คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Part [-1.] : -ตัวสวย- :-)
-ตัวสวย-
มีเหตุผลหลักๆ ประมาณ 3 ข้อ ที่ทำให้ คิมแจจุง ถูกใครๆ บอกว่า ‘สวย’
1. ตัวขาวเป็นไข่ปอก เหมือนมีออร่านางฟ้าวิ้งๆ แผ่ออกมาจากตัวตลอดเวลา
2. ตาโตแอ๊บแบ๊วแบบไม่ได้ตั้งใจ - คิ้วเข้ม - จมูกโด่ง
3. ปากแดงแป้ดตลอดเวลาเหมือนพรีเซนเตอร์ลิปสติก – ที่สำคัญ มันพอง และ จุ๊บุ น่าจูบอย่างแรง
ปล. จุ๊บุ อืม...จะว่ายังไงดีล่ะ คุณจะนึกภาพออกมั้ย
อะไรแบบนี้น่ะ à :-3
“ตัวอะไร...ทำไมสวย”
นั่นเป็นคำพูดประโยคแรกที่แจจุงได้ยินตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายแทฮวาชิน
ดวงตากลมๆ เบิกขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะหันซ้ายหันขวาหาที่มาของเสียง วันนี้เป็นวันปฐมนิเทศนักเรียนใหม่ คิมแจจุงหนึ่งในเด็กใหม่ที่เข้าเรียนในปีนี้ถูกรั้งให้ต้องยืนตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินเสียงแปลกๆ ดังขึ้นขณะเดินลัดสวนหลังจากกลับจากเข้าห้องน้ำ ร่างสมส่วนของเด็กหนุ่มสวมชุดเครื่องแบบประจำโรงเรียนตัวใหม่กอดเอกสารปฐมนิเทศไว้แน่น พลางมองหาที่มาของเสียงไปด้วยความงุนงง
“มองอะไรอยู่น่ะ...ตัวสวย”
เสียงเจ้าของประโยคแปลกๆ นั้นดังขึ้นอีกครั้ง แจจุงรีบหันขึ้นไปมองรอบตัวก็ไม่พบใคร ก่อนเสียงแครกๆ และใบไม้แห้งที่ปลิวว่อนลงมาจะทำให้เขาเบนสายตาขึ้นไปมองข้างบนแทน...
และทันทีที่คิมแจจุงเงยหน้าขึ้นไปมองข้างบน ร่างบอบบางก็มีอันได้แข็งทื่อเมื่อได้สบกับสายตาคมกริบเย็นชาคู่หนึ่งบนต้นไม้เข้าอย่างจัง
ตุ้บ!
“เฮ้ย”
ไม่ทันที่แจจุงจะได้ตั้งตัว ร่างสูงของเด็กหนุ่มในชุดเครื่องแบบเดียวกัน แต่ดูมอมแมมกว่ามากก็กระโดดม้วนตัวลงมาอย่างสวยงามจากต้นไม้ที่เหมือนจะเป็นที่อยู่ของเจ้าตัวตอนแรก การลงมาอย่างรวดเร็วนั้นทำเอาแจจุงตกใจถึงกับล้มลงไปนั่งจ้ำเบ้ากับพื้นเพราะนึกว่าจะโดนกระโดดลงมาทับซะแล้ว
“พับผ่าสิ...ตัวอะไรกันเนี่ย? ”
ดวงตาเรียวคมของคนที่เอาแต่ถามคำถามที่แจจุงไม่เข้าใจลุกขึ้นมานั่งยองๆ ก่อนจะจ้องแจจุงเขม็ง ว่าพลางก็ยกนิ้วยาวๆ ของตัวเองมาจิ้มแก้มขาวๆ ของแจจุงที่นั่งแหมะอยู่กับพื้นไปด้วย
“ทำอะไรของนายน่ะ!”
คนที่อยู่ๆ ก็โดนทำร้ายร่างกายเขยิบตัวออกห่างจากบุรุษปริศนาทันทีราวกับถูกของร้อน แก้มขาวแดงปลั่งน้อยๆ อย่างเขินอายเมื่อถูกใบหน้าหล่อเหลาและดวงตาเรียวคมที่ยังคงจ้องเขม็งมาที่ตัวเองสะกดจิตไว้อย่างนั้น เรียวขาที่อ่อนแรงรีบลุกขึ้นก่อนจะปัดๆ เศษหญ้าออกจากกางเกงตัวใหม่ แล้วรีบเดินหนีออกไป โดยไม่สนใจคนแปลกหน้าอีก
อะไรเนี่ย..อยู่ดีๆ ก็มาจ้อง พูดอะไรแปลกๆ แถมยังมาจิ้มแก้มเราอีก..
คนบ้าแน่เลย!
คิมแจจุงตะโกนเสียงดังในใจ ก่อนจะทำแก้มแดงอีกครั้งเมื่อนึกไปถึงสายตาคมๆ ที่จ้องมาที่ตัวเอง
ตะ แต่ว่านะ...เพิ่งรู้นะเนี่ย ว่ามีคนบ้า หล่อ ขนาดนี้ด้วย...
วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก
แจจุงเข้าเรียนที่แทฮวาชินวันแรกด้วยกิจวัตรที่เหมือนกับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ทั่วไป ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนๆ ในห้อง ฟังเรื่องซุบซิบและเรื่องต่างๆ ที่เด็กใหม่อย่างเขาควรรู้ในโรงเรียน
“แต่ถึงพี่แทคยอนจะเป็นประธานนักเรียน เป็นหัวหน้าชมรมเคนโด้ แต่แจจุงรู้ไหม? ว่าผู้ชายที่ป็อบที่สุดในโรงเรียนเราน่ะ ไม่ใช่พี่แทคยอนหรอกนะ” เสียงแหลมเล็กของคิมจุนซูเอ่ยขึ้นอย่างได้อรรถรสเมื่อไล่เรื่องมาถึงประโยคสำคัญ ร้อนถึงชางมิน ต้องเอามือขยี้หัวกลมๆ นั้นราวกับจะบอกว่า ‘หัดพูดให้มันน้อยๆ ซะมั่งเหอะ พูดมากจริง’
“โอ้ยชางมิน อ่านหนังสือไปเหอะน่า ฉันกำลังแนะนำแจจุงอยู่นะ!”
“แนะนำอะไรของนาย เห็นมีแต่นินทาอาจารย์กับข่าวกอสซิบ ไร้สาระจริง แจจุงนายไม่ต้องฟังหมอนี่มากก็ได้”
“แจจุงอย่าไปสนใจชางมินนะ!”
แจจุงหัวเราะออกมาให้กับอาการงอนเป็นเด็กๆ ของจุนซูและท่าทีไม่ใส่ใจอะไรเลยของชางมิน เขาสองคนเป็นเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆที่นั่งของแจจุง เลยเป็นคนสองคนแรกที่แจจุงสนิทด้วย
“แล้วๆ ต่อนะ ก็คือ จริงๆ แจจุงเห็นพี่แทคยอนแล้วจะต้องตกใจ พี่แทคยอน อ่ะหล่อมาก เป็นประธาน เรียนก็เก่ง เล่นเคนโด้ก็ชนะระดับประเทศเลยด้วยแหละ เป็นโคตรของโคตรเจ้าชายๆๆๆ ในฝันเลยรู้ไหม”
“โห...แล้วยังมีใครจะป็อบกว่าพี่เค้าอีกเหรอ? ” แจจุงนึก คนบ้าอะไรจะดีหลายอย่างขนาดนั้น ทั้งหล่อทั้งเก่ง อย่างกับพระเอกนิยายแน่ะ
“มีสิ คนนี้นะ ไม่มีใครในโรงเรียนเราไม่รู้จักเค้า”
แจจุงทำตาแป๋ว
“ชอง ยุนโฮ”
“เป็นคนที่หล่อมากถึงมากที่สุด สูงประมาณ 185 หุ่นก็เท่ กล้ามก็สวย ผิวแทนสมชาย เสียงก็ทุ้มหล่อชวนฝัน แต่เขาเป็นคนพูดน้อยนับคำได้เลยล่ะ เพื่อนๆ เขาบอกมาว่า ถ้าอยู่เวลาปกติจจะเห็นชองยุนโฮเอาแต่นอน ไม่เอาหูฟังเสียบหูก็เล่นเกม แต่เวลาสอบแต่ละทีก็ท็อบระดับตลอด ตามปกติหาตัวยากอย่างกับนินจา แฟนคลับชองยุนโฮว่ากันว่าถ้าอยากเจอพี่ยุนโฮตัวเป็นๆ ละก็ ให้ไปส่องตามกิ่งไม้ใหญ่บนต้นไม้ของโรงเรียน อาจจะเจอพี่ยุนโฮนอนหลับอยู่บนนั้นก็ได้”
“เป็นคนแปลกๆ ที่ทั้งหล่อทั้งเท่ที่สุดในโลกนี้เลยล่ะ”
ปล. ของหายากของชองยุนโฮคือ รอยยิ้ม ว่ากันว่า ใครที่มีโอกาสได้เห็นพี่ยุนโฮยิ้มซักครั้งก็มีอันระทดระทวยละลายทำอะไรไม่ถูกไปหลายชั่วโมง
ไอ้ประโยคตัวหนาทั้งหมดนั่นคือสิ่งที่แจจุงได้ยินจากจุนซู
เป็นอะไรทั้งหมดที่แจจุงรู้สึกว่ามันคุ้นๆ เสียเหลือเกิน
เหมือนกับ...
ไม่เหมือนสิ ไม่เหมือนเท่าไรละมั้ง
ก็ไหนจุนซูบอกว่า ไอ้พี่ยุนโฮอะไรคนที่ว่า หาตัวยาก ไม่ใช่เหรอ ?
แล้วทำไม...
“ตัวสวย ทำอะไรอยู่น่ะ?”
แจจุงคงหูฝาด
“ฉันเรียกไม่ได้ยินเหรอ ตัวสวย!”
เสียงลอยมาจากไหนกัน แจจุงคงต้องไปเช็คประสาทหู
“ตกลงว่าเป็น ตัวสวย ไม่ใช่คนใช่มั้ย? ถึงฟังภาษาคนไม่ออกเนี่ย!”
คราวนี้แจจุงที่นั่งทำการบ้านอยู่ในห้องเรียนที่ร้างไร้ผู้คน ถึงกับต้องเงยหน้าขึ้นมาจริงๆ เพราะรู้สึกว่าไม่ใช่หูตัวเองเฝื่อนไปจริงๆ ซะแล้ว ห้องเรียนตอนพักกลางวันที่ร้างโล่งไร้ผู้คน ชางมินกับจุนซูก็ไปกินข้าว แต่วันนี้แจจุงไม่ได้ไปด้วยเพราะต้องหอบเอกสารนักเรียนใหม่มานั่งกรอกแล้วก็เลยนั่งสบายๆ อยู่ในห้องทำการบ้านวันนี้ไปพลางๆ แล้วห้องที่ไม่คน ตอนกลางวันแบบนี้ ทำไมถึงมีเสียงอะไรอีกแล้ว?
แครกๆ
เป็นอีกครั้งที่เสียงใบไม้ดังขึ้น และแจจุงก็รีบหันไปมองที่ต้นไม้...
หมอนี่อีกแล้ว!
ถ้าจะให้พูดคร่าวๆ โรงเรียนมัธยมปลายแทฮวาชินของแจจุงนั้นแบ่งการศึกษาออกเป็นสองฝั่ง สามระดับ คือ มัธยมต้น – มัธยมปลาย ซึ่งก็คือ ปีหนึ่ง ปีสอง และปีสาม เทียบเท่าชั้น มอสี่ มอห้า และมอหกของเด็กโรงเรียนอื่น มีอาคาร 6 อาคารได้แก่ อาคารฝ่ายมัธยมต้น อาคารสายวิทย์ อาคารสายศิลป์ อาคารเด็กพิเศษ อินเตอร์ ไฮโซ อาคารชมรม และอาคารวิจัยของอาจารย์
แจจุงเข้าเรียนแทฮวาชินมัธยมปลายปีหนึ่งที่สายวิทย์ ก็เลยอยู่ตึกสายวิทย์
อาคารนี้กว้างแต่มีเพียง 5 ชั้น ชั้นบนสุดเป็นชั้นห้องทดลองและแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ชั้น 4 ของพวกปีสาม ชั้น 3 ของพวกปีสอง และห้องเรียนของปีหนึ่งก็อยู่ชั้น 2 ...ซึ่งวิวไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
และอยู่ความสูงระดับเดียวกับต้นไม้ที่โรงเรียนปลูกเอาไว้
นี่แหละประเด็น
แจจุงหันไปมองต้นเสียงก่อนจะพบเป็นร่างสูงที่นั่งทำหน้าง่วงๆ อยู่บนกิ่งไม้ที่ใกล้กับหน้าต่างห้องเรียนของแจจุง ที่มันบังเอิญมาอยู่ใกล้ที่นั่งติดหน้าต่างของแจจุงซะด้วย มือใหญ่ยกขึ้นปิดปากขณะหาวเอาออกซิเจนเข้าปอดไป ก่อนจะขยี้ตาแล้วจ้องแจจุงเขม็ง
“นายทำฉันตื่น” แจจุงเบิกตาโต งุนงง
อ้าว อะไรเนี่ย?
“ฉันไปทำอะไรให้? ฉันนั่งทำการบ้านของฉันอยู่ดีๆ นะ” แจจุงเถียงกลับไปกล้าๆกลัวๆ “นายแหละ มาไม่ให้สุ้มให้เสียง”
“ฉันอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ก่อนนายเข้ามาในห้องแล้วต่างหาก”
“แต่ฉันไม่ได้ทำอะไรเสียงดังซะหน่อย จะไปทำให้นายตื่นได้ไง ก็นั่งทำการบ้านอยู่ตั้งนาน”
“ก็ตัวสวยมานั่งอยู่แถวนี้ใครจะหลับลงล่ะ”
เสียงทุ้มชวนฝันเอ่ยขึ้นแบบเรียบๆ ใบหน้าหล่อเหลาคมคายพูดขึ้นอย่างจริงจัง ในขณะที่แจจุงได้แต่ทำแก้มแดง “เลิกพูดว่าฉันสวยได้แล้ว ฉันเป็นผู้ชายนะ”
“รู้น่า หน้าอกก็ไม่มี ใส่กางเกงนักเรียนอีก ใครจะไม่รู้บ้างล่ะ”
ไอ้หมอนี่คงไม่ใช่ชองยุนโฮที่จุนซูว่าหรอกมั้ง ไหนบอกว่าพูดน้อยนับคำได้ นี่ช่างต่อล้อต่อเถียงชะมัด
“ไม่มีผู้ชายที่ไหนสวย”
“ฉันถึงได้อยากรู้ยังไงล่ะว่านายเป็นตัวอะไร!” เขาว่า ก่อนจะปัดๆ ใบไม้ที่อยู่บนเส้นผมออกลวกๆ หันไปทำหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์ของตัวเองใส่แจจุง แล้วจ้องใบหน้าน่ารักเขม็ง “ฉันชองยุนโฮ ปีสองนะ”
หา ตกลงว่าไอ้คนนี้จริงเหรอ?
“นายคือชองยุนโฮ?”
“รู้จัก?”
“เพื่อนเล่าให้ฟัง”
“เหอะ”
แจจุงเงียบไปและไม่ได้ถามอะไรต่อ จนคนที่แนะนำตัวก่อนหน้ามุ่ย “บอกชื่อของนายแลกมาด้วยสิ ตัวสวย”
“คะ...คิมแจจุง ปีหนึ่ง”
ชองยุนโฮฟังก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เรียวขายาวเขยิบไปตรงส่วนที่ใกล้กับหน้าต่างมากที่สุด ก่อนจะกระโดดเข้ามา แจจุงตกใจตั้งตัวแทบไม่ทัน “เฮ้ย”
“อะไร”
“นายเป็นนินจาเหรอไง?”
“เอาโทรศัพท์มา”
“อะไรของนาย?”
“บอกให้เอามาก็เอามาเหอะน่า!”
แจจุงสะดุ้งเมื่อเสียงทุ้มตะโกนใส่ ก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าแล้วยื่นให้อย่างกล้าๆ กลัวๆ ยุนโฮรับมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะกดยุกยิกกับโทรศัพท์ของแจจุงอยู่ซักพัก
“อืม...” ยุนโฮจัดการเซฟเบอร์ที่ยิงเข้ามาที่ตัวเอง ก่อนจะพิมพ์ชื่อ เขาเงยหน้าขึ้นมา “ชื่ออะไรนะ?”
“คิมแจจุง”
“ขี้เกียจพิมพ์ พิมพ์ไม่เก่ง เซฟว่าตัวสวยแล้วกันนะ”
“นายจะเอาเบอร์ฉันไปทำอะไรเนี่ย?”
“ซื่อหรือโง่เนี่ย ตัวสวย เบอร์โทรก็มีไว้โทรสิ” ยุนโฮตอกกลับสีหน้าเรียบเฉย แจจุงหน้ามุ่ย ทันใดนั้นเอง มือใหญ่รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดหน้าจอกล้อง แล้วจอไปที่ใบหน้าขาวนั้นทันที
แชะ!
“เรียบร้อย”
“อะไรของนายเนี่ยยยย!” แจจุงร้องอย่างตกใจเมื่อถูกถ่ายรูปโดยไม่ทันตั้งตัว แต่ยุนโฮไม่สนใจ เอาแต่กดยิกๆ กับโทรศัพท์ของตัวเองต่อไป พลางพึมพำประโยคห้วนๆ ที่คนได้ยินต้องนั่งทำแก้มแดง
“เฮ้อ ให้ตายดิ ตัวอะไรวะ โคตรสวยเลย” ยุนโฮพูดพลางทำหน้าเหนื่อยใจ แล้วกดปุ่มโทรออกที่เครื่องตัวเอง “เอ้า เซฟไว้ด้วย”
ว่าจบก็ยกนาฬิกาขึ้นดู ก่อนจะหันมาจ้องแจจุงตาเขม็งอีกครั้งแล้วยกมือขึ้นขยี้หัวกลมๆ ของแจจุงเล่น “ใกล้จะออดละ ฉันต้องไปละ ไปก่อนนะตัวสวย”
ชองยุนโฮกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วก็กลับไปทางเดิม
ท่าทางที่ทำให้แจจุงได้แต่สงสัย
“หมอนี่เป็นนินจาจริงๆ รึไง?”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด พี่ยุนโฮฮฮฮฮฮ”
เสียงกรีดร้องของเด็กผู้หญิงดังขึ้นในคาบที่หกของวันหนึ่ง ร้อนถึงแจจุงที่กำลังเรียนเกษตรอยู่ที่แปลงผักใกล้ๆ ที่ต้องสะดุ้งขึ้นมาเมื่อได้ยินชื่อนั้น จุนซูหันหลังไปมอง ก่อนชางมินจะหันไปมองเหมือนกัน แล้วกลับมารดน้ำผักต่อเงียบๆ
“ไม่ต้องสนใจหรอกแจจุง สงสัยคงเป็นคาบพละของปีสองห้องหนึ่งน่ะ” จุนซูว่า
“เอ๋?”
“ก็ห้องของพี่ยุนโฮปีสองที่ฉันบอกไง ถึงคาบนี้ทีไรพวกสาวๆ ที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นก็เอาแต่มาเกาะสนามตามติดไม่ไปเรียนทุกที กรี๊ดเชียร์กันอย่างกับกีฬาสี”
“นี่ ชองยุนโฮที่จุนซูว่าเนี่ย เค้าดังมากเหรอ?” แจจุงลองหยั่งเชิงถาม จุนซูร้องเฮอะก่อนจะหัวเราะ “โหยแจจุง เรียกว่าเป็นไอดอลของโรงเรียนเราเลยล่ะ หล่อเถื่อนดิบ ไม่เจ้าชายแต่ออกแนวมาเฟียขนาดนั้น สาวๆ ชอบมากกว่าเจ้าชายซะอีก”
“คิมจุนซูพูดมากอีกแล้ว”
“ชางมินแหละ ปากร้ายเกินไปแล้วนะ เอาแต่ว่าฉัน” จุนซูหน้ามุ่ย งอนขึ้นมาจริงๆ แล้วนะ ร้อนถึงชางมินต้องเงยหน้าขึ้นมาจากแปลงผัก “ก็ไม่ได้ว่าอะไรขนาดนั้นซักหน่อย...”
เสียงทะเลาะงุ้งงิ้งของชางมินกับจุนซูยังมีดังขึ้นอยู่เรื่อยๆ แต่แจจุงกลับไม่ได้สนใจ เขาหันไปมองสนามบาสที่ถูกจับจองด้วยคนหมู่มากไม่ไกลจากแปลงผัก เสียงกรีดร้องยังดังขึ้นอื้ออึง ในขณะที่จู่ๆ เสียงกรี๊ดก็ต้องกลายเป็นเสียงกรีดร้องพร้อมกับเสียงตะโกนที่ดังมาจากสนามดังลั่น
“ระวัง!!!!”
ลูกบาสที่กระเด็นออกมาด้วยความเร็วสูงวิ่งตรงมาที่แจจุงที่ได้แต่ยืนทำหน้างงอยู่ตรงแปลงผักทันที แต่ก็ฉิวเฉียดเมื่อชางมินเอื้อมมือไปดึงไหล่แจจุงหลบเข้ามาจนเฉียดแค่ไหล่บางไปเท่านั้น แจจุงใจเต้นตึกตักด้วยความตกใจ
เฮ้ย ถ้าโดนลูกตะกี้ไปนี่หน้าแหกเลยนะ!
“ไอ้พวกบ้า ชิ เล่นอะไรไม่ระวังเลย” ชางมินสบถ ในขณะที่ได้ยินเสียงของพวกปีสองที่กำลังวิ่งออกมาจากสนามตะโกนเรียก “เป็นอะไรรึเปล่าครับน้อง”
รุ่นพี่สามคนวิ่งออกมาเก็บบาส พลางเดินมาดูผู้เคราะห์ร้ายจากการเล่นของตัวเองแล้วรีบขอโทษขอโพยแจจุงใหญ่ แจจุงยกมือขึ้นทันที
“เอ่อ ผมไม่เป็นไรฮะ”
“เอ๊ะ! เออ น้องหน้าคุ้นจัง” ทันทีที่แจจุงเงยหน้าขึ้นสบตา รุ่นพี่หนึ่งในสามคนนั้นก็พูดขึ้น ก่อนอีกคนจะสมทบ “เออ...เคยเห็นที่ไหนน้า”
ก่อนอีกคนจะพูดดักขึ้นมา “เฮ้ย ช่างเหอะ ก็น้องเค้าสวยอ่ะ แกคงหน้าคุ้นเฉยๆ มั้ง รีบไปเหอะ ไอ้ยุนโฮยืนหล่อให้สาวกรี๊ดเรียกเรตติ้งไปคนเดียวแล้วป่านนี้”
แจจุงฟังคำพี่สามคนนั้นแล้วก็ได้แต่ทำหน้างง ก่อนจะหันไปกระซิบกับจุนซู “ใครน่ะ...”
“เอ่อ ก็ ปาร์คยูชอน - ชองยงฮวา - ลีมินโฮ เพื่อนกลุ่มเดียวของพี่ยุนโฮน่ะสิ ” จุนซูกระซิบตอบ
“รีบๆ ไปดิ๊!” คนที่จุนซูบอกว่าชื่อมินโฮพูด ก่อนที่ปาร์คยูชอนจะเอาแต่ยืนนิ่งพินิจพิเคราะห์ “เดี๋ยวดิ้ กูว่าเคยเห็นหน้าน้องเค้าที่ไหนซักที่”
เนื่องจากการเก็บลูกบาสครั้งนี้ดูจะนานกว่าทุกที ชองยุนโฮที่ได้แต่ยืนเก๊กนิ่งๆ ให้สาวกรี๊ดอยู่บนสนามจึงได้แต่ขมวดคิ้ว ก่อนจะหันไปหาไอ้เพื่อนอีกสามตัวที่ไม่รุ้มันไปเก็บลูกกันถึงไหน
ฉับพลัน ทันทีที่ดวงตาคมมองผ่านกลุ่มสาวๆ ไปเห็นผู้เคราะห์ร้ายที่ข้างสนามคนนั้น ชองยุนโฮก็ถึงกับเบนความสนใจไปทันที คิ้วใบหน้าหล่อเหลาจะบึ้งตึงแล้วรีบก้าวขายาวๆ ตรงไปหาแจจุงทันทีด้วยอารมณ์หงุดหงิด
นั่นตัวสวยนี่!
ทำไมตัวสวยมาอยู่นี่? แล้วทำไมไอ้ปาร์ค ไอ้มินโฮ ไอ้ยงฮวามันคุยอะไรนานแบบนี้!
ร่างสูงที่ย่างสามขุมเข้ามาแหวกทางสาวๆ ออกจนกรี๊ดกันสนั่น ยุนโฮไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินเข้าไปกระชากตัวแจจุงมาอยู่ติดกับตัวเองทันทีท่ามกลางความตกใจของจุนซู ชางมิน ยูชอน มินโฮ ยงฮวา และเหล่าสาวๆ นับร้อยรอบสนาม
“พวกมึงยุ่งอะไรกับตัวสวย!”
สามคนได้แต่ทำหน้าเอ๋อ เมื่อจู่ๆ เพื่อตัวดีมันก็มาจากไหนก็ไม่รู้ ในทันที ปาร์คยูชอนก็ทุบมือพลางร้องอ๋อเสียงดัง
“เฮ้ย...กูนึกออกแล้ว” ยูชอนทำหน้าเหมือนค้นพบความจริง “น้องคนสวยนี่ไงที่อยู่บนหน้าจอมือถือไอ้ยุนโฮ – เฮ้ย มินโฮ ยงฮวา ที่เราแอบหยิบมาดูตอนไอ้ยุนมันหลับอ่ะ คนนี้ๆ“
“เออ ใช่ๆ กูนึกออกละ” ยงฮวากับมินโฮพยักหน้าตามทันที ในขณะที่ยุนโฮทำหน้ามุ่ย และแจจุงทำหน้างง
“แหมๆ ไอ้ยุน ทำเป็นนิ่ง แอบมามีเด็กของตัวเองเมื่อไหร่วะ กิ๊วกิ๊ว~”
ทันทีที่รู้ว่าตัวเองเข้าใจผิดอะไรไปเอง และถูกไอ้เพื่อนบ้าสามคนจับได้เรื่องโทรศัพท์ ใบหน้าคมคายก็ดูจะแดงๆ ขึ้นมาเพราะความเขินทันที
“เสือก”
“แหมมมม แฟนสวยนะมึง! อย่างงี้แฟนคลับมึงก็จบแล้วดิวะ ฮ่าๆ สาวๆ อยู่กันเต็มเลยด้วยเนี่ย”
ยุนโฮทำหน้าบึ้ง ไม่พูดอะไรต่อล้อต่อเถียงตามเสต็ปคนพูดน้อย ก่อนจะหันไปกระชากแขนขาวๆ ของแจจุงให้เดินตามออกไปทันทีท่ามกลางเสียงกรี๊ดอย่างอิจฉาของสาวๆ ที่สนาม
“ไปทำอะไรตรงนั้น!” ยุนโฮเหวี่ยงเสียงดัง แจจุงยิ่งเหวอ “อะไรเนี่ยนายลากฉันมาทำไม”
“ถามว่าไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น เห็นมั้ยไอ้ยูชอนจ้องจนสึกหมดแล้ว” ยุนโฮรีบจับแจจุงหมุนไปหมุนมาเหมือนตุ๊กตา “ไม่ได้ถูกมันทำอะไรใช่มั้ย?”
“อะไรที่ว่าคืออะไรกันล่ะ?”
“ตัวสวยแกล้งโง่อีกแล้ว” ยุนโฮพูด “ไปยืนตรงนั้นทำไม แล้วทำไมมัน 3 ตัวถึงไปคุยด้วย”
“ก็รดน้ำต้นไม้อยู่ แล้วบาสจะกระเด็นมาโดน เค้าเลยมาขอโทษ”
“เหรอ” ยุนโฮเงียบไป “แล้วไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
“อือ”
“ไหนดูซิ” มือใหญ่จับแก้มนุ่มขึ้นมาแล้วเชยคางมนขึ้น มองซ้ายขวาตาเขม็ง
ใครกันแน่ที่จะทำแจจุงพรุนสึกเป็นฟองน้ำน่ะ
“อือ ไม่เป็นอะไรเลยจริงด้วย”
“อะไรของนายเนี่ย”
“เรียกพี่ยุนโฮสิ”
“พี่? ทำไม”
“อยากให้เรียก ก็เรียกสิ” ยุนโฮสั่งเสียงเข้ม ทำเอาแจจุงหงอ “พี่...ยุนโฮ”
“ดี” ทันทีที่ได้ยิน ยุนโฮก็ยิ้มออกมา
‘ยิ้ม’ ยิ้มงั้นเหรอ? ชองยุนโฮยิ้ม
อา...เป็นอย่างที่จุนซูว่าจริงด้วย...หล่อเป็นบ้า
“ห้ามไปเข้าใกล้พวกนั้นอีกรู้ไหม คนอื่นก็ห้ามนะ”
“พี่จะมาสั่งฉันได้ไง?”
“แล้วก็ วันนี้ตอนเย็นเลิกเรียนแล้วยืนอยู่หน้าห้อง จะมารับไปกินข้าว”
“อะไรเนี่ย” แจจุงทำหน้ามุ่ย พูดออกไปตรงๆ “ทำยังกะจีบกันงั้นแหละ!”
ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ใบหน้าหล่อเหลาก็ขึ้นสีจาง
“พูดมากน่าตัวสวย!”
“นี่คิดจะจีบกันจริงใช่ไหม พี่ยุนโฮ”
“พูดมากอีกแล้ว อยากโดนจับทำแฟนหรือไงฮะ!”
ให้ตายสิ ผู้ชายคนนี้...
น่ารักแบบเถื่อนชะมัดเลยเหอะ
มันไม่ใช่แจจุงหรอกที่มายืนรอยุนโฮหลังเลิกเรียน
แต่เป็นยุนโฮต่างหากที่มายืนรอแจจุงหน้าห้องตั้งแต่แจจุงยังไม่เลิกเรียน
วันนี้การเรียนคาบสุดท้ายของห้องแจจุงดูจะวุ่นวายผิดปกติเพราะสาวๆ ในห้องถึงกับนั่งไม่ติดที่ เมื่อมีรุ่นพี่สุดหล่อระดับเทพมานั่งหน้าห้องอยู่ซะอย่างนั้น ทันทีที่ออดดัง แจจุงก็รีบคว้ากระเป๋านักเรียนขึ้นมา รวบของทั้งหมดใส่กระเป๋า แล้วเดินตึงตังไปที่หน้าห้องทันที“ปะ ไปกัน”
“ทำไมต้องมารอหน้าห้องด้วย! คนแตกตื่นหมดแล้ว”
“ถ้าไม่มารอหน้าห้อง เกิดมีหนุ่มที่ไหนมาฉุดตัวสวยไป แล้วฉันจะทำยังไงล่ะ”
ยุนโฮว่าหน้าตาย ในขณะที่แจจุงร้องค้านในใจ...ทำยังกะเราเป็นสาวน้อยอย่างงั้นน่ะ!...
“ไปไหนดี”
“ไม่รู้”
“ตัวสวยกินอะไรเป็นอาหาร?”
คำถามแปลกที่น่าจะหมายความเป็นภาษาทั่วไปว่า ‘นายชอบกินอะไร?’ ดังขึ้น แจจุงเริ่มชินกับนิสัยแปลกๆ ของยุนโฮ ก่อนจะพูดขึ้นมา
“ไอติม ราเมง ก็กินได้หมดอ่ะ”
“กินง่าย เลี้ยงง่าย อาศัยอยู่ที่ไหนล่ะ?”
“บ้า ตามบ้านกันเลยเหรอไง จีบกันโต้งๆ เลยนะนาย”
เป็นอีกครั้งที่ชองยุนโฮหน้าแดง
“เปล่าซักหน่อย ตัวสวยอย่ามาพูดมาก ฉันกำลังศึกษาสิ่งมีชีวิตอยู่ต่างหากเล่า!”
นั่นล่ะเหตุผลของชองยุนโฮล่ะ...
ยุนโฮพาแจจุงมากินราเมงรสเลิศที่ร้านๆ หนึ่งไม่ไกลจากโรงเรียนมาก แจจุงค่อนข้างพอใจกับรสชาติของที่นี่ ให้ตายสิ ไม่เคยกินราเมงที่ไหนอร่อยอย่างนี้มาก่อนเลย ท่าทางมีความสุขในการกินของคนสวยทำเอายุนโฮต้องลอบมอง “อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ...”
“อื้อ ขอบคุณนะ ฉันชอบมากๆ เลยล่ะ”
ทันทีที่แจจุงส่งยิ้มหวานที่น่ารักที่สุดของวันไปให้ ชองยุนโฮก็หน้าตึง ใบหน้าหล่อคมนั้นเรียบนิ่งแต่ก็ดูจะขึ้นสีจางๆ ขึ้นมา
และในทันใดนั้น...“ป้าครับ ขอเพิ่มอีกสามชามเลย”
“หา ยังไม่อิ่มอีกเหรอพี่ยุนโฮ?”
“ไม่ นายนั่นแหละต้องกิน กินแล้วยิ้มน่ารักแบบนี้ กินเข้าไปเยอะๆๆ เดี๋ยวนี้เลยนะ!”
ก็บอกแล้วว่าชองยุนโฮน่ะแปลกคนจริงๆ...
“ฮ้า อิ่มเป็นบ้าเลย พี่บ้าหรือไงนะ สั่งมาเยอะแยะแบบนั้น” แจจุงบ่นหงิงๆ ในขณะที่เดินกลับบ้านกับรุ่นพี่คนแปลก ยุนโฮได้แต่พึมพำ
“ก็เห็นกินแล้วยิ้มนี่”
“ยิ้มแล้วยังไงล่ะ? แต่ตอนนั้นมันก็จะอิ่มแล้วนะ ดูสิ ท้องอืดหมดแน่เลย”
“ขอโทษ”
“ฮึ่ย ชองยุนโฮ!” แจจุงหยุดเดินทันทีที่ได้ยินเสียงหงอยๆ นั้น มือขาวรีบหันไปดึงแก้มของคนสูงกว่าจนยืดไปมา “ทำอะไรเนี่ยตัวสวย”
“จะบอกว่า จะว่าไปแล้ว พี่ก็น่ารักดีเหมือนกันนะ ถึงวิธีจีบจะประหลาดไปหน่อยก็เหอะ”
“ก็บอกไม่ได้จีบ!”
“ฮะๆ แค่นี้ก็เขินแล้วดูดิ ไอดอลของโรงเรียนที่ไหนกันนะ” แจจุงยิ้มอีก รู้สึกว่าตั้งแต่รู้จักกับยุนโฮ แจจุงจะยิ้มบ่อยขึ้นชะมัด “ชอบนะเนี่ย”
“พูดงี้ได้ไง รับผิดชอบเดี๋ยวนี้นะ!”
“หา อะไร?”
“รับผิดชอบคำพูดเดี๋ยวนี้ตัวสวย!”
“อะไรเล่า?”
“มาบอกว่าชอบกันเฉยๆ ได้ไง มาเป็นแฟนกันเดี๋ยวนี้เลย!”
“ก็ไหนบอกไม่ได้จีบไง?”
“ก็ไม่ได้จีบ แต่มาเป็นแฟนกันเดี๋ยวนี้” ยุนโฮเถียง
“: )”
“หยุดยิ้มเลยนะ รู้มั้ยว่ามันน่ารักเนี่ย โธ่เว้ย หยุดยิ้มเดี๋ยวนี้!”
“: )”
“คิมแจจุง! พูดไม่ฟังเหรอไง!”
“: )”
“โว้ยยยยยยย มาเป็นแฟนกันเดี๋ยวนี้นะ!”
“อื้อ...ตกลง”
: )
ความคิดเห็น