คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : SF : Two hearts (ดูซอบ)
Two hearts
story by มาดามซีพียู / couple : dooseob / date : - - -
ชีวิตวัยรุ่นวัยเรียนอย่างพวกเราจะมีอะไรมากมายล่ะ ตื่นแต่เช้าไปโรงเรียนเพื่อไปลอกการบ้าน จับกลุ่มนินทาคนนู้นคนนี้ ตอนกลางวันก็พักกินข้าว พอตกบ่ายก็หลับเป็นตายในห้องเรียนหรือไม่ก็แอบอ่านหนังสือการ์ตูน ตอนเย็นกลับบ้านไปเล่นเกม อาบน้ำ นอน ชีวิตผมเองก็เป็นแบบนั้นมาหลายปีแล้วล่ะ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับนักเรียน ม.ปลายปีที่ 2 อย่าง ‘ ยังโยซอบ ’ คนนี้ ที่ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง...วันที่เปลี่ยนชีวิตอันแสนเงียบเหงาของผมให้มีสีสันเลยก็ว่าได้ ว่าที่ได้พบกับ ‘ หัวใจอีกดวง ’ ที่ฝันหามานาน...
“คุณยายมาคนเดียวเหรอฮะ” ร่างเล็กถามหญิงชราท่าทางน่าสงสารคนหนึ่งซึ่งกำลังจะข้ามถนน
“ใช่จ้ะพ่อหนุ่ม” หญิงชราคนนั้นตอบด้วยรอยยิ้ม
“คุณยายจะข้ามถนนใช่มั้ยฮะ เดี๋ยวซอบช่วยนะฮะ”
“โอ้ ขอบใจมากนะจ๊ะ เธอชั่งเป็นคนดีจริงๆ” ยายหลานต่างสายเลือดยิ้มให้กันก่อนจะพากันข้ามถนน ในจังหวะที่ข้ามมาอีกฝั่งได้แล้วนั้นเองก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อชายฉกรรจ์ร่างยักษ์วิ่งมากระชากกระเป๋าผ้าที่คุณยายถือมากับตัว ก่อนจะวิ่งหนีไป
“ช่วยด้วย!! โจรขโมยกระเป๋า!” โยซอบร้องตะโกนเสียงดังด้วยความร้อนรน ส่วนคุณยายผู้เคราะห์ร้ายคนนั้นก็ร้องห่มร้องไห้อย่างหนัก เพราะในกระเป๋าใบนั้นมีเงินจำนวนหนึ่งซึ่งเป็นค่ารักษาพยาบาลของคุณตาที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เมื่อได้ฟังดังนั้นร่างเล็กถึงกลับน้ำตาคลอและปล่อยโฮร้องไห้เป็นเพื่อนคุณยายไปด้วย สิบนาทีผ่านไป ยายหลานก็ยังคงไม่หยุดร้องไห้ จนกระทั่งมีเงาของชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา
“นี่..ของคุณยายหรือปล่าวครับ” เสียงแหบพร่าแต่มีเสน่ห์ดังขั้น ทำให้ร่างเล็กที่ง้มหน้าร้องไห้เงยหน้าขึ้นไปมองและได้พบกับชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งที่ยื่นกระเป๋าผ้าของคุณยายมาให้ บนใบหน้าชายหนุ่มคนนั้นมีร่องรอยของการต่อสู้ที่เป็นแผลและเลือดสดๆ หลายแห่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหล่อของเขาลดลงเลยแม้แต่น้อย
“พ่อหนุ่มเป็นคนจับโจรนั่นเหรอจ๊ะ”
“ก็ไม่เชิงหรอกครับ จะจับส่งตำรวจแต่มันดันหนีไปซะก่อน”
“ขอบใจมากนะจ๊ะ ขอบใจมากจริงๆ” หญิงชราบอกขอบคุณด้วยน้ำตา
“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ให้ ก่อนจะเดินจากไป เหลือเพียงคุณยายที่กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้งกับคนน่ารักที่บัดนี้มองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไปอย่างเหม่อลอยราวกับต้องมนต์สะกด
นั่นเป็นเรื่องราวที่เกิดขั้นเมื่อเดือนก่อนตอนที่ผมกำลังจะกลับบ้าน คนที่ช่วยคุณยายไว้ก็คือ ‘ ยูนดูจุน ’ ที่ผมมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นรุ่นพี่สุดฮ็อตที่โรงเรียน ทำเอาหัวใจดวงน้อยของผมเต้นไม่เป็นจังหวะ และมันก็มักจะเต้นแรงและเร็วเสมอตอนที่ผม(จงใจ)เดินผ่านพี่เขา
ทุกเย็นพี่ดูจุนจะอยู่ซ้อมบาสที่โรงเรียนและนั่นก็เป็นโอกาสดีของพวกผู้หญิงที่จะได้อยู่ใกล้ชิดติดขอบสนามเพื่อคอยเชียร์พี่ดูจุน รวมถึงผมเองด้วยที่จะอยู่รอดูจนกว่าพี่เขาจะซ้อมบาสเสร็จ แต่ผมไม่ได้ยืนชิดติดขอบสนามอะไรหรอกนะ ผมยืนดูอยู่บริเวณต้นเสาต้นใหญ่ที่ห่างจากสนามบาสไม่มากนัก และมั่นใจว่าเสาต้นนี้จะบังตัวผมมิดชนิดที่ว่าถ้าไม่มีใครสังเกตก็คงจะไม่เห็นว่ามีจิ้งจกผมบลอนซ์แบบผมสถิตอยู่หลังเสา = =
วันนี้พี่เขาซ้อมหนักอีกเช่นเคย เป็นเพราะว่าเดือนหน้าทีมของเขาต้องไปแข่งกับอีกโรงเรียนที่ขึ้นชื่อเรื่องของความเก่งกาจเลยต้องขยันซ้อมให้หนักและเลิกมืดค่ำแทบจะทุกวัน ดูอย่างวันนี้ก็ปาเข้าไปเกือบสามทุ่มแล้ว ทำเอาคนดูหนีหายไปกันหมด เหลือเพียงนักบาสและผมที่แอบดูอยู่ห่างๆ เท่านั้น
“วันนี้พอแค่นี้ก่อน” พี่ดูจุนหันไปพูดกับพี่จุนฮยองและคนอื่นๆ ในทีมให้เลิกซ้อมก่อนที่ตัวเองจะเดินไปนั่งม้านั่งยาวของสนามและหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นมาเช็ดหน้า
“ลุง แกมีน้ำเหลือบ้างหรือปล่าววะ คอแห้งชิบ” พี่จุนฮยองถามพี่ดูจุนถึงน้ำ และได้รับคำตอบมาเป็นการส่ายหัว ทำเอาพี่จุนฮยองถึงกลับหน้าบูด
“ฉันก็หิวเหมือนกันแหละน่า” พี่ดูจุนแก้ตัว
“เออๆ กลับไปกินที่บ้านก็ได้วะ ไปแล้วนะลุง เจอกันพรุ่งนี้” พี่จุนฮยองบอกลาและทยอยกลับไปเหมือนคนอื่นๆ ที่สนามแห่งนี้จึงเหลือแค่พี่ดูจุนคนเดียว
เพราะการซ้อมหนักทำให้น้ำที่เตรียมมาหมดทุกครั้งหลังซ้อมเสร็จ และน้ำของพี่ดูจุนก็หมดด้วยเช่นกัน ผมมองขวดน้ำปล่าวที่ตัวเองถือมาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจเพราะไม่กล้าเอาไปให้พี่เขา มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยสินะ แต่ครั้งนี้...ผมควรจะฮึดสู้ขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ!!
ผมค่อยๆ ก้าวขาเดินไปหาพี่ดูจุนทีละก้าวๆ ซึ่งมันเหมือนคนโรคจิตเป็นบ้า -_- แต่ละก้าวที่เริ่มเข้าไปใกล้พี่ดูจุนนั้นทำเอาผมหายใจแทบไม่ออก มันตื่นเต้นสุดๆ ไปเลยล่ะ และแล้วผมก็เดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหลังพี่เค้าจนได้ เพียงพี่เขาแต่ยังไม่รู้ตัวเท่านั้น
“เอ่อ..พะ พี พี่ดูจุนฮะ” เสียงเรียกติดๆ ขัดๆ นั้นทำให้พี่ดูจุนเห็นมาหาผม นี่เป็นครั้งแรกนับจากตอนที่ช่วยคุณยายเลยนะที่ผมได้อยู่ใกล้พี่ดูจุนขนาดนี้ “เอ่อ..นะ น้ำฮะ” อ้าปากพูดด้วยความตื่นเต้นอีกรอบก่อนจะยื่นขวดน้ำให้ พี่ดูจุนมองหน้าผมก่อนจะรับขวดน้ำไป
“ขอบใจ” เขาพูดสั้นๆ แต่แค่นั้นมันก็ทำเอาผมตัวลอยไปเลยทีเดียว...
คุณอาจจะหาว่าผมบ้าก็ได้นะ แต่นับจากวันนั้นเป็นต้นมาผมก็ทำเหมือนเดิมคืนการแอบดูพี่ดูจุนซ้อมจนกว่าจะเสร็จจนคนกลับกันไปหมด ถึงค่อยเผยตัวโดยการเอาน้ำดื่มไปให้พี่ดูจุน และเขาก็จะตอบกลับมาว่า ‘ ขอบใจ ’ จากนั้นผมก็จะวิ่งออกมาจากสนามบาสด้วยความเขิน...มันเป็นแบบนี้มาสองอาทิตย์แล้วล่ะ แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว เพียงพอสำหรับเป็นอาหารล่อเลี้ยงหัวใจให้คน ‘ แอบรัก ’ อย่างผมได้ใช้ชีวิตอยู่ได้ในแต่ละวัน มันเพียงพอแล้วจริงๆ...
โชคร้ายที่วันนี้ผมโดนอาจารย์ใช้ให้อยู่ทำความสะอาดตึกจนมืดค่ำ เลยไม่ได้ไปดูพี่ดูจุนซ้อมบาสเลย ไม่รู้ว่าพี่เขาจะกลับไปแล้วหรือยัง ผมถือขวดน้ำปล่าวที่จะเป็นประจำหลังเลิกเรียนเพื่อจะเอาไปให้พี่ดูจุนเหมือนทุกๆ วันไว้แน่น ก่อนจะเดินไปทางสนามบาสที่คุ้นเคย
ไฟสปอร์ตไลท์ที่เปิดอยู่พอจะทำให้ผมรู้ว่าพี่เขายังไม่กลับ เห็นดังนั้นผมจึงเดินไปแอบที่หลังเสาต้นเดิมและมองไปยังในสนาม...แต่นั่นเป็นความคิดที่ผิดสำหรับวันนี้ เพราะตอนนี้ในสนามที่น่าจะเหลือพี่ดูจุนเพียงคนเดียวดังเช่นทุกๆ วันกลับมีผู้หญิงหน้าตาสะสวยคนหนึ่งคล้องแขนนั่งคุยกะหนุงกะหนิงกับพี่ดูจุนอย่างสนิทสนม เสียงหัวเราะของเธอดังก้องไปทั่วสนาม รอยยิ้มน่ารักของเธอเข้ากันได้ดีกับพี่ดูจุนที่ยิ้มตามไปด้วย..ใช่ พี่ดูจุนยิ้ม ทั้งๆ ที่ปกติพี่เขาแทบจะไม่ยิ้มเลยด้วยซ้ำ แต่เขากลับยิ้มเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิงคนนี้...
ผมมองขวดน้ำในมืออีกครั้ง บางทีวันนี้พี่เขาอาจจะไม่ต้องการน้ำขวดนี้อีกแล้วก็ได้ แต่ในเมื่อตั้งใจจะเอามาให้แล้ว ก็ต้องให้พี่เขาให้ได้สินะ คิดได้ดังนั้นผมจึงเดินไปหยุดอยู่ที่ด้านหลังของเขาอย่างเช่นเคย ก่อยจะเอ่ยประโยคเดิมๆ ที่เขามักจะตอบกลับด้วยคำเดิมๆ และน้ำเสียงเดิมๆ น้ำเสียงที่เย็นชา...
“พี่ดูจุน น้ำฮะ” ผมก้มหน้าแล้วยื่นขวดน้ำให้ พยายามอย่างยิ่งที่จะเก็บกลั้นความน้อยใจและน้ำตาเอาไว้
“..ขอบใจ” สิ้นเสียงของเขาผมก็วิ่งหนีไปอย่างทุกที แต่ต่างกันที่ว่าครั้งนี้ผมวิ่งหนีไปด้วยน้ำตา..ไม่ใช่รอยยิ้ม
“ดูจุน เด็กคนนั้น..” ฮยอนอาหันมาถามเพื่อนสนิท แต่ดูจุนกลับเงียบ “เด็กคนนั้นร้องไห้” เธอจึงพูดสิ่งที่เห็นเมื่อกี้ให้ดูจุนฟัง และดูเหมือนชายหนุ่มเองก็รู้
“คนนี้ใช่หรือปล่าวที่จุนฮยองเล่าให้ฟังว่านายชอบมองบ่อยๆ น่ะ” ฮยอนอาพูดเป็นเชิงล้อเลียน ก็แหม ดูจุนผู้เย็นชาไม่สนใจใครหน้าไหน แต่กลับชอบมองหนุ่มน้อยน่ารักผมบลอนซ์แบบที่ไม่ใช้เจ้าตัวรู้ตัวอย่างนี้ไม่ล้อก็เสียดายแย่ และแน่นอน เธอเดาได้เลยว่าดูจุนคิดอะไรอยู่
“ไม่ไปดูน้องเขาหน่อยเหรอ วิ่งไปที่มืดๆ กลางค่ำกลางคืนแบบนี้มันอันตรายนะ”
“ฮึกฮือ~” เสียงร้องไห้ที่ดังก้องไปทั่วสวนของโรงเรียนทำให้บรรยากาศดูวังเวงมากขึ้นเป็นเท่าตัว แต่โยซอบไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแม้แต่น้อย ร่างบางปล่อยโฮโดยไม่สนใจบรรยากาศสักนิด มีแต่ความน้อยใจและความเสียใจเท่านั้นที่เขารู้สึกได้
เขามันโง่เองที่รักดูจุนมากไป รักมากก็ต้องเจ็บมาก ทั้งๆ ที่รู้ว่าดูจุนไม่รักเขาแต่เขาก็ยังพยายามต่อไป เขานี่มันโง่จริงๆ “ฮึก ซอบไม่รักแล้ว ไม่รักพี่ดูจุนแล้ว ฮือๆ” ร่างเล็กพูดประโยคนั้นซ้ำๆ ไปมาหลายครั้ง ทำเอาคนที่แอบฟังมานานทนไม่ได้ เขาไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมโยซอบถึงได้ร้องห่มร้องไห้หนักขนาดนี้ และเขาเองก็ทนฟังคำพูดที่โยซอบบอกว่าไม่รักเขาแล้วไม่ได้จริงๆ ทนไม่ได้แล้ว...
“ร้องไห้ทำไม” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยทำให้ร่างบางถึงกลับตกใจ โยซอบเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ได้แต่อ้าปากค้าง ใครจะคิดล่ะว่าอีตาพี่ดูจุนจะตามเขามา!
“ฉันถามว่าร้องไห้ทำไม” คำถามดุๆ นั่นทำเอาคนที่ถามอยากจะตบปากตัวเองให้รู้แล้วรู้รอด ก็เขาไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเสียงใส่โยซอบสักหน่อยนีนา แถมเมื่อได้ฟังอย่างนั้น ร่าเล็กเองก็ร้องไห้หนักกว่าเดิมอีกด้วย
“ฮึก ฮือออ เรื่องของซอบ พี่ดูจุนไปไกลๆ เลย!” ยิ่งโยซอบร้องไห้งอแงยิ่งทำให้หัวใจของดูจุนกระตุกวูบด้วยความกลัว กลัวว่าโยซอบจะเกลียดเขา
“จะให้พี่ไปไกลๆ ก็ต้องบอกก่อนว่าเราร้องไห้ทำไม” ดูจุนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มน่าฟัง พร้อมกับก้มตัวเอามือไปแตะแก้มของร่างบางที่นั่งกอดเข่าอยู่ เห็นดังนั้นโยซอบจึงตกใจกับท่าทีที่แปลกไปของชายหนุ่มและเปลี่ยนมาเป็นเขินอายแทน ก็ดูสิ พี่ดูจุนทำอย่างกับปลอบเด็กๆ อย่างนั้นแหละ
“มันไม่เกี่ยวกับพี่ดูจุนหรอก”
“พี่ว่ามันต้องเกี่ยว”
“มันไม่เกี่ยว!”
“เกี่ยวสิ”
“พี่จะมายุ่งกับซอบทำไม กลับไปดูแลแฟนพี่สิ!!” โยซอบพูดออกไปด้วยความน้อยใจ พอกันทีกับความอายบ้าๆ บอๆ เขาจะพูดสิ่งที่คิดออกไปให้หมดเลย!! “พี่ดูจุนจะมาสนใจทำไมในเมื่อพี่ไม่เคยสนใจใครอยู่แล้ว พี่จะมาสนใจใยดีคนที่แอบรักพี่ข้างเดียว พยายามข้างเดียว แล้วเจ็บข้างเดียวอย่างซอบทำไม!!!” พอร่างบางพูดจบดูจุนก็ถึงกลับเงียบ นี่เขา..ทำร้ายคนตัวเล็กขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เพราะความอาย และความไม่กล้าบอกว่ารักของเขาแท้ๆ ที่ทำให้โยซอบต้องเหนื่อย ต้องพยายามขนาดนี้..
“กลับไปเป็นพี่คนเดิม คนที่เย็นชาอย่างเดิมเถอะ ไม่ต้องมาปลอบใจผมเพราะสงสาร..อุบ!!” ยังไม่ทันทีที่โยซอบจะพูดจบ ดูจุนก็จัดการช่วงชิงริมฝีปากหอมนั่นมาครอบครองทันที ลิ้นยาวตวัดไปมาอย่างดุเดือนเพื่อให้ร่างเล็กยอมเปิดทางให้เขาได้ลิ้มลองความหวาน แล้วมันก็สำเร็จ โยซอบที่ถูกจูบอย่างดุเดือดแทบไม่มีแรงอีกต่อไป ร่างเล็กทรุดลงในอ้อมแขนอุ่นนั่นก่อนจะให้อีกคนได้ลิ้มลองความหวานจนกว่าจะพอใจ...
“ฮยอนอาไม่ได้เป็นแฟนพี่ เราเป็นเพื่อนกัน” ดูจุนถอนริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะบอกความจริงให้ร่างเล็กรู้
“แต่พี่กับเขาดูสนิทสนมกันมาก..” โยซอบเองก็ยังไม่ปีกใจเชื่อ เพราะภาพที่ร่างบางเห็นนั้นดูยังไงก็เกินเพื่อนชัดๆ
“เธอเป็นเพื่อนสนิทของพี่ เรารู้จักกันมาตั้งสามขวบแล้ว ไม่แปลกหรอกที่พี่กับเธอจะสนินกัน”
“แต่พี่ยิ้มให้เธอ ทั้งๆ ที่พี่เย็นชากับทุกคน รวมทั้งผมด้วย” โยซอบทำท่าจะร้องให้อีกครั้ง ทำเอาดูจุนถึงกับยิ้มน้อยๆ ให้กับความขี้แยของเด็กคนนี้
“มันเป็นความผิดของพี่เอง ผิดที่พี่ไม่ยอมบอกรักเด็กขี้แยคนนึงตั้งแต่แรก” ดูจุนเว้นวรรค “ผิดที่อายเลยทำตัวเย็นชาใส่ทั้งๆ ที่หัวใจอยากจะจับมากอดให้หายใจไม่ออกไปเลยด้วยซ้ำ ผิดที่ทุกวันได้แต่พูดคำว่า ‘ ขอบใจ ’ ทั้งๆ ที่อยากพูดมากกว่านี้ ผิดที่ทำให้โยซอบร้องไห้ พี่ผิดไปแล้วจริงๆ” ร่างสูงพูดจบ ทำเอาร่างบางถึงกลับหายใจไม่ออก หรือว่า...หรือว่าเขากับพี่ดูจุนจะใจตรงกันตั้งแต่แรก?
“พี่ดูจุนหมายถึงซอบหรือปล่าวฮะ” ร่างบางถามอย่างไม่แน่ใจ
“ถ้าไม่ใช่เราแล้วจะหมายถึงใคร” ดูจุนหัวเราะน้อยๆ ก่อนที่โยซอบจะเอามือปิดปากตัวเองด้วยความตกใจ ฝันของเขาเป็นจริงแล้ว!!!
“ละ..แล้ว พี่ดูจุนรักซอบตั้งแต่ตอนไหนเหรอฮะ” ร่างบางเอียงคอถามอย่างสงสัย ก็เขาอยากรู้นี่นา ว่าเขากับดูจุนใจตรงกันตอนไหน
“ตั้งแต่ตอนที่เห็นเราพาคุณยายข้ามถนนนั่นแหละ”
“หา!! จริงเหรอฮะ 0.0”
“ก็จริงน่ะสิ พี่ถึงได้ไปช่วยจับขโมยให้ไง” งะ..งั้นก็แสดงว่าพี่ดูจุนรักเขาก่อนที่เขาจะรักพี่ดูจุนอีกเหรอเนี่ย!? “แล้วพี่ก็เห็นนะว่าซอบแอบดูพี่ซ้อมอยู่หลังเสานั่นทุกวัน พี่ถึงได้กลับบ้านเป็นคนสุดท้ายไงล่ะ”
“=[]=”
“ต่อไปนี้ไม่ต้องคอยแอบอยู่ที่ไกลๆ อีกแล้วรู้มั้ย มานั่งดูกลางสนามเลยก็ได้”
“ถ้าซอบนั่งดูกลางสนาม มันก็เกะกะพวกพี่น่ะสิฮะ เดี๋ยวพี่จุนฮยองจะว่าเอา” โยซอบพูดติดตลก แต่คำตอบของดูจุนทำเอาร่างบางถึงกับอ้าปากค้าง
“ลองกล้าว่า ‘ซอบของพี่’ ดูสิ พี่จะต่อยมัน!!”
“=[]=!!”
ความคิดเห็น