คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ( gongyung ) : REASON - PART 3
Part 3
‘...ฉันไม่สามารถรักใครได้อีก’
ประโยค ที่แสนเจ็บปวดนี้วกวนอยู่ในใจของร่าบางซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับกอเทปซ้ำไปซ้ำมา ไม่รู้จบ หลังจากที่กงชานลุกหนีไป เด็กผู้หญิงที่ชื่อนาริก็ล้มพับนั่งลงไปกับพื้นอย่างหมดแรง เขาเองก็เช่นกัน…
ดูเหมือนว่าความรักของเขาจะต้องจบลงแบบที่ยังไม่ได้เริ่มซะแล้ว…
“เป็น อะไรไปตั้งแต่ตอนกลับมาแล้วน่ะ” อาจองหันไปกระซิบกระซาบกับยูริเมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขานั่งเหม่อมองออกไป นอกร้านโดยไม่พูดอะไรสักคำตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียน แถมท่าทางดูเหมือนคนหมดหวังอย่างแรง
“นั่นน่ะสิ” ยูริเห็นด้วย
“ยูรินูน่าเป็นพี่ไม่ใช่เหรอ เข้าไปถามสิ!”
“ถ้าอยากรู้ก็เข้าไปถามเองเด้” ขณะที่สองสาวเถียงกันเรื่องใครจะเข้าไปถามจินยอง ดูเหมือนร่างบางเองก็จะรู้ตัวแล้ว
“..มีอะไรเหรอ”
“อะ อ๋อ~ ก็พวกเราเห็นนายเหม่อๆ ท่าทางจะไม่ค่อยดีน่ะ เป็นอะไรหรือปล่าว” แล้วก็เป็นยูริที่ออกปากพูด
“เปล่า ไม่มี..อะไรหรอก” จินยองไม่ยอมสบตากับคู่สนทนา และนั่นก็ทำให้ยูริละอาจองรู้ว่ามันจะต้องมีอะไรแน่ๆ !!
ยู รอถอนหายใจยาวก่อนจะค่อยๆ เดินมาจับหัวของจินยองและลูบเบาๆ เป็นเชิงปลอบใจ ยังไงซะจินยองเองก็เป็นน้องชายที่เธอรักแม้จะไม่ได้มสายเลือดเดียวกันก็เถอะ เห็นจินยองเป็นอย่างนี้เธอยิ่งไม่สบายใจไปด้วย
“แบบนี้น่ะ..ไม่ สมกับเป็นจินยองที่ฉันรู้จักเลยนะ จินยองที่ฉันรู้จักน่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ยิ้มสู้และคิดหาทางออกที่ดีได้เสมอ ไม่ใช่มัวแต่นั่งเหม่อท้อแท้ผิดหวังแล้วน้ำตาปริ่มๆ แบบนี้” ใช่..เธอเห็น จินยองกำลังจะร้องไห้
“…”
“ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่านายไปเจอเรื่องอะไรมา แต่ไม่ว่าจะเจอเรื่องร้ายแรงยังไงมันก็ต้องมีทางออก แต่มันอยู่ที่ว่า..นายจะหามันเจอหรือปล่าวก็เท่านั้น” ยูริบอกยิ้มๆ นั่นทำให้จินยองที่เงียบฟังยิ้มรับออกมาได้เช่นกัน
“ขอบคุณมากครับ ยูรินูน่า”
“อื้ม เช็ดน้ำตาซะ แล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ได้แล้ว ร้านเองก็ไม่ได้ว่างมากนะ มีออเดอร์ค้างอีกตั้งหลายออเดอร์ ไว้มาเคลียร์ด้วยล่ะคุณเจ้าของร้าน~”
“พี่จินยองก็สู้ๆ นะคะ! อาจองเป็นกำลังใจให้ ^^” อาจองยิ้มให้พี่ชายที่ลุกเตรียมจะไปอาบน้ำชำระร่างกายใหม่ทำจินยองยิ้มตอบและโยกหัวอาจองกลับไป
“อื้ม ขอบใจนะ ^^”
“โหย~ ไม่เคยเห็นพี่จินยองเป็นแบบนี้เลยแฮะ” อาจองพูดขึ้นหลังจากที่จินยองขึ้นชั้นสองไปแล้ว
“นั่นสินะ ใครกันช่างทำร้ายยองกี้น้อยได้ลงคอ”
“ทำไมนายจะต้องมานอนค้างบ้านฉันด้วยไม่ทราบ -_-” บาโรยืนพิงประตูบ้านมองแขกผู้มาใหม่ด้วยสายตากวนๆ
“ไม่มีอยู่บ้านเลยฉันกลัวที่จะอยู่คนเดียว จบป่ะ” ซานดึลตอบพร้อมยักคิ้วใส่คนหน้าหล่อ
“อะไรกัน ยังแก้ไม่หายอีกเหรอไอ้โรคไม่ชอบอยู่คนเดียวของนายน่ะ”
“คงงั้นมั้ง” ซานดึลว่าก่อนจะเดินถอสัมภาระเบียดคนที่เต๊ะท่าเท่ห์เข้าไปในบ้าน
“เป็น ตั้งแต่เด็ก พอไม่มีใครอยู่บ้านก็มาอาศัยบ้านฉันประจำ เหอะ” บาโรเดินผ่านซานดึลเข้าไปดื่มน้ำในครัวแต่แล้วก็ต้องสติไม่อยู่กับเนื้อกับ ตัวรินน้ำหกเมื่ออีกฝ่ายพูดประโยคนี้ออกมา
“ก็อยู่กับนายแล้วมันไม่เหงานี่นา” ไม่รู้สิ แค่ประโยคธรรมดาๆ ที่คนพูดไม่ได้คิดอะไร แต่ทำไมคนฟังอย่างเขา..ถึงได้คิดลึกไปเองอยู่เรื่อยนะ
“ฮ่าๆ อย่างนั้นเหรอ น่ารักจริงๆ เลยน้า~”
“ซานดึล อย่าสงเสียงดังจะได้มั้ย ฉันเล่นเกมอยู่นะ -*-”
“คร้าบบบ~ ได้สิครับ ไปที่ไหนกันดีล่ะ” ร่างสูงชักจะอารมณ์เสียเมื่อร่างบางที่นั่งคุยโทรศัพท์กับแฟนไม่ยอมฟังที่เขาพูดบ้างเลย
“ฮิๆ เค้าก็รักตัวเองเหมือนกันล่ะนะ >_<”
“-_-^”
“บ้า~ พูดอะไรน่ะ เค้าเขินนะ!”
“- -^^”
“อะไรกัน~ ไม่เชื่อเค้าเหรอ~”
“ซานดึลโว้ยยยยยยย!!!” เส้นความอดทนขาดผึง! บาโรวีนเข้าแล้ว!!
“นี่นาย! หัดมีมารยาทหน่อยเด้!!” แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมเช่นกัน ซาดึลปิดหูโทรศัพท์แล้วหันมาโวยวายใส่บาโรทันที
“ฉันหนวกหู! ถ้าจะคุยกันก็ไปที่อื่นดิ นี่มันบ้านฉันนะ!!”
“บ้านนายแล้วไง สะกดคำว่ามารยาทไม่เป็นหรือไง ความจริงนายอิจฉาฉันล่ะสิที่ฉันมีแฟนแต่นายไม่มี ใช่มั้ยล่ะ!!” เมื่อซานดึลยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเขาเองก็อดอารมณ์เสียขึ้นไปอีกไม่ได้ ทำไมหมอนี่ถึงต้องคิดว่าเขาอิจฉาเรื่องนี้ด้วยนะ!
“ฉันไม่ได้อิจฉา! ทำไมฉันจะต้องไปอิจฉานายด้วยวะ!!” ดูเหมือนเรื่อมันจะยาว ซานดึลจึงตัดสิยใจวางสายแฟนตัวเอง แล้วมาหาเรื่องกับเพื่อนอย่างบาโรต่อ
“ถ้านายไม่ได้อิจฉาฉันก็คงจะต้องตกหลุมรักฮาร่าไม่งั้นนายคงไม่หาเรื่องทุกครั้งที่ฉันพูดถึงฮาร่าหรอก!!” ใช่! หลาย วันมานี้บาโรดูแปลกไป เวลาที่เขาพูดถึงแฟนสาวบาโรก็จะขัดตลอด หรือไม่ก็คอยเปลี่ยนเรื่องอยู่เรื่อย ถ้าไม่คิดว่าบาโรอิจฉาที่เขามีแฟนหรือตกหลุมรักฮาร่าแล้วจะให้คิดไปว่ายังไง!
“ไปใหญ่แล้วนายน่ะ ไม่ได้ชอบยัยนั่นสักหน่อย!”
“แล้วทำไมนายต้องขัดเรื่องฮาร่าทุกครั้งด้วย!” เจอคำถามนี้เข้าไปทำเอาร่างสูงถึงกับสะอึก นั่นสิทำไมกัน? ขนาดเขาเองก็ยังไม่รู้เลยว่าทำไม
“ฉะ ฉันก็แค่…”
“ก็แค่อะไร”
“ก็แค่อิจฉาที่นายมีแฟนสวย” ยอมโกหกไปก่อนก็ได้…
“นั่นไงว่าแล้ว!!” ซาน ดึลเดินมาตบไหล่เขาเบาๆ “ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากทะเลาะกับนายหรอกนะ แล้วพอฟังเหตุผลของนายมันก็ทำให้ฉันเสียใจจริงๆ ที่หาแฟนได้สวยจนนายอิจฉา น่าสงสารจัง…” พูดก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้บาโรยืนนิ่งไปกับคำพูดนั้น
ไอ้… =_____________=;;
“อย่าดิ้นจะได้มั้ย!” เสียงของบาโรแหวกอากาศมาท่ามกลางความมืดมิดในห้องนอนของเขาที่มีเจ้าซานดึลตัวแสบพ่วงมานอนด้วย และพวกเขาก็นอนเตียงเดียวกัน
“ก็มันนอนไม่หลับอ้ะ” ซานดึลแก้ตัวก่อนจะพลิกตัวซ้ายขวาปา
“เรื่องของนาย ฉันง่วงแล้วเพราะฉะนั้นนายก็กรุณานอนดีๆ ด้วย”
“ก็บอกแล้วว่านอนไม่หลับ :( ”
“นอน ไปเดี๋ยวก็หลับเองแหละน่า นับแกะไปก็ได้เหมือนที่นายชอบทำตอนเด็กๆ ไง” ร่างสูงพูดพร้อมนึกไปถึงตอนที่พวกเขายังเป็นเด็กไม่รู้ประสา ซานดึลเองก็ชอบมานอนค้างบ้านเขาบ่อยๆ พอนอนไม่หลับก็จะหลับตานิ่งแล้วจินตนาการภาพแกะกระโดดข้ามรั้วของทุ่งหญ้า กว้างสีเขียวขจี นั่นแหละวิธีนับแกะของพวกเขา
“แล้ว ทุกครั้งมันได้ผลมั้ยล่ะ” ซานดึลย้อนกลับ ตอนเด็กๆ ทุกครั้งที่นอนไม่หลับเขาก็พยายามนับแกะตามที่บาโรบอกนะ แต่ผลที่ออกมาคือเขาตาสว่างยิ่งกว่าเดิมอีกเนี่ยสิ = =
“อ้าวเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ!” ซานดึลตอบกลับไปแล้วนึกได้ถึงวิธีการอีกวิธีที่ทำให้เขานอนหลับลงได้..แบบที่บาโรชอบทำตอนเด็กๆ “..จะว่าไปก็มีอีกวิธีนึงนะที่นายชอบทำตอนเด็กๆ เวลาฉันนอนไม่หลับน่ะ”
“…?”
“กอดฉันไง”
“O_O!!”
“จำไม่ได้เหรอ” ซานดึลหันหน้าไปถามอีกคนที่ทำตาโตยิ่งกว่าเจอผีเมื่อเขาพูดเรื่องนี้ แหม~ ตอนนี้ทำมาเป็นตกใจ ทีตอนเด็กๆ ล่ะนอนกอดกันออกบ่อย - -
“จะ จำไม่ยักได้แฮะ ^__^;;” แก้ตัวน้ำขุ่นๆ อีกแล้วสิเรา…
“นายกอดฉันหน่อยสิ ฉันจะได้หลับ” เมื่ออีกคนพูดมาแบบนี้ทำเอาบาโรถึงกับลอบกลืนน้ำลาย ตอนนี้กับตอนนั้นน่ะมันไม่เหมือนกันสักหน่อย >0<!!!
“เอาจริงอ่ะ?”
“จริงสิ ทำไมอ่ะ?” ร่างบางถาม
“ปะ ปล่าวๆ” บาโรพูดก่อนจะค่อยๆ จับตัวคนข้างกายเข้ามาให้อ้อมกอด ก่อนจะให้สองมือโอบร่างบางให้นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ซานดึลเองพอเห็นแบบนี้แล้วกลับเป็นฝ่ายพูดอะไรไม่ออก ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนบอกให้บาโรกอดแท้ๆ
ท่าม กลางความมืดมิดในห้องมีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องมาจากหน้าต่างเท่านั้นที่ เป็นตัวให้แสงสว่าง สองร่างที่นอนกอดกันแนบชิดสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่แปลกไปแบบที่ต่างคนก็ไม่ รู้ว่ามันคืออะไร ร่างบางที่นอนนิ่งซุกอยู่กับหน้าอกกว้างของร่างสูงก็ได้แต่หลับตาปี๋ไม่กล้า ลืมตาดูว่าอีกฝ่ายหลับหรือยัง บาโรเมื่อเห็นคนหน้าหวานไม่ยอมพูดยอมจาเอาแต่ก้มหน้านิ่งก็ยิ้มบางๆ โดยไม่รู้ตัว ร่างสูงที่ตอนแรกบ่นว่าง่วงกลับไม่ยอมหลับเมื่อได้มองคนในอ้อมกอดใกล้ๆ จิตใจที่สงบในตอนแรกก็กระเจิดกระเจิงไปไกลเมื่อเห็นแก้มนวลใสของฝ่ายตรงข้าม ขึ้นสีนิดๆ โอ้พระเจ้า…ที่ท่านเสกมนต์อะไรใส่ผมหรือปล่าวเนี่ย ทำไมผมถึงรู้สึกว่าตัวเองในตอนนี้ดูแปลกไปแบบสุดๆ กันนะ T^T
“..อือ” เสียงครางในลำคอของร่างเล็กเป็นตัวบอกว่าคนนอนไม่หลับได้เข้าสู่ห้วงนิทรา เรียบร้อยแล้ว เห็นดังนั้นร่างสูงจึงสะบัดหัวตัวเองขับไล่ความรู้สึกแปลกๆ ที่รุมเร้าแล้วพยายามข่มตาหลับ ไม่นานนักก็ได้ผลเมื่อร่างสูงผล็อยหลับไปกับร่างบาง แต่มีสิ่งนึงที่แม้ว่าพวกเขาสองคนจะหลับมันก็ไม่หลับไปด้วย นั่นคือเสียงหัวใจของทั้งสองที่เต้นสอดประสานกันเป็นจังหวะเดียวกันนั่นเอง…
ความคิดเห็น