คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : เชลยรักมาเฟีย ตอนที่12
ซินตื่นขึ้นในตอนเช้าเพราะความหวาดกลัวที่ตามเข้าไปทำร้ายแม้แต่ในความฝัน ตาบวมซ้ำเปิดขึ้น ก่อนชันกายขึ้นจากเตียงขนาดกลางไม่ใช่เตียงคิงไซส์ในห้องของคนที่ใจร้าย ที่นี่คือห้องพักของเหมยหลินเมื่อคืนเขาขอพักกับแม่บ้านสาว เพราะว่าไม่กล้าเผชิญหน้ากับนัทในเวลานั้น แต่เอาเข้าจริงๆตอนนี้เขาเองก็ยังไม่พร้อมที่จะเจอเขา ความกลัวที่สะสมไว้มันพรั่งพรูหลั่งไหลจนท่วมกาย ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนยังเด่นชัด เพียงแต่หลับตาก็เห็นมันเสียแล้ว
แม้เปลือกตาจะหนักอึ้งแทบเปิดไม่ขึ้น แต่ใจมันฟุ้งซ่านเกินกว่าจะนอนต่อได้ ร่างบางแอบสำรวจห้องพักของแม่บ้านประจำตระกูลของมาเฟีย การตกแต่งเรียบง่ายไม่มีอะไรสะดุดตา สิ่งเดียวที่สะดุดคือกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะ ซินเดินช้าๆเข้าไปหยุดตรงนั้นแล้วหยิบรูปนั้นขึ้นมาดู
“รูปพี่กับพ่อค่ะ ถ่ายตอนที่เข้ามาอยู่ในบ้านนี้ ตอนนั้นเพิ่งห้าขวบเองมั้ง”
ซินสะดุ้งเล็กน้อย หันมามองคนพูด เหมยหลินยิ้มบางพลางยื่นแก้วนมให้ซิน
“ดื่มหน่อยค่ะ จะได้ดีขึ้น เมื่อคืนซินร้องไห้ทั้งคืนเลย”
“ขอบคุณฮ่ะ”
เหมยหลินมองนมที่ค่อยๆพร่องลง นึกสงสารคนตรงหน้าอย่างจับใจ เธอรู้ว่าการกระทำของตนเสี่ยงต่อการถูกนายใหญ่เล่นงาน แต่จะให้อยู่เฉยๆโดยไม่ทำอะไรเธอก็ทนไม่ได้
“ไปอาบน้ำเถอะค่ะ นายไม่อยู่ ออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้าแล้ว”
ซินพยักหน้าน้อยๆนึกโล่งใจที่อย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ต้องเจอ
เหมยหลินพาซินมาส่งบนห้องของนายใหญ่ กลิ่นอายความโหดร้ายยังปกคลุมไปทั่ว เพียงแต่หายใจเขาก็หวาดหวั่นเสียแล้ว พี่สาวต่างสายเลือดสัญญาว่าจะอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าเขาจะอาบน้ำเสร็จ แล้วจะพาไปทำกิจกรรมให้ลืมความกลัว พอซินทำหน้าสงสัยและขอคำตอบ เหมยหลินก็ทำแค่อมยิ้มเท่านั้น กิจกรรมที่ว่าไม่ใช่อะไร คือการทำขนมนั่นเอง
“เรากินแค่สองคนไม่หมดแน่เลยพี่เหมยหลิน”
“พี่ทำเผื่อคนอื่นๆด้วยค่ะ”
คนอื่นๆที่เหทยหลินบอกคือคนในตระกูลบุญยสิทธิ์ ซินเดินเร็วๆตามแม่บ้านคนสวยไปด้วยความสนอกสนใจ เขาไม่ค่อยได้มีโอกาสออกมาจากบ้านมากนัก ในที่สุดก็เห็นเรือนหลังน้อยที่ตั้งห่างจากเรือนใหญ่ มันเป็นบ้านชั้นเดียวที่ลานล้อมรอบเอาไว้ทั้งสี่ด้าน
“พี่เหมยหลิน...บ้านใครหรอฮะ”
“นายท่านปลูกไว้ให้สำหรับคนที่ต้องการอยู่ที่นี่ ถ้าใครไม่มีบ้านท่านก็ปลูกให้ แต่ต้องอยู่ภายใต้รั้วนี้” เหมยหลินชี้ไปตามแนวกำแพงสูง
ในอกของซินวูบไหว บ้านคนอื่น...ไม่ใช่สิ! บ้านของศัตรูที่มีโอกาศได้เห็น แต่บ้านของบิดากลับไม่เคยได้เห็นแม้แต่กำแพง ได้แต่รอวันที่ท่านพร้อมจะรับเขา แม่ และน้องชายไปอยู่ด้วยกัน ขอแค่มีกันและกันก็พอ แต่ตอนนี้ความหวังที่รอวันที่เป็นจริงมันเลือนหาย เหมือนควันที่ลอยคว้างอยู่มนอากาศ นัท..มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ได้ทำลายมันทั้งหมด โดยอ้างว่าเป็นเพราะความผิดของบิดาของเขาที่ก่อเอาไว้
“เข้าไปบ้างในเถอะค่ะ”
ซินถอยจากความคิดที่ชวนหม่นหมองแล้วก้าวเท้าตามเหมยหลินเข้าไป เดินเข้าไปไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงเด็กร้อง
“พี่เหมยหลิน มีเด็กน้อยด้วยหรอฮ่ะ” ซินถามอย่างตื่นเต้น กวาดตามองหาที่มาของเสียง
“ค่ะ” เหมยหลินตอบยิ้มๆ พลางเดินนำหน้าไป และหายเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง แม่บ้านคนสวยโผล่หน้ามาจากห้องแล้วกวักมือเรียก ร่างบางก้าวยาวเข้าไปยืนชิดกับเหมยหลิน รอยหม่นในตาหายไปทันที เมื่อเห็นร่างเล็กบนเบาะสีหวานเหมือนลูกกวาด ทารกน้อยวัยไม่เกินหนึ่งเดือน ตัวยังแดงๆอยู่เลย ร่างบางรู้สึกตื่นเต้นเพราะว่าไม่เคยเห็นเด็กตัวแดงๆมาก่อน
“นี่ไงค่ะ ที่มาของเสียงร้อง”
เหมยหลินนั่งย่อกายลงนั่งซึ่งซินเองก็ทำตาม แต่ยังไม่กล้าขยับเข้าใกล้มากกว่านั้น ผู้ที่เป็นแม่นอนอยู่ข้างๆกัน ใบหน้าอิ่มเอิบไปด้วยความรักที่มอบให้ลูกน้อย คนที่เป็นแม่ยิ้มให้แขกผู้มาเยี่ยม มิตรภาพเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซินกล้าที่จะเข้าใกล้สองแม่ลูกมากขึ้น
“แย่แล้ว! อาจูโดนฟัน!”
เสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นไม่ไกลนัก ทำให้รู้ทันทีว่าเกิดเหตุร้ายขึ้น แม่บ้านสาวถลาไปตามต้นเสียง โดยมีซินตามไปติดๆ
ภาพที่เห็นทำเอาคนที่เห็นมือไม้อ่อนแข้งขาพานอ่อนแรงจนต้องเกาะเหมยหลินเอาไว้ทันที เสียงร้องโอดครวญของคนที่นอนดิ้นเร่าบนพื้น กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปหมด เสื้อขาวของคนใส่ชุ่มไปด้วยเลือดอย่างน่ากลัว สีแดงฉาดไหลนองเต็มพื้น
“เกิดอะไรขึ้น! ทำไมอาจูถึงโดนเล่นงานได้ล่ะ” เหมยหลินเอ่ยถาม หาคำตอบจากคนที่พาคนเจ็บมา
“ไม่ใช่แค่อาจูหรอกครับ อาถิงด้วย”
พูดไม่ทันขาดคำคนที่เอ่ยถึงก็มา สภาพไม่ต่างกัน ตามร่างมีแผลฉกรรจ์หลายแห่ง เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ซินยกมือขึ้นปิดหู พะอืดพะอมจนอยากจะอาเจียนออกมา มันเกิดอะไรขึ้น เลือด แผล และเสียงร้อง น่ากลัวยิ่งกว่าหนังสยองขวัญที่ดูเสียอีก
“ช่วยเราหน่อยนะครับคุณ กว่าหมอจะมาพวกนี้เสียเลือดตายพอดี”
ซินไม่ได้ปฏิเสธคำขอร้องนั้น สำหรับคนที่อยู่ในวงการมาเฟียมามากกว่าสิบกว่าปี เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องปกติ แต่เขาเองก็ไม่ปรารถนาที่จะเห็นคนตาย ร่างบางเดินหายออกไป ทิ้งให้คนมาด้วยยืนอึ้งด้วยความตกตะลึง
“คุณ! ช่วยห้ามเลือดให้เขาหน่อย ผมจะไปดูคนอื่น”
ชายคนหนึ่งตะโกนบอก ก่อนที่จะหุนหันออกไป ทิ้งให้ซินยืนอยู่กับกลิ่นคาวเลือดและเสียงร้องโอยด้วยความเจ็บปวด ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าจะได้มาเห็นกับตา แม้ว่าบิดาจะเป็นมาเฟีย แต่มือเขาไม่เคยเปื้อนเลือด แม้แต่กลิ่นก็ไม่เคยสัมผัส ร่างบางใจหวิวๆคล้ายจะเป็นลม ร่างกายโงนเงนเหมือนจะล้ม
“อาถิง! ไม่นะ”
ผู้หญิงคนนั้นพุ่งพรวดเข้ามา ซินรู้แต่ว่าเธอเรียกชื่อคนเจ็บ สองมือที่ขาวสะอาดที่เพิ่งประครองลูกรักให้กินนมจากอก ช้อนศีษระที่หนักอึ้งของคนที่ชื่อาถิงวางลงบนตัก ร้องไห้ปิ่มใจจะขาดตรงนั้น
“ช่วยหน่อย! ช่วยด้วย...ช่วยอาถิงด้วย!” หญิงสาวร้องขอความช่วยเหลือให้กับสามีตัวเอง แต่ตรงนั้นไม่มีใครเลยยกเว้นแต่....
ตาที่พร่ามัวเพราะว่าวิงเวียนศีษระ ปรับโฟกัสชัดขึ้นโดยอัตโนมัติ พอจะมองออกว่าผู้ชายที่ชื่ออาถิงคงเป็นคนรักของผู้หญิงคนนั้น การหวิวในอกเลือนหาย สัณชาติญาณของการช่วยเหลือผุดขึ้น
ซินถลาเข้าไปหาคนเจ็บ ก่อนที่วิชาปฐมพยาบาลจะถูกงัดออกมาใช้ ร่างบางหันรีหันขวาง ไม่มีอะไรที่จะพอห้ามเลือดได้เลย บาดแผลที่เกิดจากของที่มีคมกรีดเป็นรอยกว้างตรงบริเวณหน้าท้อง เสือดสีแดงไหลทะลักไม่หยุดหย่อน มือที่หมายจะกดบาดแผลชะงัก คาวเลือดมันมากจนแทบจะอาเจียน
“อาถิง! อย่าตายนะ ลูกของเรา...อากวางไง อากวางรอคุณอยู่นะ!” ยิงสาวร่ำไห้จนฟังไม่ได้ศัพท์ กอดร่างของสามีที่ลมกายใจเริ่มจะอ่อนลงทุกที
ซินกัดปากแน่น กลั้นลมหายใจ กระชากชายเสื้ออย่างไม่สนใจว่าจะขาดไปแค่ไหน พับผ้าให้พอดีกับบาดแผลแล้วกดลง ต้องล้างแผลก่อนที่แผลจะติดเชื้อจนรักษาไม่ได้ ร่างบางกวาดตามองหาอะไรที่พอจะล้างแผลได้ น้ำสีแปลกๆผุดขึ้นมาในความคิด รีบวิ่งไปยังสิ่งที่จะมาแทนแอลกอฮอลล์ได้ มันเป็นขวดเหล้าราคาแพง ตัดสินใจคว้าขวดที่คุ้นตาที่สุด
“โอ๊ย!”
อาถิงร้องดังลั่น กลบเสียงคนเจ็บอีกคน ซินกัดฟันมองอาการปวดแสบปวดร้อนของคนเจ็บ รู้ว่ามันช่วยอะไรไม่ได้มากนักแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย เลือดยังคงไหลไม่หยุด
ร่างบางย่อกายลงใช้ผ้าที่เต็มไปด้วยเลือดเช็ดรอบบาดแผล มือบางสั่นระริกตอนที่เห็นไขมันที่ชั้นใต้ผิวหนัง มันน่ากลัวพิลึก
“ขอโทษนะ ซินช่วยได้แค่นี้ ซินไม่เอาไหน แผลคุณใหญ่มากเลย แต่ขออดทนหน่อยนะ อย่าเป็นอะไรไป ซินไม่อยากเห็นเจ้าตัวน้อยกำพร้าพ่อ”
ซินบอกคนเจ็บ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังร้องไห้ น้ำตาทำให้ตาพร่าจนต้องใช้มือที่เปื้อนเลือดเช็ดมันออก ร่างบางขยับไปทางอีกคนที่ยังไม่ได้รักษา แผลใหญ่ไม่ได้ถูกจุดสำคัญ ท่อนแขนใหญ่ชุ่มไปด้วยเลือดแผลลึกจนเกือบถึงกระดูก ยกขวดไวน์ราดบนแผลมือสั่นจนน่าโมโห ก่อนที่จะใช้มืออีกข้างกดห้ามเลือดไว้
มันเป็นการรักษาที่ทุลักทุเลที่สุด แถมยังร้องไห้สะอึกสะอื้น ราวกับว่าเป็นคนเจ็บซะเอง
“ซิน” เหมยหลินวิ่งพรวดเข้ามาทรุดตัวลงข้างๆ ตกใจไม่น้อยที่เห็นน้องต่างสายเลือดร้องไห้น้ำตานองหน้า
“พี่เหมยหลิน....ซินไม่รู้จะทำอย่างไงดี ซินทำอะไรไม่เป็นเลย แต่ซินสงสารพวกเขา พาพวกเขาไปหาหมอนะฮะ ถ้าเลือดไม่พอเอาเลือดซินไปก็ได้”
แม่บ้านสาวซาบซึ้งในน้ำใจที่ซินมีให้ แม้ว่าจะทำอะไรไม่เป็นอย่างที่พูด แต่ก็ช่วยอย่างสุดความสามารถ
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนของเราถึงโดนโจมตีได้!” นัทตวาดลั่น ทั้งที่ในห้องมีแค่เขาและสมุนมือหนึ่งเท่านั้น
“อาจมีคนเล่นตุกติก ดูเหมือนพวกมันจะเตรียมการมาอย่างดี”
“พวกมัน? ใคร....ไอ้หลีไท้เหรอ”
“คนที่เล่นงานเราเป็นคนของหลีไท้จริงๆครับ แต่คงใช้พวกอื่นมา อาจูจับไว้ได้คนนึง”
“นายหมายความว่าหลีไท้ส่งคนมาอยู่ในพรรคของเรานั้นเหรอ มันเป็นใคร!”
“ต้องเป็นคนที่สนิทกับเรามากพอ ที่จะรู้ว่าเราจะส่งสินค้ากันวันไหนตอนไหน”
“มันน่าเจ็บใจนัก ไอ้หมาลอบกัด!”
นัทขบกรามแน่นระงับความโกรธที่พลุ่งพล่านยิ่งกว่าน้ำเดือด ไอ้เสือเฒ่านั่นเก่งกว่าที่คิด มันสามารถส่งคนเข้ามาในพรรคของเขาได้อย่างแนบเนียน คอยดูเถอะ...เขาจะเอาคืนอย่างสาสม
รอจนแน่ใจว่าผู้เป็นนายอารมณ์เย็นลงแล้ว เชนถึงได้ออกจากห้อง บาดแผลเริ่มออกอาการ หนักกว่านี้เคยมาแล้ว แต่ครั้งนี้จำนวนแผลมันเยอะจนแยกไม่ถูกว่าเจ็บตรงไหนมากกว่ากัน คิดว่าคืนนี้ไข้คงรุมกินเขาแน่
แผลที่หน้าอกดูเหมือนจะหนักสุด มันปวดแปลบแซงหน้าแผลอื่นๆขึ้นมา ชายหนุ่มกัดฟันแน่นฝืนตัวเองเดินไปให้ถึงที่พัก ทุกคนในพรรคต่างก็ได้รับบาดเจ็บ บางคนอาการหนักกว่าเขา ไม่มีใครคิดที่จะไปโรงพยาบาล ทุกคนรู้ดีว่าต้องกลับมารักษาตัวที่นี่หรือไม่ก็ตายที่นี่
ชายหนุ่มพาร่างที่เริ่มอ่อนแรงก้าวผ่านห้องต่างๆ แต่ในขณะที่กำลังจะก้าวข้ามไปยังห้องนอนตัวเอง ก็สะดุดกับร่างของใครบางคน ที่ไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี่
คุณซินเซียร์...คุณมาที่นี่ได้ยังไง!”
เจ้าของชื่อสะดุ้งเล็กน้อย ด้วยความตกใจ เอี้ยวตัวหันมามองเขาใบหน้าสวยเปื้อนเลือด หน้าตามอมแมมเหมือนไปคลุกแยมสีแดง แถมเสื้อผ้ายังดูรุ่งริ่งอีก
“คุณมาช่วยทำแผลให้ผมกับอาจู...ครับ”
เชนลากขาที่หนักมากขึ้นของตัวเองเข้ามาภายในห้อง เชลยเจ้านายถอยห่างอย่างอัตโนมัติ เหมยหลินก็เช่นกัน สองคนถอยห่างไปจนเกือบติดมุมห้อง ร่างสูงย่อกายต่ำ รู้สึกเบาใจขึ้นเยอะที่อาการของอาถิงไม่หนักอย่างที่คิด
“คุณซิน...คุณไม่ควรอยู่ที่นี่นะครับ”
“เอ่อ...ซินเอาขนมมาให้คนงานที่นี่ แต่ก็เจอกับ....แล้วจะให้ทำอย่างไงล่ะ คนเจ็บอยู่ตรงหน้าใครจะไปทนได้ ซินไม่ได้ใจดำเหมือนเจ้านายของคุณนะ” ใบหน้าสวยงอง้ำ
“กลับได้แล้วครับ นายมาแล้วคงตามตัวคุณให้วุ่น
ร่างสูงลุกขึ้นหมายจะก้าวไปหาร่างบางนั่น แต่เพราะว่าเลือดที่ยังไหลไม่หยุดตามจุดต่างๆทำให้อ่อนแรง แค่ก้าวขาก็เซจนเกือบล้ม ทว่ามือน้อยๆของใครบางคนช่วยประคองไว้ก่อนที่จะล้มกระแทกพื้น
“ซินกลับเองได้ แต่คุณน่ะแค่เดินยังไม่ไหว” ร่างบางเอ็ดเบาๆ ก่อนที่จะออกแรงรั้งร่างที่จวนจะล้มลงให้ลุกขึ้น แต่น้ำหนักของเชนไม่ใช่น้อยๆ
“เอ่อ...พี่เหมยหลินฮะ” เสียงนั้นคือการของความช่วยเหลือ แม่บ้านสาวไม่พูดอะไร แต่ก็เข้าไปช่วยพยุงร่างใหญ่ไว้อีกแรง รู้สึกว่าใจเต้นผิดจังหวะเมื่อได้ใกล้ชิดกับเขา
เชนไม่ได้ปฏิเสธการช่วยเหลือ เหมยหลินนำทางไปยังห้องพักของเขา เธอเข้าออกที่นี่ทุกวันไม่ต่างจากเรื่อนใหญ่ จึงรู้จักทุกซอกทุกมุมเป็นอย่างดี หากชายหนุ่มรู้สึกสมเพชตัวเอง ลูกน้องตัวเอ้ของมาเฟียใหญ่กำลังตกอยู่ในสภาพน่าเวทนา
ในบ้านหลังใหญ่ที่ปกติน่ากลัวเหมือนปารสาทผีดูดเลือดยิ่งน่าหวาดหวั่นมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่ามีบางอย่างรอเขาอยู่ข้างใน ซินกำมือแน่น สองขาสั่นๆก้าวเข้าไปภายในบ้าน โคมแชลเดอเลียร์ใหญ่กลางห้องไม่ได้ทำงาน มีเพียงแค่แสงไฟสีส้มนวลตาเปิดไว้ที่เสาเท่านั้น ไร้เงาคนที่กลัวจับใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่อยู่ที่นี่ เหมือนเล่นซ่อนหา แต่ซินเป็นคนซ่อนและรอคอยให้ผู้หามาล่าตัวไป
เสื้อผ้าขาด เนื้อตัวมอมแมมขนาดนี้คงต้องกลับไปที่ห้องของมาเฟียใจร้าย แม้ว่าจะหวาดหวั่นแต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ ลากขาหนักๆของตัวเองไปยังห้องที่ไม่อยากแม้แต่จะคิดถึง มือบางแตะที่ประตูไม้เนื้อหนา เบาๆ ใจหายวาบเมื่อมันถูกดันเข้าไปอย่างง่ายดาย ประตูไม่ได้ล๊อก!
ภายในห้องมืดสนิท ร่างบางภาวนาให้เขาหลับไปแล้วหรือไม่ก็อยู่ในห้องน้ำ ตาคู่สวยยังคงปรับสภาพกับความมืดไม่ได้ มองไม่เห็นอะไรเลย ทุกอย่างเป็นสีดำไปหมด อาศัยความจำควานหาตู้เสื้อผ้าและพยายามเดินอย่างระมัดระวังที่สุด เพราะว่ากลัวจะเตะจะชนอะไรเข้า
พรึ่บ!
แสงไฟสว่างวูบขึ้นกลางศีษระพอดี ต้องหลับตาเพื่อปรับโฟกัสตา
“มันไม่ใช่หน้าที่ของเธอที่จะไปจุ้นจ้านที่บ้านหลังเล็ก”
เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นไม่ไกลนัก สิ่งที่ภาวนาเป็นจริงเลยสักครั้ง ร่างบางตัดสินใจเปิดตาเพื่อยอมรับความเป็นจริง ร่างใหญ่อยู่ไม่ห่าง
“ซินเอาขนมไปให้พวกนั้น” ตอบเสียงเบา สายตาหลุบต่ำมองพื้น ยังไม่อาจทำใจกล้าสบตาเรียวคู่นั้น ทุกการกระทำที่เขาทำไว้เมื่อคืนยังคงหลอกหลอนอยู่
“ฉันสั่งห้ามเธอแล้วใช่มั้ยว่าอย่าออกไปไหน ทำไมถึงกล้าขัดคำสั่ง!”
เพียงพริบตาเดียวร่างสูงก็ประชิดถึงตัว โดยที่ร่างบางไม่มีโอกาศได้หนี มือใหญ่กุมต้นแขนนุ่ม กวาดสายตาสำรวจ คนที่อวดดี กลิ่นเลือดอบอวลเส้นผมยุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดวิ่น แถมเนื้อตัวยังเปื้อนเลือดอีกด้วย
“เจ็บ” ซินครางเบาๆ ยกมือแกะปลายนิ้วแข็ง
“เหมยหลินพาออกไปใช่มั้ย คอยดูนะ...จะเล่นงานให้หนักเชียว”
“อย่านะ!” ซินร้องห้ามเสียงดัง
“พี่เหมยหลินไม่ได้ทำอะไร ซินขอไปเอง แค่ออกนอกบ้านไม่ได้ออกนอกรั้ว แล้วก็ไปดูลูกของอาถิงด้วย”
“พี่เหมยหลิน? สนิทกับแม่บ้านถึงขั้นเรียกพี่ นี่คิดที่จะซ่องสุ่มคนเก็บไว้หักหลังฉันหรือไง”
ทุกความคิดของเขาไม่เคยมีเรื่อดีเลย อะไรที่ทำเป็นสิ่งเลวร้ายไปเสียหมด ขอบตาร้อนผ่าว ความเหนื่อยล้าสะสมกับความน้อยใจผสมกับความกลัวขับเป็นน้ำตา ก้มหน้าจนคางชิดอก ไม่อยากให้เขาเห็นความอ่อนแอ
ไหล่บางไหวเล็กน้อย เขารู้ว่าซินกำลังร้องไห้ ความกรุ่นโกรธในอกลดลงเล็กน้อย ที่โกรธเพราะว่าเป็นห่วง เขากลับมาไม่เจอกับใครเลยทั้งเหมยหลินและก็เชลยของเขา
“ขอร้องนะ อย่าทำอะไรพี่เหมยหลินเลย”
“จะแลกกับอะไรล่ะ”
“แลก?” คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความสงสัย
“ฉันไม่ได้เป็นแค่มาเฟียนะ แต่ยังเป็นพ่อค้าด้วย ทุกการต่อรองต้องมีการแลกเปลี่ยน”
ปลายนิ้วเรียวแต่แข็งช้อนคางมนขึ้น ตาคมจ้องมองดวงหน้าที่หวานซึ้งเกินชายที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำตาและเลือดที่แห้งกรัง รสสมผัสเมื่อคืนยังตราตรึง น้อยคนนักที่ทำให้เขาติดใจได้ถึงขั้นแค่หลับตาก็นึกถึง
“แล้วคุณ...ต้องการ...อะไร” ปลายเสียงแผ่วเบาลงจนเกือบไปได้ยิน นัทยิ้มแฝงความนัยคิดว่าคนตรงหน้าก็รู้ว่าจะต้องแลกกับอะไร
“แล้วแต่เธอจะให้กอด จูบ หรือมากกว่านั้น”
“แค่หอมไม่ได้หรอ” คงเพราะรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องการอะไร การต่อรองเล็กๆจึงเกิดขึ้น
“ไม่ได้! จูบนี่ยังน้อยเกินไปด้วยซ้ำ นี่คดีใหญ่นะ” นัทขู่ อีกฝ่ายตาไหววูบทั้งตัวสั่นน้อยๆ
“แต่ฉันไม่ได้อยากจูบกับเธอทั้งที่สภาพแบบนี้หรอกนะ ไปอาบน้ำแล้วอย่าคิดถ่วงเวลา ไม่อย่างงั้นฉันจะเข้าตามไปทบทั้งต้นทั้งดอกในห้องน้ำนั้นแหละ!”
ซินถูกปล่อยเป็นอิสระ ตาวาวของคนตรงหน้าทำให้ได้สติ รีบคว้าของใช้ส่วนตัวแล้ววิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ มีเวลาไม่นานมากนักกับการอาบน้ำเพราะว่ากลัวว่าคำขู่จะเป็นจริง ผ่านไปห้านาทีก็มายืนตัวหอมอยู่หน้ามาเฟียตัวร้าย เส้นผมยังเปียกชุ่มจนน้ำหยด
“ทำไมชอบทำให้ผมเปียกนักนะ” อีกคนบ่นเบาๆใช้ผ้าขนหนูที่พาดคอวางบนศีรษะเล็กแล้วขยี้เบาๆไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงอยากเช็ดผมให้คนคนนี้ อย่างที่ไม่เคยอยากที่จะคิดทำให้ใครมาก่อน
ซินพูดอะไรไม่ออก บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไง แปลกใจหรือกลัว ยังไม่ลืมกับเรื่องที่เกิดเมื่อคืน แต่ความอ่อนโยนผิดปกติของเขาก็ทำให้หวั่นไหว
“ค่อยดูได้หน่อย”
ซินเงยหน้ามองคนพูด ใจกระตุกวูบ แววตาของเขาอ่อนลงมีรอยยิ้มที่มุมปาก แต่เพียงแค่กระพริบตามันก็หายไป มือหนาสอดเข้ารัดเอวบาง แทบไม่ต้องออกแรงมากซินก็ลอยเข้าสู่อ้อมอกกว้าง ใบหน้าสวยแหงนเงยไม่ใช่เต็มใจแต่จำใจ หลับตาแน่นเมื่อเห็นว่านัทก้มหน้าต่ำลงมา ใจเต้นแทบจะหลุดออกนอกอก
นัทยิ้มบาง ก่อนที่จะกดริมฝีปากทับกลีบปากบางที่สั่นเล็กน้อย ชายหนุ่มนวดคลึงหยอกเย้าด้ายการใช้ฟันกัดเนื้อนิ่มเบาๆ มือไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียน เขาเพิ่มน้ำหนักจนอีกคนต้องแหงนหน้ารองรับ ไม่มีเสียงครางประท้วงมีแต่ต้องยอมรับเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่เลือกแล้ว
ปลายลิ้นใหญ่ร้อนสอดแทรกซึมเข้าสู่กลีบปากบางที่เผยอ นัทแตะอย่างลองเชิง เมื่อไม่ขัดขืนก็เดินหน้าต่อ เบียดกายชิดกับร่างบางมากขึ้นด้วยแรงอารมณ์ที่เพิ่ม ไม่รู้ว่าเขาจะหยุดตัวเองอยู่ที่จูบได้หรือเปล่า
ร่างสูงก้าวเท้าเดินหน้าโดยพาร่างบางไปด้วย ในขณะที่ซินก้าวขาสั่นๆถอยหลังตามแรงดันจนกระทั้งต้นขาชนกับขอบเตียง เขาเบียดจนร่างบางล้มลงนอนแผ่บนเตียงนุ่ม แต่ริมฝีปากไม่คลาดเคลื่อนจากกันแม้วินาที ร่างสูงเฝ้าวนเวียนมอบจุมพิตรสชาติหวานปนเฝื่อนอย่างไม่หยุดหย่อน หากเมื่อถูกปั่นป่วนมากขึ้นกอปรกับเหนื่อยล้าจากเรื่องที่เกิดขึ้น สติชักเลือนหาย
มาเฟียหนุ่มเงยหน้ามองลูกของศัตรู ตาสวยหรี่ปรือจวนจะปิดเต็มทีกายเล็กนิ่งเฉย มีเพียงแค่สองมือเท่านั้นที่เกาะเขาไว้กลายๆ นัทเลื่อนมือที่ลูบไล้เอวคอดขึ้นสูงที่ละน้อย พอใจกับผิวลื่นของคนใต้ร่างอย่างหลงใหล
เสียงกรนเบาๆดังขึ้นจากคนใต้ร่าง มือที่เกาะไหล่เขาไว้ไหลตกแหมะอยู่ข้างเตียง ตาสวยที่ตอนนี้ปิดสนิท ผ่อนลมหายใจยาวอย่างสม่ำเสมอ
ให้มันได้อย่างนี้สิ เล่นหลับเสียอย่างนั้น ทิ้งเขาค้างเติ่งกลางอากาศลงไม่ได้ นัทชันกายขึ้น เขาเองก็ไม่ได้หน้ามืดถึงขนาดจะข่มขืนคนหลับได้ ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจยาวๆ คงต้องหาวิธีดับอารมณ์ด้วยตัวเอง ร่างสูงเดินเข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้คนเพลียได้นอนพักผ่อนต็มที่สมกับที่เหนื่อยมาทั้งวัน
ความคิดเห็น