คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : HUN x HAN : Im going CRAZY 2
เราเลิกกันแล้วจริงหรือ นั่นคือการบอกเลิกอย่างนั้นใช่ไหม มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ คือเราเลิกกันแล้ว สรุปคือ เราเลิกกันไปแล้วใช่ไหม แต่ทำไมผมกลับรู้สึกเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนไป หรือว่าเรานั้นรักกันน้อยลง เราคิดถึงกันน้อยลง การคบกันเป็นเพียงสถานะเมื่อถึงจุดเลิกกัน ก็แค่เปลี่ยนสถานะเท่านั้น
ผมอาจจะรักเขาน้อยลง หรืออย่างไรก็ตาม แต่ผมคิดถึงเขามากจริงๆ
“ เซฮุน วันนี้ดูมึนนะ เมื่อคืนกลับบ้านแล้วไม่ได้นอนเลยหรอกเหรอ ” คริสฮยองถามผมที่นั่งหน้านิ่งให้ช่างแต่งหน้าจัดการกับใบหน้าที่เอาเข้าจริงคือไม่ได้นอนเลยของผม
“ ถึงได้นอนก็ไม่เท่าไรหรอกฮยอง ” ผมยิ้ม เขาพยักหน้ารับก่อนจะหันไปที่กระจกแล้วเช็คทรงผมของตัวเองอีกครั้ง
เหนื่อยเหลือเกิน .. เหนื่อยจริงๆ ผมไม่ชินกับการเปลี่ยนไปของเขา หรือไม่ชินกับการที่เขาเป็นคนเดิม ลูฮานที่แสนงี่เง่าเอาแต่ใจตั้งแต่แรกเจอ ผมชินกับมัน ผมรับมันได้ทุกอย่างจนกระทั่งวันที่เขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีกว่าเดิม เข้าใจอะไรง่าย ใจดีเป็นผู้ใหญ่จนผมติด0นั้นจนลืมไปว่าวันหนึ่งที่เขาต้องหลุดแบบเดิมกลับมาและวันนี้ก็มาถึง ซึ่งผมไม่ชินเอาเสียเลย .. ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตอนนั้นผมรับมือมันอย่างไร
บางทีเราอาจจะเข้ากันไม่ได้ตั้งแต่แรก แต่ก็ดื้อดึงยื้อกันต่อไป
‘ นายสามารถเจอคนที่ดีกว่าฉัน มีเวลาให้นายทุกครั้งที่ต้องการ_ ’
ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ข้อความคล้ายแบบนี้ถูกพิมพ์มันด้วยมือของผม และผมก็ลบมันด้วยความไม่กล้าพอ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเหนื่อยและอยากจะส่งแบบนั้นไปให้เจ้าตัวรับรู้ว่าเขาสามารถไปจากผมได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ แต่อีกนัยหนึ่งผมยังอยากมีความรู้สึกที่ว่าวันหนึ่งเรื่องทุกอย่างจบลง คอนเสิร์ตหรือการแสดงโชว์จบลง ผมยังมีคนที่คิดถึงผมอยู่เสมอ คนที่นึกถึงผมและรักผมอย่างแน่นอนที่สุด
อา~ นายจะเป็นยังไงบ้างนะลูฮาน นายไม่เคยรู้หรอกว่าฉันเหนื่อยแค่ไหน ฉันกำลังแทบบ้ารู้ไหม
“ แค่นี้ก่อนนะครับ ”
ผมหันไปทางไคที่เพิ่งเข้ามาพร้อมกับบอกลาปลายสาย อาจจะเป็นงานนอกของเขาหรือคนที่บ้านโทรมากับคำพูดที่แสนสุภาพนั่น ไคมองผมด้วยสายตาที่ไร้คำพูด แค่มองมาที่ผมก่อนจะนั่งลงให้ช่างทำผมของเขา
เหมือนว่าวันนี้ห้องแต่งตัวของเราเงียบกว่าทุกวัน ..
ปัง !
“ นี่ปาร์คชานยอล ไม่ว่านายกำลังเดทกับใครอยู่อย่าให้ฉันจับได้เป็นครั้งที่สอง ไม่อย่างนั้นฉันจะหางานนายนอกประเทศ และรับรองได้ว่าไม่มีทางได้เจอกันแน่ ”
เสียงของผู้จัดการและชานยอลที่เดินเข้ามาทำเอาพวกเราต้องหันไปมองด้วยความสนใจ ชานยอลชักสีหน้าไม่ค่อยพอใจออกมานิดหน่อย มันยากมากนะที่ต้องเก็บอาการที่แสนขัดใจ อย่างที่เห็นมันยากที่จะแสดงออกไปว่าเรากำลังคุยหรือเดทกับใคร เพราะไม่อยากให้ห่างไปกว่านี้ เราจะรู้ไหมว่าพวกเราเหนื่อยขนาดไหนในเมื่อพวกเขาสามารถมีรูปพวกเราในโทรศัพท์ได้อย่างเท่าที่ต้องการ ต่างจากพวกเราที่เพียงแค่รูปเดียวก็ทำให้น่าสงสัย เมื่อการเลี่ยงให้ถูกจับผิดต้องพยายามไม่ให้มีอะไรที่ดูเป็นไปได้เล็ดลอด มันเหนื่อยมากทั้งที่พวกเราต่างคิดถึงกันแทบบ้า
“ นี่นายกำลังเดทกับใครอย่างนั้นเหรอ ” ไคที่กำลังทำผมถามชานยอลที่นั่งกดโทรศัพท์ตัวเองด้วยสีหน้าไม่ค่อยรับแขก
“ เปล่า ไม่ได้คุย ที่จริงก็คุยก็แค่รุ่นพี่รุ่นน้องคุยปกติไม่เห็นแปลกแต่ทำไมต้องโวยให้เป็นเรื่องใหญ่ด้วย ”
“ แล้วคนนั้นคือใครล่ะ .. ”
“ พยอลแบคฮยอน ”
“ ชิบหายแล้ว ” คริสฮยองอุทานพร้อมกับหันไปมองหน้าชานยอลที่มองด้วยความสงสัยว่ามันไม่ดูจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรเลย
“ ฉันกับแบคฮยอนรู้จักกันมาหลายปีแล้วนะ ความจริงก็ตั้งแต่มัธยมต้นก็เพื่อนสนิทกัน ไม่เห็นแปลกตรงไหนเลย แต่แค่ไม่ได้บอกใคร มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องบอกใครใช่ไหม อีกอย่างแบคฮยอนก็ขอไว้ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น ก็ไม่อยากให้ทำเหมือนสนิทกัน .. ”
ก็ถ้าวันนั้นไม่ไปแกล้งและยิ้มมีความสุขขนาดนั้นมันก็คงไม่ดูมีปัญหาหรอกนะ
“ เชื่อฟังเหลือเกินนะ ”
“ ก็ฉันไม่อยากให้แบคฮยอนโกรธนี่ ”
นั่นไงล่ะ ..
“ ฉันล่ะเบื่อไอ้พวกโฮโมนี่เหลือเกิน แค่เดทกับผู้หญิงก็แย่แล้ว นี่ผู้ชายนี่หายนะเลยนะหยอย ”
“ ฮยอง ! ผมไม่ใช่โฮโมนะ ผมไม่ได้พิศวาสอะไรกับเปี๊ยกนั่นซักหน่อย เราแค่เพื่อนกัน ” ชานยอลรีบสวนกลับในทันที มันจะรู้ไหมว่าท่าทีของมันโคตรน่าสงสัยเลย ไม่แปลกถ้าผู้จัดการจะจับได้ แต่คงไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายสินะ
“ พร้อมแสตนด์บายนะครับ จะขึ้นในอีกสิบนาที ”
วันนี้มันน่าเบื่อเหลือเกิน ..
.
.
.
มันทำให้ผมแทบเป็นบ้า นี่เราเลิกกันแล้วเหรอ ก็ดีเหมือนกันนะผมจะได้ไม่ต้องห่วงหรือคิดอะไรอีก มันไม่ได้รู้สึกแปลกหรือขาดอะไรไปเลย เรารักกันน้อยลง เราคิดถึงกันน้อยลงจนวันหนึ่งความรู้สึกเหล่านั้นมันได้หายไป ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ความรู้สึกโล่งนี่มันมาจากไหนกัน ไม่มีเรื่องให้กังวลอีกต่อไปแล้วใช่ไหม .. ผมเลิกกังวลว่าเขาทำอะไร นอนพอหรือไม่ ไม่สบายหรือเปล่ามันจบแล้วไม่จำเป็นที่ผมต้องกังวลมันอีกต่อไป
“ ลูฮาน ยังไม่หายแฮงค์หรือไง ฉันไปหาอะไรให้ดื่มนะ ” แบคฮยอนที่นั่งสังเกตผมมาซักพักเดินออกไปซื้ออะไรมาให้ผมดื่ม
มันหายไปแล้วล่ะอาการแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไมมันถึงทำให้ผมคิดมากอยู่อย่างนี้ กลายเป็นความรู้สึกสงสัยว่าเราเลิกกันแล้วเหรอ มันคือเรื่องจริงเหรอ ทำไมยังรู้สึกเหมือนเดิม ทุกอย่างมันเหมือนเดิมจริงๆ นะ
“ นี่สรุปเทปของอาทิตย์หน้าเป็นแททิซอนะ รู้ไหมว่ากว่าจะขอคิวได้นานมากเลยรู้ไหม ” ฝ่ายการตลาดเดินเข้ามาบอกผมที่นั่งไม่อยากรับรู้อะไร ทั้งที่ถ้าเป็นสามสาวผมคงรู้สึกสนุกแต่เปล่าเลย .. ซอฮยอนเคยมีข่าววงในกับเซฮุน แล้วผมต้องมาร่วมงานกับเธอ
“ เอ๋~ ไม่มีใครอยู่เหรอคะ ”
ผมเงยหน้ามองเจ้าของเสียง
“ ขอโทษครับ พอดีคนอื่นออกไปซื้อของเดี๋ยวกลับมา นั่งรอแป๊บนึงนะครับ ”
“ คือพวกเราแค่เอาของมาให้น่ะค่ะ แบบว่าเป็นของเยี่ยมอะไรแบบนั้น ” พวกเธอกล่าว พวกเธอคือคนที่ฝ่ายการตลาดเพิ่งมาบอกผม .. แททิซอ
“ ครับ ที่จริงไม่เห็นต้องลำบากเลยนะครับ แต่ก็ขอบคุณนะครับผมลูฮานโปรดิวเซอร์ของรายการครับ ”
“ ทราบค่ะ ” ซอฮยอนยิ้มด้วยรอยยิ้มหวานของเธอ ” ฉันไม่คิดว่าพี่จะจำฉันได้หรอกนะคะ ”
“ ครับ ? ”
ผมแปลกใจกับคำพูดของเธอ
“ นั่นสินะคะ ฉันนี่หวังอะไรไม่เข้าเรื่อง ฉันซอจูฮยอนไงคะ รุ่นน้องมหาวิทยาลัยพี่ไง ฉันเข้ามาพี่ก็ปีสุดท้ายแล้ว ฉันบอกขนาดนี้แล้วพี่ช่วยทำเหมือนรู้จักฉันหน่อยนะคะ ” เธอยิ้มและเพื่อนของเธอต่างมองผมกับเธอสลับกันเหมือนว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญที่พวกเธอเพิ่งได้รับรู้
“ อ๋อ .. จำได้แล้วครับ ” ผมยิ้ม
ผมจำได้แล้วเธอคือจูฮยอนคนสวย .. ที่กล้าบอกเซฮุนว่าชอบอย่างตรงไปตรงมาสมัยเรียน
“ ฉันดีใจที่เจอพี่นะคะ ”
“ นี่ลู .. อ .. อ้าว สวัสดีครับผมพยอลแบคฮยอนสคริปต์มือหนึ่งของที่นี่ครับ ” แบคฮยอนหูดำเดินเข้ามาแนะนำตัวทั้งที่มือยังถือกาแฟเย็นของผม และพวกที่ตามหลังเช่นเดียวกัน
“ สวัสดีค่ะพวกเราแททิซอค่ะ ” พวกเธอแนะนำตัวอีกครั้งกับพวกที่เพิ่งเข้ามาต่างทำหน้าหูดำกันใหญ่ แน่สิสาวสวยมาทั้งทีนี่
“ ที่จริงไม่ต้องลำบากเอามาให้ก็ได้นะครับ ” แบคฮยอนกล่าวบอกพวกเธอที่ถือของฝาก ทั้งที่อยากจะบอกว่านั่นมันผมควรพูดและผมก็พูดไปแล้วด้วย
“ ค่ะ งั้นเจอกันวันนั้นเลยนะคะ พวกเรามีงานต่อขอบคุณที่ช่วยสนับสนุนพวกเรานะคะ ” พวกเธอโค้งก่อนจะพากันเดินออกและยังไม่ลืมยิ้มหวานของพวกเธอ
“ อ๊ะ .. พี่คะ ฉันกลัวว่าเราจะไม่ค่อยได้เจอกันดังนั้นนี่เบอร์ของฉันนะคะ ” เธอยื่นกระดาษที่จดเบอร์ของเธอด้วยท่าทีตรงไปตรงมาทำเอาเพื่อนของผมต่างมองด้วยความตกใจและผมรู้ว่าพวกมันคิดอะไรกัน
“ พี่ยิงเข้าเบอร์ของฉันหน่อยนะคะ ” ผมกดเบอร์เพื่อยิงไปที่เครื่องของเธอ
“ เรียบร้อยครับ ”
“ ไว้ .. จะส่งข้อความไปนะคะ ” เธอยิ้มแล้วรีบตามเพื่อนเธอออกไป
“ ไอ้ลูฮานหน้าม่อ อะไรกันมีแลกเบอร์พวกนายเป็นอะไรกานนน !! ” แบคฮยอนถึงกับกระชากขอเสื้อผมแล้วเขย่าไปมา
“ รุ่นน้องสมัยเรียน คือ .. เขาเคยชอบเซฮุน แต่ก็นะบางทีตอนนี้อาจจะชอบอยู่ละข่าววงในของนายอาจจะเป็นจริงก็ได้ ” ผมตอบอย่างไม่ใส่ใจ ทั้งที่จริงนั้น .. มาก !!
“ นั่นไง ฉันต้องโทรถามสายข่าวฉันแล้วล่ะ ”
“ ไม่นึกว่านายมีสายข่าวแล้วไม่บอกฉันนะ ”
“ ห่ะ ? เมื่อกี๊ฉันบอกว่ามีเหรอ .. เปล่า ฉันหมายถึงในทวิตเตอร์พูดกันต่างหาก ”
ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าเจ้านี่น่าสงสัย
ฉันเห็นนายมองน้องคนนั้นบ่อยเกินไปแล้วนะ ’ ‘
เซฮุนที่กำลังฟุบหน้าลงกับโต๊ะ แต่สายตาของเขามองคนข้างกายที่เอาแต่มองผู้หญิงอีกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นดาวเด่นของคณะที่ใครต่างก็ชื่นชอบเธอ
‘ นายคิดอะไรกับเขาหรือเปล่า ’
ลูฮานรีบหันกลับมาเมื่อเห็นว่าคนที่เขามองเริ่มรู้สึกตัวแล้วหันมา หากแต่ว่าเซฮุนเงยหน้าแล้วมองไปที่เธอแทน
‘ น่ารักดีนี่หว่า ลูฮานชอบแบบนั้นเหรอ ’ เซฮุนยิ้มให้หล่อนที่แอบยิ้มบางเบา
‘ เปล่าซักหน่อย ’ ลูฮานจับหน้าคนข้างกายไม่ให้หันไปมองแม้จะรู้ว่าไม่ทันแล้วและเธอคนนั้นก็รู้ตัวแล้วว่าถูกพวกเขามอง ‘ พวกเธอหันมามองหรือเปล่า ’
‘ น้อยไปสิ ’
‘ … ’
‘ พวกเธอเดินมาแล้ว ’
ไม่ทันไรกลุ่มสาวงามเดินผ่านหน้าของเขาเช่นเดียวกับสาวเจ้าของผมสีดำสนิทดวงหน้าหวานและผิวที่ขาวสะดุดตาเดินผ่านแถมยังไม่ลืมที่จะแอบยิ้มให้บางๆ ก่อนจะหันไปทำท่าสนุกสนานกับเพื่อนของเธอ
เธอรู้ว่าถูกมองเสียแล้วสิ ..
‘ พวกเธอไปแล้วล่ะ .. นี่ลูฮานชอบแบบนั้นเหรอ ให้ฉันติดต่อให้ไหมฉันที่น่าตาดีพวกเธอน่าจะยอมใหม่เบอร์นะ ’
‘ นายล้อฉันเล่นใช่ไหมโอเซฮุน ’ เขาหันไปคาดคั้น ‘ ถึงเราจะต้องแกล้งไม่ได้เป็นอะไรกัน ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องแกล้งไปมีแฟนเป็นผู้หญิงด้วยหรอกนะ ฉันไม่อยากทำร้ายจิตใจใคร ’
‘ ขอความจริง ’
‘ ก็ .. ก็ .. ก็ฉันรักนายจนไม่อยากเรียกใครว่าแฟนนอกจากนายนี่ ’ ลูฮานก้มหน้าเขินอาย
‘ อา~ นายยอมพูดแล้ว ฉันก็รักนายนะลูฮานนี่ ’
จุ้บ ! ♥
‘ โอเซฮุน ! ร้ายกาจมาก ’
ลูฮานปลีกตัวมานั่งที่ห้องสมุดทั้งที่จริงไม่ได้ตั้งใจมาอ่านหนังสือ เพียงแต่หาห้องแอร์มานั่งระหว่างที่รอเซฮุนเรียนซึ่งชั่วโมงนี้เขาไม่มีเรียน มันช่างบังเอิญที่ว่าหางตาแอบเหลือเห็นสาวเจ้าของผมสีดำสนิทที่คุ้นตาจนอดให้ไม่หันไปมองไม่ได้เลย
‘ จูฮยอนนี่ ’ ลูฮานพึมพำกับตัวเองก่อนจะรีบหาที่นั่งมุมอื่น เขาไม่กล้ามองหน้าเธอด้วยซ้ำเมื่อเห็นว่าเธอนั้นเห็นว่าพวกเขามอง
ความจริงเขาไม่ได้นึกสนใจอะไรเธอเลย เพียงแต่ว่าคำพูดคนอื่นเท่านั้น คนมากมายต่างหลงรักรูปกายภายนอกของเซฮุน มันคือสิ่งที่เขามั่นใจได้ว่าคนพวกนั้นไม่ใช่คนที่เซฮุนจะให้ความสนใจในแง่อื่นที่มากกว่าเพื่อน แต่เมื่อพบเธอเพียงปลายเส้นผมพลิ้วไหวกลับรู้สึกตงิดในใจว่าเธอนั้นชอบแอบมองพวกเขาไม่ต่างกัน และแน่นอนที่ว่าโอเซฮุนที่สุดแสนจะดูดีไม่น่าจะหลุดโพลของหญิงสาวพวกนั้นออกไปได้
‘ ขอนั่งด้วยนะครับ ’
เสียงหวานทำเอาลูฮานหลุดออกจากความคิดและมาเผชิญกับความจริงที่น่ากลัว
‘ ค .. ครับ ’ เขาตอบด้วยน้ำเสียงกุกกัก
‘ เพื่อนของฉันค่อนข้างเสียงดังแล้วฉันอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลยขอมานั่งด้วย ไม่ว่ากันนะคะ ’
จะว่าก็คงไม่ทันด้วยสิ
‘ เชิญครับ ’ เขาตอบก่อนจะนึกในหัวว่าควรทำอย่างไรไม่ให้คิดมาก ฟุ้งซ่าน หรือจะขอตัวออกไป มันคงไม่เหมาะเมื่อเธอมานั่งแล้วเขาลุกหนี มันเป็นเรื่องไม่ดีแน่แล้วอีกนานกว่าเซฮุนจะเรียนเสร็จ เขาต้องรอในความอึดอัดแบบนี้เหรอ
ภาวนาให้เธอไม่พูดอะไร
‘ ฉันเห็นว่าพวกพี่มองฉันนะคะ ’
เพราะเจ้าเกลียดชังเขาขนาดนั้นเลยเหรอ L
‘ อ่อ .. เอ่อ .. ขอโทษนะครับ พอดีเห็นว่า .. น่ารักดี ’
คงจำใจต้องตอบไปแบบนั้น แต่เธอก็น่ารักจริงๆ
‘ เขินนะคะกับใครที่พูดตรงแบบนี้ ’
‘ ผมคิดว่าน้องจูฮยอนจะชินแล้วเสียอีก ’
กลายเป็นว่าความอึดอัดมันค่อยๆ หายไปกับบทสนทนาไม่กี่คำ
‘ ก็ ส่วนใหญ่จะเป็นกับคนที่ไม่ค่อยได้รู้จักเท่าไร แต่กับคนรู้จักมันก็เขินเป็นธรรมดานะคะ ’ เธอกล่าวคำพูดของเธอทำเอาเขาค่อนข้างแปลกใจ
‘ เรารู้จักกันมาก่อนด้วยเหรอครับ ? ’
‘ อ .. เอ่อ ’ เธอเงียบไปพักหนึ่ง ‘ ฉันจูฮยอนไงคะ พี่เคยให้ฉันยืมร่มตอนฝนตกไง ’
แล้วปัจจุบันเขาก็ไม่ได้ร่มนั้นคืน จะว่าไปนั่นมันร่มของเซฮุนต่างหาก
‘ อ๋อ .. จำได้แล้วล่ะ ’
‘ แล้วพี่เซฮุนไม่อยู่เหรอคะ ทุกครั้งเห็นอยู่ด้วยกันตลอดเลย ’
ทุกครั้ง ? แปลว่าเธอก็มองเราบ่อยกว่าที่คิดสินะ
‘ ไม่ครับ คือเจ้านั่นมันเรียน ตอนนี้ผมไม่มีเรียนครับ ’
‘ แล้วพี่เซฮุนมีแฟนไหมคะ ? ’
ว่าไงนะ !?
‘ อ .. เอ่อ .. ไม่มีครับ เจ้านั่นไม่มี ชอบมันเหรอครับถามแบบนี้ ’ ผมแสร้งยิ้มให้กับเธอที่จ้องตาผมไม่วาง
‘ ... ’
‘ … ’
‘ ค่ะ ’
พระแม่จ้าว !!
‘ ฉันล้อเล่นค่ะ พี่อย่าทำหน้าตกใจขนาดนั้นสิคะ ’ เธอหัวเราะออกมาด้วยท่าทีน่ารัก และหลายคนในห้องสมุดกำลังมองมาที่ผมกับเธอ และ 100% คือมองว่าเธอกำลังทำอะไรกับคนอย่างผม
‘ ไหนบอกว่าจะอ่านหนังสือแล้วนี่ชวนผมคุยแล้วจะอ่านรู้เรื่องเหรอครับ ’
‘ มันคือข้ออ้างที่อยากมานั่งกับพี่ไงคะ ’ เธอยิ้มก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับหอบหนังสือของเธอเพื่อนกลับไปที่โต๊ะของเธอที่เพื่อนเธอมองอยู่และก็ไม่วายจะหันมายิ้มอีกครั้ง ‘ ฉันแค่อยากรู้จักพี่น่ะค่ะ ’
กลายเป็นห้องสมุดฮือฮาเรื่องไร้สาระนี่ไปแล้ว
‘ จริงนะโอเซฮุน จูฮยอนต้องคิดอะไรกับนายแน่เลย ถามฉันว่านายมีแฟนหรือยังด้วยล่ะ ’
ลูฮานเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องสมุดให้เซฮุนฟังในขณะที่กำลังเดินกลับบ้านพร้อมกันโดยเซฮุนกลับเป็นฝ่ายหัวเราะคิกคักมองว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่กับลูฮานมันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่ในระดับหนึ่ง
‘ ตอบไปสิว่าฉันเอง J ’
‘ นี่นายอยากให้ฉันตอบไปแบบนั้นจริงใช่ไหมโอเซฮุน ! ’
‘ … ’
‘ … ’
‘ ฉันรู้ว่านายไม่ทำแบบนั้นแน่นอน เพราะนายรู้ว่าอะไรควรไม่ควร และฉันเชื่อใจนายลูฮาน ’ เซฮุนหยุดนิ่งก่อนจะจับมือลูฮานเมื่อเห็นว่าไม่ค่อยมีคนมากเท่าไรจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนเห็นเมื่อเดินจับมือกัน ‘ และฉันก็รักนายที่สุดด้วยนะ ’
‘ เซฮุนอา~ ’
‘ ลูฮานของเราเขินแล้ว~~ ’
‘ มันไม่ตลกเลยนะ ’
‘ แต่ฉันมีความสุขนี่ เขินบ่อยๆ นะ ’
‘ แต่ฉันว่าจูฮยอนตั้งใจมานั่งกับฉันเพื่อถามเรื่องนายแน่เลยนะ ’
‘ หยุดพูดเรื่องนี้ได้แล้วมั้ง~ นายพูดจนฉันคิดว่านายหึงจูฮยอนนะ ที่จริงนายชอบแบบนั้นใช่ไหมล่ะลูฮาน ’
‘ ไม่จริงซักหน่อย ! ’
‘ งั้นก็อย่าพูดชื่อนี้อีกแล้วกันนะ พูดแต่ชื่อฉันก็พอ .. เซฮุนอา~ เซฮุน~ เซฮุนของฉัน~ โอเซฮุนอา~ อ๊า~ เซฮุน ’
‘ ทะลึ่งเซฮุน !! ’ ลูฮานถึงกับตีแขนคนที่พยายามล้อเล่นด้วยน้ำเสียงสุดน่าขนลุก
‘ ถ้าฉันเป็นนักร้องเราจะไม่ค่อยมีเวลาทำแบบนี้นะ ’ เซฮุนกล่าวทำเอาลูฮานนิ่ง มันคือเรื่องจริง และเวลานี้ก็ใกล้เวลาที่ลูฮานต้องกลับไปซ้อมที่ค่ายแล้วด้วย
เงียบจนกระทั่งเดินมาถึงค่ายที่เซฮุนเทรนอยู่ แค่มองแล้วกลับรู้สึกห่างออกไปสองมือที่จับกันไว้ปล่อยก่อนที่จะมาถึงไม่นานเพราะหน้าบริษัทเต็มไปด้วยแฟนคลับวงอื่น และแฟนคลับเซฮุนเล็กน้อย เซฮุนยิ้มให้เหล่าแฟนคลับของเขาที่ต่างยื่นขนมหรือของฝากมาให้
‘ พี่ลูฮาน พี่เซฮุนคะ ’ หญิงสาวลงจากแท็กซี่เดินมาที่พวกเขา ‘ ฉันเอาร่มมาคืนค่ะ ’
ซอจูฮยอน
‘ เธอ .. ’
‘ ฉันก็อยู่ค่ายนี้ค่ะ ขอโทษนะคะที่ไม่ได้บอก แต่ฉันเคยเห็นพี่เซฮุนอยู่บ้างค่ะ ’ เธอยิ้มอย่างเป็นมิตรและมีความสุข ถามเขาสิว่าอยากสุขกับเธอไหม น่าอายไหมล่ะกับผู้หญิงยังคิดไม่ดีได้
‘ ดีจังเลยนะ เซฮุนดูแลน้องด้วยนะ ’
พูดอะไรออกไปนะลูฮาน !!
‘ เอาร่มมาให้ค่ะ ’ เธอยื่นมันให้ลูฮาน
‘ ของเจ้าเซฮุนมันครับ ’ ลูฮานยิ้ม เธอยื่นมันให้เซฮุนที่ทำหน้าเหวอ
‘ ข .. ขอบใจนะ ’
‘ ไม่ค่ะ .. ฉันเองต่างหากที่ต้องขอบคุณ ถ้าวันนั้นฉันไม่ได้ร่มฉันกลับบ้านไม่ได้แน่เลยค่ะ ’ เธอกล่าวเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องใหญ่หลวงนักและพวกเขาได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
‘ รีบเข้าไปได้แล้วมั้ง ’ ลูฮานกล่าวโดยที่ไม่รู้ว่าหมายถึงใครคนใดคนหนึ่งหรือทั้งสองคน
‘ อ๋อไม่ค่ะ วันนี้ฉันขอลาแล้ว ฉันมีธุระต่อค่ะ แต่เอาร่มมาให้ก่อนฉันรู้ว่าพวกพี่ต้องมาแน่นอน ’
ให้ที่มหาวิทยาลัยไม่ได้หรือยังไง .. อย่างน้อยก็เป็นเพียงความคิด
‘ แล้วไม่รีบเดี๋ยวไปสายนะครับ ’ เซฮุนกล่าวเหมือนรู้หน้าที่ดีมาก
‘ อ๋อ .. ลืมไปเลย ขอบคุณสำหรับร่มอีกครั้งนะคะ ’
แล้วเธอก็ไป
‘ เข้าไปได้แล้วโอเซฮุน ’ ลูฮานกล่าว
‘ ไม่จูบลาหน่อยเหรอ ’
‘ ตอนนี้เหรอ ’ ลูฮานปรายตาไปรอบให้เห็นว่าประชากรล้นหลามยังอยากให้จูบลาอยู่ไหม
“ นี่จะไม่คิดจะเล่าให้ฟังจริงเหรอว่ารู้จักกันตั้งแต่เมื่อไรยังไงอะไรน่ะ ” แบคฮยอนยังคงตั้งคำถามไม่หยุด เรื่องราวมันไม่ได้น่าเล่าตรงไหนเลย
“ แต่นายบอกว่าเธอเคยบอกชอบเซฮุน .. เดี๋ยวนะแกไม่เห็นบอกเลยว่าเรียนมาด้วยกันกับเซฮุน ”
“ มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องเล่านี่หว่า ก็เหมือนเรื่องซอฮยอนกับเซฮุนไง พูดไปก็ไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรเลย ” ผมบอกไป ผมไม่รู้ว่าแบคฮยอนจะคิดได้ไหมแต่สำหรับผมคือการแถ เหตุผลที่แท้จริงคือผมคงไม่บอกใครหรอกว่ามันเริ่มจากที่เธอมองที่พวกเราเพราะพวกเรามองที่เธอก่อน
เชื่อเลยและหลังจากวันนั้นสองวันเธอเข้ามาบอกชอบเซฮุน .. และเจ้านั่นก็ไปเที่ยวกับเธอถึงอาทิตย์ด้วยโดยเหตุผลที่ว่าคนอื่นคิดว่ามันไม่ค่อยสุงสิงกับผู้หญิงยังไงล่ะ
“ ถ้าอย่างนั้นข่าววงในก็จริงสิครับที่บอกว่าคุณกับเซฮุนแอบมีความสัมพันธ์กัน ”
พิธีกรถามต่อหลังจากที่ศิลปินสาวซอฮยอนเล่าเรื่องเธอเคยเดทกับโอเซฮุนสองอาทิตย์ระหว่างกำลังเป็นเด็กเทรน
“ ถ้าเป็นข่าววงในมันออกมาวงนอกได้ยังไงล่ะคะ .. มันนานแล้วค่ะตอนนั้นมันประมาณสองปีได้แล้วตอนนี้แทบไม่ค่อยเจอกันเพราะพี่เขางานหนักมากค่ะ ” เธอตอบด้วยรอยยิ้มหวานอันแสนใสซื่อของเธอ
“ ทำไมไม่เห็นบอกเลยว่าพวกนายเคยเดทกันด้วย ” จงอินดูตื่นเต้นที่สุดในบรรดาเพื่อนร่วมวงที่กำลังดูรายการสัมภาษณ์ผ่านโทรทัศน์ภายในหอพักของพวกเขา
“ มันใช่เรื่องที่ต้องบอกด้วยเหรอไง มันเป็นอดีตที่ผ่านไปนานแล้ว ”
“ เป็นฉันคงเล่าไปสามบ้านแปดบ้านว่าเคยเดทกับซอฮยอนล่ะ ” จงอินดูท่าทางปลื้มเป็นพิเศษตั้งใจฟัง
“ เชื่อเถอะว่าเดี๋ยวมีรายการอื่นได้ไปสัมภาษณ์เรื่องนี้อีกแน่ แล้วแกต้องโดนถามด้วยแน่นอน นี่ไม่ปรึกษากันเลยแล้วออกมาพูดอะไรแบบนี้เหรอ ” คริสที่เป็นหัวหน้าวงดูเดือดร้อนกว่าตัวจริงเป็นไหนๆ
“ ไม่หรอก ผู้จัดการพวกนั้นมาบอกแล้ว รายการนั้นอยากได้เรตติ้ง พอแบบนี้บางทีพวกนายจะได้ออกรายการคู่และเรตติ้งอาจจะเพิ่ม คนจะยิ่งอยากรู้ ” ผู้จัดการวงกล่าวในขณะที่ตัวเองกำลังไล่ดูตารางงาน
“ ไม่เห็นจะสนใจเลย ”
“ แล้วไอ้ชานยอลมันไปไหนอีก นี่ฉันเตือนมันหลายรอบแล้วนะ มันแอบไปโทรศัพท์อีกใช่ไหม ชักบ่อยไปแล้วนะเมื่อก่อนพยายามปล่อยผ่าน นี่พวกนายรู้ไหมว่าไอ้ชานยอลมันกำลังคุยกับใครอยู่ ”
ใครมันจะไปกล้าตอบว่าคนนั้นเป็นผู้ชายล่ะ
“ เห็นว่าเป็นเพื่อนกันสมัยตั้งแต่มัธยมไม่ใช่เหรอครับพี่ คงไม่มีอะไรหรอกครับ ” เทาผู้แสนดีพยายามช่วยชีวิตเพื่อนในวงที่หายเข้าห้องไปโดยไม่บอกใคร
“ ขอให้จริง ไม่ใช่ว่ามันมีแฟนแล้วไม่บอกฉันนะ นี่ฉันเป็นห่วงมันนะ มันยิ่งชอบทำอะไรไม่ค่อยระวังอยู่ ”
“ พวกเราเข้าใจครับ ” คริสที่เป็นหัวหน้าวงยิ้มทั้งที่ใจจริงแอบคิดไว้ว่าจะไม่อยากฟังเสียงบ่นเป็นครั้งที่สามของวันนี้แล้ว
“ ให้ตายเถอะผมละอยากออกไปดูหนังจริงๆ ” เซฮุนบ่นก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเงิน
“ ไปด้วยสิ ” จงอินรีบเสนอตัวและเดินตาม
“ พวกนายจะไปดูหนังกันจริงเหรอ ” ผู้จัดการถึงขั้นออกปากถาม
“ เปล่าครับ แค่ไปหาซื้อของกินเท่านั้น ในตู้เย็นผมว่าอะไรที่หมดอายุทิ้งบ้างก็ดีนะครับ ”
“ หอใครก็รับผิดชอบกันเองสิ ”
“ ผมจะจำไว้ครับ ” เซฮุนรับคำก่อนจะเดินออกจากห้องโดยมีจงอินเดินตามก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความทำเอาเซฮุนที่เห็นก็อดแซวไม่ได้ตามนิสัย
“ อ๋อ ที่ออกมาเป็นเพื่อนอย่างนี้นี่เอง ”
จงอินไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยิ้ม
“ ให้รู้ไม่ได้นะ ” เซฮุนเสริมถึงเรื่องผู้จัดการของเขา
“ ก็ไม่มีใครรู้อยู่แล้ว .. ที่จริงนายควรไปดูหนังนะวันนี้ ”
“ ทำไมล่ะ นายอยากดูเหรอ ” เซฮุนถามด้วยความสงสัย ทั้งที่จริงอยากจะถามตั้งแต่ชุดที่ใส่ออกมา ไหนจะหมวกอีกราวกับว่าจะไปไหนไกลจากร้านสะดวกซื้อ
“ อยากสิ .. แต่ไม่ใช่กับนายนะ ”
“ อย่าบอกนะว่า ... ”
“ ฉันไปก่อนนะ ฝากด้วยนะไว้เลิกแล้วจะโทรหา เอ้อก่อนไป .. ”
ว่าแล้วจงอินก็จัดการกอดคอเซฮุนพร้อมกับใช้กล้องหน้าถ่ายรูปเพื่อส่งเป็นข้อความให้ผู้จัดการของเขา
‘ ผมไปดูหนังกับเจ้าเซฮุนนะครับพี่ ’
“ เดี๋ยวพี่เขาไม่เชื่อ แล้วจะโทรหานะเซฮุน ”
จงอินโบกแท็กซี่ออกไปด้วยความรีบร้อน ไม่คิดจะให้เขาพูดอะไรก่อนเลย เอาเถอะนั่งเล่นแถวนี้แล้วกันอีกอย่างก็ไม่ค่อยมีคนผ่านไปมามากนัก ดีที่เขาหยิบเสื้อกันหนาวออกมาด้วย
เขาเดินเข้าร้านสะดวกซื้อเพื่อจะซื้อของหลังจากที่ซื้อแซนวิชมาเพียงหนึ่งกันกับน้ำผลละไม้กระป๋องเขาก็นั่งอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ความจริงเขานั้นน่าจะไปดูหนังเหมือนกัน แต่เวลานี้ดูกับใครล่ะ เขาไม่มีใครจะดูด้วยแล้วนี่ และเวลานี้เขาต้องรอจงอินที่ไปดูหนังกับคนของมัน แล้วถ้าเขาส่งข้อความไปหาใครคนนั้นเพื่อออกมาดูหนังด้วยคงเป็นเรื่องแปลก เผลอๆ เขาจะไม่ออกมาด้วยซ้ำ
“ อ๋อ .. นี่กำลังจะไปดูหนังเหรอครับ ”
เสียงที่คุ้นหูทำเอาเซฮุนต้องรีบหันไปมอง
คนร่างบางเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อยืนคุยโทรศัพท์ที่เดินผ่านเขาที่นั่งอยู่ริมฟุตบาทหน้าร้านสะดวกซื้อ
“ ล .. ลู ”
“ ครับ .. ดูหนังให้สนุกนะครับ ครับ .. ”
“ ลูฮาน .. ”
เจ้าของชื่อหันมามองต้นเสียง
“ ซ .. เซฮุน ”
“ นายมา ... ”
“ พี่เซฮุนคะ พี่จงอินบอกให้ฉันมา บอกว่าพี่อยากไปดูหนังกับฉัน ” เสียงหวานของคนที่เพิ่งมาถึงทำเอาทั้งสองคนต้องหันไปมอง .. “ อ้าวพี่ลูฮาน พร้อมหน้ากันเลยนะคะ ไปดูหนังพร้อมกันไหม ”
รอยยิ้มหวานจับใจในสถานการณ์ที่น่าปวดใจที่สุด ..
ความคิดเห็น