ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 เรื่องที่ค้างคาใจ
หนึ่งเดือนเต็มๆที่ "คิม รยออุค" ใช้ชีวิตนักแต่งเพลงอาชีพอย่างปกติสุขที่สุด ปกติมากซะจนแม้แต่ตัวเขาเองยังแปลกใจ มันเป็นเพราะผลงานของเขาได้รับความนิยมอย่างมากจากแฟนๆของศิลปินหน้าใหม่นิสัยดีอย่างฮยองชิก หรือเป็นเพราะช่วงนี้ไม่มี "เขา"
เขาไม่เคยหายหน้าไปนานขนาดนี้มาก่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อน....แค่เขาหายไปสักอาทิตย์สองอาทิตย์ รยออุคก็กระวนกระวายจนแทบอยู่ไม่เป็นสุข แต่ตอนนี้ความรู้สึกกลับไม่เหมือนเคย
"ชั้นจะไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนนะ คราวนี้ว่าจะไปหลายประเทศ เที่ยวไปเรื่อยๆไม่มีกำหนดกลับ" คยูฮยอนพูดเสียงเรียบ
"ครับ" รยออุคเอ่ยรับเพียงสั้นๆ แน่นอนว่าคยูฮยอนเองก็ไม่ได้พูดอะไรนอกเหนือจากนั้นอีกเลย แม้กระทั่งคำว่า "ไปล่ะนะ" ในวันเดินทาง
วันนั้นรยออุคยืนมองแผ่นหลังกว้างที่ค่อยๆห่างออกไปจนลับตา แล้วกลับมานั่งจมอยู่กับความเงียบเพียงลำพัง เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่แบบนั้นนานแค่ไหน ในความรู้สึกท้อแท้ เสียใจ น้อยใจ มันมีความรู้สึกบางอย่างมันแทรกซึมเข้ามาในความรู้สึกที่โหวงเหวงไร้ที่ยึดเหนี่ยว
กล่องสี่เหลี่ยมสีม่วงสดใสถูกนำมาวางบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม รยออุคเปิดฝากล่องอย่างเบามือ เผยให้เห็นกระดาษโน๊ต ซองจดหมาย ดอกไม้ ของกระจุกกระจิกมากมายที่บรรจุอยู่ในนั้น เขาค่อยๆหยิบพวกมันออกมาทีละชิ้นๆหลายครั้งที่เผลอยิ้มให้ลายมือขยุกขยิกบนกระดาษอย่างลืมตัว รยออุคตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เก็บมันไว้ที่นี่อีก ต่อจากนี้ไป เขาจะไม่ใช้สิ่งนี้มายึดเหนี่ยวตัวเองไว้อีกต่อไป
................................................................
เสียงเรียกสายที่ดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากแต่ปลายสายก็ยังไม่มีผู้รับ ทำให้คยูฮยอนแทบคลั่งด้วยความโมโห
[ สวัสดีครับ ]
"ทำไมไม่รับสาย!! ทำบ้าอะไรอยู่ห๊ะ!!" เขาตะคอกใส่สุดเสียง
[ ขอโทษครับ ผมอาบน้ำอยู่ก็เลยไม่ได้ยิน ขอโทษจริงๆนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ]
[ คุณคยูฮยอนครับ อย่าโกรธผมเลยนะครับ ผมดีใจนะครับที่ได้ยินเสียงคุณ ]
"....................................................."
[ กลับจากต่างประเทศแล้วเหรอครับ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมจะได้เตรียมไว้รอ ]
"ชั้นไม่อยู่เป็นเดือน เป็นไงบ้างล่ะ"
[ ผมสบายดีครับ เพลงที่ผมให้ศิลปินน้องใหม่ชนะในรายการเพลงด้วยนะครับ แล้วก็แต่งเพลงใหม่ได้อีกตั้งหลายเพลงแหนะครับ ]
"หึหึ..ชั้นไม่อยู่เดือนเดียว รุ่งเรืองจังนะ นี่ถ้าชีวิตนายไม่มีฉัน คงได้เป็นถึงโปรดิวเซอร์เลยล่ะซิ"
[...............................................................]
"เงียบทำไม!!! นายต้องการสื่ออย่างนั้นไม่ใช่เหรอ ชีวิตที่ไม่มีชั้นมันสุขกายสบายใจซะขนาดนั้นนี่"
[ เลิกทำร้ายผมด้วยคำพูดแบบนี้ซะทีเถอะครับ ผมไม่ได้คิดอย่างที่คุณพูดเลยสักนิด ] ปลายสายเสียงสั่นเครืออย่างชัดเจน คยูฮยอนกัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์ของตนเอง
[ เย็นนี้ผมจะทำอาหารอร่อยๆไว้รอนะครับ มานะครับ ]
"ชั้นแค่จะโทรมาบอกว่าชั้นกลับมาแล้วแต่จะอยู่ร่วมงานเลี้ยงใหญ่ที่บ้านก่อน น่าจะจัดสามวันสามคืนเลยล่ะมั๊ง กำลังเที่ยวเพลินๆแท้ๆ ไม่กลับมาก็ไม่ได้ เห็นว่าเชิญคุณนายคุณหนูมาให้ดูตัวเพียบเลย ขืนไม่กลับมา คุณแม่โกรธตายเลย"
[ อ่อ...ครับ ]
"อืม..ถ้างั้นแค่นี้นะ ชั้นยุ่งอยู่" พูดจบเขาก็วางสายทันที โดยไม่รอว่าปลายสายจะตอบกลับว่ายังไง
อยากรู้นักว่านายจะทนได้นานสักแค่ไหน คิม รยออุค!!
.....................................................................
เกลียด!! เกลียด!! เกลียด!!
ชั้นอยากเห็นนายเจ็บปวด อยากเห็นนายทุกข์ทรมาน อยากเห็นนายร้องไห้ อยากเห็นน้ำตาของนาย อยากได้ยินเสียงสะอื้นของนาย ทำขนาดนี้แล้วมันยังน้อยไปใช่ไหม!!!! นายมันใจแข็งเกินไปแล้วนะ คิม รยออุค!!
.............................................................
"คนดีของแม่ กำลังคิดอะไรอยู่จ๊ะ หน้ามุ่ยเชียว" เสียงอ่อนโยนที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ยินเรียกสติของเขากลับมาอีกครั้ง
"คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะครับคุณแม่" เขายิ้มเนือยๆ ผู้ผ่านชีวิตมามากกว่านั่งลงข้างลูกชายแล้วโอบกอดอย่างอ่อนโยน
"ลูกรักของแม่ ลูกแม่คิดอะไร ทำไมแม่จะไม่รู้ อย่าได้เอาความรู้สึกเสียใจในอดีตมาแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นในปัจจุบันจะได้ไหมลูก การที่เราเสียคนๆหนึ่งไป แล้วพระเจ้าได้ประทานคนๆหนึ่งมาให้เรา นั่นเพราะพระเจ้าได้ลิขิตชีวิตของลูกไว้แล้ว เลือกอยู่กับปัจจุบันเพื่ออนาคตที่มีความสุขเถอะนะลูก"
"ผมทำไม่ได้ครับแม่ ผมทำไม่ได้" เสียงที่สั่นเครือ ขอบตาที่ร้อนผ่าว มันคือความอ่อนแอที่เขาไม่อาจเก็บกลั้นไว้ได้ทุกครั้งที่อยู่ใกล้ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในชีวิต
"แม่อยากให้ลูกมีความสุขนะ ถ้าลูกจมอยู่กับอดีต ลูกก็จะมีปัจจุบันที่มีแต่ความทุกข์ แล้วลูกกับคนๆนั้นจะมีอนาคตที่มีความสุขร่วมกันได้ยังไง"
"นั่นล่ะครับที่ผมต้องการ ผมไม่มีความสุข คนอื่นก็ต้องไม่มีความสุขด้วย!!"
"ลูกแม่~" มารดาดึงลูกชายเข้ามากอดไว้แน่น ร่างสูงสั่นเทาอย่างกับลูกนกที่ซุกใต้ปีกที่อ่อนโยนของแม่นก
..........................................................................
คยูฮยอนหยุดหน้าประตูห้องชุดสุดหรูเพียงอึดใจก็เปิดเข้าไปพร้อมใบหน้าที่เฉยชา เขากวาดสายตามองจนทั่วก็พบเพียงความว่างเปล่า เขาจึงเดินตรงไปที่ห้องขนาดเล็กที่รยออุคมักหมกตัวอยู่ในนั้นเสมอ แล้วเมื่อเขาผลักประตูเข้าไป.............
"รยออุค!!" เขากระชากเสียงใส่ทันทีที่ดึงหูฟังออกจากเจ้าของของมันได้
"คุณคยูฮยอน! ขะ..ขอโทษครับ ผมไม่ทราบว่าคุณจะมาก็เลย.............."
"พอๆไม่ต้องอธิบาย ไปทำอะไรให้กินหน่อย ชั้นหิว!!"
"ดะได้ครับ รอสักครู่นะครับ"
ร่างเล็กวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ คยูฮยอนเดินตามออกไปเอนหลังรอที่โซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างครุ่นคิด เพียงครู่เดียวสปาเก็ตตี้ไวท์ซอสร้อนๆกลิ่นหอมฉุยก็ถูกยกมาเสิร์ฟ คยูฮยอนลงมือทานทันทีอย่างไม่รีรอ
"ผมไปทำความสะอาดในครัวก่อนนะครับ มีอะไรก็เรียกผมได้"
"อย่าเพิ่งไป"
"มีอะไรรึเปล่าครับ"
"มี"
รยออุคนั่งลงที่โซฟาตัวเล็กด้านข้างอย่างเงียบเชียบ
"ชั้นเจอคนที่ถูกใจล่ะนะ เธอสวยอย่างกะนางฟ้า รูปร่างดี มีการศึกษาสูง มีชาติตะกูลดี คุยกันถูกคอ เข้ากันได้ทุกเรื่อง ชั้นเลยตกลงคบกับเธอเรียบร้อยแล้ว คุณแม่บอกว่าให้ลองดูใจกันสักสามเดือน ถ้าไปด้วยกันได้ดี ท่านก็จะจัดงานแต่งงานให้ ซึ่งชั้นว่าเธอก็ถูกใจชั้นทุกอย่าง ให้แต่งเลยก็ยังได้"
"แต่ชั้นไม่ยอมเลิกกับนายหรอกนะ ถ้าได้แต่งงานกันจริงๆ ชั้นก็อยากจะทะนุถนอมเจ้าสาวที่จะเป็นแม่ของลูกชั้นในอนาคตให้ดีที่สุด อยากให้เธองดงามอย่างนี้ตลอดไป ถึงวันนึงจะมีลูก เธอก็จะต้องเป็นภรรยาและคุณแม่ที่สวยที่สุด"
"ถ้าคุณยังมีผมทั้งๆที่คบกับเธอ ไม่กลัวเธอรู้แล้วจะเสียใจเหรอครับ"
"ก็อย่าให้เธอรู้สิ ถ้านายไม่พูด แล้วเธอจะรู้ได้ยังไง"
"ผมก็แค่พูดเผื่อๆไว้น่ะครับ"
"หึหึหึ....นายลืมไปรึเปล่าว่าเราอยู่ด้วยกันมาเกือบสามปียังไม่มีใครรู้เลย แค่ภรรยาคนเดียวทำไมชั้นจะปิดไม่ได้ ถ้าเธอรู้ก็คงจะมาจากนายคนเดียวน่ะแหละ" คยูฮยอนยิ้มเหยียดอย่างเย็นชา
"นั่นซินะครับ คุณไม่พูด ผมไม่พูด ก็ไม่มีทางที่ใครจะรู้" รยออุคพูดเสียงแผ่ว
"ชั้นรู้ว่านายทำได้นะคิมรยออุค เอาล่ะ..ไปทำอะไรก็ไปเถอะ เดี๋ยวกินเสร็จชั้นจะนอนสักงีบ"
"ครับ" คยูฮยอนมองตามหลังร่างเล็กที่รับคำแล้วเดินหายเข้าไปในครัวอย่างเงียบเชียบ
"ชั้นจะทำให้นายต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าชั้นเป็นร้อยๆเท่า คิม รยออุค"
............................................................................................................
เขาไม่เคยหายหน้าไปนานขนาดนี้มาก่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อน....แค่เขาหายไปสักอาทิตย์สองอาทิตย์ รยออุคก็กระวนกระวายจนแทบอยู่ไม่เป็นสุข แต่ตอนนี้ความรู้สึกกลับไม่เหมือนเคย
"ชั้นจะไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนนะ คราวนี้ว่าจะไปหลายประเทศ เที่ยวไปเรื่อยๆไม่มีกำหนดกลับ" คยูฮยอนพูดเสียงเรียบ
"ครับ" รยออุคเอ่ยรับเพียงสั้นๆ แน่นอนว่าคยูฮยอนเองก็ไม่ได้พูดอะไรนอกเหนือจากนั้นอีกเลย แม้กระทั่งคำว่า "ไปล่ะนะ" ในวันเดินทาง
วันนั้นรยออุคยืนมองแผ่นหลังกว้างที่ค่อยๆห่างออกไปจนลับตา แล้วกลับมานั่งจมอยู่กับความเงียบเพียงลำพัง เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่แบบนั้นนานแค่ไหน ในความรู้สึกท้อแท้ เสียใจ น้อยใจ มันมีความรู้สึกบางอย่างมันแทรกซึมเข้ามาในความรู้สึกที่โหวงเหวงไร้ที่ยึดเหนี่ยว
กล่องสี่เหลี่ยมสีม่วงสดใสถูกนำมาวางบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม รยออุคเปิดฝากล่องอย่างเบามือ เผยให้เห็นกระดาษโน๊ต ซองจดหมาย ดอกไม้ ของกระจุกกระจิกมากมายที่บรรจุอยู่ในนั้น เขาค่อยๆหยิบพวกมันออกมาทีละชิ้นๆหลายครั้งที่เผลอยิ้มให้ลายมือขยุกขยิกบนกระดาษอย่างลืมตัว รยออุคตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เก็บมันไว้ที่นี่อีก ต่อจากนี้ไป เขาจะไม่ใช้สิ่งนี้มายึดเหนี่ยวตัวเองไว้อีกต่อไป
................................................................
เสียงเรียกสายที่ดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากแต่ปลายสายก็ยังไม่มีผู้รับ ทำให้คยูฮยอนแทบคลั่งด้วยความโมโห
[ สวัสดีครับ ]
"ทำไมไม่รับสาย!! ทำบ้าอะไรอยู่ห๊ะ!!" เขาตะคอกใส่สุดเสียง
[ ขอโทษครับ ผมอาบน้ำอยู่ก็เลยไม่ได้ยิน ขอโทษจริงๆนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ]
[ คุณคยูฮยอนครับ อย่าโกรธผมเลยนะครับ ผมดีใจนะครับที่ได้ยินเสียงคุณ ]
"....................................................."
[ กลับจากต่างประเทศแล้วเหรอครับ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมจะได้เตรียมไว้รอ ]
"ชั้นไม่อยู่เป็นเดือน เป็นไงบ้างล่ะ"
[ ผมสบายดีครับ เพลงที่ผมให้ศิลปินน้องใหม่ชนะในรายการเพลงด้วยนะครับ แล้วก็แต่งเพลงใหม่ได้อีกตั้งหลายเพลงแหนะครับ ]
"หึหึ..ชั้นไม่อยู่เดือนเดียว รุ่งเรืองจังนะ นี่ถ้าชีวิตนายไม่มีฉัน คงได้เป็นถึงโปรดิวเซอร์เลยล่ะซิ"
[...............................................................]
"เงียบทำไม!!! นายต้องการสื่ออย่างนั้นไม่ใช่เหรอ ชีวิตที่ไม่มีชั้นมันสุขกายสบายใจซะขนาดนั้นนี่"
[ เลิกทำร้ายผมด้วยคำพูดแบบนี้ซะทีเถอะครับ ผมไม่ได้คิดอย่างที่คุณพูดเลยสักนิด ] ปลายสายเสียงสั่นเครืออย่างชัดเจน คยูฮยอนกัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์ของตนเอง
[ เย็นนี้ผมจะทำอาหารอร่อยๆไว้รอนะครับ มานะครับ ]
"ชั้นแค่จะโทรมาบอกว่าชั้นกลับมาแล้วแต่จะอยู่ร่วมงานเลี้ยงใหญ่ที่บ้านก่อน น่าจะจัดสามวันสามคืนเลยล่ะมั๊ง กำลังเที่ยวเพลินๆแท้ๆ ไม่กลับมาก็ไม่ได้ เห็นว่าเชิญคุณนายคุณหนูมาให้ดูตัวเพียบเลย ขืนไม่กลับมา คุณแม่โกรธตายเลย"
[ อ่อ...ครับ ]
"อืม..ถ้างั้นแค่นี้นะ ชั้นยุ่งอยู่" พูดจบเขาก็วางสายทันที โดยไม่รอว่าปลายสายจะตอบกลับว่ายังไง
อยากรู้นักว่านายจะทนได้นานสักแค่ไหน คิม รยออุค!!
.....................................................................
เกลียด!! เกลียด!! เกลียด!!
ชั้นอยากเห็นนายเจ็บปวด อยากเห็นนายทุกข์ทรมาน อยากเห็นนายร้องไห้ อยากเห็นน้ำตาของนาย อยากได้ยินเสียงสะอื้นของนาย ทำขนาดนี้แล้วมันยังน้อยไปใช่ไหม!!!! นายมันใจแข็งเกินไปแล้วนะ คิม รยออุค!!
.............................................................
"คนดีของแม่ กำลังคิดอะไรอยู่จ๊ะ หน้ามุ่ยเชียว" เสียงอ่อนโยนที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ยินเรียกสติของเขากลับมาอีกครั้ง
"คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะครับคุณแม่" เขายิ้มเนือยๆ ผู้ผ่านชีวิตมามากกว่านั่งลงข้างลูกชายแล้วโอบกอดอย่างอ่อนโยน
"ลูกรักของแม่ ลูกแม่คิดอะไร ทำไมแม่จะไม่รู้ อย่าได้เอาความรู้สึกเสียใจในอดีตมาแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นในปัจจุบันจะได้ไหมลูก การที่เราเสียคนๆหนึ่งไป แล้วพระเจ้าได้ประทานคนๆหนึ่งมาให้เรา นั่นเพราะพระเจ้าได้ลิขิตชีวิตของลูกไว้แล้ว เลือกอยู่กับปัจจุบันเพื่ออนาคตที่มีความสุขเถอะนะลูก"
"ผมทำไม่ได้ครับแม่ ผมทำไม่ได้" เสียงที่สั่นเครือ ขอบตาที่ร้อนผ่าว มันคือความอ่อนแอที่เขาไม่อาจเก็บกลั้นไว้ได้ทุกครั้งที่อยู่ใกล้ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในชีวิต
"แม่อยากให้ลูกมีความสุขนะ ถ้าลูกจมอยู่กับอดีต ลูกก็จะมีปัจจุบันที่มีแต่ความทุกข์ แล้วลูกกับคนๆนั้นจะมีอนาคตที่มีความสุขร่วมกันได้ยังไง"
"นั่นล่ะครับที่ผมต้องการ ผมไม่มีความสุข คนอื่นก็ต้องไม่มีความสุขด้วย!!"
"ลูกแม่~" มารดาดึงลูกชายเข้ามากอดไว้แน่น ร่างสูงสั่นเทาอย่างกับลูกนกที่ซุกใต้ปีกที่อ่อนโยนของแม่นก
..........................................................................
คยูฮยอนหยุดหน้าประตูห้องชุดสุดหรูเพียงอึดใจก็เปิดเข้าไปพร้อมใบหน้าที่เฉยชา เขากวาดสายตามองจนทั่วก็พบเพียงความว่างเปล่า เขาจึงเดินตรงไปที่ห้องขนาดเล็กที่รยออุคมักหมกตัวอยู่ในนั้นเสมอ แล้วเมื่อเขาผลักประตูเข้าไป.............
"รยออุค!!" เขากระชากเสียงใส่ทันทีที่ดึงหูฟังออกจากเจ้าของของมันได้
"คุณคยูฮยอน! ขะ..ขอโทษครับ ผมไม่ทราบว่าคุณจะมาก็เลย.............."
"พอๆไม่ต้องอธิบาย ไปทำอะไรให้กินหน่อย ชั้นหิว!!"
"ดะได้ครับ รอสักครู่นะครับ"
ร่างเล็กวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ คยูฮยอนเดินตามออกไปเอนหลังรอที่โซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างครุ่นคิด เพียงครู่เดียวสปาเก็ตตี้ไวท์ซอสร้อนๆกลิ่นหอมฉุยก็ถูกยกมาเสิร์ฟ คยูฮยอนลงมือทานทันทีอย่างไม่รีรอ
"ผมไปทำความสะอาดในครัวก่อนนะครับ มีอะไรก็เรียกผมได้"
"อย่าเพิ่งไป"
"มีอะไรรึเปล่าครับ"
"มี"
รยออุคนั่งลงที่โซฟาตัวเล็กด้านข้างอย่างเงียบเชียบ
"ชั้นเจอคนที่ถูกใจล่ะนะ เธอสวยอย่างกะนางฟ้า รูปร่างดี มีการศึกษาสูง มีชาติตะกูลดี คุยกันถูกคอ เข้ากันได้ทุกเรื่อง ชั้นเลยตกลงคบกับเธอเรียบร้อยแล้ว คุณแม่บอกว่าให้ลองดูใจกันสักสามเดือน ถ้าไปด้วยกันได้ดี ท่านก็จะจัดงานแต่งงานให้ ซึ่งชั้นว่าเธอก็ถูกใจชั้นทุกอย่าง ให้แต่งเลยก็ยังได้"
"แต่ชั้นไม่ยอมเลิกกับนายหรอกนะ ถ้าได้แต่งงานกันจริงๆ ชั้นก็อยากจะทะนุถนอมเจ้าสาวที่จะเป็นแม่ของลูกชั้นในอนาคตให้ดีที่สุด อยากให้เธองดงามอย่างนี้ตลอดไป ถึงวันนึงจะมีลูก เธอก็จะต้องเป็นภรรยาและคุณแม่ที่สวยที่สุด"
"ถ้าคุณยังมีผมทั้งๆที่คบกับเธอ ไม่กลัวเธอรู้แล้วจะเสียใจเหรอครับ"
"ก็อย่าให้เธอรู้สิ ถ้านายไม่พูด แล้วเธอจะรู้ได้ยังไง"
"ผมก็แค่พูดเผื่อๆไว้น่ะครับ"
"หึหึหึ....นายลืมไปรึเปล่าว่าเราอยู่ด้วยกันมาเกือบสามปียังไม่มีใครรู้เลย แค่ภรรยาคนเดียวทำไมชั้นจะปิดไม่ได้ ถ้าเธอรู้ก็คงจะมาจากนายคนเดียวน่ะแหละ" คยูฮยอนยิ้มเหยียดอย่างเย็นชา
"นั่นซินะครับ คุณไม่พูด ผมไม่พูด ก็ไม่มีทางที่ใครจะรู้" รยออุคพูดเสียงแผ่ว
"ชั้นรู้ว่านายทำได้นะคิมรยออุค เอาล่ะ..ไปทำอะไรก็ไปเถอะ เดี๋ยวกินเสร็จชั้นจะนอนสักงีบ"
"ครับ" คยูฮยอนมองตามหลังร่างเล็กที่รับคำแล้วเดินหายเข้าไปในครัวอย่างเงียบเชียบ
"ชั้นจะทำให้นายต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าชั้นเป็นร้อยๆเท่า คิม รยออุค"
............................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น