รักหรือ? นี่คือคำถาม
ความรักที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และไม่ได้สวยงามอย่างที่ใคร ๆ คิด อีกหนึ่งบทเรียนความรักที่อยากให้คุณได้สัมผัส
ผู้เข้าชมรวม
204
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เรื่องราวความรักของฉันมันเริ่มต้นจากคำว่า "เพื่อน" คะ
แต่ไม่ได้เริ่มจากความเป็นเพื่อนนะค่ะ
เราคบกันมาประมาณ สี่ปี กว่า ๆ แล้วเหมือนกัน
ช่วงแรก ๆ ก็ดีนะค่ะราบรื่นดี ทุกอย่างดูดีหมด
ช่วงเวลานั้นยอมรับคะว่าตัวเองมีความสุขมาก
ต้องบอกก่อนเลยว่าฉันไม่เคยคบกับใครมาก่อนหน้าที่จะมาคบกับเขาเลยนะค่ะ
เขาเป็นคนรักคนแรกและก็เป็นเพียงคนเดียวอยู่ ณ เวลานี้
เขาก็เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละคะ
ไม่ได้มีความโรแมนติกอะไรเลย
พูดจาหวาน ๆ กับใครเค้าก็ไม่ค่อยเป็น
ถึงได้คบกันได้ไงค่ะ....
เพราะว่าฉันเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดูโรแมนติกอะไรมากนัก
พูดจาจ๊ะจ๋ากับใครเค้าก็ไม่ค่อยเป็น
แต่ฉันก็มั่นใจว่าฉันก็เป็นผู้หญิงอ่อนหวานได้ในระดับหนึ่งเลยเมื่ออยู่กับเขา
เพราะผู้ชายนิสัยอย่างเขาชอบผู้หญิงอ่อนหวานช่างเอาใจคะ
ฉันรู้สึกว่าเราสองคนไปกันได้ด้วยดีคะ
ไม่ได้หวานแหววเหมือนคู่ของใคร ๆ
แต่เราสองคนก็เป็นเราที่เป็นแบบนี้
เคยมีคนบอกฉันคะว่าการที่เราจะคบใครสักคน
อย่ามองที่ข้อดีของคนคนนั้น
ให้มองที่ข้อเสียของเขาแล้วลองถามตัวเองว่า...
เราสามารถรับข้อเสียเรานั้นได้มากน้อยแค่ไหน
ฉันก็เคยคิดที่อยากจะมองอย่างนั้นหมายกัน
แต่พอคนเราลองเริ่มที่จะมีความรักจริง ๆ
มันก็มักจะมองข้ามข้อเสียต่าง ๆ
เหล่านั้นให้กลายเป็นข้อดีไปเสียหมด จริงไหมค่ะ...
ทุกอย่างดำเนินมาด้วยดีค่ะ ปกติดีทุกอย่าง
จนวันหนึ่งฉันถึงได้รู้สึกเหมือนคนโง่
โง่ที่ยอมเชื่อใจและไว้ใจคนที่ตนเองรักมาตลอด
รู้ไหมค่ะว่าหลังจจากที่เราคบกันมาเกือบสองปี
ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่ฉันจะไม่เคยไม่เชื่อใจเขา
จนมาได้รับรู้ว่าตลอดเวลาที่เราคบกันมา
เขาก็ได้คบอยู่กับผูหญิงอีกคนหนึ่งด้วย
และเขาสองคนคบกันมาก่อนที่เขาจะมาคบกับฉันซ่ะอีก
ที่ร้ายไปกว่านั้นสิ่งที่ฉันรับรู้มันไม่ใช่จากตัวเขารึจากผู้หญิงคนนั้นเลย
แต่ฉันรับรู้ด้วยตัวของฉันเอง
รับรู้ด้วยภาพที่ฉันยังจำฝังใจและมันยังติดตาฉันมาจนถึงปัจจุบันนี้
ภาพที่เขาและเธอคนนั้นนอนกกกอดกันอยู่บนเตียงขนาดใหญ่
โดยบุคคลทั้งสองไม่ได้รับรู้ถึงการย่างกลายเข้ามาของบุคคลที่สามอย่างฉันเลย ช็อคไหมล่ะค่ะ...
ความรักที่เคยคิดว่ามันน่าจะสวยงามและจะยาวนานตลอดไป
มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นซ่ะแล้ว
ใครจะไปคิดล่ะค่ะว่าฉากที่ฉันเคยชอบดูในละครทีวีน้ำเน่า
มันจะมาเกิดขึ้นกับชีวิตจริงของฉัน
เค้าถึงบอกกันไงค่ะว่าชีวิตจริงของคนเรามันยิ่งกว่าละครทีวีน้ำเน่าเสียอีก
ตอนนั้นฉันยังจำได้ดีค่ะว่าฉันรู้สึกยังไง
มันเจ็บจนเกินบรรยายจริง ๆ นะค่ะ
มันช็อคซีนีม่าไปเลยเหมือนโดนคู่ต่อสู้น็อคกลางเวทีมวยยังไงยังงั้นเลย
จากที่ไม่เคยทะเลาะเราก็ทะเลาะ และก็เริ่มบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ
ฉันยื่นคำขาดให้เขาเลือกระหว่างฉันกับเธอคนนั้น
ทั้ง ๆ ที่ฉันอยากจะเป็นคนเลือกเองนะค่ะ
อยากเลือกที่จะไปเองแต่บอกตรง ๆ คะ
ว่าฉันยังไม่เข็มแข็งถึงขนาดนั้น
ยังไม่เข็มแข็งพอที่จะเดินจากเขาไปในตอนนั้น
แต่คำตอบที่ฉันได้รับก็ทำให้ฉันแอบดีใจอยู่เหมือนกันนะค่ะ
เพราะเขาเลือกฉันแทนที่จะเป็นเธอคนนั้น
แต่ที่เขายังเลิกกับเธอคนนั้นไม่ได้เพราะมีเหตุผลหลาย ๆ อย่าง
ซึ่งฉันก็ไม่ได้สนใจจะอยากรับรู้อะไรมากนัก
เขาคงคิดค่ะว่าฉันคงจะยอมรับและเชื่อคำพูดของเขาอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
แต่ฉันบอกได้เลยว่าเขาคิดผิดคะ
ความไว้ใจความเชื่อใจมันหมดไปแล้วล่ะคะ
มันหายไปพร้อมกับภาพที่ฉันเห็นอยู่ตรงหน้าตั้งแต่วันนั้นแล้ว
มันยากค่ะที่จะเรียกความรู้สึกดี ๆ ที่เสียไปกับคืนมาได้เหมือนเดิมอีก
แต่ฉันไม่ได้บอกให้เขารู้หรอกนะค่ะ
ว่าฉันคิด...ฉันรู้สึกอะไร...อยู่ในตอนนั้น
ฉันจะไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่เขาพูดทั้งที่ยังไม่ได้เห็นการกระทำ
แค่ช่วงเวลาไม่กี่อาทิตย์ที่เรามีปัญหากัน
ฉันรู้สึกเหมือนว่ามันนานเป็นปีเลยล่ะคะ
ฉันรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำของเขาในครั้งนั้นมาก
สภาพจิตใจก็ย่ำแยมากคะในตอนนั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ
กว่าเราจะปรับตัวให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
ก็ใช้เวลานานพอดูเลย หลายเดือนทีเดียว
แต่รู้ไหมค่ะ...ว่าจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น
ฉันไม่เคยเชื่อใจอะไรเขาอีกเลย
ไม่ว่าเค้าจะไปไหนจะทำอะไรจะต้องมีคำถามเกิดขึ้นมาในใจต่าง ๆ นานา
ไปไหน? ไปทำอะไร? อยู่กับใคร? ไปทำไม?
ภายนอกดูเหมือนจะมีความสุขคะ
แต่ภายในใจกับตรงข้ามกันเลย
และฉันก็เชื่อมั่นได้เลยว่าเขาของฉันกับเธอคนนั้น
ยังไม่ได้เลิกกันเป็นจริงเป็นจังแน่นอน
แต่ฉันก็ได้แต่คิดคะ คิดแล้วก็เก็บไว้ในใจไม่พูดไม่ถาม
เพราะฉันไม่ต้องการที่จะพูดถึงเธอคนนั้นอีกเลยถ้าไม่จำเป็น
และสิ่งที่ฉันคิดก็เป็นจริงตามนั้นเลยนะค่ะ
บอกแล้วว่าผู้หญิงเราลางสังหรณ์แรงเสมอเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
หลังจากวันที่เรามีปัญหากัน
จากวันนั้นถึงวันที่ลางสังหรณ์ฉันเป็นจริงมันก็ผ่านมาเกือบปีแล้ว
อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรเข้ามาหาฉัน
ฉันไม่แปลกใจเลยว่าเธอคนนั้นจะเอาเบอร์โทรศัพท์ของฉันมาจากไหน
ถ้าไม่ใช่จากเขา แต่ที่ฉันไม่รู้ก็คือเอามาด้วยวิธีไหนเท่านั้นเอง
เธอคนนั้นโทรมาหาฉันเพียงเพื่อจะบอกให้ฉันเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนี้
แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่เธอบอกด้วยล่ะค่ะ
ฉันรู้สึกสมเพชเธอจริง ที่เป็นไปได้ถึงขนาดนี้
เธอไม่น่าฉลาดน้อยเลยนะค่ะ
เธอน่าจะรู้ว่า คนอย่างฉันถ้าจะไปเองไม่ต้องรอให้เธอบอกหรอกค่ะ
ถ้าฉันอยากไปฉันก็ไปของฉันเองได้
ในเมื่อตอนมาฉันยังมาเองเลย แล้วตอนไปทำไมฉันจะไปเองไม่ได้
ใช่คะ...แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่เธอคนนั้นบอกด้วย
เธอไม่ใช่พระบิดาพระมารดาของฉันนี่ค่ะ
ฉันถึงจะต้องทำตามความประสงค์ของเธอ
ฉันไม่มีวันเลิกยุ่งกับของที่เป็นของ ๆ ฉันอยู่หรอกคะ
ในเมื่อเขายังต้องการฉันอยู่..
ทำไมฉันจะต้องทำตามความต้องการของเธอด้วยล่ะค่ะ
ฉันยอมรับฟังความรู้สึกนึกคิดของเธอคะ
ในเมื่อเธอต้องการจะพูดอะไรสักอย่างออกมา
ฉันพร้อมยอมรับฟังอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเลยนะค่ะ
แต่มันขึ้นอยู่ที่ว่าฉันจะทำตามความต้องการของเธอรึป่าวเท่านั้นเอง
ฉันก็เห็นใจเธอนะค่ะ เข้าใจความรู้สึกของเธอดีว่ารู้สึกยังไง
เราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันนี่ค่ะก็ย่อมที่จะเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกัน
ฉันบอกเธอคะ...
ว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เธอจะมาพร่ำรำพัน
ถึงความรักที่เธอมีต่อเขาให้ฉันฟัง
เพราะว่าถึงฉันรับรู้ไปมันก็เท่านั้นเอง
เธอมาบอกฉันแล้วเธอได้อะไรค่ะ
ได้รับความสงสารได้รับความเห็นใจจากเขาคนนั้นรึก็ป่าว
เพราะเขาไม่ได้มารับรู้อะไรด้วยสักหน่อย
ฉันบอกเธออีกคะ...
เรื่องพวกนี้ให้เธอไปบอกให้เขารับรู้เองจะดีกว่ามาบอกให้ฉันฟัง
ฉันบอกตรง ๆ คะว่านะเวลานั้นฉันก็รู้สึกสงสารเธอเหมือนกันนะค่ะ
แต่ตราบใดที่เขายังเลือกฉันอยู่ทำไมฉันจะต้องเป็นฝ่ายไปด้วยล่ะค่ะ
เมื่อเธอคนนั้นดีมาฉันก็ดีกลับคะ
(ก็รู้สึกอยู่เหมือนกันนะค่ะว่าตัวเองหน้าหนาจัง)
แต่เธอคนนั้นคงคิดว่าใช้ไม้นี้กับฉันคงไม่เป็นผลสำเร็จแล้ว
เพราะทุกถ้อยคำหลังจากนั้นมีแต่คำพูดของคนไม่มีการศึกษาเขาพูดกัน
ถ้อยคำสาดเสียเทเสียหรือแม้แต่คำหยาบคายเริ่มซัดเข้ามาใส่ฉัน
อย่างไม่มีชิ้นดี เหมือนน้ำทะเลซัดเข้าหาชายฝั่ง
เธอคงคิดว่าฉันจะสะทกสะท้านกับคำพูดเหล่านั้นกะมังค่ะ
ฉันปล่อยให้เธอพูดออกมา..พูดออกมาจนหมด
จนฉันคิดว่าสาแก่ใจเธอแล้วนั่นแหละคะ
ฉันถึงถามเธอว่ามีอะไรจะพูดกับฉันอีกไหม
ในเมื่อไมมีฉันก็ขอตัวก่อนแล้วกัน
เธอคนนั้น " อึ้ง " คะ
ฉันคิดว่าฉันจับความรู้สึกเธอได้นะค่ะ
เธอเงียบไปสักพักหนึ่งไม่พูดอะไรต่อ
ฉันจึงวางสายลง ใช่ว่าฉันไม่รู้สึกอะไรนะค่ะ
ฉันไม่ได้ด้านชาจนไม่รู้สึกเจ็บแสบกับคำพูดพวกนั้น
และฉันก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนด้วย
ที่จะรับฟังคำพูดพวกนั้นโดยไม่โต้แย้งอะไร
แต่ที่ฉันไม่โต้แย้งเพราะฉันก็มีเหตุผลของฉัน
เหตุผลที่ว่า...ฉันจะไม่แสดงความรู้สึกอะไร
ให้ฝ่ายตรงข้ามจับความรู้สึกของฉันได้เด็ดขาด
เพราะฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่โง่มากที่ฉันจะทำแบบนั้น
คนฉลาดเค้าไม่เปิดเผยความรู้สึกนึกคิด
ให้ฝ่ายตรงข้ามรับรู้หรอกค่ะ
คนที่อยู่ในที่มืดมักจะได้เปรียบมากกว่าคนที่อยู่ในที่สว่างไม่ใช่รึค่ะ
หลังจากวันนั้นก็จะมีทั้งข้อความ
และก็เสียงปริศนาจากโทรศัพท์ที่มีตัวตนบ้างไม่มีตัวตนบ้าง
ด่าว่าฉันสารพัด หน้าด้านบ้างล่ะ! แย่งสามีชาวบ้านบ้างล่ะ!
นับถือเลยคะ ว่าชั่งสรรหาคำมาว่าเหลือเกิน
วันนึ่งเป็นสิบข้อความเป็นหลายร้อยสาย
และไม่เคยซ้ำกันเลยนะค่ะ...ชั่งหน้าให้คะแนนความพยายามจริง ๆ
นานวันเข้าจากที่คิดว่าจะไม่ตอบโต้อะไร
จะอยู่เฉย ๆ ด้วยสงบ
แต่ความอดทนก็ขาดสะบั้นลงทันที
เมื่อเธอคนนั้นใช้เบอร์ของเขาส่งข้อความมาบอก
เหมือนจะให้ฉันรับรู้ว่า ณ เวลานั้นเขาสองคนกำลังอยู่ด้วยกันนะ
เดี๋ยวนั้นเองที่ฉันได้บทเรียนว่า...
" ความสงบไม่สามารถสยบความเคลื่อนไหวได้ "
เมื่อเธอคนนั้นยังไม่ยอมจบฉันก็จะทำให้เธอรู้ว่าหายนะเป็นเช่นไร
ฉันทำเรื่องไม่ดีบ้างเรื่อง...
ที่ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำเลยแต่ฉันก็ไดทำลงไปแล้ว
และทำด้วยสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ
ฉันคงบอกไม่ได้หรอกคะว่าเรื่องที่ฉันทำเป็นเรื่องอะไร
แต่เป็นเรื่องที่สร้างความอับอายให้ผู้หญิงดี ๆ
คนหนึ่งรู้สึกแย่มากได้เหมือนกัน
เพียงชั่วข้ามคืนพวกนักกระหายความใคร่
ก็จะได้รู้จักเธอคนนั้นเพียงแค่คลิกปลายนิ้ว
รูปถ่ายพร้อม ที่อยู่พร้อม เบอร์โทรติดต่อทั้งที่บ้านและมือถือพร้อม
ฉันยอมรับคะว่าฉันร้ายและก็ร้ายอย่างหมาลอบกัดซ่ะด้วย
ฉันคิดว่าเป็นวิธีเดียวค่ะที่จะทำให้เธอเลิกยุ่งกับฉันไปได้สักระยะหนึ่ง
หรือถ้าจะให้ดีคงไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีกเลยยิ่งดีใหญ่
ฉันเพียงแค่อยากให้เธอรู้บ้างว่า...
ฉันก็ไม่ยอมให้เธอมาทำร้ายฉันฝ่ายเดียวหรอก
ฉันเจ็บหนึ่งเธอคนนั้นต้องเจ็บสิบ
ฉันเจ็บสิบเธอคนนั้นจะต้องเจ็บกว่าฉันเป็นร้อยเท่า
และอะไรที่ฉันลงมือทำไปแล้ว
ย่อมไม่ทิ้งหลักฐานให้ใครตามกลิ่นเจอแน่นอน
แต่ที่เธอทำกับฉันไว้นั้นหลักฐานฉันมีครบเลยทีเดียว
แค่ข้อความที่ส่งมาจากเบอร์ของเธอรวม ๆ กันแล้วก็เป็นสิบ
ถ้าฉันไม่ยอมรับซ่ะอย่าง ใครก็เอาผิดฉันไม่ได้ทั้งนั้นแหละ
แม้แต่เขาก็เถอะ เธอดีมาฉันก็ดีไปเธอร้ายมาฉันก็จะร้ายกลับให้เท่าตัว
ฉันไม่เคยคิดว่าฉันเก่ง! ฉันเจ๋ง! ฉันแน่!
แต่ฉันก็สู้สุดใจถ้ามีใครมาทำร้ายจิตใจฉันก่อน
เจ็บกายไม่เท่าไหร่หรอกคะไม่นานก็หาย
แต่ถ้าเจ็บที่ใจนี่มันเป็นเรื่องยากที่จะลืมเลือนนะค่ะ
เพื่อน ๆ รึคนรอบข้างมักจะชอบถามกันว่าฉันเล่นแรงไปรึป่าว
ฉันก็ยอมรับนะค่ะว่าฉันเล่นแรงไป
แต่ถ้าไม่แรงแล้วเธอคนนั้นจะรู้สึกเหรอคะ
ทุกคนคิดว่าฉันใจแข็งมากที่ไม่รู้สึกอะไรเลยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย
แต่ทำไมทุกคนถึงไม่มีใครรู้ถึงจิตใตฉันล่ะค่ะ
ฉันสงสัยจริง ๆ ว่ามีใครบ้างที่จะเข้าใจความรู้สึกของอย่างแน่นอน
ทุกคนคิดผิดคะ...คิดผิดทุกอย่างด้วย
จริง ๆ แล้วฉันรู้สึกว่าฉันกำลังอ่อนแออยู่ต่างหากอ่อนแอมากเสียด้วยซ้ำ
เพียงแต่ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าฉันกำลังอ่อนแออยู่ไงค่ะ
ฉันถึงต้องสร้างกำแพงขึ้นมาเพื่อปกป้องฉันจากสิ่งต่าง ๆ รอบกาย
ปกป้องฉันจากความเจ็บปวด
เมื่อรู้สึกว่ากำแพงที่ฉันคิดว่าฉันสร้างอยากแข็งแกร่งกำลังจะพังทลาย
ฉันก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะรักษากำแพงนั้นเอาไว้ก็เท่านั้นเอง
ถ้าฉันไม่ลงมือทำเรื่องร้ายแรงอย่างนั้นไป
ฉันรู้ตัวเลยคะว่า...สักวันฉันจะต้องแสดงความอ่อนแอ
ให้เธอคนนั้นสมเพชเวทนาฉันอย่างแน่นอน
ซึ่งฉันจะไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้นเด็ดขาด
หลังจากเป็นเรื่องเป็นราวกันมาอยู่สักพักใหญ่
ฉันก็เพิ่งจะมั่นใจก็ครั้งนี้เองค่ะว่า...เขาสองคนนั้นเลิกกันแน่แล้ว
แต่จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น เธอคนนั้นก็ได้รับคะแนนความสงสาร
อย่างล้นหลามเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำรึป่าว
ใช่คะ...ฉันเป็นผู้ชนะ ถึงจะเป็นชัยชนะที่ไม่ขาวสะอาดนักก็ตาม
ฉันก็รู้สึกสงสารเธอเหมือนกันนะค่ะแต่ก็แอบสะใจอยู่นิด ๆ ด้วยเหมือนกัน
เขาสองคนอาจจะมีติดต่อกันบ้างเป็นครั้งคราว
แต่ก็อยู่ในสายตาของฉันตลอดเวลานะค่ะ
(ลางสังหรณ์มันบอกว่าอย่างนั้นคะ)
คราวนี้เธอก็คงจะเข้าใจสักทีว่า...
คนอย่างฉันไม่พูดอะไรมาก แต่ลงมือทำเลย
และจากเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา
มันทำให้ฉันรู้ว่าความรักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ไม่ได้สวยงามอย่างที่เคยคิดไว้เลย
และจากบทเรียนในครั้งนั้นยังทำให้รู้ฉันรู้อีกว่า...
คนเข้มแข็งเท่านั้นที่จะผ่านความรู้สึกนั้นมาได้ด้วยหัวใจที่ไม่แตกสลาย
ถึงมันจะทำลายความมั่นใจที่เคยมีในตัวเขาไปกว่าครึ่ง
แต่เราก็สามารถประคองความรักของรักมาได้จนถึงปัจจุบันนี้
ซึ่งก็เป็นเวลาเกือบห้าปีแล้วคะ
แต่ความรักของเราก็ไม่ได้สวยหรูดูดี
เหมือนอย่างที่ใคร ๆ เค้าเห็นกันหรอกนะค่ะ
เรามีปัญหากันบ่อยมากถึงมากที่สุด
และก็จะต้องทะเลาะกันทุกครั้งที่ฉันรู้สึกระแวงไม่ไว้ใจในตัวเขา
มันเป็นความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ภายในจิตใจคะ
ฉันคิดคะว่าในเมื่อมีครั้งที่หนึ่งแล้วครั้งที่สองที่สามก็ย่อมจะตามมา
แล้วก็เป็นอย่างที่ฉันคิดอีกนั่นแหละคะ...
(ลางสังหรณ์มันบอกอีกแล้ว)
ฉันยังเคยคิดเล่น ๆ เลยนะค่ะ
ว่าจะไปเป็นหมอดูให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
เขาก็ยังมีผู้หญิงเข้ามาบ้างตามภาษาผู้ชายนั่นแหละคะ
และฉันก็จัดการเรียบทุกรายเหมือนกัน
แล้วแต่ค่ะว่าผู้หญิงแต่ละคนจะเข้ามาแบบไหน
ตอนนแรกยอมรับคะว่าเหนื่อย เหนื่อยใจมากด้วย
จากที่ต้องเหนื่อยใจก็เริ่มเป็นความเคยชินคะ
ชินที่จะต้องรับมือกับพวกเธอเหล่านั้น
ไม่รู้ว่าวันหนึ่งเธอพวกเหล่านั้นจะใช้มารยากี่ร้อยแปดวิธีที่จะมาจัดการกับฉัน
หัวสมองไม่ได้ว่างเลยคะ ต้องคิดและก็ระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
จนฉันคิดว่ามันเป็นเรื่อง ขำ ขำ ในชวิตประจำวันไปแล้ว
ใครก็บอกว่ามีความสุขที่ได้เห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุข
แต่สำหรับตอนนี้ฉันมีความสุขเมื่อได้เห็นคนที่ตัวเองรักมีความทุกข์คะ
ระหว่างที่ฉันต้องคอยรับมือกับแม่พวกสาว ๆ ของเขานั้น
สงครามประสาทก็มักจะเกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขาคะ
ไม่มีใครอยากจะเล่นสงครามประสาทกับฉันหรอกนักหรอกนะค่ะ
เพราะในประวัติความเป็นมายังไม่เคยมีใครชนะฉันสักคน
ถามว่าเหนื่อยไหม? ตอบว่าเหนื่อยคะแต่ไม่พูด
ถามว่าเจ็บไหม? ตอบว่าเจ็บคะแต่ไม่บ่น
ฉันอยากให้เขาได้รับรู้ด้วยตัวเองบ้างว่า
ความรู้สึกของคนที่เขาบอกว่ารักน่ะ มันสำคัญบ้างไหม
ถ้าเขาอยากจะเห็นคนที่เขาบอกว่ารักต้องทรมาน
ฉันก็จะทำให้เขาเห็นค่ะ ทั้งทางสีหน้าและแววตา
แต่ไม่ใช่ทางคำพูดรึแม้แต่การกระทำอย่างแน่นอน
ฉันรู้คะว่าเขาก็ทรมานใจเหมือนกันที่ต้องเล่นสงครามประสาทกับฉัน
และเขาก็มักจะแสดงออกถึงความอึดอัดใจพอสมควร
มันทำให้ฉันรู้ว่าความรู้สึกของฉันเขายังเห็นความสำคัญอยู่บ้าง
ในเมื่อเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมามันเกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเหล่า
ฉันก็ไม่โทษว่าเป็นความผิดของใครเลยคะนอกจากตัวฉันเอง
เพราะใครคนหนึ่งเคยบอกฉันว่า
"ถ้าหากใครทรยศคุณเป็นครั้งแรก นั่นเป็นความผิดของเขา
แต่เมื่อคุณให้โอกาสเขาได้หักหลังคุณอีกครั้ง นั่นแหละที่เป็นความผิดของคุณ"
ทุกวันนี้ฉันเริ่มปล่อยวางแล้วคะ
มีเวลาอยู่กับตัวเองให้เวลากับตัวเองมากขึ้น
จนกลายเป็นคนที่ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวเยอะ
เวลาที่ต้องอยู่คนเดียวก็จะเป็นอีกคนหนึ่ง
แต่เวลาที่ต้องออกมาเจอกับโลกภายนอกก็ต้องเป็นอีกคนหนึ่ง
จะมีใครไหมคะที่จะเห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของฉัน
ฉันเชื่อว่าไม่มีหรอกคะ....คนคนนั้นน่ะ
ทุกวันนี้ฉันก็ยังถามตัวเองอยู่ตลอดนะค่ะ
ว่าที่เรายังคบกันอยู่อย่างนี้ใช่ความรักรึป่าว
อยู่เพราะรักรึเพราะฉันต้องการเอาชนะพวกเธอเหล่านั้น
รึแม้แต่ต้องการเอาชนะตัวเขา
มันยังคงเป็นคำถามที่ฉันตั้งโจทย์ถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาคะ
หากวันใดที่ฉันได้คำตอบให้กับตัวเอง
ฉันคิดว่าเมื่อนั้นฉันคงมีความสุขมากกว่าทุกวันนี้
และถ้าฉันกับเขามีอันต้องเลิกลาจากกันไปจริง ๆ
ฉันคิดว่าฉันคงไม่พร้อมจะเปิดใจรับรักใครอีกแล้วล่ะค่ะ
เพราะความเจ็บปวดที่ผ่านมามันยังเกาะกินใจอยู่เลย
คงเป็นเรื่องยากที่ฉันจะมีรักครั้งใหม่อีกครั้ง
ทั้ง ๆ ที่ใจฉันยังกลัวความเจจ็บปวดจากรักครั้งเก่า
จำไว้นะค่ะว่า "ถ้าหากใครทรยศคุณเป็นครั้งแรก นั่นเป็นความผิดของเขา แต่เมื่อคุณให้โอกาสเขาได้หักหลังคุณอีกครั้ง นั่นแหละที่เป็นความผิดของคุณ"
ผลงานอื่นๆ ของ *_* loving way *_* ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ *_* loving way *_*
ความคิดเห็น