ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เชลยรักมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #12 : เชลยรักมาเฟีย ตอนที่11

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.พ. 56


              เปลือกตาบางกระพริบช้าๆ รู้สึกเหมือนถูกสิบล้อทับทั้งคัน ทุกส่วนในร่างกายเมื่อยขบ ในปากระบมจนแทบจะอ้าปากขยับไม่ได้ หัวก้หนักอึ้งยกไม่ขึ้น ไข้ถามหาแล้วจริงๆ

              “ตื่นแล้วหรอคะ คุณหลับไปเป็นวันเลย”  เสียงคุ้นดังขึ้นใกล้ๆ เหมยหลินนั่นเอง แม่บ้านสาวกำลังบิดน้ำจากผ้าขนหนูผืนเล็ก เผื่อที่จะเตรียมเช็ดตัวให้กับคนไข้

              “ไม่เอา...หนาว”

              “ตัวคุณเพิ่งจะหายร้อนเองนะคะ ต้องเช็ดตัวอีกนิด”

              “ซินไม่สบายเหรอ” ร่างบางหงุดหงิดกับเสียงที่เหมือนเป็ดของตัวเอง แถมคอก็แห้งจนขม

              แม่บ้านสาวพยักหน้าเบาๆ ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปเงียบๆ ก่อนที่เจ้าตัวจะหลับไปเพราะฤทธิ์ยา แล้วจึงเก็บอุปกรณ์ทั้งหมดออกจากห้องไป

     

              นัทมองคนที่เดินเข้ามา ดวงตาเรียวดุดันฉายแววไม่พอใจ โดยเฉพาะกระเช้าของบำรุงทั้งหลาย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหมอนนี่ไม่ได้มาเยี่ยมเขาแน่

              “แกมาทำไม”

              ภานุยักคิ้วให้กับคำถามที่ฟังดูไม่เป็นมิตร แต่คนอย่างเขาไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะว่าคนที่ต้องการพบไม่ใช่ญาติผู้พี่เสียหน่อย ร่างสูงไม่แพ้เจ้าของบ้านไม่ตอบคำถาม แต่กลับถามหาอีกคน

              “ซินอยู่ไหนครับ ผมมาเยี่ยมซิน”

              “มาเยี่ยมทำไม ไม่ได้เป็นอะไร” นัทรู้ว่าตัวเองกำลังโกหก หากแต่เขาไม่ชอบใจที่ภานุทำท่าสนใจลูกของศัตรูออกนอกหน้า

              “ทำไมจะไม่เป็น พี่เล่นส่งซินไปที่โฮสต์คลับของพี่  รู้มั้ยถ้าวันนั้นผมไม่บังเอิญเข้าไปเอาเอกสารที่ลืมไว้อะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเป็นคนอื่นที่เรียกซินเข้าไปมันจะเป็นยังไง ผมรู้ว่าพี่แค้นพ่อของซิน แต่นี่มันลูกนะ คนละคนกัน พี่ไม่รู้หรอกว่าซินน่าสงสารแค่ไหน”  คนพูดเริ่มมีอารมณ์เล็กน้อย ใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตากับเนื้อตัวที่สั่นเทานั่นยังติดในใจไม่หาย  มือเรียววางกระเช้าของเยี่ยมที่เต็มไปด้วยของบำรุง

              นัทคิดในใจ....ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าซินหวาดกลัวแค่ไหน แต่เพราะว่าต้องการสั่งสอนไอ้หลีไท้ เขาจึงต้องนั่งดูภาพจากกล้องวงจรปิด แล้วห้ามใจตัวเองเป็นร้อยรอบว่าไม่ให้บุกเข้าไปช่วย แต่อย่างว่าที่ภานุบอกก็ถูก ถ้าคืนนั้นแขกที่เข้าไปไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องของเขา ซินอาจจะต้องแปดเปื้อนมากกว่านี้ แม้จะเตรียมการอย่างดี แต่มันก็อาจจะผิดพลาดได้ทุกเมื่อ

              “เอาของวางไว้แล้วก็ไปได้ เดี๋ยวฉันจะเอาไปให้เอง”

              “ไม่ ผมจะให้กับมือตัวเอง”

              “ฉันไม่ให้แกพบซิน กลับไป!

              “พี่เหมยหลิน...ซินอยากจะหัดทำขนม อ้าว!..คุณภานุ”

              นัทอยากจะลากคนตัวดีกลับขึ้นห้อง อยู่ได้เป็นวันไม่ยอมลุกจากเตียง แต่พอนายภานุโผล่มาก็ลุกขึ้นเดินปร๋อ แถมเสียงยังใสเหมือนไม่ได้นอนป่วยมาสองวัน

              “หวัดดีครับคุณซิน”

              “หวัดดีฮะคุณภานุ”

              “ผมมาเยี่ยมครับ เป็นห่วง” มือขาวส่งกระเช้าที่วางเมื่อครู่นี้ให้กับร่างบางตรงหน้า

              “ในกระเช้ามีของบำรุงเยอะแยะเลย คุณซินทานให้หมดนะครับ”

              “ของคุณฮะ ซินจะกินให้หมดเลย” คนที่เพิ่งฟื้นไข้รู้สึกดีขึ้นเยอะ เมื่อได้รับน้ำใจที่หยิบยื่นให้ ร่างบางเอื้อมมือหมายที่จะรับกระเช้า แต่กลับถูกมือดีตัดหน้าไปซะก่อน

              “ขอบใจ นายกลับไปได้แล้ว คนของฉันต้องการพักผ่อน”

              คิ้วเข้มยกขึ้น นึกขัดใจกับเสียงที่เน้นย้ำว่า `คนของฉัน´ การกระทำของญาติผู้พี่มันน่าสงสัยมากขึ้นทุกที ปากก็บอกว่าเอามาแก้แค้น แต่การกระทำหลายอย่างบอกว่ากำลังหวงเชลยของตัวเอง ไม่ใช่แค่หวงธรรมดา แต่หวงมากเสียด้วย

                ภานุปล่อยมือจากกระเช้า ยอมให้พี่ชายรับไป แต่ตายังจ้องที่หน้าดุอย่างไม่คลาดเคลื่อน

              “คุณซินเป็นอะไรเหรอครับ”

              “เอ่อ...ไม่เป็นอะไรหรอกฮะ แค่ป่วยนิดหน่อย”

              “อย่าบอกนะครับ ว่าตั้งแต่วันนั้นแล้วยังไม่ดีขึ้น” เขาถามด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะว่าแค่ขวัญเสียไม่น่าถึงขึ้นจะป่วย

              “ไม่ใช่หรอกฮะ”

              “ไม่ใช่เรื่องของแก กลับไปได้แล้ว...เห็นแล้วหงุดหงิด”

              เจ้าของบ้านเอ่ยปากไล่อย่างที่ไม่คิดที่จะรักษาน้ำใจ แต่คนฟังไม่สะทกสะท้าน ต่อให้เอาน้ำร้อนมาสาดเขาก็ไม่ไป ถ้าหากยังไม่หายคิดถึงร่างบางตรงหน้า

              ไม่เพียงพูดเปล่า ยังคว้าไหล่คนของตนไปกอดเอาไว้ แสดงความสนิทสนมให้อีกคนได้ตกใจเล่น

              ซินเงยหน้ามองเข้าของมือที่กุมไหล่ตัวเองไว้แน่น ซินไม่ชอบให้เขาทำแบบนี้เลย มือเล็กเงื้อปัดปลายนิ้วแกร่ง แต่เขาก็กดแน่นจนซินต้องยอมแพ้

              “แล้วไง คิดว่าผมจะสนเหรอ”

               จริงอย่างที่ว่า ภานุไม่สนใจทั้งคำพูดและการกระทำ ร่างสูงขยับเข้าใกล้ร่างบาง ที่ตอนนี้ถูกเบียดอยู่ตรงกลางเหมือนใข่แดงไม่มีผิด ไหล่กว้างแข็งแรงเกยกับต้นแขนของซินแนบสนิทยิ่งกว่าที่มาเฟียจอมโหดโอบไหล่เขาไว้เสียอีก สองหนุมจ้องตากันไม่กระพริบ ไม่มีใครยอมใคร นัทหรี่ตามองญาติผู้น้องอย่างเอาเรื่องขณะที่อีกฝ่ายยักคิ้วสู้

              “เอ่อ...ไม่ทราบว่าคุณภานุจะรับประทานอาหารที่นี่เลยหรือเปล่าคะ”

              ไม่ใช่แต่ซินเท่านั้นที่อึดอัดกับสถานการณ์แบบนี้ กระทั้งตัวของเหมยหลินก้ยังรู้สึกอิหลักอิเหลื่อ ทั้งลูกลูกพี่ลูกน้องที่ต่างไม่ยอมกันยืนเบียดร่างบางทั้งที่พื้นที่บ้านออกจะกว้างขวาง ไข่แดงตรงกลางขยับขยุกขยิกจนในที่สุดก็ออกมาจนได้ ไม่ใช่เพราะเรี่ยวแรงที่เยอะ แต่เป็นเพราะว่าทั้งสองคนยอมถอยออกให้

              “จัดเลยครับ”

              “ไม่ต้อง”

              “ผมจะกิน พี่อย่าหวงหน่อยเลย อะไรกัน...เป็นถึงมาเฟียใหญ่หวงกินไปได้”

              “ฉันเลือกหวงเฉพาะกับบางคนเท่านั้นแหละ”

              “ไม่ได้หวงข้าวหรอกมั้ง ผมว่าห่วงอย่างอื่นมากกว่า”

              “แกหมายความว่ายังไงนายภานุ ฉันเป็นพี่แกนะ!

              “พี่เหมยหลิน....ซินไปช่วยนะฮะ” แม่บ้านสาวยกยิ้ม ทั้วสองช่วยกันคนละไม้คนละมือ เมนูอาหารไม่ยากนักแต่ปริมาณค่อนข้างเยอะเพราะว่าไม่ใช่แค่นายใหญ่ ภานุ แต่ยังมีคนอื่นๆในบ้านอีก เกือบสามสิบกว่าชีวิตที่อาศัยอยูภายอาณาบริเวณบ้านหลังนี้

              “พี่เหมยหลิน   ทำไมเดี๋ยวนี้ซินไม่เห็นคุณเชนเลยฮะ”

              “พี่ไม่รู้หรอกค่ะ ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่”

              “เชนเขาไปทำงานใหญ่น่ะ งานที่จะทำให้พ่อเธอหัวใจวายตายได้”

              ไม่ใช่แค่คำพูดที่ลอยเข้ามา สองมือใหญ่ยังสอดรัดเอวบาง ไม่มีการรั้งดึง มีแต่กายใหญ่ที่แข็งแรงที่เข้าประชิดแผ่นหลัง ร่างบางห่อไหล่น้อยๆหนีไออุ่นจากร่างสูง นัทเลยถือโอกาสวางคางบนไหล่มน ซินดิ้นน้อยๆ แต่ไม่อาจออกแรงมากกว่านั้นได้ เพราะว่ากำลังคนน้ำซุปอยู่ในหม้อ

              “หอมจัง ไม่ใช่น้ำซุปนะ...แต่เป็นแก้มของเธอ”

              “อ๊ะ!...ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ” ร่างบางบอกเสียงรอดไรฟัน

               ร่างสูงไม่ฟังซ้ำยังกดจมูกโด่งลงแน่นบนแก้มเนียนอีดต่างหาก  ร่างบางเอี้ยวตัวมองหน้าคนทำ ตาโตถลึงใส่แต่อีกฝ่ายกลับไม่สะทกสะท้าน  ซ้ำยังทำแบบเดิม เท่ากับว่าซินถูกมาเฟียตัวร้ายหอมแก้มไปสี่ครั้ง ก่อนที่คนทำจะกอดกระชับที่เอวบางแนบแน่นกว่าเดิม ทุกการกระทำตกอยู่ในสายตาของแม่บ้านและแขกผู้มาเยือน

              “ถะ...ถอยออกไปหน่อยสิ ซินทำอาหารไม่สะดวก”

              คนถูกแกล้งใช้ศอกกระทุ้งหน้าท้องแข็งแรง ทั้งโมโหทั้งอาย จนอยากจะเอาทัพพีคนน้ำซุปตีหัว

         หน้าคนขี้แกล้ง นัทไม่ปฏิเสธใช่ว่าหมดสนุกแต่ท้องเริ่มร้องแล้วต่างหาก

              “อีกนานมั้ยฮะกว่าผมจะได้กินคุณซิน....เอ้ย!ฝีมือของคุณซินนะครับ”

              “อีกนานมั้ยฮะพี่เหมยหลิน”  ร่างบางหันไปถามแม่บ้านที่ง่วนอยู่กับการเตรียมผัก

              “อีกไม่นานหรอกค่ะ อีกนิดเดียวน้ำซุปก็จะได้ที่แล้ว”

              ภานุพยักหน้าหงึกหงัก ไม่ได้สนใจคำตอบของแม่บ้านเท่าไหร่ แต่สนใจคนทำมากกว่า

               ไม่นานอาหารทั้งสามอย่างก็ถูกปรุงเสร็จ ด้วยฝีมือของซินและเหมยหลินที่ช่วยกัน บนโต๊ะอาหารบรรยากาศตึงเครียดคลายลง ทุกคนต่างก็หิวจัดจนไม่มีเวลาปะทะคารมกันอีก ซินรู้สึกพอใจกับอาหารฝีมือของตัวเองที่ไม่มีเสียงติติงถึงรสชาดออกมาให้ได้ยิน

              นัทออกปากไล่ญาติผู้น้องทันทีที่จบมื้อเย็น ภานุทำท่าอิดออดไม่อยากไป แต่ยื่นข้อแม้ว่าซินต้องไปส่งที่รถ ซึ่งเจ้าของบ้านไม่ได้อนุญาต แต่ก็ไม่ได้คัดค้าน ร่างบางสาวเท้าเดินเอื่อยตามเขาไปจนถึงรถคันหรู ภานุยังไม่ยอมขึ้นรถ หากเอื้อมมือมาคว้ามือเรียวไปกุมไว้  ดีใจที่ซินไม่ดึงมือหนี

              “ผมเป็นห่วงคุณนะซิน พี่นัทไม่เหมือนคนอื่นซะด้วย รักแรงเกลียดแรง เขาฝังใจกับพ่อคุณมาก ระวังตัวไว้ให้ดี อย่าไปทำให้เขาโกรธหรือไม่พอใจ ผมอยู่ช่วยคุณตลอดไม่ได้”

              “ซินทราบฮะ”  ศีรษะเล็กก้มต่ำ ตาสวยหลุบมองปลายเท้าตัวเอง ย้อนนึกถึงสิ่งที่ภานุบอก นัทไม่เหมือนคนอื่นๆที่เคยเจอมา ร้ายกาจ ป่าเถื่อน ดวงหน้ามนเงยหน้าขึ้น ซ่อนความหวาดหวั่นไว้ภายในส่วนที่ลึกที่สุด

              “อย่าห่วงซินเลยฮะ ซินก็รักตัวกลัวตายเหมือนกัน คงไม่ทำอะไรโง่ๆหรอกฮะ ขับรถดีๆนะฮะ ขอบคุณมากสำหรับของเยี่ยม”

               ร่างสูงยิ้มจนตาปิด อยากจะรั้งร่างบางตรงหน้ามากอดแทบแย่ แต่ต้องห้ามใจตัวเองไว้ อีกอย่างเสือตกมันยังยืนจ้องตาไม่กระพริบอยู่หน้าประตูบ้านอีก จึงได้แต่เอ่ยลาก่อนที่จะก้าวขึ้นรถไป

              ซินรอจนกระทั้งรถหรูแล่นหายไปสุดสายตา ร่างบางถอยกลับเข้าบ้าน ตกใจเล็กน้อยที่เห็นร่างใหญ่ยืนขว้างอยู่หน้าประตูบ้าน ใบหน้าถมึงทึงยิ่งเพิ่มความน่ากลัวเป็นทวีคูณ ดูเหมือนว่าจะทำอะไรผิดในสายตาของเขา

              “ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามอ่อยมัน คิดที่จะเอานายภานุมาเป็นพวกตัวเองหรือไง”

              ซินไม่ตอบโต้เพราะว่าไม่อยากถือคนพาล เดินเลี่ยงหวังจะหนีไปให้พ้น เผื่อว่าบางทีถ้าเขาไม่เห็นหน้าอารมณ์อาจจะดีขึ้น แต่ยังเดินไม่พ้นแขนก็ถูกกระชากจนเซไปปะทะกับแผงอกหนา

              “เวลาฉันพูดอย่าเดินหนี ต้องฟังให้จบเข้าใจมั้ย!

              “อย่ามาหาเรื่องกันนะ ซินไม่เคยคิดอย่างที่คุณคิด”  ซินเถียงแต่ก็ต้องเบ้หน้าเมื่อแขนถูกบีบแรงขึ้น

              “คิดมากว่านั้นน่ะสิ ติดใจมันตั้งแต่อยู่ที่ ยู ว๊อนท์ มี กับมันแล้วใช่มั้ย? อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันเธอนะซินเซียร์ เล่ห์กลอุบายไม่ได้ต่างจากพ่อของเธอมากนักหรอก ที่คิดจะอ่อยเพื่อหาคนมาเป็นพวก”

              “อย่าเอาพ่อมาเกี่ยวนะ!” ซินตวาดลั่น ไม่ชอบใจที่เอาบิดามาเกี่ยวด้วย โก่งตัวหนีจากอุ้งมือแข็งแต่กลับถูกลากเข้าสู่ตัวบ้าน  ห้องโถงใหญ่ไร้เงาเหมยหลินที่น่าจะอยู่ช่วยตัวเขาได้บ้าง มือใหญ่ยังบีบแน่นที่ต้นแขน สองขากักไม่ให้ร่างบางหนีไป ซินโกรธมากกว่ากลัวแล้ว แม้ว่าเพิ่งจะได้รับคำเตือนมาหมาดๆ แต่ไม่อาจจะระงับความโกรธได้แล้ว

              “จะไม่เกี่ยวได้ไง ก็ไอ้หลีไท้มันเป็นพ่อของเธอ มันก็แปลว่าเชื้อย่อมไม่ทิ้งแถว พ่อเธอเลวยังไง เธอเองก็คงจะไม่ต่างกัน คิดที่เอาตัวเข้าแลกเพื่อที่จะให้ไอ้ภานุมันช่วยเธอหนีไปงั้นเหรอ...ใช่มั้ยล่ะ!         
               เพี๊ยะ
    !

          ซินไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเหวี่ยงมือใส่หน้าของมาเฟียได้ยังไง ใบหน้าขาวหล่อจัดหันสะบัด ซินเห็นผื่นแดงขึ้นที่แก้มนั้นชัดจนตัวเองยังตกใจ หากก็ต้องตกใจซ้ำสองเมื่อตาวาวหันกลับมา ไม่มีคำพูด ไม่มีคำด่าทอ มีแต่สายตาและไอร้อนที่แผ่จากร่างใหญ่เท่านั้น ทำให้รู้สึกได้ถึงความโกรธที่มี ร่างเล็กดิ้นหนีทันที รับรู้ได้ถึงอันตรายใหญ่หลวง

              “ยะ...อย่านะ”  ซินร้องลั่น เบี่ยงหน้าหนีใบหน้าที่ก้มต่ำลงมาอย่างรวดเร็ว ปลายนิ้วบีบแก้มบังคับให้ร่างบางยอมรับจุมพิตที่ป่าเถื่อนที่สุด ซินหลับตาแน่น ริมฝีปากบางถูกกระแทกอย่างแรงซ้ำกันหลายที ไม่นานปลายลิ้นก็ได้รสเลือดที่เค็มปร่า ปากบางเริ่มบวมเห่อจากกระถูกกระแทก เขาจงใจทำให้ซินเจ็บเพื่อสั่งสอน หัวใจเต้นรัวเมื่อลิ้นใหญ่ร้อนสอดเข้ามาลิ้มชิมความหวานภายในโพรงปาก  อยากจะหนีแต่ทำไม่ได้

              “อื้อ” ซินประท้วงแต่ไม่ได้รับความเห็นใจ ร่างบางดิ้นอึกอักไม่ยอมรับการลุ้กล้ำที่เริ่มจะล้ำลึกมากขึ้น

              มือใหญ่ที่บีบกระชับแท่นแขนเรียว เปลี่ยนมาเป็นเกี่ยวกระหวัดรัดเอวบางแล้วรั้งดึงให้แนบชิดลำตัว 

    ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขาปล่อยให้กลิ่นกายหอมหวาน ผิวเนื้อนวลขาวยิ่งกว่าน้ำนมเข้ามารบกวน

              เรือนกายหนาแนบชิดกายบาง ใบหน้าสวยเบี่ยงหนีริมฝีปากที่รุกไล่ หากแต่นัทจับทางได้หมด ไม่ว่าจะหนีปทางไหนเขาก็ดักทางถูกจนปากซินเจ็บไปหมด รสจูบที่ไม่มีความอ่อนหวานไม่ได้ทำให้คล้อยตามกลับยิ่งเพิ่มความหวาดกลัวให้มากขึ้น มือใหญ่เกี่ยวไล้อยู่ที่บั้นเอว ปลายนิ้วร้อนเกลี่ยไปทั่วแผ่นหลังบาง

              ซินใจหายวาบ เมื่อเสื้อยืดตัวบางถูกมือใหญ่สอดเข้าไปด้านใน ซินร้องประท้วงสองมือน้อยดันแผงอกแกร่งให้ออกห่าง  ร่างบางสั่นสะท้านเมื่อปลายนิ้วร้อนแตะแผ่วเบาบนยอดตุ่มใตด้านใน

               “อ๊ะ...อย่า..ปล่อยนะ” ร่างบางสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วบีบตุ่มใต หยอกล้อเล่นอยู่ด้านใน ดูเหมือนนัทจะรู้ทัน ร่างหนาเบียดดันจนซินต้องก้าวถอยหลัง หระทั้งข้อพับแตะถูกขอบโซฟาตัวใหญ่ ร่างบางลอยหล่นโดยมีคนตัวใหญ่ล้มทับอยู่ด้านบน

              ตาโตเบิกโพลงมองคนตรงหน้าอย่างตื่นตระหนก หากแต่ตาของอีกคนหลับทอประกายเจิดจ้า นัทหลุบตามองมองริมฝีปากบางที่บวมขึ้นเล็กน้อยจากแรงขยี้ ผิวสีน้ำนมเข้มขึ้นด้วยสีเลือดซับ เส้นผมยาวสยายเต็มบนโซฟา หัวใจดวงน้อยที่เต้นรัวใต้ร่างเขา

              ให้ตายสิ! เขาอดอยากปากแห้งมาจากไหนกัน ถึงได้เห็นคนคนนี้น่าหลงใหล น่าปรารถนาถึงเพียงนี้ ทั้งที่ความจริงแล้วเขาไม่เคยห่างหายจากเรื่องอย่างว่านี้เลย มีผู้หญิงเข้ามาเป็นว่าเล่น แต่ทำไม่หัวใจเขาถึงเรียกร้องโหยหากลิ่นหอมหวานจากร่างนี้ตลอดเวลา ลูกของศัตรูเหมือนของห้ามที่แสนท้าทาย

              มือใหญ่สอดเข้าระหว่างสองร่างที่แนบชิดกัน ร่างบางหายใจแรงจนเขารู้สึกได้ ดวงตาคู่สวยไหวระริก ศีรษะน้อนส่ายไปมา ปฏิเสธการกระทำที่จะดำเนินต่อไป

              “ไม่นะ...อย่า”  ซินได้รับเพียงแค่รอยยิ้มที่น่ากลัวมาแทนความเห็นใจ ไม่มีความปราณีให้เห็น ร่างบางกลัวจับใจ หายใจแรงจนสีข้างเริ่มเจ็บ เบี่ยงกายหนีมือใหญ่ที่กำลังจะตะโบมไปทั่วร่าง น้ำตาไหลเป็นทางออกจากหางตา แต่มันไม่ได้ทำให้มาเฟียใจร้ายใจอ่อนลง นัทก้มลงจนหน้าเกือบชิดกับดวงหน้าหวาน ลิ้นใหญ่ร้อนลากเลียเก็บเอาน้ำตาหยดนั้นไว้ในปาก

              “เป็นเด็กดีไง อย่างที่เคยบอกไว้ จะได้กลับไปหาพ่อสุดที่รักเร็วขึ้น”

              “ไม่มีทาง”

              “โอ๊ย!”  ชายหนุ่มอุทานด้วยความเจ็บปวด เมื่อฟันคมกัดเข้าที่หัววไหล่เขาอย่างเต็มแรงจนได้เลือด

    เส้นความสงสารที่เหลืออยู่น้อยนิดขาดสะบั้นลง ม้าพยศดื้อด้านต้องถูกเฆี่ยนตีถึงจะหลาบจำ

              ร่างบางลนลานหนีออกจากใต้ร่างแกร่ง แต่เพราะว่าตัวเองถูกคร่อมไว้ทั้งตัวจึงได้แต่บิดกายไปมาเท่านั้น 

              เคร้ง!

              เสียงโลหะกระทบพื้นดังขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหน...แม่บ้านของเขานั้นเอง เหมยหลินตาเหลือกด้วยความตกใจ ก่อนที่จะลนลานรีบเก็บถาดที่ทำตกแล้วเผ่นเข้าไปในครัว

              เหมือนระฆังเคาะหมดยก ซินอาศัยจังหวะนี้เสือกตัวหนีไปได้ นัทลุกขึ้นจากโซฟา ส่วนกลางของร่างกายยังตื่นตัวไม่หาย ชายหนุ่มกัดฟันกรอด นึกโมโหเหมยหลินที่เข้ามาขัดจังหวะ อารมณ์ที่ค้างเติ่งแต่ไม่อาจต่อติด มาเฟียใหญ่สบถก่อนที่จะขึ้นเดินขึ้นไปชั้นบน

              ร่างบางที่ยังทรงกายอยู่บนขาสั่นๆ ทรุดฮวบลงทันทีที่แผ่นหลังกว้างหายลับตาไป ปล่อยโฮอย่างเสียขวัญ ยกมือกอดตัวเองเพื่อคลายความกลัว แต่เพียงๆไม่นานไออุ่นจากใครบางคนก็ช่วยปัดเป่าความหวาดกลัวที่ห่อหุ้มร่างกายให้จางลงได้ สองมือที่คุ้นเคย แม้ไม่นิ่มแต่อุ่นมากพอ ไม่ใช่ใครที่ไหน...เหมยหลินนั่นเอง ไม่ต้องมีคำพูดปลอบขวัญ แค่ใช้ความจริงใจเท่านั้น ซินซุกหน้าลงกับอกอุ่นของพี่สาวต่างสายเลือด เหมยหลินโอบกอดร่างบางด้วยสองมือเปล่า

              “ขอบคุณมากนะฮะพี่เหมยหลิน ฮึกกก” ซินบ่นพึมพำปนเสียงสะอื้น

     

    TBC…..^^

           มาต่อแล้วน๊า มาต่อตอนนี้แล้วคงจะหายไปสัก5-6อทิตย์ กลับไปบ้านที่เมืองไทยอาจจะไม่ได้มีเวลาเข้ามาอัพ คงจะไปพักผ่อนและเที่ยวอย่างเดียว อย่าเพิ่งหนีหายกันไปไหนกันน้า กลับมาแล้วจะมาอัพต่อเด้อค่า

              ขอบคุณที่เข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้กันนะคะ เม้นไม่เม้นเราไม่เน้น แล้วแต่ความ

    พอใจของคนอ่าน เราไม่บังคับค่ะ ^^     

             

             

             

     

     

          

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×