ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dark world yuri

    ลำดับตอนที่ #2 : Dark world 2

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 72
      0
      19 ธ.ค. 55

    "เช้านี้พบศพหญิงสาวนิรนามข้างตึกร้านไอศกรีมเปิดใหม่ ลักษณะศพเบื้องต้นเจ้าหน้าที่นิติเวทย์คาดว่าถูกสัตว์ทำร้าย เสียเลือดมากจนเสียชีวิต"
    แทยอนหยุดจังหวะเดินสายตามองตรงไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย เสียงโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นยังคงดังต่อเนื่อง ครั้งนี้เป็นรอบที่เท่าในชีวิตเธอ เธอเองก็นับไม่ถ้วน ลักษณะศพแบบนี้ และตัวเธอที่หยุดนิ่งยืนฟังข่าวแบบนี้ แทยอนอยากให้มันจบลงไปสักที

    "แทยอน"คุณพ่อของเธอเขย่าแขนเรียกสติ ใบหน้าของท่านดูกังวลมากกว่าตัวเธอซะอีก ท่านพร่ำบอกแต่ว่า"เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของลูก มันไม่เกี่ยวกับลูก"

    ผู้เป็นพี่ชายของเธอเดินออกมาจากห้องนั่งเล่น เขาดูตกใจที่เห็นเธอยืนอยู่หน้าห้อง ใบหน้าซีดเผือดของเขาหันไปมองพ่อ"เด็กนั่น.."

    "ซึงยอนใช่มั้ย"แทยอนถามแทรกขึ้นมา มองหน้าพี่ชายที่ไม่ยอมหันมามองเธอ เขาไม่ยอมตอบด้วยซ้ำ เขาคว้าตัวเธอเข้าไปกอด พูดประโยคเหมือนกับพ่อทุกประการ "นี่มันเกี่ยวกับแทใช่มั้ย มันเกี่ยวใช่รึเปล่า ตอบมาสิ!!!!"แทยอนดันตัวเองออกจากอ้อมกอดผู้เป็นพี่ เธอตระโกนถามออกไป หวังคำตอบ และมันก็เหมือนทุกครั้งที่ไม่มีคำตอบ  แทยอนแค่นหัวเราะสมเพชตัวเองในลำคอ

    "เมื่อวานนี้แทไปกับเขามา ...พี่กับพ่อก็พูดมาสิว่ามันเกี่ยวกับแท ทุกอย่างเกี่ยวกับแท มันเป็นเพราะแท.."แทยอนหายใจเข้า สะกัดกั้นอารมณ์ เงยหน้าขึ้นมองเพดาน "แทไม่รู้ว่าควรจะปลอบตัวเองว่ายังไง แทควรหลอกตัวเองมั้ยว่าที่คนพวกนั้นตายมันเป็นเพราะถึงเวลาตายของพวกเขา และที่ศพถูกฉีกเละแบบนั้นก็เป็นเพราะสัตว์ป่าเข้ามาในเมือง... ให้แทได้รู้อะไรบ้างเถอะ"
    แทยอนถามตัวเองซ้ำๆว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกับเธออีก ชีวิตของเธอทำไมต้องเจอเรื่องพวกนี้ แทยอนไม่ฟังคำพูดใดๆของผู้เป็นพ่อและพี่ชาย เธอกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง ล็อกประตูห้องแล้วฟุบตัวลงบนเตียง


    เธอไม่อยากคิดเรื่องพวกนั้น แต่เธอก็ไม่อยากนอนหลับ เธอไม่อยากฝันเรื่องพวกนั้นอีกแล้ว ในฝันเธอก็ตาย ในชีวิตจริง...อีกไม่นานนี้เธอคงต้องตายตามคนรอบตัวไปเช่นกัน 

    แทยอนไม่อยากนึกภาพตัวเองที่มหาวิทยาลัยหลังจากวันหยุด เธอไม่อยากเห็นตัวเองอยู่ในสภาพเดิมๆ สายตาคนพวกนั้นที่มองมาแบบเดิม เธอไม่อยากเจอครอบครัวของผู้เสียชีวิตที่คงจะคร่ำครวญและโทษว่ามันเป็นความผิดของเธอ



    แทยอนพลักตัวไปมาบนเตียง เธอไม่ลงไปกินข้าวเช้า ข้าวเที่ยง และข้าวเย็น เธอไม่รู้สึกหิวเลยสักนิด แขนที่กายหน้าผากเธอมันไม่ช่วยให้ความเครียดหายไปเลย ....ถ้าตอนนี้ซึงยอนตายไปแล้ว งั้นรายต่อไปก็ต้องเป็น...

    ทันทีที่คิดได้ แทยอนเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียงขึ้นมากดเบอร์เพื่อนซี้หนึ่งเดียวของเธอ ช่วงเวลาแห่งการรอสายมันช่างทรมาน ใจของเธอเต้นรัวและเร็ว เธอไม่สามารถนอนนิ่งอยู่ได้ แทยอนลุกขึ้นเดินวนไปวนมาอยู่ข้างๆเตียง
    สายถูกตัดไปแล้วหลังจากการรอคอยที่ยาวนาน เธอต่อสายใหม่อีกครั้ง เฝ้ารอ...

    "ฮัลโหล"
    แทยอนแทบจะโห่ร้องด้วยความยินดีที่ได้ยินเสียงเพื่อนสนิท ริมฝีปากของเธอฉีกยิ้มกว้างให้กับตัวเอง เสียงหัวเราะของเธอดังลั่นห้อง

    "แกบ้ารึเปล่าเนี่ย โทรมาหัวเราะให้ฉันฟังเนี่ยนะ"
    พอปลายสายตำหนิมา แทยอนถึงได้พยายามหยุดหัวเราะแต่ใบหน้าของเธอก็ยังเจือไปด้วยรอยยิ้ม

    "เปล่าๆ แกอยู่ไหนเนี่ยยูบิน"

    "ฉันหรอ..."ยูบินพรึมพำ แล้วเงียบไปชั่วครู่คาดว่าคงมองหาที่อยู่ของตัวเองอยู่"ฉันกำลังเดินกลับบ้าน วันนี้ซ้อมดึกว่ะ... ตอนนี้ก็ถึงสนามเด็กเล่นแล้ว"

    แทยอนฟัง ปรายตามองนาฬิกาผนังประจำห้อง รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอค่อยๆหดหายไป เธอจ้องซ้ำอีกครั้ง"แกรีบๆกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ!!! วิ่งกลับเลยยิ่งดี"

    "ไอ้บ้าเอ๊ย จะรีบทำไม ใกล้ถึงอยู่แล้ว"

    "ฉันบอกให้รีบก็รีบสิวะ!!!!"แทยอนตะคอกใส่ปลายสาย คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน ตั้งใจฟังอีกฝั่ง

    "ไอ้..ฉัน.....เฮ้ย!!!!"สัญญาณค่อยๆขาดหายไป แทยอนมองหน้าจอโทรศัพท์ มันยังคงต่อสายอยู่ ชั่วครู่เธอก็ได้ยินเสียงกรี๊ดของยูบินแล้วสายก็ถูกตัดไป แทยอนเขวี้ยงโทรศัพท์มือถือลงบนเตียง รีบวิ่งออกจากห้องของตัวเอง ลงไปยังตัวบ้านด้านล่างที่ไฟถูกปิดจนมืดไปหมดแล้ว เธอไม่มีเวลามาคิดใคร่ครวญอีก แทยอนเปิดประตูบ้านออกไปอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง

    ไฟถนนระหว่างทางติดๆดับๆ ถึงแม้ขนทั้งตัวเธอจะลุกชันไปหมดแล้ว แต่แทยอนก็ยังคงวิ่งต่อไป เธอไม่หันกลับไปมองด้านหลัง ไม่มองไปซ้ายขวาทั้งๆที่รู้สึกว่ากำลังมีอะไรบางอย่างตามเธอมา และอะไรบางอย่างวิ่งวนอยู่รอบข้างเธอ เธอกลัวไปหมดแล้ว

    เมื่อถึงทางแยกด้านหน้าแทยอนก็ไม่เสียเวลาคิด เลี้ยวไปยังทางกลับบ้านของยูบิน เธอรู้สึกว่าถนนสายนี้มันยาวกว่าปกติ ไฟถนนก็บ้าๆบอๆไปหมด ติดๆดับๆอยู่นั่นแหละ ไม่มีรถหรือผู้คนผ่านมาเลยด้วยซ้ำ ชั่วขณะเธอคิดว่ามันผิดปกติ มันแปลกจริงๆ สมองเธอสั่งให้วิ่งกลับไปซะ แต่ใจของเธอกลับเฝ้าห่วงเพื่อนซี้ของตัวเอง สนามเด็กเล่น ข้างหน้านี้แหละ


    แทยอนหยุดยินหน้าประตูทางเข้า เธอมองตรงไปที่เสาไฟแสงสว่างสลัวๆ มีร่างของใครบางคนที่คุ้นตานั่งพิงเสาไฟต้นนั้นอยู่ แทยอนเผลอยิ้ม วิ่งเข้าไปโดยไม่สนใจสัญชาตญาของตัวเอง พอเข้ามาประชิดเธอถึงได้ลดฝีเท้าลง เดินช้าลงจนหยุดตรงหน้าบุคคลดังกล่าว
    กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ใบหน้าของเธอตอนนี้นิ่งสนิท เธอนั่งยองๆลงไป เอื้อมมือสั่นๆของตัวเองไปจับแขนของบุคคลที่เลือดโชกตัว

    "ย..ยู..บิน"
    ทั้งหัวใจของเธอที่เต้นรัว ความหนาวเย็นจับขั้วหัวใจที่มีมาในตอนนี้ เธอกลัว กลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวสิ่งรอบตัว กลัวความมืดในตอนนี้ เธอได้แต่ขอให้พี่ชายของเธอตามออกมาช่วยเธอ ขอให้คุณพ่อฉุกคิดแล้วไปเคาะประตูห้องเธอเพื่อที่จะรู้ว่าเธอไม่อยู่ในห้อง

    แทยอนกลั้นหายใจ เขย่าแขนคนตรงหน้าอย่างบ้าคลั่ง"ยูบิน"ขนเธอลุกซู่ เธอรู้สึกว่าอะไรบางอย่างวิ่งสวนไปมาทางซ้ายและขวา แทยอนไม่กล้าหันไปมอง เธอได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาเขย่าแขนยูบิน ตอนนี้เธอเริ่มคิดแล้วล่ะว่าการที่เธอออกมานี่มันเป็นเรื่องสิ้นคิดจริงๆ

    "แท...ยอน"เสียงยูบินดังขึ้นประชันกับอาการสติหลุดของเธอ แทยอนจ้องร่างตรงหน้าที่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามองเธอ ตัวของยูบินที่ว่าโชกเลือกแล้ว หากเทียบกับลำคอนั่นคงไม่ต้องพูดถึง ใบหน้าของเพื่อนเธอซีดเผือดราวกับไม่มีเลือดเหลืออีกแล้ว แทยอนตัวแข็งทือ ขยับไปไหนไม่ได้ เธออยากจะวิ่งหนีแต่ทำไม่ได้"ไปโรงพยาบาลกันเถอะ"ประโยคสิ้นคิดออกมาจากปากของเธอ เธอพยายามจะเข้าไปพยุงยูบิน แต่ด้วยขนาดตัวที่แตกต่างมันทำให้เธอทำไม่ได้ มันคงจะดีกว่านี้ถ้าร่างของเพื่อนเธอไม่ได้มีรอยฉีกไปทั่ว เธอคงจะกล้าพยุงถ้ากระดูกของมันไม่ได้เหมือนจะหลุดออกจากกัน

    ยูบินพูดอะไรบางอย่าง แทยอนไม่ได้ยิน แทยอนก้มหน้าลงไปใกล้ๆเพื่อนสนิท"หนี..ไป"
    ขนของเธอพร้อมใจกันลุกซู่ขึ้นอีกครั้งเมื่อได้ยินคำเตือนจากปากเพื่อนสนิท "ไม่ๆ เราจะหนีไปด้วยกัน"
    แทยอนเก้ๆกังๆ มองดูร่างของเพื่อนว่าเธอควรจะพยุงส่วนไหนของมันที่จะทำให้เราสามารถไปได้ถึงโรงพยาบาล
    หากมองดูดีๆแล้วเธอก็พบว่ากระดูกแขนของเพื่อนเธอมันโผล่ออกมาจากเนื้อที่ปกคลุมไปกว่าครึ่ง
    แทยอนจิกทึ้งหัวตัวเอง ถ้าตอนนี้มีปืนเธอคงเอามายิงหัวตัวเองและเพื่อนให้รีบๆตายไปซะ

    "บ้าเอ๊ย"จมูกของเธอเริ่มแดง แทยอนกำลังจะร้องไห้
    รู้อยู่หรอกว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาขี้แย แต่จะให้เธอทำยังไง เธอคิดไม่ออกจริงๆ

    "หนีไป!!!"ตาของยูบินมองเธอ ริมฝีปากแห้งผากนั่นขยับยิ้มบางๆให้เธอ"แกต้องรอด...ทิ้งฉันไว้ที่นี่ ยังไงฉันก็จะตายอยู่แล้ว"
    น้ำตาของเธอไหลออกมาแล้ว แทยอนสะอึกสะอื้น กอดแขนเพื่อนสนิทเบาๆ เธอกำลังจะบ้าตาย ให้ตายหอะ...ทำไมชีวิตเธอมันเฮงซวยขนาดนี้

    "ยูบิน.."ถ้าเราจะต้องตาย เธออยากจะพูดสิ่งนี้ สิ่งที่ยูบินสงสัยมาตลอด"แกเป็นคนที่ฉันไว้ใจที่สุด แกคือเพื่อนรักของฉัน แกจะตายไม่ได้นะ"
    น้ำตาของเธอหยดลงไปบนตัวมันกี่หยดเธอก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเธอสัมผัสได้ถึงลมหายใจแผ่วเบาของยูบิน
    ดูท่าว่าเวลาแห่งความซึ้งของเธอคงใกล้หมดลงเต็มทน แทยอนรู้สึกถึงกรอบที่มันตี่เข้ามาใกล้ตัวเธอและยูบินขึ้นทุกที อะไรบางอย่างจากด้านหลังเคลื่อนตัวมาใกล้ๆเธอแล้ว

    เธอรู้ซึ้งถึงคำพูดของพ่อแล้วว่าข้างนอกมันอันตราย แล้วการที่เธอออกมาจากบ้านในช่วงเวลาเที่ยงคืนมันเป็นเรื่องที่อันตรายยิ่งกว่า ในช่วงเวลาแบบนี้ เธอไม่รู้ว่าทำไมใบหน้าของทิฟฟานี่ถึงได้ติดอยู่ในความคิดของเธอ ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสนั่น ...โอเค อย่างน้อยชาติภพนี้เธอก็ไม่ต้องตายเพื่อยัยนั่นก็แล้วกัน

    เสียงบางหยุดอยู่ข้างหลังเธอ "หนีไป!!!"เธอไม่คิดว่ายูบินจะผลักเธอออกแล้วรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายพุ่งตัวเข้าใส่ไอ้พวกนั้นที่เธอหันไปเห็นว่าพวกมันมีดวงตาแดงซ่าน เท้าของเธอออกวิ่งจากตรงนั้น มันมืดไปหมด เธอไม่รู้ว่าควรจะวิ่งไปทางไหน เธอได้ยินเสียงกรีดร้องของยูบิน
    และได้ยินเสียงฝีเท้าที่ตามเธอมาติดๆ

    แทยอนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอกำลังตกลงไปในทางอะไรสักอย่าง ตัวของเธอไถลลงไปตามเนินอะไรนั่น เธอกลิ้งคลุกกับดินเจ็บปวดไปทั้งตัว คาดว่าเธอคงได้แผลและได้เลือดไม่น้อย เมื่อลงไปถึงที่ๆเธอคิดว่าคงเป็นที่สิ้นสุดสติของเธอก็เจือจางลง พร้อมกับเสียงแหลมๆที่เรียกชื่อของเธอจากสิ่งที่ตามหลังเธอมาตั้งแต่ต้น




    แสงสว่างทำให้เธอต้องปิดเปลือกตาแน่นอีกครั้ง ความรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัวมันบ่งบอกว่าเธอยังไม่ตาย แทยอนอยากจะกรี๊ดสักล้านรอบแล้วกลั้นหายใจตายไปซะ ทำไมเธอไม่ตายวะเนี่ย แทยอนยังคงแกล้งหลับตาอยู่อย่างนั้น อันที่จริงเธอกลั้นหายใจด้วยล่ะ
    ภาพเพื่อนเลือดซกยังคงติดตาเธออยู่ ไอ้พวกนี้คงเอาเธอมาทำอะไรสักอย่างที่เธอเคยแอบได้ยินพี่ชายพูดกับพ่อ เอามาสังเวยอะไรสักอย่าง
    มันคงจะต้องลงมือฉีกเธอเป็นชิ้นๆทั้งๆที่เธอยังมีชีวิต มันคงต้องการเลือดสดๆของเธอ เธอไม่รู้ตัวเลยว่ามือของเธอกำลังกำแน่น ร่างเกร็งไปทั้งตัว เปลือกตาก็เม้มกันจนแสดงท่าทีพิรุจไปเยอะแล้ว

    "ลืมตาซะ"
    เสียงข้างๆหูเธอทำให้แทยอนตระหนักว่าการแกล้งตายของเธอมันเป็นสิ่งที่ดูไร้ประโยชน์ในเมื่อเธอเกร็งซะขนาดนี้
    แต่กลิ่นหอมอ่อนๆที่เข้ามาตามลำหายใจของเธอทำให้แทยอนหายใจสะดุด กลิ่นนี้
    ด้วยความลืมตัว เธอเผลอลืมตาขึ้นเต็มตา จับจ้องเจ้าของกลิ่นที่ยืนนิ่งอยู่ข้างเตียง

    หัวใจของเธอเต้นรัวและเร็ว ตาของเธอเบิกโพลงจ้องมองคนตรงหน้า เป็นเวลานานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าเธอมีความสุขขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล
    ทั้งๆที่คนตรงหน้าไม่ได้ยิ้มให้เธอเลยสักนิด มีเพียงการยืนนิ่งกอดอกมองเธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา

    "ทิฟฟานี่"
    เธอพูดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือหน้ามืดที่เห็นริมฝีปากบางนั่นยกยิ้มเป็นเวลาสั้นๆ
    หญิงสาวในความฝันของเธอปรากฏอยู่ตรงหน้า หญิงสาวที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นรัว หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของหัวใจเธอทุกชาติภพ อาจจะรวมถึงชาติภพนี้ด้วย ...หญิงสาวที่เป็นต้นเหตุให้เธอตายอยู่ร่ำไป เมื่อนึกมาถึงตรงนี้
    ภวังค์รักที่แทยอนพึ่งจะก่อขึ้นก็มืดมนขึ้นทันทีทันใด ตัวเธอสั่นไปทั้งตัว จ้องทิฟฟานี่ที่ก้าวเข้ามา แล้วนึกย้อนไปถึงสิ่งที่ฆ่าเพื่อนเธอ


    "อย่าฆ่าฉัน!!!!!"
    ด้วยสัญชาตญาณ แทยอนยกมือขึ้นปัดป่ายเบื้องหน้าตนเอง หลับตาปี๋ เป็นเวลานานก็ยังไม่มีอะไรเข้ามาเฉียดใกล้เธอ แทยอนค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ทิฟฟานี่ไม่ได้เข้ามาใกล้กว่าเดิมหลังจากที่เธอตระโกนประโยคนั่น
    เธอเห็นทิฟฟานี่ผ่อนลมหายใจอ่อนๆ เธอพึ่งจะสังเกตว่าใบหน้าของผู้ร่วมห้องอีกคนซีดกว่าคนปกติมากแค่ไหน

    "เป็นอะไรน่ะ"
    ด้วยความเป็นคนดี หรือสติที่หลุดเกินเยียวยาของเธอผลักดันให้เธอถามคนที่เธอหวาดระแวงเมื่อครู่

    "........"

    "โอเค๊.. ถ้าไม่อยากตอบ ฉันก็จะไม่ถาม"
    แทยอนเลี่ยง หันไปมองรอบๆห้องแทน คิ้วของเธอขมวดกับลูกกรงเหล็กที่ติดไว้ที่หน้าต่าง...ยัยนี่เอาเธอมาขังไว้รอการทรมานใช่มั้ยเนี่ย

    "เลิกคิดไร้สาระกับผู้มีพระคุณสักทีเถอะ"
    เสียงแหบเบาๆเปล่งออกมาจากริมฝีปากของทิฟฟานี่ แทยอนหันกลับไปมอง...

    "ผู้มีพระคุณ" เธอเพ่งสายตาไปที่อีกคน "ถ้าเธอเป็นคนช่วยฉัน แล้วจะเอาฉันมาขังไว้ในห้องนี่ทำไม"

    ทิฟฟานี่คงหมดอารมณ์จะตอบคำถามของเธอเต็มที มีเพียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาช้าๆ ก้าวช้าๆที่ดูไม่มั่นคง
    ส่วนคนบนเตียงก็ถดตัวเข้าชิดหัวเตียงมากยิ่งขึ้น ดูทีที่อีกฝ่ายห่างๆ

    "เพื่อความปลอดภัยของเธอ" หือ....

    "มันอะไรยังไงกันแน่ ฉันไม่เข้าใจ"ผ้าพันแผลบนแขนของเธอ กับเตียงสีขาวสะอาด แล้วยังทิฟฟานี่ที่บอกว่าเป็นผู้มีพระคุณของเธอหลังจากที่เธอถูกตามไล่ล่า นี่มันอะไรกัน

    ทิฟฟานี่ค่อยๆนั่งลงบนเตียงของเธอ นี่เป็นครั้งแรกที่แทยอนได้ใกล้ชิดกับตัวจริงของนางในฝันมากขนาดนี้ นึกแล้วใจเธอก็เริ่มเต้นแรงอีกคราว เป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาเห็นหน้าทิฟฟานี่ในห้องนี้ "เธอบอกเองว่าถ้าฉันไม่อยากตอบ เธอก็จะไม่ถาม"

    อ่า...แทยอนจะพยายามมองโลกในแง่ดีว่าทิฟฟานี่ไม่ได้ตั้งใจจะกวนประสาทเธอ รอยยิ้มยียวนบางๆบนใบหน้านั่นก็ด้วย เธอคงจะตาลายจากยากล่อมประสาท เธอเกือบจะเผลอแยกเขี้ยวใส่ผู้มีพระคุณซะแล้วล่ะ

    "ก็ได้... อย่างนั้นก็ได้"

    "ดีแล้ว"

    "ฉันประชด!!!"
    เธอไม่ได้ตาลายแล้วล่ะ ทิฟฟานี่หัวเราะเยาะเธอจริงๆ เดี๋ยวก็ถีบตรงเตียงซะนี่... ถึงเธอจะแผลเต็มตัวพันผ้าเกือบครึ่งนึงของมัมมี่แต่เชื่อเถอะว่าตอนนี้เธอมีแรงมากกว่าทิฟฟานี่ซากศพแหงๆ อะโห่..เก็บแรงไว้เดินออกจากห้องเถอะ

    "ตกลงเธอจะไม่ตอบใช่มั้ย"
     
    "มันยังไม่ถึงเวลา"
    พูดจบร่างของทิฟฟานี่ก็โอนเอนมาทางเธอ แทยอนเผลอยื่นแขน ขยับตัวเข้าไปรับอีกฝ่าย "เวลาอะไร เฮ้!!ฟานี่ ทิฟฟานี่"
    ร่างหอมๆนิ่มๆของทิฟฟานี่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ ถึงมันจะเย็นไปหน่อยก็เถอะ แต่ดูท่าทางว่าทิฟฟานี่คงหมดแรงซะแล้ว คำถามของเธอคงจะไม่ได้รับคำตอบแน่ๆ ถึงเธอจะแอบยิ้มกับการได้แนบชิดกับทิฟฟานี่ก็เถอะ แต่มันคงจะไม่ใช่เวลามาซาบซึ้งในขณะที่แขนของเธอปวดจนแทบจะหลุดแบบนี้ 

    "แอร๊ย!!! ไม่เจียมสังขารจริงจริ๊งคิมแท"

    เรียกหมอมาใส่เฝือกเธอทีเถอะ




    ขณะนี้แทยอนอพยพร่างของตัวเองลงมานั่งยืดแข้งยืดขาอยู่ข้างเตียงซะแล้ว เธอเบนสายตาไปมองทิฟฟานี่บนเตียง จากการสังเกต(อย่างละเอียดม๊ากมาก)เมื่อกี๊ เสียงของทิฟฟานี่มันไม่ใช่โทนเดียวกันกับเสียงหลอนๆที่ดังไล่หลังเธอมาในตอนนั้น ดวงตาของทิฟฟานี่ก็สีทองเหมือนกับผมยาวลอนใหญ่ๆนั่นไม่ใช่สีแดง ถ้าอย่างนั้นที่ทิฟฟานี่พูดมาก็คงจริง

    ชั่ววูบเธอเผลอคิดว่านี่มันอาจจะเป็นพรหมลิขิต "ฉันช่วยเธอมาเยอะแล้ว คราวนี้เธอก็ช่วยฉันบ้างเถอะ" เธอหันไปพูดกับร่างไร้สติของทิฟฟานี่ 
    แหม...ก็ถ้ามันเป็นไปตามในฝัน เธอก็ตายแทนยัยนี่มาตั้งหลายรอบ แค่ช่วยชีวิตเธอรอบนี้รอบเดียวเธอไม่นับเป็นบุญคุณหรอกนะ

    แทยอนขยับผ้าห่มห่มให้อีกฝ่ายสูงขึ้นอีกนิด แตะๆดูร่างกายทิฟฟานี่ก็ยังเย็นเฉียบเหมือนเดิม ดูขนาดตัวเธอที่อุ่นๆแตะเข้าไปยังขนลุกซู่เลยเถอะ
    มองดูใกล้ๆทิฟฟานี่ก็สวยดีแฮะ สวยแปลกๆดี แทยอนคิดว่ามันแปลกจริงๆนะ ไม่ได้อคติ สวยไม่เหมือนมนุษย์มนา สวยพิลึก

    แทยอนก้มลงไปมองใกล้ๆ หลับไปเป็นชั่วโมงทิฟฟานี่ก็ยังไม่ตื่น ลำบากคนป่วยอย่างเธอต้องมาดูแล มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ย จะเช็ดตัวให้ก็ไม่ได้ ตัวเย็นขนาดนี้เอาน้ำเย็นเช็ดอีกคงจะไม่รอด จะออกไปเรียกคนนอกห้องก็ไม่ได้

    "เธอบอกว่าหวังดีกับฉันแล้วจะล็อกประตูเอาไว้ทำไมยะ!!!"

    ไม่ได้พูดเล่นนะเออ มือเธอก็ไม่ค่อยจะมีแรง จะให้ใช้ความรู้ที่มีมาแงะกุญแจแงะลูกเหล็กก็เกรงว่ารอบนี้คงต้องตัดแขนทิ้งซะแล้วล่ะ
    แทยอนทิ้งตัวลงนอนบนพื้นไม้เงาวับ มันคงจะแพงนะ แต่นอนแล้วเย็นชะมัด

    อย่างน้อยสภาพเธอก็ไม่เท่ายูบินล่ะนะ

    นึกถึงยูบิน ภาพนั้นก็ยังคงตามหลอกหลอนเธอ ต่อให้เธอจะมีทักษะในการหลอกตัวเองมากแค่ไหน แต่ครั้งนี้คงต้องยอมรับว่าเพื่อนรักของเธอไม่น่าจะรอด ไอ้พวกนั้นมันคือใคร แล้วมันจะตามฆ่าคนรอบข้างเธอทำไมกัน แล้วมันรู้จักชื่อเธอได้ยังไง แล้วจากนี้ไปชีวิตเธอจะเป็นยังไง

    แทยอนถอนหายใจมองเพดานขาวสะอาด ยูบินตายเพื่อเธอ ...ถ้าเป็นเธอยังไม่รู้เลยว่าจะกล้าทำเพื่อยูบินขนาดนี้มั้ย เธอมันขี้ขลาดจริงๆ 
    ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ยูบินคงไม่ต้องเป็นแบบนี้




    เจ็บ...แทยอนรู้สึกอย่างนั้น เจ็บทั้งตัวมันก็ปกติอยู่แหละนะ แต่นี่เธอไม่ได้ประสบอุบัติเหตุอะไรที่คอสักหน่อย
    แทยอนนิ่วหน้าลืมตาขึ้นสู้แสง เงาตะคุ่มๆบดบังแสงจากโคมไฟเพดานที่สาดส่องมายังตัวเธอ อะไรบางอย่างกำลังทาบทับอยู่บนตัวเธอ
    นาทีนี้ตาเธอแหกขึ้นมากกว่า อย่าบอกนะว่าคิมแทโดนลักหลับ ไม่นะ!!
    แทยอนรวบรวมสติผลักคนข้างบนออกเต็มแรง ยันตัวเองขึ้น มือข้างซ้ายของเธอยกขึ้นกุมลำคอที่เจ็บอยู่
    มองไปยังคนที่เธอคิดว่าเพลียมาก ...ทิฟฟานี่นั่งลงอยู่บนพื้นห่างจากเธอไม่มากนัก ตาของทิฟฟานี่ก็เบิกกว้างตกใจไม่แพ้กันกับเธอ
    คงต่างกันที่ขอบริมฝีปากของทิฟฟานี่เต็มไปด้วยคราบเลือด

    "เธอจะข่มขื่นฉันหรอฮะ!!!"
    สาบานได้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะพูดคำนี้ออกไป ความตกใจมันผลักดันจริงๆนะ เธอไม่ได้คิดอกุศลเลย

    หึ... นั่นก็ไม่ใช่เสียงหัวเราะของเธอ

    แทยอนมองทิฟฟานี่ที่หัวเราะในลำคอ เธอไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย ก็ท่าทางแบบนั้น
    ..แทยอนรู้สึกได้ถึงของเหลวที่แฉะอยู่บนมือข้างซ้าย อี๋...คงไม่ใช่น้ำลายของทิฟฟานี่หรอกนะ

    เธอเลิกฟุ้งซ่านเอามือออกจากลำคอออกมาดูใหชัดๆ ของเหลวสีแดงที่ออกมาจากลำคอ มันจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก..กรี๊ด!!! "เลือด!!!"





    "ฟื้นแล้วงั้นหรอ"
    เสียงแรกที่เธอได้ยินหลังจากลืมตาขึ้นมาก็คือเสียงที่เธอจะบันทึกใส่สมองเอาไว้อย่างดีว่ามันคือเสียงสยองอันดับสองในชีวิตของเธอ
    แทยอนหันขวับมองทิฟฟานี่ยัยโรคจิต หรืออาจจะเป็นผีดับ ยัยนั่นที่ในภาพความทรงจำล่าสุดคือคนที่งับคอของเธอ

    "เธอ...เธอ ทิฟฟานี่!!!" แทยอนถดตัวด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ไปให้ห่างจากยัยนี่ให้มากที่สุด
     ทิฟฟานี่ไม่ได้ก้าวเข้ามา ใบหน้าระรื่น..ระรื่นจริงๆนะ ไม่ได้ซีดเหมือนก่อนหน้านี้เลยสักนิด ริมฝีปากนั่นก็ดูมีสีสันขึ้นมา

    "เธอเป็นผีดิบใช่มั้ย!!!" ขณะนี้หมอนที่ใช้หนุนหัวถูกเธอดึงมากอดไว้ในอ้อมอกซะแล้ว
    ไม่มีกระเทียม ไม่มีไม้กางเขน สภาพก็ไม่เอื้ออำนวยให้วิ่งหนี ตายสมใจอยากแน่คิมแท!!!

    เรียวขายาวสวยภายใต้กางเกงขาสั้นก้าวฉับๆเข้ามาที่เธอ โอ้ก้อด...ยัยนี่เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันทั้งๆที่เธอแทบจะไม่มีแรงขยับอีกแล้วด้วยซ้ำ

    มือบางขยำหมอนในอ้อมแขน จ้องใบหน้าสวยจัดนั่น ทิฟฟานี่กำลังขยับปากพูดอะไรสักอย่าง "สติไม่ดีรึไง"
    หา... แทยอนกระพริบตาปริบๆ 

    "เธอเป็นหนี้ชีวิตฉันแล้วยังมีหน้ามาพูดแบบนี้กับฉันอีกงั้นหรอ" เสียงเข้มๆนั่นฟังดูน่ากลัว ใบหน้าของทิฟฟานี่ก็บ่งบอกว่าจริงจังกับคำพูดนี้มากแค่ไหน

    "ไม่ๆ ฉันไม่ได้เพ้อเจ้อ ก็เมื่อกี๊เธอกัดคอฉัน เธอ..."

    "เธอพึ่งฟื้นหลังจากที่ฉันช่วยเธอมา ฉันจะไปกัดคอเธอตอนไหน" แทยอนมึนงงกับอีกรอบกับประโยคที่ทิฟฟานี่โพล่งขัดเธอออกมา เธอพึ่งฟื้นงั้นหรอ แล้วเมื่อกี๊เธอเพ้อเจ้องั้นหรอ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆน่ะหรอ
    มันอาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ เพราะเธอพึ่งเจอเรื่องร้ายๆมานี่หน่า

    "เพ้อเจ้อ...กินข้าวต้มซะ"
    ทิฟฟานี่คว้าชามข้าวต้มที่มาตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงของเธอเมื่อไหร่ก็ไม่รู้มายื่นให้เธอ
    แทยอนยื่นมือรับกล้าๆกลัวๆ พอเจอสายตาดุดันนั่นเท่านั้นแหละเธอถึงได้ล้มเลิกความคิดไร้สาระซะ

    "รีบๆหายล่ะ" ทิฟฟานี่ถอยห่างจากเธอไปอีกแล้ว ท่วงท่าการเดินของทิฟฟานี่ แผ่นหลังของทิฟฟานี่ยังถูกเธอจดจ้องอยู่ มันดูดีจริงๆ ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆก็เถอะ จนกระทั่งเจอประโยคสุดท้ายก่อนที่รองเท้าสลิปเปอร์ของทิฟฟานี่จะก้าวพ้นห้องไปนั่นแหละถึงทำให้เธอหยุดคิดชื่นชม
    "เธอจะได้มาทำตัวให้เป็นประโยชน์ ใช้หนี้ฉัน"




    ทิฟฟานี่พาร่างของตัวเองลงมายังชั้นล่างของคฤหาสน์ด้วยเวลาเพียงไม่นาน เธอหัวเราะกับใบหน้าเอ๋อๆและคำพูดประหลาดๆที่มันออกมาจากปากเด็กที่เธอรับอุปการะใหม่อีกคน เดินผ่านรูปภาพในกรอบทองใบใหญ่ประจำบ้าน ชำเลืองมองเพียงครู่ "คงต้องถ่ายใหม่ซะแล้วล่ะมั้ง"
     
    ภาพเธอบนโซฟาขนาบข้างด้วยหญิงสาวภาพลักษณ์ต่างกันสามคน และร่างสูงใหญ่ซึ่งยืนอยู่หลังโซฟาด้วยท่าทีสุขุมน่าชื่นชม

    "วันนี้คุณหนูดูอารมณ์ดีจังเลยนะคะ"

    "คะ"
    ทิฟฟานี่ขานรับหญิงวัยกลางคนในชุดแม่บ้าน เธอดูอารมณ์ดีงั้นหรอ 

    "ปกติหน้าบึ้งทั้งวัน วันนี้สิแปลก"

    "ไม่เห็นจะแปลกเลยค่ะแม่นม"
    เห็นท่าทางที่บ่งบอกว่าไม่เชื่อของอีกคน ทิฟฟานี่เลยหันหลังตั้งใจจะไปดูจดหมายที่คั่งค้างในห้องทำงาน

    "คุณหนูคงติดใจเด็กคนใหม่แล้วสินะคะ"
    ทิฟฟานี่หยุดชะงัก ในที่นี้มีแค่แม่นมเท่านั้นที่รู้ว่าเธอพาคนแปลกหน้าเข้ามาแต่ไม่ได้รู้ลงลึกไปถึงรายละเอียด เธอเองก็ไม่ได้คิดจะบอกอะไรไปมากกว่าการที่ว่าคิมแทยอนเป็นพวกเดียวกันที่เธอรับมาอุปการะคนใหม่ เธอจะให้คนอื่นรู้ได้ไงกันว่า...

    "ไม่ได้สนใจเลยสักนิด"
    เธอกำลังทำลายสัญญาพันธมิตรลงไปด้วยความตั้งใจ

    ยังไงคนพวกนั้นคงไม่รู้...ไม่มีวันได้รู้ว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการอยู่ในเงื้อมมือของเธอแล้ว
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×