ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เชลยรักมาเฟีย ตอนที่2
"ลงมือได้เลย พรุ่งนี้ฉันจะเอาเชลยกลับบ้าน"
"ครับ" คนเป็นลูกน้องโน้มตัวรับคำสั่ง
ทศพร ชิษนุพัน...ลูกชายของศัตรูที่ใช้นามสกุลไทย คงเป็นเพราะว่าต้องการปกปิดฐานะที่แท้จริง ไม่เคยมีใครรู้ว่า
ทายาทของมาเฟียตัวร้ายเป็นใคร เรื่องราวส่วนตัวถูกปิดบังจนยากจะตามสืบ แต่เพราะว่าความแค้นที่ฝังลึกของเสี่ย
หลีที่ฝากไว้ให้กับครอบครัวของเขาจนยากที่จะลืมได้ เขาใช้เวลาสามถึงสี่ปีส่งคนติดตามเรื่่องราวทุกอย่างของเสี่ยหลี
อากาศยามเช้าที่สดชื่นอย่างนี้ทุกวัน เมืองที่จอแจไปด้วยนักท่องเที่ยวสงบลงในตอนเช้า พระออกบิณฑบาตโดยมีลูก
ศิษย์ตัวน้อยเดินตาม ซินแอบอมยิ้มกับภาพที่เห็น ซินรักที่นี่ ซินรักความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ร่างบางในชุดสบายๆเดินกินลม
ชมวิวไปเรื่อยๆ เพราะว่าคุ้นเคยกับพื้นที่นี่เป็นอย่างดีจึงไม่จำเป็นที่จะต้องระวังภัยใดๆ ความคิดของซินชะงักลงทันที เมื่อ
กลุ่มคนตรงหน้าขวางเส้นทางเดินนี้เอาไว้ ชายฉกรรจ์สามคนยืนจับกลุ่มและจ้องมองมาเขา ซินบอกตัวเองถึงความไม่
ปลอดภัย เท้าเรียวถอยหลังอัตโนมัติ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่รอ แต่เพียงแค่สามก้าวเท่านั้น กลุ่มชายฉกรรจ์ก็ก้าวถึงตัวซิน
ซินตกใจตัวชาวาบ หัวใจเหมือนจะหลุดออกจากขั้ว ดวงตาเบิกกว้าง อ้าปากหมายจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ช้า
กว่ามือของคนร้าย ผ้าขาวถูกโปะลงมาที่จมูก กลิ่นฉุนจัดชวนอาเจียน ตัวซินเองก็พยายามดิ้นสุดกำลังเพื่อหวังเอาตัวรอด
สติพร่าเลือน สำนึกสุดท้ายซินคิดถึงคนที่ซินรัก...แม่และน้องชาย..ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบ
เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้นอย่างอยากลำบาก ขณะที่ร่างกายก็ปวดเหมื่อย มืออ่อนล้ายกขึ้นกุมขมับที่ปวดเกินทนก่อน
ซบหน้าลงพลางใช้ความคิดอีกครั้ง
"ที่นี่ที่ไหน" ซินยกหัวที่คลายการบีบรัดขึ้น ความผิดปกติบางอย่างบอกกับตัวเองว่าที่นี่ไม่ใช่บ้าน ไม่ปลอดภัย...เขา
อยู่ที่ไหนกัน
ร่างบางเหวียงตัวลงจากเตียงนอน สายตากวาดมองโดยรอบ การตกแต่งที่ไม่คุ้นตา หรูหราด้วยเครื่องประดับราคา
แพง พลันสายตาก็ไปหยุดที่กล่องกระจกใสภายในบรรจุตุ๊กตาแก้ว มันคือตุ๊กตาชาววังที่เขาขายให้กับลูกค้ารายสุดท้ายไป
เมื่อวาน ตัวซินชาเหมือนถูกแช่แข็ง ความกลัวแล่นจับหัวใจ...เขาถูกลักพาตัว
ซินรีบวิ่งไปที่ประตูซึ่งถูกล็อกจากด้านนอก ใจหายยิ่งกว่าเดิมที่รู้ว่าถูกขัง ซินวิ่งกลับมาที่หน้าต่างแล้วก้มลงมองประ
เมิณความสูงคร่าวๆ ไต่ลงไปน่าจะได้ ผ้าทุกผืนที่มีอยู่ในห้องถูกนำมาผูกติดกัน ซินหย่อนผ้าลงไปทางหน้าต่างแต่ความ
ยาวของมันไม่ถึงพื้นดิน ชั่งใจอยู่พักก่อนที่จะตัดสินใจปีนลงไป ซินปล่อยมือจากผ้าเมื่อมาสุดชาย กระโดดด้วยความ
ดีใจ หันไปมองรอบๆบริเวณส่วนที่เขายืนอยู่คงจะเป็นบริเวณด้านหลังของบ้าน สองเท้าเปล่าวิ่งสุดกำลังด้วยความเร็วเท่า
ที่ร่างกายจะเอื้ออำนวย ซินวิ่ง..วิ่ง..แล้วก็วิ่ง
"เฮ้ย!มีคนอยู่ในสวน"
ซินสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงประกาศที่ดังไปทั้วทุกสารทิศ หันไปมองรอบกายแต่ก็ไม่พบใคร ทว่าเมื่อเงยหน้ามอง
บนต้นไม้ใหญ่ที่รายล้อมอยู่ก็พบบางสิ่ง ทุกต้นมีอุปกรณ์คล้ายกล้องและลำโพงเต็มไปหมด ต่อให้เขาเองวิ่งเร็วแค่ไหน ทุก
การเคลื่อนไหวก็ตกอยู่ในสายคาของคนที่อยู่หน้ามอนิเตอร์ เพียงแค่พริบตาเดียวความเงียบสงบที่อยู่รอบตัวก็แปรเปลี่ยน
ไป มีเสียงตะโกนโหวกเหวก ซินหลับหูหลับตาวิ่งฝ่ากิ่งไม้ที่เกี่ยวเสื้อขาดจนสร้างบาดแผลขึ้นหลายแห่ง ช่วงเวลานี้ความ
เจ็บปวดก็ไม่เป็นผล
"ปล่อยนะ! ปล่อยสิ! ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า!" ซินดิ้นรนเต็มกำลังสองเท้าที่เปื้อนโคลน เหวี่ยงใส่คนที่แบกซินอย่าง
ไม่คิดที่จะออมแรง มือก็ระดมทุบหลังแข็งของมันไปด้วย หากเหมือนแต่เขาเท่านั้นที่เป็นฝ่ายเจ็บ
"โฮ่ง" หมาตัวใหญ่เห่ากรรโชกจนซินยกขาหนีแทบไม่ทัน
"หยุดเลยเจ้าแฟร้งค์ ถ้าคนของนายเป็นรอยเอ็งจะโดนเอาไปตุ๋นยา" มันหยุดกระโดดใส่ซินแล้วทำท่าหมอบ แต่ก็ยัง
ไม่วายส่งสายตาเสียดายมาที่ขาของเขา
ร่างบางโยกไปมา เลือดไหลตกหัวจนปวดหัวไปหมด นี่ยังไม่นับมือและเท้าที่ระบมเพราะทำร้ายคนที่แบกเขามา
ตลอดทางด้วยนะ เกือบสิบนาทีกว่าที่อีกฝ่ายจะโยนซินลงมาจากบ่าแข็งของมัน ร่างของเขาหล่อนตุบบนพื้นพรม เจ็บจน
จุกแต่พูดไม่ออก
"คุณชายตระกูลหลีนี่เก่งจริงๆ ขนาดล็อกกุญแจไว้แท้ๆยังหนีได้"
ซินหันขวับไปยังต้นเสียงที่เอ่ยขึ้น ขณะที่นัทค่อยๆก้าวเขาใกล้ซินเรื่อยๆ สะโพกที่เจ็บแปลบจากแรงกระแทก
กระทดถอยหนี หากสายตายังคงเลื่อนมองตามคนตรงหน้า ใบหน้าคมเข็มที่ตัดกับไรเครา ริมฝีปากบางสีสด จมูกโด่งเป็น
สัน ดวงตาที่คมกริบ
"คุณ!" นิ้วเรียวชี้ไปยังร่างสูงด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าทำไมนักท่องเที่ยวคนนี้ถึงจับตัวเขามาที่นี่
นัทหยุดลงตรงหน้า ย่อกายลงช้อนคางมนขึ้นแล้วออกแรงบีบเมื่ออีกฝ่ายจะเบือนหน้าหนี เรียวปากอิ่มเผยอออกจาก
กันยิ่งพินิจพิเคราะห์ก็ยิ่งรู้สึกว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้านี้เหมือนผู้หญิงซะมากกว่า ไม่มีส่วนไหนเลยที่คล้ายผู้ชายอย่างเขายก
เว้นหน้าอกที่แบนราบ หากแต่ข้อมูลที่ได้มามันไม่น่าผิดพลาด
"จะ..จับผมมาทำไม ผมไม่รู้จักคุณ" เสียงสั่นเครือดังลอดออกมาจากปากอิ่มสวย ขณะที่แววตาซินเองก็ไหววูบเป็น
ระยะ นัทยกยิ้มเหยียด เพิ่มแรงบีบไปที่แก้มอีกนิด ความแค้นที่สั่งสมมาถึงยี่สิบกว่าปี ความแค้นทีมันสุกงอมได้ที่ รอวันที่
อำนาจทุกอย่างอยู่ในมือเต็มที่ถึงได้ลงมือชำระแค้น
นัทปัดเรื่องราวในอดีตออกจากหัวมาสนใจกับร่างบางตรงหน้า เรียวแขนขาวสีน้ำนมที่โผล่พ้นชายเสื้อเชิ้ตดูน่ามอง
กิ่งไม้เกียวเอาเนื้อผ้าหลุดไปหลายแห่ง อีกทั้งหน้าอกขาวที่ไร้อาภรณ์ปกปิด แปลกใจที่บุคคลตรงหน้าทำเอาเขาหายใจผิด
จังหวะ เขาเป็นเสือผู้หญิงก็จริงแต่ทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนได้รับแรงกระตุ้นจากผู้ชายหน้าหวานที่อยู่ตรงหน้านี้
"แต่ฉันรู้จักเธอ" นัทยกยิ้ม
"ทศพร ชิษนุพันหรือ...ซินเซียร์"
TBC................
เอาตอนสองมาเสิร์ฟแล้วค่า วันนี้วันปีใหม่ขอให้รีดเดอร์ทุกท่านมีความสุขกันตลอดปี2013
วันนี้ก็ตบตีกับระบบเช่นเดิม ประวัตศาตร์ซ้ำรอยเมื่อวานอีกแล้วพิมพ์เกือบเสร็จมือกดพลาดนิดเดียวเนื้อหาที่พิมพ์มาหาย
เกลี้ยง แง่มๆๆๆอยากตัดมือตัวเองทิ้งเหลือเกิน
ส่วนตอนต่อไปถ้ามีเวลาอาจจะลงให้อ่านภายในเร็ววันนี้
ขอบคุณทุกคนที่เข่้ามาอ่าน เม้นไม่เม้นไม่ว่ากันค่ะ ^^
"ครับ" คนเป็นลูกน้องโน้มตัวรับคำสั่ง
ทศพร ชิษนุพัน...ลูกชายของศัตรูที่ใช้นามสกุลไทย คงเป็นเพราะว่าต้องการปกปิดฐานะที่แท้จริง ไม่เคยมีใครรู้ว่า
ทายาทของมาเฟียตัวร้ายเป็นใคร เรื่องราวส่วนตัวถูกปิดบังจนยากจะตามสืบ แต่เพราะว่าความแค้นที่ฝังลึกของเสี่ย
หลีที่ฝากไว้ให้กับครอบครัวของเขาจนยากที่จะลืมได้ เขาใช้เวลาสามถึงสี่ปีส่งคนติดตามเรื่่องราวทุกอย่างของเสี่ยหลี
อากาศยามเช้าที่สดชื่นอย่างนี้ทุกวัน เมืองที่จอแจไปด้วยนักท่องเที่ยวสงบลงในตอนเช้า พระออกบิณฑบาตโดยมีลูก
ศิษย์ตัวน้อยเดินตาม ซินแอบอมยิ้มกับภาพที่เห็น ซินรักที่นี่ ซินรักความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย ร่างบางในชุดสบายๆเดินกินลม
ชมวิวไปเรื่อยๆ เพราะว่าคุ้นเคยกับพื้นที่นี่เป็นอย่างดีจึงไม่จำเป็นที่จะต้องระวังภัยใดๆ ความคิดของซินชะงักลงทันที เมื่อ
กลุ่มคนตรงหน้าขวางเส้นทางเดินนี้เอาไว้ ชายฉกรรจ์สามคนยืนจับกลุ่มและจ้องมองมาเขา ซินบอกตัวเองถึงความไม่
ปลอดภัย เท้าเรียวถอยหลังอัตโนมัติ ไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่รอ แต่เพียงแค่สามก้าวเท่านั้น กลุ่มชายฉกรรจ์ก็ก้าวถึงตัวซิน
ซินตกใจตัวชาวาบ หัวใจเหมือนจะหลุดออกจากขั้ว ดวงตาเบิกกว้าง อ้าปากหมายจะส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ช้า
กว่ามือของคนร้าย ผ้าขาวถูกโปะลงมาที่จมูก กลิ่นฉุนจัดชวนอาเจียน ตัวซินเองก็พยายามดิ้นสุดกำลังเพื่อหวังเอาตัวรอด
สติพร่าเลือน สำนึกสุดท้ายซินคิดถึงคนที่ซินรัก...แม่และน้องชาย..ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบ
เปลือกตาหนักอึ้งปรือขึ้นอย่างอยากลำบาก ขณะที่ร่างกายก็ปวดเหมื่อย มืออ่อนล้ายกขึ้นกุมขมับที่ปวดเกินทนก่อน
ซบหน้าลงพลางใช้ความคิดอีกครั้ง
"ที่นี่ที่ไหน" ซินยกหัวที่คลายการบีบรัดขึ้น ความผิดปกติบางอย่างบอกกับตัวเองว่าที่นี่ไม่ใช่บ้าน ไม่ปลอดภัย...เขา
อยู่ที่ไหนกัน
ร่างบางเหวียงตัวลงจากเตียงนอน สายตากวาดมองโดยรอบ การตกแต่งที่ไม่คุ้นตา หรูหราด้วยเครื่องประดับราคา
แพง พลันสายตาก็ไปหยุดที่กล่องกระจกใสภายในบรรจุตุ๊กตาแก้ว มันคือตุ๊กตาชาววังที่เขาขายให้กับลูกค้ารายสุดท้ายไป
เมื่อวาน ตัวซินชาเหมือนถูกแช่แข็ง ความกลัวแล่นจับหัวใจ...เขาถูกลักพาตัว
ซินรีบวิ่งไปที่ประตูซึ่งถูกล็อกจากด้านนอก ใจหายยิ่งกว่าเดิมที่รู้ว่าถูกขัง ซินวิ่งกลับมาที่หน้าต่างแล้วก้มลงมองประ
เมิณความสูงคร่าวๆ ไต่ลงไปน่าจะได้ ผ้าทุกผืนที่มีอยู่ในห้องถูกนำมาผูกติดกัน ซินหย่อนผ้าลงไปทางหน้าต่างแต่ความ
ยาวของมันไม่ถึงพื้นดิน ชั่งใจอยู่พักก่อนที่จะตัดสินใจปีนลงไป ซินปล่อยมือจากผ้าเมื่อมาสุดชาย กระโดดด้วยความ
ดีใจ หันไปมองรอบๆบริเวณส่วนที่เขายืนอยู่คงจะเป็นบริเวณด้านหลังของบ้าน สองเท้าเปล่าวิ่งสุดกำลังด้วยความเร็วเท่า
ที่ร่างกายจะเอื้ออำนวย ซินวิ่ง..วิ่ง..แล้วก็วิ่ง
"เฮ้ย!มีคนอยู่ในสวน"
ซินสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงประกาศที่ดังไปทั้วทุกสารทิศ หันไปมองรอบกายแต่ก็ไม่พบใคร ทว่าเมื่อเงยหน้ามอง
บนต้นไม้ใหญ่ที่รายล้อมอยู่ก็พบบางสิ่ง ทุกต้นมีอุปกรณ์คล้ายกล้องและลำโพงเต็มไปหมด ต่อให้เขาเองวิ่งเร็วแค่ไหน ทุก
การเคลื่อนไหวก็ตกอยู่ในสายคาของคนที่อยู่หน้ามอนิเตอร์ เพียงแค่พริบตาเดียวความเงียบสงบที่อยู่รอบตัวก็แปรเปลี่ยน
ไป มีเสียงตะโกนโหวกเหวก ซินหลับหูหลับตาวิ่งฝ่ากิ่งไม้ที่เกี่ยวเสื้อขาดจนสร้างบาดแผลขึ้นหลายแห่ง ช่วงเวลานี้ความ
เจ็บปวดก็ไม่เป็นผล
"ปล่อยนะ! ปล่อยสิ! ฉันบอกให้ปล่อยไงเล่า!" ซินดิ้นรนเต็มกำลังสองเท้าที่เปื้อนโคลน เหวี่ยงใส่คนที่แบกซินอย่าง
ไม่คิดที่จะออมแรง มือก็ระดมทุบหลังแข็งของมันไปด้วย หากเหมือนแต่เขาเท่านั้นที่เป็นฝ่ายเจ็บ
"โฮ่ง" หมาตัวใหญ่เห่ากรรโชกจนซินยกขาหนีแทบไม่ทัน
"หยุดเลยเจ้าแฟร้งค์ ถ้าคนของนายเป็นรอยเอ็งจะโดนเอาไปตุ๋นยา" มันหยุดกระโดดใส่ซินแล้วทำท่าหมอบ แต่ก็ยัง
ไม่วายส่งสายตาเสียดายมาที่ขาของเขา
ร่างบางโยกไปมา เลือดไหลตกหัวจนปวดหัวไปหมด นี่ยังไม่นับมือและเท้าที่ระบมเพราะทำร้ายคนที่แบกเขามา
ตลอดทางด้วยนะ เกือบสิบนาทีกว่าที่อีกฝ่ายจะโยนซินลงมาจากบ่าแข็งของมัน ร่างของเขาหล่อนตุบบนพื้นพรม เจ็บจน
จุกแต่พูดไม่ออก
"คุณชายตระกูลหลีนี่เก่งจริงๆ ขนาดล็อกกุญแจไว้แท้ๆยังหนีได้"
ซินหันขวับไปยังต้นเสียงที่เอ่ยขึ้น ขณะที่นัทค่อยๆก้าวเขาใกล้ซินเรื่อยๆ สะโพกที่เจ็บแปลบจากแรงกระแทก
กระทดถอยหนี หากสายตายังคงเลื่อนมองตามคนตรงหน้า ใบหน้าคมเข็มที่ตัดกับไรเครา ริมฝีปากบางสีสด จมูกโด่งเป็น
สัน ดวงตาที่คมกริบ
"คุณ!" นิ้วเรียวชี้ไปยังร่างสูงด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าทำไมนักท่องเที่ยวคนนี้ถึงจับตัวเขามาที่นี่
นัทหยุดลงตรงหน้า ย่อกายลงช้อนคางมนขึ้นแล้วออกแรงบีบเมื่ออีกฝ่ายจะเบือนหน้าหนี เรียวปากอิ่มเผยอออกจาก
กันยิ่งพินิจพิเคราะห์ก็ยิ่งรู้สึกว่าบุคคลที่อยู่ตรงหน้านี้เหมือนผู้หญิงซะมากกว่า ไม่มีส่วนไหนเลยที่คล้ายผู้ชายอย่างเขายก
เว้นหน้าอกที่แบนราบ หากแต่ข้อมูลที่ได้มามันไม่น่าผิดพลาด
"จะ..จับผมมาทำไม ผมไม่รู้จักคุณ" เสียงสั่นเครือดังลอดออกมาจากปากอิ่มสวย ขณะที่แววตาซินเองก็ไหววูบเป็น
ระยะ นัทยกยิ้มเหยียด เพิ่มแรงบีบไปที่แก้มอีกนิด ความแค้นที่สั่งสมมาถึงยี่สิบกว่าปี ความแค้นทีมันสุกงอมได้ที่ รอวันที่
อำนาจทุกอย่างอยู่ในมือเต็มที่ถึงได้ลงมือชำระแค้น
นัทปัดเรื่องราวในอดีตออกจากหัวมาสนใจกับร่างบางตรงหน้า เรียวแขนขาวสีน้ำนมที่โผล่พ้นชายเสื้อเชิ้ตดูน่ามอง
กิ่งไม้เกียวเอาเนื้อผ้าหลุดไปหลายแห่ง อีกทั้งหน้าอกขาวที่ไร้อาภรณ์ปกปิด แปลกใจที่บุคคลตรงหน้าทำเอาเขาหายใจผิด
จังหวะ เขาเป็นเสือผู้หญิงก็จริงแต่ทำไมเขาถึงรู้สึกเหมือนได้รับแรงกระตุ้นจากผู้ชายหน้าหวานที่อยู่ตรงหน้านี้
"แต่ฉันรู้จักเธอ" นัทยกยิ้ม
"ทศพร ชิษนุพันหรือ...ซินเซียร์"
TBC................
เอาตอนสองมาเสิร์ฟแล้วค่า วันนี้วันปีใหม่ขอให้รีดเดอร์ทุกท่านมีความสุขกันตลอดปี2013
วันนี้ก็ตบตีกับระบบเช่นเดิม ประวัตศาตร์ซ้ำรอยเมื่อวานอีกแล้วพิมพ์เกือบเสร็จมือกดพลาดนิดเดียวเนื้อหาที่พิมพ์มาหาย
เกลี้ยง แง่มๆๆๆอยากตัดมือตัวเองทิ้งเหลือเกิน
ส่วนตอนต่อไปถ้ามีเวลาอาจจะลงให้อ่านภายในเร็ววันนี้
ขอบคุณทุกคนที่เข่้ามาอ่าน เม้นไม่เม้นไม่ว่ากันค่ะ ^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น