ฟักของพ่อ
ความผูกพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต2สายพันธุ์ เกิดขึ้น และจบลง อย่างไร..
ผู้เข้าชมรวม
837
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
เสียงไก่ขันปลุกให้ผมตื่นขึ้นมารับอากาศก่อนที่ดวงตะวันจะลอยขึ้นสู่โค้งขอบฟ้า เวลาตีห้าพ่อตื่นขึ้นมาพาผมไปวิ่งออกกำลังกายที่ท้องทุ่งในยามเช้า มันถือว่าเป็นกิจวรรจประจำวันของผมเลยทีเดียว ผมอยู่กับพ่อเพียงสองคนมาช้านาน พ่อคอยดูแลผม คอยสอนผม ผมพยายามตอบแทนบุญคุณของพ่อให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมรักพ่อแล้วพ่อก็รักผม พ่อไปไหนผมก็ไปด้วย ตั้งแต่พ่อยังเป็นหนุ่ม ตอนนี่พี่อายุ๖๕แล้ว อากาศหนาวจับใจเวลา๗โมงกว่าๆ ตะวันเริ่มทอแสงเด่นชัดตรงโค้งขอบฟ้า ผมเดินตามพ่อไปที่ทุ่งนา พ่อบอกผมว่าให้ผมนั่งรอพ่ออยู่ตรงนี้จนกว่าจะถึงตอนเย็น ก่อนจะมาพ่อบอกผมไว้อีกอย่างว่า ให้ผมช่วยไล่ต้อนวัวที่พ่อเลี้ยงไว้มากินหญ้าแถวนั้นด้วย ผมตอบรับด้วยความยินดี ไม่บ่อยหรอกที่ผมจะมีโอกาสตอบแทนบุญคุณพ่อ พ่อพูดอยู่เสมอว่าไม่อยากให้ผมทำงานหนักเพาะผมยังเด็กเกินไป แต่เรามีกันอยู่แค่สองคนถ้าไม่ช่วยกันก็คงไม่มีอะไรกิน ผมเห็นใจพ่อ แต่สภาพร่างกายของผมคงช่วยอะไรพ่อไม่ได้มากนัก ไม่ใช่ว่าผมไม่แข็งแรงหรอกแต่ผมรู้สึกว่าผมแตกต่างจากพ่อเหลือเกิน ผมทั้งเคารพและเทิดทูนพ่อ แต่ผมแค่แปลกใจว่าทำไมพ่อถึงชอบพูดว่าผมยังเป็นเด็ก หรือพ่อไม่รู้ว่าที่จริงแล้วผมโตเร็วกว่าเด็กแถวบ้านพ่อตั้งเยอะ ผมก็เล่นกับพวกเค้าออกบ่อยผมยังรู้สึกว่าผมโตกว่าอยู่ดี ช่างมันเถอะสงสัยพ่อคงจะเอ็นดูผมมากไปหน่อย จริงๆแล้วอยู่กันอย่างนี้ก็สบายดีเหมือนกัน ที่ผมช่วยได้ก็ช่วยไป เรื่องที่ผมช่วยก็มีอย่างเช่นว่า คอยต้นวัวของพ่อออกมากินหญ้า แล้วพากลับบ้าน คอยเฝ้าดูรวงข้าวของพ่อเวลามีฝูงนกฝูงกามาแทะกิน หรือไม่ก็คอยเฝ้าดูขโมยขโจรตอนท่พ่อนอนพักผ่อนอยู่บ้าน ผมคอยตามรับใช้พ่อตลอกเวลา วันนี้ก็เหมือนทุกวัน ผมต้อนวัวของพ่อออกมากินหญ้า แต่วันนี้พ่อไม่ได้มานั่งเล่นที่ทุ่งนี้เหมือนทุกวัน พ่อมาทำงาน เข้าฤดูหนาวถึงเทศกาลเก็บเกี่ยวแล้ว พ่อจ้างคนแถวบ้านมาช่วยกันเยวข้าวที่ปลูกไว้ ใช้เวลาจะเป็นครึ่งวันกว่าจะเสร็จก็เย็นพอดี ผมเดินกลับบ้านพร้อมกับพ่อ ทางเดินกลับบ้านมันเปลี่ยวดูวังเวงยังไงชอบกล ไฟฟ้าก็ไม่มี ผมเดินนำพ่อโดยมีตะเกียงน้ำมันติดตัวมา เดินนำทางพ่อมาจนถึงบ้าน พอถึงบ้านพ่อทำกับข้าวให้ผมกิน วันนี้ผมกินข้าวกับไข่เจียวส่วนพ่อกินข้าวราดแกงที่ซื้อมาก่อนกลับบ้านเมื่อเช้าผมว่าไข่เจียวของพ่ออะหร่อยที่สุดเลยหละ ถึงแม้ผมจะไม่เคยกินกับข้าวฝีมือคนอื่นผมก็เชื่อว่าอย่างนั้น หลังกินเสร็จพ่อพาผมขึ้นบ้าน บ้านของพ่อเป็นบ้านสองชั้น ถึงพ่อจะเป็นชาวนา แต่พ่อก็มีฐานะที่ใช้ได้อยู่ พ่อของผมเป็นคนหนักเอาเบาสู้ นอกจาพ่อจะทำนาแล้วพ่อยังเลี้ยงไก่ไว้ขายและขายไข่อีกด้วย ทำให้เรมีกินมีอยู่กันทั้งปี พ่อบอกผมว่าห้ามไปยุ่งกับไก่เรื่องนี้พ่อจะดูและเอง กลัวผมจะติดเชื้อแล้วไม่สบาย ผมวิ่งตามพ่อไปตามทางเดินบันได พ่อสั่งให้ผมล้างเท้าก่อนเข้าไปในห้อง ที่จริงไม่ต้องสั่งก็ร็ครับก็ผมไปนอนบนห้องกับพ่ออกบ่อยไปในห้องนอนของพ่อพ่อจัดส่วนที่นอนของผมไว้เรียบร้อยแล้ว ผมนอนกลิ้งไปมาบนผืนผ้าห่ม หลายครั้งที่ผมนอนก่อนพ่อแต่ตื่นทีหลังพ่อ แต่พ่อไม่เคยด่าว่าผมขี้เกียจเลยสักครั้งพ่อบอกว่ามันเป็นเรื่งธรรมชาติของผม
วันรุ่งขึ้นวันนี้ผมตื่นก่อนพ่อผมกระโดดขึ้นเตียงพ่อแล้วเริ่มปลุกพ่อด้วยเสียงหายใจดังๆของผมผมใช้มือของผมแตะที่แก้มพ่อเบาๆ เมื่อพ่อลืมตาขึ้นพ่อก็ฉีกยิ้มกว้าง
“รู้แล้วน่า รู้แล้วน่า ป้ะไปกินข้าวกัน”
ผมกระโดดลงจากเตียงอย่างดีใจ เพราะที่จริงแล้วผมก็หิวอยู่เหมือนกันมื้อเช้าของผมวันนี้เป็นข้าวผัดราดซอสอะไรซักอย่างผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่สำคัญมีเนื้อปลาทูคลุกอยู่ด้วย ถือว่ามันเป็นมื้อพิเศษของผมเลยทีเดียว กินเสร็จแล้วพ่อพาผมไปวิ่งเล่นแถวนอกบ้านสักพักเป็นการย่อยอาหาร วันนี้พ่ออาบน้ำให้ผมฟอกสบู่เสียหอมฟุ้ง ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องลงทุนขนาดนั้นด้วยที่จริงพาผมไปกระโดดลงคลองข้างทุ่งนาของพ่อแล้วปล่อยให้ผมแช่ในนั้นสักแป๊บก็สะอาดแล้ว พ่อดูแลผมดีขนาดนี้ผมก็รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณของพ่อเพิ่มขึ้นอีก
“วันนี้เป็นวันเกดแกต้องพิเศษหน่อยซิ วันนี้เป็นวันของแกเลยนะ”พ่อบอกผม
วันนี้วันเกิดผมเหรอ ผมไม่เห็นจำได้เลยนี่นา หลังจจากอาบน้ำพ่อเช็ดตัวผมจนแห้ง พ่อเอารถกระบะของพ่อออกมาจอดหน้าบ้านพาผมขึ้นรถไปกับพ่อด้วย
“จะพาแกไปเที่ยวตลาดนัดนอกเมือง อยากได้อะไรก็ดูๆไว้แล้วกัน”
ตลาดนัดมีคนพลุกพล่าน ของสวยๆงามๆเต็มไปหมดแต่ของที่ผมชอบมีอย่างเดียวเอง เป็นสร้อยคอหนัง ดูแล้วมันก็เข้ากับผมดีนะอยากได้เหมือนกันแต่ผมก็เกรงใจพ่อ ผมเดินติดพ่อแจ เดินไปกับพ่อรอบตลาดเป็นชั่วโมง ประมาณบ่ายสามพ่อพาผมออกจาตลาด ขับรถกินลมไปนอกเมือง พาผมไปเปิดหูเปิดตา ผมไม่ได้ออกมาเห็นบ้านเห็นเมืองมานานแล้ว ได้ครั้งล่าสุดคือตอนผมเด็กๆที่พ่อเก็บผมมาเลี้ยง รู้สึกว่าบ้านเมืองเปลี่ยนไปมากจริงๆ พ่อขับรถพาผมออกมาไกลจากบ้านมาก พ่อพาผมไปวิ่งเล่นที่สวนสารธารณะแห่งหนึ่ง พ่อนั่งดูผมวิ่งเล่นอยู่ริมน้ำตอนนั้นก็เย็นมากแล้ว พระอาทิตย์เริ่มตกดินทอแสงสีแดงเรืองรองครึ่งดวงตรงสุดโค้งขอบฟ้าถูกขีดเส้นแบ่งครึ่งด้วยขอบริมน้ำในสวนสารธารณะ ผมวิ่งกลับมานั่งข้างพ่อเพื่อรอพระอาทิตย์ตกดิน พ่อเกาะไหล่ผมแน่นแล้วยิ้มให้อย่างเอ็นดู
“พ่อมีของขวัญให้แกด้วยนะ”พ่อพูดค่อยๆเอามือล้วงกระเป๋าแล้วหยิบของสิ่งหนึ้งขึ้นมา นั่นมันสร้อยที่ผมอยากได้นี่นา พ่อสวมมันไว้ที่คอของผม พ่อครับพ่อรู้ใจผมจริงๆเลยผมรักพ่อจริงๆเลยครับ ผมจะไม่มีวันเอาสร้อยเส้นนี้ออกหรือทำหายเลย ผมกระโจนเข้าใส่พ่ออย่างดีใจพ่อกับผมนั่งดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน มืดแล้วพ่อขับรถพาผมกลับบ้าน
“วันนี้แกนอนชั้นล่างนะเมื่อเช้าพ่อเอาผ้าห่มแกไปซักยังไม่เสร็จเลย”พ่อบอกผมแล้วเดินขึ้นไปบนบ้าน ปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวชั้นล่าง คืนนี้เงียบสงัด ฤดูหนาวช่างแตกต่างจากฤดูฝนเหลือเกิน กลางคืนในฤดูฝนอากาศเย็นสบาย เสียงกบเขียดกล่อมให้ผมหลับไหลได้เสมอ แต่ฤดูหนาวเงียบเหลือเกินอากาศเย็นจัด ผมรู้สึกเหงายังไงบอกไม่ถูก แต่ในที่สุดผมก็หลับลงได้
เช้าวันต่อมาผมได้ยินเสียงพ่อเปิดประตูห้องนอน ผมสะดุ้งตื่น พ่ออาบน้ำแต่งตัวแล้วเอาอาหารมาให้ผม พ่อใส่เสื้อคลุมแล้วเดินออกไปเปิดประตูหน้าบ้าน แล้วเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง
“วันนี้จะไปทพธุระที่อำเภอ แกอยู่เฝ้าบ้านให้หน่อยนะ”ว่าแล้วพ่อก็เดินออกไป ขับรถกระบะออกจากบ้าน ไม่บ่อยหรอกที่พ่อปล่อยให้ผมอยู่ตามลำพัง ผมก็ชอบอยู่หรอกที่มีอิสระแต่บางทีผมก็เหงาเหมือนกันนะ บางทีผมก็อยู่เฉยๆ ไม่ก็เดินเล่นในบ้านตามประสา พ่อออกบ้านไปจะครึ่งวันแล้ว ผมชักเริ่มเบื่อ ผมงีบหลับอยู่ตรงเฉลียงบ้านข้างเล้าไก้ของพ่อ ผมนอนหลับไปได้ซักพัก เริ่มได้ยินเสียงไก่ที่พ่อเลี้ยงไว้ประมาณสิบกว่าตัวเดินออกมาหาอาหารตามประสาของมัน ผมไม่ใส่ใจอะไรผมเลยนอนต่อ
พอตอกเย็นเสียงรถกระบะของพ่อดังขึ้นหน้าบ้านพร้อมเสียงเปิดประตูรั้ว พ่อกลับมาแล้ว เอารถไปเก็บที่โรงรถ ผมวิ่งไปหาพ่อด้วยความดีใจ พ่อลงจากรถด้วยสภาพอิดโรย ผมชักเป็นห่วงพ่อแล้วซิ พ่อลูบหัวผมเงียบๆแล้วเดินจาไป เตรียมจะไปให้อาหารไก่
“ไอ้ฟัก!!มานี่เดี๋ยวนี้”ผมได้ยินเสียงพ่อตะโกนเรียกผม ฟังน้ำเสียงแล้วดูท่าจะเป็นรางร้าย ผมทำอะไรผิดเหรอ?
“แกฆ่าไก่ตายหมดเลยใช่มั๊ย มันหายไปไหนหมด”ผมวิ่งไปหาพ่อในเล้าไก้ด้วยความงุนงง ไก่หายไปแล้ว แต่ผมไม่ได้ฆ่าจริงๆนะ
“ข้าบอกแกกี่ครั้งแล้วเมื่อก่อนแกไม่เคยทำพอข้าเผลอทำไมแกทรยศข้าได้ขนาดนี้ เสียแรงที่เลี้ยงมา ไม่รู้จักจำ ต้องสั่งสอนแล้วทีนี้” ผมเห็นพ่อเดินไปหลังบ้านแล้วกลับมาด้วยท่อพลาสติกอันหนาผมเริ่มหวาดกลัว จะทำยังไงเพื่อบอกให้พ่อรู้ดีนะ ผมพูดไม่ได้ พ่อเข้าใจผมผิด ผมวิ่งหนี พ่อกระชากสร้อยคอที่พ่อซื้อให้ผมเมื่อวาน แล้วลากผมไปหา ผมหายใจไม่ออกพยายามที่จะหนี พ่อใช้ท่อน้ำกระหน่ำฟาดปากผมอย่างแรง ผมร้องครวญครางอย่างทรมาณพ่อตีผมซ้ำเป็นสิบๆครั้งพร้อมกับฟาดเข้าที่ลำตัว แต่ยังไม่ถึงกับตายหรอก ผมล้มลงพื้น ตัวบิดงอด้วยความเจ็บปวด ปากผมขยับหายใจไม่ได้แล้ว พ่อเข้าใจผมผิด แต่พ่อจ๋าไม่ว่าพ่อจะทำโทษผมยังไงจะเข้าใจผิดผมแค่ไหนผมยังไม่เคยโกรธพ่อเลยซักครั้ง ผมรู้ว่าพ่อต้องการสอนผม ผมจะซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อพ่อเสมอเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณที่พ่อเก็บผมมาเลี้ยง ภาพทุกอย่างเริ่มเลือนลางผมหายใจหอบ เห็นพ่อยืนอยู่อย่างกัวเสีย พ่อเดินออกไปจากเล่าไก่ที่มืดทึบไปสู่ความมืดในยามวิกาล ไกลออกไป ไกลออกไป
“โอ๊ย!!!”ผมได้ยินเสียงพ่อตะโกนด้วยความตกใจ ตาผมเบิกกว้างลืมความเจ็บปวด รวบรวมกำลังที่เหลือครั้งสุดท้ายวิ่งออกไปหาพ่อ แม้ขาของผมจะเจ็บปวดและเดินกระโดกกระเดกเพียงใดผมก็วิ่งไปหาพ่อเร็วที่สุดเท่าที่กำลังขาผมจะทำได้ ผมเห็นพ่อนอนอยู่กับพื้นดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด ใกล้กันนั้น งูเห่าตัวหนึ่งกำลังชูคอแผ่แม่เบี้ยอบ่างโหดร้าย ผมพอจะรู้เรื่องแล้วหละว่าเป็นมายังไง ถึงพ่อจะเข้าใจผมผิด แต่ผมเข้าใจไอ้งูตัวนี้ไม่ผิดแน่นอน ผมวิ่งถลาเข้าสู่งูตัวนั้นอย่างไม่เกรงกลัว กระโดดงับเข้าที่คอมันทันทีดดยที่มันยังไม่ทันตั้งตัว มันตายคาที่ตรงปากของผม ผมวิ่งไปหาพ่อ พ่อลืมตาขึ้นช้าๆที่ขาของพ่อมีรอยฟันของงูชั่วตัวนั้นฝังลึกอยู่ ผมรู้ว่าพ่อคงทรมาณมากที่โดนพิษงู เพราะแม่แท้ๆของผมก็ตายด้วยสาเหตุนี้เหมือนกันก่อนที่พ่อจะเก็บผมมาเลี้ยง ผมพยายามเอาพิบงูในตัวของพ่อออก รูสึกถึงความแสบร้อนแผ่ซ่านไปทั่วลิ้น ผมพยายามถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ไอ้ฟัก”พ่อเปล่งเสียงออกมาอย่างเจ็บปวด
ในเวลานั้นเองฝูงไก่ที่พ่อเลี้ยงไว้ก็กลับมาจากการหาอาหาร พากันมุดเข้ามาในรั้วข้างบ้านครบทุกตัว ทันทีที่พ่อมองเห็นน้ำตาของพ่อเริ่มไหล น้ำตาของพ่อเป็นสิ่งที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตเลย ที่จริงผมไม่อยากเห็นมันด้วยซ้ำ
“พ่อขอโทษ”เสียงของพ่อแผ่วเบา เปลือกตาของพ่อคลาต่ำลงจนปิดสนิท ผมเลียหน้าพ่อพยายามทำให้พ่อฟื้น ผมพยายามกลับไปดูดพิษที่ขาของพ่อ ความเจ็บปวดของผมเริ่มขึ้นอีกครั้งจากความเจ็บที่พ่อเพิ่งตีผม ผมรู้สึกว่าพิษที่ผมเอาออกให้พ่อมันเริ่มไหลเข้าสู่ตัวผมเหมือนกัน ผมเห่าหอนด้วยความเจ็บปวด เสียงของผมดังก้องไปทั่วราตรีกาลเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหายไปกลางความเยือกเย็นในฤดูหนาว จากความเจ็บปวดทรมาณจึงกลายเป็นรู้สึกชาไปทั่วร่างกายหัวใจผมแหลกสลาย ร่างกายของผมก็เช่นกันครั้งสุดท้ายที่ผมรู้สึกได้ก็คือแขนซ้ายของพ่อพยายามเอื้อมมือมากอดไว้ก่อนสิ้นใน ผมนอนอยู่ข้างร่างไร้วิญญาณของพ่อ ปล่อยให้ความหนาวเข้ามาปกคลุมร่างผมกับพ่อไว้
“พ่อจ๋า ผมจะไม่มีวันยกโทษให้พ่อ เพราะผมไม่เคยโกรธพ่อเลยซักครั้ง ไม่ว่าพ่อจะทำยังไงกับผม ผมจะซื่อสัตย์กับพ่อตลอดไป ผมจะตามไปรับใช้พ่อเสมอ ทุกที่ ทุกเวลา พ่อไปไหน ผมจะตามพ่อไป .”
T_T
ผลงานอื่นๆ ของ >~l3onhl3onh~< ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ >~l3onhl3onh~<
ความคิดเห็น