ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เชลยรักมาเฟีย

    ลำดับตอนที่ #10 : เชลยรักมาเฟีย ตอนที่9

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 56


                 ซินกลืนความกลัว ความหวาดหวั่นและอีกสารพัดความรู้สึกลงคอและผลักดันความเคียดแค้นชิงชังออกมา ใบหน้าที่ก้มต่ำคราแรกเงยหน้าขึ้น รอยยิ้มที่ไม่คิดว่าจะทำได้คลี่แย้ม มารยาไม่จำเป็นต้องสอน มันมีอยู่ในสัญชาติญาณ ในเมื่อต้องการให้เขาทำเขาก็จะทำ ซินจะทำให้คนอย่างนัทมาเฟียใจดำได้รู้ว่าเขาไม่ใช่ลูกไก่ที่จะขยี้เล่นได้ตามใจ

              “ได้ฮะ แล้วซินต้องทำอะไรบ้าง”

              คำอธิบายเกี่ยวกับหน้าที่ที่จะทำและต้องทำ ถูกถ่ายทอดออกมาแบบคร่าวๆพอเข้าใจง่าย สรุปว่าซินต้องนั่งรออยู่กับพวกเด็กคนอื่นๆ นั่งรอจนกว่าจะมีลูกค้ามาเรียกไปใช้บริการ งานไม่ยาก แค่ทำทุกอย่างที่ลูกค้าต้องการโดยยึดหลักว่าลูกค้าคือพระเจ้า ส่วนเขาคือทาสรับใช้

              คุณสุภัทรแตะที่เอวเบาๆเพื่อส่งสัญญาณว่าถึงเวลาได้ลงสนามแล้ว ข่มความกลัวไว้ในอก ซินเชื่อมั่นในความเข้มแข็งของตัวเอง 

              “นี่เด็กใหม่ นายท่านเอามาฝากไว้ ช่วยดูแลด้วยล่ะ”

               พนักงานคนอื่นๆพยักหน้ารับพร้อมที่จะดูแลเด็กใหม่เต็มที่  คุณภัทรตบไหล่ซินเบาๆคล้ายให้กำลังใจ

              “เธอชื่ออะไร” พนักงานคนหนึ่งเอ่ยถาม

              “ซิน...เราชื่อซิน”

               “เราชื่อกันต์น่ะ”

               “ทำไมถึงมาทำงานที่นี่ล่ะ” ซินถามอย่างไม่อ้อมค้อม

              “พ่อเราเป็นหนี้พนันในบ่อนของคุณนัท เราเลยต้องมาทำงานใช้หนี้ เพราะว่าที่นี่สามารถให้เงินตอบแทนเรามากกว่าเงินเดือนบริษัทรสามเดือนรวมกันซะอีก แถมที่นี่ยังปลอดภัย เราสบายใจที่ได้ทำงานที่นี่ เธอเองก็เหมือนกันนะน่าจะดีใจที่ได้ทำงานที่ You  want me     

             กันต์ชวนซินคุยอีกนิดหน่อย แนะนำเพื่อนร่วมงานที่เป็นก๊วนเดียวกันให้รู้จัก ทุกคนต่างมีที่มาต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคือทุกคนเต็มใจมาทำงานที่นี่ ยกเว้นเขาที่ไม่เคยเต็มใจสักนิด    

               ซินสูดเอากลิ่นน้ำ หอมสารพัดกลิ่นที่อบอวลอยู่รอบๆไว้ในอก ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่ ทั้งที่ทำใจ

    อยู่ก่อนแล้ว แต่เอาเข้าจริงเขาโกหกตัวเองไม่ได้ว่ากลัว....และกลัวมาเสียด้วย

              “ไม่เป็นไร ไม่ต้องกลัว จะไม่มีใครได้แตะต้องเธอหรอก” คิ้วเรียวยกขึ้นเล็กน้อย เมื่อได้ยินถ้อยคำให้กำลังใจจากเพื่อนร่วมงาน

              “หมายเลขเจ็ดมีลูกค้าสนใจ” เสียงเรียกจากพนักงานดังขึ้น

              ซินหันมองทางโน้นทีทางนั้นที ตื่นตระหนกไปหมด ร่างบางค่อยๆเดินออกมาตามเสียงเรียก

              “แขกบอกว่าให้เธอไปรอที่ห้องได้เลย” เป็นพนักงานที่มาเรียกบอกกับซินทันทีที่ซินเดินมาถึง

               กันต์รับอาสาพาซินมาส่งที่ห้องด้านบน  ลูกค้ารายนี้ไม่ต้องการเสียเวลาอารัมภบทให้ยืดยาว ไม่มีการพูดจาทำความรู้จักหรือหว่านล้อมให้ซินได้ผ่อนคลายเลยสักนิด ต้องการใช้บริการพิเศษจากซินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น และเมื่อเป็นความประสงค์ของลูกค้าคือพระเจ้า ตัวซินเองจึงไม่อาจที่จะปฏิเสธได้เช่นเดียวกัน

                “เราส่งเธอได้แค่นี้นะ ที่เหลือเธอต้องจัดการเองแล้วหล่ะ”

               ซินไม่รู้ว่าห้องที่กันต์พามามันอยู่ชั้นอะไร แม้แต่หมายเลขห้องก็ยังไม่รู้ คำปลอบใจไม่ได้ช่วยอะไร เพราะว่ามันไม่สามารถพาเขาออกไปจากที่นี่ได้ ซินเดินตัวแข็งมาหยุดที่กลางห้อง ไฟสีส้มนวลตา ข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นล้วนแต่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เครื่องอำนายความสะดวกมีครบครัน ทุกอย่างดูดีแต่มันไม่น่าดู

              ร่างบางถอยหลังไปชนชนกับเตียงนอนขนาดใหญ่สีขาวสลับดำ ลมหายใจถูกดึงเข้าปอดถี่ขึ้น เสียงลูกบิดประตูดังขึ้น  ร่างบางสะดุ้งตกใจลนลานหนีไปอยู่ติดมุมสุดของตัวห้องในส่วนที่แสงไฟส่องไปไม่ถึง ลูกค้ารายใหญ่ผู้ที่ซื้อบริการจากเขาด้วยจำนวนเงินที่มากมาย สำหรับการใช้บริการเพียงแค่หนึ่งคืนเข้ามาในห้อง

              “ไปทำอะไรตรงนั้นล่ะครับ แล้วผมจะเห็นคุณได้ยังไง”

              น้ำเสียงของเขาที่คุ้นหูเสียเหลือเกิน ซินสาบานได้ว่าเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อน แต่คิดอีกทีคงเป็นเราะว่าเขากลัวมากจนหูฝาดไป ได้ยินเสียงใครก็คุ้นไปซะหมด

              “คุณซิน...ผมเอง ภานุไงครับ ออกมาเถอะครับ”

              “ภานุ...คุณภานุน่ะเหรอ?” ซินทวนคำ ใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง ซินไม่ได้หูฝาดไป เขาคือคนที่ซินรู้จักจริงๆ ภานุญาติผู้น้องของมาเฟียจอมโหด

              “คุณจริงๆหรือฮะ”

              “ครับ...ผมเอง”

               เป็นเขาจริงๆซินยิ้มกว้าง น้ำตาเอ่อล้นขอบตา โล่งอกที่ลูกค้ารายแรกของเขาคือคนรู้จัก ร่างบางก้าวออกมาจากมุมมืด ตัวสั่นน้อยลงแต่ยังอดประหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้ ความคิดและการกระทำบางครั้งมันก็สวนทางกัน ซินสั่งให้ตัวเองเข้มแข็ง แต่ที่แสดงออกมาเหมือนลูกนกที่จะตกรังเสียอีก

              ภานุมองร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวที่บางจนมองเห็นรูปร่าง สัดส่วนของคนใส่ได้ทะลุปุโปร่ง กับกางเกงเดฟสีดำได้รูป เน้นสัดส่วนให้โดดเด่นน่ามอง เห็นแล้วก็อดเจ็บใจไม่ได้ พี่ชายของเขาเล่นแรงเกินไปแล้ว แค่จะเอาคืนที่คนของตัวเองถูกเก็บ ถึงกับต้องส่งคนคนนี้มาอยู่ที่นี่ ถ้าหากคนที่เรียกซินไม่ใช่เขาอะไรจะเกิดขึ้น...เขาไม่อยากจะคิด

               “ไม่ต้องกลัวนะ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ผมรู้ว่าคุณอยู่ที่นี่ผมก็เลยมา”

               “ซินกลัวฮะ กลัวจริงๆด้วย”

                ไม่ต้องบอกก็รู้ ชายหนุ่มถอนหายใจยาว ส่งยิ้มที่คิดว่าอ่อนโยนที่สุดไปให้ เขาอยากให้ร่างบางตรงหน้าคลายความกังวล และคลายความหวาดกลัว หลังมือบางปาดน้ำตาป้อยๆอย่างหน้าสงสาร ร่างสูงขยับเข้าใกล้จนมากพอที่จะเอื้อมมือไปแตะบนเส้นผมนุ่มเบาๆ

                “ไม่มีอะไร ถึงจะเป็นญาติกันแต่ผมไม่ใจร้ายเหมือนพี่นัทหรอกฮะ อย่าร้องให้เลยนะคุณซิน”

                 แทนที่คำปลอบโยนของเขาจะทำให้ร่างบางยิ้มได้ แต่กลับร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม ซินปล่อยโฮยิ่งกว่าเด็กที่ถูกเพื่อนแกล้ง ภานุตกใจทำอะไรไม่ถูก ร่างสูงคว้าร่างเล็กเข้ามากอด ลูบหลังอย่างแผ่วเบา นานหลายนาทีกว่าแรงสะอื้นจากคนที่ซุกหน้าอยู่กับอกจะคลายลง เขารับรู้ถึงความเปียกชื้นที่ซึมผ่านเสื้อ

              อ้อมกอดที่อบอุ่นช่วยทำให้ความหวาดหวั่นในใจลดลง แม้ไม่มีคำพูด แต่มือที่ลูบผ่านหลังเบาๆมันปัดเป่าเอาความกลัวหายไป ภานุเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขา การเจอกันแค่สองครั้ง พูดคุยกันไม่เท่าไหร่มันน้อยเกินไปสำหรับคำว่าเพื่อน

              “ขอบคุณนะฮะ” ซินบอกเสียงอู้อี้ชิดแผงอกหนา 

              ภานุไม่ได้พูดอะไร แต่เลื่อนมือไปกุมมือบางเอาไว้แล้วจูงมาหยุดที่ปลายเตียง

              “นอนซะ วันนี้คุณคงจะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”

               ซินได้แต่พยักหน้าทำตามที่เขาบอก ร่างบางปีนขึ้นไปบนเตียงซุกตัวลงใต้ผ้าห่ม ไม่มีหมอนข้าง มีแต่หมอนหนุนอยู่สองลูก ซินกอดหมอนอีกลูกเพื่อให้ความอบอุ่นกับตัวเอง ก่อนที่ความเพลียจะพรากเอาสติหลุดลอยไป

                ภานุนั่งลงบนเก้าอี้บุนวมที่ลากมาจากโต๊ะหน้ากระจก มองดูคนที่นอนอยู่บนเตียงนุ่ม ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ริมฝีปากบางเผยอน้อยๆ คราบน้ำตายังมีให้เห็น คิ้วเรียวขมวดมุ่นทั้งที่ยังหลับ คงจะเก็ยเอาเรื่องจริงไปฝันร้าย ชายหนุ่มยกยิ้มนึกเอ็นดูร่างบางตรงหน้านี้ รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นลูกของศัตรู แต่พ่อกับลูกมันคนละคนกัน ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ทำให้เขาต้องเกลียดคนคนนี้ไปด้วย มีแต่ลูกพี่ลูกน้องของเขานั้นแหละที่คิดบ้าบอ แค้นที่พ่อแต่ไปทำที่ลูก แต่อย่างว่า....คนอย่างโชติวุฒิต้องการความสะใจ ไม่ใช่ความถูกต้อง

              “พ่อฮะ...ดูแม่กับน้องด้วย ฮึกกก”

               ภานุเอียงหูฟังประโยคที่คนหลับละเมอออกมา ซินคงจะเป็นห่วงทั้งแม่และน้องมากไม่อย่างนั้นคงไม่ละเมอถึงในตอนหลับอย่างนี้

               ชายหนุ่มยิ้มอ่อนโยน อดไม่ได้ที่จะชะโงกหน้าไปจูบหน้าผากเนียนนั้นเบาๆ ถ้าหากซินให้โอกาส เขาสาบานว่าจะดูแลซินเอง

    TBC…..^^

                 มาต่อแล้วคร่า ตอนนี้มันสั้นไปหน่อยคิดพลอตได้เท่านี้จริงๆ  แถมตอนนี้ก็มีแต่น้ำเหมือนเดิม เพิ่งเขียนฟิคครั้งแรก เนื้อหาและการบรรยายห่วยสิ้นดี แต่ก็จะพยายามปรับปรุงให้ดีขึ้น

                พระเอกของเราออกนิดเดียวเอง มาแต่น้องชายคงไม่ว่ากันเนอะ  จะพยายามมาต่อตอนต่อไปให้เร็วถ้าหัวมันแล่น

               ขอบคุณสำหรับคนอ่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้ และขอบคุณทุกเม้นต์ที่เม้นต์ให้กันนะคะ

                           

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×