ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BL] เป้าหมายของข้าคือ HaRem!!

    ลำดับตอนที่ #10 : ย้อนยุค 8 : เเขกรับเชิญที่คุ้นเคย (Rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.64K
      553
      26 ม.ค. 66

     

    "เดินไหวหรือไม่?" ฝู่อี้ประคองเด็กหนุ่มวัยสิบสี่ที่มีใบหน้านำอายุออกจากลานลงทัณฑ์ ด้านหลังยังมีคนในขบวนสินค้าตามมาเป็นพรวน

    "อือ" สือโถวพยักหน้าด้วยความเซื่องซึม

    ครั้งนี้นายท่านลงโทษให้โบยหนึ่งร้อยที หากเป็นคนธรรมดาคงตายไปแล้วเเต่เพราะร่างกายนี้เป็นของ 'สือโถว' การโบยร้อยทีจึงเป็นเพียงการทำให้เขาเจ็บจนอยากสลบเท่านั้น

    เขาแค่นหัวเราะ เพราะชาติก่อนตายง่ายไปสินะ ยมทูตถึงประทานร่างที่โคตรอึดเเบบนี้มาให้

    ชักสงสัยแล้วว่า 'ร่างนี้' ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า

    "เลือดออกเยอะเลย ข้าจะไปหายามาให้นะ!" ชายหนุ่มคนหนึ่งในขบวนคุ้มกันสินค้ากล่าวขึ้น หันไปชักชวนสหายอีกสองสามคนช่วยกันหายามาให้เด็กใหม่

    ...คุณลุง

    ความปลื้มปิ่มล้นทะลักจนน้ำตาแทบไหล ขอโทษที่เคยแอบด่าว่าพวกลุงเป็นพวกกล้ามไม่มีสมอง ต่อจากนี้เขาจะไม่ปากดีอีกแล้ว

    "ข้าได้ยินว่าเเม่หมอคนใหม่ของร้านยาเจิ้นชิงงามมาก เราใช้ข้ออ้างหายาแล้วไปดูกันดีรึไม่"

    "ได้!" ชายหนุ่มหน้าเถื่อนมองสหายตัวเองอย่างชื่นชม "เจ้านี่ฉลาดจริงๆ หากไม่มีข้ออ้างร้านยาเจิ้งชิงคงไม่มีวันเปิดประตูให้เรา"

    คนถูกชมลูบหลังคออายๆ "ชมเกินไปแล้วๆ"

    "อย่ามัวเสียเวลาอีกเลย รีบไปกันเถิด!"

    "อืม!!"

    สือโถว "...?"

    เขามองแผ่นหลังกว้างที่กอดคอกันออกไปอย่างสุขสันต์ รู้สึกอยากกลับไปตบตัวเองที่เผลอรู้สึกซาบซึ้งไปกับพวกผีเปรต

    ขณะกำลังกัดฟันกรอด สาปแช่งเพื่อนร่วมงานให้เดินตกท่อทะลุไปนรกแทนอิเซไก* หางตาพลันเหลือบไปเห็นเงาดำกำลังยืนลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงมุมระเบียง (*อิเซไก = ต่างโลก)

    สือโถวเพ่งตามองก่อนอุทานเสียงเบา "อาเยี่ยน...?" 

    อาเยี่ยนทำท่าอยากจะเข้ามาเเต่ไม่กล้า สุดท้ายเด็กหนุ่มก็หายใจฟึดฟัด หมุนตัวสะบัดชายเสื้อจากไปอย่างหงุดหงิด แว่วเสียงด่าลอยมาตามลมว่า "สมน้ำหน้า!"

    "..." สุดติ่งไปเลยหนุ่มน้อย อนาคตตำแหน่งนางเอกซึนเดระอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมเเล้ว

    ฝู่อี้คำราม "อะไรของมัน?!"

    สือโถวรีบดึงหนุ่มบากไว้เมื่อเห็นว่าร่างบึกบึนเหมือนหมีจะพุ่งไปกระทืบนางเอก เอ๊ย อาเยี่ยน

    "ใจเย็นก่อนพี่ชาย มันเป็นความผิดข้าเอง"

    เพราะเขาข่มขู่อาเยี่ยนว่าถ้าไม่เเจ้งกับนายท่าน เขาจะเดินเข้าไปสารภาพด้วยตัวเอง อาเยี่ยนถึงต้องกล้ำกลืนฝืนทนรายงานเท็จให้

    สือโถวรู้ดีว่าถ้าเขารายงานเอง โทษคงไม่จบเเค่โบยร้อยทีหรอก ครั้งนี้รอดมาได้ก็เพราะอาเยี่ยนช่วยเอาไว้

    ทำเรื่องชั่วกับเพื่อนตัวเองไปอีกแล้วสิ...

    เเต่คนหล่อเวลาโกรธนี่ก็กร๊าวใจไม่เลวเหมือนกันนะ หึๆ

    เห็นสหายร่วมทางทำหน้าแปลกๆ ฝู่อี้ชักเป็นห่วงขึ้นมา "เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?" 

    สือโถวพลันได้สติ เขายกกั้นขึ้นป้องปาก "ไม่เป็นอะไร เจ้ารีบพาข้าไปที่ห้องเถอะ" 

    "แน่ใจนะ?" แม้ฝู่อี้จะยังไม่ค่อยวางใจแต่ก็ยอมเร่งฝีเท้าประคองคนอายุน้อยกว่าไปทางเรือนพัก

    "เฮ้ย!"

    "..."

    "เฮ้ย! เฮ้ย! เจ้านั้นแหละ ไม่ต้องมาเดินหนี!"

    ฝู่อี้กับสือโถวที่อุตส่าห์เเกล้งเมินหันกลับไปทำหน้าตายใส่ผู้คุมทาส สือโถวพึมพำ "ฟาดข้าขนาดนี้เเล้วยังจะเอาอะไรอีก!"

    "เอาชีวิตเจ้าล่ะมั้ง?" ฝู่อี้ตอบหน้าซื่อ 

    "..." ขอบคุณสำหรับคำตอบ แต่คราวหลังหุบปากไว้จะดีกว่าเนาะ

    ผู้คุมทาสเดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขาสองคน ยกแขนขึ้นกอดอกพลางทำหน้ากวนโอ๊ย "ตอนนี้เรือนซ่อมบำรุงกำลังขาดคน เจ้าไปช่วยสิ" 

    สือโถวเลิกคิ้วขึ้น โอ้โห เห็นเขาบาดเจ็บหน่อยนี่กร่างเชียวนะ เดี๋ยวเเม่ตบลอยไปดาวอังคาร! อุ้ย ไม่สิ ตอนนี้เรามาดแมนแฮนซั่ม แฮ่ม เดี๋ยวพ่อกระทืบไส้เเตก!

    "มองหน้าข้าทำไม ยังไม่ไปช่วยงานอีก?!"

    "ข้า?" เขาชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง "สภาพนี้?"

    "ทำไม? เป็นลูกผู้ชายเเผลเเค่นี้ทนไม่ได้รึไง" ผู้คุมทาสเชิดคางส่งเสียงขึ้นจมูก 

    "..." ลองมาโดนโบยบ้างมั้ยล่ะไอ้หนุ่มหน้าใสหัวใจสี่ดวง เเผลเเค่นี้พ่อแกสิวะ เลือดท่วมเป็นเเม่น้ำไนล์ซะขนาดนี้

    แล้วทำมาบอกเป็นลูกผู้ชาย ทีตัวเองยังหน้าขาวปากแดง แม่งดูสมชายตรงไหน!

    ฝู่อี้เดินขึ้นหน้า ใช้เรือนร่างใหญ่โตเหมือนหมีบังสือโถว ผู้คุมทาสที่หาเรื่องตายถึงกับผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าว "อะ อะไร"

    "เหอะ" สือโถวแค่นหัวเราะสมเพช ไม่เเน่จริงนี่หว่า

    "ข้าจะไปเอง" ผู้คุมทาสอ้าปากคล้ายจะท้วงแต่ก็โดนฝู่อี้ถลึงตาใส่ "หุบปากไป ถ้าพูดออกมาคำเดียวข้าลากเจ้าเข้าห้องเเน่"

    สือโถวที่กำลังชูคอเยาะเย้ยเกือบหัวทิ่มลงพื้นกับประโยคที่ไม่คาดฝัน

    มะ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ

    "อุ๊บ" ผู้คุมยกมือปิดปากฉับ ฝู่อี้ปล่อยเเขนที่ประคองสือโถวออก ร่างใหญ่เหมือนหมีป่าเหลือบมองด้วยหางตา "เจ้าเดินไหวแล้วสินะ ถ้าอย่างนั้นก็รีบกลับห้องไปก็พักผ่อนเถอะ"

    สือโถวทำหน้างง "...?" โทษนะ ตรงไหนของเขาที่ดูเหมือนเดินไหวเหรอ??

    "รีบไปได้แล้ว อย่าชัก... ช้า" เสียงของผู้คุ้มทาสหน้าขาวเเผ่วเบาลงเหลือเพียงกระซิบเมื่อฝูอี้ขยับเข้ามาใกล้ ชายหนุ่มก้าวถอยหลังไปสามก้าว “ขะ ข้าจะไปคุมเด็กที่เหลือ จะ เจ้ารีบไปทำงานได้เเล้ว! หะ หะ ห้ามตามข้ามานะ!!"

    ผู้คุมทาสอายุน้อยของเรือนสับเท้าวิ่งหายไปอีกทาง สือโถวกะพริบตาปริบๆ หัวสมองที่ไม่ค่อยทำงานเหมือนจะคิดอะไรออก

    "พวกเจ้า หรือว่า...?"

    หนุ่มหน้าบากหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ ไล้มือตามริมฝีปากหนา สายตายังตามติดเเผ่นหลังนั้นไปไม่ห่าง

    "ได้เห็นคนหึงบ้างก็ดีมิใช่หรือ"

    "เเต่เท่าที่ข้าเห็น เขาโคตรกลัวเจ้ามากกว่านะ"

    ฝู่อี้จิ๊ปาก "สมองเจ้าเลอะเลือนไปแล้วหรือไร ดูยังไงก็กำลังเขินอยู่ชัดๆ !"

    "อ้อ..." สือโถวยิ้มว่างเปล่า สรุปแล้วมีใครช่วยข้าโดยไม่มีจุดประสงค์บ้างมั้ยนะ

    ด้วยความแค้นและฟัคยูเขาจึงยกนิ้วชี้หน้าสาปเเช่งฝู่อี้ "ขอให้หัวหน้าถงจับได้ว่าเจ้ามีความสัมพันธ์กับศัตรู!"

    ผู้คุมบ่าวทาสกับคนคุ้มกันสินค้า

    หัวหน้าถงรู้ได้หนวดลุกเป็นไฟเเน่!!

    "ก่อนจะห่วงข้า เจ้าห่วงตัวเองเถอะ" ชายหนุ่มโบกมือลาก่อนหมุนตัวเดินผิวปากตามหลังคนรักไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้สือโถวยืนอ้าปากพะงาบๆ อยู่ที่เดิม 

    เดี๋ยวก่อน เสร็จภารกิจกระตุ้นต่อมหึงเมียก็ขว้างทิ้งหมากเบี้ยไว้กลางทางเเบบนี้เลยเหรอ!

    ................

    มนุษย์ทุกคนล้วนต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองแม้ว่าจะมีสภาพเลือดอาบตั้งแต่หัวจรดเท้าก็ตาม

    สือโถวคลานเกาะเสาก้าวกระดืบๆ เป็นหอยทากด้วยความช้ำใจยิ่งกว่าโดนสามีที่คบมาเป็นปีย่ำยีหัวใจ (?) 

    "จะรีบไปไหนเหรอน้องชาย ให้พี่ไปส่งมั้ยจ้ะ?"

    "เเต่ถ้าจะไปหาไอ้หมีควายนั่นคงจะยากหน่อยนะ เพราะตอนนี้คงขนศพไปทิ้งที่ไหนสักที่เเล้วล่ะ!"

    เขาหยุดเดิน หันไปทางมองตามต้นเสียงกักขฬะที่แสนจะคุ้นเคย สองตากะพริบตาปริบ

    เอ๋? มีคนตายในจวนด้วยเหรอ?

    "ข้าไม่มีเวลามาเสวนากับคนต่ำต้อยอย่างพวกเจ้า ไสหัวไป!"

    คราวนี้เป็นเสียงเล็กน่ารักที่ตวาดแว้ด สือโถวขยับเข้าไปใกล้ต้นไม้ใหญ่ก่อนชะโงกหน้าออกไปดู ก่อนจะเห็นมู่หลี่หลงกำลังยืนเถียงหน้าดำหน้าแดงกับทาสหนุ่มผอมโซสามคน

    "..." สือโถวยืนดูสักครู่ คิดจะสาวเท้าจากไป

    "ร้ายนักนะเจ้า พูดจาดีๆ ไม่ชอบ ชอบให้ใช้กำลังสินะ!"

    ผัวะ!

    "!!!" เท้าที่กำลังจะจากไปหยุดชะงัก สือโถวเบิกตากว้างเเทบถลนออกจากเป้า เชี่ย! ทางนี้เลี้ยงดูมาเกือบปียังไม่เคยตบเด็กนั่นสักครั้งเลยนะ กล้าดียังไงมาตบเด็กของเขา!

    เอายังไงดีนะ

    แววตาภายใต้เส้นผมหยักศกลังเล เขาสัญญากับอาเยี่ยนไว้เเล้วว่าจะไม่ช่วยมู่หลี่หลงอีกเป็นครั้งที่สอง เเต่ว่า...

    "ข้าจะบอกอะไรให้นะ สือโถวที่รักของเจ้าโดนโบยจนกลายเป็นเศษเนื้อเละๆ ให้อีกากินไปแล้ว!"

    "ฮ่ะๆ ข้ายังจำเสียงโหยหวนของมันยามผู้คุมฟาดลงไปได้อยู่เลย"

    "พะ พอ"

    "ฮ่าๆๆ อยากฟังอีกมั้ยเล่า! สภาพตอนนี้มันโดนลงโทษจนตายทั้งเป็นน่ะ"

    เเต่ว่าไม่ขอทนเเล้วโว้ยยยยยยยยยยยยย

    "โฮ่ ขอข้าฟังด้วยคนสิ" สือโถวยกขาข้ามผ่านพุ่มไม้ออกไป สองมือหักดังกรอบแกรบ แสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมใส่ไอ้ทาสหนุ่มผอมเเห้งเเรงน้อยพวกนั้น

    "ขี้เเตกอยู่ดีๆ ไม่ชอบ ดันมาหาว่าคนอื่นตาย เห็นทีชีวิตเจ้าคงว่างมากกระมัง?"

    "สือโถว!!"

    "เออ ข้าเอง" เขาเหลือบมองมู่หลี่หลงที่อ้าปากกว้าง ถึงจะไม่ชอบไอ้แก้มยุ้ย ๆ นี่แต่ก็ใช่ว่าจะยอมให้มันมีรอยแผล 

    เงาดำทาบทับครึ่งหน้าสือโถว ทั่วทั้งแผ่รังสีอำมหิต

    "เล่นกันสนุกเลยนี่ ขอข้ากระทืบเจ้าสักทีสองทีหน่อยสิ เเล้วข้าจะเจียดเงินเผาใบเงินใบทองไปให้!"

    เหล่าสมุนปากดีเมื่อครู่ถอยหลังกรูดก่อนใครในกลุ่มจะร้องเรียกความฮึกเหิม "ยะ อย่าไปกลัว! ตอนนี้มันบาดเจ็บอยู่ ถ้าเราช่วยกันต้องล้มได้เเน่!!"

    ปู้ดดดดด

    "อุ๊ก"

    คนที่เหลือยกมือปิดจมูก ดูเหมือนทาสหนุ่มผู้นี้จะตื่นเต้นมากไปหน่อย อาการท้องไส้ปั่นป่วนที่ยังไม่หายดีกลับมากำเริบอีกครั้ง

    สือโถวยกมือปิดจมูก อื้อฮือ กลิ่นแบบนี้ แกไปแดกปลาเน่ามาเหรอ?! อีกนิดก็พัฒนาเป็นอาวุธชีวิตภาพฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้เเล้ว!!

    "อึก พะ พวกเราลุย!" เเม้จะอับอายเเต่ทาสหนุ่มยังไม่เสียแรงใจ ร่างผอมพุ่งเข้ามาพร้อมเสียงปู้ดปาดชวนปวดใจ

    กรี๊ดดดดดดด หยะเเหยง!!

    เห็นหน่วยกล้าตายพุ่งออกไป สองคนที่เหลือสบตากันก่อนจะเข้าไปร่วมเเจมด้วย สือโถวสบถคำหยาบเป็นพรวน ยกแขนขึ้นตั้งรับ

    "อ้ากกกกกก!!"

    "ว้ากกกกกกกกก!!"

    การต่อสู้เป็นไปอย่างอนาถ คนหนึ่งบาดเจ็บที่หลังทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวก ส่วนอีกสามคนก็ยังไม่หายขี้แตก ต่อยนิดส่งเสียงปู๊ด เตะหน่อยก็ส่งเสียงป๊าด สือโถวแทบจะวิ่งไปหาอากาศบริสุทธิ์

    "เจ้า! โว้ย ถ้าปวดนักก็ไปห้องน้ำไป!"

    เขาจะอ้วกเเตกเเล้วโว้ย!

    "หึ คิดว่าถ้าไปทันแลัวข้าจะอยู่ต่อสู้กับหมีอย่างเจ้ามั้ยล่ะ!" ทาสหนุ่มเถียงน้ำตานองหน้า สายตาวางเปล่าราวกับเพิ่งเสียอะไรบางอย่างของลูกชายไปแล้ว

    สือโถวอ้าปากค้าง

    "อย่าบอกนะว่า" ...ขี้เเตกไปแล้ว!

    เขาไม่คิดจะสู้อีกต่อไป สละอาวุธ (?) ในมือสับตีนวิ่งหนีทันที

    "อย่าได้คิดหนี! จงมาเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายกับข้าเถิดสหาย!!"

    ใครเป็นสหายเจ้าฟะไอ้ขี้แตก!

    จากการต่อสู้อันดุเดือดเลือดพล่านเปลี่ยนเป็นฉากวิ่งหนีตายเเทน ทาสหนุ่มเองก็มุ่งมั่นไล่กวดอย่างไม่ลดละ ภาพที่เห็นจึงออกจะสะเทือนใจคนดูไม่น้อย โดยเฉพาะภาพของเด็กหนุ่มหน้าโจรที่วิ่งเลือดอาบร่างหนีทาสหนุ่มผอมโซสามคนที่ส่งเสียงโหยหวนไล่กวดพร้อมเสียงปู้ดปาดจากตูดตอนนี้น่ะนะ

    จริงอยู่ที่เขาเคยภาวนาให้สักชาติหนึ่งโดนผู้ชายวิ่งตามก้นบ้าง แต่มันต้องไม่ใช่ในรูปแบบนี้โว้ยยยยยยยย

    นี่มันกลายเป็นการวิ่งเอาตัวรอดในดงซอมบี้ที่พร้อมจะเอาขี้มาย่ำยี (?) แล้ว!

    สุดท้ายสือโถวไม่มีทางเลือก เขาหันหลังขวับกลั้นใจกระชากคอเสื้อไอ้เเห้งหนึ่งขว้างลงสระบัว ยกขาถีบไอ้เเห้งสอง ก่อนจะทุ่มไอ้เเห้งสามลงพื้นดังโครม!

    แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก

    สือโถวหอบเหนื่อยก่อนสองชูกำปั้นขึ้นเหนือฟ้าแบบนักมวยที่ชนะการแข่งขัน รับรู้ไว้ซะว่าสตรี (?) นั้นไซร้ เเข็งเเกร่งกว่าใครในโลกโว้ย!

    "อึก" ทันใดนั้นความเจ็บก็แล่นแปลบ เเข้งขาพลันอ่อนเเรง ยังไม่ทันที่จะได้สัมผัสความเย็นเฉียบของพื้น มือนุ่มนิ่มก็เข้ามาโอบเอวสือโถวดังหมับ

    พอเห็นใบหน้าน่ารักของมู่หลี่หลง ในใจของสือโถวรู้สึกโกรธเคืองจนเผลอทำเสียงห้วน "ปล่อย"

    "พะ พี่สือโถว" มู่หลี่หลงตะลึง ตั้งแต่รู้จักกันสือโถวไม่เคยใช้น้ำเสียงเย็นชากับเขาแบบนี้มาก่อน

    "ข้าไม่เคยมีน้องนิสัยเสียอย่างเจ้า ปล่อย!"

    "ข้า..." มู่หลี่หลงก้มหน้าต่ำ ริมฝีปากจิ้มลิ้มเม้มกันเเน่น ผ่านไปหลายนาทีจนสือโถวคิดว่าเด็กน้อยน่าจะยอมเเพ้เเล้วจึงขยับตัวหมายจะออกจากวงเเขนเล็ก

    ฉับพลันมู่หลี่หลงก็เงยหน้าขึ้น ใบหน้าน่ารักฉายเเววเย็นชาคล้ายผู้สูงศักดิ์ที่กำลังจ้องมองผู้ต่ำต้อย

    "ข้าเองก็ไม่เคยเห็นเจ้าเป็นพี่ชายสักครั้ง"

    "วะ ว่าไงนะ"

    "เเต่เรื่องนี้เป็นความผิดของข้า จงหุบปากเเล้วอยู่เฉยๆ ซะ" มู่หลี่หลงกระชับท่อนแขน

    สือโถวพูดไม่เป็นคำ "จะ จะ จะ" เจ้าปีศาจปากเสียตัวนี้มันเป็นใครกัน?! น้องหลี่หลงที่น่ารักของเขา มะ มะ ไม่มีทาง...

    พี่ชายสมมุติปากคอสั่นด้วยความช็อกที่โดนลูกน้อยนอกไส้ปากเสียใส่เป็นครั้งเเรก เรียกได้ว่าสะเทือนใจจนเผลอปล่อยให้เด็กน้อยลากกลับห้องพักอย่างว่าง่ายเลยทีเดียว

    .............

    "นอนลง"

    มู่หลี่หลงดันพี่ชายร่วมห้องลงบนเตียงหลังเล็ก สองมือปลดเสื้อผ้าคนตัวโตกว่าอย่างระมัดระวัง

    สือโถวซี้ดปาดเมื่อโดนผ้าเสียดสีกับบาดเเผลจนรู้สึกแสบร้อน

    มู่หลี่หลงชะงัก เอ่ยถามด้วยความตกใจ "เจ็บมากหรือพี่สือโถว"

    "อา ไม่เป็นไรๆ"

    กึก

    ด้วยความที่เบลอจากการเสียเลือด บวกกับท่าทีของมู่หลี่หลงที่กลับมาเป็นเหมือนเดิม สือโถวเผลอยกมือลูบกลุ่มผมนุ่มลื่น ก่อนจะตัวเเข็งทื่อ

    เขารีบเก็บมือกลับ เบือนหน้าหนีไปทางอื่น ชิ! ตอนนี้เราต้องโกรธไอ้เด็กผีนี่ก่อนสิวะ

    มู่หลี่หลงเเอบยิ้มกับท่าทางง้องอนที่เเอบน่ารักไม่น้อย เเต่พอเห็นบาดเเผลบนหลังรอยยิ้มก็หุบฉับ คิ้วสวยขมวดแน่นด้วยความเคร่งเครียด

    "ช่วยนอนคว่ำหน้าทีพี่สือโถว"

    สือโถวทำท่าจะปฏิเสธ เเต่เด็กน้อยกลับสวนขึ้นมาก่อน "ข้าจะทำเเผลให้ ถ้าพี่ไม่อยากเสียเลือดตายก็นั่งหน้าบู้บี้ต่อไปเถอะ"

    "ชิ เด็กนิสัยไม่ได้" สือโถวฮึดฮัดยอมทำเเต่โดยดี เพราะตัวเขาเองก็เริ่มจะคงสติไม่อยู่เเล้ว

    ขอถือโอกาสหลับไปเลยละกัน

    มู่หลี่หลงเดินไปหยิบถังน้ำกับผ้าสะอาดมาวางไว้ข้างเตียง เด็กน้อยเริ่มทำความสะอาดเเผลให้สือโถวเป็นอันดับเเรก

    ผิวหนังบนหลังลอกออกเป็นเเผ่นยุ่ยๆ ดูน่ากลัว เลือดสีเเดงสดไหลซึมออกมาไม่ขาดสาย มู่หลี่หลงแอบนับถือในใจที่อีกฝ่ายยังมีอารมณ์ไปตีกับชาวบ้านได้

    ไม่สิ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเขาถึงได้พุ่งเข้าไปแบบนี้ต่างหาก

    กระบอกตาพลันร้อนผ่าว เมื่อครู่เขาคิดว่าตนเองต้องสูญเสียอีกฝ่ายไปแล้ว

    เป็นครั้งเเรกที่มู่หลี่หลงขอบคุณสวรรค์ที่ไม่ได้พรากคนคนนี้ไป

    "อือออ" สือโถวครางในลำคอ

    มู่หลี่หลงได้สติ เด็กน้อยรีบใส่ยาเเล้วพันเเผลให้ เเม้ฝีมือการทำเเผลของเด็กสิบขวบอย่างเขาจะห่วยเเตก เเต่ก็พอจะอะลุ่มอล่วยได้ มู่หลี่หลงก้มลงมองสือโถว

    หลับไปแล้วสินะ

    สองตาของสือโถวปิดแน่น บนแก้มเริ่มขึ้นริ้วสีแดงบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังจะเป็นไข้ มู่หลี่หลงรีบควานหาผ้าสะอาดมาอีกผืน จุ่มลงในกะละมัง ยกขึ้นบิดให้สะเด็ดน้ำก่อนเช็ดลงบนใบหน้าของคนบนเตียง

    ร่างที่ดูผ่ายผอมลงกว่าเดิมจากตอนเเรกขัดขืนเล็กน้อยด้วยความไม่คุ้นชิน เเต่ผ่านไปสักพักก็ผ่อนลมหายใจคล้ายชอบใจ

    เหมือนเเมวเลยแฮะ

    ขณะที่กำลังคิดเพลินๆ สือโถวก็ลืมตาขึ้น มู่หลี่หลงสะดุ้งเฮือกยังไม่ทันจะเอ่ยถามอาการ มือหยาบกร้านก็ยื่นมาทาบบนเเก้มของเด็กน้อยแผ่วเบา

    "ขอโทษ"

    มู่หลี่หลงนิ่งอึ้งก่อนจะเปลี่ยนเป็นฮึดฮัด "ขอโทษทำไมกัน พี่ไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย" ...เเล้วข้าก็ไม่ได้ทำผิดอะไรเลยเหมือนกัน เจ้าพวกนั้นสมควรโดนเเล้ว!

    "โถถถถถถ ไอ้เด็กเวรน่ารัก"

    เเรงหยิกที่เเก้มทำเอามู่หลี่หลงร้องจ้าก เด็กน้อยยกมือกุมเเก้มหมายจะด่าคนบาดเจ็บ ครั้นเห็นขอบตาแดงก่ำเลื่อนลอย เขาก็พลันรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังเพ้อเพราะพิษไข้อยู่

    สือโถวลดมือลง ดวงตาใกล้จะปิดอยู่รอมร่อ "ถ้านายทำตัวร้ายแบบนี้บ้างก็คงจะดี"

    "หา?"

    ดวงตาภายใต้เส้นผมหยักศกเลื่อนลอยหม่นหมอง อีกฝ่ายจ้องหน้ามู่หลี่หลงเขม็งราวกับต้องการหาใครบางคนผ่านตัวเขา

    สือโถวพึมพำเป็นภาษาที่มู่หลี่หลงไม่เคยได้ยินก่อน "ถ้าเป็นอย่างนั้น...บางทีนายอาจจะยังอยู่ตรงนี้ก็ได้"

    "พี่พูดอะไร?"

    สือโถวไม่ตอบแต่น้ำตากลับไหลออกมา มู่หลี่หลงตกใจจนผงะ เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอีกฝ่ายหลั่งน้ำตา

    ยังไม่ทันได้ถามดวงตาคู่นั้นก็ปิดลง

    "..." เด็กน้อยยังคงนั่งนิ่ง ไม่รู้จะบรรยายความรู้สึกในตอนนี้อย่างไร เพราะทุกอย่างมันผสมปนเปกันไปหมด

    ทั้งโกรธ เศร้า ยินดี...และรังเกียจ

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    "ใคร!" มู่หลี่หลงกระชากเสียง เวลานี้เขาไม่มีอารมณ์มารับแขกคนไหนทั้งนั้น!

    "ข้าเอง"

    อาเยี่ยน

    มู่หลี่หลงลงจากเตียงไปเปิดประตู ร่างที่สูงใหญ่กว่าเขาถึงสองช่วงแขนก้มมองต่ำก่อนเอ่ยเสียงเย็นชา "ถอยไป"

    "มีธุระอะไร" มู่หลี่หลงชักสีหน้า

    ในเมื่อต่างคนต่างมอง 'ตัวตน' ที่แท้จริงของกันและกันออกก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาแสร้งเป็นมิตรเหมือนที่ผ่านมา อาเยี่ยนใช้เท้าดันตัวมู่หลี่หลงไปอีกด้าน ก้าวเท้าเข้าห้องอย่างไม่สนใจเสียงโวยวายที่ดังตามหลัง พอเห็นสภาพคนบนเตียงก็แค่นเสียงขึ้นจมูกดังเหอะ

    "ห่วยแตก"

    "ปกติข้าเคยทำแผลให้ใครที่ไหน!" 

    อาเยี่ยนปรายตามอง "เช่นนั้นก็ถ่างตาดูให้ดี สหายโง่เง่าของข้าได้แผลนี้ก็เพราะความเอาแต่ใจของเจ้า"

    "อึก" ถูกคนที่เกลียดขี้หน้าจี้ใจดำ มู่หลี่หลงเบือนหน้าหนีอย่างไม่สบอารมณ์

    อาเยี่ยนหยิบยาชั้นดีออกจากอกเสื้อ สองมือแกะผ้าพันแผลออกก่อนจะเริ่มทำแผลให้ใหม่อย่างคล่องแคล่ว มู่หลี่หลงที่ยืนดูอยู่อีกฟากของห้องก็ถามขึ้น "สือโถวเคยมีเพื่อนคนอื่นนอกจากเจ้าหรือเปล่า"

    "หลังจากรับตัวปัญหาอย่างเจ้ามา คิดว่าจะมีผู้ใดยอมเป็นมิตรกับเขาด้วยหรือ"

    "ชิ"

    "เจ้าถามทำไม"

    "มันไม่ใช่เรื่องของเจ้า" มู่หลี่หลงถลึงตา 

    อาเยี่ยนไม่คิดจะต่อล้อต่อเถียงกับเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม หลังจากทำแผลเสร็จเขาก็ขยี้ศีรษะสหายสารเลวบนเตียงด้วยความหมั่นไส้ปนอ่อนใจ เจ้าโง่เอ๊ย มัวแต่ปกป้องคนงาม สุดท้ายก็ต้องมานอนพะงาบๆ เป็นปลาใกล้ตายจนได้

    "เจ้าจะทำอะไรข้าก็ไม่ว่าหรอกนะ" ผ่านไปสักพักอาเยี่ยนถึงเปิดปาก ดวงตาคมปลาบสบกับนัยน์ตากวางเป็นการเตือน "แต่อย่าลากเพื่อนข้าเข้าไปเกี่ยวด้วยเป็นครั้งที่สอง"

    "ข้าไม่ได้..."

    "เพื่อนข้ามันโง่ ต่อให้เจ้าไม่ได้ลากเขาไปตรง ๆ แต่คิดหรือว่าเขาจะปล่อยให้เจ้าตกอยู่ในอันตราย" พูดแล้วก็โมโห อาเยี่ยนจิ๊ปาก ดึงเครารกครึ้มจนคนบนเตียงยู่หน้า "ขนาดใกล้ตายยังเสนอหน้าเข้าไปตะลุมบอนกับไอ้พวกขี้แตกนั่นเพื่อเจ้า ไม่รู้ว่าในหัวยังมีสมองอยู่บ้างหรือเปล่า!"

    ได้ข่าวว่าเจ้าเองก็ขี้แตกนี่

    มู่หลี่หลงยืนเงียบ หลังจากระบายอารมณ์เสร็จ อาเยี่ยนก็ลุกขึ้นก่อนโยนตลับยาแพงระยับ "ดูแลสือโถวให้ดีๆ ด้วย ข้าไปล่ะ"

    "เดี๋ยว"

    ปลายรองเท้าหนังหยุดชะงักอยู่หน้าประตู อาเยี่ยนกลอกตา "อะไรอีก" 

    มู่หลี่หลงลูบลวดลายบนตลับยา ก้มหน้าถามเหมือนถามเรื่องฟ้าดินอากาศ "เจ้าเคยเห็นนายท่านของจวนนี้หรือเปล่า"

    แม้ว่าจะแปลกใจแต่อาเยี่ยนก็ตอบตามตรง "เคยอยู่สามสี่ครั้ง"

    มุมปากของมู่หลี่หลงยกกระตุก เด็กน้อยเอียงคอ "แล้ว...เจ้าคิดว่านายท่านเป็นเช่นไร"

    "เป็นชายเศรษฐีที่ดูอุดมสมบูรณ์ทั่วไป เจ้าถามไปทำไม?"

    มู่หลี่หลงยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ยื่นกระดาษแผ่นเล็กเท่าฝ่ามือให้คนอายุมากกว่า

    "เดิมทีคิดจะให้เหตุการณ์นี้เรียก 'อะไร' มาซะหน่อย แต่ในเมื่อในนายท่าน ไม่สิ เจ้าจัดการปิดข่าวได้เงียบขนาดนี้" มู่หลี่หลงกระซิบเสียงเบาเหมือนปีศาจตัวน้อยที่กำลังจะออกอาละวาด แววตากลมโตสว่างวาบ "ลองไปหาความจริงตามนั้นดูสิ เผื่อเจ้าจะเข้าใจอะไรมากขึ้น"

    "เจ้าจะดึงข้าเป็นพวก?" อาเยี่ยนหรี่ตามองเด็กตรงหน้าด้วยสายตาประเมิน

    มู่หลี่หลงหัวเราะ "เปล่า เจ้าต่างหากที่จะเข้ามาเป็นพวกข้าเอง"

    หัวคิ้วของอาเยี่ยนขมวดแน่น แต่ก็เก็บกระดาษแผ่นนั้นจากไปโดยไม่กล่าวคำลา มู่หลี่หลงเองก็ไม่ว่าอะไร เพียงปิดประตูให้สนิทเท่านั้น

    ถึงจะมีเหตุไม่คาดฝันโผล่เข้ามาในแผน แต่เขาก็ไม่คิดจะหยุด

    เพียงแต่คราวหลังต้องระวังให้มากกว่านี้

    มู่หลี่หลงกลับไปนั่งบนพื้นข้างเตียง 'เหตุไม่คาดฝัน' ของเขายังคงนอนหลับตาพริ้ม คาดว่ายาคงทำหน้าที่ของมันได้ดีทีเดียว

    "โง่เง่า" มือเล็กลูบใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราอย่างนึกไม่รังเกียจ

    กล้ามองข้าเป็นตัวแทนของคนอื่นงั้นหรือ?

    "เช่นนั้น" มู่หลี่หลงเว้นช่วง "ต่อจากนี้ไป ข้าจะสลักตัวตนลงบนใจของเจ้า เอาให้ลืมไม่ลงว่าข้าเป็นใครเลยดีหรือไม่?"

    เสียงของปีศาจน้อยก้มลงกระซิบที่ข้างหู คนป่วยครางฮือก่อนจะเบือนหน้าหนี มู่หลี่หลงกระตุกยิ้ม ร่างเล็กยืดตัวขึ้นก่อนเอื้อมมือไปกุมฝ่ามือสากแน่น

    "ล้วนเป็นความผิดของเจ้าที่มาทำให้ข้าขาดเจ้าไม่ได้แบบนี้"

    ถึงมานึกเสียใจทีหลัง ข้าก็จะไม่ยอมปล่อยเจ้าไป

    ต่อให้เป็นความตายก็ตาม

    ........................................

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×