รักหรือ? นี่คือคำถาม - รักหรือ? นี่คือคำถาม นิยาย รักหรือ? นี่คือคำถาม : Dek-D.com - Writer

    รักหรือ? นี่คือคำถาม

    ความรักที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และไม่ได้สวยงามอย่างที่ใคร ๆ คิด อีกหนึ่งบทเรียนความรักที่อยากให้คุณได้สัมผัส

    ผู้เข้าชมรวม

    204

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    204

    ความคิดเห็น


    6

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ก.ย. 49 / 00:37 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      เรื่องราวความรักของฉันมันเริ่มต้นจากคำว่า  "เพื่อน"  คะ
       แต่ไม่ได้เริ่มจากความเป็นเพื่อนนะค่ะ 
      เราคบกันมาประมาณ สี่ปี กว่า ๆ แล้วเหมือนกัน 
      ช่วงแรก ๆ ก็ดีนะค่ะราบรื่นดี  ทุกอย่างดูดีหมด 
      ช่วงเวลานั้นยอมรับคะว่าตัวเองมีความสุขมาก 
      ต้องบอกก่อนเลยว่าฉันไม่เคยคบกับใครมาก่อนหน้าที่จะมาคบกับเขาเลยนะค่ะ 
      เขาเป็นคนรักคนแรกและก็เป็นเพียงคนเดียวอยู่ ณ เวลานี้ 
      เขาก็เป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นแหละคะ 
      ไม่ได้มีความโรแมนติกอะไรเลย 
      พูดจาหวาน ๆ กับใครเค้าก็ไม่ค่อยเป็น 
      ถึงได้คบกันได้ไงค่ะ.... 
      เพราะว่าฉันเองก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดูโรแมนติกอะไรมากนัก 
      พูดจาจ๊ะจ๋ากับใครเค้าก็ไม่ค่อยเป็น 
      แต่ฉันก็มั่นใจว่าฉันก็เป็นผู้หญิงอ่อนหวานได้ในระดับหนึ่งเลยเมื่ออยู่กับเขา 
      เพราะผู้ชายนิสัยอย่างเขาชอบผู้หญิงอ่อนหวานช่างเอาใจคะ 
      ฉันรู้สึกว่าเราสองคนไปกันได้ด้วยดีคะ 
      ไม่ได้หวานแหววเหมือนคู่ของใคร ๆ
      แต่เราสองคนก็เป็นเราที่เป็นแบบนี้ 
      เคยมีคนบอกฉันคะว่าการที่เราจะคบใครสักคน 
      อย่ามองที่ข้อดีของคนคนนั้น 
      ให้มองที่ข้อเสียของเขาแล้วลองถามตัวเองว่า... 
      เราสามารถรับข้อเสียเรานั้นได้มากน้อยแค่ไหน 
      ฉันก็เคยคิดที่อยากจะมองอย่างนั้นหมายกัน 
      แต่พอคนเราลองเริ่มที่จะมีความรักจริง ๆ
      มันก็มักจะมองข้ามข้อเสียต่าง ๆ
      เหล่านั้นให้กลายเป็นข้อดีไปเสียหมด  จริงไหมค่ะ... 
      ทุกอย่างดำเนินมาด้วยดีค่ะ  ปกติดีทุกอย่าง 
      จนวันหนึ่งฉันถึงได้รู้สึกเหมือนคนโง่ 
      โง่ที่ยอมเชื่อใจและไว้ใจคนที่ตนเองรักมาตลอด 
      รู้ไหมค่ะว่าหลังจจากที่เราคบกันมาเกือบสองปี 
      ไม่เคยมีครั้งใดเลยที่ฉันจะไม่เคยไม่เชื่อใจเขา 
      จนมาได้รับรู้ว่าตลอดเวลาที่เราคบกันมา 
      เขาก็ได้คบอยู่กับผูหญิงอีกคนหนึ่งด้วย 
      และเขาสองคนคบกันมาก่อนที่เขาจะมาคบกับฉันซ่ะอีก 
      ที่ร้ายไปกว่านั้นสิ่งที่ฉันรับรู้มันไม่ใช่จากตัวเขารึจากผู้หญิงคนนั้นเลย 
      แต่ฉันรับรู้ด้วยตัวของฉันเอง 
      รับรู้ด้วยภาพที่ฉันยังจำฝังใจและมันยังติดตาฉันมาจนถึงปัจจุบันนี้ 
      ภาพที่เขาและเธอคนนั้นนอนกกกอดกันอยู่บนเตียงขนาดใหญ่ 
      โดยบุคคลทั้งสองไม่ได้รับรู้ถึงการย่างกลายเข้ามาของบุคคลที่สามอย่างฉันเลย  ช็อคไหมล่ะค่ะ...
      ความรักที่เคยคิดว่ามันน่าจะสวยงามและจะยาวนานตลอดไป 
      มันกลับไม่เป็นอย่างนั้นซ่ะแล้ว 
      ใครจะไปคิดล่ะค่ะว่าฉากที่ฉันเคยชอบดูในละครทีวีน้ำเน่า 
      มันจะมาเกิดขึ้นกับชีวิตจริงของฉัน 
      เค้าถึงบอกกันไงค่ะว่าชีวิตจริงของคนเรามันยิ่งกว่าละครทีวีน้ำเน่าเสียอีก 
      ตอนนั้นฉันยังจำได้ดีค่ะว่าฉันรู้สึกยังไง 
      มันเจ็บจนเกินบรรยายจริง ๆ นะค่ะ 
      มันช็อคซีนีม่าไปเลยเหมือนโดนคู่ต่อสู้น็อคกลางเวทีมวยยังไงยังงั้นเลย 
      จากที่ไม่เคยทะเลาะเราก็ทะเลาะ  และก็เริ่มบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ
      ฉันยื่นคำขาดให้เขาเลือกระหว่างฉันกับเธอคนนั้น 
      ทั้ง ๆ ที่ฉันอยากจะเป็นคนเลือกเองนะค่ะ 
      อยากเลือกที่จะไปเองแต่บอกตรง ๆ คะ 
      ว่าฉันยังไม่เข็มแข็งถึงขนาดนั้น
      ยังไม่เข็มแข็งพอที่จะเดินจากเขาไปในตอนนั้น 
      แต่คำตอบที่ฉันได้รับก็ทำให้ฉันแอบดีใจอยู่เหมือนกันนะค่ะ 
      เพราะเขาเลือกฉันแทนที่จะเป็นเธอคนนั้น 
      แต่ที่เขายังเลิกกับเธอคนนั้นไม่ได้เพราะมีเหตุผลหลาย ๆ อย่าง 
      ซึ่งฉันก็ไม่ได้สนใจจะอยากรับรู้อะไรมากนัก 
      เขาคงคิดค่ะว่าฉันคงจะยอมรับและเชื่อคำพูดของเขาอยู่บ้างไม่มากก็น้อย 
      แต่ฉันบอกได้เลยว่าเขาคิดผิดคะ 
      ความไว้ใจความเชื่อใจมันหมดไปแล้วล่ะคะ 
      มันหายไปพร้อมกับภาพที่ฉันเห็นอยู่ตรงหน้าตั้งแต่วันนั้นแล้ว 
      มันยากค่ะที่จะเรียกความรู้สึกดี ๆ ที่เสียไปกับคืนมาได้เหมือนเดิมอีก 
      แต่ฉันไม่ได้บอกให้เขารู้หรอกนะค่ะ
      ว่าฉันคิด...ฉันรู้สึกอะไร...อยู่ในตอนนั้น 
      ฉันจะไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่เขาพูดทั้งที่ยังไม่ได้เห็นการกระทำ 
      แค่ช่วงเวลาไม่กี่อาทิตย์ที่เรามีปัญหากัน
      ฉันรู้สึกเหมือนว่ามันนานเป็นปีเลยล่ะคะ 
      ฉันรู้สึกเจ็บปวดกับการกระทำของเขาในครั้งนั้นมาก 
      สภาพจิตใจก็ย่ำแยมากคะในตอนนั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ 
      กว่าเราจะปรับตัวให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้
      ก็ใช้เวลานานพอดูเลย  หลายเดือนทีเดียว 
      แต่รู้ไหมค่ะ...ว่าจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น
      ฉันไม่เคยเชื่อใจอะไรเขาอีกเลย 
      ไม่ว่าเค้าจะไปไหนจะทำอะไรจะต้องมีคำถามเกิดขึ้นมาในใจต่าง ๆ นานา  
      ไปไหน?  ไปทำอะไร?  อยู่กับใคร?  ไปทำไม? 
      ภายนอกดูเหมือนจะมีความสุขคะ
      แต่ภายในใจกับตรงข้ามกันเลย 
      และฉันก็เชื่อมั่นได้เลยว่าเขาของฉันกับเธอคนนั้น
      ยังไม่ได้เลิกกันเป็นจริงเป็นจังแน่นอน 
      แต่ฉันก็ได้แต่คิดคะ  คิดแล้วก็เก็บไว้ในใจไม่พูดไม่ถาม 
      เพราะฉันไม่ต้องการที่จะพูดถึงเธอคนนั้นอีกเลยถ้าไม่จำเป็น 
      และสิ่งที่ฉันคิดก็เป็นจริงตามนั้นเลยนะค่ะ
      บอกแล้วว่าผู้หญิงเราลางสังหรณ์แรงเสมอเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ 
      หลังจากวันที่เรามีปัญหากัน
      จากวันนั้นถึงวันที่ลางสังหรณ์ฉันเป็นจริงมันก็ผ่านมาเกือบปีแล้ว 
      อยู่ ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งโทรเข้ามาหาฉัน 
      ฉันไม่แปลกใจเลยว่าเธอคนนั้นจะเอาเบอร์โทรศัพท์ของฉันมาจากไหน
      ถ้าไม่ใช่จากเขา  แต่ที่ฉันไม่รู้ก็คือเอามาด้วยวิธีไหนเท่านั้นเอง 
      เธอคนนั้นโทรมาหาฉันเพียงเพื่อจะบอกให้ฉันเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนี้ 
      แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่เธอบอกด้วยล่ะค่ะ
      ฉันรู้สึกสมเพชเธอจริง  ที่เป็นไปได้ถึงขนาดนี้
      เธอไม่น่าฉลาดน้อยเลยนะค่ะ
      เธอน่าจะรู้ว่า  คนอย่างฉันถ้าจะไปเองไม่ต้องรอให้เธอบอกหรอกค่ะ
      ถ้าฉันอยากไปฉันก็ไปของฉันเองได้
      ในเมื่อตอนมาฉันยังมาเองเลย  แล้วตอนไปทำไมฉันจะไปเองไม่ได้ 
      ใช่คะ...แล้วทำไมฉันต้องทำตามที่เธอคนนั้นบอกด้วย 
      เธอไม่ใช่พระบิดาพระมารดาของฉันนี่ค่ะ 
      ฉันถึงจะต้องทำตามความประสงค์ของเธอ 
      ฉันไม่มีวันเลิกยุ่งกับของที่เป็นของ ๆ ฉันอยู่หรอกคะ 
      ในเมื่อเขายังต้องการฉันอยู่..
      ทำไมฉันจะต้องทำตามความต้องการของเธอด้วยล่ะค่ะ 
      ฉันยอมรับฟังความรู้สึกนึกคิดของเธอคะ 
      ในเมื่อเธอต้องการจะพูดอะไรสักอย่างออกมา
      ฉันพร้อมยอมรับฟังอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเลยนะค่ะ 
      แต่มันขึ้นอยู่ที่ว่าฉันจะทำตามความต้องการของเธอรึป่าวเท่านั้นเอง 
      ฉันก็เห็นใจเธอนะค่ะ  เข้าใจความรู้สึกของเธอดีว่ารู้สึกยังไง 
      เราก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันนี่ค่ะก็ย่อมที่จะเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงด้วยกัน 
      ฉันบอกเธอคะ...
      ว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เธอจะมาพร่ำรำพัน
      ถึงความรักที่เธอมีต่อเขาให้ฉันฟัง 
      เพราะว่าถึงฉันรับรู้ไปมันก็เท่านั้นเอง 
      เธอมาบอกฉันแล้วเธอได้อะไรค่ะ 
      ได้รับความสงสารได้รับความเห็นใจจากเขาคนนั้นรึก็ป่าว 
      เพราะเขาไม่ได้มารับรู้อะไรด้วยสักหน่อย 
      ฉันบอกเธออีกคะ...
      เรื่องพวกนี้ให้เธอไปบอกให้เขารับรู้เองจะดีกว่ามาบอกให้ฉันฟัง 
      ฉันบอกตรง ๆ คะว่านะเวลานั้นฉันก็รู้สึกสงสารเธอเหมือนกันนะค่ะ 
      แต่ตราบใดที่เขายังเลือกฉันอยู่ทำไมฉันจะต้องเป็นฝ่ายไปด้วยล่ะค่ะ 
      เมื่อเธอคนนั้นดีมาฉันก็ดีกลับคะ 
      (ก็รู้สึกอยู่เหมือนกันนะค่ะว่าตัวเองหน้าหนาจัง)
      แต่เธอคนนั้นคงคิดว่าใช้ไม้นี้กับฉันคงไม่เป็นผลสำเร็จแล้ว 
      เพราะทุกถ้อยคำหลังจากนั้นมีแต่คำพูดของคนไม่มีการศึกษาเขาพูดกัน 
      ถ้อยคำสาดเสียเทเสียหรือแม้แต่คำหยาบคายเริ่มซัดเข้ามาใส่ฉัน
      อย่างไม่มีชิ้นดี  เหมือนน้ำทะเลซัดเข้าหาชายฝั่ง 
      เธอคงคิดว่าฉันจะสะทกสะท้านกับคำพูดเหล่านั้นกะมังค่ะ 
      ฉันปล่อยให้เธอพูดออกมา..พูดออกมาจนหมด
      จนฉันคิดว่าสาแก่ใจเธอแล้วนั่นแหละคะ 
      ฉันถึงถามเธอว่ามีอะไรจะพูดกับฉันอีกไหม
      ในเมื่อไมมีฉันก็ขอตัวก่อนแล้วกัน 
      เธอคนนั้น " อึ้ง " คะ 
      ฉันคิดว่าฉันจับความรู้สึกเธอได้นะค่ะ 
      เธอเงียบไปสักพักหนึ่งไม่พูดอะไรต่อ 
      ฉันจึงวางสายลง  ใช่ว่าฉันไม่รู้สึกอะไรนะค่ะ 
      ฉันไม่ได้ด้านชาจนไม่รู้สึกเจ็บแสบกับคำพูดพวกนั้น 
      และฉันก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนด้วย
      ที่จะรับฟังคำพูดพวกนั้นโดยไม่โต้แย้งอะไร 
      แต่ที่ฉันไม่โต้แย้งเพราะฉันก็มีเหตุผลของฉัน 
      เหตุผลที่ว่า...ฉันจะไม่แสดงความรู้สึกอะไร
      ให้ฝ่ายตรงข้ามจับความรู้สึกของฉันได้เด็ดขาด 
      เพราะฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องที่โง่มากที่ฉันจะทำแบบนั้น 
      คนฉลาดเค้าไม่เปิดเผยความรู้สึกนึกคิด
      ให้ฝ่ายตรงข้ามรับรู้หรอกค่ะ 
      คนที่อยู่ในที่มืดมักจะได้เปรียบมากกว่าคนที่อยู่ในที่สว่างไม่ใช่รึค่ะ 
      หลังจากวันนั้นก็จะมีทั้งข้อความ
      และก็เสียงปริศนาจากโทรศัพท์ที่มีตัวตนบ้างไม่มีตัวตนบ้าง
      ด่าว่าฉันสารพัด  หน้าด้านบ้างล่ะ!  แย่งสามีชาวบ้านบ้างล่ะ! 
      นับถือเลยคะ  ว่าชั่งสรรหาคำมาว่าเหลือเกิน
      วันนึ่งเป็นสิบข้อความเป็นหลายร้อยสาย
      และไม่เคยซ้ำกันเลยนะค่ะ...ชั่งหน้าให้คะแนนความพยายามจริง ๆ
      นานวันเข้าจากที่คิดว่าจะไม่ตอบโต้อะไร
      จะอยู่เฉย ๆ ด้วยสงบ 
      แต่ความอดทนก็ขาดสะบั้นลงทันที 
      เมื่อเธอคนนั้นใช้เบอร์ของเขาส่งข้อความมาบอก
      เหมือนจะให้ฉันรับรู้ว่า ณ เวลานั้นเขาสองคนกำลังอยู่ด้วยกันนะ 
      เดี๋ยวนั้นเองที่ฉันได้บทเรียนว่า...
      " ความสงบไม่สามารถสยบความเคลื่อนไหวได้ " 
      เมื่อเธอคนนั้นยังไม่ยอมจบฉันก็จะทำให้เธอรู้ว่าหายนะเป็นเช่นไร 
      ฉันทำเรื่องไม่ดีบ้างเรื่อง...
      ที่ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะทำเลยแต่ฉันก็ไดทำลงไปแล้ว 
      และทำด้วยสติสัมปชัญญะครบถ้วนทุกประการ 
      ฉันคงบอกไม่ได้หรอกคะว่าเรื่องที่ฉันทำเป็นเรื่องอะไร 
      แต่เป็นเรื่องที่สร้างความอับอายให้ผู้หญิงดี ๆ
      คนหนึ่งรู้สึกแย่มากได้เหมือนกัน 
      เพียงชั่วข้ามคืนพวกนักกระหายความใคร่
      ก็จะได้รู้จักเธอคนนั้นเพียงแค่คลิกปลายนิ้ว 
      รูปถ่ายพร้อม  ที่อยู่พร้อม  เบอร์โทรติดต่อทั้งที่บ้านและมือถือพร้อม
      ฉันยอมรับคะว่าฉันร้ายและก็ร้ายอย่างหมาลอบกัดซ่ะด้วย 
      ฉันคิดว่าเป็นวิธีเดียวค่ะที่จะทำให้เธอเลิกยุ่งกับฉันไปได้สักระยะหนึ่ง 
      หรือถ้าจะให้ดีคงไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกันอีกเลยยิ่งดีใหญ่
      ฉันเพียงแค่อยากให้เธอรู้บ้างว่า...
      ฉันก็ไม่ยอมให้เธอมาทำร้ายฉันฝ่ายเดียวหรอก 
      ฉันเจ็บหนึ่งเธอคนนั้นต้องเจ็บสิบ 
      ฉันเจ็บสิบเธอคนนั้นจะต้องเจ็บกว่าฉันเป็นร้อยเท่า 
      และอะไรที่ฉันลงมือทำไปแล้ว
      ย่อมไม่ทิ้งหลักฐานให้ใครตามกลิ่นเจอแน่นอน 
      แต่ที่เธอทำกับฉันไว้นั้นหลักฐานฉันมีครบเลยทีเดียว 
      แค่ข้อความที่ส่งมาจากเบอร์ของเธอรวม ๆ กันแล้วก็เป็นสิบ
      ถ้าฉันไม่ยอมรับซ่ะอย่าง  ใครก็เอาผิดฉันไม่ได้ทั้งนั้นแหละ 
      แม้แต่เขาก็เถอะ  เธอดีมาฉันก็ดีไปเธอร้ายมาฉันก็จะร้ายกลับให้เท่าตัว 
      ฉันไม่เคยคิดว่าฉันเก่ง! ฉันเจ๋ง! ฉันแน่! 
      แต่ฉันก็สู้สุดใจถ้ามีใครมาทำร้ายจิตใจฉันก่อน 
      เจ็บกายไม่เท่าไหร่หรอกคะไม่นานก็หาย 
      แต่ถ้าเจ็บที่ใจนี่มันเป็นเรื่องยากที่จะลืมเลือนนะค่ะ 
      เพื่อน ๆ รึคนรอบข้างมักจะชอบถามกันว่าฉันเล่นแรงไปรึป่าว 
      ฉันก็ยอมรับนะค่ะว่าฉันเล่นแรงไป 
      แต่ถ้าไม่แรงแล้วเธอคนนั้นจะรู้สึกเหรอคะ 
      ทุกคนคิดว่าฉันใจแข็งมากที่ไม่รู้สึกอะไรเลยกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลย 
      แต่ทำไมทุกคนถึงไม่มีใครรู้ถึงจิตใตฉันล่ะค่ะ
      ฉันสงสัยจริง ๆ ว่ามีใครบ้างที่จะเข้าใจความรู้สึกของอย่างแน่นอน
      ทุกคนคิดผิดคะ...คิดผิดทุกอย่างด้วย
      จริง ๆ แล้วฉันรู้สึกว่าฉันกำลังอ่อนแออยู่ต่างหากอ่อนแอมากเสียด้วยซ้ำ 
      เพียงแต่ฉันไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าฉันกำลังอ่อนแออยู่ไงค่ะ 
      ฉันถึงต้องสร้างกำแพงขึ้นมาเพื่อปกป้องฉันจากสิ่งต่าง ๆ รอบกาย 
      ปกป้องฉันจากความเจ็บปวด
      เมื่อรู้สึกว่ากำแพงที่ฉันคิดว่าฉันสร้างอยากแข็งแกร่งกำลังจะพังทลาย 
      ฉันก็ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อที่จะรักษากำแพงนั้นเอาไว้ก็เท่านั้นเอง 
      ถ้าฉันไม่ลงมือทำเรื่องร้ายแรงอย่างนั้นไป 
      ฉันรู้ตัวเลยคะว่า...สักวันฉันจะต้องแสดงความอ่อนแอ
      ให้เธอคนนั้นสมเพชเวทนาฉันอย่างแน่นอน 
      ซึ่งฉันจะไม่ยอมให้มันเป็นอย่างนั้นเด็ดขาด 
      หลังจากเป็นเรื่องเป็นราวกันมาอยู่สักพักใหญ่ 
      ฉันก็เพิ่งจะมั่นใจก็ครั้งนี้เองค่ะว่า...เขาสองคนนั้นเลิกกันแน่แล้ว 
      แต่จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น  เธอคนนั้นก็ได้รับคะแนนความสงสาร
      อย่างล้นหลามเลยทีเดียว  ไม่รู้ว่าเสแสร้งแกล้งทำรึป่าว
      ใช่คะ...ฉันเป็นผู้ชนะ  ถึงจะเป็นชัยชนะที่ไม่ขาวสะอาดนักก็ตาม
      ฉันก็รู้สึกสงสารเธอเหมือนกันนะค่ะแต่ก็แอบสะใจอยู่นิด ๆ ด้วยเหมือนกัน 
      เขาสองคนอาจจะมีติดต่อกันบ้างเป็นครั้งคราว
      แต่ก็อยู่ในสายตาของฉันตลอดเวลานะค่ะ 
      (ลางสังหรณ์มันบอกว่าอย่างนั้นคะ)
      คราวนี้เธอก็คงจะเข้าใจสักทีว่า...
      คนอย่างฉันไม่พูดอะไรมาก  แต่ลงมือทำเลย
      และจากเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา
      มันทำให้ฉันรู้ว่าความรักไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ 
      ไม่ได้สวยงามอย่างที่เคยคิดไว้เลย 
      และจากบทเรียนในครั้งนั้นยังทำให้รู้ฉันรู้อีกว่า...
      คนเข้มแข็งเท่านั้นที่จะผ่านความรู้สึกนั้นมาได้ด้วยหัวใจที่ไม่แตกสลาย 
      ถึงมันจะทำลายความมั่นใจที่เคยมีในตัวเขาไปกว่าครึ่ง 
      แต่เราก็สามารถประคองความรักของรักมาได้จนถึงปัจจุบันนี้ 
      ซึ่งก็เป็นเวลาเกือบห้าปีแล้วคะ 
      แต่ความรักของเราก็ไม่ได้สวยหรูดูดี
      เหมือนอย่างที่ใคร ๆ เค้าเห็นกันหรอกนะค่ะ 
      เรามีปัญหากันบ่อยมากถึงมากที่สุด
      และก็จะต้องทะเลาะกันทุกครั้งที่ฉันรู้สึกระแวงไม่ไว้ใจในตัวเขา 
      มันเป็นความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ภายในจิตใจคะ 
      ฉันคิดคะว่าในเมื่อมีครั้งที่หนึ่งแล้วครั้งที่สองที่สามก็ย่อมจะตามมา 
      แล้วก็เป็นอย่างที่ฉันคิดอีกนั่นแหละคะ...
      (ลางสังหรณ์มันบอกอีกแล้ว)
      ฉันยังเคยคิดเล่น ๆ เลยนะค่ะ
      ว่าจะไปเป็นหมอดูให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
      เขาก็ยังมีผู้หญิงเข้ามาบ้างตามภาษาผู้ชายนั่นแหละคะ
      และฉันก็จัดการเรียบทุกรายเหมือนกัน
      แล้วแต่ค่ะว่าผู้หญิงแต่ละคนจะเข้ามาแบบไหน
      ตอนนแรกยอมรับคะว่าเหนื่อย  เหนื่อยใจมากด้วย
      จากที่ต้องเหนื่อยใจก็เริ่มเป็นความเคยชินคะ
      ชินที่จะต้องรับมือกับพวกเธอเหล่านั้น
      ไม่รู้ว่าวันหนึ่งเธอพวกเหล่านั้นจะใช้มารยากี่ร้อยแปดวิธีที่จะมาจัดการกับฉัน
      หัวสมองไม่ได้ว่างเลยคะ  ต้องคิดและก็ระวังตัวอยู่ตลอดเวลา
      จนฉันคิดว่ามันเป็นเรื่อง ขำ ขำ ในชวิตประจำวันไปแล้ว
      ใครก็บอกว่ามีความสุขที่ได้เห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุข
      แต่สำหรับตอนนี้ฉันมีความสุขเมื่อได้เห็นคนที่ตัวเองรักมีความทุกข์คะ
      ระหว่างที่ฉันต้องคอยรับมือกับแม่พวกสาว ๆ ของเขานั้น
      สงครามประสาทก็มักจะเกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขาคะ
      ไม่มีใครอยากจะเล่นสงครามประสาทกับฉันหรอกนักหรอกนะค่ะ
      เพราะในประวัติความเป็นมายังไม่เคยมีใครชนะฉันสักคน
      ถามว่าเหนื่อยไหม?  ตอบว่าเหนื่อยคะแต่ไม่พูด 
      ถามว่าเจ็บไหม?  ตอบว่าเจ็บคะแต่ไม่บ่น
      ฉันอยากให้เขาได้รับรู้ด้วยตัวเองบ้างว่า
      ความรู้สึกของคนที่เขาบอกว่ารักน่ะ  มันสำคัญบ้างไหม
      ถ้าเขาอยากจะเห็นคนที่เขาบอกว่ารักต้องทรมาน
      ฉันก็จะทำให้เขาเห็นค่ะ  ทั้งทางสีหน้าและแววตา 
      แต่ไม่ใช่ทางคำพูดรึแม้แต่การกระทำอย่างแน่นอน
      ฉันรู้คะว่าเขาก็ทรมานใจเหมือนกันที่ต้องเล่นสงครามประสาทกับฉัน
      และเขาก็มักจะแสดงออกถึงความอึดอัดใจพอสมควร
      มันทำให้ฉันรู้ว่าความรู้สึกของฉันเขายังเห็นความสำคัญอยู่บ้าง
      ในเมื่อเหตุการณ์อย่างที่ผ่านมามันเกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเหล่า
      ฉันก็ไม่โทษว่าเป็นความผิดของใครเลยคะนอกจากตัวฉันเอง 
      เพราะใครคนหนึ่งเคยบอกฉันว่า 
      "ถ้าหากใครทรยศคุณเป็นครั้งแรก นั่นเป็นความผิดของเขา  
      แต่เมื่อคุณให้โอกาสเขาได้หักหลังคุณอีกครั้ง นั่นแหละที่เป็นความผิดของคุณ" 
      ทุกวันนี้ฉันเริ่มปล่อยวางแล้วคะ 
      มีเวลาอยู่กับตัวเองให้เวลากับตัวเองมากขึ้น 
      จนกลายเป็นคนที่ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวเยอะ 
      เวลาที่ต้องอยู่คนเดียวก็จะเป็นอีกคนหนึ่ง
      แต่เวลาที่ต้องออกมาเจอกับโลกภายนอกก็ต้องเป็นอีกคนหนึ่ง
      จะมีใครไหมคะที่จะเห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของฉัน
      ฉันเชื่อว่าไม่มีหรอกคะ....คนคนนั้นน่ะ
      ทุกวันนี้ฉันก็ยังถามตัวเองอยู่ตลอดนะค่ะ 
      ว่าที่เรายังคบกันอยู่อย่างนี้ใช่ความรักรึป่าว 
      อยู่เพราะรักรึเพราะฉันต้องการเอาชนะพวกเธอเหล่านั้น
      รึแม้แต่ต้องการเอาชนะตัวเขา
      มันยังคงเป็นคำถามที่ฉันตั้งโจทย์ถามตัวเองอยู่ตลอดเวลาคะ
      หากวันใดที่ฉันได้คำตอบให้กับตัวเอง
      ฉันคิดว่าเมื่อนั้นฉันคงมีความสุขมากกว่าทุกวันนี้
      และถ้าฉันกับเขามีอันต้องเลิกลาจากกันไปจริง ๆ
      ฉันคิดว่าฉันคงไม่พร้อมจะเปิดใจรับรักใครอีกแล้วล่ะค่ะ
      เพราะความเจ็บปวดที่ผ่านมามันยังเกาะกินใจอยู่เลย
      คงเป็นเรื่องยากที่ฉันจะมีรักครั้งใหม่อีกครั้ง
      ทั้ง ๆ ที่ใจฉันยังกลัวความเจจ็บปวดจากรักครั้งเก่า

      จำไว้นะค่ะว่า  "ถ้าหากใครทรยศคุณเป็นครั้งแรก นั่นเป็นความผิดของเขา  แต่เมื่อคุณให้โอกาสเขาได้หักหลังคุณอีกครั้ง นั่นแหละที่เป็นความผิดของคุณ"

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×