกุฎ และ แหวน ของเลโมธีนั้นหลุดออกมา ก่อนจะลอยอยู่ในอากาศ พริบตาเดียว จอมปราชญ์ก็ร่ายเวทอีกบทหนึ่ง สมบัติทั้งหมดจึงตกลงนิ่งสงบบนพื้น


             
    "นับว่าท่านชนะ เลโมธี... หากแต่จำไว้ ถ้ามนุษย์ยังมาแหย่ต่อเดมอสจนเกิดสงครามแบบนี้อีก ข้าคงไม่ยั้งมือแล้ว นับว่าเห็นแก่ท่านผู้นั้น"เอวิเดสกล่าวอย่างสงบ ดวงตาสีดำเหม่อสบตากับเนตรสีฟ้าของจอมปราชญ์


             
    "แล้วข้าก็แพ้มนุษย์จนได้"



    .................................................



             
    "หึ นับว่าจบดีแล้ว"ฮาวด์ยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่บนฟ้า ปีกสีขาวบริสุทธิ์กระพือเบาๆ เพือประคองตัว ดวงตาสีดำทรงอำนาจนั้นฉายแววอารมณ์ดีเป็นนิจ


             
    "ในที่สุดสงครามก็จบแล้วข้าจะได้มีที่เที่ยวซักที"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×