ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตามหา
3 วันต่อมา
เฟทในร่างชายหนุ่มร่างสูงเพรียว ตาที่เคยหวานเข้มขึ้นเล็กน้อยฉายแววซุกซน คิ้วเข้มสีน้ำตาล ปากที่เคยเรียวบางเป็นรอยหยักชัดมากขึ้น มองโดยรวมดูเป็นเด็กหนุ่มสำอางที่น่าจะซุกซนไม่น้อย
“งั้นผมไปทำงานกลุ่มก่อนนะครับ พรุ่งนี้ผมจะพยายามรีบกลับมาพบแขกของท่านพ่อให้เร็วที่สุดครับ” เดิมทีขณะนี้เป็นช่วงเวลาปิดภาคเรียน แต่เนื่องจากมีรายงานกลุ่ม เฟทจึงต้องไปจัดการให้เรียบร้อยก่อนที่จะมากลับอยู่ที่บ้านระยะยาว
ช่วงเวลา 3วันที่ผ่านมา เฟทและโฮบต้องฝึกการควบคุมพลังที่ตนเองมีรวมถึงเรียนรู้การใช้พลังต่างๆทั้งกลางวันกลางคืน เฟทจึงยังไม่ได้พบเซสในความฝันอีก ส่วนอานิสต้องเป็นคนไปจัดการเปลี่ยนความทรงจำของบุคคลที่เคยรู้จักเฟทและโฮบทุกคน เพื่อไม่ให้ความลับของพวกตนต้องแพร่งพรายออกไป เนื่องจากครอบครัวสกลธรรมรงค์เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสังคม มีกิจการและบริษัทในเครือจำนวนมาก และเป็นที่จับตามองของสื่อทุกประเภท
วันรุ่งขึ้น
ครูสเดินกลับไปกลับมาภายในบ้าน ท่าทางกระวนกระวายใจไม่ใช่น้อย อานิสเห็นดังนั้น จึงถามว่า “ท่านอารอนบอกไว้หรือไม่คะว่าจะทรงเสด็จมาถึงเมื่อไหร่”
“ทรงไม่ได้บอกเป็นเวลาที่แน่นอน แต่คงเป็นวันนี้แหละ” สีหน้าคมคายเป็นกังวลคล้ายไม่รู้จะทำเช่นไร
“เวลานี้มันเพิ่งจะ 8 โมงเช้าเท่านั้นเอง ท่านพี่ใจเย็นๆ แล้วมารับประทานข้าวเช้าก่อนดีไหนคะ ข้าให้คนเตรียมอาหารให้แล้ว นี่โฮบก็ยังไม่ตื่นด้วย” “อ้อแล้วพวกท่านอารอนจะมากันอย่างไรล่ะคะ” ถามด้วยความสงสัย เนื่องจากตอนที่พวกตนมาถึงนั้น ต้องใช้พลังพลางตัวเองและยานที่นำมาไว้ก่อนจะร่อนลงสู่พื้น ซึ่งขณะที่พลางตัวไว้จะไม่มีใครจับพลังงานดังกล่าวได้
“นั่นแหละที่ข้ากังวล ท่านอารอนคงจะต้องพลางตัวเช่นเดียวกับเราตอนนั้น หากท่านไม่เสด็จมาหาเราเอง เราย่อมไม่สามารถหาพวกท่านพบ ข้าได้สร้างจุดสังเกตขนาดใหญ่ที่ใกล้ๆนี้ไว้แล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าท่านจะหาเจอหรือไม่” กล่าวจบก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“ท่านพ่อมีรูปหรือวิธีสังเกตพวกท่านอารอนไหมล่ะครับ ผมจะได้ไปหาที่จุดที่ท่านพ่อบอก ท่านพ่อก็รออยู่ที่นี่ เผื่อว่าท่านอารอนมาถึงจะได้ไม่หลงกัน”โฮบที่ลงมาด้านล่างได้สักครู่แล้วพูดขึ้น
ครูสหยุดคิดชั่วครู่ พยายามหาวิธีที่เหมาะสม ขณะนั้นเองก็ได้ยินเสียงรถของเฟทเข้ามาในบ้าน จึงตัดสินใจให้เฟทและโฮบออกไปตามหา พร้อมกับบอกลักษณะของอารอนและลูกชายทั้งสองให้ฟังโดยละเอียด
เฟทและโฮบจึงออกไปที่บริเวณจุดสังเกตและแบ่งกันตามหารอบๆนั้น โดยจุดสังเกตของครูสคือ อนุสาวรีย์ขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้คฤหาสน์สกลธรรมรงค์ ห่างจากตัวบ้านประมาณ 500เมตร แต่โดยรอบมีห้างสรรพสินค้าและตึกสูงอยู่ 2-3แห่ง เฟทจึงไปหาที่ห้างสรรพสินค้า ส่วนโฮบไปที่บริษัทข้างๆ โดยจะติดต่อกันเป็นระยะๆระหว่างที่หา
เฟทเดินตามหาภายในห้างสรรพสินค้าไล่ตั้งแต่ชั้นหนึ่งไปเรื่อยๆ ขณะที่เดินหาอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้อยู่ใกล้ๆ จึงเดินตามเสียงไป พบเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 5 ปี ผูกผมเปีย 2 ข้าง ใส่ชุดสีชมพู จึงเดินเข้าไปหาพร้อมกับถามเสียงนุ่มว่า “เอ ได้ยินเสียงอะไรน้า เหมือนมีเด็กน่ารักคนไหนร้องไห้อยู่เลย มีอะไรให้พี่ชายคนนี้ช่วยมั้ยน้า”
เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่ไว้วางใจ แต่เมื่อได้สบสายตาอันอบอุ่นของเฟทความระวังตัวที่มีก็ลดลง แต่ยังคงไม่ยอมพูดด้วย ได้แต่มองอย่างกล้าๆกลัวๆ
เฟทเห็นว่าเด็กหญิงไม่ยอมพูดด้วยจึงถามต่อว่า “ไม่ต้องกลัวนะคะ พี่ชื่อพี่เฟท เราหลงทางรึเปล่าจ๊ะ ”พร้อมกับยิ้มให้
เด็กหญิงตอบ เสียงค่อยปนสะอื้นว่า ”พี่เป็นคนไม่ดีรึเปล่าคะ แม่ของฝนไม่ให้คุยกับคนไม่ดีหรือคนแปลกหน้านะ”
“เอ ถามอย่างนี้แล้วให้พี่ตอบยังไงดีล่ะ เดี๋ยวพี่ไปถามพี่ผู้หญิงสวยๆที่ประชาสัมพันธ์ให้นะว่าพี่เป็นคนดีรึเปล่า ดีมัย้คะ”ถามต่อยิ้มๆ
“แม่บอกว่าถ้าฝนหลงทาง ให้ฝนไปที่ประชาสัมพันธ์“
เฟทครุ่นคิดหาวิธีการที่จะพาเด็กหญิงไปที่ประชาสัมพันธ์ โดยไม่ให้เด็กญิงกลัวตน จึงกล่าวว่า”งั้นน้องฝนเดินไปที่ประชาสัมพันธ์กับพี่ดีมั้ย พี่จะไปที่นั่นพอดีเลย”
“ฝนไม่รู้จักพี่ พี่เป็นคนแปลกหน้า”ยังมองอย่างหวาดระแวง
“เอ พี่รู้จักชื่อฝนแล้ว และฝนก็รู้จักชื่อพี่แล้ว เราไม่ถือเป็นคนแปลกหน้าแล้วล่ะ ถามคุณกระต่ายในมือพี่ดูสิ” ขณะที่ชวยคุยเฟทได้แอบพับผ้าเช็ดหน้าให้เป็นรูปกระต่ายพร้อมกับใส่พลังให้มันขยับได้เล็กน้อยลงไป
เด็กหญิงเห็นกระต่ายที่เฟทพับพยักหน้าให้ ด้วยความตื่นเต้นจึงเดินเข้าไปใกล้ๆเฟท ความกัวที่มีแต่เดิมคลายลงไปแทบจะไม่เหลือ “พี่เฟททำได้ยังไงคะ ทำไมคุณกระต่ายถึงขยับได้ล่ะ”
เฟทเห็นดังนั้นจึงชวนเด็กหญิงคุยไปเรื่อยๆและค่อยๆพาเดินไปที่ประชาสัมพันธ์ดังที่ตั้งใจไว้ ระหว่างทางก็ชวนเด็กหญิงคุยไปเรื่อยๆเพื่อให้รู้สึกคุ้นเคยกับตนเองมากขึ้น
เมื่อไปถึงที่ประชาสัมพันธ์
“เอ ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่ามีใครมาแจ้งเด็กหายหรือเปล่าครับ”ถามประชาสัมพันธ์สาวสองคนที่นั่งคุยกันอยู่
ประชาสัมพันธ์สาวทั้งสองต่างรู้สึกว่าถูกขัดจังหวะ จึงหันหน้ามาเตรียมจะว่าเฟท แต่เมื่อหันมาเห็นหน้าตาของคนขัดจังหวะ จึงหยุดชะงักไปชั่วครู่แล้วจึงแย่งกันตอบว่า “ยังไม่มีคนมาแจ้งนะคะ คุณ....พบเด็กที่ไหนเหรอคะ เดี๋ยวดิฉันจะประกาศตามหาให้”ตบท้ายด้วยรอยยิ้มหวาน
หลังจากเฟทเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง ตามด้วยยิ้มหว่านเสน่ห์ปิดท้าย ทั้งสองสาวต่างแย่งกันรับรองว่าจะตามหาให้ และให้ฝากเด็กหญิงไว้ที่ตน ทั้งสองสาวพยายามจะถามชื่อและเบอร์โทรศัพท์ของเฟทไว้ แต่เฟทกลับหลีกเลี่ยงการตอบคำถามดังกล่าวด้วยการหันไปคุยกับเด็กหญิง
“งั้นน้องฝนอยู่กับพี่ๆเค้าที่นี่นะคะ เดี๋ยวคุณแม่ก็คงจะมาหาที่นี่”
“พี่เฟทจะไปไหนเหรอคะ”เด็กหญิงฝนกล่าวพลางทำหน้าจะร้องไห้ สองมือดึงแขนเสื้อของเฟทเอาไว้
“พี่ก็จะไปตามหาญาติของพี่ต่อเหมือนกันค่ะ น้องฝนต้องรออยู่ที่นี่ดีๆนะคะ” เอ หรือเราจะประกาศตามหาท่านอารอนทางอินเตอร์คอมด้วยเลยดีนะ เฟทคิดในใจ แต่ก็ต้องค้านตัวเองว่าหากประกาศไปไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ที่นี่หรือไม่ และอีกฝ่ายก็อาจจะไม่รู้อยู่ดีว่าประชาสัมพันธ์อยู่ที่ไหน
“ไม่เอา น้องฝนจะอยู่กับพี่เฟทนะ พี่เฟทอย่าทิ้งฝนนะ”
เฟทเห็นฝนทำท่าว่าจะร้องไห้ จึงรีบชวนเด็กหญิงว่า “เดี๋ยวพี่อยู่ก่อนก็ได้ น้องฝนหิวหรือยังคะ ไปกินไอศกรีมกับพี่มั้ยคะ”
เด็กหญิงหยุดร้องไห้หันมายิ้มให้ทันที พร้อมพยักหน้าตกลง เฟทจึงหันไปบอกประชาสัมพันธ์ทั้งสองว่า “ผมจะพาน้องเค้าไปกินไอศกรีมที่ร้าน...ด้านนั้นนะครับ ถ้าคุณพบผู้ปกครองของน้องฝนแล้ว ไปตามผมได้ตลอดเลยนะครับ”
เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมงกว่าจะจัดการเรื่องเด็กหญิงเรียบร้อย มารดาและน้าสาวของเด็กหญิงมาขอโทษและขอบคุณที่เค้าเป็นคนช่วยเด็กหญิงไว้ ก่อนจะแยกย้ายกันไป ฝนเดินเข้ามากระซิบกับเฟทว่า “พี่เฟทคะน้าดาวชมว่าพี่เฟทหล่อมากเลยค่ะ” “แล้วน้องฝนว่ายังไงล่ะคะ”
“น้องฝนก็ว่าหล่อมากๆเลยค่ะ” ตอบพร้อมทำหน้าเหนียมอาย
“งั้นถ้าโตขึ้น มาเป็นเจ้าสาวของพี่มั้ยคะ” ยิ้มให้ พร้อมกับก้มลงไปหอมแก้มยุ้ยๆนั้นทั้งสองข้าง จากนั้นจึงล่ำลาจากครอบครัวของเด็กสาวเพื่อเดินตามหาต่อไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น