คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : [SF] ผมแต่งงานแล้วครับ [BangZelo] - HBD CHOI JUNHONG :)
Title: ผมแต่งงานแล้วครับ♥
Pairing: Yongguk ♥ Junhong
Author: kyosama
Notes: ไร้แก่นสาร / รีบปั่นแบบไม่ได้พรูฟเพราะกลัวเสร็จไม่ทันวันเกิดน้อง TAT แต่ก็ตั้งใจนะคะ / HBD CHOIJUNHONG! XD
ถ้าฟังกับเพลงนี้ก็น่าจะน่ารักดีมั้งคะ http://www.youtube.com/watch?v=V8fb2e06izo ชอบส่วนตัว 5555555555555555555555555
ยืนยันแล้ว ผังใหม่ช่อง MBC กับรายการ ‘We Got Married Special 2013’
6 JUN 2013
ต่อยอดจากรายการที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากบรรดาชาวเน็ตทั่วโลก ฤดูกาลนี้ทางช่อง MBC จับมือกับผู้สนับสนุนหลายฝ่ายร่วมกันจัดทำรายการ ‘We Got Married’ เทปพิเศษขึ้นมาให้แฟนๆได้เซอร์ไพรส์กัน โดยมีคอนเซ็ปต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจคือการจับคู่ ชาย-ชาย และ หญิง-หญิง ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ! คิมจอนโซ โปรดิวเซอร์มือฉมังผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงเกาหลีมากกว่าสิบปีได้ให้คำอธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า
“ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมากครับกับการทำงานครั้งนี้ ทีมงานของเราตั้งใจว่าจะพยายามแหวกกรอบความคิดเดิมๆ เราได้พยายามเซ็ตอะไรหลายๆอย่างเพิ่งลงไปในเทปพิเศษ อย่างที่ผู้ชมอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นในเทปปกติ ผมพูดได้แค่ว่าพวกเราทำงานหนักจริงๆเพื่อให้งานออกมาดี และผมรับรองได้ว่ามันจะน่าสนใจแน่นอน ขอให้ติดตามชมกันด้วยนะครับ”
ชาวเน็ตลือหึ่ง จุนยอง-รอยคิม หนึ่งในคู่รักออนแอร์?
24 JUN 2013
หลังจากประกาศว่าจะเปิดตัวรายการ ‘We Got Married’ รูปโฉมใหม่ที่มาพร้อมคอนเส็ปต์คู่รักเพศเดียวกัน บรรดาแฟนๆก็ดูเหมือนจะจับตามองความเข้ากันของเคมีระหว่างไอดอลหนุ่มสาวกันมากขึ้น โดยเฉพาะกับคู่หูดูโอสุดซี้อย่าง JOONROY THE VOCALISTS ที่กำลังโด่งดังสุดๆกับซิงเกิ้ล Becoming Dust และการแสดงสเปเชี่ยลเสตจในคอนเสิร์ตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาที่พวกเขาเกือบจูบกันบนเวที เรียกเสียงกรี๊ดจาก Bromance (ชื่อแฟนคลับ) ได้ทั้งในคอนเสิร์ตและหน้ากระดานแฟนคาเฟ่ รวมถึงกลายเป็นอันดับหนึ่งของคำที่ถูกค้นหามากที่สุดในเว็บเนเวอร์
“โอปป้า ฉัน .. คือ.. ฉัน.. ไม่รู้จะ.. บรรยายยังไงดี.. อัยกู TT ดีใจด้วยนะคะ” “นี่มันสุดยอดจริงๆ ฉันคิดมาตลอดเลยว่าพี่ร้องเพลงได้เข้าขากันมากนะ ถ้าจะย้ายมาเข้าขากันเรื่องอื่นอีกก็ยินดีด้วย” “จุนโรอีสเรียล TT” “พวกพี่แต่งงานกันไปเลยเถอะ” “พี่จะไปออกวีก็อตแมรี่กันรึเปล่า?” “ฉันอยากดูพวกพี่ในวีก็อตแมรี่! มันต้องดีมากแน่ๆ!” ตัวอย่างคอมเม้นเพียงบางส่วนจากแฟนๆ
อนึ่ง ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารายการ ‘We Got Married Special 2013’ จะประกอบไปด้วยคู่รักคนดังกี่คู่ และจะเป็นใครบ้าง ตัวแทนคนหนึ่งจากสถานี MBC ได้เล่าให้ฟังว่าทีมงานกำลังอยู่ในระหว่างคัดเลือกคู่แต่งงานที่น่าสนใจที่สุด และคาดหมายว่าจะประกาศรายชื่อที่แน่นอนได้ภายในสิ้นเดือนนี้
เผยรายชื่อ 4 คู่รักคนดัง ประจำ ‘We Got Married Special 2013’
9 JUL 2013
สิ้นสุดการรอคอยของแฟนๆทั่วโลก ล่าสุดรายการ ‘We Got Married Special 2013’ ได้เปิดเผยรายชื่อ 4 คู่แต่งงานใหม่ประจำเทปพิเศษ ภายใต้คอนเส็ปต์ที่น่าสนใจอย่าง “คู่รักเพศเดียวกัน” ได้แก่
“คู่รักเมโลดี้” คิมฮิมชาน - นักแต่งเพลงมือหนึ่งผู้ฝากผลงานเพลงประกอบละครสุดฮิตไว้มากมาย และ แดฮยอน - นักร้องบัลลาดเจ้าของยอดขายโซโล่อัลบั้มหนึ่งแสนสองหมื่นก็อปปี้, “คู่รักเด็กแนว” CL (ลีดเดอร์วง 2NE1) - เจ้าแม่แฟชั่นนิสต้าคนดัง และ ซานดาร่า ปาร์ค - นางแบบตัวท็อปประจำสังกัด Estee Modeling ฉายายานแม่, “คู่รักสุดขั้ว” ชเวจุนฮง - นักแสดงดาวรุ่ง ผู้คว้าตำแหน่งขวัญใจมหาชนในงานประกาศรางวัลปลายปีได้ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วงการปีแรก และ เจปป์ แบล็คแมน – มือกีต้าร์สุดฮอตจาก Moonlit Night วงดนตรีไอดอลแนวป็อป-ร็อค ที่โด่งดังที่สุดในหมู่สาวๆมัธยมตอนนี้,“คู่รักนักเรียน” ยุนโบมี - สาวน้อยผู้มีภาพลักษณ์สดใสร่าเริงเหมือนดอกไม้บานตลอดเวลา และ คิมนัมจู – หน้าตาจากวงเกิร์ลกรุ๊ป A-PINK ที่ทำท่าแอ๊บแบ๊วได้น่ารักจนสามารถครองใจหนุ่มๆได้ทั้งเกาหลีใต้
“เราพยายามจะนำเสนอมุมมองใหม่ๆเกี่ยวกับความสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ อาจจะไม่ใช่ถึงขั้นคนรักที่สวีทหวาน แต่อยากให้ลองดูความรักแบบพี่น้อง หรือเพื่อนสนิทกันบ้าง มันน่าจะออกมาในมุมมองของเรียลลิตี้มากกว่ารายการจับคู่เดททั่วไป พวกเราทีมงานตั้งใจกันไว้แบบนี้ค่ะ” ฮันจีฮเย หนึ่งในทีมเขียนบทของรายการ ‘We Got Married’ เทปพิเศษให้สัมภาษณ์กับนักข่าว
“ชเวจุนฮง” ถูกวางตัวเป็นหนึ่งในผู้ร่วมรายการ ‘We Got Married Special 2013’
18 JUL 2013
หลังจากมีการประกาศรายชื่อผู้ร่วมดำเนินรายการหลัก และวันเวลาที่จะเริ่มออกอากาศเทปแรก รายการ We got married Special Season 2013 ก็ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในแง่ของความเหมาะสม ทั้งเรื่องคอนเส็ปต์ที่หลายคนเห็นว่าออกจะเกินรับได้ และบรรดาเหล่าคนดังที่มีชื่อเข้าร่วมรายการ
ข้อมูลในเว็บบอร์ดเนเวอร์, แฟนคาเฟ่ และเว็บบอร์ดโซเชี่ยลต่างๆ (ตั้งแต่วันที่ประกาศรายชื่อ - วันที่ 7 สิงหาคม) เผยให้เห็นว่าชาวเน็ตให้ความสนใจกับ ชเวจุนฮง จาก “คู่รักสุดขั้ว” มากที่สุด เนื่องจากข่าวลือเกี่ยวกับภาพลักษณ์ที่ไม่น่าเข้ากันได้กับลักษณะของรายการ
ชเวจุนฮง นักแสดงหน้าใหม่วัย 25 ปี ปัจจุบันอยู่ภายใต้สังกัด TS Entertainment แม้จะเพิ่งเข้าวงการได้แค่ 3 ปี แต่ก็ฝากฝีมือไว้แล้วกับผลงานการแสดงมากมายทั้งละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ รวมถึงกระทั่งละครเวที ทักษะการแสดงของเขาได้รับการยอมรับอย่างมากในหมู่คนวงการบันเทิง แต่ก็มีข่าวลือแว่วๆออกมาให้ได้ยินกันเป็นระยะว่านิสัยส่วนตัวของดาราหนุ่มคนนี้น่ะเหลือรับ
“เขาจะถ่ายรายการได้จริงๆเหรอ?” “พี่สาวฉันที่เป็นโคดี้เพิ่งโดนเขาตีไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเอง แผลยังเขียวอยู่เลย” “เขาแสดงเก่งมากเลยนะ ในละครดูเป็นคนดีมากเลย” “ฉันชอบเวลาเขาเล่นละครมากเลยนะ” “เคยเจอตัวจริงครั้งนึงโดยบังเอิญ จริงๆก็ดูเป็นคนธรรมดาออกนะ” “น่าสงสารพี่เจปป์.. ถ้าเกิดโดนเหวี่ยงขึ้นมาก็ให้เอากีต้าร์ฟาดเลย! ฉันเชียร์อยู่นะคะโอปป้า!” (บางส่วนจากความคิดเห็นในเน็ต)
ชเวจุนฮงปฏิเสธการออกรายการวาไรตี้และโชว์อื่นๆนอกเหนือจากงานแสดงมาโดยตลอด รายการ ‘We Got Married’ เทปพิเศษนี้เป็นวาไรตี้เจ้าแรกที่สามารถดึงตัวดาราหนุ่มคนดังมาร่วมด้วยได้ จึงเป็นที่ฮือฮาของทั้งแฟนๆและคนในวงการบันเทิงเองด้วยเช่นกัน
“เหมือนฝันร้ายเลยที่เขาตอบรับ” หนึ่งในทีมงานรายการ ‘We Got Married’ เทปพิเศษรายหนึ่ง ซึ่งเคยทำงานร่วมกับชเวจุนฮงกล่าว “คนดูจะต้องสนใจรายการนี้แน่ๆ แต่พวกเราเองก็จะทำงานยากขึ้นแน่นอน”
ทั้งนี้ รายการ ‘We Got Married Special 2013’ มีหมายกำหนดการที่จะเริ่มถ่ายทำในกลางเดือนกรกฎาคม ออกอากาศเทปแรกวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม เวลา 21.00 น. เป็นต้นไป ตามผังปกติของรายการ ‘We Got Married’ ทางช่อง MBC
.
.
.
WE GOT MARRIED SPECIAL 2013
Jepp - ChoiJunhong EP.01
จุนฮงรู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า..
ไม่สิ เขาต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ.. ไม่งั้นคงไม่มาอยู่ตรงนี้ นั่งซ่อนมือที่กำแน่นและชื้นเหงื่อจนชุ่มเพราะความตื่นเต้นอยู่ใต้โต๊ะ แล้วแกล้งปั้นหน้าระรื่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้กล้องสามตัวที่กำลังจับภาพเขาจากทุกมุมอยู่อย่างนี้หรอก
ตากลมเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง กลั้นหายใจนับเลขตามเข็มวินาทีที่เดินไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกินในความรู้สึก.. เลยเวลานัดมาเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่คนที่เขารอก็ยังไม่ปรากฏตัวเสียที แล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะโผล่มาในเวลาอันใกล้ด้วย
คนตัวขาวจัดได้แต่ฉีกยิ้มฝืดเฝือ พลางเสสายตามองไปรอบๆร้านกาแฟที่ตกแต่งด้วยสไตล์เรโทรเหมือนตื่นตาตื่นใจนักหนา เป็นการกลบอาการประหม่าที่ไม่สามารถบ่นให้ใครฟังได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตากล้องหน้านิ่งทั้งสามคนที่ทำให้เขารู้สึกผวาเหมือนกำลังถูกคุมประพฤติอยู่หน่อยๆ
พี่ยองแจ ผู้จัดการของเขาเตือนเขาตั้งแต่ก่อนตัดสินใจรับงานนี้แล้วว่าอย่าทำอะไรเกินตัว ชเวจุนฮงที่เคยแต่ถ่ายงานละคร ถ่ายหนัง แถมยังมีประวัติคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้อย่างนั้นน่ะ จู่ๆจะให้มาบินเดี่ยวในรายการเรียลลิตี้เลยมันก็น่าจะยากไป.. แต่ก็เป็นเขาเองนั่นแหละที่ดื้อไม่ยอมเชื่อฟัง
จุนฮงทำแต่งานแสดงมาตั้งสามปีเต็ม (ถึงจะเป็นเพราะความตั้งใจของตัวเองก็เถอะ) ก็คิดว่าเริ่มอิ่มตัวเลยอยากลองจับงานด้านอื่นบ้าง ไม่ว่าจะวาไรตี้หรืออะไร ชายหนุ่มก็เห็นว่าต้องอาศัยสคริปต์ทั้งนั้น ตั้งใจว่าจะอาศัยฝีมือการแสดงที่มีอยู่เป็นทุนเดิมเนี่ยแหละช่วยให้พอถูไถไป
แต่ก็นึกไม่ถึงว่า..
ดาราหนุ่มลอบถอนหายใจกับตัวเอง งับริมฝีปากสีสดเข้าหากันอย่างสะกดใจ มือที่เปื้อนเหงื่อซึมชื้นยกขึ้นยกขึ้นแตะซองจดหมายสีครีมที่วางนิ่งสนิทบนโต๊ะไม้ขัดมันวับตรงหน้า อดไม่ได้ที่จะดึงมันเข้ามาดูใกล้ๆอีกครั้ง
งานเรียลลิตี้น่ะมีสคริปต์จริง แต่สคริปต์ที่เขียนไว้ให้ในซองนี้บอกเขาเพียงแต่ว่า “สวมชุดที่ดีที่สุดมาพบคู่แต่งงานของคุณที่ร้าน Post Café ถนนซางซูดง เวลา 11 AM และร่วมกันสร้างความทรงจำในเดทแรกให้ดีที่สุด” ..แค่นั้นจบ ไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าชุดที่ดีที่สุดต้องเป็นชุดแบบไหน แล้วไอ้ความทรงจำในเดทแรกที่ต้องสร้างให้ดีน่ะ ควรจะเป็นยังไง
ตอนที่อ่านจดหมายครั้งแรกจุนฮงก็พลิกดูแล้วพลิกดูอีกให้แน่ใจว่าไม่มีคำอธิบายเพิ่มเติมพิมพ์ซ่อนไว้ตรงส่วนไหนของหน้ากระดาษ แล้วพอพบว่ามันไม่มีจริงๆเขาก็งงเป็นไก่ตาแตก ต้องรีบเอาไปให้พี่ยองแจช่วยดูเผื่อจะอ่านความหมายของเนื้อความจดหมายผิดไป หากแต่สิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงแค่เสียง เหอะ กับ ก็มีแค่นั้นแหละ ขอให้โชคดีกับเรียลลิตี้ครั้งแรกของนายก็แล้วกัน
ผู้จัดการส่วนตัวที่ไม่ได้รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจอะไรร่วมไปกับเขาเลยทิ้งท้ายไว้แค่นั้น ก่อนจะชิ่งหนีไปทำงานอื่น ทิ้งให้จุนฮงได้แต่ร้อนใจ ก่อนจะต้องยอมออกเดินทางมาถ่ายทำเทปแรกของรายการด้วยตัวคนเดียวแบบงงๆ และจวบตั้งแต่วินาทีแรกที่ผู้กำกับสั่งเดินกล้องจนถึงตอนนี้ ชายหนุ่มก็ยังหาคำตอบให้กับคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจทุกห้าวินาทีไม่ได้
คิดถูกหรือคิดผิดวะเรา
ปลายนิ้วเรียวเคาะลงกับขอบโต๊ะอย่างที่มักทำจนติดเป็นนิสัยยามเบื่อหน่าย นั่งนานจนก้นจะลอกลายตามเบาะเก้าอี้ได้อยู่แล้ว ชายหนุ่มก็ยังไม่เห็นวี่แววของ ‘คู่แต่งงาน’ อีกฝ่ายแม้แต่เงา.. คนอะไรไม่รู้จักรักษาเวล่ำเวลา! จุนฮงสุดจะเซ็ง
เขาแช่งชักหักกระดูกคนที่ตัวเองไม่รู้จักแม้แต่หน้าอยู่ในใจ หากเสียงทุ้มต่ำที่จู่ๆก็ดังขึ้นทางด้านหลังก็ขัดจังหวะความคิด ให้สะดุ้งแล้วรีบเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงอย่างตกใจ
“คุณชเวจุนฮง..? ใช่ไหมครับ?”
ถึงจะเป็นประโยคคำถาม แต่น้ำเสียงที่ส่งผ่านริมฝีปากหยักสวยนั้นกลับแสดงถึงความมั่นใจไร้ซึ่งการลังเล ก่อนที่ผู้มาใหม่ในชุดเสื้อยืดสีเทาเข้มกับยีนส์ขายาวเรียบๆ.. ชุดที่ดีที่สุด?.. จะก้าวยาวๆขึ้นมาเลื่อนเก้าอี้ว่างตรงข้ามจุนฮงออก แล้วนั่งลงหน้าตาเฉย
“ผมเจปป์ แบล็คแมน” ว่าพลางยื่นมือให้ด้วยท่าทางสุดเท่ จุนฮงอดนึกชมไม่ได้ว่ามือของอีกฝ่ายออกจะเรียวสวยเกินคนทั่วไปจนน่าอิจฉา แต่ไอ้ท่าขี้เก็กแบบนั้นน่ะ.. ให้มันน้อยๆหน่อยก็ได้ “ฝากตัวด้วยนะครับ”
“ทางนี้ก็เช่นกันครับ” เขายิ้มรับ เขย่ามือกับพาร์ทเนอร์ตามมารยาท คนตัวขาวไม่แน่ใจว่ามิสเตอร์เจปป์คนนี้เป็นคนมืออุ่น หรือตัวเขามือเย็นเกินไปกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือชายหนุ่มว่าตอนนี้มือของพวกเขาทั้งสองคน.. ไม่สิ ต้องบอกว่ามือของนายเจปป์ แบล็คแมนอะไรนี่ ที่ยึดมือของเขาไว้แน่นจะถูกมากกว่า ชักจะทำให้มือเขาอุ่นจนร้อนเกินไปแล้ว
นักแสดงคนเก่งบิดมือหนีจากการเกาะกุมของคนมือไวอย่างนุ่มนวล
“คุณเพิ่งมา จะสั่งอะไรทานไหมครับ”
“สั่งกับเคาท์เตอร์ข้างล่างแล้วครับ เดี๋ยวเขายกขึ้นมาเสิร์ฟให้”
เจปป์ยังยิ้มรื่น ไม่มีอาการเสียหน้าหรืออาการโดนหักหน้าปรากฏอยู่บนใบหน้าคมคายนั่นแต่อย่างใด จุนฮงเพิ่งจะสังเกต.. ผู้ชายตรงหน้าเขาจัดว่าดูดีมากทีเดียว ถึงจะไม่ได้หล่อเหลาแบบไอดอลพิมพ์นิยม แต่ก็มีเสน่ห์ชวนมองอยู่ตรงสายตาคมปลาบ กับรอยยิ้มเล็กๆตรงมุมปากที่ขับให้สีหน้าของร็อคเกอร์หนุ่มดูเจ้าเล่ห์เสียเหลือเกิน.. อ้อ แล้วก็กับน้ำเสียงทุ้มนุ่ม ที่ดูผิดกับภาพลักษณ์ห่ามๆนั่นด้วย
“ผมเป็นคนเลือกร้านนี้เองนะ ชอบไหม” เรียวคิ้วเลิกขึ้นนิดหน่อยอย่างสนใจ
“คุณชอบสไตล์เรโทร?”
“ไม่มีทาง ผมเป็นร็อคเกอร์นะ” ถ้างั้นจะเลือกทำไมล่ะวะ จุนฮงทำหน้าปั้นยาก หมอนี่มันตั้งใจกวนโมโหเขาใช่ไหม ดูนัยน์ตาพราวระยับของมันก็รู้ว่ากำลังนึกสนุกอยู่ชัดๆ
“ถ้างั้นคุณก็คงชอบอะไรที่มันดาร์คแล้วก็เข้มแข็งกว่านี้สินะ”
เขานับหนึ่งถึงสิบในใจ พยายามแก้หน้าด้วยการเดาใหม่โดยอ้างอิงจากลักษณะคาแรคเตอร์ของอีกฝ่าย ร็อคเกอร์ก็ต้องชอบอะไรร็อคๆไม่ใช่เหรอ พวกสีดำแดง ดาว หนามแหลมๆ โซ่หนังอะไรพวกนี้.. จุนฮงกระหยิ่มกับตัวเองว่าคราวนี้แหละ จะเจปป์แบล็คแมนหรือร็อคเกอร์หน้าไหนก็ไม่รอดแน่ หากคนที่ถูกนินทาในใจกลับยักไหล่ให้เป็นคำตอบ
“ผมชอบลอฟท์”
โอ๊ย! จุนฮงอยากจะ..!!
เขาพ่นลมหายใจพรืดอย่างเหลืออด ยิงฟันให้คู่รักหมาดๆด้วยท่าทางที่ดูก็รู้ว่าจงใจประชดประชัน
“แปลกใจเหมือนกันนะครับเนี่ย นึกไม่ถึงเลยว่าร็อคเกอร์อย่างคุณจะชอบดีไซน์เรียบๆผสมธรรมชาติแบบลอฟท์ได้”
“ผมว่าตัวเองยังมีเรื่องที่ทำให้คุณแปลกใจได้อีกหลายเรื่องนะ” ยงกุกยกยอตัวเองต่อด้วยรอยยิ้มสบายๆที่จุนฮงเห็นว่าน่าหมั่นไส้นัก หากด้วยความเป็นคนช่างต่อความ ทำให้คนอายุน้อยกว่าอดไม่ได้ที่จะย้อนถามกลับไป
“อย่างเช่นอะไรบ้างครับ”
รอยกดลึกที่มุมปากหนาเต็มนั่นยียวนเสียจริง สายตาวิบวับของหมอนั่นก็กวนอารมณ์ แต่ถึงอย่างนั้น น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่ทำให้คนฟังรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการได้ยิน ก็สะกดให้ดวงตาสุกใสของจุนฮงจ้องแต่ใบหน้าคมได้แบบแทบไม่ละสายตา
“ผมมีพี่ชายฝาแฝดหนึ่งคนที่หน้าตากับเสียงเหมือนกันเปี๊ยบ ผมชอบทิกเกอร์จากการ์ตูนเรื่องพูห์ ผมชอบเด็ก ผมรับอุปการะเด็กกำพร้าสองคนในแอฟริกา ผมเป็นทูตยูนิเซฟ”
จุนฮงเกือบอ้าปากค้าง พาร์ทเนอร์เขาเป็นแม่ชีเทเรซ่ากลับชาติมาเกิดรีไงวะเนี่ย แล้วพีดีนึกยังไงถึงจับหมอนี่มาคู่กับเขา.. คนที่รักสันโดษ เกลียดสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กทุกชนิด (ทั้งหมา แมว หนู กระต่าย ฯลฯ และรวมไปถึงเด็กด้วย) ขี้วีน จอมเหวี่ยง ยอดพาล และอื่นๆอีกมากมายจนนับไม่หวาดไม่ไหวที่เป็นนิสัยตรงข้ามกันอย่างสุดโต่ง
คนมาดเท่คงนึกขำสีหน้าอึ้งกิมกี่ของเขาพอดู ดาราหนุ่มได้ยินคู่สมรสที่เพิ่งรู้จักกันวันนี้เป็นวันแรกหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วประโยคต่อมาก็ทำให้ฟอร์มที่อุตส่าห์สู้พยายามคีปไว้แตกกระเจิง ต้องหลุดอ้าปากค้างออกมาจนได้
“แล้วก็อีกอย่าง.. ผมว่าผมคงจะตกหลุมรักคุณเข้าให้แล้วสิ”
เดทแรก..
ประทับใจเกินร้อยเชียวล่ะ! (ประชด)
CHOI JUNHONG
Q: ช่วยแนะนำตัวด้วยค่ะ
Junhong: สวัสดีครับ ชเวจุนฮงครับ อายุ 25 ปี อาชีพนักแสดงครับ
Q: รู้จัก เจปป์ แบล็คแมน มาก่อนหน้านี้ไหมคะ?
Junhong: ไม่รู้จักครับ (หน้านิ่ง) ..ผมไม่ค่อยได้ติดตามวงการเพลงสักเท่าไหร่
Q: ความประทับใจแรกในตัวสามี?
Junhong: ชื่อของเค้าครับ เพราะไม่รู้จักไอดอลเลยตอนแรกที่เห็นชื่อก็คิดว่าชื่อแปลกจัง นึกว่าจะเป็นนายแบบฝรั่งหัวทองจ๋าอะไรแบบนั้นน่ะครับ.. แต่เดี๋ยวนะ นี่คุณแยกสามี-ภรรยากันไม่ถามผมสักคำเลยเหรอ มันไม่เกินไปหน่อยรึไง??
JEPP BLACKMAN
Q: ช่วยแนะนำตัวด้วยค่ะ
Jepp: สวัสดีครับ เจปป์ แบล็คแมน มือกีต้าร์วง Moonlit Night ครับ ชื่อจริงบังยงกุก ปีนี้ก็จะ 29 แล้วครับ
Q: รู้จัก ชเวจุนฮง มาก่อนหน้านี้ไหมคะ?
Jepp: ได้ยินชื่อกับเคยดูละครบ้างครับ ก็เล่นแสดงเยอะซะขนาดนั้น.. แต่ก็ไม่ได้ติดตามอะไรเป็นการส่วนตัวเลยครับ
Q: ความประทับใจแรกในตัวภรรยา?
Jepp: เค้าน่ารักครับ (ยิ้ม) น่ารักมากๆ ถึงจะติดทำหน้าบูดไปหน่อยก็เถอะ แล้วผมสีแดงของเค้าก็เด่นจริงๆ เป็นอย่างแรกที่ผมเห็นตั้งแต่เดินพ้นบันไดขึ้นมาเลย (หัวเราะ)
CHOI JUNHONG
Q: ตอนที่ได้ยินคำบอกรักสายฟ้าแลบจากคุณสามี?
Junhong: ยังไม่ใช่สามีครับ! (โวยวาย แล้วก็ถอนหายใจ) ..ตกใจครับ ไม่คิดว่าเค้าจะพูดยังงั้นออกมา แต่พอเห็นสายตาก็รู้ว่าตั้งใจแกล้ง แล้วก็คิดว่าผู้ชายคนนี้นี่มันจริงๆเลย.. (ถอนหายใจ) บอกได้คำเดียวว่าตกใจจริงๆครับ (ถอนหายใจอีกครั้ง) รู้ว่าชีวิตคู่ข้างหน้าต้องเหนื่อยมากแน่ๆเลย อัยกู (พองแก้มอย่างน่าเอ็นดู)
WE GOT MARRIED SPECIAL 2013
Jepp - ChoiJunhong EP.02
ไม่แน่ใจว่าการเริ่มต้นเส้นทางเรียลลิตี้ของชเวจุนฮงมันยากเพราะเขาไม่ถนัดในด้านนี้แต่แรก หรือเพราะจับพลัดจับผลูมาตกที่รายการสุดโหดอย่าง We Got Married กันแน่
นักแสดงคนเก่งเพิ่งเข้าใจระดับความหินของรายการเรียลลิตี้อย่างถ่องแท้ว่าต่อให้มีสคริปต์อย่างไร แอร์ไทม์เกือบทั้งหมดของเทปก็ต้องขึ้นอยู่กับไหวพริบส่วนตัวของผู้ดำเนินรายการเสมอ
ดาราหนุ่มรู้สึกว่าตนทำได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาตื่นกล้องเกินไป ทั้งประหม่าเพราะรู้สึกว่าถูกจับตามองตลอดเวลา แล้วก็เพราะผู้ดำเนินรายการอีกคนช่างขยันยั่วให้สติหลุดบ่อยครั้ง.. เกินความจำเป็น.. แม้ว่าหลังปิดกล้อง ผู้กำกับจะแวะมาชมเชยให้กำลังใจ แต่คนขี้หงุดหงิดก็ยังนึกผูกใจเจ็บถึงขนาดที่แค่เห็นคนช่างกวนทำท่าจะเข้ามาทัก ร่างโปร่งเพรียวก็สะบัดหน้าหนี แล้วรีบคว้าข้าวของจ้ำอ้าวๆกลับบ้านไม่ล่ำลาใครไปซะยังงั้น
กลับมาถึงคอนโดก็แล้ว ฟังพี่ยองแจสวดเพราะหนีกลับมาก่อน พี่ผู้จัดการเลยโดนผู้ใหญ่โทรมาเฉ่งเรื่องไม่รู้จักรักษามารยาทจนหูชาก็แล้ว ออกกองถ่ายละครอีกสองเรื่องที่รับไว้ก็แล้ว.. ความหงุดหงิดที่เกาะกุมจิตใจจุนฮงก็เหมือนจะหายไปจนหมด เพียงแต่.. น่าแปลกที่บางอย่างที่จุนฮงเพิ่งรู้ว่ามีอยู่ด้วยเหมือนกัน ยังไม่ยักหลุดออกไปบ้างเสียที
เดทแรกที่ไม่ค่อยน่าจดจำในความรู้สึกของชเวจุนฮงผ่านมาแล้วตั้งอาทิตย์กว่า แต่ชายหนุ่มก็ยังสลัดคำบอกรักห้วนๆของเจปป์ออกจากความคิดไม่ได้ ถึงจะหัวเราะเจื่อนๆกลับไปให้อีกฝ่ายเหมือนกับเข้าใจว่าเป็นการล้อเล่น และตอบสัมภาษณ์รายการออกไปแบบนั้น แต่สายตาพราวระยับที่ทำให้คนถูกจ้องรู้สึกมวนท้องพิกลได้ ก็ยังติดค้างอยู่ในใจมาจนถึงทุกวันนี้
แม้กระทั่งตอนนี้ที่เขายืนอยู่ต่อหน้าร่างผอมสูงของร็อคเกอร์หนุ่มท่าทางอารมณ์ดีอีกครั้ง จุนฮงก็ยังตีความมายของสายตานั้นไม่ออกเลย
“ทานอะไรมารึยังครับ” เป็นคำทักทายแรกที่ออกจะประหลาดไปสักหน่อยสำหรับคนที่เพิ่งเจอหน้ากัน แต่จุนฮงก็ทำใจมาล่วงหน้าแล้วว่าคงไม่มีทางหาความธรรมดาได้จากผู้ชายคนนี้ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้ารับอย่างราบเรียบ
“ทานกับทีมงานมาแล้วครับ ผมเพิ่งเลิกกองถ่ายละครเมื่อกี้” ร่างโปร่งเพรียวตอบ ก่อนจะถามกลับบ้าง “คุณมานานรึยัง”
“ผมเพิ่งถึง ไม่เคยมาที่นี่ กว่าจะเจอทางก็แทบแย่เหมือนกัน”
มือเรียวสวยสะกิดแขนคนข้างตัวให้ก้าวเท้าเดินตามเข้าไปในตึกที่เป็นจุดหมายของวันนี้.. ร้านสารพัดของแต่งบ้าน.. เจปป์กับเมมเบอร์อีก 3 คนอยู่หอพักที่ทางต้นสังกัดจัดให้ ไม่เหมือนกับจุนฮงที่ซื้อคอนโดอยู่เป็นของตัวเอง ก็เลยไม่เคยได้เยี่ยมเท้ามาช็อปปิ้งที่นี่เลย และถ้าไม่รับมิชชั่นจากรายการให้มาซื้อของเข้าเรือนหอกับคู่แต่งงานวันนี้ ชายหนุ่มก็คิดว่าตัวเองคงไม่มีโอกาสได้เหยียบที่นี่สักครั้งในชีวิตแน่นอน
คนอ่อนวัยกว่ายอมทำตามอย่างว่าง่าย วันนี้จุนฮงอารมณ์ดีเป็นพิเศษ กองถ่ายละครของเขาเป็นไปด้วยดี ทุกอย่างตรงเวลา ช่างหน้าช่างผมก็แต่งออกมาถูกใจ เพราะงั้นเขาก็เลยทำงานได้ดีตาม และเพราะทำงานได้ดีตามทีมงานก็เลยกลุ้มรุมชมเสียยกใหญ่ ให้แก้มที่ออกจะป่องอยู่แล้วของชายหนุ่มยิ่งบานยิ่งๆขึ้นไปอีก นึกครึ้มใจเสียจนยอมเป็นฝ่ายเริ่มชวนคนข้างๆคุยก่อน
“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ คุณคงเพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานก็ต้องไม่คุ้นเส้นทางเป็นธรรมดา.. ลูกครึ่งใช่ไหมครับ? อะไรล่ะ ยูเอส อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือเยอรมัน?”
เจปป์มองหน้าเจ้าของคำถามอย่างแปลกใจปนไม่เชื่อหู ขายาวในกางเกงยีนส์สีซีด (ตัวที่ดูคล้ายกันมากกับที่จุนฮงเคยเห็นในเดทแรก และชายหนุ่มก็ค่อนข้างแน่ใจว่ามันต้องใช่ตัวเดียวกันแน่ๆ) สะดุดไปนิดหนึ่ง ก่อนที่ผู้ชายตัวผอมจนเห็นเหลี่ยมมุมของกระดูกไหปลาร้าผ่านเสื้อคอกว้างชัดเจนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง ราวกับอดทนกลั้นไว้ไม่ได้
“โธ่ จุนฮง” น้ำเสียงออกจะอ่อนใจ สายตาคมกล้าทอดมองคนหน้าขาวอย่างเอ็นดู “เจปป์ แบล็คแมน มันก็แค่ชื่อในวงการ.. ชื่อจริงผมคือบังยงกุก เป็นคนเกาหลีแท้ๆเหมือนคุณ เหมือนจองจุนยอง เหมือนคิมฮิมชาน นั่นแหละ” พูดไปแล้วก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้ นัยน์ตาเป็นประกายถึงได้หรี่ลงอย่างจับผิด
“อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผมเลย” คนหน้าแตกยับได้แต่ฉีกยิ้มจืดชืดให้
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ ก็ไม่ได้ติดตามวงการไอดอลนี่นา” ดาราหนุ่มแก้ตัว หากอีกฝ่ายกลับดูจะไม่ยอมลงให้ง่ายๆ
“นี่มันปีสองพันแล้วนะคุณ ห้องคุณไม่มีอินเตอร์เน็ตรึไง หรือคุณไม่รู้จักวิธีใช้กูเกิ้ล?”
“ผมก็แค่ไม่มีเวลา แล้วก็ไม่คิดว่าจะต้องหาข้อมูลรึประวัติอะไรขนาดนั้น”
“คุณไม่สนใจเองต่างหาก” มือกีต้าร์หนุ่มแย้งเสียงเรียบ “ผมน่ะนะ สืบค้นประวัติคุณตั้งแต่ชื่อถูกประกาศออกมาแล้ว” เจปป์ หรือที่จุนฮงเพิ่งรู้ว่าชื่อจริงคือบังยงกุก เลือกรถเข็นมาจับไว้หนึ่งคัน สายตาของชายหนุ่มไม่ได้มองคนข้างๆที่เดินเคียงกันด้วยซ้ำตอนที่ร่ายประวัติอีกฝ่ายออกมา
“ชื่อจริง ชเวจุนฮง ชื่อในวงการ ชเวจุนฮง เกิดวันที่ 15 ตุลาคม ปีนี้กำลังจะอายุ 26 ปีเต็มถ้านับตามแบบเกาหลี เข้าวงการตั้งแต่อายุ 23 เริ่มงานแสดงเรื่องแรกก็ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยม เรื่องอื่นๆต่อจากนั้นก็ได้รับรางวัลไม่เคยขาด.. มีชื่อเสียงในเรื่องฝีมือการแสดง แต่ก็มีชื่อเสียในเรื่องนิสัยส่วนตัวที่ออกจะโอเวอร์ฮีทอยู่บ่อยครั้ง รักสันโดษ ไม่คบเพื่อนสนิทในวงการ ไม่เคยรับรายการอื่นนอกเหนือจากงานแสดง มีรายการนี้เป็นรายการแรก.. จะให้ผมพูดเรื่องของที่ชอบ ของที่ไม่ชอบด้วยก็ได้นะ แต่กลัวจะยาวเกินไปจนคนดูนึกว่าเป็นรายการอัตชีวประวัติของชเวจุนฮงซะก่อนน่ะสิ”
เขาจบประโยคยาวเหยียดด้วยรอยยิ้มมุมปากอย่างที่ชอบทำเป็นเอกลักษณ์ หยิบแพ็คผ้านวมสีครีมไข่ไก่ลงรถเข็น ตามด้วยหมอนอิงใบเล็กสีฟ้าน้ำทะเลอีกสองใบ
“คุณชอบสีครีมไข่ไก่ ส่วนผมชอบสีฟ้า.. คุณไม่รู้ใช่ไหม” ชายหนุ่มถาม และแน่นอนว่าเขาได้รับอาการส่ายหน้าจนผมกระจายกลับมาเป็นคำตอบ “แต่คุณไม่ชอบฟ้าโทนเรียบ ผมเลยเลือกฟ้าน้ำทะเลที่มีส่วนผสมของเขียวอยู่ด้วยคุณจะได้สบายใจขึ้น” เขาอธิบายยิ้มๆ
“คนเรามักจะใส่ใจและพิถีพิถันกับสิ่งที่ตัวเองสนใจเสมอ.. ดูเหมือนจะมีแต่ผมที่ตกหลุมรักคุณอยู่ฝ่ายเดียวจริงๆสินะ”
CHOI JUNHONG
Q: ไม่ได้สืบค้นข้อมูลของสามีเลย?
Junhong: ยังไม่ใช่สามีครับ! (โวยวาย แล้วก็ถอนหายใจ) ..ไม่ได้ทำเลยครับ
Q: รู้สึกยังไงที่สามีรู้เรื่องของคุณดีมาก?
Junhong: ยังไม่ใช่สามีครับ! (โวยวาย แล้วก็ถอนหายใจ) ..ก็ตกใจครับ ไม่คิดว่าเค้าจะสนใจผมขนาดนั้น แล้วก็รู้
Q: รู้สึกผิด?
Junhong: ก็นิดนึงนะ เค้ารู้เรื่องผมตั้งมากแต่ผมกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเค้าเลย ดูไม่แฟร์ยังไงไม่รู้
Q: จะแก้ตัวกับสามียังไงคะ?
Junhong: ก็บอกว่าไม่ใช่สามี.. (ถอนหายใจ) กลับบ้านไปคืนนี้จะเสิร์ชหาข้อมูลเค้าดูแน่นอนครับ
JEPP BLACKMAN
Q: สืบค้นข้อมูลของภรรยาก่อนมาออกรายการเหรอคะ?
Jepp: อ่า.. ใช่ครับ (หัวเราะ) ไม่คิดว่าจะต้องบอกใครเลยนะเรื่องนี้ มันน่าอายออก (ยิ้ม) แต่ผมก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้วน่ะครับ ประเภทถ้าสนใจอะไรแล้วก็ต้องรู้ให้ได้ แล้วก็นี่เรื่องของภรรยาทั้งคนนะครับ คิดว่าถ้าไม่เตรียมความพร้อมไว้ก่อนออกรายการจะไหวเหรอ
Q: แต่ภรรยาไม่รู้จักคุณเลยนะคะ
Jepp: อ่า.. นั่นมันก็.. (“ผิดหวังไหมคะ?”) ..นิดหน่อยครับ
Q: ภรรยาบอกว่ารู้สึกผิดนะคะ
Jepp: (เลิกคิ้ว สีหน้าแปลกใจ) เหรอครับ? ไม่คิดมาก่อนเลย อย่างเค้าเนี่ยนะ? ..ยังไงดี (ยิ้มหน้าบาน) ..ดีใจจนบรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้เลยครับ
Q: ฝากอะไรตอบแทนความรู้สึกผิดของภรรยาหน่อยไหมคะ?
Jepp: อ่า.. ช่วยเรียกผมว่ายงกุกเถอะนะ จุนฮงยา! (ขำ)
WE GOT MARRIED SPECIAL 2013
Jepp - ChoiJunhong EP.04
จุนฮงไม่รู้จักไอดอล แต่วันนี้เขากลับได้รับโอกาสให้มาคลุกคลีกับไอดอลบอยแบนด์ชื่อดังอย่าง Moonlight Night ถึงหอพัก เพราะมิชชั่นของรายการ ‘We Got Married Special 2013’ อย่างที่รับประกันได้ว่าถ้าสาวๆได้ดูเทปนี้ต้องกรี๊ดระงมด้วยความอิจฉาเป็นบ้าเป็นหลัง
หลังจากมิชชั่นซื้อของเข้าบ้านในตอนที่สอง และย้ายเข้าเรือนหอในตอนที่สามแล้ว จุนฮงก็รู้สึกว่ามิชชั่นของรายการชักจะยาก (อาจจะแค่ในความรู้สึกของเขา) ขึ้นเรื่อยๆ
คำสั่งของภารกิจครั้งนี้คือให้เขาโผล่ไปเซอร์ไพรส์สมาชิก Moonlit Night วงของบังยงกุกที่หอ โดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รับการแจ้งเดือนการเข้าเยี่ยมเยียนของเขาไว้ล่วงหน้า ตอนที่พี่ผู้จัดการพาเขาเข้าไป พี่คิมจงฮยอนนักร้องนำของวงยังนอนกรนคร่อกๆ น้ำลายยืดย้อยอยู่บนเตียงนอน น้องคังมินฮยอกเพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมาในชุดคลุมอาบน้ำเปียกหมาดๆ อีซองยอลมือเบสที่เป็นคนเปิดประตูออกมารับก็ยังอยู่ในสภาพเพิ่งตื่น ตาบวมหัวฟู ส่วนคนของเขาน่ะเหรอ.. ผู้ชายตัวสูงบนโซฟาคนนั้นอยู่ในชุดเสื้อยืดคอกลมย้วยๆกับกางเกงนอนขายาวธรรมดาแท้ๆ.. ทำไมถึงได้ดูดีนักนะ
จุนฮงประหม่าจะตายที่จู่ๆต้องมาเจอคนแปลกหน้าเต็มไปหมด ยงกุกก็คงรู้เพราะชายหนุ่มคอยแต่ประกบคนตัวขาวตลอดเวลา แต่สมาชิกของ Moonlit Night ก็น่ารักมากจริงๆ พวกเขาต้อนรับสะใภ้ของวงอย่างอบอุ่น เพราะมีพี่จงฮยอนที่คอยยิงมุขตลกกับซองยอลที่คอยรับเป็นลูกคู่ แล้วก็น้องมินฮยอกที่หน้าตาดีมากๆจนแค่สบตายิ้มให้ก็เผลอเคลิ้ม พอได้นั่งล้อมวงคุยกันสักพักเขาก็เริ่มผ่อนคลาย แล้วก็ไม่ค่อยรู้สึกอึดอัดเหมือนตอนทีแรกที่มาถึงที่นี่อีกแล้ว
พวกเขายังได้เล่นเกมด้วยกันด้วย เป็นเกม ยุต-โนริ [๑] ที่พี่ใหญ่อย่างคิมจงฮยอนเสนอขึ้นมาเพื่อจะให้คู่รักได้เพิ่มระดับสกินชิพกัน ซองยอลเองก็บ่นว่าจุนฮงกับยงกุก (ข้อเท็จจริงอีกอย่างที่เขาเพิ่งรู้เกี่ยวกับตัวคู่รักคือ พวกสมาชิกจะไม่เรียกยงกุกว่าเจปป์ แต่ทุกคนจะชอบเรียกเขาว่า ยงกุก หรือ ไอ้เหงือกบัง ซึ่งมาจากชื่อจริงมากกว่า จุนฮงก็เลยตั้งใจว่าจะเอาบ้าง) เป็นคู่แต่งานที่น่าอึดอัดเพราะมีท่าทีสุภาพใส่กันตลอดเวลา วันนี้พวกเขาในฐานะญาติฝ่ายสามีต้องช่วยกันทำลายกำแพงนั้นให้ได้
จุนฮงฟังแล้วก็เหนื่อยใจอยากจะขัดว่า ยังไม่ได้ตกลงกันเสียหน่อยว่าใครจะเป็นสามี ใครจะเป็นภรรยา แต่พอเห็นน้องมินฮยอกทำท่าตีกลองในจินตนาการเป็นเพลงเฉลิมฉลองแล้วมันก็ดูน่ารักมากเสียจน สะใภ้ วง MLN (ชื่อย่อของวง Moonlit Night) ถึงกับทำใจขัดคอไม่ลง
สุดท้ายพวกเขาก็ต้องเล่นเกมพื้นบ้านที่พี่ใหญ่เสนอ (แกมบังคับ) จนได้ ร่างโปร่งเพรียวไม่ค่อยมั่นใจว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งคู่ลดลงมากแค่ไหน แต่หลังจากจบเกม จุนฮงก็ว่าตัวเองสามารถมองตาวิบวับของยงกุกได้โดยไม่รู้สึกมวนท้องแล้ว แถมยังสามารถแลบลิ้นหยอกกลับไปให้ได้อีกต่างหาก
พวกเขาหัวเราะไปด้วยกันจนเหนื่อย ก่อนที่จะถูกสมาชิกคนอื่นๆไล่ให้เข้ามานั่งคุยกันสองต่อสองในห้องนอนของยงกุกที่แชร์กับอีซองยอล ตากลมโตมองไปรอบๆห้อง ความคิดแรกที่แวบเข้ามาในหัวคือห้องนี้มันช่างมีบรรยากาศที่สมกับเป็นห้องของนักดนตรีเสียจริง ทั้งกีต้าร์สองสามตัวกับเบสที่วางเรียงกันอยู่ที่มุมห้อง ชั้นซีดีเต็มพื้นที่ผนังด้านหนึ่ง และโปสเตอร์ศิลปินร็อควงต่างๆที่แปะระเกะระกะเต็มไปหมด จนแทบไม่เห็นลายของเนื้อวอลเปเปอร์ห้อง
“รู้สึกเหมือนจะสนิทกันขึ้นนิดนึงเลย” ยงกุกล้มตัวลงนอนเอกขเนกบนเตียงเดี่ยวของตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับคนข้างๆที่เพียงแต่หย่อนตัวลงนั่งขัดสมาธิหมิ่นเหม่อยู่ที่ขอบเตียงเท่านั้น “จุนฮง เรามาพูดพันมัลกันดีไหม”
ถ่ายรายการมาจนถึงวันนี้ก็เข้าเทปที่สี่แล้ว เวลาที่รู้จักกันจริงๆ ถึงจะไม่ได้เจอกันบ่อยแต่ก็ต้องนับว่านานร่วมเดือนแล้วเหมือนกัน แถมตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกสนิทกันมากขึ้นแล้วด้วย ยงกุกก็คิดว่าน่าจะได้เวลาอันสมควรขยับความสัมพันธ์เสียที
“ก็ได้นะ” เพราะวันนี้หัวเราะจนเหนื่อยไปหมด จุนฮงเลยไม่เหลือแรงจะขัดใจใครหรือทำอะไรทั้งนั้น ได้แต่ยกยิ้มบางๆในหน้า “ผมควรจะเรียกคุณว่าอะไรดี”
“เรียกโอปป้า” อีกคนที่รอจังหวะอยู่แล้วรีบตอบเร็วทันใจ
“น้อยๆหน่อย” คนอายุน้อยกว่าเบ้ปาก เหวี่ยงค้อนให้วงเบ้อเริ่ม “เรียกฮยองแล้วกัน.. ยงกุกฮยอง ปังฮยอง~ แอ๊บแบ๊วเนอะ”
ชื่อหวานจ๋อยที่เพิ่งคิดได้ทำให้คนพูดขำเสียเอง ถึงกับต้องระบายยิ้มกว้างจนแก้มบุ๋มเป็นรอยลักยิ้ม จุนฮงที่กำลังหัวเราะเพลินๆอาจจะไม่รู้ตัว แต่คนเฝ้ามองอย่างยงกุกนี่สิ รู้ดีทีเดียวว่าดวงหน้าหวานของอีกฝ่ายเวลายิ้มหรือหัวเราะอวดฟันซี่เล็กๆนั่นน่ะ น่ารักน่าหมั่นไส้ขนาดไหน
“งั้นนายก็เป็นจูนง.. จูนงเด็กดื้อของปังฮยอง ดีไหม?”
“ยาวจัง!” โวยวายแค่นั้น แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธแล้วก็ไม่ได้ทำท่าเหมือนไม่พอใจอะไร เพราะงั้นยงกุกเลยเหมาเอาว่าอีกฝ่ายโอเคกับชื่อยาวเหยียดซึ่งทำให้เขายิ้มรื่น.. ชายหนุ่มไม่รู้ว่าคู่รักในจอของตนจะทันสังเกตไหม แต่พ้อยต์ที่ทำให้เขายิ้มกว้างสุดๆได้แบบนี้มันอยู่ที่คำว่า ‘ของปังฮยอง’ ล้วนๆเลยน่ะสิ
“เออนี่ ไหนๆเราก็พูดพันมัลกันแล้ว พี่ว่าเรามาแลกเบอร์ติดต่อกันด้วยดีกว่า” ไม่รู้หรอกว่าสองเรื่องนี้โยงกันได้รึเปล่า แต่นานๆทีจะเห็นอีกฝ่ายอารมณ์ดีขนาดนี้ ยงกุกก็ไม่อยากปล่อยให้โอกาสต้องเสียเปล่าไป มือเรียวล้วงหยิบไอโฟนสีดำถลอกเป็นรอยด่างๆ ด้วยสภาพที่ดูก็รู้ว่าคงจะใช้อย่างสมบุกสมบันพอดู ออกมายื่นให้คนที่นั่งค้ำหัวอยู่
“เอาไปกดเบอร์ แล้วเอามือถือนายมาด้วย เร็วๆ นายยังติดค้างคำสั่งพี่อยู่ข้อนึงนะอย่าลืม จากที่เล่นเกมส์แพ้คราวที่แล้วที่บ้านโน้นน่ะ” ยงกุกยันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงเคียงกัน ก่อนจะกระดิกนิ้วเรียก จุนฮงมีท่าทีลังเลนิดหน่อย แต่พอถูกเร่งซ้ำอีกครั้งก็ยอมตัดใจส่งซัมซุงกาแลคซี่โน้ตของตัวเองให้
“ดีมาก.. เด็กดี” จุนฮงถลึงตาให้คำชมแบบกึ่งๆล้อเลียนนั้น เขากดเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองลงในมือถือของอีกฝ่าย แล้วก็แลกรับเอาเจ้าซัมซุงลูกรักของตัวเองกลับมา
“ฮยอง ฮยองเมมว่าอะไรอ่ะ” เขาพยายามยืดคอดูว่าคนที่ก้มหน้าก้มตาจิ้มไอโฟนอยู่กำลังทำอะไร “ผมต้องเมมชื่อฮยองว่าไง”
“เมมว่าสามีดิ” ประโยคขัดหูทำให้คนโดนฟังตาขวาง
“ทำไมผมต้องเมมว่าสามีด้วย”
ยงกุกยักไหล่ โชว์หน้าจอไอโฟนห้าของตัวเองให้จุนฮงอดูคอนแทคลิสต์ที่ขึ้นชื่อเด่นหราไว้ว่า ‘ภรรยา’
“ทีฉันยังเมมเบอร์นายว่าภรรยาเลย”
“ผมไม่ได้ขอสักหน่อย!” คนอ่อนวัยกว่าโวยทั้งที่แก้มยังร้อนวูบ รู้สึกหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลมพิกล “ฮยองเปลี่ยนชื่อผมเป็นสามีเดี๋ยวนี้เลยนะ แล้วผมจะยอมเมมชื่อฮยองว่าภรรยาก็ได้”
“นายจะต่อรองทำไมจุนฮง ใครเป็นสามีใครเป็นภรรยาเราก็รู้ๆกันอยู่” ดาราหนุ่มฮึดฮัดหันรีหันขวางพยายามหาตัวช่วย
“ผมสูงกว่าฮยองอีกนะ!”
“ความสูงมันวัดชั้นเชิงกันไม่ได้เว้ย” ยงกุกยิ้มกริ่ม ภาพจุนฮงแก้มแดง นั่งหัวฟัดหัวเหวี่ยงอยู่คนเดียวมันเป็นอะไรที่ดูน่ารักชะมัดในสายตาเขา เพราะงั้นชายหนุ่มถึงได้ชอบแหย่อีกฝ่ายให้โมโหอยู่บ่อยๆ ถึงจะไม่ใช่ทุกครั้งที่จะหน้าแดงก่ำเกือบเท่าสีผมอย่างตอนนี้ก็เถอะ แต่สีหน้ามุ่ยๆเหมือนเด็กประถมโดนขัดใจของหมอนั่นก็น่าเอ็นดูไม่หยอกเหมือนกัน
“นี่ไง” จุนฮงร้องอย่างดีใจ คว้าตุ๊กตาเสือสีส้มตัวโตบนหัวเตียงของยงกุกมายื่นใส่หน้า “ฮยองเล่นตุ๊กตากุ๊กกิ๊ก ส่วนผมไม่ ใครกันแน่ที่เป็นภรรยาเห็นๆ”
ยงกุกหัวเราะหึหึ “ไม่เกี่ยวเลยจุนฮง อันนั้นแฟนคลับเขาให้มา”
มือที่ขย้ำอยู่รอบคอตุ๊กตาชะงักวูบ ตายละวา ถ้าแฟนคลับ Moonlit Night เห็นเขาทำตัวโหดร้ายใส่ของที่อุตส่าห์ตั้งใจให้ศิลปินต้องไม่ดีแน่ๆ ช็อตเมื่อกี้ไว้ไปแอบกระซิบให้โปรดิวเซอร์ตัดออกทีหลังได้ไหมนะ.. แล้วรีบเปลี่ยนท่าเป็นจับแก้มกลมๆของพี่เสืออย่างนิ่มนวล
“แล้วก็ไม่บอกแต่แรก” เรียวปากสีสดแยกเขี้ยวแก้เก้อ จุนฮงยกตุ๊กตาขึ้นมาพิจารณาซ้ายขวา อดถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“ฮยองชอบทิกเกอร์เหรอ”
“ใช่ ชอบมาก ทำไมเหรอ?”
“เปล่า” ตากลมเบนจากหน้าแป้นแล้นของพี่เสือสุดเท่ขึ้นสบตากลับเจ้าของที่เท่ไม่แพ้กัน “ปกติแล้วถ้าชอบการ์ตูนหรือนิยายเรื่องไหน ส่วนใหญ่ก็มักจะชอบตัวเอกกันไม่ใช่เหรอ เพิ่งเคยเจอฮยองคนแรกนี่แหละที่ชอบตัวรองอย่างทิกเกอร์ มากกว่าพระเอกแบบหมีพูห์”
“ไม่หรอก พี่ว่าจะทิกเกอร์หรือพูห์ต่างก็เป็นพระเอกกันทั้งคู่ เพียงแต่เรื่องนี้มันโฟกัสไปที่พูห์ เราก็เลยเห็นด้านต่างๆของพูห์เยอะกว่า ทั้งที่ถ้าลองดูจริงๆแล้วทิกเกอร์เองก็เท่ไม่ได้น้อยไปกว่ากันเลย”
จุนฮงฟังคนอายุมากกว่าอธิบายยาวด้วยความรักที่มีต่อตัวละครโปรดแล้วก็อมยิ้ม
“ตอบขนาดนี้ผมเชื่อแล้วว่าฮยองชอบทิกเกอร์มากจริงๆ”
“อืม เมื่อก่อนชอบทิกเกอร์ที่สุด..” มาอีกแล้ว นัยน์ตาพราวระยับที่คำให้คนถูกมองรู้สึกหนาวๆร้อนๆ “แต่เดี๋ยวนี้คิดว่าชักจะชอบอย่างอื่นมากกว่าแล้วนิดนึง”
JEPP BLACKMAN
Q: สนิทกันขึ้นเยอะเลยนะคะ แลกเบอร์กันแล้ว คิดว่าจะติดต่อกันเมื่อไหร่เหรอคะ?
Jepp: น่าจะคืนนี้เลยครับ หลังจากถ่ายรายการเสร็จ..
Q: ข้อความหรือโทรคุยคะ?
Jepp: ข้อความครับ ไม่อยากโทรกวน เพิ่งเลิกทำงานจุนฮงอาจจะเหนื่อยๆ
CHOI JUNHONG
Q: ในที่สุดก็แลกเบอร์กันแล้ว
Junhong: ครับ โดนบังคับน่ะครับ (หัวเราะเบาๆ)
Q: ตกลงเมมชื่อสามีว่าอะไรคะ?
Junhong: ‘สามี’ ครับ.. ยงกุกฮยองขโมยมือถือไปกดเองเลย (หน้ามุ่ย) แต่ผมก็ยังยืนยันว่าไม่ใช่นะ
Q: คิดว่าจะติดต่อไปเมื่อไหร่คะ?
Junhong: คิดว่าจะไม่ติดต่อไปครับ (“ทำไมล่ะคะ?”) ก็ฮยองเป็นคนบังคับผมทุกอย่างเลย คิดว่าถ้าอยากติดต่อด้วยจริงๆก็จะรอให้เค้าติดต่อมาก่อนน่ะครับ
Q: คิดว่าสามีจะติดต่อมาเมื่อไหร่คะ?
Junhong: คืนนี้ครับ (หัวเราะ) เป็นคนใจเร็ว.. ชอบบังคับซะขนาดนั้น..
JEPP BLACKMAN
Q: ชอบทิกเกอร์เหรอคะ?
Jepp: เป็นรักแรกของผมเลยล่ะครับ (ยิ้ม)
Q: อย่างอื่นที่ชอบมากกว่าทิกเกอร์?
Jepp: ถ้าจะมีอะไรที่ชอบมากกว่ารักแรก ก็คงจะเป็นรักครั้งปัจจุบันล่ะมั้งครับ
Q: ข้อความแรกที่จะส่งให้ภรรยา?
Jepp: ‘ฮยองชอบนายมากกว่าทิกเกอร์อีกนะ’ แบบนี้น่ะครับ
CHOI JUNHONG
Q: ตกใจไหมคกับตุ๊กตาทิกเกอร์?
Junhong: นิดหน่อยครับ แต่ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องน่าสนใจดี เป็นด้านน่ารักๆของเค้าที่ผมไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลย
Q: สามีบอกว่าชอบคุณมากกว่าทิกเกอร์อีก
Junhong: อ่า.. เหรอครับ.. ผม.. (เม้มปาก หน้าแดง มุมปากยกขึ้น เริ่มกลั้นยิ้มไม่ไหว) ขอบคุณครับ
WE GOT MARRIED SPECIAL 2013
Jepp - ChoiJunhong EP.06
การถ่ายทำรายการ ‘We Got Married Special 2013’ ก้าวเข้าสู่ครึ่งหลังอย่างเต็มตัวในวันนี้ จากที่วางแผนงานเอาไว้ 2 เดือนเต็ม กับรายการทั้งหมด 9 ตอน
ระยะเวลาที่ผ่านมาพอสมควรทำให้ความสัมพันธ์ของจุนฮงกับยงกุกพัฒนาขึ้นมาก พวกเขาไม่มีท่าทีห่างเหินกันเหมือนตอนแรกๆอีกแล้ว ยงกุกที่คอยเล่นมุขหยอดนู่นนี่ให้จุนฮงเสมอ จากเดิมที่ดูเป็นเรื่องน่ารำคาญเสียเหลือเกินในความรู้สึกของดาราหนุ่ม มาบัดนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่เขาเห็นว่าน่ารักและทำให้อดยิ้มอดหัวเราะไม่ได้ทุกครั้ง แต่สิ่งที่มากกว่าความน่ารักในจอของพวกเขาที่เรียกเรตติ้งและฐานแฟนคลับให้เพิ่มขึ้นได้ทุกวัน ก็คือความรู้สึกแท้จริงบางอย่างในใจที่จุนฮงตระหนักได้ว่ามันกำลังค่อยๆเติบโตไปพร้อมๆกับเวลาที่เดินหน้าไปเหมือนกัน
ร่างโปร่งเพรียวในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์ธรรมดาๆ แต่งให้น่ารักขึ้นนิดนึงด้วยผ้าพันคอผืนยาวสีเดียวกับสีผมที่พันรอบคอให้ทิ้งชายลงมาข้างหน้า ชะเง้อมองหาคนที่ตนกำลังรอสลับกับก้มลงมองนาฬิกา.. อย่างนึงระหว่างปังเจลคัพเพิล (แฟนๆเป็นคนตั้งชื่อนี้ให้ ปัง มาจากชื่อเล่นที่เขาล้อให้เพี้ยนมาจากนามสกุลของยงกุกฮยอง ส่วน เจล ก็เอามาจากชื่อเล่น เจลโล่ ที่ยงกุกฮยองล้อเขาไว้ในตอนที่แล้วว่าแก้มนิ่มเหมือนเจลลี่ แต่พาโบ รวมกันแล้วก็กลายเป็นพาโบเจลลี่ เป็นเจลโล่ ไปซะยังงั้น) ที่ไม่เคยเปลี่ยนคือนิสัยชอบมาสายของยงกุกฮยอง คนตรงต่อเวลาจัดแล้วก็ขี้หงุดหงิดอย่างชเวจุนฮงเคยอารมณ์เสียกับเรื่องนี้อยู่บ่อยครั้งเหมือนกัน แต่พอผ่านมาจนถึงตอนนี้เขาก็เริ่มชินชา
จุนฮงสัมผัสได้ว่าตัวเองเปลี่ยนไปมากจากวันที่เริ่มถ่ายทำเทปแรก ไม่ใช่แค่ในเรื่องของความรู้สึกที่มีต่อบังยงกุก แต่รวมไปถึงเรื่องตัวตนของเขาเองด้วย ดาราหนุ่มรู้สึกว่าเขาใจเย็นลง นิสัยน่าโมโหหลายอย่างของคู่รักกลายเป็นบทเรียนที่ช่วยสอนให้เขาได้เรียนรู้การควบคุมตัวเองมากขึ้น นานๆเข้าก็กลายเป็นเปลี่ยนทัศนคติให้มองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยไปเสีย
ความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลไปถึงชีวิตส่วนตัวของจุนฮงด้วย เขาทำงานร่วมกับทีมงานในกองละครต่างๆได้ดีขึ้น รู้สึกไม่พอใจกับการกระทำของคนอื่นน้อยลง และยอมรับเรื่องไม่ถูกใจตัวเองได้มากขึ้น พอเปลี่ยนไปเป็นแบบนั้น บรรยากาศในการทำงานก็สนุกสนานขึ้นตามลำดับ ชื่อเสียงของชเวจุนฮงก็เป็นไปในทางที่ดีขึ้น.. ทุกอย่างนี้เขารู้สึกว่าต้องขอบคุณยงกุกฮยองคนเดียวที่สอนให้เขารู้จักอดทน แม้จะเป็นในทางอ้อม และเจ้าตัวจะไม่รู้ตัวก็ตามที
แต่จุนฮงก็ไม่ใช่นักอดทนมืออาชีพนี่นะ เขาก็รออย่างใจได้เฉพาะกับบางกรณีเท่านั้นแหละ เพราะงั้น ตอนนี้ยงกุกฮยองต้องรีบมาได้แล้ว!
เกือบจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาส่งข้อความเร่งอยู่แล้วเชียว เสียงขบวนพาเหรดที่ดังมาจากหัวโค้งตรงโน้นก็เรียกความสนใจได้เสียก่อน ดวงหน้าหวานเงยขึ้นมองอย่างสนใจ.. มิชชั่นวันนี้ของพวกเขาคือการเดทที่สวนสนุก แต่เพราะยงกุกฮยองติดงานโชว์เคสเลยทำให้ต้องนัดกันในเวลาเกือบๆห้าโมงเย็นแบบนี้ ถึงจะมีเวลาให้อยู่ด้วยกันไม่มาก แต่จุนฮงก็คิดว่าโชคดีนิดหน่อยที่อย่างน้อยก็ทันดูการแสดงพาเหรดตอนห้าโมงครึ่ง.. แต่ยงกุกฮยองก็ยังไม่มานี่นา
จูนงเด็กดื้อของปังฮยองเริ่มหน้าบูด คิ้วเรียวขมวดมุ่นเข้าหากันอย่างแสนเซ็ง ก่อนที่จะคลายออกอย่างรวดเร็วเพียงแค่เห็นมาสคอตสีส้มตัวเบ้อเริ่มเดินนำขบวนพาเหรดเข้ามาใกล้ลานน้ำพุที่เขานั่งอยู่
“โอ๊ะ นั่นทิกเกอร์นี่นา” ดวงตาสุกใสวาวโตเมื่อเห็นตัวการ์ตูนที่จำได้ว่าคู่รักในจอชื่นชอบ ก่อนที่ร่างโปร่งเพรียวรีบหยิบเจ้าซัมซุงคู่ใจออกมา ต้องถ่ายรูปไปทับถมยงกุกฮยองเสียหน่อยว่ามาสายจนอดของดีเลยเห็นไหม อ่ะ ไม่สิ เปลี่ยนเป็นอัดวีดีโอดีกว่า ต้องให้เห็นภาพเคลื่อนไหวของเจ้าเสือส้มตัวโตที่ยักย้ายส่ายเอวอย่างน่ารักไปตามเสียงเพลง ยงกุกฮยองจะได้ยิ่งเสียดาย
มือขาวยกมือถือเล็งเฟรมวีดีโออย่างพอใจ กำลังอัดอยู่เพลินๆ พี่เสือที่เพิ่งเดินผ่านมาอยู่ตรงนี้ก็หยุดลงตรงหน้าเขาหน้าตาเฉย เล่นเอาถึงกับงงไปวูบหนึ่ง ก่อนที่จะหัวเราะออกมาดังลั่นเมื่อดนตรีน่ารักสดใสสำหรับเด็กที่เปิดคลอมาตลอด ถูกเปลี่ยนเป็นเพลง ‘Stop It’ ของวง Moonlit Night พร้อมกับที่มาสคอตทิกเกอร์กระโดดรับกีต้าร์ของเล่นที่เจ้าหญิงคนสวยในชุดชมพูโยนให้ มาโซโล่โชว์อย่างสุดเท่
“ยงกุกฮยอง?” จุนฮงหยุดขำไม่ได้ ขนาดตอนเอ่ยคำถามหางเสียงก็ยั่งสั่นไปพร้อมกับร่างกายที่เอาแต่หัวเราะจนสั่นกึกไปทั้งตัว จนฝืนอัดวีดีโอต่อไม่ไหวอีกต่อไป คนเพี้ยนๆบนโลกนี้มีกี่คนจุนฮงก็ไม่รู้หรอกนะ แต่ถ้าจะให้พูดถึงคนเพี้ยนๆที่เขารู้จักล่ะก็.. มีแค่คนนี้คนเดียวเท่านั้นแหละ
เจ้าเสือยังเล่นกีต้าร์โชว์ต่อไปไม่หยุด ทำท่าตลกต่างๆนานา เล่นไปกับสิ่งของที่เพื่อนร่วมขบวนพาเหรดช่วยเตรียมไว้ให้ เรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้จนจบเพลง ตบท้ายด้วยการยื่นกุหลาบดอกโตให้คนที่ยอมรับไปถืออย่างว่าง่าย ก่อนที่บรรดาเจ้าชายเจ้าหญิงและสัตว์อื่นๆจะแยกย้ายกันไป เปิดโอกาสให้คู่รักคนดังได้อยู่กันตามลำพัง
“เหนื่อยไหมครับ” เขาถามทั้งที่รอยยิ้มยังแต้มอยู่บนหน้า มองคนโตแต่ตัว ผู้ซึ่งช่างทำอะไรได้ไม่สมอายุเอาเสียเลย ที่เพิ่งถอดหัวทิกเกอร์ออกมาสบตากันทั้งใบหน้าพราวเหงื่อ แล้วก็ยิ่งระบายยิ้มหวานเต็มสองแก้ม
“ไม่เลย” ตอบทั้งที่ยกแขนขึ้นปาดเหงื่อและสีหน้าโทรมเต็มที่
“ปากแข็ง” จุนฮงว่าเข้าให้ ตากลมปรายมองแขนหนาๆแข็งๆของมาสคอตที่รู้สึกว่าคงให้สัมผัสไม่ค่อยสบายนัก แล้วมือขาวก็ช่วยหยิบทิชชู่ในกระเป๋าขึ้นไล่ซับเหงื่อที่ไหลลงมาตามแนวคางให้
“ฮยองออกมาก่อนเถอะ ผมว่ามันร้อน” คู่รักของเขาพาตัวเองออกมาจากชุดมาสคอตอับลมอย่างทุลักทุเล สภาพของอีกฝ่ายดูไม่จืดเลย เสื้อยืดทรงเดียวกับเขาแต่สีเข้มกว่าที่นัดกันใส่เป็นเสื้อคู่ บัดนี้ชื้นเหงื่อจงกลายเป็นด่างดวง ออกมายืนด้วยลำแข้งตัวเอง ไม่ต้องพึ่งอุ้งเท้าหนาๆของเสือตัวใหญ่ได้แล้ว แต่คิ้วเข้มของร็อคเกอร์หนุ่มก็ยังขมวดเข้าหากันอย่างเป็นกังวล
“ชอบไหม”
“อะไรครับ?” จุนฮงยิ้มกลับไปตาใส รู้หรอกว่าถามถึงอะไร แต่ก็อยากให้พูดอีกนิดนี่นา
“ก็..” เสียงทุ้มต่ำลากยาวอย่างไม่แน่ใจ “ที่ตั้งใจเล่นให้ดูเมื่อกี้ ชอบไหม หรือคิดว่าน่าอาย”
“แล้วฮยองชอบไหม”
“เอาตามตรงเลยนะ.. พี่ว่ามันงี่เง่าหน่อยๆ” คนอายุมากกว่าตีสีหน้ายุ่งๆ ปลายหูที่แดงก่ำบอกชัดว่าเจ้าตัวคงกำลังขัดเขินอยู่มากทีเดียว
จุนฮงเกี่ยวปลายนิ้วเข้ากับนิ้วเรียวของอีกฝ่าย ไม่ไหวแล้ว ผู้ชายคนนี้น่ารักมากจริงๆ น่ารักจนความรู้สึกข้างในของเขาซาบซ่านไปหมด ไม่รู้จะทำยังไงจนได้แต่ต้องคลี่ยิ้มออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“แต่ผมชอบนะ” ..เท่านั้นเองที่ช่วยปัดเป่าริ้วรอยของความกังวลบนใบหน้าคมคายได้จนหมดสิ้น ยงกุกกระชับมือนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายที่สอดเข้ามาหา ปกติแล้วจุนฮงเป็นคนไม่ค่อยแสดงออก เพราะงั้นกับคำพูดเมื่อกี้ที่อีกฝ่ายยอมพูดออกมาก่อน แค่นั้นก็ทำให้หัวใจของเขาพองโตจนคับอกไปหมด
“ถ้างั้นมันก็ไม่งี่เง่าแล้ว” แค่จุนฮงชอบ ความไม่แน่ใจทั้งหลายแหล่ที่เคยถ่วงความรู้สึกไว้ก็เหมือนจะหายไปหมด “เออใช่ พี่เตรียมอย่างอื่นมาให้นายด้วย” เขาก้มลงหยิบถุงผ้าเล็กๆถุงหนึ่งที่เพื่อนร่วมขบวนพาเหรดวิ่งมาส่งให้เป็นอย่างสุดท้ายตอนใกล้จบเพลงขึ้นมายื่นให้
“อันนี้ของจุนฮง” คนที่จู่ๆก็โดนยัดเยียดของขวัญให้เปิดถุงดูอย่างงุนงง ดึงเอาพวงกุญแจเบบี้ทิกเกอร์ตัวจ้อยออกมา “ของขวัญครบรอบครึ่งทาง” ยงกุกว่าพลางหัวเราะไปกับศิลปะในการตั้งชื่อวันครบรอบของตัวเองที่ดูจะไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย
“ให้ไว้เป็นตัวแทนพี่.. รบกวนน้องเจลโล่ช่วยดูแลพี่ปังดีๆด้วยนะครับ” เขาล้วงไอโฟนของตัวเองออกมาโชว์พวงกุญแจเบบี้อียอร์ที่ห้อยไว้กับซองหนังเรียบร้อยแล้ว “ทางนี้เองก็จะดูแลเบบี๋เจลโล่อย่างดีเลย”
คนที่เพิ่งเงยหน้าขึ้นมองชะงักไปนิดหน่อย ก่อนจะยู่ปากประท้วง
“ทำไมผมเป็นอียอร์อ้ะ”
“ก็นายมันหน้าเซ่อ” อดใจไม่ได้ต้องยกมือขึ้นบีบจมูกเล็กๆนั่นด้วยความหมั่นเขี้ยวไปที “ดื้อด้วย เป็นลาก็ถูกแล้ว ตัวพี่เป็นจูนงเด็กดื้อของยงกุกฮยอง ตัวน้องก็เป็นเจลโล่ลาดื้อของพี่เสือปังน่ะถูกแล้ว” ว่าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ยิ่งทำให้คนโดนแหย่ทำปากยื่นหนักเข้าไปอีก ยงกุกเห็นแล้วก็อยากเตือนนักว่าอย่าได้เผลอทำตัวน่ารักแบบนี้ใส่ปังฮยองนอกจอนะครับน้องจูนง เพราะถ้าไม่มีสื่อคอยจับตามองแล้วปังฮยองเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะห้ามใจได้แค่ไหนเหมือนกัน
“ไม่เอาดิ ไม่อยากเป็นลาอ่ะ” คนอายุน้อยกว่าโวยวาย บิดตัวหนีปลายนิ้วที่แกล้งหนีบจมูกไว้แล้วโยกไปมาจนจั๊กจี้
“งั้นก็ไม่ต้องเอา พี่ก็ซื้อมาตัวเดียวแค่นี้แหละ ถ้าจุนฮงไม่อยากได้ก็ไม่เป็นไร” เจ้าทิกเกอร์น้อยถูกเจ้าของตัวจริงแกล้งหยิบออกไปจากอุ้งมือเจ้าของปัจจุบันอย่างรวดเร็ว ร้อนถึงคนที่โดนแย่งของขวัญไปต่อหน้าต่อตาเฉยต้องรีบตะครุบเอากลับมา
“เฮ้ย! ผมยังไม่ได้บอกสักคำว่าจะไม่เอา”
“ก็เมื่อกี้นายบอกไม่อยากเป็นลา”
“ผมไม่อยากเป็นลานี่ แต่.. แต่..” จุนฮงหน้ามุ่ย กลอกตาไปมา ก่อนจะร้องลั่นออกมาอีกทีเมื่อคนตรงหน้าทำท่าจะดึงทิกเกอร์กลับคืนไปอีกครั้ง “ก็ได้! ยอมแล้ว พี่ยงกุกห้ามแย่งน้องปังผมไปอีกนะ”
“จะเป็นน้องได้ไง นี่ตัวแทนพี่เลยนะ นี่ก็ต้องเป็นปังฮยองดิ”
“ตัวแค่นี้ เป็นน้องไปแหละถูกแล้ว” มือขาวยกตุ๊กตาตัวน้อยขึ้นพยักพเยิดด้วยเหมือนสื่อสารกันรู้เรื่อง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายวาว “เนอะๆ น้องปังของพี่จูนง” ทิ้งให้คนตัวสูงอีกคนยืนล้วงกระเป๋ามองภาพนั้นพร้อมกับรอยยิ้มกริ่มที่พาดผ่านดวงหน้าคมคาย
เด็กนี่มันหลอกง่ายจริงๆเลย ว่าไหมครับ ฮึฮึ
JEPP BLACKMAN
Q: ทำไมถึงได้เตรียมการแสดงนี้มาคะ?
Jepp: คิดว่าแต่งงานกันมาถึงครึ่งทางแล้ว ก็อยากจะให้มันเป็นเดทที่พิเศษ อยากสร้างความประทับใจให้เค้าน่ะครับ (ยิ้ม)
Q: ยากไหมคะ?
Jepp: ก็เตรียมการมาเป็นอาทิตย์เลยล่ะครับ ให้เพื่อนที่เป็นนักเต้นในขบวนอยู่แล้วช่วยสอน แล้วก็ติดต่อกับฝ่ายต่างๆให้ (“ทุ่มเทมากเลยนะคะเนี่ย”) ตั้งใจแล้วก็มั่นใจมากครับ แต่พอลองทำแล้วจริงๆก็รู้สึกว่า.. (หัวเราะยาวมาก)
Q: คิดว่าถ้าสมาชิกคนอื่นเห็นจะว่ายังไงคะ?
Jepp: ต้องโดนล้อไปจนแก่แน่ครับ! (หัวเราะ) ตอนออกอากาศเทปนี้ผมคงต้องรีบยกโทรทัศน์ในหอไปซ่อนก่อนเลย
CHOI JUNHONG
Q: สามีเตรียมการแสดงไว้ให้อย่างจริงจังเลยนะคะ
Junhong: รับรู้ได้ แล้วก็รู้สึกขอบคุณมากๆเลยล่ะครับ (หัวเราะ)
Q: ไม่ชอบอียอร์เหรอคะ?
Junhong: ไม่เชิงไม่ชอบหรอกครับ คิดว่าน่ารักดี แต่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมยงกุกฮยองถึงเลือกตัวนี้มาให้ (หน้ามุ่ย) คิดว่าจะต้องโดนแกล้งอะไรสักอย่างแน่ๆก็เลยโวยวายไว้ก่อนน่ะครับ
Q: ระหว่าง จูนงของยงกุกฮยอง กับ เจลโล่ของปังฮยอง?
Junhong: ไม่เลือกทั้งคู่แหละครับ (หัวเราะ) เพราะไม่ว่าจะยงกุกฮยองหรือปังฮยองน่ะ ต้องเป็นของผมทั้งหมดต่างหาก (หัวเราะ) ยงกุกฮยองเนกอยา! ปังฮยองเนกอยา!
WE GOT MARRIED SPECIAL 2013
Jepp - ChoiJunhong EP.09
เสียงคลื่นที่ม้วนตัวเข้าหาฝั่ง ดังคละเคล้าไปกับเสียงหัวเราะเบาๆจากสองร่างที่นั่งเคียงกันอยู่ริมชายหาด
คงจะจริงอย่างที่คนเขาว่ากัน.. ความสุขมักจะจากไปเร็วเสมอ เผลอแปบเดียวรายการ ‘We Got Married Special 2013’ ก็ดำเนินมาถึงตอนจบ.. แค่แปบเดียวเท่านั้นที่เวลาของ “คู่รักสุดขั้ว” ดำเนินมาจนถึงเทปสุดท้าย ยงกุกรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเพิ่งได้เจอชเวจุนฮงเมื่อวานนี้เอง.. คนน่ารักที่สะดุดตาตั้งแต่แรกพบ คนเจ้าอารมณ์ที่เขาไม่เคยคาดเดารีแอคชั่นได้ คนที่มักจะบ่นว่าเขาในเรื่องเล็กๆน้อยๆอยู่เสมอ แต่ก็ทั้งหวานแล้วก็ช่างใส่ใจอย่างน่าเอ็นดู
คนที่ทำให้หวั่นไหวได้อย่างแท้จริง
มันคงจะดีเราได้ใช้เวลาด้วยกันมากกว่านี้ แต่ถึงอย่างนั้น สองเดือนที่ผ่านมามันก็มากพอที่จะทำให้เขาแน่ใจกับความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในใจ
ชายหนุ่มเหลือบมองคนข้างกาย ร่างโปร่งเพรียวของจุนฮงนั่งขัดสมาธิอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวข้างๆเขา ดวงหน้าหวานเหม่อมองไปยังหมู่ดาวที่พราวเต็มท้องฟ้าสีเข้ม ยามที่มือขาวยกกระป๋องเบียร์ในมือขึ้นจิบ ในอกของยงกุกก็รู้สึกอึดอัดไปหมด เพียงแค่คิดว่าจะไม่ได้พบเจอ ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ไม่มีโอกาสได้เคียงคู่หรือดูแลคนตรงหน้านี้แล้วอีกต่อไป
“กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ” เสียงทุ้มต่ำที่เรียกขึ้นมาดึงให้จุนฮงหลุดจากภวังค์ เขาหันไปปั้นยิ้มบางให้คนข้างๆ
“กำลังคิดว่าเหมือนฝันเลย..” ดาราหนุ่มถอนหายใจ “การที่จู่ๆก็ได้มาออกรายการเรียลลิตี้ที่รู้สึกว่าเป็นเรื่องท้าทายมาก.. การที่ได้เจอกับฮยอง ได้ทำอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน.. การที่ได้อยู่ด้วยกัน ได้แชร์เวลา ได้สร้างความทรงจำดีๆกับใครสักคนที่เป็นคนพิเศษ.. พอคิดว่าทุกอย่างมันกำลังจะจบลงแล้ว ก็รู้สึกโหวงๆเหมือนกันนะ”
ตากลมโตกะพริบอย่างเชื่องช้า ยังคงมองออกไป ณ เส้นขอบฟ้าที่แสนไกล
“แล้วฮยองล่ะครับ ยงกุกฮยองคิดอะไรอยู่เหรอ”
“ก็.. คิดว่าใจหาย..” ใบหน้าคมหันมาทางคู่รักของตน จ้องมองเสี้ยวหน้านวลอิ่มของอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย.. ดวงตาหวานฉ่ำ ริมฝีปากสีสด กับแก้มที่เรื่อแดงเพราะฤทธิ์แอลกอล์ฮอล์ รวมถึงบรรยากาศที่แสนจะเป็นใจอย่างนี้.. มันจะเป็นภาพที่เขาจดจำไว้ตราบนานเท่านาน
“..แล้วก็เสียดาย..”
คู่สนทนาเอียงคอมองด้วยท่าทางเหมือนจะแปลกใจ หากแววตาที่สบประสานกันสื่อความหมายให้ยงกุกสะท้านไปทั้งใจ.. ว่าอีกฝ่ายเองก็คิดไม่ต่างกัน
“ผมก็เสียดาย” คนอายุน้อยกว่าถอนหายใจบางๆ บอกไม่ถูกว่ารอยยิ้มอ่อนๆที่ประดับอยู่บนเรียวปากของตนเอง แท้จริงแล้วหมายถึงความรู้สึกยังไงกันแน่ “ถ้าเรามีเวลามากกว่านี้ก็ดีสิเนอะ”
“อืม.. ถ้ามีเวลามากกว่านี้ก็ดี”
พวกเขาปล่อยให้ความเงียบสงัดโรยตัวล้อมรอบอยู่ครู่หนึ่ง เป็นความเงียบที่ได้ยินเพียงแค่เสียงคลื่นลม เสียงหายใจ และเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะ ที่ทิ้งช่วงเวลาให้ได้ทบทวนอะไรหลายๆอย่างภายในจิตใจตนเอง ก่อนที่บังยงกุกจะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นก่อน
“จุนฮง.. ต่อไปนี้พี่จะดูละครของนายเยอะๆเลยนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “จะดูละครเรื่องละสามรอบ รอบแรกตอนออนแอร์ รอบที่สองดูย้อนหลังในอินเตอร์เน็ต แล้วก็รอบที่สามจะซื้อดีวีดีมาดูที่หอกับพวกเมมเบอร์” ริมฝีปากหยักสวยยกยิ้มมุมปาก “แล้วก็จะโหวตให้ชื่อนายที่เข้าชิงรางวัลปลายปีเยอะๆเลย ดีไหม”
“งั้นเวลาวงพี่เข้าชิงรางวัลผมก็จะโหวตให้เยอะๆเหมือนกัน จะเกณฑ์ทีมงานทุกคนในกองมาโหวตให้ด้วย ดีไหมครับ” นักแสดงคนเก่งหัวเราะเสียงใส “แล้วก็จะดูโชว์ของพี่ทุกเทปด้วย ดูเอ็มวี ดูรายการ ซื้อซีดีเพลง..” ท้ายประโยคขาดหายไปเพราะรู้สึกถึงก้อนบางอย่างที่แล่นขึ้นมาจุกที่คอจนไม่สามารถพูดต่อไปได้
“..ผม..” เขาพยายามเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง หากสุดท้ายก็เงียบเสียงลงด้วยไม่รู้จะพูดอะไรต่อ.. การลาจากเป็นเรื่องยากเสมอสำหรับคนที่ยังมีความรู้สึก และจุนฮงก็พิสูจน์คำพูดนั้นแล้วด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง หากแต่ชายหนุ่มก็ฝืนวาดรอยยิ้มบางเบาออกมาจนได้
มันคงจะดีถ้าเขาสามารถสั่งเวลาให้หยุดอยู่แค่ตรงนี้เรื่อยไป แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถเป็นไปได้ จุนฮงเอง.. ในฐานะมนุษย์ธรรมดาคนนึงที่ยังต้องใช้ชีวิตไปตามกระแสธรรมชาติ ก็คงไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากต้องยอมรับความจริง
“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมานะครับ ยงกุกฮยอง”
“สองเดือนเชียวนะ” ยงกุกคลี่ยิ้มตอบ
คนมองไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะรอยยิ้มนั้น หรือสองแขนของคนตรงหน้าที่วาดออกกว้าง หรือแอลกอล์ฮอล์ในร่างกาย หรือความรู้สึกของหัวใจกันแน่ ที่ทำให้ตัวเขารู้สึกอบอุ่นเหลือเกินทั้งที่กำลังนั่งตากลมทะเลเย็นรื่นอยู่อย่างนี้.. อบอุ่นเสียจนเขาอยากจะแบ่งปันให้อีกคนได้ร่วมรับรู้ไปด้วย จนต้องโผเข้าซุกซบกับอ้อมกอดที่อ้ารอไว้แล้วอย่างว่าง่าย
“อื้อ ตั้งสองเดือนแน่ะ” จุนฮงหัวเราะในคอพลางเกยคางลงบนแนวไหล่หนั่นหนา ก่อนจะเอียงศีรษะพิงข้างแก้มของร็อคเกอร์หนุ่มแล้วหลับตาพริ้ม ยกแขนกอดตอบรับคนที่ยิ่งกระชับอ้อมกอดที่วางรอบเอวเขาให้แนบชิด
“ขอบคุณเหมือนกันนะจุนฮง” คนตัวขาวไม่รู้ว่าคำกระซิบที่พึมพำอยู่ข้างหูจะดังจนคนอื่นได้ยินรึเปล่า แต่ตัวเขาได้ยิน.. ชัดเจนมากทีเดียว คำที่ยังคงดังก้องซ้ำไปซ้ำมาอยู่ข้างในอก สะท้อนไปกับเสียงเต้นระรัวของหัวใจ
สองเดือนกว่าที่มีกันและกัน..
เป็นช่วงเวลาสั้นๆที่มีคุณค่า ซึ่งพวกเขาจะจดจำมันไว้ตลอดไป
We Got Married Special 2013
Jepp - ChoiJunhong
has finally ended
.
.
.
โปรดิวเซอร์ของ 'We Got Married Special 2013' ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน และคาดหวังการติดตามต่อไปในอนาคต
9 OCT 2013
เป็นที่รู้กันดีว่าคู่รักส่วนมากในรายการ 'We Got Married' ซึ่งเป็นเพียงสองคนดังที่ไม่ได้เดทกันมาก่อน มักจะจบความโรแมนติคของพวกเขาลงเมื่อสิ้นสุดการถ่ายทำรายการ สร้างความเสียดายและเสียใจให้กับกลุ่มแฟนคลับอยู่บ่อยครั้ง แต่โปรดิวเซอร์ของรายการดูเหมือนจะมี 'ความหวังและความฝัน' ที่อยากจะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้น
คิมจอนโซ โปรดิวเซอร์ของรายการ 'We Got Married' บอกว่า "สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปของ 'We Got Married Special 2013' ในฤดูกาลพิเศษนี้คือเราได้นิเสนอมุมมองของความรักในรูปแบบใหม่ แบบเพื่อนสนิท แบบพี่น้อง แบบคู่หู ปัญหาของ 'We Got Married' เทปก่อนๆคือด้วยความที่เป็นคู่รักชายหญิง ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นในรายการจึงไม่ได้รับการยอมรับที่ข้างนอกรายการ เราคิดว่าเวลาตั้งมากที่ได้ใช้ร่วมกันมันมีค่าเกินกว่าจะปล่อยทิ้งไปง่ายๆ มันน่าเสียดาย.. กับคู่รักเพศเดียวกันในฤดูกาลนี้ ต่อให้จบรายการไปแล้วเราก็หวังจะเห็นพวกเขาสนิทสนมเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนตอนอยู่ในรายการ แล้วก็หวังให้แฟนๆสนับสนุนพวกเขาด้วย"
รายการ 'We Got Married Special 2013' ที่เพิ่งปิดฉากลงอย่างสวยงามด้วยความยาว 9 ตอน ใช้เวลาถ่ายทำ 2 เดือนกว่าๆ ประกอบด้วยคนดังทั้งหมด 8 คน ได้แก่ คิมฮิมชาน, จองแดฮยอน, เจปป์ แบล็คแมน, ชเวจุนฮง, CL, ซานดาร่า ปาร์ค, คิมนัมจู และยุนโบมี โดยคูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ "คู่รักเด็กแนว" ของ CL และซานดาร่า ปาร์ ด้วยบรรยากาศที่สนุกสนานรวมถึงแฟชั่นในแต่ละตอนที่น่าตื่นตาตื่นใจมากๆ รองลงมาคือ "คู่รักสุดขั้ว" ของเจปป์และชเวจุนฮง ด้วยคาแรคเตอร์ของทั้งสองคนที่ดูจะต่างกันเหมือนน้ำกับไฟ และเสน่ห์ของความขี้เล่น รวมถึงบรรยากาศน่ารักๆ ที่ดูเคมีเข้ากันมากๆของทั้งคู่นั่นเอง
‘ชเวจุนฮง’ ปฏิเสธไม่ได้ติดต่อกับ ‘บังยงกุก’ หลังจบรายการ We Got Married Special 2013
14 OCT 2013
ท่ามกลางความเสียดายของแฟนๆ รายการ ‘We Got Married Special 2013’ ก็ได้จบลงพร้อมกับฝากความทรงจำไว้มากมาย จากรายการที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงเริ่มต้น ได้กลายเป็นอีกหนึ่งรายการที่ทำให้คนดูมีความสุข และร้องไห้ไปพร้อมๆกันทั่วประเทศ แฟนๆหลายคนถึงกับใจสลายเมื่อคิดว่าคู่รักที่ตนชื่นชอบจะต้องเลิกรากันไป หลายคนโพสต์ความเห็นอยากให้พวกเขาทดลองเดทกันในชีวิตจริงๆด้วย
“ก็มีคิดถึงบ้างครับ” ชเวจุนฮง นักแสดงวัย 25 ปี หนึ่งในผู้ร่วมรายการตอบคำถามที่ว่าคิดถึงคู่รักในจอของตนหรือไม่ “รู้สึกโหวงๆนิดนึงเพราะตอนนี้ก็ไม่มีใครให้อ้อนแล้วเวลาทำงานมาเหนื่อยๆ (หัวเราะ)” แล้วได้ติดต่อกันบ้างไหม? “ไม่ได้ติดต่อเลยครับ (ยิ้ม) ตารางงานผมแน่นมาก แล้วเห็นข่าวว่าพี่เขาเองก็ดูจะยุ่งๆกับการเตรียมอัลบั้มใหม่ใช่ไหมครับ ก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย”
อย่างนี้แฟนๆก็เสียใจแย่เลยสิ? “ต้องขอโทษจริงๆนะครับ (หัวเราะ) แต่ก็ขอบคุณสำหรับทุกแรงสนับสนุนด้วยนะครับ (ยิ้มหวาน)” ลองเจ้าตัวออกมาให้ยืนยันชัดเจนขนาดนี้ สงสัยปังเจลชิปเปอร์ที่รอลุ้นจนตัวโก่งคงได้อกหักกันเป็นแถวแล้วล่ะงานนี้
ชเวจุนฮง และ บังยงกุก หรือ เจปป์ แบล็คแมน ได้รับความรักจากแฟนๆในฐานะ “คู่รักสุดขั้ว” อย่างมากมาย ชเวจุนฮง นักแสดงดาวรุ่งแห่งวงการบันเทิง และ เจปป์ แบล็คแมน มือกีต้าร์เจ้าเสน่ห์แห่งวงการไอดอล เทปสุดท้ายที่พวกเขาบอกลากันริมทะเลเป็นฉากที่ถูกนำไปพูดถึงอย่างมาก แฟนๆต่างก็พากันซาบซึ้งไปกับความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีแฟนๆของ Moonlit Night บางส่วนออกมาต่อต้านว่าไม่เหมาะสม กลายเป็นกระแสการทุ่มเถียงกันอย่างหนักในอินเตอร์เน็ตขณะนี้
.
.
.
ปลายนิ้วเคาะแท็บปิดหน้าจอเว็บข่าวชื่อดัง ทิ้งตัวเอนหลังบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง ก่อนจะถอนหายใจ
ไอดอลไม่ควรมีความรัก
โดยเฉพาะกับไอดอลชาย ที่เป็นเหมือนดั่งคนในฝันของสาวๆทั้งประเทศหรืออาจจะทั่วโลก แม้แฟนคลับปัจจุบันจะเปิดใจมากขึ้นแล้ว แต่ก็ต้องยอมรับว่าสถานภาพของตัวนักร้องเองก็ยังส่งผลต่อความนิยมของวงอยู่เหมือนกัน ดังนั้น ท่ามกลางเกมการแข่งขันที่ดุเดือดของวงการบันเทิงนี่ จึงไม่มีใครคิดจะหาเรื่องลดฐานแฟนคลับซึ่งเป็นกำลังสนับสนุนหลักของตนเองโดยไม่จำเป็น
จุนฮงเองก็รู้และเข้าใจ เพราะงั้นถึงได้ยอมปล่อยวาง ทั้งที่ไม่บ่อยนักหรอกที่คนเราจะได้เจอคนที่ทำให้ใจเต้นแรงได้เพียงแค่ได้ยินชื่อ.. ตอนที่ตอบคำถามของนักข่าวไปเมื่อวันก่อน ชายหนุ่มก็ได้แต่สะกดกลั้นหัวใจที่เต้นรัวไว้
ถึงจะน่าเสียดาย แต่ก็.. เสียงแจ้งเตือนโปรแกรมแชทออนไลน์ดังขัดจังหวะความคิด มือขาวเอื้อมหยิบโทรศัพท์มือถือซึ่งบัดนี้เปลือยเปล่าเพราะเขาถอดเจ้าเบบี้ทิกเกอร์เก็บเข้าตู้ไปเรียบร้อย ขึ้นอ่านข้อความใหม่ในคาทก.. ไม่สั้น ไม่ยาว แต่ถูกที่ ถูกเวลา และถูกคนมาก.. เป็นแบบที่ทำให้อ่านแล้วยิ้มได้กำลังดี
เย็นนี้พี่ขอลาซ้อมหนึ่งวัน 17:32
สองทุ่มจะไปรับนายดินเนอร์ รอพี่ที่คอนโดนะ 17:32
สุขสันต์วันเกิด! 17:33
ข้อความที่ต่อให้ปิดชื่อไว้ก็รู้ว่าใครเป็นคนส่ง จุนฮงรู้จักผู้ชายคนเดียวเท่านั้นที่ใช้สำเนียงทื่อๆ ไม่หวาน ไม่โรแมนติคอย่างนี้.. แต่แฝงไว้ด้วยความจริงใจอย่างที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวได้เสมอ
ผมรักคุณ 17:35
เรียวปากสีสดระบายออกเป็นรอยยิ้มกว้าง กวาดตาอ่านกองทัพข้อความล่าสุดอีกครั้งแล้วก็รัวปลายนิ้วพิมพ์ข้อความส่งกลับไปให้เจ้าของคอนแทคเดียวในเครื่อง ที่เขาติดดาวไว้ให้ในฐานะคนพิเศษ ไม่ต้องป่าวประกาศให้ใครรู้ก็ได้..
แค่เราสองคนรู้ตรงกัน แค่นั้นเขาว่ามันก็มากเกินพอ
'สามี' ชื่อที่ถูกบังคับให้บันทึกไว้ตั้งแต่คราวก่อนโน้นโดยไม่เต็มใจ ไม่น่าเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะกลายเป็นชื่อเดียวกับที่ทำให้เขายิ้มได้ทุกครั้งที่เห็น.. และดาราหนุ่มก็ได้แต่หวังว่าชื่อที่เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนนั้น จะคงอยู่เหมือนเดิมอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ อย่าให้ได้ต้องเปลี่ยนแปลงไปอีกเลย
17:41 รักเหมือนกันนะครับ :) ยงกุกฮยองเนกอยา!
ก็ ชเวจุนฮง แต่งงานแล้วนี่ครับ :P
.END
[x] จบแล้ววววววววววววว จะร้องไหหหหหหห้ น้ำตาไหลพรากเป็นสายเลือด TTATT ขอบคุณรายการวีก็อคแมรี่ (ตัวจริง) ที่แอบขโมยโมเม้นมานิดหน่อย ขอบคุณยงกุกฮยองที่ออกมาอัพไอจีแฮปปี้เบิร์ธเดย์น้องเมื่อเช้า ไม่งั้นเรื่องนี้ก็คงไม่เสร็จจริงๆ TTATT 55555555555555555555555 ปั่นแทบตาย เชื่อว่าทุกคนคงสัมผัสได้ไฟที่ลุกพรึ่บๆอยู่บนหน้าจอสินะคะ TTvTT รักนะคะทุกคน โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะเจ้าหนูชเวจุนฮง! XD
ความคิดเห็น