ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 1
กาลครั้งหนึ่ง เมื่อปีศาจร้ายทำร้ายผู้คนจนทำให้กลายเป็นยุคมืด(ตามมุขฮีโร่กู้โลก)
...
ไม่เอาว้อย การเล่าเรื่องแบบอ่านนิทานมันทำไมยากอย่างนี้ฟะ เอาใหม่ๆ หวัดดีจ้า ชั้นเป็นคนเล่านิทานพเนจร แต่เรื่องที่ชั้นเล่ามันไม่ธรรมดาแบบคนอื่นหรอกนะ เรื่องนี่เป็นการพจญภัยของสองสาวในโลกที่ชื่อว่าฟาลาเซีย เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อสาวๆทั้งสองได้เดินทางไปยังเกาะทางเหนือโดยใช้เรือ...
“หาว~”นี่คือเนียงเนียง เป็นเด็กสาวหูแมวที่ได้ชื่อว่าเป็นจอมป่วนของเรื่อง แล้วสาเหตุที่ยัยนี่ต้องมาหาวตั้งกะเช่าตรู่แบบนี้เพราะว่า ตอนที่จะขึ้นเรือก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเงินค่าเดินทางไม่พอ สาวๆของเราก็เลย
“นี่เราต้องมาเนั่งเฝ้ายามตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่เลยเรอะเนี่ย”ต้องเป็นเวรยามเฝ้าเรือค่ะ
“ถ้าไม่ติดตรงที่ว่าเงินไม่พอล่ะก็ ไม่มานั่งเฝ้าแบบนี้หรอก ง่วงก็ง่วง”เนียงเนียง บ่นไปหาวไป
“แล้วเธอไม่ง่วงเลยเรอะไง คานิ...”เนียงเนียงหันไปหาคานิวัล
“คร่อก...”ส่วนเจ้าของเสียงกรนนี้คือคานิวัลค่ะ เป็นนักดาบที่เดินทางไปทั่ว ถึงจะเป็นผู้หญิง แต่แรงนั้นเยอะยิ่งกว่าผู้ชายร้อยคนรวมกันซะอีก เป็นเพื่อนคู่หูและคู่กัด (?) กับเนียงเนียง มักจะมีนิสัยชอบพูดเชิงหาเรื่องเก่งเป็นว่าเล่น
“นี่หล่อน...หลับตลอดเลยเหรอ”เนียงเนียงโกรธ
“ฮ้าว... อ้าวเนียงเนียง เช้าแล้วเหรอเนี่ย”คานิวัลของเรายังไม่รู้ตัวเลยว่าจะเจอกับ...
เปรี้ยง...ลูกตบแมวเหมียวพิฆาตมารของเนียงเนียงตั้งแต่เช้าเลย
“แอบงีบคนเดียวแบบนี้ มื้อเช้าไม่ต้องกินเลยนะ”เนียงเนียงเดินเชิดกลับไป ส่วนคานิวัลก็ยังนั่งสลบเหมือดอยู่เลย
หลังจากที่คานิวัลตื่น (แสดงว่าก่อนหน้านั้นยังหลับในอยู่) เค้าก็เดินไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่ห้องพัก (คนงาน)
“ให้ตายเถอะยัยเนียงเนียงนับวันมือยิ่งหนักขึ้นแฮะ”คานิวัลทายาตรงแผลที่โดนเนียงเนียงตบเป็นแนวมือยาว (ปูดอีกต่างหาก)
“ถึงจะเป็นคนที่เข้มงวดจนออกนอกหน้าก็เถอะ”คานิวัลเปลี่ยนชุดเสร็จพอดี
“แต่ฝีมือก็เก่งพอๆกับฝีปากนั่นล่ะ (ปากจัดจริงๆ)”หล่อนพูดพลางหัวเราะ
“นี่ๆนินทาอะไรได้ยินนะ”เนียงเนียงก็ลงทุนดีเหลือเกินนะไปแอบอยู่ในตู้เสื้อผ้าเนี่ย
“เหวอ แย่แล้วพวกการ์เดี้ยน”ลูกเรือคนหนึ่งตะโกนลั่น ทุกคนที่อยู่ในเรือก็พากันแตกตื่น
“เจ้าพวกนั้น!!!”คานิวัลรีบวิ่งรุดไปยังนอกเคบิน สิ่งที่หล่อนเห็นคือ เรือขนาดใหญ 1 ลำอยู่เบื้องหน้า
“หยา พวกนั้นจริงๆด้วยง่ะ ทำไงดีๆ”
“นี่ๆ อย่าแตกตื่นจะได้ไม๊ งานเก็บกวาดเจ้าพวกนี้ก็งานเรานะ”คานิวัลจับมือเนียงเนียงไว้
“ก็แค่เฝ้าไม่ใช่เรอะ”เนียงเนียงสะบัดมือ
“แต่เค้าว่าสมบัติในเรือเจ้าพวกนั้นเยอะนะ”ทีเรื่องนี้ล่ะหูของเนียงเนียงกระดิกเชียว
“แล้วจะยืนหาสวรรค์วิมานอะไร ไปโกยสมบัติจากเจ้าพวกนั้นกันเต๊อะ เหอ เหอ”เนียงเนียงตาเป็นมันเลย (พอมีเรื่องเงินเรื่องทองมาด้วยล่ะขยันเชียว)
ด้วยประการนี้พวกคานิวัลจึงตกลงกันว่าจะไปบุกเรือของการ์เดี้ยนกันแต่ปัญหาก็มีอยู่ว่า...
“สูงจังเลย ขืนตกลงไปมีหวังเป็นเหยื่อไอ้หลามแน่เลย”เนียงเนียงพูด (แต่จริงๆกลัวความสูงขนาดหนัก)
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ”
“เมื่อตะกี๊ก็พูดอยู่ว่ามันสูงแล้วจะให้ไปยังไงล่ะ”เนียงเนียงโวยวาย
“ก็กระโดดไปสิไม่เห็นยาก”คานิวัลพูดหน้าตาเฉย
“พูดเป็นเล่น นี่ห่างกันตั้ง 3 เมตรเชียวนะ3 เมตร (แล้วทำไมต้องเน้นด้วยฟะ)”
“ก็แค่ 3 เมตร”คานิวัลอุ้มเนียงเนียงแล้ววิ่ง
“ไม่เอานะ!!!แง~ ตกลงไปแน่”เนียงเนียงตะโกน
คานิวัลกระโดดไป แล้วยังถึงอีกต่างหาก ส่วนเนียงเนียงของเรา
“แง”ยังร้องไม่เลิกเลยค่ะ
“เฮ้ยหยุดร้องได้แล้ว มาถึงพื้นตั้งนานแล้วย่ะ”คานิวัลเริ่มรำคาญ
“จริงด้วย ยังครบ 32 ไม่บุบสลาย”เนียงเนียงเช็คร่างกาย
“แต่ถ้าขืนทำอะไรแบบนี้อีกล่ะก็น่าดู”ดูท่าคานิวัลจะทำให้เนียงเนียงโกรธกว่าเดิมซะอีก
“แทนที่จะมาทะเลาะกันชั้นว่าไปถล่มเรือนี่ก่อนดีไหม”ไอ้การที่เปลี่ยนเรื่องพูดเร็วก็เป็นหนึ่งในความสามารถที่พอจะมีประโยชน์ (รึเปล่านะ) ของคานิวัลที่พอช่วยให้รอด (บางครั้งนะ) จากลูกตบมหาประลัยของเนียงเนียงได้บางครั้ง (ย้ำ บางครั้งนะคะ)
เอ้า เล่าความยาวสาวความยืดเกินไปนิด กลับมาดูที่ 2 สาวของเรากัน โดยทั้งสองคนต่างแยกกันไปคนละทาง โดยคานิวัลลงไปใต้ท้องเรือ ส่วนเนียงเนียงของเราก็รู้ๆกันอยู่ มีทองที่ไหนหล่อนไปนั่น
มาดูทางด้านคานิวัลกันก่อน...
“ไม่เข้าใจรสนิยมของเจ้าพวกนี้เลยแฮะ ไอ้ตรงที่เอาคุกมาตั้งไว้ข้างทางเดินก่อนถึงห้องเก็บอาวุธเนี่ย”คานิวัลเดินมาตามทางเดินที่ข้างทางมีคุกตลอดแนวทั้งสองฟาก
“ว่าแล้วว่าลูกหนูที่เข้ามาต้องไม่ใช่ธรรดา”มีเงาดำอยู่เบื้องหน้าคานิวัล จากคำพูดแสดงว่าไม่ใช่มิตรแน่นอน
“ได้เจอกับอดีตนักฆ่าอันดับหนึ่งของการ์เดี้ยนโดยบังเอิญแบบนี้ถือเป็นเกียรติอย่างมาก”ชายในชุดเกราะก้าวเท้าออกมาจากเงาแล้วโค้งคำนับคานิวัลเหมือนรู้จักกัน
“ขอโทษทีนะ ชั้นไม่ใช่คนที่นายพูดถึงหรอก”คานิวัลยิ้มที่มุมปาก
“ไม่จริงหรอก เพราะแววตาที่แข็งกร้าวของคุณมันฟ้องมาแบบนั้น...”ชายคนนั้นดึงอะไรบางอย่างที่คล้ายเชือกลงมา แล้วประตูห้องขังทุกห้องก็เปิดออก
“ถึงคุณไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร แต่ผมก็ไม่ยอมให้คุณกลับไปเป็นๆแน่นอน”มีปูยักษ์ออกมาจากห้องขังจำนวนมาก
“หึ...ฮ่าๆๆๆ”คานิวัลหัวเราะร่วน
“มี...มีอะไรน่าขำนักเรอะไง”
“ฮิๆ โอย...โทษทีนะ แต่นั่นมันเป็นเรื่องที่น่าขำที่สุดเลยรู้ไหม”คานิวัลพูดยังกับว่าเป็นเรื่องตลก (เค้าจะฆ่าแกตายอยู่แล้วยังเห็นเป็นเรื่องน่าขำอยู่ได้)
“เฮอะ จะตายแล้วยังมาพูดตลกอีกนะ”พวกปูยักษ์กรูกันมาทางคานิวัล
“พวกแกคงอยากให้ชั้นตายมากเลยสินะ...แต่ต้องขอโทษด้วยที่ทำตามไม่ได้”คานิวัลกระโดดข้ามปูยักษ์แล้วทุบต้นคอของทหารคนนั้นจนสลบพวกปูยักษ์ก็หันไปมา
“โดนจับมาแบบนี้ก็แย่สินะ เอ้า ไปได้แล้ว กลับทะเลไปซะ”คานิวัลไล่พวกปูยักษ์ไปด้านนอกแล้วเดินไปที่ห้องด้านใน
“เฮ้อ อะไรฟะเรือออกใหญ่ดันมีของอยู่แค่เนี้ย”คานิวัลของเราเริ่มฉุนเพราะว่ามีอาวุธเล็กน้อยในห้องเก็บอาวุธ (ซึ่งมันน่าจะมากกว่านี้อีกมาก)
ก่อนจะออกจากห้องไปนั่นเอง...
ลูกกะตาอันเฉียบแหลม (หรือแสนทู่กันแน่) ของคานิวัลได้เหลือบ (ไม่ใช่ตัวเหลือบนะคะคนละตัวกัน) ไปเห็น..เห็น...เห็น...! (มันจะกี่เห็นกันแน่ฟะ)
เด็กผู้ชายคนหนึ่งถูกล่ามโซ่อยู่ ตอนแรกก็สองจิตสองใจอยู่นั่นล่ะ แต่คิดไปคิดมาเห็นว่าไม่ช่วยคงคาใจตลอดชาติแน่ ก็เลยช่วยออกมาด้วย....
“แต่ยายเนียงเนียงจะเล่นเราตายไม๊เนี่ย”
เรามาดูทางด้านเมวเหมียวเนียงเนียงของเรากันบ้างดีกว่านะคะ หลังจากที่แยกกับคานิวัลก็รีบตรงมายังห้องกัปตันทันที แต่เส้นทางที่ผ่านไปนั้นมันหาได้โรยด้วยกลีบกุหลาบไม่ (เฮ้ย เน่าไปๆ) แน่นอนว่าพวกลูกเรือคงแห่กันมาเป็นแน่แท้ (เฮ้ย ก็บอกว่าเน่าไปๆ) แต่เนียงเนียงของเราก็ไม่ได้มีแต่ความน่ารักอย่างเดียวนะคะ เรื่องวางกับดักแบบแสบๆหล่อนก็ไม่เป็นที่สองรองใครเช่นกันค่ะ
“เฮ้ย อยู่ทางนั้น” ตัวอย่างก็เช่น
“จ๊าก~แสบตา”ถุงระเบิดพริกไทย
“แสบนักนะแก”แล้วก็ยังมี...
“โอ๊ยเจ็บๆ”ระเบิดประทัดทำเองที่แรงพอตัว
“หมกเม็ดเยอะจังนะแก”ยังค่ะ ยังไม่หมด
“เหวอ อะไรเนี่ย กาวหนึบๆดึงไม่ออก”ยังมีกาวหนึบสามเท่าที่ประดิษฐ์เอง
“แหวะ เหม็นชะมัดยาดกลิ่นอะไรฟะ”ระเบิดไข่เน่า
“ยังมีอีกไม๊ล่ะ”แล้วด่านสุดท้าย
“เมี๊ยว~”คือเหมียวยักษ์กับเหมียวโย่งที่เป็นสัตว์อัญเชิญของเนียงเนียง (ตามปกติจะย่อส่วนแล้วเก็บไว้ในกระเป๋า)
“ว้าก”ตั้งกะที่เคยวางกับดักมายังไม่เคยมีใครที่ผ่านด่านมาได้ซักคน (ก็ส่วนใหญ่จะเผ่นแนบตรงด่านสุดท้ายนี่ล่ะ)
“หวาว ที่นี่มันคลังสมบัติชัดๆ ทองอื้อซ่าเลย แบบนี้ต้องโกยให้หมด”พูดยังไม่ทันขาดคำเลยเนียงเนียงของเราก็รีบโกยของใส่ถุงหมดทั้งทองทั้งแผนที่ทั้งเข็มทิศ ถึงเข้ามาเอาของได้ แล้ววิธีหนีคิดไว้มั่งหรือเปล่า บอกกันบ้าง
“ลืมคิดวิธีหนีซะสนิทเลยง่ะ”ตูว่าแล้ว
“หนอยเจ้าแมวบ้านั่นเล่นซะแสบ ถึงเข้าไม่ได้มันก็ต้องหนีออกมาทางนี้แน่”หยา ทางเข้าออกก็มีทางเดียวแถมมีพวกลูกเรือดักทางอยู่แบบนี้จะหนียังไงอ่ะ
“ยังดีนะที่ยังมีไอ้นั่นอยู่”เนียงเนียงหยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋า
“สงสัยจะไม่มีอาวุธเหลือแล้วมั้ง”
เฟี้ยว...เนียงเนียงขว้างอะไรบางอย่างออกมา
“เฮ้ย...นี่มันระเบิดนี่ หลบเร็ว”ลูกเรือคนหนึ่งตะโกนลั่น
“มันก็แค่ประทัดของเด็กๆเอง ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก”
“ประทัดบ้านบิดาบ้านมารดาแกสิใหญ่ขนาดนี้”
“ไปดูกันใกล้ๆไหม”ลูกเรืออีกคนเสนอ
“ฉันเสนอว่าคนต้นคิดต้องเป็นคนนำ”ลูกเรืออีกคนพูด
“แล้วคนต้นคิดใครกันล่ะ”
“ก็แกนั่นล่ะ”ก็ตกลงกันว่าไอ้คนที่เสนอคนแรกก็โชคร้ายต้องเดินนำไปคนแรก (ก็ช่างคิดดีนัก)
“เห็นไหม มันไม่ระเบิดเลย”ลูกเรือก็มามุงดูกัน
ตูม...อยู่ๆไอ้แท่งนั่นมันก็ระเบิดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยซะดื้อๆเลยค่ะ หลังจากที่มันระเบิด...
“โอย แค่กๆมันอะไรกันฟะเนี่ย เฮ้ พวกแกเป็นยังไงกันบ้าง”ลูกเรือคนหนึ่งตะโกนท่ามกลางกลุ่มหมอก
“แค่กๆ ยังอยู่ดีครบ 32 เฟ้ย”ลูกเรือคนหนึ่งตะโกนตอบ
หลังจากที่ควันจากที่ควันจางไป พวกลูกเรือก็แห่กันไปที่ห้องกัปตัน แต่ที่นั่นก็ไม่มีใครอยู่แล้ว
“ยู้ฮู~ทางนี้จ๊ะพวกทหารการ์เดี้ยนแสนงี่เง่าทั้งหลาย”เสียงของเนียงเนียงตะโกนมาจากนอกเรือ ไม่ทันไรพวกการ์เดี้ยนรีบตรงรี่ไปยังต้นเสียง
“เป็นไง ระเบิดควันแบบตั้งเวลาของเค้าเจ๋งป่ะ”พอมาถึงก็เจอคำสบประหม่า (ถึงแม้จะใช่คำพูดแบบเด็กๆก็ตาม) แทงใจดำอย่างจัง
“หนอยแก ยัยตัวแสบแอบไปเอาเรือเล็กมาตั้งกะเมื่อไหร่กัน”
“จุ๊ๆๆใช้คำพูดแบบนั้นกับเด็กได้ยังไงกันล่ะ เดี๋ยวเด็กเค้าเอาเป็นแบบอย่างมันไม่ดีนะ”ก็ตัวเองไปสร้างวีรกรรม (อย่างแสบ) เอาไว้ซะเยอะแบบนั้นมันน่าพูดดีด้วยหรอก
“แทนที่จะมาถามว่าพวกเราไปเอาเรือมาจากไหน น่าจะถามว่าจะเอาเรือเล็กจากไหนไปหนีเวลาเรือระเบิดมากกว่านะ”คานิวัลหยิบสายชนวนขึ้นมา
“กัปตันครับเรือเล็กของเราหายเรียบหมดเลยครับ”
“ว่าไงนะ”ทันทีที่สิ้นเสียงเรือเล็กที่หามันก็มาแต่ว่า...
มันกลับเหลือแต่เศษไม้กระจายเต็มทะเลหมดแล้วค่ะ หลังจากเห็นเรือเล็กกลายเป็นเศษไปเท่านั้นเเหละค่ะบรรดาลูกเรือก็หน้าถอดสีกันเป็นแถว
“งั้น...เพื่อไม่ให้มองว่าพวกเราโหดร้ายเกินไปเอาเป็นว่าจะให้เลือกแล้วกัน”คานิวัลหยิบสายชนวนอีกสายมา
“สายนึงเชื่อมกับระเบิด อีกสายม่ายได้เชื่อม จะเลือกสายหมายเลข 1 หรือหมายเลข 2 ดี...”เล่นของอันตรายอีกแล้ว
“คิดดูอีกที...”
“จุดมันทั้งสองอันนี่ล่ะ”เฮ้ย แบบนี้มันเลวร้าย (สำหรับลูกเรือ) มากกว่าเดิมไม่ใช่เรอะ
“เฮ้ย เดี๋ยวเด้ ยังไม่ได้เลือกเลย”บรรดาลูกเรือเกิดอาการต่อมน้ำตาทะลักกันหมดเลยค่ะ (ร้องไห้เป็นเผาเต่าน่าจะถูก)
“จุดไปแล้วอ่ะ”แว้ก ยิ่งเลวร้าย (สำหรับลูกเรือ) มากกว่าเดิมสิคะ
“เจอแล้ว”ลูกเรือคนหนึ่งพบลูกระเบิดที่เนียงเนียงซ่อนไว้แล้วตัดสายชนวนออก
“ก๊ากๆๆๆ หัวเราะทีหลังดังกว่า ไงครับ มีอะไรจะสั่งเสียก็รีบพูด ก่อนที่ผมจะถล่มเรือเล็กของคุณด้วยปืนใหญ่”
ตูม ไม่ทันไรไอ้ปืนใหญ่ที่พูดถึงมันก็ยิงเองซะแบบนั้น
“อะไรอีกเนี่ย”
“ก็บอกแล้วไงว่าสายชนวนมันมีสองสาย”คานิวัลพูด
“ก็อีกสายมันไม่ได้มีลูกเล่นอะไรไม่ใช่เรอะ”
“ใครพูดว่าไม่มีกันฟะ ชั้นก็พูดแค่ว่ามันไม่ได้เชื่อมกับระเบิดแค่นั้นนะ ไม่ได้หมายความว่าอีกสายจะไม่ได้มีอะไรสักหน่อย”
“กัปตันครับ เรือเราโดนปืนใหญ่ยืงจนใต้ท้องเรือเป็นรูหมดแล้วครับ”ลูกเรือคนหนึ่งรายงาน ส่วนสาวๆ ของเราก็ได้หายแว้บไปเป็นที่เรียบร้อยตั้งกะเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ค่ะ
“หนอย แก ฝากไว้ก่อน...”พูดยังไม่ทันจบดีเรือก็ระเบิดกลายเป็นแผ่นไม้เรียบร้อย บรรดาลูกเรือก็พากันเกาะเศษไม้หนีตายกันหมด
“ไม่รับฝากเฟ้ย”สาวๆของเรานั้น ที่แท้ก็มาดูเรือระเบิดอยู่ไกลๆนี่เองค่ะ
....................................................................................
“คานิวัล!!!”เนียงเนียงตะโกนลั่น (ทั้งๆที่อยู่ใกล้ขนาดจ่อหู)
“อะไรเล่า จู่ๆก็เล่นตะโกนซะ...ซี๊ด”คานิวัลเจ็บหูถึงขนาดเอานิ้วอุดไว้
“นี่มันอะไรกัน”เนียงเนียงชี้ไปที่เด็ก (คนที่คานิวัลช่วยออกมาด้วย)
“ก็เด็กน่ะสิ คิดว่าเป็นตัวประหลาดเรอะยังไง”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ชั้นหมายถึงว่าจะให้เจ้านี่มาอยู่กับพวกเรางั้นเหรอ”ดูท่าเนียงเนียงของเราจะไม่ชอบเด็กใหม่เอาซะเลย
“ไม่ใช่เจ้านี่ ต้องเรียกว่าเขาถึงจะถูกนะ”
“แต่ชั้นจะเรียกเจ้านี่...เจ้านี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“ก็บอกให้เรียกเขาๆๆๆๆ เรียกสรรพนามให้ถูกหน่อยเซ่”เอาล่ะค่ะเริ่มเถียงกันอีกแล้ว และในขณะนั้นก็มีลมแรงพัดมา ผ้าที่คลุมหัวเด็กผู้ชายคนนั้นไว้มันก็ปลิว สิ่งที่ทำให้พวกคานิวัลถึงกับค้างคือ...
“หู...จิ้งจอก...”คานิวัลกับเนียงเนียงพูดพร้อมกัน
“แหม เหมือนกับเนียงเนียงเลยนี่นา มีหูหมือนกันเลย”คานิวัลหัวเราะ
“ไม่เหมือนซะหน่อย หูชั้นน่ะหูแมวนะ หูแมว”เนียงเนียงดึงหูชี้ให้ดู
ภายในเรือโดยสาร (หลังจากกลับมา)
“งั้นก็หมายความว่า นายก็เป็นเด็กที่ติดมากับเรือที่การ์เดี้ยนปล้นมาแล้วจะถูกส่งไปขายที่ตลาดทาสเรอะ”คานิวัลฟังเรื่องทั้งหมดจากเด็กชาย
“ถ้าขืนใช้ชื่อเดิมมีหวังซวยแน่ แต่จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ”
“เจ้าโฮ่ง”เนียงเนียงของเราไม่ทันคิดก็พูดเลยเรอะ
“...ชั้นว่าเรียกชื่อที่มันดูเหมือนชาวบ้านกว่านี้จะดีกว่านะ”
“แต่ชั้นนจะเรียกเจ้าโฮ่ง มีปัญหาเรอะไง”
“จะเรียกอย่างนั้นก็เชิญเถอะ แต่ตั้งแต่นี้ไปชื่อของนายคือ ช๊อกโก้ นะ มาจากผมสีน้ำตาลไง ส่วนชั้น คานิวัล นะ แล้วก็ยัยแมวขี้โวยวายน่ะชื่อเนียงเนียง”
“ที่ว่ายัยแมวขี้โวยวายหมายความว่าไงไม่ทราบ”เอาล่ะค่ะพอความเห็นไม่ลงรอยทีไรมีเรื่องทุกที
“ก็หมายถึงนิสัยที่ชอบโวยวายของเธอแน่อยู่แล้ว”
“เอ่อ...ทะเลาะกันไม่ดีหรอกนะครับ”ช็อกโก้จับมือทั้งสองคนไว้
“นี่เพราะช็อกโก้มาห้ามหรอกนะ ไม่งั้นมีเจ็บ”เนียงเนียงพูด
“โถ่ คิดว่ากลัวเรอะไง กะอีแค่แมวตบ แบร่~”คานิวัลแลบลิ้นปลิ้นตาใส่
เปรี้ยง...ไม่ทันไรเนียงเนียงก็ซัดฝ่ามือมาตรงหน้าคานิวัลอย่างจัง (ดันไปยั่วเค้าก่อนเองนี่นา)
“โทษที มือมันวืดน่ะ”เล่นซะแดงยาวครบ 5 นิ้วแบบนี้มันคงไม่ใช่แค่ว่ามือมันไปเองหรอก (แถมคนละข้างกับเมื่อเช้าด้วยนะ)
และแล้วการเดินทางก็ยังทุลักทุเลต่อไป....
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น