คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Begin 100% [Rewrite]
“จุนซู แจจุง ตื่นได้แล้ว”
เสียงตะโกนปลุกของชางมินทำให้สองชีวิตที่กลับอยู่ลืมตาขึ้นอย่างตกใจ
“อ๊ากกก ไฟไหม้ๆ”
เสียงของจุนซูร้องขึ้นอย่างตกใจ ทำให้แจจุงพลอยตกใจตามไปด้วย
โป๊ก
“โอ้ย เจ็บนะชางมิน เขกมาได้ หัวคนนะไม่ใช่หิน”
ชางมินลูบมือที่เขกหัวเพื่อนเบาๆ
“ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก หัวแข็งยั่งกับหิน”
ชางมินพูดแล้วชี้ให้เพื่อนดูรอยแดงที่มือของตน แจจุงนั่งมองสองเพื่อนใหม่ที่คุยกันโดยไม่สนใจตัวเองเลยอย่างสลด
“ยุนไม่ทิ้งแจหรอกนะ สายตาของยุนมีแต่แจคนเดียว”
น้ำเสียงอ่อนโยนของคนรักที่ผุดขึ้นมาในหัวทำเอาแจจุงเสียใจขึ้นมา
“ฮึก”
เสียงสะอื้นเล็กๆทำเอาสองเพื่อนรักที่คุยกันอยู่หันมามองคนตัวบางเป็นตาเดียว
“อย่าร้องสิ เป็นอะไรไป”
ชางมินพูดขึ้นแล้วดึงร่างบางๆเข้ามากอดปลอบ จุนซูเองก็มองอย่งเป็นห่วงเช่นกันแต่สมองกลับคิดถึงสิ่งแรกที่แจจุงพูดกับพวกเขา
“ฮึก ยุนโฮ ฮึก คิดถึงยุนโฮ”
“แจจุง”
จุนซูเรียกร่างบางอย่างตกใจก่อนจะดึงร่างนั้นออกมาอย่างชางมินอย่างไม่สนใจพร้อมกับเขย่าตัวอย่างแรง
“ยุนโฮ...คนที่ชื่อยุนโฮ...ใช่...ใช่..ชอง ยุนโฮ...หรือเปล่า”
จุนซูพูดขึ้นอย่างติดๆขัดๆ โดยมีสีหน้ามีความหวังบางอย่าง แจจุงเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“ใช่”
คำสั้นๆของแจจุงทำเอาจุนซูน้ำตาไหลออกมา แม้จะไม่มีเสียงสะอื้น แต่ก็สามารถทำให้แจจุงที่ถูกดึงเข้าไปกอดตกใจได้
“ละ..แล้ว ซีวอนล่ะ...ขะ..เขา สบายดีไหม”
จุนซูพูดด้วยน้ำเสียงที่มีความหวัง แจจุงหลับตานึกถึงคนที่เขาเจอเมื่อสองวันก่อน
“ชเว ซีวอน..ใช่ไหม”
“อือ”
จุนซูพูดแล้วพยายามสงบสติเพื่อฟังคำตอบ
“เขาสบายดี ยุนโฮพาฉันไปคุยกับเขาบ่อยๆ แต่ยุนโฮบอกว่าซีวอนเครียดมากเพราะหาทางช่วยคนสำคัญที่ถูกจับไป”
แจจุงตอบออกมาแล้วนึกถึงใบหน้าของคนที่ชื่อ ซีวอน คนคนนั้น..แม้จะส่งยิ้มให้เขาและคนอื่น แต่รอยยิ้มนั้นกลับดูเศร้าเหลือเกิน เศร้าจนน่าใจหาย แววตาที่มีน้ำตาคลอยามที่เห็นเขากับยุนโฮนั่งยิ้มให้กันทำให้เขาสงสาร
“ฮึก ซีวอน”
จุนซูสะอื้นออกมาแล้วกอดแจจุงแน่น น้ำตาไหลออกมาราวสายน้ำไหล เสื้อของแจจุงชุ่มไปด้วยน้ำตาของคนตัวบางที่กอดเขา
“อย่าร้องสิ จุนซู มานี่มา”
ชางมินที่มองเหตุการณ์อยู่นานพูดขึ้นแล้วดึงเพื่อนเขามากอดปลอบเอง เพราะรู้ว่าแจจุงคงจะไม่สามารถทำให้เพื่อนผู้ร้องไห้ทีเป็นเขื่อนพังของเขาหยุดร้องไห้ได้ง่ายๆแน่
“แจจุง เท่าที่ฟังมา นายกับคนที่ชื่อ ชอง ยุนโฮ คงจะรักกันสินะ”
แจจุงมองคนที่ถามอย่างสงสัย แต่ก็ตอบตามความจริง ชางมินมองคนในอ้อมกอดสักพักก่อนจะหันกลับมาถามแจจุง
“อือ”
“งั้นฟังดีๆนะ แจจุง พวกเราทุกคนที่นี่ก็เหมือนนาย ถูกจับมา แต่เท่าที่ฟังมา นายกับจุนซูคงจะถูกจับมาทั้งๆที่มีคนรัก แต่สำหรับฉันอาจจะพิเศษกว่าพวกนายนิดหน่อย”
แจจุงมองคนพูดอย่างสงสัย
“หมายความว่ายังไง ฉันกับจุนซู”
“ชเว ซีวอน มีคนรักชื่อ คิม จุนซู”
ประโยคสั้นๆที่มีไม่กี่คำทำให้แจจุงตกใจ แต่ก็พยายามทำความเข้ากับสิ่งที่เกิดขึ้น เรื่องที่เขบารูในวันนี้มีมากเกินกว่าที่เขาจะทำความเข้าใจได้ทัน
“แล้ว...นายล่ะ”
คำถามของแจจุงทำเอาชางมินยิ้นแบบฝืนๆ
“ก่อนที่จะถูกจับมา พ่อกับแม่ของฉันถูกฆ่า ..พวกนั้นเผาบ้านฉันจนไหม้ไปทุกอย่าง.. ...ฉันไม่เหลืออะไรเลย ตอนนั้นฉันยังเด็ก สิบสี่สิบห้าเองล่ะมั้ง หาทางออกไม่ได้ กลัวตาย ก็เลยตามมา”
คำตอบที่ได้ทำให้แจจุงอึ้งกับความอดทนของคนตรงหน้า
“ไม่คิดหาทางหนีหรอ”
คำถามของแจจุงทำเอาชางมินยิ้มแบบแปลกๆ
“หนีทำไม”
คำถามถูกส่งกลับทำเอาแจจุงอึ้ง รอยยิ้มอ่อนโยนผุดขึ้นมาเมื่อชางมินเห็นสีหน้าของคนถาม
“หนีทำไม ถ้าหนีแล้วรู้ว่ายังมีคนถูกจับมาแบบฉัน สู้หาทางหนีให้หมดเลยไม่ดีกว่าหรอ”
ชางมินพูดแล้วยิ้มบางๆ ดวงตาคู่สวยมองคนที่เขากอดซึ่งร้องไห้จนหลับไปแล้วอย่างอ่อนโยน
“จุนซูหลับไปแล้วสินะ”
“อือ เจอเรื่องแบบนี้ ควีนสุดแสบของเราก็คงต้องมีถ่านหมดบ้าง”
ชางมินพูดแล้วลูบหัวกลมเบาๆด้วยความเอ็นดู
“นายอายุเท่าไหร่หรอ”
คำถามที่ถูกส่งมาจากแจจุงทำให้ชางมินละสายตาจากเพื่อนมามองคนถาม
“ยี่สิบสาม”
คำตอบที่ได้ทำเอาแจจุงสงสัย
“จริงหรอ หน้านายเด็กกว่าอายุพอสมควรนะเนี่ย ฉันเพิ่งจะยี่สิบเอง”
คำพูดของแจจุงทำให้ชางมินยิ้มบางๆ แจจุงมองใบหน้าอ่อนโยนนั้นแล้วเขยิบเข้าไปใกล้ก่อนจะล้มตัวนอนลงบนตักนุ่ม
“เอาเป็นว่าขอนอนตักหน่อยนะครับ พี่ชาย”
แจจุงพูดอ้อนคนอายุมากกว่าพร้อมกับที่เจ้าตัวจะปิดเปลือกตาบางกแล้วเข้าสู่ห้วงนิทรา ชางมิน มองคนที่มัดมือชกอย่างขำๆ ก่อนที่จะพูดขึ้นเบาๆ
“นอนให้สบายนะ ก่อนที่จะตื่นขึ้นมาเจอความจริงที่โหดร้าย ฉันไม่อยากให้พวกนายสองคนตื่นขึ้นมาด้วยซ้ำ โลกที่โหดร้ายแบบนี้ ไม่เหมาะกับพวกนายสองคนหรอก”
ยิ่งเห็นการขยับตัวแบบเด็กๆของแจจุง ชางมินยิ่งเศร้า ตลอดมาห้าสิบกว่าปีที่อยู่ในนี้ เขาเหมือนตกอยู่ในนรกทั้งเป็น ทุกหนทางที่มีให้เลือกเดินนั้นล้วนไม่ต่างกันเท่าไหร่ ขายตัว....คงจะเป็นคำสรุปง่ายๆสำหรับเขา สกปรก..คงจะเป็นนิยามเดียวที่ให้เขาได้
ปัง
ปัง
เสียงทุบประตูทำเอาชางมิน จุนซู และแจจุงหันไปมอง ชางมินลุกขึ้นไปเปิดประตู
“มีอะไร”
น้ำเสียงเรียบๆที่ส่งไปพร้อมกับสีหน้าที่เรียบเฉยทำให้ผู้มาใหม่มองอย่างโลมเลีย เสน่ห์ของเอ็มเพรสอยู่ที่ความเย็นชาและความหยิ่งทะนง แต่มองลึกๆจะพบความห่วงใยที่มีต่อผู้อื่น
“นายหญิงเรียกพบ ทั้งสามคนเลย”
“อือ ไปได้แล้ว”
พูดจบชางมินก็ปิดประตูแล้วเดินไปหาอีกสองคนที่นั่งอยู่บนเตียงทันที
“ว่าไงบ้าง ชางมิน”
“ต้องไปกันแล้ว แจจุง ทำใจดีๆนะ สิ่งที่นายต้องพบต่อไปนี้คือปีศาจ ความเข้มแข็งคือสิ่งเดียวที่นายต้องมี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้านายขาดสิ่งนี้ไป นายอาจจะต้องพบกับการตกนรกทั้งเป็น”
ชางมินพูดขึ้นแล้วจ้องตาแจจุงเพื่อยืนยันว่าสิ่งที่เขาพูด เป็นความจริง
“ใช่ แจจุง ถึงเวลาที่นายต้องเข้มแข็ง เพื่อตัวเอง...และ...”
จุนซูพูดเว้นไว้ ก่อนจะพูดอีกครั้ง
“เพื่อยุนโฮที่นายรักด้วย ถ้านายอยากออกไป สิ่งที่นายต้องมีคือ ความเข้มแข็ง ถ้านายอ่อนแอ นายก็จะต้องอยู่ที่นี่ต่อไป”
จุนซูพูดก่อนจะถอยไปยืนข้างๆชางมิน แจจุงหลับตาลงเพื่อนึกถึงสิ่งที่ได้ยินมา
“แจรู้ไหม ว่าความจริงยุนก็ไม่ได้เก่งอย่างที่แจว่าหรอก”
“ทำไมล่ะ แจว่ายุนเก่งที่สุดเลย เข้มแข็งด้วย”
“ก่อนหน้าที่จะเจอแจ ยุนอ่อนแอมาก พอมาเจอแจ ยุนสัญญากับตัวเองว่าจะเข้มแข็งเพื่อแจ ปกป้องแจให้มากที่สุด”
คำพูดในอดีตของแจจุงและยุนโฮผุดขึ้นในหัว แจจุงลืมตาขึ้นมาก่อนจะยิ้มให้เพื่อนใหม่ทั้งสองด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป
“ฉันจะเข้มแข็งเพื่อตัวเอง และเพื่อยุนโฮ”
น้ำเสียงที่แน่วแน่ของแจจุงทำให้สองเพื่อนรักอย่างชางมินและจุนซูหันมายิ้มให้กันก่อนที่คนทั้งคู่จะยื่นมือมาตรงหน้าของแจจุง
“งั้นเราไปกันเถอะ เจ้าหญิง”
คำพูดของชางมินทำให้แจจุงหน้าแดงด้วยความอาย
“จะบ้าหรอ ฉันเป็นผู้ชายนะ”
แจจุงพูดแล้วสะบัดตัวหนีเพื่อนทั้งสอง
“สำหรับที่นี่ เจ้าหญิงของเราสองคน นายน่ะเหมาะที่สุดแล้วล่ะ ดูสิ ตัวก็เล็ก หน้าก็หวานไม่มีเจ้าชายที่ไหนเป็นแบบนี้หรอก”
จุนซูพูดแล้วหันไปยิ้มให้กับชางมิน แต่..
โครม
เสียงเปิดประตูดังขึ้นทำให้คนทั้งสามหันไปมองทันที ท่าทีของจุนซูและชางมินดูเปลี่ยนไปทันทีที่ประตูถูกเปิด สูงส่ง คำที่สรุปได้ในตอนนี้ของคนทั้งคู่
“มีอะไร ชินฮี”
“นายหญิงให้มาบอกว่า ไปให้เต็มยศและจัดการ ปริ๊นซ์เซส ให้เรียบร้อยด้วย อย่าให้รอนาน”
ชายร่างสูงนามว่าชินฮีเมื่อได้รับคำตอบก็โค้งให้คนทั้งสามก่อนจะถอยออกจากห้องไป
“จุนซู ชางมิน บอกมาก่อนว่านี่มันอะไรกันแน่”
แจจุงพูดขึ้นมาเมื่อเห็นสีหน้าของคนทั้งสอง
“เราคงจะบอกอะไรนายมากตอนนี้ไม่ได้ ถ้าเรายังไม่เจอนายหญิง”
ชางมินกับจุนซูมองหน้ากันก่อนจะหันหน้ามาหาคนตัวบาง
“ถ้าเจอนายหญิง นายจะเข้าใจเอง ก่อนอื่นเราต้องทำอะไรบ้างอย่าง”
จุนซูพูดแล้วหันไปพยักหน้ากับชางมินที่เดินไปเปิดตูเสื้อผ้าขนาดใหญ่
“เสื้อผู้หญิง.....นี่มันเกิดอะไรกันแน่”
แจจุงมองชุดหรูในตู้อย่างตกใจ แต่กลับได้รับรอยยิ้มแปลกๆมาจากชางมินแทน
“เกือบถูกนะ แจจุง แต่เสื้อนี่สำหรับพวกเราสองคน เอ็มเพรสกับควีน ยศที่สูงส่ง แต่ก็ลำบากมากเช่นกัน ถ้านายหญิงบอกว่าเต็มยศ หมายถึงเราต้องแต่งเป็นตำแหน่งที่เราได้”
ชางมินพูดขณะส่งชุดสีขาวสะอาดให้จุนซู เป็นชุดเดรสมีระบายเล็กๆ แขนเสื้อเป็นแขนยาว ตรงปลายบานเล็กน้อย ดูน่ารักดี....สำหรับผู้หญิงนะ
“คล้ายๆแต่งครอสเพลย์ไหม”
คำถามซื่อๆของแจจุงทำให้จุนซูระบายยิ้มอ่อนๆออกมา
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้นะ วันนี้นายต้องแต่งเป็นเจ้าหญิง ดังนั้น มานี่ซะดีๆ”
จุนซูพูดแล้วลากแจจุงเขามาใกล้ๆ ก่อนจะหยิบชุดสีเฟ้าอ่อนที่เป็นแบบเดียวกับสีขาวมาจากมือชางมินแล้วดันเข้าห้องน้ำไป
“ถ้าไม่ใส่ก็อย่าออกมานะแจจุง ให้เวลา 5 นาที ไม่ออกมาฉันจะเข้าไปช่วย”
จุนซูผลักแจจุงเข้าไปแล้วตะโกนบอก แต่เมื่อหันกลับมาก็พบว่าชางมินยืนแยกเขี้ยวใส่อยู่ข้างหลัง
“เซีย จุนซู ควีนออฟโฮสต์เทส เชิญเข้าไปเปลี่ยนเสื้อไปแล้ว”
ชางมินพูดแล้วถีบเพื่อนรักเข้าไปในห้องน้ำอีกห้องทันทีโดยไม่ให้จุนซูได้มีโอกาสพูดอะไรเลยแม้แต่นิด
10 นาทีผ่านไป
“ชางมิน...”
แจจุงที่แอบเปิดประตูห้องน้ำออกมาเรียกคนที่หลับอยู่บนเตียงเบาๆ
“...”
เมื่อแจจุงเห็นว่าคนตรงหน้าหลับก็เดินไปใกล้ๆ
“ชางมิน..”
เมื่อเห็นว่าเรียกอีกครั้งแล้วคนตรงหน้ายังไม่ตื่น แจจุงจึงหันหลังหมายจะเดินหนี
หมับ
“อ่ะ!”
แจจุงร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อถูกมือของชางมินคว้าไว้
“ทำไมไม่แต่งล่ะ แจจุง ใส่ไม่ได้หรอ”
ชางมินถามออกมาแล้วมองร่างของคนตรงหน้าที่ยังอยู่ในชุดเดิม
“มัน...ใส่ยากอ่ะ ซิปมันรูดไม่ได้”
แม้จะเขินที่ต้องบอก แต่แจจุงก็พูดออกมาแล้วก้มหน้าด้วยความอาย ชางมินระบายยิ้มอ่อนๆให้กับคนตรงหน้า
“ไปเปลี่ยนเถอะ แล้วออกมาฉันจะช่วย”
ชางมินพูดแล้วดันให้แจจุงเข้าห้องน้ำไปใหม่ ก่อนจะหันไปมองห้องน้ำข้างๆที่จุนซูอยู่
“จะออกมาได้หรือยัง จุนซู อายหรือไง”
ชางมินพูดแล้วดันประตูห้องน้ำให้เปิดกว้างเพราะเขาเห็นว่าจุนซูเปิดค้างไว้นิดหน่อยเพื่อดูเหตุการณ์ภายนอก
“ง่า ...ชางมิน ก็....ฉันรูดซิปไม่ถึงนี่นา”
จุนซูพูดเสียงเบาแล้วเดินก้มหน้าออกมาแล้วหันหลังให้ชางมินช่วย
“เฮ้อ จริงๆเลยนะนายเนี่ย ทุกทีไม่เห็นจะเขินจะอาย ทำไมวันนี้ถึงอายล่ะ”
ชางมินพูดก่อนจะลากจุนซูไปยืนหน้ากระจกบานใหญ่ก่อนจะหยิบวิกผมยาวสีน้ำตาลทองขึ้นมาใส่ให้คนตรงหน้า
“อยู่เฉยๆสิ”
“อ่า...เร็วๆหน่อยนะ ฉันกลัวแจจุงมาเห็น”
จุนซูพูดขึ้นแล้วทำท่าจะลุกขึ้นทุกวินาทีแต่
“ทำไมถึงไม่อยากให้ฉันเห็นล่ะ จุนซู”
เสียงหวานของแจจุงดังขึ้นข้างหลังทำให้จุนซูหน้าซีด
“จะ..แจจุง ออกมาเมื่อไหร่เนี่ย”
จุนซูยิ้มฝืดๆให้แจจุงแล้วเดินไปใกล้ๆ
“ว่าไงล่ะ ทำไมถึงไม่อยากให้ฉันเห็นล่ะ ความจริงนายก็น่ารักนะ”
แจจุงพูดแล้วจับผมสีน้ำตาลทองของคนตรงหน้าขึ้นมาเล่น
“อย่าเพิ่งมาชมกันตอนนี้เลย ไหนแจจุง หันหลังมาสิ ฉันจะได้ช่วย”
ชางมินพูดแล้วดึงตัวแจจุงเข้ามาจัดการเองเมื่อรูดซิปให้แจจุงเสร็จชางมินก็หยิบวิกผมสีดำยาวมาใส่ให้ ก่อนจะหมุนตัวแจจุงหนึ่งรอบ
“เอ้า เจ้าหญิงของเราแต่งตัวเสร็จแล้ว”
ชางมินพูดแล้วดึงตัวแจจุงให้เข้ามาใกล้ๆกับจุนซู
“น่ารักอย่างที่คิดเลยนะ นายเนี่ย”
จุนซูพูดขณะหมุนตัวแจจุงอีกรอบ คำชมที่ออกมาจากใจจริงทำให้คนถูกชมหน้าขึ้นสีจางๆ รูปร่างบอบบางเข้ากับชุดเดรสยาวสีฟ้าอ่อนเป็นอย่างดี ผมสีดำยาวที่คลอเคลียใบหน้ายิ่งส่งให้ใบหน้าที่หวานอยู่แล้วยิ่งหวานมากขึ้น ผิวสีน้ำนมดูน่าสัมผัส ยิ่งเห็นรอยยิ้มเขินๆของเจ้าตัวยิ่งทำให้คนตรงหน้าดูเหมือนเจ้าหญิงผู้น่ารัก น่าปกป้องเป็นที่สุด
“นายเองก็น่ารักไม่แพ้กันเลยนะ ควีนจุนซู”
แจจุงยิ้มออกมาแล้วจับผมของจุนซูให้เข้าทรง รูปร่างบางเหมือนผู้หญิงเมื่อใส่ทับด้วยชุดเดรสหวานสีขาวบวกกับผมยาวสีน้ำตาลทองยิ่งส่งให้คนตรงหน้าสวยราวนางฟ้า ผมยาวสลวยยาวถึงกลางหลัง สีขาวที่กลืนไปกับผิวของเจ้าตัว ยิ่งส่งให้ด็สง่ามากขึ้น
“จุนซู แจจุง นายสองคนไปก่อนก็แล้วกันนะ ฉันขอเปลี่ยนเสื้อก่อนแล้วค่อยตามไป”
ชางมินพูดขึ้นหลังจากเห็นว่าเพื่อนตระกูลคิมทั้งสองคนท่าทางจะไม่ยอมหยุดสำรวจกันแน่ๆ จุนซูและแจจุงมองคนพูดชั่วครู่ก่อนจะหันมาสบตากัน
“อือ นายรีบๆเปลี่ยนนะ แล้วเจอกัน”
จุนซูพูดแล้วผลักให้ชางมินเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะแกล้งปิดประตูให้ชางมินตายใจ
5 นาทีต่อมา
“เฮ้อ นึกว่าพวกนั้นจะเห็นซะแล้ว”
ชางมินพึมพำกับตัวเองเบาๆ ความลับที่เขาไม่อยากบอกใครคงจะไม่ถูกล่วงรู้ เพราะถึงเวลานั้นเอง เขาก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง
“เกลียดชุดนี่จริงๆ คราวหน้าต้องเปลี่ยนแบบล่ะ”
ชางมินพูดเบาๆแล้วจับผ้าคลุบไหล่ให้ดีๆ ชุดเอ็มเพรสก็ไม่ต่างจากของควีนหรือของปริ๊นซ์เซสเท่าไหร่นัก เพียงแต่เป็นเดรสสีเลือดหมูและมีผ้าคลุมไหล่ยาวเกือบถึงพื้น มือเรียวคว้าวิกผมยาวสีน้ำตาลเปลือกไม้มาใส่อย่างชำนาญ ก่อนจะหันไปพบกับ...
“จุนซู...แจจุง.....”
ควีนและปริ๊นซ์เซสมองเอ็มเพรสอย่างชื่นชม แม้คนตรงหน้าจะไม่ถือว่าสวยแบบอ่อนหวาน แต่ก็เป็นความสวยที่น่าค้นหาอย่างหนึ่ง รูปร่างโปร่งบางเข้ากับชุดเป็นอย่างดี แม้ผิวจะไม่ได้ขาวแบบคนอื่นแต่ก็ดึงดูได้ไม่แพ้คนอื่น ผมยาวถึงกลางหลังส่งให้คนตรงหน้าดูแข็งแกร่งมากขึ้น แต่.....
“ชางมิน แผลนั่น...”
ความคิดเห็น