ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : One
คริสต้าไม่เคยเบื่อเลยกับการเดินแจกลายเซ็นให้แฟนๆแม้จะต้องสู้แสงสปอร์ตไลต์กับเสียงตะโกนเรียกของนักข่าวและช่างภาพหลังรั้วกั้นขนาดใหญ่หน้าพรมแดง มันคือความสุขที่ได้เห็นพวกเขาสนับสนุนและให้กำลังใจ
"คุณช่วยเขียนชื่อน้องสาวของฉันลงไปด้วยได้ไหมคะ เธอชื่อแองเจิ้ล และเธอมีคุณเป็นไอดอล" หญิงสาววัยกลางคนพูดกับเธอรัวเร็ว ราวกลับกลัวว่าเธอจะหายไปในเสี้ยววินาทีสั้นๆ มือไม้จากแฟนคลับหลายคนยื่นมาตรงหน้าเธอ
"น้องสาวคุณต้องน่ารักเหมือนชื่อแน่ๆ ฉันฝากขอบคุณเธอด้วยนะคะ" นางแบบสาวส่งยิ้มกว้างขณะบรรจงเขียนชื่อแองเจิ้ลลงบนโปสเตอร์ใหญ่ที่มีรูปหน้าเธอบนปกนิตยสารโว้ก
มือใหญ่เข้ามาสะกิดที่ต้นแขนของเธอ "เราต้องรีบไปต่อแล้ว"
เธอเลื่อนสายตามองชายตัวสูง เส้นผมสีน้ำตาลเข้มจัดทรงของเขาเริ่มยุ่งเหยิงหลังจากลากตัวเธอให้เดินไปเดินมาบริเวณพรมแดงสักพักใหญ่
"ดีใจที่ได้เจอพวกคุณค่ะ" คำบอกลาคือสิ่งที่ถูกทิ้งท้ายไว้ก่อนจะถูกลากไปด้วยการ์ดร่างใหญ่และเลขาส่วนตัว
หญิงสาวหยุดโพสท่ากลางบันไดที่ปูด้วยพรมแดง คืนนี้บรรยากาศกลางแจ้งในลอนดอนไม่ได้เลวร้าย เธออยู่ในชุดกางเกงขายาวสีเงินที่ด้านหลังมีผ้ายาวคล้ายผ้าคลุมลากพื้นจากแบรนด์ Versace รองเท้าส้นสูงอยู่ในสีที่เข้ากันกับชุด
วันนี้เธอมีชื่อถูกเข้าชิงรางวัลใหญ่ และแม้จะไม่ใช่คนอังกฤษ แต่การได้มีชื่อเข้าชิงรางวัลใน British fashion awards ถือเป็นอีกหนึ่งความฝัน ดังนั้นการมาเดินพรมแดงในครั้งนี้ได้แบกรับความหวังมากมายเอาไว้ในใจด้วย
"ฉันไม่ได้หวังรางวัลหรอกค่ะ แค่มีโอกาสได้มาที่นี่ก็เป็นเกียรติมากแล้ว" และถึงแม้เธอจะให้สัมภาษณ์กับนักข่าวท้องถิ่นเช่นนั้น เธอก็รู้ว่ามันมีความจริงแค่ครึ่งหนึ่ง
"ฉันได้บอกเธอรึยังว่าวันนี้เธอสวยมาก" จอร์แดนพูดเสียงทุ้มต่ำและเบา เขาเดินเคียงข้างเธอเพื่อพาเธอเดินเข้าไปในรอยัลอัลเบิร์ทฮอล์
"นายพูดตั้งแต่ที่เราไปฟิตติ้งชุดเมื่อเดือนที่แล้ว" คริสต้าหัวเราะ เธอใช้ศอกทุ้งแขนเลขาหนุ่มเบาๆ "แต่ก็ขอบคุณ ฉันรู้ตัวดี"
เสียงแค่นหัวเราะของจอร์แดนดังใกล้หูเธอ แต่หญิงสาวกำลังยิ้มกว้างแล้วส่งเสียงร้องดีใจในระดับโทนเสียงที่สูงขึ้นเมื่อพบเพื่อนนางแบบในชุดเดรสสีชมพูอ่อนหน้าประตูทางเข้าใหญ่
การย้ายจากนอร์ทแคโรไลน่าตั้งแต่อายุสิบแปดตัวคนเดียวสู่มหานครนิวยอร์ก มันคือความวุ่นวายและภาระค่าใช้จ่ายที่หนักอึ้ง คริสต้า แม็คมิลเลนในอายุสิบแปดเร่ร่อนไปแคสติ้งกับเอเจนซี่ในช่วงฤดูหนาว
ถูกวิจารณ์ถึงรูปร่าง โครงหน้า ขนาดหน้าอก หรือแม้แต่ถูกช่างภาพลวนลาม นางแบบล้วนเจอมาเกือบตลอดสายอาชีพ คริสต้าผ่านพ้นมันมาได้เพราะกล้าที่จะลุกขึ้นพูดถึงปัญหา แม้ปัญหาจะยังไม่ถูกแก้ไขเสียทีเดียว
นางแบบไม่ได้อยากกินสลัดผัก เธอเกลียดทุกครั้งที่นั่งอยู่หลังเวทียื่นหน้าให้ช่างแต่งหน้าละเลงสีเกือบสามชั่วโมง เพียงเพื่อจะได้มองอาหารน่าทานมาวางเรียงต่อหน้า แต่กลับได้กล่องสลัดผักมาแทน พร้อมกับประโยคต่อท้ายคล้ายการดูถูกอย่าง 'อาหารนางแบบ'
อาชีพนางแบบไม่ใช่ความฝันที่มีเส้นทางสวยหรู หากไม่ได้เกิดมาในครอบครัวมีชื่อเสียงและอยู่ในสายแฟชั่นมาก่อน การไต่เต้าสู่ความสำเร็จในสายอาชีพนี้จะยากพอๆกับการที่พนักงานออฟฟิศขอขึ้นเงินเดือน
เมื่อตัดสินใจจะทิ้งงานไป ไม่มีใครรอเพื่ออ้อนวอนให้กลับมา นางแบบมีเป็นร้อยรายที่สามารถต่อคิวและมาแทนที่ได้ คริสต้าลุกขึ้นสู้และใช้สิทธิ์เสียงของตัวเองทุกครั้งเมื่อถูกกระทำเหมือนวัตถุ
ชื่อเสียงของเธอเพิ่มขึ้นเมื่อโซเชี่ยลมีเดียในช่วงปีให้หลังมีผู้คนให้ความสนใจมากกว่าเก่า สิ่งที่เธอโพสบอกผู้คนในอินเตอร์เน็ตกลายเป็นหนึ่งในข่าวใหญ่ช่วงประท้วงสิทธิสตรีในนิวยอร์ก
โซเชี่ยลมีเดียมีส่วนทำให้เธอมีชื่อเสียงรวดเร็วขึ้น นี่คือข้อดี เมื่อผู้คนรู้จักชื่อของเธอ แบรนด์เสื้อผ้า น้ำหอม เครื่องสำอาง และอีกมากมายจะเริ่มยื่นข้อเสนอมา
คริสต้า แม็คมิลเลนในตอนนี้อายุยี่สิบห้าปีแล้ว เธอมีเงินพอจะสร้างเนื้อสร้างตัวและซื้อเพนท์เฮาส์ใหญ่ในอัพเปอร์เวสต์ไซด์ บ้านพักตากอากาศในอีสท์แฮมป์ตัน และบ้านใหญ่อีกหลังที่เบเวอร์รี่ฮิลส์
"และรางวัลนางแบบแห่งปีได้แก่...." พิธีกรหนุ่มเปิดดูกระดาษสีขาวภายในซองจดหมาย ดูอับอายนิดหน่อยกับมุกแป้กๆที่สร้างขึ้นเมื่อนาทีที่แล้ว เขาโน้มตัวเข้าใกล้ไมโครโฟนตรงหน้า ก่อนจะเริ่มขานชื่อ "คริสต้า แม็คมิลเลน!"
เสียงปรบมือและเสียงเชียร์ดังลั่นพร้อมกันขณะที่คนรอบตัวเริ่มลุกขึ้นยืน หญิงสาวมองไปรอบกาย ไม่แน่ใจว่าได้ยินถูกต้อง จริงอยู่ที่ตั้งความหวังเรื่องรางวัล แต่ไม่คิดว่าจะชนะนางแบบสัญชาติอังกฤษภายในงานที่ถูกจัดขึ้นที่ประเทศอังกฤษ
"ลุกขึ้นเร็วเข้าสิ เธอได้รางวัล" จอร์แดนยืนปรบมืออยู่เหนือศีรษะ
คริสต้ากลืนเฟรนชฟรายที่เคี้ยว เธอวางเฟรนชฟรายชิ้นต่อไปลงบนจาน มือมันๆรีบเช็ดกับชายชุดจัมพ์สูทสีเงินที่สวมอยู่ และเธอหวังว่ามันจะไม่เปื้อนเป็นดวงๆขณะช่างภาพจับภาพเธอขึ้นรับรางวัล
เธอเดินไปตามทางด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ ตั้งใจจะหันไปยิ้มให้นางแบบชาวอังกฤษที่มีชื่อลุ้นรางวัลนี้ด้วย ทว่ากลับเห็นอีกฝ่ายมองมาอย่างไร้รอยยิ้มแสดงความดีใจ
นี่เป็นอีกหนึ่งความจริงที่ต้องยอมรับ ต่อให้ประสบความสำเร็จและมีคนรักมากแค่ไหน คนเกลียดก็มีเพิ่มขึ้นอีกครึ่งหนึ่ง
"...ฉันไม่เชื่อ"
ทันทีที่พูดประโยคนั้นจบ เสียงถอนหายใจของจอร์แดนก็ดังทั่วห้องประชุมขนาดเล็ก คริสต้าละสายตามองแก้วกาแฟร้อนจัดในมือ เสียงไซเรนของรถดับเพลิงดังอยู่เบื้องล่างริมถนนตึกบริษัทไอเอ็มจี บริษัทที่เธอเป็นนางแบบในสังกัด
นิวยอร์กในช่วงพฤษภาคมค่อนข้างร้อน เธอสวมเสื้อแขนสั้นกับกางเกงยีนส์ขาสั้น รองเท้าบู้ทดีไซน์เนอร์ส้นสูงกระทบกับพื้นกระเบื้องสีขาวเบาๆ
"นั่นมันแบรนด์เสื้อผ้าที่ดังมากนะ ทำไมแอคเคาท์ดีไซน์เนอร์กับแอคเคาท์แบรนด์ถึงได้ถูกแฮคพร้อมกัน เขาใช้รหัสเดียวกันรึไง เป็นข้ออ้างที่ตลกสิ้นดี"
"แต่พวกเขาเสนอเงินให้เธอสูงกว่าแบรนด์ไมเคิล–"
คริสต้ายกมือขึ้นห้ามเลขา "ฉันจะไม่สนับสนุนแบรนด์ที่เหยียดเชื้อชาติ นายไม่เห็นรึไง ตอนนี้มีแต่คนพูดกันว่าจะบอยคอท*แบรนด์นี้"
"บางทีเธออาจพูดถูก" เวโรนิก้า ผู้จัดการส่วนตัวของเธอวางปากกาลงบนโต๊ะกระจกยาว "ถ้าเธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็มีแต่จะสร้างชื่อเสียให้ตัวเอง"
"เห็นไหม" เธอผายมือไปทางหญิงวัยกลางคนผมสีไวน์แดง "เวโรนิก้ายังเห็นด้วยเลย"
หญิงสาวหรี่ตามองชายหนุ่มตัวสูงที่เบ้หน้าและยักไหล่ตอบในเวลาต่อมา แสงแดดยามเก้าโมงเช้าทำให้เธอมองเห็นเส้นผมสีน้ำตาลเกือบดำของจอร์แดน
เมื่อสามปีที่แล้วจอร์แดน การ์เนอร์เดินเคียงข้างในฐานะเลขาคนแรกของเธอ ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่าเขาคือแฟนหนุ่มคนใหม่ แม้แต่แบรนด์ชุดชั้นในชื่อดังก็พยายามติดต่อจอร์แดนให้ไปเป็นนายแบบให้
ทุกคนต่างประหลาดใจและมีสีหน้าไปในทางเดียวกันเมื่อรู้ว่าเขาไม่ใช่นายแบบ และทำหน้าที่เป็นแค่เลขาของเธอเท่านั้น
จอร์แดนไม่เคยพูดถึงรสนิยมของตน เธอไม่เคยเห็นแฟนสาวหรือแฟนหนุ่มของเขา แต่คิดว่าอีกฝ่ายอาจซ่อนคนรักไว้ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
"พรุ่งนี้แบรนด์รีบ็อกซ์จะขอต่อสัญญากับเธอ คำนวณเวลาเดินทางแล้ว เธอสมควรจะมาถึงที่นี่แปดโมงเช้า"
"โอเค" เธอตอบตกลงขณะยกกาแฟดำขึ้นซด
เสียงไซเรนเงียบไปเมื่อเดินลงมาถึงชั้นล่างของตึก การ์ดสี่คนเริ่มปฏิบัติหน้าที่โดยการเดินนำและเดินปิดท้ายด้านหลัง จอร์แดนเก็บไอแพดแนบแขนไว้ เขาเดินตามหลังเธอและกำลังคุยงานอยู่กับเลขาคนหนึ่งของแบรนด์เครื่องสำอาง
คริสต้ายกแว่นกันแดดขึ้นสวมเมื่อเห็นปาปารัสซี่ยืนรออยู่หน้าตึก เธอมองเห็นแฟลชที่เริ่มกระพริบรัวเร็วเมื่อเข้าใกล้ประตูในระยะประชั้นชิด
เธอตั้งใจมุ่งหน้าไปที่รถเรนจ์โรเวอร์คันใหญ่สีดำที่คนขับรถเพิ่งเปิดประตูให้ หญิงสาวรีบโยนกระเป๋าชาแนลเข้าไปก่อนจะมุดตัวเข้าไปนั่งเบาะรถทางฝั่งขวา รอให้จอร์แดนขึ้นมานั่งข้างๆ
ทว่าสายตาเหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงอายุประมาณห้าขวบในชุดสีชมพูท่ามกลางกลุ่มปาปารัสซี่ เธอเห็นดวงตาสีฟ้าจ้องมองมาด้วยใบหน้าลังเลใจ หญิงวัยกลางคนรีบก้มลงอุ้มเด็ก มือข้างหนึ่งถือนิตยสารฉบับเดือนพฤษภาคมที่เธอได้ขึ้นปก
คริสต้ารีบมุดตัวออกจากรถ เธอได้ยินจอร์แดนส่งเสียงเรียกค้าน แต่เลือกที่จะเดินไปหาเด็กน้อยในชุดเสื้อกันหนาวสีชมพูริมทางเท้า พร้อมๆกับที่แสงแฟลชกระพริบรัวเร็วขึ้นเหมือนห่าฝนและเสียงตะโกนเรียกชื่อเธอ
"สาวน้อย เธอชื่ออะไรจ้ะ" เธอมองเด็กผมสีส้มในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่ มือข้างหนึ่งยกขึ้นโบกไปมา
เด็กน้อยตรงหน้าทำเพียงแค่จ้องมองมาด้วยรอยยิ้มลังเล "เธอชื่อแคทเธอรีนค่ะ"
คริสต้าหันไปยิ้มให้แม่เด็กที่ตอบคำถามแทน "แคทเธอรีนเหรอ นั่นเป็นชื่อที่เพราะมากเลย บังเอิญมากที่เราเจอกัน เธออยากได้ลายเซ็นฉันไหมล่ะ"
มันเป็นครั้งแรกที่เห็นรอยยิ้มของเด็กตรงหน้าก่อนที่อีกฝ่ายจะพยักหน้าตอบ จอร์แดนรีบวิ่งมาอยู่ข้างหลัง การ์ดสองคนเดินมากันทางไม่ให้ปาปารัสซี่ขยับเข้าใกล้เกินความจำเป็น
นางแบบสาวรับนิตยสารจากมือของแม่เด็กแล้วรับปากกาหมึกดำจากเลขาเพื่อเซ็นลายเซ็นตัวเองลงไป ไม่ลืมที่จะเขียนชื่อแคทเธอรีนต่อท้ายพร้อมหัวใจสองดวง
"ตั้งใจเรียน เป็นเด็กดีกับแม่ด้วยนะแคทเธอรีน" เธอยื่นนิตยสารคืนให้เด็กน้อย
เสียงฝีเท้าดังกระทบกับพื้นคอนกรีตของฟุตบาทเป็นจังหวะรวดเร็วและดังสนั่นในวินาทีต่อมา คริสต้าได้ยินเสียงตะโกนห้าวและดังลั่นจากจอร์แดนด้านหลัง ขณะที่เธอและการ์ดกำลังหันไปมองร่างของใครบางคนที่แทรกตัวเข้ามาด้วยความรวดเร็ว
เพราะกลุ่มคนจำนวนมากที่รายล้อมเธอ คริสต้าวิ่งหนีหรือเอียงตัวหลบไม่ได้ เธอเห็นชายคนหนึ่งในแจ็คเก็ตหนังสีดำดูเลอะเทอะ กางเกงยีนส์สีดำขาดรุ่ย เส้นผมสีน้ำตาลอ่อนเป็นลอนธรรมชาติที่ตอนนี้เธอเห็นชัดเจนจนเกินไป
ชายหนุ่มแปลกหน้ากำลังก้มตัวจะใช้ฝ่ามือใหญ่จับก้นเธอ
คริสต้าปล่อยปากกาของจอร์แดน ได้ยินเสียงมันกระทบกับพื้นขณะที่แขนข้างที่ใกล้ชายแปลกหน้าถูกยกขึ้น เธอใช้ศอกแหลมเหวี่ยงและต่อยหนักเข้าที่โหนกแก้มของคนข้างหลัง
ความวุ่นวายก่อตัวขึ้นทันที เหมือนตอนที่เสียงกระสุนดังขึ้นใกล้กับตำแหน่งที่ประธานาธิบดียืน คริสต้ารู้ตัวอีกทีตอนที่ถูกการ์ดร่างใหญ่อุ้มขึ้นลอยเหนือพื้น จอร์แดนตะโกนพูดบางอย่างกับชายที่เธอเพิ่งเสยหมัดใส่
"จอร์แดน!" เธอตะโกนเรียกเลขาอายุยี่สิบหกปีที่ใบหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธท่ามกลางฝูงชน
การ์ดพยายามแทรกตัวแล้วดึงจอร์แดนให้เดินฝ่าปาปารัสซี่ที่เริ่มมีมากกว่าเดิมอีกเท่าตัว จอร์แดนถูกลากให้เข้ามาในรถตามหลังเธอ ขณะที่ชายโรคจิตถูกการ์ดอีกสามคนคุมตัวไว้จนร่างล้มลงแนบกับพื้น
Benjamin Ingrosso - Spotlights
Talk
*บอยคอท(Boycott): การคว่ำบาตร ไม่ยอมซื้อสินค้าจากแบรนด์นั้นๆ
รีดเดอร์คนไหนที่กดติดตามนิยายเรื่องนี้ไว้แต่แรกไม่ต้องตกใจไปนะคะ เราจะรีไรท์เรื่องนี้ใหม่ทั้งหมดค่ะ
หลังจากกลับมาอ่านแล้วรู้สึกว่าเนื้อเรื่องเก่ายังแต่งไม่เต็มที่พอ *สามารถอ่านใหม่ได้นะคะ เพราะทุกอย่างจะเปลี่ยนไปหมดค่ะ555*
ใครที่ยังไม่ได้เป็นแฟนคลับแล้วชอบก็อย่าลืมกดหัวใจติดตามอ่านนิยายเรื่องนี้กันด้วยนะคะะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น