ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    • ฟอนต์ THSarabunNew
    • ฟอนต์ Sarabun
    • ฟอนต์ Mali
    • ฟอนต์ Trirong
    • ฟอนต์ Maitree
    • ฟอนต์ Taviraj
    • ฟอนต์ Kodchasan
    • ฟอนต์ ChakraPetch
[ Fic-All-Anime ] Yamamoto Family

ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 ภพชาติใหม่?...

  • อัปเดตล่าสุด 19 ก.พ. 64


Yamamoto Family
ตอนที่ 2 ภพชาติใหม่?...



             วันนี้เป็นวันประกอบพิธีศพของ 'ยามาโมโตะ โทชิโร่' วันที่ 4 แล้ว ซึ่งระหว่างวันแรกจวบจนถึงวันนี้ที่ผ่านมานั้น แทบจะไม่มีแขกเรือนที่ไหนมางานศพนี้เลยแม้แต่น้อย



             ที่มีงานศพนี้นั้น ก็มีเพียงประธานเจ้าของบริษัทของโทชิโร่, ลูกสาวประธานที่เขาช่วยชีวิตไว้, และสุดท้ายก็กลุ่มเพื่อนร่วมงานที่มาพอเป็นพิธีเท่านั้น



             ซึ่งตลอดสี่วันที่ผ่านมาตัวประธานพ่อของเด็กสาวกับเด็กสาวนั้นก็มาร่วมงานศพทุกวันไม่มีขาดตกบกพร่องใดๆ และในวันนี้ก็มีคนที่มาร่วมงานที่ทำให้โทชิโร่ต้องแปลกใจขึ้น



             "ริกะ?"  โทชิโร่กล่าวขณะที่เห็นหน้าหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังนั่งเคารพศพของตนเอง และเธอนั้นมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้ากับตาที่แดงกล่ำ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอนั้นคงร้องไห้มาแน่ๆ



"โทชิคุง... ฉันขอโทษ..."  ริกะได้กล่าวออกมาเบาๆ



             โทชิโร่ที่ได้ยินเสียงที่เบาแบบนั้นก็สงสัยว่าเธอต้องการจะมาพูดอะไรกันแน่ นั้นจึงทำให้เขานั้นลอยตัวเขาไปใกล้ๆ เพื่อฟังสิ่งที่เธอต้องการจะพูด



             จากนั้นริกะแฟนสาวคนแรก และคนเดียวของโทชิโร่ก็บอกเล่าเรื่องของเธอที่พลาดตัดสินใจเขียนจดหมายขอเลิกไป เพียงเพราะว่าเธอนั้นได้ตัดสินใจตกลงคบกับผู้ชายที่เรียนมหาลัยเดียวกับเธอ



             ทว่าหลังจากตกลงปลงใจคบกันไปได้เพียง 2 ปี ริกะก็ถูกทิ้งเนื่องจากเธอนั้นกลายเป็นที่น่าเบื่อสำหรับชายคนนั้นไป เมื่อริกะถูกทิ้งไปแล้ว เธอก็รู้สึกเสียใจและเข้าใจแล้วว่าการถูกบอกเลิกหรือถูกทิ้งนั้นเป็นเช่นไร



             หลังจากนั้นริกะก็พยายามสืบหาข่าวต่างๆ ของโทชิโร่ คอยติดตามดูความเป็นอยู่อย่างห่างๆ โดยที่ไม่กล้ามาพบหน้าหรือมากล่าวขอโทษ จวบจนวันนี้ที่โทชิโร่เสียชีวิตแล้ว เธอนั้นต้องรวบรวมความกล้ามากมายและฝ่าความเศร้าเสียใจที่มี เพื่อมาเคารพศพของโทชิโร่



             "เฮ้อ... ฉันรู้อยู่แล้วละว่าเธอน่ะมาแอบตามดูชีวิตฉันเหมือนสตอร์คเกอร์น่ะ"  โทชิโร่ในสภาพวิญญาณถอนหายใจแล้วกล่าวออกมา



"...หวังว่านายจะให้อภัยฉันนะโทชิคุง..."  ริกะกล่าวจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไปทันที



             "หวังว่าคงไม่มีใครมาทำให้เซอร์ไพส์อีกแล้วนะ?"  โทชิโร่กล่าวก่อนจะลอยตัวกลับไปอยู่ใกล้ๆ โลงศพของเขาต่อ



ตึก... ตึก... ตึก...



             ในขณะที่โทชิโร่กำลังลอยตัวไปทางทิศของโลงศพตนเอง เขาก็ได้ยินเสียงฝ่าเท้าที่ลงก้าวอย่างหนักๆ เหมือนคนที่ยกข้อเท้าไม่ค่อยไหว และพอหันกลับไปก็พบเข้ากับชายหญิงคู่หนึ่งที่ดูแล้วอายุคงใกล้เลขหกแล้วแน่ๆ



             "ตาแก่กับยายแก่นี่เป็นใครกัน?"  โทชิโร่กล่าวออกมาอย่างสงสัย



             ตอนแรกโทชิโร่คิดว่าคนแก่ทั้งสองนั้นคงเป็นญาติของประธานบริษัทของตนเองแน่ๆ แต่พอสังเกตุดูการตกแต่งตัวดีๆ แล้ว ก็พบว่าเฒ่าชราทั้งสองนั้นไม่ได้ประดับตกแต่งไปด้วยของมีค่ามีราคาแม้แต่น้อย กลับกันแล้วเนื้อเสื้อผ้าของทั้งคู่ยังดูเก่าไร้ราคาอีกด้วย



"โทชิโร่... พ่อขอโทษ..."  ตาแก่ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าเสียใจอย่างมาก



             ในช่วงเวลานั้นที่โทชิโร่ได้ยินสิ่งที่ตาแก่กล่าวออกมานั้น มันก็ทำให้เขานั้นเบิกตากว้างขึ้นก่อนที่จะมีความรู้สึกอื่นๆ ใดๆ มากมายก่อตัวขึ้นมา เขาไม่สามารถบอกได้ว่ารู้สึกยังไง



             ดีใจ? โกรธ? เศร้า? แค้น? เสียใจ? สนุก? เบื่อ? ทุกสิ่งที่กล่าวมามันหาสิ่งที่ตรงกับสิ่งที่โทชิโร่รู้สึกได้ไม่สมบูรณ์นัก



วูปปปปปป!!!!



             ยังไม่ทันที่โทชิโร่จะเปิดปากตะโกนกล่าวระบายสิ่งที่อัดอั้นอะไรในใจออกมานั้น เขาก็เหมือนถูกบางอย่างดึงกระชากไปอย่างรวดเร็ว สิ่งรอบข้างต่างๆ ที่มองเห็นกลับกลายเป็นอุโมงค์แสงก่อนจะมืดดำไป และมองไม่เห็นสิ่งใดๆ ที่อยู่รอบข้างแม้แต่น้อย



"บ้าเอ๊ย!!"  โทชิโร่ตะโกนกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจที่อยู่ๆ เขาก็ถูกอะไรไม่รู้พาไปสู่ความมืดมิดและมองไม่เห็นสิ่งอื่นใดรอบๆ



             "[เวลาของเจ้าหมดแล้วมนุษย์ตัวน้อย]"  เสียงแหบแห้งของผู้ชายได้ดังขึ้นในห้วงของความมืดมิดรอบๆ ตัวของโทชิโร่



"ใครกัน?! พระเจ้า? ยมทูต? หรือปีศาจอะไรกัน? ทำไมถึงทำกับฉันอย่างนี้ อย่างน้อยขอให้ได้ด่าตาแก่กับยายแก่นั้นต่อหน้าก่อนไม่ได้หรือไงกันฮะ?!!"  โทชิโร่ตะโกนกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ



             "[พ่อแม่ของเจ้ายอมขายบุญวาสนาทั้งชีวิตรวมถึงวิญญาณเพื่อให้เจ้าได้สิทธิพิเศษในภพหน้าเลยนะเจ้ามนุษย์ ไม่รู้สึกว่าเป็นบุญเป็นคุณหรือยังไง?]"  เสียงของหญิงสาวที่ดูขี้เล่นได้ดังขึ้นแทนเสียงชายที่ดูแหบแห้ง



"หมายความว่ายังไงกัน?"  โทชิโร่ระงับอารมณ์โกรธของตนเองไว้ ก่อนจะถามสิ่งที่ข้องใจออกมา



             "[พ่อแม่เจ้ารู้สึกผิดบาปที่ไม่อาจดูแลเลี้ยงดูเจ้าได้ เพราะอย่างนั้นทั้งสองคนนั้นถึงกับภาวนาขอให้สูญเสียบุญวาสนาทุกสิ่งอย่าง เพื่อให้มันเป็นของเจ้าในภพหน้า และวิญญาณของทั้งคู่ก็จะถูกแลกเปลี่ยนให้เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อการนั้น แน่นอนว่าหมดหนทางเวียนว่ายตายเกิด ดับสูญไปอย่างไม่อาจหวนกลับ]"



             คราวนี้เป็นน้ำเสียงของเด็กผู้ชายดังขึ้นมา ซึ่งโทชิโร่ที่ได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกแย่อย่างมาก เขานั้นไม่ได้คาดหวังอะไรในภพชาติข้างหน้า เขานั้นคาดหวังกับปัจจุบัน



             ทำไมกัน? ทำไมเขาถึงไม่มีครอบครัวที่ดีพร้อม พ่อ-แม่-ลูก ได้? ทำไมต้องให้พ่อกับแม่ขายทุกสิ่งอย่างให้ตนเพื่อภพชาติข้างหน้ากัน?



"เพราะอะไรกัน? ทำไมชะตาชีวิตของฉันมันถึงต้องเป็นเช่นนี้ด้วย?"  โทชิโร่กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าใจและไม่พอใจอย่างมาก



             แต่ว่าไม่มีเสียงใดตอบกลับมาแม้แต่น้อย จากนั้นโทชิโร่ก็ถูกบางอย่างกระชากดึงไปอีกครั้ง พอรู้สึกตัวอีกทีก็สัมผัสได้ความอบอุ่นที่อยู่รอบๆ ร่างกายของตนเอง พร้อมกับเปลือกตาที่รู้สึกหนักอย่างมาก



             ด้วยความพยายามอย่างหนักนั้น โทชิโร่พยายามที่จะออกแรงถ่างเปิดดวงตาให้อ้าออกเพื่อมองสำรวจรอบๆ พอทำได้ก็พบเพียงใบหน้าของหญิงสาวตัวใหญ่ที่กำลังจ้องมองดูเขาด้วยความอบอุ่น



             "คนยักษ์? ไม่สิ...ฉันตัวเล็กลง... ง่วง... ไม่ไหว...แล้ว..."



             โทชิโร่ยังไม่ทันได้คิดวิเคราะห์อะไรมากนัก ร่างกายกับสมองก็ถูกความเหนื่อยล้าครอบงำจนสิ้่นสติหลับไป ซึ่งในเหตุการณ์ปัจจุบันนั้นก็คือเขานั้นถูกส่งมาเกิดใหม่นั่นเอง...



14 ปีผ่านไป...



             'ยามาโมโตะ โทชิโร่' ก็ได้เติบโตขึ้นพร้อมกับนามเดิมของเขาที่เคยใช้ในภพชาติที่แล้วอย่างบังเอิญหรือชะตาลิขิตก็ไม่อาจทราบได้ 



             รวมถึงความรู้ประสบการณ์ต่างๆ ภายในหัวสมองของเขาก็ไม่อาจจะลบเลือนหายไปได้ และมันก็กลายเป็นความสามารถใหม่แปลกๆ ที่ตัวของเขาไม่สามารถลืมสิ่งใดๆ ที่เรียนรู้ได้เลยแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าเขานั้นกลายเป็นมนุษย์ที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยความทรงจำที่ดีเยี่ยมก็ว่าได้



             ยุคสมัยที่โทชิโร่มาถือกำเนิดใหม่นั้นคือยุคไทโช(ค.ศ.1912-1926) ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เขานั้นไม่ค่อยพอใจแม้แต่น้อย 



             มันไม่มีคนในยุคสมัยศตวรรษเกือบจะ 20 ที่ไหน มาทำท่าออกอาการดีใจได้เมื่อได้ย้อนอดีตกลับมาหลายสิบปีหลายร้อยปี และโทชิโร่ก็เป็นคนที่รู้สึกไม่ชอบเอามากๆ



             อาหารการกินก็มีแต่รสชาติดาษๆ จืดๆ ไร้สีสัน วัฒนธรรมก็เก่าโบราณน่าเบื่อ รวมถึงสื่อบันเทิงอย่างสมาร์ทโฟนหรืออินเทอร์เน็ตก็ไม่มีอีก เรียกได้ว่าเป็นยุคที่น่าลำบากอดสูของแท้ในมุมมองของโทชิโร่



             ตระกูล 'ยามาโตะ' ของโทชิโร่นั้น เป็นตระกูลอดีตขุนนางของเมืองปัจจุบันที่เขานั้นอาศัยอยู่ แต่เพราะระบบขุนนางมันหายไปนานแล้ว จึงทำให้ตระกูลนั้นเปลี่ยนมาทำอาชีพเกี่ยวกับโรงงานสื่อสิ่งพิมพ์แทน



             อย่างน้อยในชีวิตใหม่ของโทชิโร่ก็ยังดีที่มีครอบครัวครบหน้าครบตา มีญาติอยู่ในเมืองต่างๆ อีกหลายเมือง ครอบครัวที่อยู่ด้วยก็ประกอบไปด้วยคุณปู่, คุณพ่อ, คุณแม่, พี่สาวคนโต, และน้องสาวคนเล็ก มีตัวเขาเป็นลูกชายคนกลางเพียงผู้เดียวในบ้านตระกูลยามาโมโตะ



             เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นที่ดี แม้ว่าการเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลจะถูกคาดหวังสิ่งต่างๆ จากพ่อกับแม่และท่านปู่เยอะเป็นพิเศษก็ตามที...




















โปรดติดตามตอนต่อไป...




ติดตามเรื่องนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน

ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

loading
กำลังโหลด...

5ความคิดเห็น

กำลังโหลด...

5ความคิดเห็น

กำลังโหลด...
×
แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture