คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : :: Treasure ตอนที่ 3 ::
แบมแบมนั่งชื่นชมหนังสือที่เพิ่งได้มาใหม่ๆแทนที่จะสละเวลานั่งคุยกับรุ่นพี่ที่ไม่ได้เจอกันนานถึง 2 ปีหลังจากที่เจบีได้ไปอยู่
ที่แคนาดามา หนังสือที่เขาแบกกลับมาด้วยก็เป็นหนังสือภาษาอังกฤษที่หายากซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวกับเรื่องลี้ลับทั้งสิ้นโดย
เฉพาะประวัติของแวมไพร์ เล่นเอาเจบีคนที่โดนสั่งให้หาซื้อมาให้ถึงกับแอบสงสัยนิดนึงว่าทำไมร่างบางที่แทบจะไม่ค่อย
อ่านหนังสือ(?)ถึงต้องการหนังสือพวกนี้นักถึงขนาดโทรไปบอกเขาให้เอามาฝากก่อนที่เขาจะกลับมาเกาหลีตั้ง 2 อาทิตย์
เด็กหนุ่มเกาหลีที่ถูกส่งไปเรียนตัวคนเดียวที่แคนาดา ลูกชายคนเดียวของเพื่อนสนิทของพ่อแบมแบม เขาสองคนแทบจะถือ
ว่าโตด้วยกันมาเลยก็ว่าได้ แต่พอโตเขาทั้งสองก็แทบจะไม่ได้เจอกันเนื่องจากร่างสูงเจ้าของรอยยิ้มอันแสนจะอบอุ่นอย่าง
แจบอมได้ถูกส่งไปเรียนที่เมืองนอก นานๆครั้งถึงจะบินกลับมาที่เกาหลีที แต่เขาสองคนก็ยังติดต่อกันอยู่ตลอดเวลา
“นี่นายจะไม่สนใจพี่จริงๆหรอแบมแบม?”
เจบีที่นั่งมองหน้าร่างบางอยู่เอ่ยถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่เขาส่งให้ร่างบางด้วยความเอ็นดู…เอ็นดูเป็นพิเศษเสียด้วย
“หะ ครับ? อ๋อ แฮะๆ ผมก็สนใจพี่อยู่แต่ผมกำลังตื่นเต้นกับหนังสืออยู่อะครับ”
ร่างบางเงยหน้าจากหนังสือขึ้นมาสบตากับร่างสูงก่อนจะพูดแก้ตัว เจบีเห็นแบบนั้นก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่าคนตรงหน้าที่ไม่ได้
เจอกันตั้งนานยังคงน่ารักเหมือนเดิม ดูเหมือนว่าจะน่ารักขึ้นด้วยซ้ำ ใบหน้าหวานที่ดูเหมือนจะดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแต่ก็ยังคงทำ
ให้ร่างสูงอดใจสั่นไม่ได้อยู่ดี
ฉันอยากจะดึงนายมากอดจริงๆเลยแบมแบม…
“ทำไมนายถึงสนใจเรื่องพวกนี้ขึ้นมา?”
เจบีหยิบหนังสือเล่มนึงที่เขียนว่า ‘real life vampire hunters’ ขึ้นมาดู
“อ๋อ เพื่อนผมเป็นแวมไพร์อะครับ”
“หะ??” เจบีถึงกับละสายตาจากหนังสือมาจ้องหน้าร่างบางอย่างตกใจ
“ผมล้อเล่น! 5555 ผมอยากให้พี่เห็นหน้าตัวเองจังเลยเมื่อกี้”
แบมแบมที่แกล้งเจบีได้สำเร็จก็หัวเราะออกมายกใหญ่แต่แทนที่เจบีจะโกรธเขากลับยิ้ม
“กล้ามากนะที่แกล้งพี่หนะแบมแบม”
ร่างบางส่งยิ้มกวนประสาทให้ร่างสูงก่อนจะก้มหน้าไปสนใจกองหนังสือเหล่านั้นอีกครั้ง
เป็นวันแรกที่ผมกลับมาถึงโซล ผมเหนื่อยกับการเดินทางมาตั้งหลายชั่วโมงแต่พอมาถึงผมก็ตรงดิ่งมาหาน้องชายที่ผมรัก…
น้องชายหรอ ผมไม่ค่อยอยากจะใช้คำนี้เท่าไหร่หรอก แต่ถ้ามันทำให้เราใกล้ชิดสนิทสนมกันแบบนี้ผมก็คงต้องใช้สถานะนี้
ไปก่อน.. ถึงแม้ว่าตอนนี้แบมแบมจะสนใจหนังสือมากกว่าผมก็เถอะนะ แค่ผมได้นั่งมองแบมแบม เห็นรอยยิ้มที่ผมคิดถึงมา
นานผมก็มีความสุขแล้ว
ตลอดเวลาหลายชั่วโมงผ่านไปเจบีก็ได้แต่มองแบมแบมทำโน่นทำนี่โดยปฏิเสธคำร้องขอของร่างบางที่จะให้นอนพักก่อน
กลับบ้าน เขาอยากจะเก็บเกี่ยวความสุขที่หายไปของเขาให้ได้มากที่สุด เจบีผู้ที่เฝ้ารอจะบอกคำสำคัญให้กับร่างบางเมื่อถึง
เวลาที่พร้อม และดูเหมือนว่าการมาของเขาในครั้งนี้ เขาพร้อมแล้วที่จะบอกคำนั้นกับรุ่นน้องที่เขารักและเป็นห่วงเป็นพี่เศษ
ถึงแม้ว่าเขาอาจจะได้รับคำปฏิเสธกลับมาก็ตาม อย่างน้อยเขาก็ได้พูดมัน…
บ่ายวันเสาร์แทนที่จะเป็นวันที่นักเรียนมัธยมปลายอย่างแบมแบม ยูคยอมและยองแจจะได้หยุดพักผ่อนแต่กลับ
ต้องมานั่งทำรายงานกันอยู่ที่บ้านของยองแจ เจ้าของห้องที่ตอนนี้ได้หลับตายสนิทอยู่บนเตียงพร้อมหนังสือประวัติ
ศาสตร์เล่มหนาที่ปิดอยู่บนหน้า ขาได้พาดยาวไปจนถึงตักของแบมแบมที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยเช่นกัน
“ฉันไม่ไหวแล้วนะ ฉันง่วงจะหลับอยู่แล้วเนี่ย”
ยูคยอมที่นั่งอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คพยายามที่จะสะบัดความง่วงออกไปจากหัวแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยเป็นผลนัก
“นายอย่าเพิ่งนอนนะ ฉันทำคนเดียวไม่ไหวแน่ แค่เห็นยองแจนอนฉันก็ง่วงจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
แบมแบมฟาดเข้าที่ขาของยองแจที่พาดอยู่ที่ตักของตัวเองแรงๆแต่ยองแจก็ได้แค่ขยับตัวเท่านั้นไม่ได้ทำให้ร่างหนาตรง
หน้าลืมตาขึ้นมาเลยสักนิด ยูคยอมมองยองแจด้วยสายตาอิจฉาเป็นที่สุดแต่ก็ต้องอมยิ้มขึ้นมาเนื่องจากนึกอะไรขึ้นมาได้
เราต้องใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์สิ นี่เราอยู่กับแบมแบมสองคนแล้วนะ…
“แบมแบม..” เสียงที่ฟังดูคล้ายๆออดอ้อนนิดหน่อยเล่นเอาเจ้าตัวที่โดนเรียกถึงกับเหล่ตาขึ้นมามองจากหนังสือทันที
“อะไรของนาย”
“ทำไมช่วงนี้นายไม่กลับบ้านพร้อมพวกฉันแล้วอะ”
“ก็… บ้านเรามันคนละทางฉันก็ไม่อยากให้พวกนายเดินส่งฉันไง” แบมแบมรีบตอบพรางก้มมองหนังสืออีกครั้งเพื่อไม่ให้มีพิรุธแต่ยูคยอมก็ไม่พอแค่นั้น
“ฉันคิดว่านายมีคนไปส่งแล้วเสียอีก” ยูคยอมพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจเล็กน้อยแต่ร่างบางก็ดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจอะไร
นักได้แต่พยายามทำตัวให้ปกติไม่ให้มีพิรุธ
ครืดดดด ครืดดดด
โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้นช่วยชีวิตร่างบางเอาไว้ เจ้าตัวที่นั่งอยู่บนเตียงรีบก้มมาหยิบอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่ายูคยอม
กำลังก้มลงไปมองว่าใครที่โทรมา
ไม่โชว์เบอร์?
“ฮัลโหลครับ”
(ลงมารับหน้าบ้านหน่อยดิ) สิ้นสุดเสียงปลายสายร่างบางถึงกับขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ
“นายเป็นใครเนี่ย” ยูคยอมได้ยินแบบนั้นก็ดูอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที
(อนาคตคนที่จะดูแลนายไปตลอดชีวิตไง)
“….”
(จินยองไง เงียบทำไมแค่นี้ก็นึกไม่ออก ลงมาเปิดประตูเร็ว ข้างล่างมันร้อน)
แบมแบมได้ยินแบบนั้นก็อดหัวเสียไม่ได้เบาๆกับคำพูดของจินยองที่พูดจาเพ้อเจ้ออะไรก็ไม่รู้ออกมา
“นี่มันไม่ใช่บ้านผมนะ พี่จะให้ผมลงไปเปิดได้ยังไงกัน ขอเจ้าของบ้านแล้วหรอ”
แบมแบมหันไปมองยองแจที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่
(เรื่องมากจริงๆเลย อุตส่าห์ตามหาว่านายอยู่ไหน) เจ้าของเสียงปลายสายดูจะหงุดหงิด
“แล้วพี่จะมาตามหาผมทำไม”
พูดจบร่างบางก็ต้องแปลกใจเมื่อจู่ๆยองแจที่หลับสนิทอยู่เมื่อกี้ก็ลุกขึ้นมานั่งหน้ามึนๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเดินออกไปนอกห้อง
หน้าตาเฉย ยูคยอมที่นั่งมองตามไปอย่างงงๆหันกลับมามองหน้าแบมแบมด้วยคำถามมากมายบนใบหน้า แบมแบมได้แต่ยัก
ไหล่เพราะตัวเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
(ก็อยากเจอไง ไว้คุยกันต่อบนห้องแล้วกันนะ)
ปลายสายไม่รอร่างบางตอบกลับตัดสายทิ้งปล่อยให้แบมแบมประมวลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ
“ไอยองแจมันไปไหน” ยูคยอมเอ่ยถามหลังจากเห็นแบมแบมยกโทรศัพท์ออกจากหู
“ไม่รู้”
ไม่กี่นาทีเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นก่อนที่ประตูห้องจะเปิดพร้อมกับยองแจที่เดินเข้ามาแต่กลับมีคนเดินตามมาเพิ่มอีกหนึ่งคน ยู
คยอมที่เห็นเป็นคนแรกถึงกับทำหน้าไม่ถูกก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นไม่พอใจแทน
ไอบ้านี่มันมาทำไมกันเนี่ย…
“แบมแบมครับ” ร่างสูงที่เดินตามยองแจเข้ามายิ้มระรื่นทักทายแบมแบมที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยน้ำเสียงแห่งความสุข ยูคยอมได้ยินแบบนั้นก็หมั่นไส้ขึ้นมา
“พะ... พี่มาทำไมกันเนี่ย” แบมแบมเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจหลังจากที่จินยองเอ่ยทัก
“ก็บอกว่าอยากเจอไง” จินยองเดินไปนั่งข้างๆแบมแบมและเป็นอีกครั้งที่เขาเพิ่งสังเกตว่ามียูคยอมนั่งอยู่ในห้อง
“ไม่ได้มีแค่แบมแบมที่อยู่ในห้องนี้นะครับ” ยูคยอมพูดขึ้น
“อ้าว ยูคยอมฉันเพิ่งเห็นนาย”
กล้าพูด นั่งจะจูบประตูอยู่แล้วทำเป็นไม่เห็น…
“พวกนายทำงานไปก่อนนะ ฉันง่วง” ยองแจพูดขึ้นมาก่อนจะทิ้งตัวลงไปนอนอีกครั้งโดยเอาหัวมาหนุนที่ตักของแบมแบมแต่
ก็ไม่ได้นานเมื่อจินยองที่นั่งอยู่ข้างๆแบมแบมเอื้อมมือไปดันหัวยองแจที่ดูท่าจะหลับไปแล้วออกจากตักจนล่วงไปกองอยู่กับ
พื้นเตียงอย่างไม่รู้ตัว
ตักของใครให้มันรู้ซะบ้าง…
“ว่าแต่ทำอะไรกันอยู่?” จินยองที่พอใจกับผลงานของตัวเองที่ได้ทำกับหัวของยองแจพูดขึ้น ยูคยอมกับแบมแบมยังคงงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มถามยังไงเลยปล่อยเลยไป
“ทำรายงานอะสิ” แบมแบมตอบ
“ประวัติศาสตร์หรอ ให้ฉันช่วยมั้ย ฉันถนัดนะ” จินยองที่มองไปที่กองหนังสือประวัติศาสตร์ที่วางอยู่บนพื้นข้างๆยูคยอมพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยสปิริต
“พี่เคยเข้าห้องเรียนด้วยหรอ”
ยูคยอมที่พยายามเค้นคำว่าพี่กับจินยองพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดูถูกเบาๆ จินยองมองหน้ายูคยอมด้วยแววตาที่เป็นประกาย แบ
มแบมสังเกตเห็นได้ก่อนที่จะจับมือร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆเพื่อให้เขาสงบอารมณ์ก่อนจะทำอะไรบ้าๆออกมา เรื่องที่ว่าแจ็คสัน
กับจินยองเป็นแวมไพร์ยูคยอมกับยองแจยังไม่รู้ถึงแม้ว่าแบมแบมพยายามที่จะบอกในตอนแรกแต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาเลือก
ที่จะไม่บอกดีกว่า
จินยองรู้สึกได้ถึงมือนิ่มๆของร่างบางที่สัมผัสอยู่บนมือของเขา ไออุ่นๆจากร่างของมนุษย์ที่ถูกส่งผ่านมาจากมือของร่างบาง
ทำให้คนตัวเย็นตลอดเวลาอย่างจินยองถึงกับสะดุ้งพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวเร็วจนเขาเองก็รู้สึกได้… จินยองมองมือที่ร่างบาง
จับมือของเขาอยู่ก่อนจะเงยหน้ามองร่างบางที่พยายามจะสื่อให้เขารู้ว่าอย่ามีโทสะกับยูคยอมเด็ดขาดหรืออย่าทำอะไรบ้าๆ
เช่น แยกเขี้ยวหรือเปลี่ยนสีตาใส่มนุษย์เรื่อยเปื่อย
“ฉันผ่านอะไรมามากกว่าพวกนายก็แล้วกัน”
“งั้นพี่รู้เรื่องสงครามโลกครั้งแรกเปล่า?”
“ฉันอยู่ในเหตุการณ์ด้วยซ้ำ”
“หื้อ?” แบมแบมกับยูคยอมถึงกับถลึงตาด้วยความตกใจจ้องมองจินยองพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม จินยองเห็น
แบบนั้นก็ชะงักไปนิดนึงก่อนจะหัวเราะออกมา
“เห้ย ฉันล้อเล่น แต่ก็พอรู้เรื่องบ้าง”
เกือบหลุดแล้วมั้ยละไอจินยอง เดี๋ยวแบมแบมรู้อายุไขจริงๆขึ้นมาจะเอาอายุมาเป็นข้ออ้าง ไม่ดีๆ…
“งั้นพี่จัดการบทนี้ให้ที” ยูคยอมดันโน๊ตบุ๊คตรงหน้าของตัวเองให้กับจินยอง จินยองรับมาก่อนจะเริ่มพิมพ์ประวัติต่างๆที่เขาเคยผ่านมา เห็นเขาหน้าละอ่อนกันแบบนี้อายุจริงๆของก็ปาเข้าไป 100 กว่าแล้ว
แบมแบมที่นั่งอยู่ข้างๆนั่งมองสิ่งที่จินยองกำลังพิมพ์ด้วยสีหน้าตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่ได้เห็นแต่ก็ต้องเก็บคำถามเอาไว้เพราะถ้า
เขาเอ่ยถามไปเกรงว่ายูคยอมจะยิ่งมีคำถามไปมากกว่านี้
อยากรู้นักพี่แจ็คสันจะมีความรู้พวกนี้บ้างมั้ยเนี่ย…
ฮัชเช่ย! อะไรกันเนี่ยจามอยู่นั่นแหละหน้ารำคาญชะมัด แจ็คสันกำลังนั่งแกะผ้าพันมือออกหลังจากที่เขาซ้อมเสร็จ
ชมรมฟันดาบที่เขาให้ความสนใจรองจากเลือด… เป็นสิ่งที่เขาทำเป็นกิจวัติประจำวันถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงวันหยุดอย่างเสาร์
อาทิตย์ก็ตาม
“เมื่อกี้ที่นายซ้อม มันเจ๋งมากเลยวะ”
สิ้นเสียงคนพูดแจ็คสันก็หันไปมองด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าคนที่เรียกเป็นคนที่เขาไม่รู้จัก
“ขอบใจ” แจ็คสันตอบห้วนๆ
“นายเลือกที่จะพูดแค่นั้นหนะหรอ?” คำพูดที่ฟังดูไม่พอใจถูกปล่อยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ใครๆเห็นก็จะคิดว่าสิ่งที่เขาพูด
ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไร ขนาดแจ็คสันผู้ชายจิตใจด้านชายังยอมแพ้ให้กับรอยยิ้มจริงใจนั้นเลยด้วยซ้ำ
“แล้วจะให้ผมพูดอะไร เราไม่ได้รู้จักกันสักหน่อย”
“ไม่อยากรู้ชื่อผมหรอ”
“ผมจำชื่อคนมามากพอแล้ว ผลสุดท้ายก็จบลงด้วยความตายทุกคน” ผมมักจะถามชื่อคนที่ผมจะฆ่าก่อนเสมอ แต่ผมคงไม่
เลือกที่จะดูดเลือดจากคอนายนี่หรอกนะ ผมดูดแต่คอสาวๆเท่านั้นแหละ แต่ยกเว้นแบมแบมคนนึง ผมอยากจะดูดทั้งวัน
เลย …
“นายนี่มันตลกจริงๆเลย” ร่างสูงตรงหน้าหัวเราะออกมา แจ็คสันเห็นแบบนั้นก็เริ่มไม่พอใจ
“งั้นผมขอตัว” แจ็คสันเตรียมจะเดินจากไปแต่ร่างสูงก็รั้งเอาไว้ด้วยคำพูดของเขา
“ผมชื่อ แจบอมนะ เรียกว่าเจบีก็ได้”
“แล้วมาบอกผมทำไม” แจ็คสันพูดทั้งๆที่ไม่หันไปมองด้วยซ้ำ
“ต่อจากวันนี้ผมจะอยู่ชมรมนี้ แล้วผมอยากให้นายมาสอนผมฟันดาบไง” ได้ยินแบบนั้นแจ็คสันก็หันไปมองหน้าด้วยความพิจารณา
“ฉันไม่สอน”
“เห้ย ผมเป็นเด็กใหม่ที่นี่นะ ก็แค่อยากมีเพื่อน” เจบีพูดพรางเดินเข้าไปหาแจ็คสันก่อนจะยื่นมือไปทำท่าจะจับมือ แจ็คสันได้
แต่มองมือของคนตรงหน้าก่อนจะมองหน้าอีกครั้งโดยที่ไม่สนใจที่จะจับมือของร่างสูงตรงหน้าเลยสักนิด
“แต่ผมไม่อยากมีเพื่อน”
ไม่อยากมีเพื่อน? นายนี่นี่มันแปลกคนจริงเลย หวังว่าตัวเล็กของผมจะไม่ได้รู้จักนายนี่นะ ดูเป็นตัวอันตรายชะมัด…
“แต่เราคงต้องเจอกันบ่อยๆแล้วแหละ” เจบียิ้มอย่างเป็นมิตรส่งไปให้แต่ก็ได้รับแต่สีหน้าเรียบเฉยส่งกลับมา
“นายนี่มันเซ้าซี้จริงๆเลย” แจ็คสันเริ่มจะหัวเสียทำท่าจะเดินเข้าไปสั่งสอนสักหน่อยแต่ก็ต้องชะงักเมื่อกลิ่นที่เขาคุ้นเคยถูกตีเข้าจมูก
กลิ่น… เหมือนแบมแบม แจ็คสันจ้องหน้าเจบีนิ่งแต่ก็ต้องถอยหลังกลับไป
คิดมากไปเองมั้ง สงสัยจะคิดถึงนายนั่นมากไปหน่อย คนหน้ารำคาญอย่างนายนี่จะไปรู้จักคนขี้รำคาญอย่างแบมแบมได้ยังไงกัน
“ขอให้เจอเพื่อนแล้วกัน.. เจบี” แจ็คสันพูดปัดๆก่อนจะเดินออกไปจากโรงยิมโดยที่ไม่หันไปมองหน้าของร่างสูงเลยสักนิด
เจบีเด็กหนุ่มที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่โรงเรียนนี้กลางคันโดยที่ไม่บอกแบมแบมเลยสักนิดหวังว่าจะเซอร์ไพรส์
ร่างบางให้ตกใจเล่น กะว่าจะมาเดินเช็คโรงเรียนใหม่สักหน่อยโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่บังเอิญมาเจอเด็กผู้ชายคนนึงที่เห็น
ว่ากำลังซ้อมฟันดาบอยู่และดูท่าไม่เลวเลยอยากจะทำความรู้จัก เจบีกำลังหาสิ่งที่ทำเวลาว่างอยู่พอดีเลยเลือกที่จะเดินเข้า
มาหาแต่ก็ต้องผิดหวังนิดหน่อย เมื่อคนที่เจอกับพูดจาไม่ดีกับเขา แต่ดูเหมือนเจบีจะไม่ได้ติดใจอะไรนักกับรู้สึกถูกชะตาขึ้น
มา
หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง คนแบบนี้แหละที่ผมอยากจะเอามาเป็นเพื่อน ดูท่าทางลึกลับชะมัด แปลกคน ผมว่านายนั่นต้อง
มีอะไรเซอร์ไพรส์ผมอีกเยอะ วันนี้ผมกลับไปบอกตัวเล็กของผมดีกว่าว่าผมเจอเพื่อนใหม่แล้ว
เจบีที่ดูเหมือนจะไม่ได้ติดใจอะไรกับร่างหนาเมื่อครู่นึกไปก็ยิ้มไปว่าจะเริ่มบอกร่างบางยังไงให้ดูเซอร์ไพรส์ที่สุดว่าเขาตัดสิน
ใจกลับมาเรียนที่นี่อย่างเป็นทางการบวกกับได้เพื่อนใหม่แล้ว จริงๆแล้วเป็นเพื่อนฝ่ายเจบีอย่างเดียวเสียมากกว่า นึกแล้วเจบี
ก็อดขำกับท่าทางแปลกๆของแจ็คสันไม่ได้ เจบีตัดสินใจเดินกลับบ้านพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนหน้าของเขาพร้อมกับ
คำพูดมากมายที่อยากจะเล่าให้ร่างบางฟัง…
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
แจ็คสันผู้หน้าสงสาร นายกำลังปล่อยเสืออย่างจินยองอยู่กับแบมแบมน้าาา
รอยยิ้มพี่บี นึกแล้วอยากเป็นเจ้าของรอยยิ้มนั้น *O*
comments!! ไรท์อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะ ขอบคุณมากนะต๊ะ
รัก JACKBAM รักไรท์ รัก Treasure #
ตอนนี้ไม่มี JACKBAM เลย ให้แจ็คสันรู้สึกเสียโอกาสทำคะแนนบ้าง!!
รอติดตามตอน 4 ด้วยนะค่ะ อย่าเพิ่งทิ้งเค้านะ
ความคิดเห็น