ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC B.A.P] All of my B.A.P short fictions

    ลำดับตอนที่ #2 : [SF] That's what we called FRIENDS [01] [JaeDae]

    • อัปเดตล่าสุด 14 ส.ค. 55


     



    That’s what we called FRIENDS

    Youngjae x Daehyun fanfiction

    by kyosama






     

    ติ๊ง!

     

    'มึงๆ เหงาอ่ะ;___;'

     

    สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดส่งเสียงดังติ๊ง เรียกให้เจ้าของใช้มือที่ว่างจากการถือหนังสืออ่านควานหยิบขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นเสียงเตือนข้อความใหม่ในโปรแกรมแชทจากคนคุ้นเคย ร่างโปร่งเพรียวก็โยนโทรศัพท์ลงข้างตัวตามเดิมอย่างหมดความสนใจ

     

    'ทำไรอยู่วะ เล่นกันน'

    'เฮ้ย อยู่ป่าว'

    'มึงง กูเหงาาา'

    'อยู่ไหนวะะ'

    'ไม่ตอบกูอ่ะ สาดดดด'

     

    เสียงน่ารำคาญยังดังขึ้นติดกันอีกหลายครั้งจนคนโดนก่อกวนชักหมดอารมณ์อ่านหนังสือ แดฮยอนคว้ามือถือขึ้นมาอ่านข้อความที่ปลายทางส่งมาลวกๆ ก่อนจะพิมพ์ตอบอย่างรวดเร็ว

     

    'เป็นเหี้ยไร'

     

    ข้อความใหม่จากฝั่งโน้นเด้งขึ้นมาแทบจะในทันทีที่ขึ้นสัญลักษณ์แสดงว่าอ่านแล้ว บ่งบอกว่าอีกฝ่ายคงเหงาจริง อย่างที่ปากว่าจนไม่มีอะไรทำนอกจากนั่งเฝ้าหน้าจอมือถือตาไม่กะพริบ

     

    'กูเหงาอ่ะ;____; แง'

     

    แน่ะ มีแอ๊บแบ๊วงอแงตบท้ายด้วยอีกต่างหาก

     

    'เหงาเหี้ยไร'

     

    'มินจีเบี้ยวกูอีกแล้วอ่ะ บอกว่าต้องไปกินข้าวกับที่บ้าน กูอยู่คนเดียวเลยตอนนี้ เคว้งสัดด'

     

    อ้อ ที่แท้ก็โดนแฟนทิ้งนี่เอง นึกว่าเรื่องอะไร

     

    แดฮยอนไม่ได้รู้สึกสงสารอีกฝ่ายเลยสักนิด ยูยองแจเองก็เคยทั้งเบี้ยวนัด ทั้งทิ้งเขากลางคันเพราะโดนแฟนโทรตามอยู่บ่อยๆนี่นา ให้ลองสัมผัสความรู้สึกของคนถูกทิ้งดูบ้างจะเป็นไรไป แต่เชื่อเถอะว่ายังไงก็ไม่มีทางได้ครึ่งของที่มึงเคยทิ้งกูหรอก เอาหัวเป็นประกันเลย!

     

    สมน้ำหน้า

     

    ขอบใจ

     

    เออ ดูมัน โดนกวนตีนไปยังมีอารมณ์กวนตีนกลับอีก แสดงว่าก็ไม่ได้จ๋อยเท่าไหร่เลยนี่หว่า

     

    'มาหาหน่อยดิ'

     

    'อยู่ไหนอ่ะ'

     

    'คอฟฟี่ช็อปข้างสถานี ตรงใกล้ๆที่เราเคยเรียนร้องเพลงกันอ่ะ'

     

    นั่นมันร้านประจำของเขานี่!

     

    แดฮยอนชักหงุดหงิดขึ้นมานิดๆ ร้านที่ยองแจพูดถึงคือร้านกาแฟที่พวกเขาเคยไปด้วยกันบ่อยๆตั้งแต่สมัยรู้จักกันแรกๆ เพราะมันเป็นร้านที่ทั้งรสชาติถูกปาก บรรยากาศดี ราคาเบากระเป๋า แถมยังตั้งอยู่ใกล้สถาบันสอนร้องเพลงที่พวกเขาเรียนอยู่อีกต่างหาก ก็เลยแวะเกือบทุกวันจนเจ้าของร้านแทบจะรับเป็นลูกชายอีกคนอยู่แล้ว

     

    กระทั่งทุกวันนี้ ถึงจะเลิกเรียนร้องเพลงกันมาหลายปีแล้ว แต่ร้านนี้ก็ยังเป็นร้านประจำที่พวกเขามักจะใช้นัดเจอกันเสมอ ถึงขนาดเป็นที่ล้อกันขำๆในกลุ่มเพื่อนสนิทว่าร้านนี้มีชื่อเล่นว่าร้านแจแดเสียด้วยซ้ำ

     

    แล้วนี่อะไร? จะให้มีคนอื่นมาใช้ร่วมด้วยได้ยังไง? โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงคนนั้นด้วยแล้วยิ่งยอมไม่ได้ใหญ่ แย่งยูยองแจของเขาไปคนนึงแล้ว ยังจะตามมาราวีสถานที่ในความทรงจำของเขาอีกงั้นเหรอ?

     

    ไม่ได้นะ!

     

    แค่คิดก็หงุดหงิดแล้ว! ฮึ่ยยยยยยยย!

     

    ปลายนิ้วเรียวแตะสัมผัสหน้าจอแอลซีดี สร้างคำศัพท์ขึ้นมาคำหนึ่งเร็วเท่าใจคิด

     

    'ไม่ไป'

     

    'เฮ้ย ไมอ่ะ'

     

    'ขี้เกียจ'

     

    'ไรวะ? หึงอ่อ?'

     


     

    ก็เออสิ!

     

     

    อีกอย่างหนึ่งที่แดฮยอนเกลียดมากคือการที่ยองแจเหมือนจะรับรู้ความรู้สึกของเขา แต่แกล้งทำเป็นเหมือนไม่รู้ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    เขาเกลียดการที่อีกฝ่ายไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่ยังชอบแหย่ให้เขาแอบคิดเข้าข้างตัวเองอยู่เนืองๆ ทั้งจากคำพูด ท่าทางที่แสดงต่อหน้าคนอื่น หรือแม้แต่การกระทำที่มีให้กัน

     

    ยองแจแม่ งชอบทำให้แดฮยอนคิดว่าอีกฝ่ายคงเห็นเขาเป็นคนพิเศษบ้างไม่มากก็น้อย แต่ก็มีหลายครั้งที่อดดราม่าเบาๆไม่ได้ว่าตกลงที่ทำอย่างนี้ให้กันนี่เพราะรู้ความรู้สึกเขาแน่หรือเปล่า หรือเพราะไม่รู้ และไว้ใจจนไม่กลัวว่าเพื่อนคนนี้จะคิดเกินเลย ถึงกล้าเล่นขนาดนี้ด้วย หรือยังไง?

     

    แดฮยอนชอบยองแจมานานมากแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เรียนร้องเพลงด้วยกัน จนมาเจอกันอีกครั้งตอนขึ้นมอปลายก็ยังชอบอยู่ จนตอนนี้ที่อยู่ปีสามแล้ว ถึงจะอยู่คนละคณะ คนละมหาลัย คุยกันได้แค่ผ่านทางทวิตเตอร์ วอทสแอป ไลน์ นานๆถึงจะได้เจอหน้ากันที เขาก็ยังชอบยองแจอยู่ดี

     

    เคยชอบยังไง ตอนนี้ก็ยังชอบอยู่อย่างนั้น

     

    ถึงขนาดที่รู้ทั้งรู้ว่าตอนนี้อีกฝ่ายมีแฟนที่รักกันดีมากว่าสามอาทิตย์แล้ว จองแดฮยอนก็ยังชอบยูยองแจอยู่อย่างนั้น

     

    ถ้าถามว่าชอบมากแค่ไหน ก็จะตอบว่ามากจนยอมเป็นอะไรก็ได้สำหรับอีกคนนั่นแหละ ยองแจจะให้แดฮยอนเป็นคนรู้จักก็ได้ เป็นเพื่อนก็ได้ เป็นทาสไม่ได้ เพราะแค่นี้กูก็ยอมมึงจะแย่อยู่แล้ว ยังจะเอาอะไรอีก เป็นเพื่อนสนิทยิ่งไม่ได้ใหญ่ แดฮยอนไม่อยากสนิทกับยองแจมากไปกว่านี้อีกแล้ว อยู่ใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เคยได้ยินเพลงนี้เปล่า? แดฮยอนไม่อยากใกล้กันแล้วได้โมเม้นต์เก็บมาเพ้อเจ้อก่อนนอนไปวันๆหรอกนะ เพราะถ้าวันไหนตื่นจากโลกของความมโนขึ้นมา วันนั้นเขาคงโดนความจริงที่แกล้งทำเป็นมองไม่เห็นมาตลอดทำร้ายจนผนังหัวใจบางๆเปราะร้าวไปหมด

     

    จะให้ชอบต่อก็เท่ากับปิดหูปิดตาทำร้ายตัวเอง

     

    จะให้เลิกชอบก็กลายเป็นว่าตัดใจไม่ลง

     

    วิถีของคนแอบชอบเพื่อนนี่มันซับซ้อนจริงๆ

     

    โถ อยากจะถุยชีวิต

     

    ให้หึงมึง กูหึงหมาดีกว่า

     

    พิมพ์ไปก็น้ำตาจะไหลขอแชร์นะคะไป โถ ยูยองแจมึงจะรู้ไหมว่าตอนนี้ในใจกูหึงเหี้ยๆ มือไม่ตรงกับใจ กัดปากห้ามตัวเองจนเลือดซิบแล้วยังวะเนี่ยกู  

     

    เออๆ ไม่มาก็ไม่ต้องมา

    งั้นกูไปหามึงที่ห้องละกัน

     

    เฮ้ย บ้าป่าว มึงจะมาไม

    รอมินจีไปดิ เผื่อเค้ากินข้าวกับที่บ้านเสร็จแล้วรีบมาหามึง ไม่เจอเดี๋ยวเป็นเรื่องอีก

     

    ไอ้ภาพเพื่อนที่แสนดีนี่ก็ขยันสร้างไปยังงั้นเอง ความจริงในอกตอนนี้นี่หัวใจโซโล่ฮูลาฮูล่าจนแทบจะกระเด้งไปฮาวายได้แล้ว แดฮยอนนึกขอบคุณสวรรค์ที่ยองแจเลือกที่จะใช้โปรแกรมไลน์เป็นช่องทางการติดต่อ เพราะถ้ามันนึกคึกใช้เฟสไทม์คอลมา เขาก็ไม่รู้จะซ่อนหน้าร้อนๆ แก้มแดงๆ กับอาการปากคอสั่นพูดไม่เป็นภาษาที่เป็นอยู่ตอนนี้ยังไงเหมือนกัน

     

    ไม่รอแล้วแม่ ง เบี้ยวกูสามรอบติดละ เดี๋ยวกูจะเล่นตัวให้ช้ำใจมั่ง แง

     

    มึงจะใส่แงมาอีกทำไมกูไม่เข้าใจ เรียกร้องความสนใจเหรอ โถ ไม่ต้องหรอก แค่นี้กูก็สนใจมึงจะแย่แล้วเนี่ย ไม่งั้นกูไม่ทิ้งพี่โวลเดอร์มอร์มานั่งคุยกับมึงหรอกนะ แฮร์รี่เล่มเจ็ดกูยังนาบหน้ากับเตียงอยู่เลย โถ

     

    เดี๋ยวกูไปหานะ ยี่สิบนาทีถึง

     

    สัด ไม่ต้องมา

     

    แดฮยอนอยากจะเรคคอร์ดเสียงกรี๊ดส่งให้คู่สนทนารัวๆ เสียแต่ว่าตอนนี้เขาไม่ได้ใช้บีบีแล้ว และก็เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ไอโฟนหมาดๆ ยังส่งวอยซ์ไฟล์ไม่เป็น (เอ.. ว่าแต่มันส่งได้รึเปล่าหว่า) ยองแจจะต้องไม่มาที่ห้องเขาตอนนี้! ตอนที่เขาเพิ่งรื้อเอาของทุกอย่างที่เคยมีความทรงจำดีๆร่วมกันออกมาดราม่าไปหยกๆ (นี่แหละคือเหตุผลที่ต้องรื้อพี่โวลเดอร์มอร์ออกมาอ่านซับน้ำตา..) ทั้งตุ๊กตาห่าเหว ทั้งสมุดไดอารี่เปื้อนคราบน้ำตา ทั้งรูปโพลารอยด์ทุกใบที่เคยถ่ายด้วยกัน และอื่นๆอีกมากมายกระจัดกระจายเต็มห้องไปหมด

     

    ทีตอนรื้อแม่ งก็รื้อง่ายจริงนะ แค่หยิบๆโยนๆออกมาก็จบ ทีตอนเก็บแม่ งลำบากฉิบหาย ของเยอะขนาดนี้ไม่รู้จะเริ่มเก็บจากไหน ห้องก็เล็กเท่าหนูดิ้นตาย จะพับจะยัดจะยกอะไรยังไงนี่คิดไม่ออกเลย เวลาก็เร่งฉิบหาย ไอ้เข็มวินาทีนี่แม่ งจะเดินติ๊กติ๊กอะไรดังขนาดนี้ ประหนึ่งนับถอยหลังระเบิดเวลา นี่ใจกูสั่นตามจังหวะจนจะเป็นลมอยู่แล้วนะ โฮ

     

    อย่างที่เคยบอกไปว่าแดฮยอนไม่แน่ใจว่ายองแจรับรู้ความรู้สึกของเขาแล้วหรือยัง แต่ที่แน่ใจอย่างมากอย่างหนึ่งคือ ถ้ายังไม่รู้ เขาก็ยังไม่พร้อมที่จะให้รู้ในเร็ววันนี้ เพราะฉะนั้น ห้องของเขาก็เลยถูกหมายหัวให้เป็นเรดโซนที่ยูยองแจไม่สมควรเข้าใกล้มากที่สุดในตอนนี้

     

    แต่เชื่อเถอะ.. จะด่าจะว่ายังไงก็กันมันไม่ได้หรอก ลองตัดสินใจอะไรแล้ว หน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนมันก็ไม่สนทั้งนั้น คำว่าห้ามมีความหมายเท่ากับอนุญาตเลยอ่ะ สำหรับจุดๆนี้ ยิ่งเวลาได้กลิ่นอะไรไม่ชอบมาพากลนี่นะ อื้อถือ ต่อมอยากรู้อยากเห็นตื่นตัวเต็มที่ ประหนึ่งเห็นคำว่าเสือ กเรืองแสงวาวๆอยู่บนหน้าผากมันเลย..

     

    ไม่งั้นมันไม่ไล่บี้เซ้าซี้เขาขนาดนี้หรอก จริงๆนะ

     

    เอ๊า ไมอ่ะ?

     

    ห้องกูรก

     

    เดี๋ยวกูช่วยเก็บ

     

    'หอกูไม่ให้คนอื่นขึ้น

     

    กูไปมากี่สิบครั้งก็ขึ้นได้ตลอด มึงตอแหลทำไม

    เป็นไรวะเนี่ย

    พิรุธขนาดนี้กูว่าแม่ งต้องมีอะไรแน่ๆ

    รออยู่เฉยๆเลยนะ กูจะถึงละ อีกสิบห้านาที

     

     

    มึงไม่ต้องมา ไม่ต้องมาา กูไม่ต้อนรับบบ

     

    เจ้าของห้องโหยหวนในใจ ทางออกเดียวที่ฉุกคิดขึ้นมาได้คือต้องไม่อยู่ห้อง ลองเขาไม่อยู่ซะอย่าง น้ำหน้าอย่างยองแจจะทำอะไรได้ อย่างมาก็ยืนเขย่าลูกบิดประตูอยู่หน้าห้องนั่นแหละ มากสุดก็ทำได้แค่ฝากรอยข่วนไว้บนประตูเป็นที่ระลึก ไม่ว่าจะทางไหนก็ดูเป็นโทษสถานเบามากกว่าโดนล้วงความลับที่ไม่พร้อมจะเปิดเผยเห็นๆ

     

    หากข้อความล่าสุดจากเพื่อนมนุษย์ที่เขาเมมชื่อไว้ว่ายองแจพาโบกลับทำให้เข่าอ่อนแทบทรุด

     

    อ้อ แล้วก็ไม่ต้องคิดหนีนะ กูมีกุญแจ

     

     

    พ่อออออออ เมิงงงงงงงงงงงง เสะะะะะะะ

     

    ตอนแรกแดฮยอนคิดจะถามกลับไปว่า มีกุญแจห้องกูได้ไงวะ บ้าเปล่า แต่มาคิดดูอีกที เออ ก็เป็นเขาเองนี่หว่าที่เป็นคนให้มันเอากุญแจไปปั๊ม มันจะมีช่วงนึงที่ยองแจต้องทำงานรับน้องของคณะ แล้วก็ต้องประชุมเตรียมงานถึงดึกๆดื่นๆ ถึงจะอยู่คนละคณะกันก็จริง แต่สำหรับยองแจที่ปกติเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับมหาลัยแล้ว.. หอพักของแดฮยอนที่อยู่ติดรถไฟฟ้าสะดวกกว่าอย่างหาที่เปรียบมิได้

     

    ช่วงนั้นยองแจก็เลยได้ฤกษ์เข้าหอ เอ้ย ย้ายมาเป็นรูมเมทของแดฮยอนชั่วคราว ซึ่งเป็นช่วงที่แดฮยอนจะจดจำเอาไว้ตลอดชีวิตว่าเป็นช่วงเวลาที่ฟินมาก ซึ่งเขาจะไม่ขอเล่าอะไรในพาร์ทนี้ เพราะนี่มันไม่ใช่ช่วงเวลาเล่าเรื่องอดีต มันเป็นช่วงเวลาคิดหาทางรับมือกับอนาคต (อันน่าประหวั่นพรั่นพรึง) ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้ต่างหากละโว้ย

     

    สิบนาที

     

    เสียงติ๊งดังขึ้นทีนึงเหมือนจะบั่นทอนอายุขัยเขาลงไปสิบปี

     

    จองแดฮยอนยืนหันซ้ายหันขวาเลิกลั่ก มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเลอะเทอะซกมกตามแบบฉบับห้องของชายโสดผู้อยู่ตัวคนเดียวเต็มไปหมด

     

    เวลาก็ไม่มี สมองก็ไม่แล่น

     

    ตอนนี้ทางออกที่เหลือมีอยู่ทางเดียว..

     

    ว่ากันว่า คิดซ่อนอะไรให้คิดถึงคิทแคท เฮ้ย ไม่ใช่! ต้องเป็น คิดซ่อนอะไรให้ซ่อนในสถานที่ที่เป็นของมัน แบบซ่อนไม้ในป่า ซ่อนปลาในน้ำ อะไรยังงี้.. แดฮยอนกวาดตามองรอบห้อง ของที่รื้อออกมานี่ก็สภาพเน่าหนอนไม่ใช่เล่น มองผ่านๆให้ดูเป็นขยะนี่ก็พอได้อยู่.. เพราะฉะนั้น.. ถ้าคิดจะซ่อนขยะ ก็ต้องซ่อนในกองขยะใช่ป่ะ.. โอเค..

     

    ถ้าจัดให้เรียบร้อยไม่ได้.. ก็พังมันให้เละไปทั้งแถบเลยก็แล้วกัน!

     

     

     

     
    TBC..

     

    THE★ FARRY
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×