คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : :: Treasure ตอนที่ 7 ::
- Enemy –
เสียงดาบฟันกันดังไปทั่วห้องชมรมที่ซึ่งมีน้องใหม่นั่งเรียงแถวรอคัดเลือกกันอยู่เยอะพอสมควร ส่วนรุ่นพี่ที่มานั่งดูฝีมือการดวลดาบของรุ่นน้องก็มีไม่มากนัก รวมถึงแจ็คสันด้วยที่เขาต้องมานั่งอยู่ในสถานะการณ์หน้าเบื่อแบบนี้เนื่องจากว่ารุ่นพี่ประธานชมรมขอให้เขามานั่งดูเป็นพิธีก็ยังดี
“เห้ย ตั้งแต่ดูมาแม่งมีสักคนมั้ยวะที่พอจะดึงตัวมาเป็นนักกีฬาฟันดาบประจำโรงเรียนอะ”
“…”
“ไอ้แจ็คสัน”
“หะ? ถามผมหรอ” ร่างหนาที่นั่งจิ้มโทรศัพท์เล่นอยู่ที่มุมห้องไม่ไกลจากลานประลองนักละสายตาจากจอหันไปมองหน้ารุ่นพี่ที่นั่งอยู่ข้างๆ บ่งบอกได้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจกับการคัดตัวเด็กใหม่เข้าชมรมเลยสักนิด
“คือกูนั่งกับคุณสองคน มึงจะให้คุณกูถามใคร…” คำพูดกวนตีนกับสัพนามที่ปนกันไปมาทำให้แจ็คสันขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะมองไปที่ลานประลองที่ตอนนี้มีเด็กหนุ่มสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่ เขาหยี่ตาลงเล็กน้อยเหมือนกับว่าเขาให้ความสนใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าเพียงไม่กี่วินาทีเขาก็ก้มลงมองจอโทรศัพท์อีกครั้งก่อนจะตอบรุ่นพี่ปัดๆ
“ไม่อ่ะ”
“กูไม่เห็นจะมีใครเข้าตามึงสักคน”
“ทักษะพวกนั้นใครๆก็มี ผมแค่อยากได้คนที่กล้าบุกมากกว่า”
“กูก็เห็นหลายคนที่บุกนะเว้ย…”
“แต่ก็ไม่มีทักษะในการถอย แม่งบุกอย่างเดียวถอยหลบไม่ทันแม่งก็เสียแต้มปะครับ” แจ็คสันชอนตามองรุ่นพี่พร้อมกับยิ้มอย่างคนมีความรู้ส่งไปให้ (แม่งก็รู้อยู่เรื่องเดียว)
“เออไอ้เก่ง ไอ้เทพ ไอเชี่ย กูไม่เถียงกับมึงและ” ร่างหนาหัวเราะเบาๆกับชัยชนะของตัวเอง รุ่นพี่เงียบไปสักพักสั้นๆก็ใช้เท้าเขี่ยหัวเข่าของแจ็คสันอีกครั้ง อะไรของแม่งนักหนาว่ะ…
“มึงดูไอ้ห่านั่นดิแม่งนั่งมองเราหลายรอบและ แม่งแอบชอบมึงปะวะ ฮ่าฮ่าฮ่า” รุ่นพี่พูดติดตลกพรางชี้นิ้วไปที่ผู้ชายคน นึงที่อยู่ในกลุ่มของเด็กใหม่ที่มาคัดตัวอย่างไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะรู้ตัวเลยสักนิดว่ากำลังพูดถึงอยู่ แจ็คสันมองตามนิ้วของรุ่นพี่ไปก่อนตระหนักได้ว่าคนนั้นคือใคร… แจ็คสันกระตุกยิ้มออกมาอย่างชอบใจเมื่อเขารู้สึกว่าเจอคู่แข่งที่หน้าสนใจเข้าให้แล้ว
“อ้าว มึงจะไปไหน?” รุ่นพี่เงยหน้าตามร่างหนาที่จู่ๆก็ลุกขึ้นยืน
“จะคัดเลือกคนเข้าชมรมไง”
“ก็ทำอยู่นี่ไง แล้วมึงจะลุกทำไม?” รุ่นพี่ผู้ซึ่งมีเครื่องหมายคำถามเต็มหน้าถามไม่หยุด แจ็คสันเลยตอบคำถามโดยการเดินไปหยิบดาบบที่เก็บไว้ในตู้เก็บมุมห้องก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างๆรุ่นพี่
“ผมจะคัดเลือกด้วยตัวผมเองไง” เพียบแวบเดียวดวงตาดำสนิทของแจ็คสันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงวาวเป็นประกายก่อนจะกลับมาเป็นสีดำเหมือนเดิมเมื่อเขากระพริบตา
มาเพิ่มแต้มละสิ… ไอ้แจบอม
- Enemy –
รอบดวลพิเศษถูกจัดขึ้นด้วยฝีมือรุ่นพี่ผู้ไม่เคยห้ามน้องอย่างคังโฮ ระหว่างแจ็คสันกับแจบอมที่โดนขานชื่อขึ้นมาเป็นพิเศษ เด็กใหม่ที่มาคัดตัวในวันนี้นั่งล้อมกันรอบสนามประลองอย่างตื่นเต้น เมื่อบุคคลที่พวกเขายกย่องในด้านกีฬาด้านนี้ลงประลองด้วยตัวเอง หวัง แจ็คสัน… ใครจะรู้ว่าคนนิสัยขวางโลกอย่างเขาจะเป็นแรงบันดาลใจของเด็กวัยรุ่นหลายคนที่สนใจกีฬาฟันดาบ ทุกคนต้องยอมรับกับฝีมือของเขา…
“ผู้ที่มีจิตอ่อนหรือวุฒธิภาวะต่ำกว่า 10 ควรได้รับคำแนะนำจากคนรอบข้าง เนื่องจากการประลองครั้งนี้อาจจะถึงแก่ชีวิต”
การพูดเกินจริงของรุ่นพี่คังโฮเล่นเอาแจ็คสันถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหยิบหมวกขึ้นมาใส่ตามกติกา อีกฝ่ายเห็นแบบนั้นก็ทำตามบ้าง ฟันดาบหรอ…เป็นกีฬาที่แจบอมไม่เคยสัมผัสเลยสักนิด แต่เขาก็ยอมรับว่าถึงแม้จะเกลียดขี้หน้าคนตรงหน้ามากแค่ไหนแต่ถ้าใครเห็นเขาจับดาบนั่นเป็นอันต้องหลงเสน่ห์ในกีฬานี้อย่างบอกไม่ถูก
“คิดว่าจะไม่มาเสียอีก” แจบอมเปิดบทสนทนาเมื่อเขาทั้งสองเดินเอาดาบมาชนกันเพื่อเป็นการทักทาย
“ก็ไม่ได้อยากจะมานักหรอก”
“แต่ก็มา” ถึงแม้จะใส่หมวกกลั้นหน้าของพวกเขาเอาไว้แต่แจ็คสันก็ดูออกมาอีกฝ่ายกำลังยิ้มอยู่ ไม่ได้มีความเกรงกลัวเลยนะ…
“หยุดพูดมากแล้วมาเริ่มกันสักที” พูดจบร่างหนาก็ออกแรงดันดาบจนอีกฝ่ายต้องเซถอยหลังออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เห็นแบบนั้นแจ็คสันก็ดูจะมีทุนว่าจะชนะอยู่แล้ว ทักษะที่แทบจะเป็นศูนย์ของแจบอมมันเทียบไม่ได้เลยกับทักษะที่เกินร้อยของหวังแจ็คสัน
“กล้าพูดมั้ยว่านายไม่ได้ใช้อารมณ์ในการแข่งครั้งนี้?” แจบอมเอ่ยถามเพื่อที่จะยียวนกวนประสาทอีกฝ่าย ซึ่งในขณะนี้ในห้องชมรมเงียบมากรวมถึงรุ่นพี่คังโฮที่เดินไปนั่งที่เดิมจ้องมองมาที่คนสองคนที่อยู่กลางลานประลองอย่างคาดหวังกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า แจ็คสันเลือกที่จะไม่ตอบอะไรเขาตั้งท่ารอฟังสัญญาณจากรุ่นพี่ ต่างจากแจบอมที่ไม่รู้ว่าควรจะทำยังหรือยืนท่าไหนด้วยซ้ำ
ไอ้อ่อนเอ้ย...
“เริ่ม!”
ตึก ตึก ฉึบ!
“แจ็คสันได้แต้ม!” แจบอมยืนมองอกของตัวเองอย่างหัวเสียเมื่อแจ็คสันพุ่งตรงเข้ามาหาเขาไม่กี่วินาทีเขาก็เอาปลายดาบแหลมมาทิ่มที่อกอย่างรวดเร็ว
“หึ ไปซ้อมมาก่อนแล้วมาคัดตัวใหม่ดีมั้ยครับ”
น้ำเสียงดูถูกที่ร่างหนานำมาใช้กับอีกฝ่าย กองเชียร์นั่งมองกันอย่างอยากรู้ว่าสองคนตรงหน้านี้ไปมีอดีตกันที่ไหนมาหรือเปล่าถึงได้ดูอึมครึมได้ขนาดนี้
“ได้แค่แต้มแรกก็อย่าเพิ่งทำพูดดีไปครับ แจ็คสัน” แจบอมมีน้ำเสียงผยอง แจ็คสันได้ยินแบบนั้นก็กัดฟันแน่น เขากำชับด้ามดาบไว้แน่นก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปหาคนตรงหน้าอีกครั้งด้วยความเร็ว แต่คราวนี้ดูเหมือนแจบอมจะรู้ทัน เขาถอยหลังหลบอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน ไม่รอช้าแจบอมพุ่งตัวเข้ามาอีกฝ่ายหวังจะทำคะแนนหากว่าเขาเล็งที่ศีรษะ อีกนิดเดียวปลายดาบก็จะสัมผัสหน้ากากของอีกฝ่าย แจ็คสันเอนหัวหลบพรางถอนหลังอย่างคล่องตัวราวกับว่ารู้ทันว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร
“บรรยากาศแม่งกดดันเชี่ยๆ” รุ่นพี่คังโฮบ่นอุบอิบขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าตัวเองนั่งตัวเกร็งเสมือนว่าดูการแข็งขันจริงอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ
“กีฬานี้มันไม่เหมาะกับนายหรอก”
“หุบปากไปเถอะหนา”
ตุบ ตุบ หวืดดด
และเป็นอีกครั้งที่แจบอมพยายามพุ่งตัวเข้าหาอีกฝ่ายแต่ก็ต้องพลาดไปเมื่อแจ็คสันหมุนตัวหลบอย่างสบายๆ แจบอมกำชับดาบแน่นเริ่มมีอาการโมโหตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรคนตรงหน้าได้ และในระหว่างที่เขาพยายามควบคุมสติของตัวเองอยู่นั้นเองเขาก็ได้ยินเหมือนเสียงหัวเราะเยาะของอีกฝ่ายทั้งๆที่แจ็คสันก็ไม่ได้แม้แต่จะขยับปากเลยสักนิด แววตาสีดำ... ไม่สิ มันเป็นสีแดง... กำลังจับจ้องมาที่ร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา รอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นที่มุมปากของแจ็คสันทำให้แจบอมเสียวต้นคอวาบอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ เสียงนั่นกับรอยยิ้มที่เขาสามารถมองเห็นผ่านหน้ากากได้อย่างชัดเจน...
ไอ้เชี่ยนี่แม่งน่ากลัววะ...
ผลการแข่งขันดูเหมือนจะเป็นอย่างที่คาดไว้ตั้งแต่แรกว่าคนที่ชนะจะเป็นใครไปไม่ได้หากไม่ใช่แจ็คสัน ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้แปลกใจอะไรนัก คะแนนเป็น 15-1 ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะทำได้ตั้งหนึ่งคะแนนก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาเลยสักนิด
“กูชอบมันวะ”
“หะ?” อยู่ๆรุ่นพี่คังโฮก็เดินมาตะปบคอของแจ็คสันที่พยายามจะถอดชุดกีฬาออก
“ไอ้แจบอมไง”
“เป็นตุ๊ดหรอวะพี่”
“ตุ๊ดบิดามึงสิ กูชอบฝีมือมัน แม่งดูมีทักษะ” รุ่นพี่คังโฮว่าพรางหันไปมองแจบอมที่เดินไปเก็บดาบเข้าตู้อยู่ด้านหลัง
“มึงว่าไง?”
“ผมว่าอ่อนวะ” แจ็คสันพูดพรางเบ้ปาก
“มันไม่ได้อ่อน มึงอะเก่ง ไอ้ชาติมนุษย์ ”
“แล้วพี่มาบอกผมทำไม” แจ็คสันหยุดทุกการกระทำที่ตัวเองทำอยู่ผินตาไปมองรุ่นพี่ที่เขาเคารพ(?)
“กูอยากได้มันเข้าชมรม”
“…”
“แล้วก็อยากให้มันเป็นนักกีฬาของโรงเรียนด้วย”
“ผมขอผ่าน”
แจ็คสันปัดแขนของรุ่นพี่ที่พันรอบคอเขาอยู่ออกอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินเอาอุปกรณ์ไปเก็บบ้าง รุ่นพี่คังโฮดูมีสีหน้าประหลาดใจปนขัดใจและน้อยไม่วายเดินตามร่างหนาไปหวังจะเป่าหูต่อ
“มันไปทำไรให้มึงวะ”
“เปล่า”
“แล้วมึงกล้าปฎิเสธฝีมือมันหรอ หรือมึงไม่อยากให้ชมรมเราได้รางวัล?”
“เปล่าอีกอะแหละ”
“งั้นทำไมมึงไม่เห็นด้วยกับกู” รุ่นพี่คังโฮคว้าไหล่ของอีกคนให้อันมามองหน้าเพื่อที่จะคุยกันดีๆ จะได้เคลียร์กันไป
“ไม่ได้ไม่เห็นด้วย แต่ผมแค่ขอไม่ยุ่ง พี่จะทำอะไรก็เรื่องของพี่ ผมขอผ่าน”
“แต่มึงก็เป็นตัวแทนโรงเรียนนะเว้ย กูต้องถามความคิดเห็นมึงด้วย”
“ก็ผมบอกแล้วไง ผมไม่เอา เนี่ยความคิดเห็นผม แล้วพี่ว่าไง”
“กูก็จะเอาเหมือนเดิมอะแหละ”
“... แล้วจะถามผมหามดตะนอยต่อยแตนทำไมกัน”
“กูอยากได้ความคิดเห็น...”
“พอ! ผมจะกลับแล้ว” แจ็คสันขึ้นเสียงใส่รุ่นพี่ที่เขาเคารพ(?)อีกครั้งเมื่อรู้สึกว่ามันกำลังกวนตีน รุ่นพี่หัวเราะอย่างชอบใจพรางตบไหล่แจ็คสันแรงๆสองทีแล้วเดินเข้าไปหารุ่นน้องที่นั่งรอฟังคำตัดสินจากหัวหน้าชมรม
ไอ้ฟันเยอะแม่งก็มีฝีมือเหมือนกันนะเนี่ย แต่หัวอยากเอาชนะไปหน่อย แจ็คสันรับไม่ได้...
ร่างหนาส่ายหัวกับความคิดตัวเองก่อนจะเหลือบตาไปมองแจบอมที่นั่งจ้องเขาอยู่ที่มุมห้องไม่วางตา
หึ อยากเอาชนะกูมากเลยสินะมึงหนะ..
แจ็คสันกระตุกยิ้มก่อนจะเดินออกไปไม่รอฟังการตัดสินของรุ่นพี่คังโฮที่กำลังจะประกาศบอกรุ่นน้องเลยสักนิด อีกมุมหนึ่งของห้อง แจบอมจ้องร่างหนาจนเขาออกจากห้องไปก่อนจะหันมาสนใจคนตรงหน้าที่กำลังเอ่ยชื่อคนผ่านการคัดตัวอยู่
“ที่เอ่ยมา 5 ชื่อ คือผู้ที่เข้าชมรมนี้ได้”
“โห!!” เสียงโหร้องไม่พอใจของกลุ่มนักเรียนอีกหลายคนที่ไม่ผ่านการเข้าชมรมดังไปทั่วห้อง แจบอมนั่งถอนหายใจเมื่อไม่ได้ยินชื่อของตัวเองแต่ก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจอะไรออกมา
“แจบอม”
“…”
ทุกคนเงียบกันหมดหันมาให้ความสนใจคนที่นั่งท้ายสุด แจบอมได้ยินชื่อตัวเองก็เงยหน้ามองคนตรงหน้า
“นายไม่ได้เข้าชมรมนี้...”
“ครับ?” แจบอมเอียงหัวอย่างลุ้นๆกับคำพูดของอีกฝ่าย
“อย่างเดียว... เพราะนายจะเป็นตัวแทนนักกีฬาฟันดาบของโรงเรียนแทน เย้!” รุ่นพี่พูดจบก็โห่ร้องออกมาคนเดียวด้วยความดีใจรายกับว่าเขามอบตำแหน่งนั้นให้ตัวเอง ทุกคนที่ไม่ผ่านเข้ารอบรวมทั้งผ่านเข้ารอบก็ทำหน้าไม่พอใจบ้างก็ประหลาดใจว่าเหตุอันใดผู้ที่ดูเล่นไม่เป็นเลยอย่างแจบอมถึงได้เป็นนักกีฬาโรงเรียน รวมทั้งเขาด้วยที่ได้แต่นั่งขมวดคิ้วอยู่กับที่
“…”
“ไม่ดีใจหรอวะ”
“อา ครับ ดีใจดิ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“เอ้อ! มันต้องงี้ดิ” แจบอมหัวเราะสองสามทีก่อนจะหุบยิ้มด้วยความงงแต่ก็ไม่อยากให้รุ่นพี่เสียหน้า คังโฮเดินมาตบบ่าแจบอมแรงๆด้วยความพอใจ
“ว่าแต่พี่ครับ”
“อะไรอีกอะ”
“แจ็คสันเขายอมหรอ?” แจบอมอดถามไม่ได้ คังโฮทำหน้าคิดเล็กน้อย
“ย๊อม! ไอ้ห่านั่นไม่ว่าไรเลย”
คังโฮพูดเสียงสูง แจบอมได้แต่ยิ้มแหยๆตอบกลับไป ก่อนจะยิ้มอย่างมีชัยเมื่อรู้สึกว่าเขาได้ชนะแจ็คสันมานิดนึงแล้ว เขาหวังว่าจะได้เข้าแค่ชมรมเท่านั้นแต่นี่เขากลับได้เป็นถึงนักกีฬาโรงเรียนเหมือนกันหวัง แจ็คสัน...
เรามันก็ไม่ได้ต่างอะไรกันแล้วหละ แจ็คสัน...
- Enemy –
เท้าเล็กค่อยๆก้าวลงช้าๆบนพื้นหลังคาของโรงเรียนโดยมีอีกคนเดินหันหน้าเข้าตัวเองเผื่อมีอะไรเขาจะได้คว้าไว้ทัน
“พี่เดินถอยหลังแบบนั้นเดี๋ยวก็ตกลงไปหรอก” แบมๆปรามคนตรงหน้าเสียงดุทั้งๆที่ตัวเองก็ยังทรงตัวเองไม่ค่อยจะได้ แจ็คสันได้ยินแบบนั้นแทนที่จะฟังเขากับหัวเราะเสียงดังออกมาแทน
“กำลังพูดกับตัวเองอยู่หรอ ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ผมไม่ขำนะ” แบมๆหยุดเดินพรางจ้องหน้าร่างหนาอย่างหัวเสีย
“ก็เห็นนายเดินแล้วขัดใจ เกิดล่วงลงไปฉันจะได้รับนายได้ไง”
“…”
“มองอะไร?” แจ็คสันทำตัวไม่ได้เมื่อจู่ๆร่างเล็กก็จ้องหน้าเขาแบบนั้นยังไม่พอยิ้มชวนสยิวให้อีก
“ผมชอบเวลาพี่พูดกับผมแบบนี้จัง” แบมๆค่อยๆนั่งลงช้าๆเมื่อรู้สึกว่าตัวเองคงเดินไม่ไหวและ = = แจ็คสันเห็นแบบนั้นก็เบี่ยงตัวลงมานั่งข้างๆร่างเล็กบ้าง
“พูดแบบไหน?” แจ็คสันนั่งกอดเข่าตัวเองเอ่ยถามคนข้างๆ
“พูดจาดูเป็นห่วงเป็นใยไง”
“ถึงฉันจะไม่ค่อยพูด แต่การกระทำหลายอย่างฉันก็แสดงว่าฉันเป็นห่วงนายนะ” แจ็คสันดูไม่พอใจกับความซื่อบื่อของอีกฝ่าย แบมๆผินหน้าหนีไปทางอื่นเมื่อเขาไม่สามารถปฎิเสธประโยคนั้นได้
“พี่พาผมมานั่งบนหลังคาทำไมเนี่ย นั่งแบบคนธรรมดาเขานั่งไม่ได้หรอ”
“นายชอบเปลี่ยนเรื่องทุกทีเลยแบมๆ”
“ผมเปล่าสักหน่อย พี่คิดว่าบนหลังคามันโรแมนติกมากเลย” แบมๆว่าพรางตีกระเบื้องหลังคาสองสามทีแต่สีหน้าของเขาดูมีความสุขกับทุกสิ่งทุกอย่างที่แจ็คสันเป็นคนทำให้ ถึงบางอย่างมันจะดูโง่หรือเสี่ยงตายก็เถอะ....
“เปล่าอะ ฉันแค่คิดว่ามันทำให้เรามีเวลาอยู่กันสองคนมากขึ้นมากกว่า...”
“… แล้วข้างล่างมันทำให้เราอยู่กันกี่คน?”
“อยากโดนมั้ย?” แจ็คสันหันไปหาแบมๆทันที ไม่ใช่แค่แววตาว่าปรามแต่เขากับโชว์เขี้ยวยาวเหมือนกับวันแรกๆที่แบมๆเห็น ร่างเล็กเห็นแบบนั้นก็หุบปากลงด้วยความตกใจ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรแต่การที่แจ็คสันทำแบบนี้ก็ไม่ได้ช่วยให้แบมๆรู้สึกชินเลยสักนิด
“เดี๋ยวนี้พี่ขู่ผมแบบนี้หรอ?”
“ไม่ได้ขู่ ฉันยังคิดอยู่เลยว่าฉันอยากจะกัดนาย แล้วนายก็จะได้กลายมาเป็นแวมไพร์แบบฉันแล้วเราก็จะได้อยู่ด้วยกัน..”
แบมๆยกมือปิดต้นคอตัวเองด้วยความเร็วสูง
“พี่ไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆใช่มั้ย?”
“นายไม่อยากอยู่กับฉันตลอดไปหรอ?” แจ็คสันที่ตอนนี้เก็บเขี้ยวของเขาแล้วมีสีหน้าจริงจังกับประโยคพวกนี้มาก
“ก็อยากนะครับ”
“อีกอย่างฉันจะได้ไม่ต้องคอยมาห่วงว่านายจะโดนใครทำร้ายด้วย ถ้าเป็นแบบฉันหวังว่านายคงมีอะไรที่สามารถปกป้องตัวเองได้บ้าง” แจ็คสันเหล่มองคนข้างๆอย่างไม่ค่อยแน่ใจนักกับคำพูดของเอง แบมๆมีสีหน้าไม่พอใจเมื่อโดนอีกฝ่ายดูถูกขนาดนั้น
“ผมดูแลตัวเองได้หนะพี่แจ็ค”
“หรอ? ใครบอกนาย”
“ผมนี่แหละบอกตัวเอง ไม่เชื่อดูและกัน” พูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน
“นี่ ระวังเถอะหนะ” แจ็คสันพยายามจะดึงมือคนตรงหน้าให้ลงมานั่น แต่แบมๆก็สะบัดมือออก
“ก็พี่มัวแต่คิดมากแบบนี้ไง ผมเลยไม่ได้ดูแลตัวเองสักที... เหวออออ!!”
“แบมๆ!” เพียงเสี้ยววินาที ร่างเล็กก็เซไปข้างหน้าราวกับว่ามีใครสักคนผลักเขาแต่ด้วยความเร็วของแจ็คสัน เขาคว้าตัวแบมๆจนลงมานั่งทับตัวเขาอย่างปลอดภัย
“ฉันเตือนแล้วใช่มั้ย!!” แจ็คสันดูโมโหมากกับเหตุการณ์เมื่อกี้ เขาดึงหัวแบมๆมากอดแน่นๆกลัวว่าคนตรงหน้าจะเป็นอะไรไป แบมๆก็ใจหายไม่น้อยแต่ก็พยายามดันหัวของเองออกจากอกแกร่งของอีกคน แต่ก็ท่าจะไม่ได้
แต่เมื่อกี้... ผมรู้สึกเหมือนมีใครผลักผมเลย
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เมื่อเจอเหตุการณ์เมื่อกลางวันร่างหนาก็ยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ว่าร่างเล็กจะสามารถดูแลตัวเองได้ เขาเดินประกบแบมๆทุกฝีเก้าที่เดินในขณะที่กำลังเดินกลับบ้าน
“ผมจะเข้าบ้านแล้วนะ” แบมๆหยุดเดินหันไปบอกอีกฝ่ายที่เดินเอากระเป๋าพาดบ่าอยู่ด้านหลัง
“เข้าไปสิ ฉันจะรอจนกว่านายจะเปิดประตูเข้าบ้าน”
“อย่ามาเยอะได้มั้ย?”
“…”
“เออก็ได้ครับ” แบมๆยอมแพ้กับคนนิสัยเอาแต่ใจอย่างแจ็คสัน ร่างเล็กโบกมือลาให้อีกฝ่ายก่อนจะเดินเข้าบ้านไป สักพักคนข้างนอกถึงตัดสินใจเดินย้อนกลับไปที่เดิมเพื่อที่จะกลับบ้านของตัวเอง
ไม่รู้ว่าผมโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่นะ ที่ได้มาเจอพี่แจ็คสันเนี่ย...
“กลับมาแล้วหรอลูก”
“ค้าบบบ” แม่ของร่างบางรีบโผล่หน้าออกมาจากห้องรับแขกทันทีเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูบ้านของลูกชายตัวเอง
“ทำไมวันนี้กลับไวจัง”
“ก็...” จะบอกว่าไอ้พี่แจ็คสันบังคับให้กลับบ้านไวแม่ก็คงถามอีกว่าใครคือ แจ็คสัน โกหกแล้วกัน
“ผมไม่รู้จะไปไหนไงครับ” แบมๆรีบเดินไปกอดแม่ตัวเองหวังไม่ให้แม่แปลกใจแต่ตัวเองกลับต้องแปลกใจเมื่อสายตาชอนขึ้นไปมองที่โซฟาก็ปรากฎว่ามีเด็กหนุ่มผิวขาว ผมสีแดง หน้าตาเจ้าเล่ห์กำลังนั่งมองมายังเขากับแม่
“ใครอะครับ?” แบมๆรีบดันตัวออกก่อนจะเอ่ยถามคนตรงหน้า
“อ๋อ นั่นมาร์คไงลูก จำไม่ได้หรอ?” เด็กหนุ่มผมแดงได้ยินแบบนั้นก็ดันตัวเองลุกขึ้นมาเดินมาตรงหน้าร่างเล็กก่อนจะยิ้มให้
“มาร์ค... ไหน?” แบมๆพยายามจ้องหน้าเผื่อว่าจะคิดออกแต่แล้วก็ไม่ได้ผล
“ลูกชายคุณเหวินข้างบ้านเราเมื่อ 6 ปีก่อนไงลูก ก่อนที่เขาจะย้ายไปที่จีนหนะ เพื่อนสนิทลูกเลยนะ จำไม่ได้หรอ อะไรกัน”
สิ้นคำพูดของผู้เป็นแม่ มาร์คก็หัวเราะออกมาเบาๆอย่างน่ารักกับความพยายามของอีกฝ่ายที่ต้องการจะให้ลูกชายจำเรื่องเก่าๆได้ แต่ก็คงยากสักหน่อย.... เมื่อเรื่องทุกอย่างมันถูกกุขึ้นมา เขาต้องดึงกลยุทธ์การเพิ่มความทรงจำเฟคๆให้คุณป้าท่านนี้เพื่อที่จะได้เข้าถึงตัวของตัวเล็กที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ไม่อะ ผมจำไม่ได้” แบมๆยังยืนยันคำเดิมพรางส่ายหัวไปมา
“เดี๋ยวนายก็จำได้เองแหละ” มาร์คตอบแทนแม่ของแบมๆ
“งั้นไปนั่งคุยกับก่อน เดี๋ยวแม่ทำอะไรให้กินนะ” พูดจบแม่ก็เดินเข้าไปในครัวปล่อยให้คนสองคนยืนมองกันจนแบมๆทนไม่ไหวเอ่ยพูดขึ้นมาก่อน
“ชื่อมาร์ค?”
“อื้ม” คนตรงหน้าตอบยิ้มๆ
“เป็นลูกชายคุณลุงเหวิน?”
“ใช่แล้ว”
“แล้ว... ใครคือคุณลุงเหวิน? = =” แบมๆยังคงหงุดหงิดตัวเองที่นึกไม่ออกสักที เขาเคยมีเพื่อนข้างบ้านชื่อมาร์คด้วยหรอ
“พ่อผมไง”
“แล้วนายมาทำไมที่บ้านผมเนี่ย” ถึงจะเหนื่อยกับการพยายามนึกเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาเขาก็ไม่ลืมที่จะถามว่าคนตรงหน้ามีธุระอะไรก่อนจะเดินเอากระเป๋าไปวางที่โต๊ะวางของแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา มาร์คเห็นแบบนั้นก็เดินตามไปนั่งลงที่โซฟาเดี่ยวฝั่งตรงข้ามเพื่อที่จะมองหน้าอีกฝ่ายได้ถนัด
“มาเยี่ยมคุณป้า”
“คุณป้า?”
“แม่นายไง”
ไอ้เด็กบ้านี่มันมีรอยหยักในสมองบ้างมั้ยเนี่ย...
มาร์คเด็กหนุ่มผู้มีพลังความแค้นสูงหวังจะทำลายของรักของคู่อริ ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะมีปัญหาขึ้นมาแล้วเมื่อตัวกลางในการแก้แค้นครั้งนี้ดูจะไม่มีเนื้อสมองอยู่เลยสักนิด...
“ผมก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีกว่านายเป็นใคร ขอโทษด้วยนะครับ”
แบมๆรู้สึกผิดกับคนตรงหน้า ร่างโปร่งส่งยิ่มให้บางๆเป็นเชิงว่าไม่เป็นไรก่อนจะเอ่ยถาม
“คนที่มาส่งนายหน้าบ้าน ใครกันหรอ?”
“หะ? นายเห็นด้วยหรอ” แบมๆดูมีอาการตกใจกับคำถาม
“เห็นสิ หน้าต่างบ้านนายไม่ได้ติดฟิล์มดำนะ”
“อา... รุ่นพี่ที่โรงเรียนผมเอง”
“ก็สนิทกับนายอะสิ”
“มั่งครับ” แบมๆเหล่มองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ
จะแย่งของของผมหรือเปล่าเนี่ย ไว้ใจไม่ได้!! … (ความคิดของคนสมองน้อย)
“ว่างๆไว้ไปเที่ยวกัน นาย ผม แล้วก็... เพื่อนนาย”
“แล้วทำไมผมต้องพาพี่แจ็คสันไปด้วย อุบ!” แบมๆเผลอพูดชื่อของอีกฝ่ายออกไปเขารีบยกมือขึ้นปิดปากทันที แต่มาร์คก็ได้แต่อมยิ้มไม่ได้พูดอะไรออกมา ความซื่อ(บื่อ)ที่ร่างเล็กกำลังทำอยู่ทำให้มาร์คที่นั่งอยู่ตรงหน้าแอบหัวเราะเบาๆไม่ได้
นี่ไอ้แจ็คแม่งชอบแบบนี้หรอวะเนี่ย...
“ผมเพิ่งกลับมา ผมไม่ค่อยมีเพื่อน เพราะฉะนั้นตอนนี้นายเป็นเพื่อนผมแล้ว แล้วนายก็ต้องพาผมไปรู้จักกับเพื่อนๆของนายด้วย ได้เปล่า?”
“…”
“นายเป็นคนใจดำหรอ?”
“ผมเปล่านะ!” แบมๆตะคอกขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคนว่าเขาว่าใจดำ ก็ผมไม่ได้ใจดำสักหน่อย แค่ไม่ไว้ใจ... จนตอนนี้ยังนึกไม่ออกเลยว่าคนตรงหน้าเป็นใครกัน
“งั้นตกลงตามนี้นะ”
“อือ... ก็ได้”
ขอบใจนะ... แบมๆ ที่เดินตามหมากของฉัน
นั่นมันไอ้มาร์คนี่หว่า...
จินยองผู้ซึ่งเดินผ่านมาทางบ้านของร่างเล็กเพื่อที่จะกลับที่พักของตัวเองมองเข้าใปในตัวบ้านเมื่อสังเกตุเห็นเพื่อนต่างตระกูลกำลังนั่งคุยกับแบมๆอยู่ข้างใน ถึงแม้ว่าเส้นทางนี้มันจะอ้อมจากบ้านของเขาก็เถอะ ขอให้ได้ผ่านบ้านร่างเล็กเขาก็ทำ แต่ตอนนี้ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าแบมๆทำอะไรอยู่ เขากับมุ่งความสนใจไปที่เด็กหนุ่มหัวแดงผิวขาวซีดที่นั่งยิ้มเจ้าเล่ห์ตามสไตล์ของมันอยู่ตั้งหาก
แล้วมันมาทำอะไรที่บ้านเด็กไอ้หวังวะ...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ใครสาวกน้องมาร์คอย่าอาฆาตไรท์เลยนะ ที่ทำให้น้องเป็นแบบนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า
รักไรท์ รัก #Jackbam
ไรท์ฝากเรื่องใหม่หน่อยสิไว้ในอ้อมออกผู้อ่านตัวน้อยของไรท์ *w*
DRAK GUARDIANS {FIC EXO}
ความคิดเห็น