คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : My friends is police 100% (หนูคิมคิโผล่มาแล้วนะค่ะ) [Rewrte]
กลางดึก
กุก กัก
เสียงที่ดังขึ้นในห้องทำให้จุนซูและแจจุงลืมตาขึ้นช้าๆ
“ใคร?”
ความคิดที่ดังขึ้นมาพร้อมกันก่อนทั้งคู่จะหันมามองหน้ากัน
“ลุกช้าๆ อย่าเสียงดัง”
จุนซูพูดแบบไร้เสียงแล้วค่อยๆยันตัวลุกขึ้นช้าๆเช่นเดียวกับแจจุงที่ก้าวขาลงพื้น
ก่อนจะย่องไปที่ต้นเสียงแล้ว
หมับ
“อ่ะ”
โจร?ในความคิดของทั้งสองคนหลุดร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อถูกจุนซูรวบตัวไว้แน่น
“แจจุง เปิดไฟ”
จุนซูรีบบอกแจจุงเพราะคิดว่าคงจะจับโจร?ไว้ได้อีกไม่นาน
พรึ่บ
“ชางมิน?”
แท้โจร?ที่พวกเขาคิดกลับเป็นชางมินที่อยู่ในชุดผ้าฝ้ายเนื้อลื่นสีแดงเลือดหมู...เป็นชุดที่ไม่คุ้นตาจุนซูเลยแม้แต่นิด
“อื้อ..อ่อย อัอ ไอ้ แอ้ว”
เสียงอู้อี่ของชางมินดงัขึ้น เพราะถูกจุนซูปิดปากไว้แน่น เมื่อจุนซูเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงละมือออก แล้วหันตัวชางมินมาดูเพื่อสำรวจ...เหมือนเดิมทุกอย่างยกเว้นรอยแดงคล้ายถูกบางอย่างฟาดขึ้นเต็มตัว และมีเลือดซึมออกมาจากแผลที่แขน
“ชางมิน...ทำไมนายแต่งตัวแบบนี้”
คำถามที่ส่งออกมาจากจุซูทำเอาชางมินทำหน้าเบ้นิดๆ
“ฉันก็ต้องไปทำงานสิ”
ชางมินพูดแล้วมองจุนซูแล้วดึงเข้ามาใกล้ๆตัวเอง
“นายเองก็ต้องทำ พอน้องใหม่มาทีก็ลืมเลยนะ ว่าต้องทำอะไรบ้าง”
คำพูดที่แฝงการตัดเพ้อทำให้จุนซูรู้สึกตัว แต่ก็ยังไม่ลดความสงสัยลง
“ตอบให้ตรงคำถามสิ ชางมิน ทำไมนายถึงแต่งอย่างนี้ ถึงจะบอกว่าทำงาน แต่ฉันก็ไม่คยเห็นเสื้อตัวนี้นะ นายไม่เคยใส่เลย”
สิ้นคำถามชางมินถึงกับเงียบ แววตาที่อ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นแววตาเศร้าสร้อยชั่วครู่ก่อนจะหายไปเมื่อกระพริบตา
“ช่างมันเถอะ จุนซู นอนต่อได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะตื่นไม่ทันนะ”
ชางมินบอกปัดๆก่อนจะดันหลังเพื่อนทั้งสองไปที่เตียงแล้วกดให้นอนลง
“นอนเถอะนะ นี่ดึกแล้ว”
ชางมินพูดเบาๆแล้วหันหลังเข้าห้องของตัวเองไปอย่างเงียบเฉียบ ทิ้งให้ห้องตกอยู่ในความเงียบ จนกระทั่ง
“หลับซะนะ แจจุง”
ขณะเวลานั้น แต่ในสถานที่แห่งหนึ่ง
ปัง
“โว้ย ทำไมหาไม่เจอ”
เสียงหวาดดังลั่นบริเวณ ทำเอาคนอยู่ข้างๆหนีกันจ้าละหวั่น
“คิบอม ใจเย็นๆสิ นี่ที่สถานีตำรวจนะ ไม่ใช่ที่บ้าน นายจะเสียงดังไม่ได้ อีกอย่างนี่ก็ดึกแล้ว”
“หุบปากไปซะ โจ คยูฮยอน”
เสียงตวาดดังขึ้นอีกครั้งพร้อมกับที่เจ้าของเสียงกระแทกตัวนั่งบนเก้าอี้อย่างแรง โดยมีร่างสูงของคยูฮยอนยืนอยู่ข้างๆ ในขณะที่ตำรวจคนอื่นถอยไปกระจุกกันที่ประตู
“คิบอม...”
คยูฮยอนเรียกร่างบางของคนรักอย่างเป็นห่วง น้ำสีใสไหลอาบแก้มใสของคิบอม อย่างน่าสงสาร มือเรียวที่ใช้ทุบโต๊ะแดงห้อเลือดอย่างน่ากลัว
“ฮึก ทำไม ..ทำไมถึงหาไม่เจอ ฮึก แค่จุนซูคนเดียวยังหาไม่เจอ แล้วทำไม ฮึก ทำไมแจถึงโดนไปด้วย ฮึก แล้วฉันจะทำยังไงดี”
เสียงสั่นสะอื้นดังขึ้นอย่างหมดหวัง คยูฮยอนส่งสายตาให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นออกไป และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทุกคนยินดีทำตาม
ปัง
เสียงปิดประตูที่ดังขึ้นทำให้คิบอมเงยหน้าขึ้นมามอง ก็พบว่าในห้องเหลือเขากับ คยูฮยอนแค่สองคน
“ใจเย็นๆนะ คิบอม เราต้องหาสองคนนั้นเจอ”
คยูฮยอนอุ้มร่างบางขึ้นนั่งบนตักของตนแล้วกอดไว้หลวมๆ แม้ตอนแรกคิบอมจะขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมให้ร่างสูงวางคางบนไหล่ตนอยู่ดี
“คยู ..ทำไมต้องเป็นสองคนนั้นล่ะ ..ทำไมต้องเป็นจุนซูกับแจจุงล่ะ ทำไม..ทำไม”
คิบอมพูดเสียงสั่นก่อนจะพิงหลังกับแผ่นอกอุ่นของคนรักอย่างต้องการที่พึ่ง
“เราต้องหาสองคนนั้นเจอ คิบอม ไม่ว่ายังไง เราก็ต้องหาให้เจอ”
คยูฮยอนให้คำมั่นกับร่างบนตักก่อนจะลุกขึ้นยืน
“ไปนอนเถอะ คิบอม นายไม่ได้นอนมาหลายคืนแล้วนะ อย่าฝืนตัวเองเลย”
“ใครบอกว่าฉันฝืน ..ฉันจะไม่นอนจนกว่าจะหาเบาะแสเรื่องของสองคนนั้นได้ เข้าใจไว้ด้วยนะ คุณหัวหน้าตำรวจ โจ คยูฮยอน”
สิ้นคำพูดคิบอมก็ลุกขึ้นยืนแล้วตรงไปที่โทรศัพท์ประจำห้องทันที ก่อนที่จะต่อสายไปหาใครบางคน
“ฮัลโหล ว่างไหม.. ดี ฉันจะให้นายช่วยสืบอะไรให้ฉันหน่อย..ช่วยสืบหาที่อยู่ปัจจุบันของคิม แจจุงกัน คิม จุนซู..อืม..ใช่ สองคนนั้นหายตัวไป ส่วนเรื่องค่าจ้าง..ถ้านายทำงานนี้เสร็จ ฉันรับรองว่า..จะตอบแทนให้อย่างที่นายคิดไม่ถึงเลยล่ะ หึหึ ตกลงรับงานนี้ใช่ไหม คุณนักสืบปาร์ค...ไม่สิ..ต้องเรียกว่า เจ้าพ่อมาเฟีย ปาร์ค ยูชอน”
ทันทีที่พูดจบ คิบอมก็วางโทรศัพท์ลง แล้วหันไปมองคนรักก่อนจะสั่งเสียงเฉียบ
“ไปหาพวกยุนโฮกับฉัน เดี๋ยวนี้”
ไม่ต้องรอคำตอบ คิบอมหันหลังแล้วเดินตรงออกนอกสถานีทันทีโดยไม่คิดแม้แต่จะหันหลังกลับไปว่าคยูฮยอนจะตามมาหรือไม่ เพราะคติสำหรับ คิม คิบอม คือ ถ้าไม่คิดจะทำ ก็ไม่ต้องทำเขาไม่สนใจ!
ตัดมาทางด้านของจุนซูและคนอื่น
“แจจุง...จุนซู ตื่น”
แรงเขย่าตัวเบาๆทำให้เจ้าของชื่อทั้งสองคนค่อยๆลืมตาขึ้น ชางมินมองเพื่อนทั้งสองคนด้วยแววตาอ่านยาก
“มีอะไรหรอ ชางมิน”
คำถามของจุนซูทำให้ชางมินเอามือปิดปากของคนถามเบาๆเป็นเชิงให้เงียบ พร้อมทั้งหลังหลังเป็นเชิงให้ตามเขามา
“มีอะไรหรอ”
แจจุงถามเสียงแผ่วแต่กลับไม่ได้รับคำตอบอะไรทั้งสิ้นนอกจากเขาและจุนซูถูกดันตัวเข้าไปในห้องของเอ็มเพรสที่น้อยคนจะสามารถเข้าไปได้
“นี่มัน..”
แสงดีทองสลับฟ้าเปล่งออกมาจากจี้กลมๆขนาดเล็ก แต่ที่ทำให้แจจุงต้องเบิกตากว้างอย่างตกใจคือ
“แจจุง ได้ยินไหม ตอบที นายอยู่ไหน ขอร้อง นายอยู่ไหน!!”
เสียงที่ดังออกมาเป็นเสียงคุ้นของของแจจุง..และอาจรวมถึงจุนซูด้วย..ชอง ยุนโฮ...
“ยุน!! นั่นเสียงของยุน.ยุนใช่ไหม ฮึก”
ไม่ต้องรอให้ชางมินพูดอะไร แจจุงคว้าจี้เส้นนั้นขึ้นมาแล้วสะอื้นพูดออกมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย..ดีใจ..โล่งใจ ตกใจ..ปะปนกันไปหมด
“..... แจ! นั่นแจใช่ไหม นายอยู่ไหน บอกพวกฉันที พวกเราจะช่วยนายออกมา ตั้งสติไว้นะ”
เสียงหวานที่คุ้นหูของคิบอมดังขึ้นมา จุนซูกับแจจุงกอดกันร้องไห้ด้วยควมรู้สึกต่างๆที่ถาโถมเข้ามาโดยไม่ได้ตั้งตัว..พวกเขา..กำลังจะเป็นอิสระแล้วใช่ไหม..สำหรับแจจุงที่ยังไม่เคยทำงานใดๆ..แต่ก็ถูกทำร้ายจิตใจมากไม่แพ้ใครๆ.. จุนซู..ร่างกายที่เคยเป็นของคนที่เขารัก...กลับถูกย่ำยี..อย่างไร้ความปราณีใดๆ ป่าเถื่อน..จากคนที่เขาไม่ได้มอบหัวใจ..แต่กลับได้ร่างกายเขาไป.. แล้วก็จากไป ทิ้งไว้เพียงความบอบช้ำ..ทั้งกาย และใจ
“คิบอม ! ยุนโฮ ! ช่วยฉันกับแจด้วย ฮึก..ฉันไม่อยากอยู่ในนรกแบบนี้แล้ว ! !”
จุนซูกล้ำกลืนเสียงสะอื้นลงคอแล้วพูดออกมา หวังให้คำขอของเขาส่งไปถึง..คนที่เป็นเพื่อนของเขา..
“จุนซู นั่นนายใช่ไหม นั่นเสียงนายใช่ไหม!!!”
เสียงทุ้มที่ไม่ได้ยินมานาน แต่กลับทำให้จุนซูกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นไม่ได้..แม้จะแหบแห้งและเศร้าสร้อยเพียงใด..เขาไม่มีวันลืมเสียงของคนที่เป็นเจ้าของหัวใจ..เด็ดขาด.. คิม จุนซูและคิม แจจุง กอดกันร้องไห้อย่างหนัก..เกินกว่าจะพูดสิ่งใดออกมา..เป็นดั่งที่ชางมินคาดไว้ไม่มีผิด...
“ตามหาคนที่พวกนายรักให้เจอ..สิ่งไหนทั้คนมักมองข้าม...ที่นั้นล่ะ..ที่พวกเขาอยู่..ไม่ต้องห่วง..ไม่มีใครทำอะไรปริ๊นเซสและควีนของโฮสเทสได้..ถ้าเอ็มเพรสคนนี้ยังอยู่” คำพูดยาวๆของชางมินถูกส่งไป..ก่อนที่แสงสว่างจากจี้นั้น จะดับไป..และไม่มีโอกาสกลับมาสว่างดั่งเดิมได้อีก..เพราะใจกลางของจิ้นั้น..แตกละเอียดเป็นผง..เหมือนกับความรู้สึกของใครหลายๆคน ณ ตอนนี้..
“พวกนายสองคน..ไปพักเถอะ..รอเวลา..ที่ทุกอย่างจะจบลง”
แขนเรียวบางของชางมินโอบประคองให้สองร่างบางให้ลุกขึ้นเพื่อพาไปยังเตียงของตน ที่มีขนาดกว้างพอจะนอนกันสามคน..แม้จะทุลักทุเล แต่ก็สามารถทำให้สองคนนั้น หลับลงได้ แม้จะมีคราบน้ำตาอยู่บนใบหน้าก็ตาม..ชางมินหันไปมองจี้เส้นเล็กที่ถูกทิ้งลงที่พื้นราวกับของไร้ค่า..ด้วยรอยยิ้มที่เศร้าจนหน้าใจหาย อดีตที่เขาไม่เคยเปิดใจให้ใคร..มันกำลังจะย้อนรอย..
“ลาก่อน..ความทรงจำของฉัน..”
คำกระซิบที่แผ่วเบาราวกับจะฝากไปกับสายลมที่พัดเข้ามาปลอบประโลมเยียวยาผู้เจ็บช้ำทางจิตใจ.. ชางมินก้มลงหยิบสร้อยเส้นน้อยขึ้นอย่างเบามือราวกับลูกนกที่ใกล้จะตาย..แล้วเดินออกไปยังระเบียง ปล่อยให้สิ่งที่อยู่ในมือร่วงลงไปตามแรงโน้มถ่วง..จะไม่มีใคร..เจ็บปวดเพราะของชิ้นนี้อีกต่อไป..
ปัง ปัง
ยังไม่ที่ชางมินจะได้หลับตาลงกับเตียงนุ่ม เสียงเคาะประตูอย่างรุนแรงทำให้ชางมินจำต้องลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูเพื่อดูผู้มาเยือน..
“มีอะไร.”
คำถามสั้นๆถูกส่งออกจากริมฝีปากบางเมื่อคนตรงหน้าเป็นคนที่เขาไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า....คนตรงหน้าของเขา..เป็นชายร่างสูงสมส่วนที่อยู่ในชุดสีดำ และมีหน้ากากครึ่งบนของใบหน้าราวกับจะปกปิดบางอย่าง..มีเพียงดวงตาที่เย็นชา..และไร้ความรู้สึก..
หมับ
“กะ..อื้ออ!!!”
ร่างเพรียวบางถูกกระชากเข้าไปในอ้อมกอดที่น่ารังเกียจ ริมฝีปากบางที่ส่งคำพูดเย็นชานั้นถูกปิดแนบด้วยริมฝีปากหยักที่ประทับจูบลงมาอย่างป่าเถื่อน ดุดัน..และสร้างความขมขื่นให้กับผู้รับ..
“โอ้ย!”
ก่อนที่เสียงหวานจะหลุดอุทานออกมาเบาๆเมื่อถูกกัดเข้าที่ริมฝีปาก ราวกับจะหยอก..ให้เจ็บ มือเรียวยกขึ้นมาเช็ดสัมผัสน่ารังเกียจนั้นอย่างหงุดหงิด..เห็นทีคนตรงหน้าจะเป็นคนงานคลับที่เข้ามาใหม่ ถึงได้ไม่รู้ว่า เอ็มเพรสนั้น..แตะต้องไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ผู้ชนะ
“นายหญิงเรียก..หึหึ..”
เสียงหัวเราะเบาๆในลำคอทำให้ชางมินเกิดความไม่ไว้วางใจคนตรงหน้าอย่างมาก..น่ากลัวเกินกว่าที่จะเป็นคนงานปกติ..น่ากลัว..ราวกับปีศาจ..
ก่อนที่จะได้คิดอะไรต่อ...ร่างของเขาก็ถูกช้อนขึ้นอุ้ม อย่างที่ไม่ทันได้ตั้งตัว..เร็ว..และยากที่จะคาดเดาสิ่งใด..
“แก! ปล่อยฉันนะ!! ไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้จะเจออะไรบ้าง อยากโดนไล่ออกตั้งแต่งานวันแรกหรือ อื้ออ!!!”
ไม่จำเป็นต้องรอให้เสียงหวานๆทั้งพูดจบประโยค ร่างสูงก้มลงปิดปากร่างที่กำลังว่าเขาอยู่ หากแต่คราวนี้ ชางมินเบิกตากว้างอย่างตกใจ เมื่อรับรู้ถึงลิ้นร้อนที่สอดเข้ามาอย่างจาบจ้วง!!!
“หึ..นิ่งได้สักที..ปากเก่งนักนะ..ดูสิ ว่าถ้าไปหานายแม่แล้ว..นายจะปากเก่งกับฉันได้แบบนี้หรือเปล่า”
ร่างสูงกระตุกยิ้มเย็นเมื่อรู้สึกว่าร่างเพรียวที่เขากำลังกวาดความหวานนั้นตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ ขาคู่ยาวก้าวไปยังห้องที่เป็นเป้าหมายแล้วเปิดเข้าไปอย่างไม่คิดจะเคาะแม้แต่ครั้งเดียว..และ..สิ่งที่ตามมาก็เป็นดั่งคาด
“แกเข้ามาได้ยังไง การ์ด จับมันไว้ ขอฉันคุยธุระเสร็จก่อนแล้วค่อยเอาเรื่อง ตายแล้ว!! แกกล้าดียังไงมาจับตัวเอ็มเพรสอย่างนี้!!! ถ้าเกิดช้ำขึ้นมาราคาตกจะทำยังไง!!!”
เสียงแหลมที่ตวาดเหวขึ้นมาชวนปวดหู จีนา.หรือนายหญิงของโฮสเทสพาร่างของหล่อนเข้ามาประชิดร่างสูงแล้วกรีดร้องอย่างน่าหวาดหวั่น.. แต่ชายผุ้บุกรุกยังคงนิ่งราวกับไม่ได้ยินคำพูดใดๆทั้งสิ้น
“ก็คุยให้เสร็จสิ.. หึ แล้วเธอจะรู้”
ร่างสูงเดินไปนั่งยังโซฟาตัวหรูแล้ววางร่างของชางมินลงกับเบาะนิ่มก่อนจะนั่งลงรอให้หญิงคนนั้นพูดคุยธุระให้เสร็จ
“ห๊ะ!!!! พวกแกว่าอะไรนะ ท่านยูชอนจะมาที่นี่งั้นหรอ!! ทำไมแกบอกอะไรช้าแบบนี้ห๊าา!!! เอ็มเพรสก็เพิ่งถูกไอ้บ้าที่ไหนอุ้มมา เกิดมีตำหนิท่านยูชอนก็โกรธพอดีสิ!!! จะให้ควีนกิ๊กก๊อกนั่นมาก็ใช่ว่าจะได้เรื่อง มาอยู่ได้แค่ไม่กี่เดือนจะรู้อะไรบ้างล่ะ บริการเสียก็ทำเสียเรื่องพอดี ไอ้เด็กใหม่หน้าหวานนั่นก็เพิ่งมาใหม่ได้ไม่ถึงสามวัน จะไปบริการอะไรได้ล่ะ เกิดร้องไห้หาผัวหาแม่มันจะทำยังไง ล่มจมกันหมดนี่ล่ะ”
เพี๊ยะ
ฝ่ามือหยาบของนายหญิงฟาดเข้าเต็มๆใบหน้าของผู้มาส่งข่าวเต็มแรง ส่งผลให้ชางมินที่ช็อกอยู่ได้สติขึ้นมา ชางมินพยุงตัวลุกขึ้นแล้ววิ่งไปหานายหญิงของตนด้วยความตกใจ
“นายหญิง เกิดอะไรขึ้น?!”
เด็กหนุ่มถามด้วยสีหน้าร้อนรน ชื่อที่หลุดปากออกมาจากผู้เป็นเจ้าของที่แห่งนี้ทำให้ชางมินเกิดความหวั่นใจ ท่านยูชอน คือมาเฟีย..ที่โหดเหี้ยมอำมหิตมากที่สุด..ลุยเดียวเอาชนะคนกว่าร้อยคนได้สบายๆและไร้รอยขีดข่วนใดๆ.ยิ่งกว่าปีศาจ
“แก ตื่นแล้วใช่ไหม! ไปยั่วไอ้นี่ยังไงห๊ะ แกเคยสำนึกไหมว่าแกตัวรักตัวสงวนตัวให้คนอื่น! ดูสิ ดูสารรูปของแก เหอะ! แบบนี้ฉันจะเอาใครไปให้ท่านยูชอนห๊ะ ชเวคัง ชางมิน หรือจะให้เอาไอ้ควีน คิม จุนซู กับ เด็กใหม่คิม แจจุงมาบริการท่านยูชอนให้สมใจแกล่ะ ดีใจมากไม่ใช่หรอห๊ะ มีคนมารับบริการแทนน่ะ! !”
คำพูดตวาดสุดเสียงทำให้ชางมินก้มหัวอย่างหวาดกลัว เขาไม่เคยดีใจเลยที่มีคนมารับเคราะห์แบบเขา..ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว..ท่านยูชอนที่เขาว่ากันว่าโหดร้ายจะมาที่นี่..คนที่ไป..คงจะไม่มีทางได้กลับมาแน่ๆ..เขาเชื่อแบบนั้น..
“นายหญิง..ผมไม่เคย..”
ไม่ทันที่จะพูดจบ สายตาของชางมินก็เหลือบไปเห็นขาของใครบางคนที่มายืนอยู่ข้างๆเขา..
“เธอว่าอะไรนะ..คิม แจจุง กับ คิม จุนซูงั้นหรอ..”
เสียงทุ้มดังขึ้นอย่างเรียบเฉย ยากที่จะคาดเดาสิ่งใดว่าทีแฝงมาหรือไม่..จีนาตวัดตามองคนที่พูดด้วยสายตาดูถูก..คนคนนี้.ทำให้สินค้าของเธอมีตำหนี..ถึงจะชั่วคราวก็ตาม
“ใช่แล้วจะทำไม สนใจหรือไง! เหอะ! บอกไว้เลยนะ คิมจุนซูฉันเพิ่งได้มาไม่กี่เดือน คงจะทำอะไรไม่เป็น ส่วนคิมแจจุงเพิ่งได้ตัวมาจากแถวตลาด ปวกเปียกงี่เง่าสิ้นดี อยากได้ก็จ่ายมา ห้าร้อยล้าน! แล้วฉันยกให้สองคนพร้อมกันเลย แล้วเอาเอ็มเพรสคืนมาให้ฉัน ฉันจะเอาไปขัดตัวสักหน่อย นายจับไปเยอะ ท่านยูชอนคงจะไม่อยากใช้ของร่วมกับคะ.”
ยังไม่ทันพูดจบ หน้ากากสีดำก็ร่วงลงกับพื้นพร้อมกับที่จีนาอ้าปากค้าง ก่อนที่เธอจะกรีดร้องออกมา
“ท่านยูชอน! ! ! !”
“หึ..เป็นอย่างที่บอกไม่ผิด ชอง จีนา นายหญิงของโฮสเทส..เธอนี่เอง..ขอบใจนะที่ทำให้งานของฉันมันเสร็จเร็ว ง่ายกว่าที่คิดเยอะ”
ใบหน้าหล่อเหลาที่มีรอยยิ้มเย็นทำให้ชางมินมองคนพูดอย่างหวาดกลัว..นี่เขาจะต้องเจออะไรอีกบ้าง แล้วทำไมแจจุงกับจุนซูถึงเกี่ยวด้วย!
“แก..จะทำอะไรสองคนนั้น อีก!”
ยังไม่ทันที่จะได้รับคำตอบ แรงชกที่อัดเข้ามาที่ท้องทำให้เขาหมดสติลง..ทุกอย่างดับวูบราวกับทีวีถอดปลั๊ก...ยูชอนมองคนที่สลบไปด้วยสายตกเย็นเยียบ ก่อนที่จะดีดนิ้วเบาๆสองที ชายชุดดำที่เป็นลูกน้องของเขาก็พากันเข้ามาล้อมรอบบริเวณ
“เก็บซะ อย่าให้เหลือแม้แต่เศษฝุ่น เว้นแค่คิมจุนซู คิมแจจุง แล้วก็คนคนนี้ สามคนนี้ ห้ามแตะต้อง นอกนั้น..เก็บอย่าให้เหลือ”
ว่าจบยูชอนจึงเดินออกจากบริเวณนั้นไปอย่างรวดเร็วเพื่อขึ้นไปยังห้องที่เขาเพิ่งไปเยือน ทิ้งไว้เพียงร่างบอบช้ำของชางมิน และจีนาที่หน้าซีดตัวสั่น..กลัวกับความตาย!
ปัง
เสียงเปิดประตูที่ดังกว่าครั้งไหนๆทำให้แจจุงและจุนซูสะดุ้งสุดตัวและพากันวิ่งออกมาดูผู้มาเยือน
“นายเป็นใคร! !”
จุนซูถามเสียงสั่น ความรู้สึกของเขากำลังบอกว่า..คนคนนี้ อันตราย..แขนบางกอดคนข้างกายหวังจะให้คลายความกลัวที่ออกมาอย่างล้นหลาม...
“หึ..ฉันเป็นใครไม่สำคัญ.ตามมานี่ พวกนายเป็นอิสระแล้ว คิมจุนซู คิมแจจุง”
ปัง ปัง
กระสุนสองนัดที่ยิงออกมาจากกระบอกปืนแม่นราวกับจับวาง กล้องวงจรปิดสองเครื่องที่ตั้งอยู่ในห้องตอนนี้กลายเป็นเศษเหล็กไร่ค่า..
“ละ.แล้ว ชางมิน..ล่ะ จุน.ซู ชางมินหาย.ไปไหน ฮึก.”
น้ำตาที่เริ่มคลอหน่วยทำให้จุนซูลูบแผ่นหลังบางเบาๆหวังให้คลายทุกข์ ยูชอนชะงักฝีเท้าแล้วหันกลับมาไปมองคนทั้งสองแล้วพูดเบาๆอย่างไร้อารมณ์..
“ไม่ต้องร้องไห้..ฉัน.ซื้อตัวพวกนายแล้ว..ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว ดังนั้น ออกไปได้แล้ว กลับบ้านไปซะ!”
อาจจะจริงที่คำว่าซื้อของยูชอนมันเป็นความจริงแต่.. จ่ายด้วยความโหดร้าย และไม่ได้ระบุว่าซื้อมาเพื่ออะไร เพื่อปล่อยให้เป็นอิสระ เพิ่อให้หลุดพ้นจากโลกที่สกปรกโสมม หรือ..เพื่อรองรับอารมณ์กักฬะของเขา...
“นะ..นี่ มัน อะไร.เกิด..อะไร เนี่ย!”
ตามทางเดิน มีแต่เลือดที่เจิ่งนองไปทั่ว..แต่กลับไม่พบร่างของใครเลย..แม้แต่คนเดียว..ความหนาวเย็นเข้ามาเยือนสู่ร่างบางของคนทั้งสองด้วยความหวาดกลัว..หากแต่ไม่นาน ทั้งคู่ก็รู้สึกว่า ทุกอยู่มันมืดสนิท..ก่อนที่จะไม่รับรู้อะไรหลังจากนั้น แม้แต่น้อย...
“หึหึ...แค่นี้ก็กลัวกันจนสลบไปซะแล้ว....อ่อนแอ”
ยูชอนก้าวท้าวเดินตามมาพร้อมกับที่ไหล่มีร่างบอบช้ำที่ชุ่มไปด้วยเลือดของชางมิน ขาคู่ยาวก้าวออกไปนอกบริเวณตึกที่เป็นที่ซ่อนของแหล่งมั่วสุมนี้ มือหนายกโทรศัพท์เครื่องบางขึ้นมา แล้วกดโทรหาใครบางคนเพื่อจบงาน..ที่เขารับมา
“ฉันได้ตัวคิมแจจุง กับ คิมจุนซูมาแล้ว จัดการซ่องนี่แล้วด้วย รีบมาล่ะกัน..ถ้าไม่อยากให้สองคนนั้นเป็นอะไร เปล่า ไม่ได้ทำ ไม่ได้จับตัว อืม แค่นี้ล่ะ”
เมื่อพูดจบเขาจึงตัดสายแล้วเดินไปนั่งที่ม้านั่งตัวยาวหน้าตึกร้าง..อดีตที่ซ่องสุมกำลังของเขา..ไม่สิ.ต้องเรียกว่ารังเก่าสินะ... ยูชอนคิดพลางมองคนที่กล้าว่าเขาด้วยสายตาอ่านยาก..ปากจัดกว่าใบหน้ารูปลักษณ์ที่คมหวาน..ร้าย..แต่ก็หวานถึงใจ
“ชเวคัง ชางมิน งั้นหรอ..หึหึ..”
10 นาทีต่อมา.
“ยูชอน!”
รถตำรวจที่ขับเฉียดขาเขาไปพร้อมกับเสียงตะโกนทำให้ยูชอนละสายตาออกจากชางมินแล้วหันไปมอง
“พวกนั้นอยู่ข้างใน ไม่ต้องห่วง..ฉันจัดการหมดแล้ว”
คำพูดสั้นๆทำให้ผู้มาใหม่อย่างคิบอม คยูฮยอน ยุนโฮและซีวอนมองคนพูดอย่างตกใจ..ไว..และอำมหิต อย่างที่เขาลือกันจริงๆ..แต่ก็เก่ง..จนน่ากลัว
“ว่าไงนะ! นายจัดการหมดหรอ ฆ่าคนมันผิดกฎหมายนะ!”
คิบอมกับคยูฮยอนพูดขึ้นแม้จะรู้ว่าคำว่ากฎหมายมันไม่มีค่ากับมาเฟียไร้ความรู้สึกอย่างยูชอนก็ตาม..
“หึหึ..แล้วไง ไม่ฆ่าคน..ฉันก็ผิดอยู่ดี ก็แค่..ฆ่าแล้ว..มันสนุกดี..”
น้ำเสียงเย็บเยียบแฝงไปด้วยความอาฆาตร้ายทำให้ทั้งสี่รีบวิ่งเข้าไปในตึกสีหม่นด้วยความรู้สึกหลากหลาย..กลัว..ว่าคนสำคัญจะถูกพรากไป..อย่างไม่มีทางหวนกลับ
“!!!!”
เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปในบริเวณนั้น กลิ่นคาวของเลือดก็ลอยเข้ามากระทบประสาทการรับรู้กลิ่น..น่าสะอิดสะเอียน..ตามทางเดินถูกย้อมไปด้วยสีแดงคล้ำของเลือด ที่มีอยู่แทบทุกพื่นที่..หากแต่กลับไร้วี่แววของร่างไร้ชีวิต..แม้แต่ร่างเดียว....
“ทุกคน มานี่!”
เสียงตะโกนของคิบอมทำให้ คยูฮยอน ซีวอน และยุนโฮวิ่งกันเข้าไปหาในห้องทึบที่ไร้แสงจากภายนอก มีเพียงแสงจากหลอดไฟดวงน้อยที่พยายามทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มที่..และอึ้งกับภาพที่เห็น..ภาพของแจจุงละจุนซูที่นอนจมกองเลือดอยู่ชวนให้เลือดในกายเย็นยะเยือก ไหนปาร์ค ยูชอน บอกว่าสองคนนี้ไม่เป็นไรไงล่ะ? ทำไมถึงได้นอนจมกองเลือดแบบนี้...
“จะ..แจ..”
ยุนโฮครางเรียกชื่อคนรักของเขาอย่างติดขัด..ภาพที่ปรากฏตรงหน้าของเขาทำให้เขาช็อก..แต่ก็ไม่คิดว่ามาเฟียที่รักศักดิ์ศรียิ่งกว่าสิ่งใดจะพูดคำลวงได้..ไม่มีทางที่เลือดของคนเพียงสองคนจะเจิ่งนองพื้นได้ขนาดนี้..ต่อให้เป็นเลือดหมดทั้งร่างกายก็ตาม..
“แจจุง..ตื่นได้แล้วนะ..ลืมตาขึ้นมาสิ...ยุนขอโทษ.. ผมมาแล้วนะ..ผมมารับแจกลับไปอยู่ด้วยกันแล้วนะ.แจ..ตื่นขึ้นมามองผมสิ...”
เสียงทุ้มที่สั่นเครือชวนให้สงสารดังขึ้นมา ยุนโฮจับมือบางของแจจุงขึ้นมาแนบหน้าของตัว..แม้จะรู้สึกถึงความเย็นจากมือบางเปื้อนเลือดนั้นก็ตาม..แต่ยังอยากหลอกตัวเอง..ว่าคนตรงหน้าของเขายังไม่ได้เป็นเพียงร่างที่ไร้วิญญาณ..และไร้ลมหายใจ
“จะ..เจ็บ..”
เสียงอุทานแผ่วเบาทำให้ยุนโฮหันไปมองคนข้างๆ..คิม จุนซู แม้จะไม่ได้ลืมตาแต่มือที่เปื้อนเลือดนั้นกลับขยับเข้ามากุมหัวตัวเองด้วยความเจ็บปวด..ซีวอนที่ทำได้เพียงแต่ยืนมองด้วยความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้ามา.ไม่กล้าเข้าใกล้..เจ้าของหัวใจของเขา..ได้เจอกันแล้ว..หลังจากที่ไม่ได้ยินเสียง...ไม่ได้เห็นหน้า นอกจากรูปถ่ายที่มีติดตัวไว้..
“จุนซู...”
คิบอมยืนมองภาพตรงหน้าด้วยน้ำตา..สองมือถูกยกขึ้นมาปิดปากกลั้นเสียงสะอื้น..เขา..ได้เพื่อน..ของเขา คืน..มาแล้ว..คยูฮยอนส่ายหน้านิดๆกับนิสัยคนรัก มือหนาโอบเอวคอดเข้ามากอดประคองหวังปลอบประโลมหยุดร้องไห้..น้ำตาของคิม คิบอม..เป็นของร้อนสำหรับเขา สิ่งที่เขาไม่ชอบ และไม่อยากเห็นมากที่สุด..ไม่ว่ามันจะเกิดเพราะเหตุใดก็ตาม
“จุนซู...ได้ยินฉันไหม..จำคนใจร้ายคนนี้ได้ไหม..คนที่เคยสัญญาว่าจะปกป้องนายไปจนตาย...ฉันอยู่กับนายแล้วนะ.. ลืมตาขึ้นมามองคนใจร้ายคนนี้ได้ไหม..ขอร้อง..จุนซู”
ฝ่ามือหนาที่โอบกอดคนรักอย่างทะนุทะถอมราวกับคนตรงหน้าเป็นตุ๊กตาแก้วที่มีรอยร้าวใกล้ปริแตก..จุนซูฝืนความเจ็บปวดลืมตาขึ้นมามองตามเสียงเรียก..เขารอดแล้วใช่ไหม..หรือเขาตายไปแล้ว..และเขากำลังฝัน....ถึงได้ยินเสียงคนที่เขารักหมดหัวใจ
“ซีวอน...ฉันตายแล้วใช่ไหม นึกว่าฉันจะไม่ได้เห็นนายอีกแล้ว”
เสียงที่เคยใสราวกับแก้วบัดนี้แหบแห้งด้วยเกิดจากการสลบไม่ได้สตินานกว่าสิบนาที ดวงตาคู่สวยมีหยดน้ำใสไหลรินออกมาไม่ขาดสาย จุนซูเอื้อมมือไปจับแขนคนรักอย่างไม่เชื่อสายตา..
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะ ฉันต้องมาช่วยนายอยู่แล้ว นายเป็นคนที่ฉันรักมากที่สุดนะ..ฉันจะทิ้งนายได้ยังไง..นายเป็นคนที่ฉันรักนะจุนซู”
เสียงทุ้มที่สั่นเครือเอ่ยขึ้นพร้อมกับที่เจ้าตัวกอดร่างบอบบางนั้นไว้ ราวกับจะไม่ปล่อยให้หายไปไหนอีก..ตลอดกาล จะไม่มีวันปล่อยอีกแล้ว
“เลือดมาจากไหนแจ..นายกับจุนเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
คิบอมอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปถามเพื่อน เมื่อเห็นเลือดที่โชกชุ่มบนเสื้อผ้าและร่างกาย หากแต่ร่างบางทั้งสองกลับไร้บาดแผลใดๆ
“...”
คำตอบที่ได้รับ กลับเป็นความเงียบที่แฝงด้วยความหวาดกลัวโดยไร้เสียง คิบอมได้แต่ถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยอ่อน
“ไม่เป็นไรหรอกนะ..นายสองคนปลอดภัยแล้ว กลับบ้านกันเถอะนะ”
ถึงจะไม่รู้อะไรมาก แต่อย่างน้อยเพื่อนรักของเขาสองคนก็ปลอดภัย..ถึงจะแค่ร่างกายก็ตาม ส่วนด้านจิตใจ..คงต้องปล่อยให้คนสำคัญของทั้งสองคนรักษา..
ความคิดเห็น