ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Begin of Love ( Fic Gongyoung , Badeul)

    ลำดับตอนที่ #6 : ( gongyung ) : REASON - PART 4

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 437
      0
      8 ต.ค. 55

    Part 4

     

     

     

     

     

     

     

     

     

        แสงแดดแผ่วจากดวงอาทิตย์ยามเช้าลอดส่องผ่านหน้าต่างมายังคนที่นอนหมกตัวในผ้าห่ม จินยองเลิกผ้าห่มขึ้นก่อนจะบิดตัวเล็กน้อย หาวหวอดๆ แล้วลุกจากที่นอนไปทำธุระส่วนตัว

        วันนี้เขาไม่ต้องไปเรียนเพราะผู้อำนวยการจัดประชุมครูยกโรงเรียนเลยหยุดให้นักเรียนเป็นกรณีพิเศษซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดีสำหรับเขาที่ไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นเช้าเหมือนทุกวัน อีกอย่างกว่าคาเฟ่จะเปิดก็สี่โมงเย็นเขาจะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง

        ร่างบางลงมาจากชั้นบนที่เป็นที่พักมายังชั้นล่างที่เปิดเป็นคาเฟ่ขายเครื่องดื่มต่างๆ และเบเกอรี่ จินยองเป็นลูกคนเดียวจึงถูกตามใจเป็นพิเศษ ยองกี้คาเฟ่แห่งนี้ก็เป็นของขวัญจากพ่อและแม่ที่ทำธุรกิจอยู่ต่างประเทศเมื่อวันเกิดปีที่แล้วเช่นกันและอีกไม่นานที่นี่ก็จะครบรอบหนึ่งปีเมื่อวันเกิดปีที่สิบแปดของเขามาถึง

     

    9:34 A.M.

    จินยองมองนาฬิกาที่บอกเวลาเก้าโมงกว่าก่อนที่ท้องน้อยๆ จะส่งเสียงดังโครกครากฟังดูน่าทรมานยิ่งนัก ร่างบางเดินไปในครัวเพื่อหาเสบียงอาหารแต่แล้วก็ต้องผิดหวังเมื่อของในตูเย็นมีแต่วัตถุดิบทำเบเกอรี่ทั้งนั้น ไอ้ครั้นจะกินขนมปังแทนข้าวก็กระไรอยู่ มันมิอิ่มเหมือนกินข้าวนี่นา นึกย้อนไปเมื่อวานก็ได้แต่โทษตัวเองที่ดันลืมซื้อของสำหรับทำอาหารมาตุนไว้เพราะมัวแต่เสียใจเรื่องไม่เป็นเรื่อง

       ใช่ หลังจากที่นอนคิดทั้งคืนเขาตัดสินใจแล้วล่ะว่าจะตัดใจเรื่องของผู้ชายเย็นชาคนนั้น ในเมื่อเจ้าตัวก็บอกอย่างมั่นใจว่ามีแฟนแล้วและไม่สามารถรักใครได้อีกแล้วเขาจะไปดันทุรังไปรักให้เจ็บช้ำอีกทำไม

     

     

      ด้วยความหิวที่รุนแรงขึ้นทุกทีจินยองจึงพาตัวเข้ามาอยู่ในร้านอาหารใกล้บ้านแทนทีจะซื้อของกลับไปทำเองที่บ้านเหมือนทุกที เอาไว้กินเสร็จเมื่อไหร่แล้วค่อยไปซื้อตุนไว้แล้วกัน

    รับอะไรดีคะ ^^” พนักงานสาวในร้านถามเมื่อร่างบางนั่งโต๊ะเรียบร้อยแล้ว

    พีบิมบับ(ข้าวยำ)ทีนึงครับ ^^”

    ค่ะ แล้วเครื่องดื่ม…”

    น้ำเปล่าแล้วกันครับ

    ค่ะ รอสักครู่ค่ะ

    เมื่อพนักงานหญิงเดินจากไปจินยองก็กุมท้องตัวเองปอยๆ  อูยย~ หิวอ้ะ เข้าไปทำเองแทนเชฟได้ไหมเนี่ย T_T ร่างบางบ่น(ในใจ)กระปอดกระแปดเป็นคุณปู่แล้วสายตาเจ้ากรรมก็เหลือบไปเห็นบุคคลที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปทำเอาหัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ

       นั่นมันกงชานกับ..ผู้หญิง?

    ใครกัน? แฟนเหรอ? หรือไม่ใช่กันนะ? แล้วมาด้วยกันทำไม..ต้องใช่แฟนแน่ๆ !!

       หลายความคิดหลากอารมณ์วนเวียนอยู่ในหัวเมื่อเห็นภาพตรงหน้า กงชานยิ้มและหัวเราะไปกับคำผู้ของผู้หญิงคนนั้นอย่างมีความสุขส่วนผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนั้นก็ดูมีความสุขที่ได้พูดคุยกับร่างสูงเช่นกัน

       เหมาะสมกันจริงๆ..ให้ตายสิ เหมาะสมกันมากขนาดที่เขายังละอายใจเลย จะมีโอกาสสักครั้งไหมที่เขาจะทำให้คนคนนั้นยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุขแบบนี้..คงไม่มีหรอกมั้ง แต่เอ๊ะ? เดี๋ยวนะ..แล้วเราจะไปอิจฉาเขาทำไม เราตัดใจไปแล้วนี่? ใช่ๆ เราตัดใจไปแล้ว!! โอเคจินยองตั้งสติ ห้ามมอง ห้ามมองเด็ดขาดนะ ห้ามมองสิ บอกว่าห้ามมองไง! ห้ามมองงงงงง~

    สั่งตัวเองให้ยับยั้งชั่งใจไม่ให้มองเขาแต่ทำไมตามันกลับไม่ฟังคำสั่งของสมองเผลอจ้องมองไปอีกจนได้ จนคนที่ถูกจ้องเริ่มรู้สึกตัวและมองกลับนั่นทำให้จินยองสะดุ้งก่อนจะเบินสายตาไปที่อื่นเหมือนกับไม่ได้มอง แต่ดูท่าจะไม่ทันซะแล้วเมื่อคู่กรณีเดินลิ่วมานู่น = =

    ไงพี่กงชานทักทายคนหน้าหวานที่เอาแต่ล่อกแล่กทำตัวไม่ถูก

    เอ่อ..ไง ^^;;”

    มาคนเดียวเหรอ

    อื้ม ไม่เหมือนนายที่มากับแฟนหรอก..

    อ่อ

    “…”

    “…” ดูเหมือนการถามคำตอบคำแล้วต่างคนก็ต่างเงียบ ทำให้บรรยากาศดูแปลกๆ ไป จนร่างสูงพูดขึ้นมา

    “..วันนี้ผมไม่ไปเรียนนะ

    “..ทะ ทำไม?ว่าจะไม่ถามกลับแล้วเชียว

    พอดี..” กงชานพูดพร้อมเหลือบมองไปยังหญิงสาวที่มาด้วย ติดธุระนิดหน่อยน่ะ

       ธุระที่ว่าหมายถึงผู้หญิงคนนั้นสินะ แน่ล่ะ แฟนนายสำคัญกว่านี่..

    อ่อ..อืม ไม่เป็นไร

     ขอบคุณนะพี่..” อย่าได้โปรดเถอะ.. “ผมขอตัวนะไม่ได้นะ! อย่าไป..

    พอร่างสูงเดินปลีกตัวกลับไปนั่งที่โต๊ะเดิมของตัวเองได้จินยองที่อึดอัดใจก็ลุกขึ้นก่อนจะวางเงินไว้บนโต๊ะและออกจากร้านไปในที่สุด

         ทำไมเราต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ..ทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจทุกตัวเองไปซะทุกอย่าง

     จะตัดใจก็ทำไม่ได้ พออยากจะคัดค้านไม่ให้เขาไปก็ทำไม่ได้ ทำไมตัวเราถึงได้อ่อนแอแบบนี้

     

     

     

     

       ร่างบางเดินเอื่อยๆ ตามถนนที่ทอดยาวไกลอย่างไม่รู้จุดหมาย ใบหน้าเหม่อลอยคิดถึงแต่เรื่องของคนที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้อย่างไม่รู้จักเบื่อ ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกจนกระทั่งวันนี้รอยยิ้มนั้นก็งดงามไม่เปลี่ยน แต่แค่มันไม่ใช่ของเขาเลยซักครั้งก็เท่านั้น เท่านั้นเอง..

     

    เธอไม่รับไม่รู้อะไร..ไม่เคยเอะใจบ้างเลยเหรอ
    เธอไม่รู้ไม่ชี้อะไร..ไม่เคยแปลกใจบ้างเลยเหรอ
    ใครมาคอยใส่ใจเธอทุกวัน ใครคอยเอาแต่ใจเธอทั้งวัน
    เจอทีไรก็ชวนคุย มีอะไรให้คุยกันทั้งวัน

     

       นายไม่เคยรู้อะไรเลยใช่ไหม..เวลาที่ฉันคอยเฝ้ามองนายทั้งตอนที่นายมาเป็นลูกค้า ตอนเรียนพิเศษหรือแม้กระทั่งตอนอยู่โรงเรียน


    เธอไม่รู้ไม่เห็นอะไร..ว่าใครห่วงใยบ้างเลยเหรอ
    เธอไม่ร้อนไม่หนาวอะไร..ไม่เคยอุ่นใจบ้างเลยเหรอ
    ทำยังไงก็ยังไม่รู้ตัว คนมีใจก็เลยต้องร้อนตัว
    ทำยังไงจะบอกเธอ ทำยังไงถ้าเธอไม่รู้ตัว

     

       ฉันอยากจะบอกความรู้สึกที่มีกับนาย แต่ทำยังไงล่ะ?


    จะแบกรักไว้อย่างไร จะแบกรักได้อีกเท่าไร
    อย่าทำร้ายกันอีกเลย อย่าทำร้ายกันอีกเลย โอ้ใจเอ๋ย...

     

       ฉันจะทนเก็บความรู้สึกนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกัน ในเมื่อทุกการกระทำและคำพูดของนายทำร้ายฉัน

     

       ความรักของเราคงมีได้แค่ในจินตนาการสินะ

       

     

      พอเดินมาถึงสวนสาธารณแห่งหนึ่งจินยองนั่งลงบนม้านั่งไม้แถวนั้นอย่างหมดแรง น้ำตาใสไหลรินลงมาจากขอบตาร้อนช้าๆ ร่างบางจึงใช้หลังมือเช็ดออกแค่น้ำตาเจ้ากรรมก็ยังคงไหลออกมาเรื่อยไม่ขาดสาย แสงอาทิตย์ร้อนที่ส่องร่างของเขาทำให้ร่างบางเขยิบหนีก่อนจะแหงนดูท้องฟ้าแจ้ง ทันใดนั้นเองแสงสว่างที่วูบเข้าตาไปเต็มๆ ทำให้สติที่อ่อนล้าบวกกับร่างกายที่อ่อนแรงเซล้มพับไปกับม้านั่งทันที

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “..อืม

    นี่คุณ!”

    “…”

    คุณครับ! คุณ!”

       เสียงรบกวนดังก้องอยู่ในโสตประสาทปลุกบุคคลที่กำลังหลับใหลให้ค่อยๆ ตื่นจากนิทรา จินยองปรือตามองคนที่กำลังเรียกเขาอยู่จากที่ภาพตอนแรกเบลอก็ชัดเจนขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าของหนุ่มแว่นผู้หลอเหลา แต่ประเด็นคือนี่ใคร - -?

    ค่อยยังชั่ว ฟื้นแล้วร่างสูงถอนหายใจและพึมพำกับตัวเองเบาๆ

    ที่นี่ที่ไหนแล้วคุณ..” จินยองถามขึ้นเมื่อมองไปยังบรรยากาศรอบๆ ที่เขาไม่รู้จัก

    คอนโดผมเอง ผมเจอคุณเป็นลมหน้าซีดอยู่หน้าสวนสาธารณะเลยพามานี่ อ่อแล้วก็ผมชื่อชินวูครับ ^^” ชายหนุ่มยิ้มตาหยีให้

    คุณเจอผมเป็นลมอยู่เลยพาเข้าคอนโดเนี่ยนะ?แต่เพราะมันแปลกๆ จินยองจึงถามออกไปอีกครั้ง

    แหะๆ โทษทีครับ ผมตกใจจนทำอะไรไม่ถูกจะทิ้งคุณให้เป็นลมอยู่แบบนั้นก็กระไรอยู่ แล้วคอนโดผมก็อยู่ไม่ไกลจากที่นั่นเท่าไหร่เลยพาคุณมา แต่ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลยนะ! ไว้ใจได้!!”

    ผมยังไม่ได้ว่าอะไรคุณสักหน่อย

    ก็คุณทำหน้าเหมือนโดนผมขมขืนอ่ะ -O-”

    บ้าดิ - -”

    ผมไม่ได้บ้าสักหน่อย~”

    ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผมไว้ พอดีผมไม่ทานข้าวเช้ามาเลยหมดแรงข้าวต้มจินยองพูดขอบคุณชายหนุ่มใจดีตรงหน้าที่ช่วยเขาไว้ นี่ถ้าเป็นคนอื่นคงจะไม่สนใจหรอก

    อ้อ อย่างนี้นี่เอง นอกจากจะไม่ได้กินข้าวมาแล้วคุณก็ยังร้องไห้ด้วยสินะ

    “..ก็..ครับชินวูที่เห็นจินยองดูเศร้าๆ ก็เปลี่ยนเรื่องคุย

    แล้วคุณชื่ออะไรล่ะ

    ผมชื่อจินยอง

    ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ^^”

    ครับ ^^”

    จริงสิ คุณยังไม่ได้ทานอะไรเลยนี่นา รอแป๊ปนะเดี๋ยวผมทำอะไรให้ทาน เมื่อเห็นอีกฝ่ายเตรียมจะลุกร่างบางจึงปฏิเสธด้วยความเกรงใจ

    เอ่อ..ไม่เป็นไรหรอกครับ

    เอาน่า คุณเป็นแขกของผมนี่ ชินวูยิ้มก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัวเหลือเพียงจินยองที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นคนเดียว

        ร่างบางมองดูรอบๆ ห้องที่ถูกตกแต่งด้วยโทนขาวดำสไตล์โมเดิร์นหรูหราอย่างลงตัว แสดงถึงฐานะของเจ้าของได้เป็นอย่าดี พร้อมด้วยรูปภาพงานศิลปะหลากหลายใส่กรอบสวยงามเรียงรายกันอย่างน่าดูชม

       ดูเหมือนคุณชินวูจะชอบศิลปะสินะ

    ขณะที่จินยองมองดูภาพงานศิลปะอย่างเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงกดกริ่งดังขึ้นมา ไอ้ครั้นจะไปเปิดประตูให้เองก็กลัวเสียมารยาทเพราะไม่ปรึกษาเจ้าของห้องก่อนจนกระทั่งชินวูโผล่หน้าออกมาจากห้องครัววานให้ไปเปิดประตูให้หน่อยร่างบางจึงลุกเดินไปเปิดประตู เมื่อประตูบานสวยถูกเปิดออกเผยให้เห็นผู้มาเยือนคนใหม่ที่ทำเอาร่างบางถึงกับเหวอ

       ก็ใครล่ะจะไปคิดว่าเป็นกงชาน!!!

     







     

     
    TBC...
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×