ลำดับตอนที่ #2
ตั้งค่าการอ่าน
ค่าเริ่มต้น
- เลื่อนอัตโนมัติ
- ฟอนต์ THSarabunNew
- ฟอนต์ Sarabun
- ฟอนต์ Mali
- ฟอนต์ Trirong
- ฟอนต์ Maitree
- ฟอนต์ Taviraj
- ฟอนต์ Kodchasan
- ฟอนต์ ChakraPetch
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 ภพชาติใหม่?...
Yamamoto Family
ตอนที่ 2 ภพชาติใหม่?...
วันนี้เป็นวันประกอบพิธีศพของ 'ยามาโมโตะ โทชิโร่' วันที่ 4 แล้ว ซึ่งระหว่างวันแรกจวบจนถึงวันนี้ที่ผ่านมานั้น แทบจะไม่มีแขกเรือนที่ไหนมางานศพนี้เลยแม้แต่น้อย
ที่มีงานศพนี้นั้น ก็มีเพียงประธานเจ้าของบริษัทของโทชิโร่, ลูกสาวประธานที่เขาช่วยชีวิตไว้, และสุดท้ายก็กลุ่มเพื่อนร่วมงานที่มาพอเป็นพิธีเท่านั้น
ซึ่งตลอดสี่วันที่ผ่านมาตัวประธานพ่อของเด็กสาวกับเด็กสาวนั้นก็มาร่วมงานศพทุกวันไม่มีขาดตกบกพร่องใดๆ และในวันนี้ก็มีคนที่มาร่วมงานที่ทำให้โทชิโร่ต้องแปลกใจขึ้น
"ริกะ?" โทชิโร่กล่าวขณะที่เห็นหน้าหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังนั่งเคารพศพของตนเอง และเธอนั้นมีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้ากับตาที่แดงกล่ำ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอนั้นคงร้องไห้มาแน่ๆ
"โทชิคุง... ฉันขอโทษ..." ริกะได้กล่าวออกมาเบาๆ
โทชิโร่ที่ได้ยินเสียงที่เบาแบบนั้นก็สงสัยว่าเธอต้องการจะมาพูดอะไรกันแน่ นั้นจึงทำให้เขานั้นลอยตัวเขาไปใกล้ๆ เพื่อฟังสิ่งที่เธอต้องการจะพูด
จากนั้นริกะแฟนสาวคนแรก และคนเดียวของโทชิโร่ก็บอกเล่าเรื่องของเธอที่พลาดตัดสินใจเขียนจดหมายขอเลิกไป เพียงเพราะว่าเธอนั้นได้ตัดสินใจตกลงคบกับผู้ชายที่เรียนมหาลัยเดียวกับเธอ
ทว่าหลังจากตกลงปลงใจคบกันไปได้เพียง 2 ปี ริกะก็ถูกทิ้งเนื่องจากเธอนั้นกลายเป็นที่น่าเบื่อสำหรับชายคนนั้นไป เมื่อริกะถูกทิ้งไปแล้ว เธอก็รู้สึกเสียใจและเข้าใจแล้วว่าการถูกบอกเลิกหรือถูกทิ้งนั้นเป็นเช่นไร
หลังจากนั้นริกะก็พยายามสืบหาข่าวต่างๆ ของโทชิโร่ คอยติดตามดูความเป็นอยู่อย่างห่างๆ โดยที่ไม่กล้ามาพบหน้าหรือมากล่าวขอโทษ จวบจนวันนี้ที่โทชิโร่เสียชีวิตแล้ว เธอนั้นต้องรวบรวมความกล้ามากมายและฝ่าความเศร้าเสียใจที่มี เพื่อมาเคารพศพของโทชิโร่
"เฮ้อ... ฉันรู้อยู่แล้วละว่าเธอน่ะมาแอบตามดูชีวิตฉันเหมือนสตอร์คเกอร์น่ะ" โทชิโร่ในสภาพวิญญาณถอนหายใจแล้วกล่าวออกมา
"...หวังว่านายจะให้อภัยฉันนะโทชิคุง..." ริกะกล่าวจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไปทันที
"หวังว่าคงไม่มีใครมาทำให้เซอร์ไพส์อีกแล้วนะ?" โทชิโร่กล่าวก่อนจะลอยตัวกลับไปอยู่ใกล้ๆ โลงศพของเขาต่อ
ตึก... ตึก... ตึก...
ในขณะที่โทชิโร่กำลังลอยตัวไปทางทิศของโลงศพตนเอง เขาก็ได้ยินเสียงฝ่าเท้าที่ลงก้าวอย่างหนักๆ เหมือนคนที่ยกข้อเท้าไม่ค่อยไหว และพอหันกลับไปก็พบเข้ากับชายหญิงคู่หนึ่งที่ดูแล้วอายุคงใกล้เลขหกแล้วแน่ๆ
"ตาแก่กับยายแก่นี่เป็นใครกัน?" โทชิโร่กล่าวออกมาอย่างสงสัย
ตอนแรกโทชิโร่คิดว่าคนแก่ทั้งสองนั้นคงเป็นญาติของประธานบริษัทของตนเองแน่ๆ แต่พอสังเกตุดูการตกแต่งตัวดีๆ แล้ว ก็พบว่าเฒ่าชราทั้งสองนั้นไม่ได้ประดับตกแต่งไปด้วยของมีค่ามีราคาแม้แต่น้อย กลับกันแล้วเนื้อเสื้อผ้าของทั้งคู่ยังดูเก่าไร้ราคาอีกด้วย
"โทชิโร่... พ่อขอโทษ..." ตาแก่ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูเศร้าเสียใจอย่างมาก
ในช่วงเวลานั้นที่โทชิโร่ได้ยินสิ่งที่ตาแก่กล่าวออกมานั้น มันก็ทำให้เขานั้นเบิกตากว้างขึ้นก่อนที่จะมีความรู้สึกอื่นๆ ใดๆ มากมายก่อตัวขึ้นมา เขาไม่สามารถบอกได้ว่ารู้สึกยังไง
ดีใจ? โกรธ? เศร้า? แค้น? เสียใจ? สนุก? เบื่อ? ทุกสิ่งที่กล่าวมามันหาสิ่งที่ตรงกับสิ่งที่โทชิโร่รู้สึกได้ไม่สมบูรณ์นัก
วูปปปปปป!!!!
ยังไม่ทันที่โทชิโร่จะเปิดปากตะโกนกล่าวระบายสิ่งที่อัดอั้นอะไรในใจออกมานั้น เขาก็เหมือนถูกบางอย่างดึงกระชากไปอย่างรวดเร็ว สิ่งรอบข้างต่างๆ ที่มองเห็นกลับกลายเป็นอุโมงค์แสงก่อนจะมืดดำไป และมองไม่เห็นสิ่งใดๆ ที่อยู่รอบข้างแม้แต่น้อย
"บ้าเอ๊ย!!" โทชิโร่ตะโกนกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจที่อยู่ๆ เขาก็ถูกอะไรไม่รู้พาไปสู่ความมืดมิดและมองไม่เห็นสิ่งอื่นใดรอบๆ
"[เวลาของเจ้าหมดแล้วมนุษย์ตัวน้อย]" เสียงแหบแห้งของผู้ชายได้ดังขึ้นในห้วงของความมืดมิดรอบๆ ตัวของโทชิโร่
"ใครกัน?! พระเจ้า? ยมทูต? หรือปีศาจอะไรกัน? ทำไมถึงทำกับฉันอย่างนี้ อย่างน้อยขอให้ได้ด่าตาแก่กับยายแก่นั้นต่อหน้าก่อนไม่ได้หรือไงกันฮะ?!!" โทชิโร่ตะโกนกล่าวออกมาอย่างไม่พอใจ
"[พ่อแม่ของเจ้ายอมขายบุญวาสนาทั้งชีวิตรวมถึงวิญญาณเพื่อให้เจ้าได้สิทธิพิเศษในภพหน้าเลยนะเจ้ามนุษย์ ไม่รู้สึกว่าเป็นบุญเป็นคุณหรือยังไง?]" เสียงของหญิงสาวที่ดูขี้เล่นได้ดังขึ้นแทนเสียงชายที่ดูแหบแห้ง
"หมายความว่ายังไงกัน?" โทชิโร่ระงับอารมณ์โกรธของตนเองไว้ ก่อนจะถามสิ่งที่ข้องใจออกมา
"[พ่อแม่เจ้ารู้สึกผิดบาปที่ไม่อาจดูแลเลี้ยงดูเจ้าได้ เพราะอย่างนั้นทั้งสองคนนั้นถึงกับภาวนาขอให้สูญเสียบุญวาสนาทุกสิ่งอย่าง เพื่อให้มันเป็นของเจ้าในภพหน้า และวิญญาณของทั้งคู่ก็จะถูกแลกเปลี่ยนให้เป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อการนั้น แน่นอนว่าหมดหนทางเวียนว่ายตายเกิด ดับสูญไปอย่างไม่อาจหวนกลับ]"
คราวนี้เป็นน้ำเสียงของเด็กผู้ชายดังขึ้นมา ซึ่งโทชิโร่ที่ได้ฟังดังนั้นก็รู้สึกแย่อย่างมาก เขานั้นไม่ได้คาดหวังอะไรในภพชาติข้างหน้า เขานั้นคาดหวังกับปัจจุบัน
ทำไมกัน? ทำไมเขาถึงไม่มีครอบครัวที่ดีพร้อม พ่อ-แม่-ลูก ได้? ทำไมต้องให้พ่อกับแม่ขายทุกสิ่งอย่างให้ตนเพื่อภพชาติข้างหน้ากัน?
"เพราะอะไรกัน? ทำไมชะตาชีวิตของฉันมันถึงต้องเป็นเช่นนี้ด้วย?" โทชิโร่กล่าวถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าใจและไม่พอใจอย่างมาก
แต่ว่าไม่มีเสียงใดตอบกลับมาแม้แต่น้อย จากนั้นโทชิโร่ก็ถูกบางอย่างกระชากดึงไปอีกครั้ง พอรู้สึกตัวอีกทีก็สัมผัสได้ความอบอุ่นที่อยู่รอบๆ ร่างกายของตนเอง พร้อมกับเปลือกตาที่รู้สึกหนักอย่างมาก
ด้วยความพยายามอย่างหนักนั้น โทชิโร่พยายามที่จะออกแรงถ่างเปิดดวงตาให้อ้าออกเพื่อมองสำรวจรอบๆ พอทำได้ก็พบเพียงใบหน้าของหญิงสาวตัวใหญ่ที่กำลังจ้องมองดูเขาด้วยความอบอุ่น
"คนยักษ์? ไม่สิ...ฉันตัวเล็กลง... ง่วง... ไม่ไหว...แล้ว..."
โทชิโร่ยังไม่ทันได้คิดวิเคราะห์อะไรมากนัก ร่างกายกับสมองก็ถูกความเหนื่อยล้าครอบงำจนสิ้่นสติหลับไป ซึ่งในเหตุการณ์ปัจจุบันนั้นก็คือเขานั้นถูกส่งมาเกิดใหม่นั่นเอง...
14 ปีผ่านไป...
'ยามาโมโตะ โทชิโร่' ก็ได้เติบโตขึ้นพร้อมกับนามเดิมของเขาที่เคยใช้ในภพชาติที่แล้วอย่างบังเอิญหรือชะตาลิขิตก็ไม่อาจทราบได้
รวมถึงความรู้ประสบการณ์ต่างๆ ภายในหัวสมองของเขาก็ไม่อาจจะลบเลือนหายไปได้ และมันก็กลายเป็นความสามารถใหม่แปลกๆ ที่ตัวของเขาไม่สามารถลืมสิ่งใดๆ ที่เรียนรู้ได้เลยแม้แต่น้อย เรียกได้ว่าเขานั้นกลายเป็นมนุษย์ที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยความทรงจำที่ดีเยี่ยมก็ว่าได้
ยุคสมัยที่โทชิโร่มาถือกำเนิดใหม่นั้นคือยุคไทโช(ค.ศ.1912-1926) ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เขานั้นไม่ค่อยพอใจแม้แต่น้อย
มันไม่มีคนในยุคสมัยศตวรรษเกือบจะ 20 ที่ไหน มาทำท่าออกอาการดีใจได้เมื่อได้ย้อนอดีตกลับมาหลายสิบปีหลายร้อยปี และโทชิโร่ก็เป็นคนที่รู้สึกไม่ชอบเอามากๆ
อาหารการกินก็มีแต่รสชาติดาษๆ จืดๆ ไร้สีสัน วัฒนธรรมก็เก่าโบราณน่าเบื่อ รวมถึงสื่อบันเทิงอย่างสมาร์ทโฟนหรืออินเทอร์เน็ตก็ไม่มีอีก เรียกได้ว่าเป็นยุคที่น่าลำบากอดสูของแท้ในมุมมองของโทชิโร่
ตระกูล 'ยามาโตะ' ของโทชิโร่นั้น เป็นตระกูลอดีตขุนนางของเมืองปัจจุบันที่เขานั้นอาศัยอยู่ แต่เพราะระบบขุนนางมันหายไปนานแล้ว จึงทำให้ตระกูลนั้นเปลี่ยนมาทำอาชีพเกี่ยวกับโรงงานสื่อสิ่งพิมพ์แทน
อย่างน้อยในชีวิตใหม่ของโทชิโร่ก็ยังดีที่มีครอบครัวครบหน้าครบตา มีญาติอยู่ในเมืองต่างๆ อีกหลายเมือง ครอบครัวที่อยู่ด้วยก็ประกอบไปด้วยคุณปู่, คุณพ่อ, คุณแม่, พี่สาวคนโต, และน้องสาวคนเล็ก มีตัวเขาเป็นลูกชายคนกลางเพียงผู้เดียวในบ้านตระกูลยามาโมโตะ
เรียกได้ว่าเป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นที่ดี แม้ว่าการเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลจะถูกคาดหวังสิ่งต่างๆ จากพ่อกับแม่และท่านปู่เยอะเป็นพิเศษก็ตามที...
โปรดติดตามตอนต่อไป...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
กำลังโหลด...
5ความคิดเห็น