ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Please forgive me.

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2 เรื่องที่ค้างคาใจ

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 57


                 หนึ่งเดือนเต็มๆที่ "คิม รยออุค" ใช้ชีวิตนักแต่งเพลงอาชีพอย่างปกติสุขที่สุด ปกติมากซะจนแม้แต่ตัวเขาเองยังแปลกใจ มันเป็นเพราะผลงานของเขาได้รับความนิยมอย่างมากจากแฟนๆของศิลปินหน้าใหม่นิสัยดีอย่างฮยองชิก หรือเป็นเพราะช่วงนี้ไม่มี "เขา"
         
                เขาไม่เคยหายหน้าไปนานขนาดนี้มาก่อน ถ้าเป็นเมื่อก่อน....แค่เขาหายไปสักอาทิตย์สองอาทิตย์ รยออุคก็กระวนกระวายจนแทบอยู่ไม่เป็นสุข แต่ตอนนี้ความรู้สึกกลับไม่เหมือนเคย 
         
               "ชั้นจะไปเที่ยวต่างประเทศกับเพื่อนนะ คราวนี้ว่าจะไปหลายประเทศ เที่ยวไปเรื่อยๆไม่มีกำหนดกลับ" คยูฮยอนพูดเสียงเรียบ
         
              "ครับ" รยออุคเอ่ยรับเพียงสั้นๆ แน่นอนว่าคยูฮยอนเองก็ไม่ได้พูดอะไรนอกเหนือจากนั้นอีกเลย แม้กระทั่งคำว่า "ไปล่ะนะ" ในวันเดินทาง
         
              วันนั้นรยออุคยืนมองแผ่นหลังกว้างที่ค่อยๆห่างออกไปจนลับตา แล้วกลับมานั่งจมอยู่กับความเงียบเพียงลำพัง เขาไม่รู้ว่าเขาอยู่แบบนั้นนานแค่ไหน ในความรู้สึกท้อแท้ เสียใจ น้อยใจ มันมีความรู้สึกบางอย่างมันแทรกซึมเข้ามาในความรู้สึกที่โหวงเหวงไร้ที่ยึดเหนี่ยว
            
             กล่องสี่เหลี่ยมสีม่วงสดใสถูกนำมาวางบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม รยออุคเปิดฝากล่องอย่างเบามือ เผยให้เห็นกระดาษโน๊ต ซองจดหมาย ดอกไม้ ของกระจุกกระจิกมากมายที่บรรจุอยู่ในนั้น เขาค่อยๆหยิบพวกมันออกมาทีละชิ้นๆหลายครั้งที่เผลอยิ้มให้ลายมือขยุกขยิกบนกระดาษอย่างลืมตัว รยออุคตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เก็บมันไว้ที่นี่อีก ต่อจากนี้ไป เขาจะไม่ใช้สิ่งนี้มายึดเหนี่ยวตัวเองไว้อีกต่อไป

                                           ................................................................

              เสียงเรียกสายที่ดังซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากแต่ปลายสายก็ยังไม่มีผู้รับ ทำให้คยูฮยอนแทบคลั่งด้วยความโมโห

              [ สวัสดีครับ ]
     
              "
    ทำไมไม่รับสาย!! 
    ทำบ้าอะไรอยู่ห๊ะ!!" เขาตะคอกใส่สุดเสียง

              [ ขอโทษครับ ผมอาบน้ำอยู่ก็เลยไม่ได้ยิน ขอโทษจริงๆนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ]

              [ คุณคยูฮยอนครับ อย่าโกรธผมเลยนะครับ ผมดีใจนะครับที่ได้ยินเสียงคุณ ]

              "....................................................."

              [ กลับจากต่างประเทศแล้วเหรอครับ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ ผมจะได้เตรียมไว้รอ ]

              "ชั้นไม่อยู่เป็นเดือน เป็นไงบ้างล่ะ"

              [ ผมสบายดีครับ เพลงที่ผมให้ศิลปินน้องใหม่ชนะในรายการเพลงด้วยนะครับ แล้วก็แต่งเพลงใหม่ได้อีกตั้งหลายเพลงแหนะครับ ]

              "หึหึ..ชั้นไม่อยู่เดือนเดียว รุ่งเรืองจังนะ นี่ถ้าชีวิตนายไม่มีฉัน คงได้เป็นถึงโปรดิวเซอร์เลยล่ะซิ"

              [...............................................................]

              "เงียบทำไม!!! นายต้องการสื่ออย่างนั้นไม่ใช่เหรอ ชีวิตที่ไม่มีชั้นมันสุขกายสบายใจซะขนาดนั้นนี่"

              [ เลิกทำร้ายผมด้วยคำพูดแบบนี้ซะทีเถอะครับ ผมไม่ได้คิดอย่างที่คุณพูดเลยสักนิด ] ปลายสายเสียงสั่นเครืออย่างชัดเจน คยูฮยอนกัดฟันแน่นเพื่อระงับอารมณ์ของตนเอง

              [ เย็นนี้ผมจะทำอาหารอร่อยๆไว้รอนะครับ มานะครับ ]

              "ชั้นแค่จะโทรมาบอกว่าชั้นกลับมาแล้วแต่จะอยู่ร่วมงานเลี้ยงใหญ่ที่บ้านก่อน น่าจะจัดสามวันสามคืนเลยล่ะมั๊ง กำลังเที่ยวเพลินๆแท้ๆ ไม่กลับมาก็ไม่ได้ เห็นว่าเชิญคุณนายคุณหนูมาให้ดูตัวเพียบเลย ขืนไม่กลับมา คุณแม่โกรธตายเลย"

              [ อ่อ...ครับ ]

              "อืม..ถ้างั้นแค่นี้นะ ชั้นยุ่งอยู่" พูดจบเขาก็วางสายทันที โดยไม่รอว่าปลายสายจะตอบกลับว่ายังไง 

                                   อยากรู้นักว่านายจะทนได้นานสักแค่ไหน คิม รยออุค!! 

                                                .....................................................................


    เกลียด!! เกลียด!! เกลียด!! 

                 ชั้นอยากเห็นนายเจ็บปวด อยากเห็นนายทุกข์ทรมาน อยากเห็นนายร้องไห้ อยากเห็นน้ำตาของนาย อยากได้ยินเสียงสะอื้นของนาย ทำขนาดนี้แล้วมันยังน้อยไปใช่ไหม!!!! นายมันใจแข็งเกินไปแล้วนะ คิม รยออุค!!


                                                             .............................................................


                 
                  "คนดีของแม่ กำลังคิดอะไรอยู่จ๊ะ หน้ามุ่ยเชียว" เสียงอ่อนโยนที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้ยินเรียกสติของเขากลับมาอีกครั้ง

                  "คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะครับคุณแม่" เขายิ้มเนือยๆ ผู้ผ่านชีวิตมามากกว่านั่งลงข้างลูกชายแล้วโอบกอดอย่างอ่อนโยน

                  "ลูกรักของแม่ ลูกแม่คิดอะไร ทำไมแม่จะไม่รู้ อย่าได้เอาความรู้สึกเสียใจในอดีตมาแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธแค้นในปัจจุบันจะได้ไหมลูก การที่เราเสียคนๆหนึ่งไป แล้วพระเจ้าได้ประทานคนๆหนึ่งมาให้เรา นั่นเพราะพระเจ้าได้ลิขิตชีวิตของลูกไว้แล้ว เลือกอยู่กับปัจจุบันเพื่ออนาคตที่มีความสุขเถอะนะลูก"

                   "ผมทำไม่ได้ครับแม่ ผมทำไม่ได้" เสียงที่สั่นเครือ ขอบตาที่ร้อนผ่าว มันคือความอ่อนแอที่เขาไม่อาจเก็บกลั้นไว้ได้ทุกครั้งที่อยู่ใกล้ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในชีวิต

                   "แม่อยากให้ลูกมีความสุขนะ ถ้าลูกจมอยู่กับอดีต ลูกก็จะมีปัจจุบันที่มีแต่ความทุกข์ แล้วลูกกับคนๆนั้นจะมีอนาคตที่มีความสุขร่วมกันได้ยังไง"

                   "นั่นล่ะครับที่ผมต้องการ ผมไม่มีความสุข คนอื่นก็ต้องไม่มีความสุขด้วย!!"

                   
    "ลูกแม่~" มารดาดึงลูกชายเข้ามากอดไว้แน่น ร่างสูงสั่นเทาอย่างกับลูกนกที่ซุกใต้ปีกที่อ่อนโยนของแม่นก

                                                   ..........................................................................

                   คยูฮยอนหยุดหน้าประตูห้องชุดสุดหรูเพียงอึดใจก็เปิดเข้าไปพร้อมใบหน้าที่เฉยชา เขากวาดสายตามองจนทั่วก็พบเพียงความว่างเปล่า เขาจึงเดินตรงไปที่ห้องขนาดเล็กที่รยออุคมักหมกตัวอยู่ในนั้นเสมอ แล้วเมื่อเขาผลักประตูเข้าไป.............

                   "รยออุค!!" เขากระชากเสียงใส่ทันทีที่ดึงหูฟังออกจากเจ้าของของมันได้

                   "คุณคยูฮยอน! ขะ..ขอโทษครับ ผมไม่ทราบว่าคุณจะมาก็เลย.............."

                   "พอๆไม่ต้องอธิบาย ไปทำอะไรให้กินหน่อย ชั้นหิว!!"

                   "ดะได้ครับ รอสักครู่นะครับ"

                   ร่างเล็กวิ่งออกไปอย่างเร่งรีบ คยูฮยอนเดินตามออกไปเอนหลังรอที่โซฟาในห้องนั่งเล่นอย่างครุ่นคิด เพียงครู่เดียวสปาเก็ตตี้ไวท์ซอส
    ร้อนๆกลิ่นหอมฉุยก็ถูกยกมาเสิร์ฟ คยูฮยอนลงมือทานทันทีอย่างไม่รีรอ 

                  "ผมไปทำความสะอาดในครัวก่อนนะครับ มีอะไรก็เรียกผมได้"

                  "อย่าเพิ่งไป"

                  "มีอะไรรึเปล่าครับ"

                  "มี" 

                   รยออุคนั่งลงที่โซฟาตัวเล็กด้านข้างอย่างเงียบเชียบ 

                   "ชั้นเจอคนที่ถูกใจล่ะนะ เธอสวยอย่างกะนางฟ้า รูปร่างดี มีการศึกษาสูง มีชาติตะกูลดี คุยกันถูกคอ เข้ากันได้ทุกเรื่อง ชั้นเลยตกลงคบกับเธอเรียบร้อยแล้ว คุณแม่บอกว่าให้ลองดูใจกันสักสามเดือน ถ้าไปด้วยกันได้ดี ท่านก็จะจัดงานแต่งงานให้ ซึ่งชั้นว่าเธอก็ถูกใจชั้นทุกอย่าง ให้แต่งเลยก็ยังได้"

                   "แต่ชั้นไม่ยอมเลิกกับนายหรอกนะ ถ้าได้แต่งงานกันจริงๆ ชั้นก็อยากจะทะนุถนอมเจ้าสาวที่จะเป็นแม่ของลูกชั้นในอนาคตให้ดีที่สุด อยากให้เธองดงามอย่างนี้ตลอดไป ถึงวันนึงจะมีลูก เธอก็จะต้องเป็นภรรยาและคุณแม่ที่สวยที่สุด"

                   "ถ้าคุณยังมีผมทั้งๆที่คบกับเธอ ไม่กลัวเธอรู้แล้วจะเสียใจเหรอครับ"

                   "ก็อย่าให้เธอรู้สิ ถ้านายไม่พูด แล้วเธอจะรู้ได้ยังไง"

                   "ผมก็แค่พูดเผื่อๆไว้น่ะครับ"

                    "หึหึหึ....นายลืมไปรึเปล่าว่าเราอยู่ด้วยกันมาเกือบสามปียังไม่มีใครรู้เลย แค่ภรรยาคนเดียวทำไมชั้นจะปิดไม่ได้ ถ้าเธอรู้ก็คงจะมาจากนายคนเดียวน่ะแหละ" คยูฮยอนยิ้มเหยียดอย่างเย็นชา

                   "นั่นซินะครับ คุณไม่พูด ผมไม่พูด ก็ไม่มีทางที่ใครจะรู้" รยออุคพูดเสียงแผ่ว

                   "ชั้นรู้ว่านายทำได้นะคิมรยออุค เอาล่ะ..ไปทำอะไรก็ไปเถอะ เดี๋ยวกินเสร็จชั้นจะนอนสักงีบ"

                    "ครับ" คยูฮยอนมองตามหลังร่างเล็กที่รับคำแล้วเดินหายเข้าไปในครัวอย่างเงียบเชียบ
                                 
                                      "ชั้นจะทำให้นายต้องเจ็บปวดยิ่งกว่าชั้นเป็นร้อยๆเท่า คิม รยออุค"



                                     ............................................................................................................




                      


          
          
         

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×