Fic Baramos - หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน Dream? - Fic Baramos - หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน Dream? นิยาย Fic Baramos - หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน Dream? : Dek-D.com - Writer

    Fic Baramos - หัวขโมยแห่งบารามอส ตอน Dream?

    la plume เข้ามาแก้ไขคำผิด.... ToT ขอโทษและขอบคุณนักอ่านทั้งหลายด้วยค่ะ

    ผู้เข้าชมรวม

    19,052

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    19.05K

    ความคิดเห็น


    116

    คนติดตาม


    36
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 เม.ย. 49 / 10:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      …………………………………………..................................

      เสียงลำนำกำลังขับขานท่วงทำนองแห่งความสุข......................

      มวลบุพชาติหลากสีล้วนพร้อมใจกันเบ่งบาน ณ ที่แห่งนี้..............

      เมืองหลวงนครเดมอสที่ดูมีชีวิตชีวาด้วยงานพิธีการสำคัญ............

      พิธีการที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์..........

      พิธีการที่เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความรัก...........

      งานเลี้ยงฉลองแห่งการเริ่มต้นของชีวิตคู่...........

      ธิดาแห่งความมืด  เฟลิโอน่า  เกรเดอเวล  ในชุดเกาะอกลูกไม้ยาวสีขาวบริสุทธิ์   ผมสีน้ำตาลถูกเกล้าไว้ข้างหลังทิ้งปอยผมระไหล่มน   เส้นผมถูกประดับไปด้วยดอกลิลลี่สีขาวดอกใหญ่เดินเคียงคู่มาพร้อมกับบุรุษที่กำลังจะกลายเป็นเขยขวัญของเจ้าปีศาจผู้ยิ่งใหญ่แห่งเดมอสในไม่อีกกี่อึดใจนี้

      เจ้าปีศาจมองภาพนี้ด้วยความตื้นตันพระทัยนัก  เจ้าโกโดมที่ยืนอยู่ข้างๆ ซาบซึ้งจนดวงตาโตๆ นั้นกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่  ผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยสะบัดตามแรงสั่งน้ำมูกที่เจ้าคนแคระเขากวางสั่งออกมาอย่างไม่บันยะบันยัง

      เหล่าผองเพื่อนแห่งป้อมอัศวินกำลังโห่ร้องด้วยความยินดี  นำทีมโดยนายครี๊ด  ธันเดอร์ ที่กำลังเป่าปากเฟี้ยว  แซวคู่บ่าวสาวอย่างมันส์ปาก   มีคิล  เจ้านักฆ่าไร้สมองเป็นลูกคู่ตัวยง  มีฉากหลังประกอบของพวกทะโมนทั้งหลายที่กำลังส่งเสียงเฮฮากันอย่างครื้นเครง.............

      เจ้าสาวแสนงามหันควับ  สายตาสีน้ำตาลคู่โตนั้นขุ่นกึก   เจ้าหล่อนเพียรส่งรังสีอำมหิตมายังสมาชิกป้อมอัศวิน   หมายจะให้พวกมันรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ บ้าง  แต่ดูพวกมันไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย  กลับเพิ่มดีกรีความน่าเตะเพิ่มขึ้นไปอีก................

      ฮึ่ม..........ถ้าผ่าปฐพียังอยู่ล่ะก็.............

      สาวเจ้าคนสวยคำรามอยู่ในใจ.............

      หากวันนี้ไม่ใช่วันเข้าพิธีวิวาห์  หัวของพวกตัวแสบแห่งป้อมอัศวินคงโดนแพ่นด้วยผ่าปฐพีไปแล้ว  แต่เป็นเพราะท่านจ้าวเป็นห่วงสวัสดิภาพของผู้มาร่วมงาน   ทรงเกรงว่าพระธิดาคนสวยจะนึกอะไรแผลงๆ จนสำแดงอิทธิฤทธิ์ในงานอภิเษก  จึงได้ริบผ่าปฐพีไว้จนกว่าพิธีการจะเสร็จสิ้น   พวกทะโมนรู้ถึงข้อนี้ดีจึงแซวเพื่อนสาวกันอย่างไม่ได้นึกเกรงว่าเจ้าตัวแสบอดีตหัวขโมยอาจจะตามมาเช็คบิลหลังเสร็จงานก็ได้..........

      แต่หากใครจะรู้เลยว่ามีสายตาอีกคู่หนึ่ง  ที่เฝ้ามองพิธีการนี้อยู่อย่างเงียบๆ  ด้วยหัวใจอันแหลกละเอียด..........

      บาทหลวงเริ่มต้นพิธีอันยาวนานและน่าเบื่อ  จนกระทั่งถึงช่วงเวลาสำคัญ...........

      ท่านจะรับเจ้าหญิงเฟลิโอน่า  เกรเดเวล เป็นภรรยาและจะรักนางตลอดไปหรือไม่............

      "รับครับ........"

      ท่านจะรับกษัตริย์ชาเบรียน  โบแด็ง เป็นสามีและจะรักชายผู้นี้ตลอดไปหรือไม่......

      หญิงสาวมีทีท่าลังเลอยู่ครู่นึง  เธอยังไม่ได้ให้คำตอบในทันที   พลันสายตาเธอก็หันไปสะดุดเข้ากับสายตาอันปวดร้าวคู่นึง  ความคิดจากห้วงคำนึงในอดีตแล่นผ่านเข้ามา........

      มันจบลงแล้ว  เรื่องของเรามันไม่มีอีกแล้ว  จากนี้ไปเธอจะฝากชีวิตไว้กับชายที่อยู่ข้างหน้าเธอคนนี้.............

      ตลอดไป...............


      สายตาทุกคู่พากันจับจ้องมาที่ร่างของเจ้าสาวอย่างลุ้นระทึกในคำตอบที่กำลังจะเอ่ยออกมา...........

      "รับค่ะ.........."

      จบสิ้นแล้ว   ความหวังของชายหนุ่มพังทลายไม่มีเหลืออีกแล้ว   โลกทั้งโลกเหมือนจะดับวูบอยู่อย่างนั้น  ความรู้สึกขมขื่นวิ่งพล่านเข้าสู่ดวงใจของเจ้าชายที่ได้ชื่อว่าก้อนน้ำแข็งยักษ์เดินได้.........

      หากวันนั้นเขากับเธอจะไม่ทะเลาะกัน.......

      หากเขาเป็นคนยอมไปง้อ  ไปขอโทษเธอ........

      เรื่องก็คงไม่จบลงแบบนี้.........

      คำพูดที่เคยเขาให้กับเธอไว้แวบเข้ามาในความทรงจำ.......

      รัก.....
      รักมาก......
      รักมากที่สุด......

      เป็นคำพูดที่ออกมาจากใจจริง....เขาไม่เคยเสแสร้ง.....ไม่เคยแม้แต่คิดที่จะทำให้เธอเจ็บช้ำใจ.....

      หากย้อนเวลากลับไปได้.....

      ขอโอกาสสักครั้ง.........เขาจะไม่ทำเป็นเย็นชาแบบนั้นอีก......

      เพชรเม็ดงามล้ำค่า.....

      แต่เขาปล่อยให้มันหลุดลอยไปแล้ว.....

      หากเขารู้จักถนอมมันเอาไว้......

      หากเขารู้จักประคับประคองความรักของเขาเอาไว้......

      แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อเขาไม่มีสิทธิ์ในตัวเธออีกแล้ว.....

      ไม่มี.....

      ในอกร้อนวูบเหมือนมันจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ   เขาเบือนหน้าหนี  ไม่อยากมองภาพนั้นให้มันบาดตา บาดหัวใจเขาเลย......

      เจ็บ.....

      เจ็บจนมันชา.....

      เจ็บจนไร้ความรู้สึก......

      เจ็บเข้าลึกถึงขั้วหัวใจ.........

      แต่ถึงอย่างไร.........หัวใจเขา........ก็มอบแด่เธอเพียงผู้เดียว........

      เฟลิโอน่า  เกรเดเวล............

      อดีตหัวขโมยที่ได้ขโมยหัวใจของเขาไปหมดแล้ว........

      ชาตินี้เขาจะขอรักและภักดีต่อเธอผู้เดียวตลอดไป.......จะไม่มีหญิงใดมาแทนที่เธอได้.......

      คำสัตย์ที่เขาให้ไว้กับตัวเอง..............

      ชายหนุ่มทำได้แต่เบือนหน้าหนี   ไม่อยากให้ใครได้เห็นความอ่อนแอของเขา   ไม่ใช่ไม่อยากร้องไห้   น้ำตาแห่งความอาลัยรัก แต่เพราะเป็นลูกผู้ชาย  เขาซึ่งเป็นถึงเจ้าชายแห่งเมืองนักรบจะหลั่งน้ำตาแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นไม่ได้โดยเด็ดขาด!!    ตอนนี้เขาทำได้แค่เพียงหลุบนัยน์ตาลงซ่อนความปวดร้าวที่ฉายออกมาจากนัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้น.....

      .................................................................

      คาโล.....

      คาโล........

      ชายหนุ่มลืมตาขึ้น   ตาสีฟ้าใสสบเข้ากับแววตาสีม่วงที่กำลังฉายแววสงสัย.......

      "คาโล....นายเป็นอะไร  ฝันร้ายเหรอ ?  ฉันเห็นนายนอนกระสับกระส่าย  เหงื่องี้แตกพลักเชียว  นายไม่เคยเป็นแบบนี้นี่...."

      ฝัน.....?????

      ชายหนุ่มบอกกับตัวเองในใจ......

      โชคดีที่เป็นแค่ความฝัน......

      "ไม่มีอะไร"

      คำตอบสั้นสมกับเป็นเจ้าชายน้ำแข็งแห่งคาโนวาล....

      "เฟรินอยู่ไหน"

      "แกหายใจเข้าหายใจออกเป็นไอ้เฟรินมันรึไงวะ  คาโลแกยังไม่ตอบคำถามฉันเลยนะโว้ย" ดวงตาสีม่วงมีประกายระริกอย่างนึกสนุกที่ได้แหย่เจ้าชายน้ำแข็งขั้วโลก

      "เฟริน อยู่ไหน"  น้ำเสียงเย็นเยียบตอกกลับมา  มันมีความหมายแฝงว่า  ถ้ามัวแต่เล่นแง่อยู่  แกตาย!!

      "เห็นมันบอกว่าจะไปหาโร...... อ้าว!!! เฮ้ย แกจะรีบไปไหนวะ "

      ไม่มีวันที่เขาจะยอมให้ภาพในความฝันเกิดขึ้นเด็ดขาด   ยังไงเขาก็ไม่ยอมยกเฟรินให้ใคร  ไม่ว่ามันจะเป็นใครหน้าไหนก็ตาม!!!

      เขาบอกกับตัวเองในใจ..............

      ..........................................................

      "ไอ้โรมันหายไปไหน   นัดว่าจะมาติววิชาหมากรุกแต่ดันหายพระเศียรไปไหนฟระ"  เจ้าหญิงสองแผ่นดินที่ตอนนี้นัยน์ตาสีน้ำตาคู่โตกำลังฉายแววขุ่นกึก  นึกอยากเตะไอ้เจ้าขอทานบ้านัก  ที่นัดเขามาที่ห้องนั่งเล่นรวมตอนดึกๆ  บรรดาเพื่อนๆ ทะโมนทั้งหลายหายหัวไปหมด  ง่วงก็ง่วง  เซ็งก็เซ็ง  แล้วมืดๆ อย่างงี้จะมีตัวอะไรโผล่ออกมารึป่าวเนี่ย  ไอ้ตัวขาวโปร่งใส  ที่ทำให้อดีตหัวขโมยขนลุกขนพองเพียงแค่นึกถึง.......

      โว้ย.......แล้วคนอื่นมันหายหัวไปไหนกันหมดเนี่ย    แล้วนัดตอนไหนไม่นัด  ทำไมต้องเป็นตอนเที่ยงคืนด้วย.......

      เจ้าหล่อนตะโกนกู่ร้องอยู่ในใจ   คนที่มีความอดทนน้อยอยู่แล้ว   เส้นความอดทนกำลังจะขาดผึงอยู่ในไม่ช้า......

      คนร่างบางไม่ได้เฉลียวใจเลยว่ามีอะไรบางอย่างกำลังเข้าใกล้เธอทุกทีๆ   แต่ริมฝีปากกลีบกุหลาบนั่นกำลังบ่นเจ้าเพื่อนขอทานตัวแสบไม่ได้หยุด   คิ้วเรียวขมวดขึ้น  เท้าเจ้าหล่อนเดินไปเดินมาได้ครึ่งชั่วโมงแล้ว  ทันใดนั้น!!!!!

      "จ๊ากกกกกกก!!!  ผี!!!!......."

      เจ้าหล่อนสะดุ้งสุดตัว   ปากคอสั่น  หลับตาปี๋   ปากก็บอกพล่ามว่ากลัวแล้วๆ อย่ามาหลอกหนูเลย

      พลันร่างบางกลับตกอยู่ในอ้อมกอดของใครคนหนึ่งที่เข้าประชิดตัวเธอจากด้านหลัง  ความอบอุ่นแผ่นซ่านเข้ามายังร่างที่สั่นเทิ้ม..

      "เฟริน  ไม่ใช่ผี.....ฉันเอง"

      "คาโล"  เจ้าหล่อนคลี่รอยยิ้มที่ทำให้ภูเขาน้ำแข็งก้อนยักษ์ยังต้องละลาย   แต่เมื่อฉุกคิดอะไรบางอย่างได้รอยยิ้มก็หายวับไปทันที.......

      "มาทำไม   ไหนว่าไม่อยากยุ่งเรื่องของฉันแล้วไง"  เจ้าหล่อนตัดพ้อดิ้นยุกยิก  แยกเขี้ยวใส่แต่ไม่ทันได้ทำอะไรไปมากกว่านี้    คนตัวเล็กก็ต้องตะลึง  ตัวแข็งทื่อยิ่งกว่าก้อนหินไปซะแล้ว   เนื่องจากคนตัวโตกว่าดันแอบฉกฉวยความหอมจากแก้มใสๆ ของเธอไปฟอดใหญ่ๆ ซะนี่

      "นายก็รู้ว่าฉันเอาใจใครไม่เป็น   นายก็เหอะนิดหน่อยก็งอนยังกะผู้หญิง"  น้ำเสียงแหย่ๆ และดวงตาฉายประกายเจ้าเล่ห์ที่หาได้ยากยิ่งจากคนตรงหน้า

      "ใคร  ใคร้  ใครงอนเป็นผู้หญิง  พูดให้มันดีๆ"  เจ้าตัวดียังทำเฉไฉ  ทำลอยหน้าลอยตาน่าหมั่นไส้  จนเขานึกเข็ดเขี้ยวอยากลงโทษคนตรงหน้า  

      ยังไงมันก็ไม่ยอมรับความจริงอยู่ดี.........

      คนตัวโตกว่าคิดพลางกระชับอ้อมกอดคนตรงหน้าให้แน่นขึ้น  หวังจะทำให้ลบภาพฝันอับ....ปรีย์นั่น  ยังไงๆ  เขาก็ไม่มีวันปล่อยเธอไปให้ใครเด็ดขาด!!!

      "โอ๊ย!!! กอดแน่นไปแล้วหายใจไม่ออก"  เจ้าตัวดียังบ่นอุบอิบ

      คาโลเพียงแค่คลายอ้อมแขนหลวมๆ  แต่ก็ยังกอดคนตรงหน้าไว้แน่น  ราวกับกลัวว่าเจ้าหล่อนจะอันตรธานหายไป

      "นายมาง้อฉันใช่ม้าาา…" เจ้าหญิงตัวแสบทำเสียงอย่างผู้มีชัย  เสียงหัวเราะใสๆ บอกถึงความชอบใจ ตาสีน้ำตาลสวยเป็นประกายวิบวับ  มันดีใจที่คนตรงหน้ายอมเป็นฝ่ายมาง้อ เธอ

      "เฟริน .........ฉันขอโทษ"  ใช่.....เขาพูดออกไปแล้ว........เขายอมเสียหน้าดีกว่าเสียเธอไป

      แต่เจ้าตัวดียังนึกสนุก  อยากแกล้งคนมาดมากที่นานๆ ทีจะยอมลงให้เธอ

      "หา.......นายพูดอะไร  ฉันไม่ได้ยิน"

      "ฉันขอโทษ"

      "ตะโกนดังๆ หน่อย  ไม่ได้ยินอะไรเลย"

      "เฟริน"

      "หา........"

      แม่ยอดยุ่งที่ยังไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ไหน  เจ้าหล่อนลืมไปแล้วล่ะมั้งว่าร่างบางๆ ของเธอยังอยู่ในอ้อมแขนของเจ้าชายนักรบแห่งคาโนวาล  เจ้าลูกแมวตัวน้อยที่ไม่ได้สำนึกเลยแล้วยังริอาจจะไปแหย่ราชสีห์ซะอีก

      "เร็วๆ ซิ  พูดอีกทีฉันไม่ด......อุ๊บ"

      ริมฝีปากสวยๆ ของแม่ธิดามือคนงามตอนนี้ไม่ว่างต่อล้อต่อเถียงด้วยซะแล้ว  เพราะคนตรงหน้าถือสิทธิประกบริมฝีปากเจ้าหล่อนเสียแนบแน่น  เพราะนึกหมั่นไส้แม่สาวน้อยนี้เต็มแก่...............

      คนตัวเล็กพยายามดิ้นอยู่ได้พักนึง  ก็ต้องคล้อยตามคนข้างหน้าไปเพราะจุมพิตอันร้อนแรงของเจ้าชายเมืองนักรบกำลังหลอมหัวใจเธอ   เมื่อเห็นคนตรงหน้าไม่ว่าอะไร  มันยิ่งทำให้เขาได้ใจเริ่มรุกเจ้าหล่อนมากขึ้น   จากริมฝีปาก  มาที่นวลแก้ม แล้วเลยไปที่ลำคอขาวนวลเนียน   สัมผัสร้อนวูบวาบจนทำให้หน้าขาวๆ ต้องขึ้นสีจนดูน่าพิศ  เสียงครางเบาๆ ลอดมาจากริมฝีปากของเจ้าหญิงคนงาม  

      น่ารัก.........ค่อยเหมือนผู้หญิงหน่อย

      ความคิดในใจของเจ้าชายหน้ารูปสลักที่กำลังมองคนข้างหน้าด้วยความรักใคร่  เสียงครางเบาๆ กับกลิ่นหอมๆ จากผิวกายทำให้มโนธรรมของเขาเตลิดไปไกล   ตอนนี้มันสะกดว่ายังไงเขาเองก็ชักไม่อยากรับรู้ซะแล้ว  ชายหนุ่มประคองเจ้าหล่อนให้ลงไปนอนที่โซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างทะนุถนอม    คนตัวโตกว่าขึ้นคล่อมคนตัวเล็ก  ริมฝีปากยังแวะเวียนอยู่เหนือทรวงอกงาม   มือใหญ่ซุกซนเลิกกระโปรงของคนตรงหน้าขึ้นลูบๆ คลำๆ แถวขาอ่อน  หญิงสาวหายใจถี่รัวขึ้น  ลมหายใจเริ่มติดขัด  สีหน้าบอกว่ากำลังเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสที่เขามอบให้.....


      โครมมมมมมม!!!!


      ประตูห้องที่ถูกเปิดออกพรวด  พร้อมร่างของเหล่าตัวแสบแห่งป้อมอัศวินนอนกองทับกันอยู่บนพื้น  นำทีมโดยนายครี๊ด   นายซอร์โรว์   เจ้าชายอาชูร่า  นายกัส  หรือแม้แต่โร  และซีบิล  ที่หน้าไม่ได้บอกยี่ห้อว่าจะเป็นพวกถ้ำมองก็ยังมาแจม  แต่ที่ร้ายสุดๆ  เจ้าเพื่อนตัวดี  ไอ้คิล!!!ไอ้นักฆ่าปัญญาอ่อนเพื่อนซี้ของเขาก็ร่วมวงไพบูลย์ไปกะเขาด้วย!!!!


      ขอทานผู้รอบรู้พยายามนึกหาคำแก้ตัวดีๆ ให้กับตัวเอง   ก่อนที่จะถูกแช่แข็งจากพ่อหนุ่มเจ้าของกิจการโรงแช่แข็ง.....


      "เอ่อ....โทดทีว่ะเพื่อน  พวกฉันไม่ได้ตั้งใจมาขัดจังหวะพวกนายนะ   แต่เอ่อ...อ...อ....อ่า...าาา....คือแบบว่า.....ฉันรออยู่นานแล้วพวกแกก็ยังทำธุระไม่เสร็จซะทีอ่ะ....ฉันก็เลย....ฉันก็เลย.....อ่า.....เอาเป็นว่าพวกนายต่อให้เสร็จก็แล้วกัน  เดี๋ยวฉันให้เฟรินช่วยติวหมากรุกวันหลังก็ได้.......ฉันไม่รบกวนแล้ว.....เอ่อ.....ฉันไปนะ"


      "แสดงว่าพวกนายอยู่หลังประตูนั่นนานแล้ว???"  น้ำเสียงเย็นเยียบจากทายาทแห่งภูตน้ำแข็งเอ่ยขึ้น


      "เอ่อ…อ ..อ..อ  พวกเราไม่ได้แอบดูนะ  แค่ศึกษาเอาไว้.....ก็เท่านั้นเอง"  คำแก้ตัวงี่เง่าที่สุดหลุดออกมาจากปากของนายครี๊ดจนเพื่อนๆ  หันไปถลึงตามองมันด้วยความเอ็นดู (มั้ง?) จนอยากจะตบรางวัลมันด้วยยำสหบาทาข้อหาปากไม่มีหูรูด....


          เหล่าตัวแสบล่วงรู้ถึงภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า  ไอเย็นๆ เริ่มแผ่ออกมาจากคนตรงหน้า   พวกเขาพยายามจะก้าวขาออกไปจากห้องนั้น   แต่ว่า...มันดันก้าวขาไม่ออกเนี่ยสิ  พลันสายตาก็สบกับแววตาสีฟ้าที่กำลังฉายรังสีอำมหิตอย่างจงใจ......


      ซวยแล้วตรู....แต่ละคนต่างสบถขึ้นในใจ


      อดีตหัวขโมยสาวหน้าสูบเฉียดเลือดจนแดงซ่าน  อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน  แต่ยังไงเจ้าหล่อนมีวิธีแก้เขินที่แสนจะน่ารักสมตัวอยู่แล้วนี่

      "ผ่าปฐพี!!"

      "วีสกาย่า!!!"

      จากนั้นเจ้าหล่อนจึงไล่เฉาะหัวเพื่อนๆ  เป็นการแก้เขิน  พร้อมกับคาโลที่ปล่อยหมาป่าน้ำแข็งออกมาวิ่งไล่งับก้นเพื่อนๆ  เล่นด้วยความเอ็นดู   เสียงโวยวายโหวกเหวกดังสนั่นจนคนทั้งป้อมนอนไม่ได้  กว่าทุกอย่างจะเข้าสู่ภาวะปกติก็สว่างแล้ว   พร้อมด้วยรูปปั้นประติมากรรมน้ำแข็งพวกนักถ้ำมองอ่อนหัดที่ตั้งตระหง่านอยู่ภายในห้องนั่นเล่น.....

      เฮ้อ..อ...อ....อดอีกแล้วเรา

      เจ้าชายรูปงามจากแดนนักรบนักคิดในใจ  พลางหันไปมองหน้าเจ้าหญิงคนงามที่เป็นเจ้าของหัวใจของเขา   ตอนนี้เจ้าหล่อนกำลังหลับตาพริ้มเพราะเมื่อคืน exercise กับเพื่อนๆ มากไปหน่อย จนหมดแรง  เขาก็เลยต้องอุ้มแม่ตัวแสบมาส่งถึงห้อง  พร้อมวางลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล  ผ้าห่มผืนหนาถูกบรรจงคลุมร่างบางตรงหน้า    มือใหญ่ลูบไรผมสีน้ำตาลสลวยอย่างเบามือ     ก่อนที่ใบหน้ารูปสลักจะก้มลงประทับจุมพิตบนหน้าผากมนของสาวน้อย.....

      ฝันดีนะ.....เฟริน....ยอดรักของฉัน....

      เขากระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องนั้นไปอย่างเงียบเชียบที่สุด  โดยหารู้ไม่ว่ามีสายตาคู่นึงของคนที่ตื่นพักนึงแล้วมองตามแผ่นหลังกว้างของเขาจนกระทั่งร่างนั้นหายลับออกไปจากห้อง....

      เฮ้ออออ.......รอดตัวไปอีกครั้ง   แล้วนี่ฉันจะรักษาความบริสุทธิจากเจ้าน้ำแข็งงี่เง่าจนเรียนจบไม๊เนี่ย......

      ..........................................................................................

      คิดไปก็ปวดหัว   นอนดีกว่า.......

      ..........................................................................................

      ผลงานอื่นๆ ของ la plume

      นิยายเรื่องสั้น

      1.  ฟิคหัวขโมยแห่งบารามอส ตอน Dream?
      2.  ฟิคหัวขโมยแห่งบารามอส ตอน ตำนานรักดอกทานตะวัน

      นิยายเรื่องยาว

      1. ฟิคหัวขโมยแห่งบารามอส ตอน เรื่องสนุกๆ ของเฟริน
      2. Amdis

      หมวดความรู้ (ความรู้+ตำนานของสัตว์ในตำนาน)

      1.  ว่ากันด้วยเรื่องของมังกร
      2.  สัตว์มหัศจรรย์ในตำนาน

      *** ลงเรื่องครั้งแรกวันที่ 9/11/48
      ***แก้ไขครั้งล่าสุดวันที่ 8/1/49
      ***แก้ไขครั้งล่าสุดวันที่ 12/4/49

      **********************

      ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยบอกจุดที่ผิดให้  ขอบคุณมากๆ อีกทีค่ะ T^T  แล้วก็ขอโทษนักอ่านด้วยนะคะที่ทำให้เสียอรรรถในการอ่านไป.....

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×