14th JULY คำสาปร้าย ล็อคหัวใจ...ให้มีรัก! - นิยาย 14th JULY คำสาปร้าย ล็อคหัวใจ...ให้มีรัก! : Dek-D.com - Writer
×

    14th JULY คำสาปร้าย ล็อคหัวใจ...ให้มีรัก!

    พีค..ชายหนุ่มธรรมดาที่ชีวิตพลิกผัน! เมื่อเขาอายุ 15 ร่างกายของเขากลับเปลี่ยนเป็นเพศหญิง! เขา..สูญเสียคนรักในวันเกิด เขา..หลงรักผู้หญิงต้องห้าม และเขา..ทำร้ายจิตใจผู้หญิงที่รักเขา ..อย่างไร้หัวใจ!

    ผู้เข้าชมรวม

    4,160

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    23

    ผู้เข้าชมรวม


    4.16K

    ความคิดเห็น


    82

    คนติดตาม


    9
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  10 ก.ค. 53 / 15:14 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ..ความรักไม่อาจบังคับได้..
    หากแต่เมื่อรักไปแล้ว ก็ยากที่จะถอนใจ

    แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเมื่อไหร่..ที่
    หัวใจมีรัก?
    แล้วเราจะรู้ไหม ว่าใคร..คือ
    รักแท้?

    มาร่วมพิสูจน์และตามหารักแท้กันเต๊อะ!


    (เกริ่นเรื่องได้คนละแนวกับโทนเรื่องมาก - - นี่มันนิยายแฟนตาซี ญ รัก ญ เอ้ย! ช รัก ญ!!! มิกซ์ๆ กับรักหวานแหวว หรือ แอบแต๋วเเตก แหวกอาณาจักร รักคุด สุดแซ้ดดด สี่เส้า ห้าเส้า เคล้าเสียงหัวเราะ เอ่อะ..พอเถอะ เนอะ ^^;;;)
    อยากรู้ก็..
    ไปอ่านกันเลยเน้อออออออ!


    แบนเนอร์
    (รับแลกตลอดคับผม!!)
    14th JULY คำสาปร้าย ล็อคหัวใจ..หัวมีรัก!


    thanks
    banner
    เข้ามาๆ


     

     



    2.50 am.
    09-06-2010




    K a e

    14th JULY คำสาปร้าย ล็อคหัวใจ..ให้มีรัก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "บทวิจารณ์ Ai-wa Ai-shi- te-ru! คำสาปรักทักหัวใจนายตัวร้าย"

    (แจ้งลบ)

    นิยายรักหวานแหววของ kyomu เรื่อง Ai-wa Ai-shi-te-ru! คำสาปรักทักหัวใจนายตัวร้าย ในขณะนี้ เพิ่งโพสต์ถึงตอนที่ 10 แต่เนื้อเรื่องจริงๆ เพิ่งจะถึงตอนที่ 7 เท่านั้น เรื่องนี้นับเป็นนิยายที่เกริ่นเรื่องด้วยบทนำได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม เนื่องจากผู้เขียนเปิดเรื่องด้วยเรื่องราวของ คาเรีย ชายผู้รักมั่นในเฟียร์น่า หญิงสาวอันเป็นที่รักเพียงคนเดียวเท่านั ... อ่านเพิ่มเติม

    นิยายรักหวานแหววของ kyomu เรื่อง Ai-wa Ai-shi-te-ru! คำสาปรักทักหัวใจนายตัวร้าย ในขณะนี้ เพิ่งโพสต์ถึงตอนที่ 10 แต่เนื้อเรื่องจริงๆ เพิ่งจะถึงตอนที่ 7 เท่านั้น เรื่องนี้นับเป็นนิยายที่เกริ่นเรื่องด้วยบทนำได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม เนื่องจากผู้เขียนเปิดเรื่องด้วยเรื่องราวของ คาเรีย ชายผู้รักมั่นในเฟียร์น่า หญิงสาวอันเป็นที่รักเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้ว่าเธอจะตายไปแล้ว จนทำให้องค์ลาซ ผู้ปกครองดินแดน Sacred Place โกรธที่คาเรียปฏิเสธความรักที่ลูนาริต้า พระธิดาผู้เลอโฉมของพระองค์มอบให้ จนออกคำสั่งให้เขาต้องลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ทว่าคำสาปขององค์ลาซไม่ได้มีเพียงเท่านั้น แต่ยังสาปให้เขาต้องกลายเป็นผู้หญิงในวันที่ 14 ของทุกเดือน และต้องได้รับความเจ็บปวดทางกายแสนสาหัส ขณะเดียวกันยามที่เป็นผู้ชายเขาก็ไม่อาจแตะต้องหญิงใดได้ ถ้าหากหัวใจของผู้หญิงเหล่านั้นไม่มีเขาอยู่ ดัวยเงื่อนไขที่โหดร้ายของคำสาปเช่นนี้ จึงทำให้น่าติดตามว่าคาเรียจะดำรงชีวิตอย่างไรเมื่อมาเกิดในโลกมนุษย์แล้ว เนื้อเรื่องจึงถูกกำหนดให้ต้องดำเนินไปตามกรอบของคำสาปที่ผู้เขียนเกริ่นไว้แล้วตั้งแต่บทนำ แต่เมื่ออ่านเรื่องจบถึงตอนที่ 7 กลับพบว่าผู้เขียนละเลยโจทย์ที่ตัวเองสร้างไว้เป็นแกนเรื่องหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงื่อนไขของคำสาปหลายประเด็น นับตั้งแต่การไม่อาจแตะต้องผู้หญิงที่ไม่รักเขา ผู้วิจารณ์เข้าใจว่าคำสาปจะต้องเริ่มต้นมีผลกับยากิ (ชื่อใหม่ของคาเรียเมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์) นับตั้งแต่เขาเกิด เพราะในคำสาปไม่ได้ระบุเงื่อนไขว่าผลของคำสาปจะเกิดขึ้นเมื่อเขาเริ่มมีความรัก แต่ในเรื่องผู้เขียนกลับให้ยากิได้รับผลของคำสาปนี้เมื่อเขาอายุได้ 15 หลังจากฝันเห็นลูนาริต้า ขณะที่เฝ้าอาการของขนมผิง (แฟนสาวของเขาในชาตินี้) หน้าห้อง ICU ลูนาริต้าถามเขาอีกครั้งว่า “ท่านรักข้าได้หรือยัง คาเรีย” และเมื่อลูนาริต้าให้เขาเลือกระหว่างชีวิตของเขาเองกับขนมผิง เขาก็ยังยืนยันคำเดิมว่า “ข้าเลือกนาง...ข้ารักนาง” นับตั้งแต่นั้นมาคำสาปก็เริ่มต้น เพราะหลังจากนั้นเมื่อเขาสัมผัสหรือเฉียดเข้าใกล้ผู้หญิงทุกคน เขาจะทุรนทุราย เจ็บปวดราวกับจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ และจะสัมผัสได้เฉพาะผู้หญิงที่รักเขาด้วยใจจริงเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ก็เหลือเฉพาะผู้หญิงในครอบครัวเขานั่นเอง ประเด็นที่ 2 คือ เขาต้องกลายเป็นผู้หญิงในวันที่ 14 ของทุกเดือน และต้องได้รับความเจ็บปวดทางกายแสนสาหัส นับตั้งแต่เกิดจนอายุ 20 ปีก็ยังไม่มีเหตุการณ์ในตอนใดเลยที่ระบุไว้ว่าเขาได้กลายเป็นผู้หญิงแม้สักเดือนเดียว แต่วันที่ส่งผลกับชะตาชีวิตของเขามากที่สุดกลับ เป็นวันที่ 28 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันเกิดของเขาเพียงวันเดียวเท่านั้น ที่ยากิมักจะต้องประสบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวันเกิดตอนอายุ 15 ที่ขนมผิงถูกไม้ร่วงลงมากระแทก ขณะที่ให้ของขวัญวันเกิดเขา จนต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา วันเกิดตอนอายุ 18 ปี ที่ขนมผิงเสียชีวิตขณะที่เขาไปเยี่ยมและนั่งกุมมือเธอไว้ หรือแม้แต่วันเกิดตอนอายุ 20 ปี ในขณะที่เขาไปที่สุสานของขนมผิง เขาก็ได้พบกับบาร์เลย์ หญิงสาวนอกครอบครัวเขาคนแรกหลังจากที่ขนมผิงตาย ที่สามารถแตะต้องตัวเขาได้โดยที่ไม่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด ประเด็นที่ 3 คือ เงื่อนไขของคำสาปที่ระบุว่า เขาไม่สามารถสัมผัสผู้หญิงคนใดได้ หากหัวใจของผู้หญิงเหล่านั้นไม่มีเขาอยู่ ในเรื่องมีผู้หญิงหลายคนที่หลงรักยากิ แม้ว่าจะเป็นเพียงการหลงรูปก็ตาม ทว่าผู้หญิงเหล่านั้นก็มีคุณสมบัติตรงกับข้อยกเว้นในคำสาปที่ว่า มีเขาอยู่ในหัวใจ ก็ไม่น่าที่จะทำให้เขาต้องเจ็บปวด แต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็ไม่สามารถแตะต้องตัวยากิได้เช่นกัน ถ้าเป็นเช่นนี้น่าจะระบุเงื่อนไขเพิ่มเติมในคำสาปต่อไปว่า เขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนใดได้เลย หากเขาและเธอไม่ได้รักกันด้วยใจจริง ก็น่าจะชัดเจนมากขึ้น สิ่งที่น่าแปลกอีกประการคือ เมื่อระบุว่าผู้ที่สามารถแตะต้องยากิได้ ต้องมีเขาในหัวใจ แต่เหตุใดบาร์เลย์ถึงแตะต้องตัวยากิได้ โดยไม่สร้างความเจ็บปวดใดๆ ให้เขาเลย ทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้รักเขาหรือไม่มีเขาในหัวใจ ด้วยเหตุนี้ ฤทธิ์ของคำสาปจึงไม่ได้เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์ลาช แต่เป็นไปตามความต้องการของผู้เขียนในช่วงเวลาต่างๆ มากกว่า ว่าเวลานี้ต้องการให้ยากิได้รับหรือไม่ได้รับผลของคำสาปนั้น ทำให้คำสาปที่เป็นหัวใจของเรื่องดูจะด้อยความศักดิ์สิทธิ์ลง เพราะไม่มีบรรทัดฐานที่แน่นอนในการออกฤทธิ์ จึงอยากเสนอให้ผู้เขียนทบทวนคำสาปที่ได้ตั้งเงื่อนไขไว้ในบทนำอีกครั้ง ว่าต้องการให้คำสาปมีผลต่อการดำเนินเรื่องอย่างไรแน่ เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับเนื้อเรื่องมากขึ้น ในแง่ของเนื้อเรื่องโดยรวมนั้น ยังไม่สามารถที่จะกล่าวถึงได้อย่างชัดเจนในขณะนี้ เพราะเรื่องเพิ่งจะดำเนินไปเพียงช่วงเริ่มต้น ซึ่งเรื่องมีแนวโน้มว่าจะดำเนินไปพร้อมๆ กับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างยากิ กับ บาร์เลย์ รุ่นพี่สาวปีสี่ ผู้หญิงคนแรกที่ยากิสนใจหลังจากที่ขนมผิงแฟนเก่าตายไปเมื่อสองปีก่อน และระหว่างยากิกับหมี่ฟั่น รุ่นน้องปีหนึ่งที่แอบชอบเขามาตั้งนานแล้วแต่ยากิไม่รู้ตัว อีกทั้งยากิและหมี่ฟั่นต้องผูกพันและเป็นแฟนกันไปจนกว่าจะจบการศึกษาตามกฎที่ประเพณีหอพัก..รักเธอ กำหนดไว้ว่า ถ้าผู้ชายที่อยู่หอชายคนใดสามารถสารภาพรักและพาหญิงสาวที่พักอยู่ในหอมาลงชื่อได้ภายในเวลา 5 นาทีที่กำหนด คนทั้งคู่จะต้องเป็นแฟนกันและมีสิทธิได้อยู่หอพักมหาวิทยาลัยต่อไปจนกว่าจะสำเร็จการศึกษา ส่วนการใช้ภาษานั้น พบว่าผู้เขียนให้ความสำคัญกับความถูกต้องของภาษา ไม่ว่าจะเป็นการสะกดคำหรือการใช้สำนวนภาษา พบว่าไม่ค่อยมีที่ผิดมากนัก จะมีเพียงบางคำที่เขียนผิดซ้ำๆ หลายครั้ง จนทำให้เชื่อว่าผู้เขียนอาจคิดว่าคำนี้เขียนเช่นนี้จริงๆ เช่น สาส์น เขียนเป็น สาสน์ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เขียนให้สัดส่วนระหว่างบทสนทนาและบทบรรยายในปริมาณที่เกือบเท่ากัน แต่ในบางครั้งบทสนทนามีสัดส่วนมากกว่าบทบรรยาย ผู้วิจารณ์เห็นว่าผู้เขียนควรจะเพิ่มสัดส่วนของบทบรรยายให้มากขึ้น โดยให้มีปริมาณบทบรรยายประมาณ 2 ใน 3 ของเรื่อง ก็จะช่วยให้การดำเนินเรื่องมีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งผู้เขียนดูจะมีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนอยู่แล้ว เพราะเมื่อพิจารณาจากบทนำก็เห็นได้ว่าผู้เขียนสามารถเขียนบทบรรยายได้ดี เป็นต้นว่าตอนที่อธิบายถึงประเพณีแห่ง Sacred หรือ จดหมายที่เป็นบทลงโทษขององค์ลาช อีกประการหนึ่ง ผู้เขียนควรตัดอีโมติคอนแสดงอารมณ์ในตอนท้ายประโยคออกบ้าง เนื่องจากผู้เขียนใช้วิธีการดังกล่าวบ่อยครั้ง บางครั้งก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้อิโมติคอนเพื่อปิดท้ายประโยคเสมอไป และเมื่อตัดทิ้งก็ไม่ได้ทำให้ประโยคเสียความแต่อย่างใด แต่ยังช่วยให้รู้สึกสบายตามากขึ้นด้วย เพราะเนื้อหาที่มีอีโมติคอนปิดท้ายเรียงกันหลายๆ ประโยคนั้นดูรกตาน่ารำคาญ เช่น เจอกับพลุลอยขึ้นแสกหน้า -_- “กรี๊ดดดด” เสียงกรี๊ดแปดหลอดดังจนหอพักแทบระเบิด -_-* …………. พลุอีกดอกลอยขึ้นแสกหน้า -_-** “Happy Birthday ค่าพี่ยากิ >O   อ่านน้อยลง

    bluewhale | 26 พ.ย. 52

    • 16

    • 1

    "มาวิจารณ์แล้ว"

    (แจ้งลบ)

    จากบทความ - X รับวิจารณ์นิยายหลายรูปแบบ X - อันที่จริงถ้ารีไรท์บทนำใหม่ก็ควรลบอันเก่าไปเลยนะ อ่า เรื่องการใช้ศัพท์สมัยโบราณพวกการลงท้ายประโยคอะไรงี้ยังแปร่งๆ แปลกๆ อยู่น่ะค่ะ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าบทนำำเกรินเรื่องได้น่าสนใจมากเลย คำผิด มีนิดหน่อย ไม่ว่ากัน เราชอบเรื่องนี้นะ แปลกดี แหวกแนวโดยที่เอาตัวเอกเป็นผู้ชาย เปลี่ยนบรรยากาศดี มีเอาแฟนตาซี ... อ่านเพิ่มเติม

    จากบทความ - X รับวิจารณ์นิยายหลายรูปแบบ X - อันที่จริงถ้ารีไรท์บทนำใหม่ก็ควรลบอันเก่าไปเลยนะ อ่า เรื่องการใช้ศัพท์สมัยโบราณพวกการลงท้ายประโยคอะไรงี้ยังแปร่งๆ แปลกๆ อยู่น่ะค่ะ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าบทนำำเกรินเรื่องได้น่าสนใจมากเลย คำผิด มีนิดหน่อย ไม่ว่ากัน เราชอบเรื่องนี้นะ แปลกดี แหวกแนวโดยที่เอาตัวเอกเป็นผู้ชาย เปลี่ยนบรรยากาศดี มีเอาแฟนตาซีนิดๆ มาปนด้วย ทำให้เรื่องไม่โหลเหมือนเรื่องอื่นๆ ค่ะ แต่ว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ หลายจุดเหมือนกัน อ่า เช่น หน้าห้องไอซียู ศัพท์ที่ผู้หญิงพูดมาก็โบราณซะ แต่พอพระเอกเราพูดตอบมันกลับโบราณไม่แพ้กัน -*- อันที่จริงมันต้องเป็นศัพท์วัยรุ่นสิ อย่าลืมนะมันเกิดใหม่แล้ว แล้วก็รู้สึกเหมือนพระเอก ง่าย ไปหน่อย ตอนเจอบาร์เลย์ครั้งแรกอ่ะ คนที่เกลียดผู้หญิงอย่างน้อยก็น่าจะมีฟอร์มอะไรบ้าง แต่นี่ทำท่าเหมือนจะจีบซะเต็มที่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นยังไปร้องไห้หน้าหลุมศพแฟนเก่าอยู่เลย พร่ำพรรณนาซะ ดูเหมือนฮีแกจะเปลี่ยนอารมณ์เร็วมาก ร้องไห้เสร็จปุ๊บกลายเป็นกรุ้มกริ่มได้อย่างรวดเร็ว -*- ไม่ค่อยธรรมชาติเท่าไหร่นะคะตรงนี้ เอ่อ เราว่าพระเอกติ๋มๆ ด้วยอ่ะเวลาบรรยายเกี่ยวกับตอนที่มันอยู่กับผิง ร้องไห้ง่ายมาก ศัพท์เวลาพูดก็ดูเน่าๆ ยังไงไม่รู้ อ้อ ไอตรงประเพณีหอพัก...รักเธออ่ะ เราว่ามันดูนิยายม้ากมาก (แต่ก็ดึงดูดคนอ่านได้ม้ากมากเช่นกัน 55 ) แต่เราคิดว่ามันเว่อร์ไป (อันนี้ความเห็นส่วนตัว) จะมีมหาลัยไหนในโลกที่มีแนวคิดแปลกๆแบบนี้มั่งอ่ะ -*- ไม่เน้นความจริงอย่างแรง (แต่ถ้ามองในแบบฉบับพวกบ้านิยายแล้วมันเป็นอะไรที่โคตะระโรแมนติก) ถ้าให้แนะนำนะเราว่าอาจจะใส่เหตุผลไปว่าเพื่ออะไรสักอย่าง อาจจะเป็น เพื่อความเข้าใจกันมากขึ้นระหว่างหญิงและชาย บรื๋อออ หยองๆ นะ หรือไม่ก็เป็นกิจกรรมที่รุ่นพี่คิดขึ้นมาเพราะแฟนงอนหรืออะไรสักอย่าง (ช่างมันเหอะตรงนี้ อย่าไปใส่ใจเลย) เอ้อ อ่านๆๆ ไป พบว่า เรื่องชักหนุก! มีปมเพิ่มขึ้นมาว่าใครเป็นนางเอก ทำไมมันถึงจับได้สองคน!? คือ เป็นอะไรที่ดึงดูดคนอ่านมากเลยค่ะ นับเป็นกลยุทธิ์ที่ดี เพราะคนจะอยากรู้และอ่านต่อ 55 (ส่วนตัวแล้วอยากให้เป็นบาร์เลย์นะ ไม่ชอบพวกร้องไห้ง่ายๆ อย่างเจ๊หมี่อะ ถ้ามีฉากมันทั้งเรื่องได้หมั่นไส้ตาย รำคาญ) สรุป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่วิจารณ์ได้รั่วมาก -*- ส่วนตัวก็คิดว่ามันดีอยู่แล้วในทางของมัน แต่ดูเว่อๆ ในความคิดของเรา ชอบภาษาที่ใช้บรรยายนะ อ่านง่ายดี รู้เรื่อง รื่นหูด้วย แต่ก็ยังมีจุดผิดพลาดเล็กๆ เรื่องศัพท์อ่ะ พิมพ์ผิดบ้าง ไรบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเค อ่ะ ก่อนจาก นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวนะจ๊ะ ไม่ชอบหรือไม่อย่างไรก็น้อมรับไว้ ณ ที่นี้เลย ก็ขอเป็นกำลังใจให้ละกัน งืมๆๆ   อ่านน้อยลง

    wan-nilla | 11 พ.ย. 52

    • 10

    • 1

    ดูทั้งหมด

    คำนิยมล่าสุด

    "บทวิจารณ์ Ai-wa Ai-shi- te-ru! คำสาปรักทักหัวใจนายตัวร้าย"

    (แจ้งลบ)

    นิยายรักหวานแหววของ kyomu เรื่อง Ai-wa Ai-shi-te-ru! คำสาปรักทักหัวใจนายตัวร้าย ในขณะนี้ เพิ่งโพสต์ถึงตอนที่ 10 แต่เนื้อเรื่องจริงๆ เพิ่งจะถึงตอนที่ 7 เท่านั้น เรื่องนี้นับเป็นนิยายที่เกริ่นเรื่องด้วยบทนำได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม เนื่องจากผู้เขียนเปิดเรื่องด้วยเรื่องราวของ คาเรีย ชายผู้รักมั่นในเฟียร์น่า หญิงสาวอันเป็นที่รักเพียงคนเดียวเท่านั ... อ่านเพิ่มเติม

    นิยายรักหวานแหววของ kyomu เรื่อง Ai-wa Ai-shi-te-ru! คำสาปรักทักหัวใจนายตัวร้าย ในขณะนี้ เพิ่งโพสต์ถึงตอนที่ 10 แต่เนื้อเรื่องจริงๆ เพิ่งจะถึงตอนที่ 7 เท่านั้น เรื่องนี้นับเป็นนิยายที่เกริ่นเรื่องด้วยบทนำได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม เนื่องจากผู้เขียนเปิดเรื่องด้วยเรื่องราวของ คาเรีย ชายผู้รักมั่นในเฟียร์น่า หญิงสาวอันเป็นที่รักเพียงคนเดียวเท่านั้น แม้ว่าเธอจะตายไปแล้ว จนทำให้องค์ลาซ ผู้ปกครองดินแดน Sacred Place โกรธที่คาเรียปฏิเสธความรักที่ลูนาริต้า พระธิดาผู้เลอโฉมของพระองค์มอบให้ จนออกคำสั่งให้เขาต้องลงมาเกิดในโลกมนุษย์ ทว่าคำสาปขององค์ลาซไม่ได้มีเพียงเท่านั้น แต่ยังสาปให้เขาต้องกลายเป็นผู้หญิงในวันที่ 14 ของทุกเดือน และต้องได้รับความเจ็บปวดทางกายแสนสาหัส ขณะเดียวกันยามที่เป็นผู้ชายเขาก็ไม่อาจแตะต้องหญิงใดได้ ถ้าหากหัวใจของผู้หญิงเหล่านั้นไม่มีเขาอยู่ ดัวยเงื่อนไขที่โหดร้ายของคำสาปเช่นนี้ จึงทำให้น่าติดตามว่าคาเรียจะดำรงชีวิตอย่างไรเมื่อมาเกิดในโลกมนุษย์แล้ว เนื้อเรื่องจึงถูกกำหนดให้ต้องดำเนินไปตามกรอบของคำสาปที่ผู้เขียนเกริ่นไว้แล้วตั้งแต่บทนำ แต่เมื่ออ่านเรื่องจบถึงตอนที่ 7 กลับพบว่าผู้เขียนละเลยโจทย์ที่ตัวเองสร้างไว้เป็นแกนเรื่องหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงื่อนไขของคำสาปหลายประเด็น นับตั้งแต่การไม่อาจแตะต้องผู้หญิงที่ไม่รักเขา ผู้วิจารณ์เข้าใจว่าคำสาปจะต้องเริ่มต้นมีผลกับยากิ (ชื่อใหม่ของคาเรียเมื่อลงมาเกิดในโลกมนุษย์) นับตั้งแต่เขาเกิด เพราะในคำสาปไม่ได้ระบุเงื่อนไขว่าผลของคำสาปจะเกิดขึ้นเมื่อเขาเริ่มมีความรัก แต่ในเรื่องผู้เขียนกลับให้ยากิได้รับผลของคำสาปนี้เมื่อเขาอายุได้ 15 หลังจากฝันเห็นลูนาริต้า ขณะที่เฝ้าอาการของขนมผิง (แฟนสาวของเขาในชาตินี้) หน้าห้อง ICU ลูนาริต้าถามเขาอีกครั้งว่า “ท่านรักข้าได้หรือยัง คาเรีย” และเมื่อลูนาริต้าให้เขาเลือกระหว่างชีวิตของเขาเองกับขนมผิง เขาก็ยังยืนยันคำเดิมว่า “ข้าเลือกนาง...ข้ารักนาง” นับตั้งแต่นั้นมาคำสาปก็เริ่มต้น เพราะหลังจากนั้นเมื่อเขาสัมผัสหรือเฉียดเข้าใกล้ผู้หญิงทุกคน เขาจะทุรนทุราย เจ็บปวดราวกับจะถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ และจะสัมผัสได้เฉพาะผู้หญิงที่รักเขาด้วยใจจริงเท่านั้น ซึ่งในขณะนี้ก็เหลือเฉพาะผู้หญิงในครอบครัวเขานั่นเอง ประเด็นที่ 2 คือ เขาต้องกลายเป็นผู้หญิงในวันที่ 14 ของทุกเดือน และต้องได้รับความเจ็บปวดทางกายแสนสาหัส นับตั้งแต่เกิดจนอายุ 20 ปีก็ยังไม่มีเหตุการณ์ในตอนใดเลยที่ระบุไว้ว่าเขาได้กลายเป็นผู้หญิงแม้สักเดือนเดียว แต่วันที่ส่งผลกับชะตาชีวิตของเขามากที่สุดกลับ เป็นวันที่ 28 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันเกิดของเขาเพียงวันเดียวเท่านั้น ที่ยากิมักจะต้องประสบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวันเกิดตอนอายุ 15 ที่ขนมผิงถูกไม้ร่วงลงมากระแทก ขณะที่ให้ของขวัญวันเกิดเขา จนต้องกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา วันเกิดตอนอายุ 18 ปี ที่ขนมผิงเสียชีวิตขณะที่เขาไปเยี่ยมและนั่งกุมมือเธอไว้ หรือแม้แต่วันเกิดตอนอายุ 20 ปี ในขณะที่เขาไปที่สุสานของขนมผิง เขาก็ได้พบกับบาร์เลย์ หญิงสาวนอกครอบครัวเขาคนแรกหลังจากที่ขนมผิงตาย ที่สามารถแตะต้องตัวเขาได้โดยที่ไม่ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด ประเด็นที่ 3 คือ เงื่อนไขของคำสาปที่ระบุว่า เขาไม่สามารถสัมผัสผู้หญิงคนใดได้ หากหัวใจของผู้หญิงเหล่านั้นไม่มีเขาอยู่ ในเรื่องมีผู้หญิงหลายคนที่หลงรักยากิ แม้ว่าจะเป็นเพียงการหลงรูปก็ตาม ทว่าผู้หญิงเหล่านั้นก็มีคุณสมบัติตรงกับข้อยกเว้นในคำสาปที่ว่า มีเขาอยู่ในหัวใจ ก็ไม่น่าที่จะทำให้เขาต้องเจ็บปวด แต่ผู้หญิงเหล่านั้นก็ไม่สามารถแตะต้องตัวยากิได้เช่นกัน ถ้าเป็นเช่นนี้น่าจะระบุเงื่อนไขเพิ่มเติมในคำสาปต่อไปว่า เขาไม่สามารถแตะต้องผู้หญิงคนใดได้เลย หากเขาและเธอไม่ได้รักกันด้วยใจจริง ก็น่าจะชัดเจนมากขึ้น สิ่งที่น่าแปลกอีกประการคือ เมื่อระบุว่าผู้ที่สามารถแตะต้องยากิได้ ต้องมีเขาในหัวใจ แต่เหตุใดบาร์เลย์ถึงแตะต้องตัวยากิได้ โดยไม่สร้างความเจ็บปวดใดๆ ให้เขาเลย ทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้รักเขาหรือไม่มีเขาในหัวใจ ด้วยเหตุนี้ ฤทธิ์ของคำสาปจึงไม่ได้เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์ลาช แต่เป็นไปตามความต้องการของผู้เขียนในช่วงเวลาต่างๆ มากกว่า ว่าเวลานี้ต้องการให้ยากิได้รับหรือไม่ได้รับผลของคำสาปนั้น ทำให้คำสาปที่เป็นหัวใจของเรื่องดูจะด้อยความศักดิ์สิทธิ์ลง เพราะไม่มีบรรทัดฐานที่แน่นอนในการออกฤทธิ์ จึงอยากเสนอให้ผู้เขียนทบทวนคำสาปที่ได้ตั้งเงื่อนไขไว้ในบทนำอีกครั้ง ว่าต้องการให้คำสาปมีผลต่อการดำเนินเรื่องอย่างไรแน่ เพื่อสร้างความชัดเจนให้กับเนื้อเรื่องมากขึ้น ในแง่ของเนื้อเรื่องโดยรวมนั้น ยังไม่สามารถที่จะกล่าวถึงได้อย่างชัดเจนในขณะนี้ เพราะเรื่องเพิ่งจะดำเนินไปเพียงช่วงเริ่มต้น ซึ่งเรื่องมีแนวโน้มว่าจะดำเนินไปพร้อมๆ กับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างยากิ กับ บาร์เลย์ รุ่นพี่สาวปีสี่ ผู้หญิงคนแรกที่ยากิสนใจหลังจากที่ขนมผิงแฟนเก่าตายไปเมื่อสองปีก่อน และระหว่างยากิกับหมี่ฟั่น รุ่นน้องปีหนึ่งที่แอบชอบเขามาตั้งนานแล้วแต่ยากิไม่รู้ตัว อีกทั้งยากิและหมี่ฟั่นต้องผูกพันและเป็นแฟนกันไปจนกว่าจะจบการศึกษาตามกฎที่ประเพณีหอพัก..รักเธอ กำหนดไว้ว่า ถ้าผู้ชายที่อยู่หอชายคนใดสามารถสารภาพรักและพาหญิงสาวที่พักอยู่ในหอมาลงชื่อได้ภายในเวลา 5 นาทีที่กำหนด คนทั้งคู่จะต้องเป็นแฟนกันและมีสิทธิได้อยู่หอพักมหาวิทยาลัยต่อไปจนกว่าจะสำเร็จการศึกษา ส่วนการใช้ภาษานั้น พบว่าผู้เขียนให้ความสำคัญกับความถูกต้องของภาษา ไม่ว่าจะเป็นการสะกดคำหรือการใช้สำนวนภาษา พบว่าไม่ค่อยมีที่ผิดมากนัก จะมีเพียงบางคำที่เขียนผิดซ้ำๆ หลายครั้ง จนทำให้เชื่อว่าผู้เขียนอาจคิดว่าคำนี้เขียนเช่นนี้จริงๆ เช่น สาส์น เขียนเป็น สาสน์ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เขียนให้สัดส่วนระหว่างบทสนทนาและบทบรรยายในปริมาณที่เกือบเท่ากัน แต่ในบางครั้งบทสนทนามีสัดส่วนมากกว่าบทบรรยาย ผู้วิจารณ์เห็นว่าผู้เขียนควรจะเพิ่มสัดส่วนของบทบรรยายให้มากขึ้น โดยให้มีปริมาณบทบรรยายประมาณ 2 ใน 3 ของเรื่อง ก็จะช่วยให้การดำเนินเรื่องมีความน่าสนใจมากขึ้น ซึ่งผู้เขียนดูจะมีศักยภาพในการปรับเปลี่ยนอยู่แล้ว เพราะเมื่อพิจารณาจากบทนำก็เห็นได้ว่าผู้เขียนสามารถเขียนบทบรรยายได้ดี เป็นต้นว่าตอนที่อธิบายถึงประเพณีแห่ง Sacred หรือ จดหมายที่เป็นบทลงโทษขององค์ลาช อีกประการหนึ่ง ผู้เขียนควรตัดอีโมติคอนแสดงอารมณ์ในตอนท้ายประโยคออกบ้าง เนื่องจากผู้เขียนใช้วิธีการดังกล่าวบ่อยครั้ง บางครั้งก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้อิโมติคอนเพื่อปิดท้ายประโยคเสมอไป และเมื่อตัดทิ้งก็ไม่ได้ทำให้ประโยคเสียความแต่อย่างใด แต่ยังช่วยให้รู้สึกสบายตามากขึ้นด้วย เพราะเนื้อหาที่มีอีโมติคอนปิดท้ายเรียงกันหลายๆ ประโยคนั้นดูรกตาน่ารำคาญ เช่น เจอกับพลุลอยขึ้นแสกหน้า -_- “กรี๊ดดดด” เสียงกรี๊ดแปดหลอดดังจนหอพักแทบระเบิด -_-* …………. พลุอีกดอกลอยขึ้นแสกหน้า -_-** “Happy Birthday ค่าพี่ยากิ >O   อ่านน้อยลง

    bluewhale | 26 พ.ย. 52

    • 16

    • 1

    "มาวิจารณ์แล้ว"

    (แจ้งลบ)

    จากบทความ - X รับวิจารณ์นิยายหลายรูปแบบ X - อันที่จริงถ้ารีไรท์บทนำใหม่ก็ควรลบอันเก่าไปเลยนะ อ่า เรื่องการใช้ศัพท์สมัยโบราณพวกการลงท้ายประโยคอะไรงี้ยังแปร่งๆ แปลกๆ อยู่น่ะค่ะ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าบทนำำเกรินเรื่องได้น่าสนใจมากเลย คำผิด มีนิดหน่อย ไม่ว่ากัน เราชอบเรื่องนี้นะ แปลกดี แหวกแนวโดยที่เอาตัวเอกเป็นผู้ชาย เปลี่ยนบรรยากาศดี มีเอาแฟนตาซี ... อ่านเพิ่มเติม

    จากบทความ - X รับวิจารณ์นิยายหลายรูปแบบ X - อันที่จริงถ้ารีไรท์บทนำใหม่ก็ควรลบอันเก่าไปเลยนะ อ่า เรื่องการใช้ศัพท์สมัยโบราณพวกการลงท้ายประโยคอะไรงี้ยังแปร่งๆ แปลกๆ อยู่น่ะค่ะ แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าบทนำำเกรินเรื่องได้น่าสนใจมากเลย คำผิด มีนิดหน่อย ไม่ว่ากัน เราชอบเรื่องนี้นะ แปลกดี แหวกแนวโดยที่เอาตัวเอกเป็นผู้ชาย เปลี่ยนบรรยากาศดี มีเอาแฟนตาซีนิดๆ มาปนด้วย ทำให้เรื่องไม่โหลเหมือนเรื่องอื่นๆ ค่ะ แต่ว่าเรื่องนี้มีอะไรแปลกๆ หลายจุดเหมือนกัน อ่า เช่น หน้าห้องไอซียู ศัพท์ที่ผู้หญิงพูดมาก็โบราณซะ แต่พอพระเอกเราพูดตอบมันกลับโบราณไม่แพ้กัน -*- อันที่จริงมันต้องเป็นศัพท์วัยรุ่นสิ อย่าลืมนะมันเกิดใหม่แล้ว แล้วก็รู้สึกเหมือนพระเอก ง่าย ไปหน่อย ตอนเจอบาร์เลย์ครั้งแรกอ่ะ คนที่เกลียดผู้หญิงอย่างน้อยก็น่าจะมีฟอร์มอะไรบ้าง แต่นี่ทำท่าเหมือนจะจีบซะเต็มที่ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านั้นยังไปร้องไห้หน้าหลุมศพแฟนเก่าอยู่เลย พร่ำพรรณนาซะ ดูเหมือนฮีแกจะเปลี่ยนอารมณ์เร็วมาก ร้องไห้เสร็จปุ๊บกลายเป็นกรุ้มกริ่มได้อย่างรวดเร็ว -*- ไม่ค่อยธรรมชาติเท่าไหร่นะคะตรงนี้ เอ่อ เราว่าพระเอกติ๋มๆ ด้วยอ่ะเวลาบรรยายเกี่ยวกับตอนที่มันอยู่กับผิง ร้องไห้ง่ายมาก ศัพท์เวลาพูดก็ดูเน่าๆ ยังไงไม่รู้ อ้อ ไอตรงประเพณีหอพัก...รักเธออ่ะ เราว่ามันดูนิยายม้ากมาก (แต่ก็ดึงดูดคนอ่านได้ม้ากมากเช่นกัน 55 ) แต่เราคิดว่ามันเว่อร์ไป (อันนี้ความเห็นส่วนตัว) จะมีมหาลัยไหนในโลกที่มีแนวคิดแปลกๆแบบนี้มั่งอ่ะ -*- ไม่เน้นความจริงอย่างแรง (แต่ถ้ามองในแบบฉบับพวกบ้านิยายแล้วมันเป็นอะไรที่โคตะระโรแมนติก) ถ้าให้แนะนำนะเราว่าอาจจะใส่เหตุผลไปว่าเพื่ออะไรสักอย่าง อาจจะเป็น เพื่อความเข้าใจกันมากขึ้นระหว่างหญิงและชาย บรื๋อออ หยองๆ นะ หรือไม่ก็เป็นกิจกรรมที่รุ่นพี่คิดขึ้นมาเพราะแฟนงอนหรืออะไรสักอย่าง (ช่างมันเหอะตรงนี้ อย่าไปใส่ใจเลย) เอ้อ อ่านๆๆ ไป พบว่า เรื่องชักหนุก! มีปมเพิ่มขึ้นมาว่าใครเป็นนางเอก ทำไมมันถึงจับได้สองคน!? คือ เป็นอะไรที่ดึงดูดคนอ่านมากเลยค่ะ นับเป็นกลยุทธิ์ที่ดี เพราะคนจะอยากรู้และอ่านต่อ 55 (ส่วนตัวแล้วอยากให้เป็นบาร์เลย์นะ ไม่ชอบพวกร้องไห้ง่ายๆ อย่างเจ๊หมี่อะ ถ้ามีฉากมันทั้งเรื่องได้หมั่นไส้ตาย รำคาญ) สรุป เรื่องนี้เป็นเรื่องที่วิจารณ์ได้รั่วมาก -*- ส่วนตัวก็คิดว่ามันดีอยู่แล้วในทางของมัน แต่ดูเว่อๆ ในความคิดของเรา ชอบภาษาที่ใช้บรรยายนะ อ่านง่ายดี รู้เรื่อง รื่นหูด้วย แต่ก็ยังมีจุดผิดพลาดเล็กๆ เรื่องศัพท์อ่ะ พิมพ์ผิดบ้าง ไรบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเค อ่ะ ก่อนจาก นี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวนะจ๊ะ ไม่ชอบหรือไม่อย่างไรก็น้อมรับไว้ ณ ที่นี้เลย ก็ขอเป็นกำลังใจให้ละกัน งืมๆๆ   อ่านน้อยลง

    wan-nilla | 11 พ.ย. 52

    • 10

    • 1

    ดูทั้งหมด

    ความคิดเห็น