คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : งูบาซิลิสก์-Basilisk
Basilisk
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยรู้จักเจ้างูที่ชื่อบาซิลิกส์ที่อยู่ในแฮร์รี่ พอตเตอร์ ภาค 2 The Secret of Chamber มาบ้างแล้ว ในหนังเจ้างูตัวนี้ถูกขังอยู่ในห้องลับของโรงเรียนฮอกวอตและยังเป็นทาสรับใช้ลอร์ดเวอร์เดอมอร์ตซึ่งเป็นทายาทคนสุดท้ายของซัลลาซ่าร์ สลิธีรีนอีกด้วย
แน่นอนว่าความรู้พื้นฐานที่เราได้รับจากเรื่อง harry คือ มันเป็นงูที่มีลำตัวขนาดใหญ่ หากจ้องมองใครก็ทำให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย และนั่นก็เป็นการจุดประกายความคิด la plume ว่าไอ้เจ้าบาซิลิสก์เนี่ยเป็นสิ่งที่ เจ.เค. เขียนขึ้นมาจากจินตนาการของตัวเองหรือว่านำสัตว์ชนิดนี้มาจากสัตว์ในตำนานเหมือนกับ พวกยูนิคอร์น หรือ ฮิปโปกริฟหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่ได้ก็จะอยู่ถัดจากนี้ไปล่ะ.............
งูบาซิลิสก์ (basilisk) มีที่มาจากคำในภาษากรีกว่า "basileus" ซึ่งมีความหมายว่า "ราชา" การที่มันได้รับชื่อแบบนี้ก็เพราะมันเป็นเจ้าแห่งอสรพิษ และยังเป็นสัตว์ที่มีพิษร้ายแรงที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีชื่อเรียกอื่นๆ อีกว่า C ockatrix (ค็อกเคทริกซ์) หรือ C ockatrice (ค็อกเคทริส) เชื่อกันว่ามันมีถิ่นกำเนิดอยู่ในตอนเหนือของทะเลทรายในแอฟริกา หรือแถบแคว้น Cyrenaica (ซีรีไนก้า)
รูปร่างหน้าตา
บาซิลิสก์มีลักษณะที่แปลกคือ มีหัวเหมือนไก่ ลำตัวเป็นนก ปีกเป็นปีกแบบนก แต่บางที่ก็บอกว่ามันมีปีกเหมือนค้างคาว นอกจากนี้ก็ยังมีหางและลิ้นเหมือนงู ลำตัวมีสีเหลือง บ้างก็ว่ามีสีออกดำ มีรอยด่างสีขาวปรากฏอยู่บนหัวคล้ายๆ มงกุฎหรือมาลาครอบหัว แต่บางทีก็ว่ามีหนามแหลมบนหัว 3 อันซึ่งแลดูคล้ายมงกุฎ (ในเรื่องแฮรี่น่าจะเป็นแบบหนามแหลมเนี่ยแหละ)
แต่งูตัวนี้ก็แปลกกว่างูอื่นทั่วไป เพราะมันจะไม่ขดตัวเป็นวงๆ หรืองอตัวไปมา แต่จะเลี้อยตรงไปข้างหน้า แล้วก็ชูลำตัวได้สูงเหมือนลักษณะการชูคอของงูเห่า
นอกจากนี้บาซิลิสก์ยังแบ่งออกได้เป็นอีก 3 ประเภท คือ
1. บาซิลิสก์สีทอง (Golden Basilisk) เป็นชนิดที่หากใครสบตากับมันได้ไปเฝ้ายมบาลทันที
2. บาซิลิสก์ดวงตามรณะ (Evil-eye Basilisk) เป็นบาซิลิสก์ที่ฆ่าสิ่งมีชีวิตด้วยการเบิกเนตรหรือตาดวงที่ 3 ที่อยู่บนหัวสีทองของมัน
3. บาซิลิสก์เลือด (Sanguineness Basilisk) จะฆ่าเหยื่อโดยการใช้เงี่ยงแหลมๆ บนตัวทิ่มแทงเหยื่อให้ทะลุจนถึงกระดูกของเหยื่อ จนกว่าเหยื่อจะตาย
พลังทำลายของบาซิลิสก์
เชื่อกันว่าหากใครได้สบตากับงูชนิดนี้จะทำให้ตายได้ในทันที ซึ่งมันสามารถฆ่าเหยื่อได้จากระยะไกลทั้งจากการใช้พิษและการจ้องมอง เคยมีเรื่องเล่าว่าเคยมีคนคิดจะฆ่ามันด้วยการซัดหอกจากบนหลังม้า แต่มันก็สามารถส่งพิษให้ซึมทะลุอาวุธชนิดนั้นที่กำลังซัดเข้าหามัน และพิษก็พุ่งตรงเข้าไปหาเจ้าของหอก ปรากฎว่าตายทั้งคนทั้งม้า ส่วนหอกก็สลายกลายเป็นขี้เถ้าไป
แม้กระทั่งลมหายใจของมันก็เป็นพิษ ไม่ว่าต้นไม้ใบหญ้าที่ได้สัมผัสไอพิษจากลมหายใจของสัตว์ชนิดนี้จะกลายเป็นหินและทรายไปในพริบตา จนว่ากันว่าถิ่นกำเนิดที่เป็นทะเลทรายที่มันอาศัยอยู่นั้นเป็นเพราะได้รับไอพิษของมันจึงทำให้ทุกสิ่งที่มันสำผัสกลายเป็นทรายไปไม่พ้นแม้กระทั่งผืนแผ่นดิน
นอกจากนี้แล้วเสียงขู่ฟ่อๆ ของงูบาซิลิสก์ยังสามารถทำให้งูตัวอื่นต่อสู้ได้ด้วย
การถือกำเนิดของบาซิลิสก์
ในสมัยตอนต้นของปีคริสศักราช ผู้คนที่เดินทางผ่านทะเลทรายทางตอนเหนือของแอฟริกาก็ได้พบกับบาซิลิสก์ที่ที่มีรูปร่างประหลาด คือหัวของมันที่ควรจะเป็นงูกลับกลายเป็นลักษณะของไก่ตัวผู้ ซึ่งต่อมาเรียกว่า 'Basil cock' แล้วก็เพี้ยนมาเป็น 'C okatrice' หรือ 'C okatrix' นั่นเอง
เรื่องราวการเกิดของงูบาซิลิสก์นี้มีเรื่องเล่าว่ามันเกิดจาก ไก่ตัวผู้ที่มีอายุ 7 ปีออกไข่ไว้บนกองปฏิกูลในวันที่กลุ่มดาวซิริอัส (Sirius) หรือกลุ่มดาวหมาใหญ่ (Dog Star) ขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยไข่ใบนี้มีลักษณ์เป็นทรงกลม ไม่มีไข่แดง แล้วก็กกไข่โดยคางคก
ประโยชน์ของบาซิลิก์
ทุกท่านคงจะสงสัย ก็ไหนว่างูชนิดนี้มีพิษร้ายกาจไงแล้วจะมีประโยชน์ได้อย่างไร แต่มันก็มีประโยชน์จริงๆ นะ แต่ต้องรอให้มันตายเสียก่อน ซึ่งเล่ากันว่าซากของบาซิลิสก์ที่ตายแล้วก็จะนำไปแขวนไว้ในวิหารของเทพ Apollo (อพอลโล คือ เทพแห่งดวงอาทิตย์) และ เทพี Diana (ไดอาน่า คือ เทพแห่งดวงจันทร์) เพื่อไล่พวกนกนางแอ่นที่จะมาทำรัง แล้วก็ไล่พวกแมงมุมด้วย เพราะถึงจะเป็นแค่ซากแมงมุมก็ยังกลัวสัตว์ชนิดนี้อยู่มากทีเดียว
นอกจากนี้พวกนักเล่นแร่แปรธาติในสมัยเรเนสซอง (Renaissance) ยังให้ความสนใจเจ้างูชนิดนี้ไม่น้อย เพราะว่ากันว่าเถ้ากระดูกที่เป็นสีเงินของงูบาซิลิสก์ สามารถทำวัตถุที่เป็นโลหะให้กลับกลายเป็นทองคำได้
การแทนสัญลักษณ์กับบาซิลิสก์
ในสมัยช่วงต้นๆ ของศาสนาคริสต์ เชื่อว่าบาซิลิสก์คือสัญลักษณ์ ของสิ่งที่เป็นบาป และการตัดสินชีวิต
นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องราวของบาซิลิสก์เข้าไปเกี่ยวข้องกับอาณาจักร ซาลามานเดอร์(Faboulous Salamander) อีกด้วย ซึ่งบาซิลิสก์เป็นสิ่งที่แสดงถึงความหวาดกลัวของผู้คน ไฟของมันมีอำนาจแห่งการทำลายล้าง และสามารถแปรสิ่งต่างๆ ให้กลายเป็นโลหะ นอกจากนี้ก็บาซิลิสก์ยังสื่อความหมายในด้าน ยาอายุวัฒนะ ศิลาอาถรรพ์ ความทรงพลังและภัยพิบัติ การแปรสิ่งของในเป็นทองคำ และชีวิตอันเป็นอมตะ ซึ่งในสมัยเรอเนสซองส์ ชาวคริสเตียนได้พบข้อความใน Old Testament (หรือบัญญัติ 10 ประการของโมเสสนั่นแหละ) ว่าบาซิลิสก์คือสัญลักษ์แห่งความชั่วร้ายและปีศาจ
จุดอ่อนของบาซิลิสก์
จุดอ่อนของบาซิลิสก์ก็คือเสียงไก่ขัน พวกฝรั่งเขาบอกว่าถ้ามันได้ยินเสียงไก่(ตัวผู้) ขันเมื่อไหร่รับรองขาดใจตายเมื่อนั้น (บทจะตายง่ายก็ง่ายจริงๆ)
อย่างที่สองให้พกกระจกไว้ เชื่อกันว่าหากเราหยิบกระจกเพื่อสะท้อนการมองกลับของงู ผลที่ส่งมาจะย้อนกลับเข้าตัวมัน แล้วมันก็จะซี้ม่องเท่งทันที!
และสุดท้ายคือตัว weasel ตัววีเซิลนี่หน้าตามันคล้ายๆ ตัวนาก (สามารถดูรูปตัววีเซิลได้ในแกลเลอรี่ภาพประกอบสัตว์มหัศจรรย์ ที่ my id ของ la plume ค่ะ) เขาบอกว่าไอ้เจ้าตัววีเซิ่ลมีภูมิต้านทานพลังสายตาของบาซิลิสก์ แล้วก็ไม่กลัวเจ้างูชนิดนี้ด้วย มันจะตรงเข้ากัดบาซิลิสก์ชนิดไม่ปล่อย จนกว่าบาซิลิสก์จะขาดใจตาย หากเจ้าตัววีเซิ่ลถูกบาซิลิสก์ขบกัดเข้า มันก็จะกินพืชที่ชื่อว่า rue (เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง) เพื่อรักษาตัวเอง ซึ่งมีความเชื่อนี่คือพืชชนิดเดียวที่บาซิลิสก์ไม่สามารถทำให้เหี่ยวเฉาด้วพลังของมันได้
และนี่ก็คือเรื่องราวทั้งหมดของราชาแห่งอสรพิษ ที่มีชื่อว่าบาซิลิสก์ แต่ยังไม่หมดเท่านี้นะ ยังมีเรื่องประหลาดๆ ที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังอีกเรื่องนึงที่บังเอิญไปเจอเวบไซต์เกี่ยวกับต้นไม้เข้ามัน (<a href="http://www.killerplants.com/whats-in-a-name/20030711.asp">http://www.killerplants.com/whats-in-a-name/20030711.asp</a>) เป็นเรื่องของต้นกระเพรา........
ต้นกระเพราะ หรือที่ในภาษาอังกฤษเรียกว่า Basil เป็นพืชที่ชาวกรีกโบราณเรียกว่า 'okimon' เป็นพืชที่มีความหมายแห่งความเกลียดชัง โชคร้าย และความทุกขเวทนา แต่ในช่วงปลายยุคอารยธรรมของอาณากรโรมัน ต้นไม้ชนิดนี้ถูกเรียกใหม่ว่า basilicum (บาซิลิคัม) หรือ regula (เรกูล่า) ซึ่งมีความหมายว่า "ราชา" หรือ "ราชวงศ์"
ในช่วงยุคกลาง ต้นกระเพราหรือ basil นี้ก็ถูกโยงให้ไปเกี่ยวข้องกับสัตว์ในตำนาน
ของกรีกชนิดหนึ่งนั่นก็คืองูบาซิลิสก์นั่นเอง เชื่อกันว่า basil สามารถรักษาบาดแผลที่เกิดจากเงี่ยงหรือคมเขี้ยวที่อาบพิษร้ายแรงของงูบาซิลิสก์ได้ เรื่องการใช้กระเพรารักษาแผลนี้บังเอิ้ญ บังเอิญเป็นความโชคดีที่ได้มาจากผู้หญิง เพราะ basil ในยุคนั้นถือเป็นเครื่องลางแห่งความรัก หากชายใดยอมรับกิ่งกระเพราหรือ basil จากหญิงสาว ถือว่าเป็นการรับรักแสดงว่าเขาจะรักเธอตลอดไป
แล้วเรื่องของบาซิลิสก์ก็มีอยู่เพียงเท่านี้แหละค่ะ แปลกดีให้ต้นกระเพราแสดงว่าเขารับรักเราตอบ บ้านเรากินผัดกระเพราเป็นอาหารหลัก ho ho ho มิเป็นการบอกรักไปทั่วหรือ 555555555 เก๋ดีนะใกล้วันวาเลนไทน์แล้วด้วย ให้กิ่งกระเพราสื่อรัก อาจจะเวิร์คกว่าดอกกุหลาบก็ได้นะ เพราะดอกกุหลาบมันแพง แต่กระเพราะถูกกว่าแถมเอาไปฝากคนที่บ้านให้ผัดกินได้อีกด้วย อิอิ
สามารถแวะเข้าไปดูรูปทั้งค็อกเคทริกส์ และ งูบาซิลิสก์ในแกเลอร์รี่ภาพประกอบสัตว์มหัศจรรย์ที่ my id ของ la plume ค่ะ
ความคิดเห็น