คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ย้อนยุค 2 : คนงามเเห่งเรือนเศรษฐี (Rewrite)
ย้อนยุค 2
น้องน้อยในเรือนเศรษฐี
“สือโถว! ลูกพี่เรียกให้ไปแบกกระสอบข้าวเข้าคลัง”
“อืม”
“อะ เอ่อ ข้าแค่มาบอก ไม่ได้มีเจตนาจะใช้งานเจ้าหนักจริงๆ นะ!”
“เออ”
“ยะ ยะ อย่าตีข้านะ!!”
“เออ!”
“…” อาเยี่ยนชายตามองเด็กหนุ่มสองคนที่สนทนากันอยู่ไม่ไกล สองมือก็จดบันทึกรายการสินค้าที่เพิ่งส่งมาไปด้วย
ทาสเด็กที่มาส่งข่าวตัวสั่นงกเป็นลูกนกดูน่าสงสาร แม้ว่าสือโถวจะฟึดฟัดเดินออกไปแล้ว เเต่ท่าทางดุดันเข้มแข็งรวมถึงเรือนร่างที่สูงกว่าวัยเดียวกันทำเอาเหล่าทาสตัวน้อยต่างแหวกทางให้เหมือนช่องว่างของหุบเขา
หลังจากวันนั้นที่ถีบสือโถวลงไปแหวกว่ายเรียกสติในสระบัว เจ้าตัวก็กลับมามีความเคร่งขรึมสมชายชาตรีเหมือนเดิม
...ดีแล้ว คิดถึงสือโถวตอนตาเป็นประกายพร้อมจะกระโจน (?) เข้าใส่ เขาก็แทบจะอาเจียนออกมาทุกที
แต่ความสมชายนี้อาจจะไม่ค่อยดีกับคนอื่นเท่าไหร่
“โฮฮฮฮฮฮ ข้านึกว่าจะโดนเขาฆ่าซะแล้ว!!”
“น่ากลัวเป็นบ้า ข้าได้ยินว่าเขาฉีกหมีออกเป็นสองท่อนด้วยมือเปล่าด้วยนะ!”
“สือโถวต้องเป็นหัวหน้าโจรปลอมตัวมาแน่นอน! ทางที่ดีเราควรไปแจ้งทางการไว้ก่อนดีหรือไม่”
ปึง!!
“อึก!!” เหล่าทาสรับใช้สะดุ้งเฮือก
ดวงตาคมกริบกวาดมองไปยังไอ้พวกเด็กปากมากทั้งหลายพลางเอ่ยถามเสียงเหี้ยม “สงสัยจะว่างมากกระมัง? สนใจจะไปทำงานที่เหมืองท้ายเมืองหรือไม่?”
“ขออภัยขอรับ!” พวกเขาแตกฮือกันทันที
ถึงปกติพี่ชายท่านนี้จะใจดี แต่ยามโกรธก็น่ากลัวไม่แพ้กัน ด้วยเหตุนี้นายท่านถึงให้อาเยี่ยนทำงานควบคุมเหล่าทาสตัวน้อยแม้ว่าอายุเพียงสิบหกปีเศษ
เห็นหน้านิ่งเฉยคล้ายไม่สนใจสิ่งใด แท้จริงแล้วอาเยี่ยนโหดเอาเรื่องจนเรื่องฆ่าหมีด้วยมือเปล่าของสือโถวกลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย!!
............
ขณะที่ทาสตัวน้อยกำลังหวาดผวา บุรุษผู้ฆ่าหมีด้วยมือเปล่าที่ว่ากำลังยกกระสอบข้าวสองถุงขึ้นบ่า
เทียบกับทาสเด็กตัวเล็กทั้งหลาย สือโถวตัวสูงจนเหมือนภูเขาท่ามกลางพุ่มหญ้า แม้ว่าจะไม่รู้ว่าสูงเท่าไหร่ แต่หลังจากคาดคะเนด้วยสายตา ทาสน้อยส่วนมากจะสูงเพียงปลายคางของเขาเท่านั้น โชคดีที่อาเยี่ยนมีความสูงระดับสายตาเดียวกัน เขาเลยไม่ต้องรู้สึกแปลกแยกเกินไป
คิดถึงร่างกายตัวเองทีไร น้ำตาเหมือนจะไหลทุกที...
ร่างนี้น่ะ ทั้งเถื่อนทั้งมาดแมนจนอยากถามว่าสมัยก่อนไปทำอะไรมา ส่วนพละกำลังก็ช้างสารยังต้องเรียกพ่อ ต่อให้แบกกระสอบข้าวห้ากระสอบก็ยังยกได้สบาย
ทว่าสิ่งที่น่าเศร้าใจที่สุดก็ยังหนีไม่พ้น หน้าตา
หลังจากอยู่ร่างนี้มาเป็นระยะหนึ่งเดือนกว่า สือโถวถึงได้รู้ว่าแท้จริงเหล่าผู้คุมไม่ได้หนีเขาด้วยเสน่หาแต่เป็นเพราะกลัวเกินกว่าจะหาเรื่องด้วยต่างหาก!
แค่พยักหน้าหนึ่งที ทาสน้อยที่คุยด้วยก็แทบคุกเข่าร้องไห้ หนักสุดคือแค่ช่วยจับไหล่ประคองไม่ให้ล้ม อีกฝ่ายถึงขั้นเป็นลมสลบเหมือดช็อกตาตั้งน้ำลายฟูมปากเพราะนึกว่าจะโดนฆ่า เพื่อนร่วมห้องบอกว่าเด็กน้อยนอนไข้ขึ้นละเมอร้องขอชีวิตสามวันติด
"..." สือโถวที่ไม่ได้รับคำสรรเสริญเเถมเกือบเป็นฆาตกรได้แต่เเดกจุดหนักมาก
เพราะมีหนวดรกหนาปิดปังใบหน้าทำให้ผู้คนเดาอารมณ์ของทาสตัวโตผู้นี้ไม่ออก แต่รังสีอำมหิตที่แผ่กระจายทั่วร่างก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้พวกเขาต้องพร้อมใจกันถีบสหายร่วมงานให้ออกไปรับหน้าแทน ถือคติข้ารอดเจ้าตาย เพื่อมิตรภาพที่ดีเจ้าจงตายเพื่อข้าเถิด!
“เจ้าขี้ข้า!! มัวยืนนิ่งอะไรอยู่-!”
สือโถวหันขวับ
“มะ มะ มันเดือดร้อนนะ ตั้งใจทำงานสิ” น้ำเสียงกระโชกโฮกฮากของผู้คุมเบาเปลี่ยนเป็นเสียงกระซิบทันที
“…” แม่งเอ๊ย
สือโถวถอนสายตากลับจากผู้คุมทาส เร่งเท้าเดินเข้าไปยังตึกคลังสินค้า พอเห็นกองกระสอบข้าวกองใหญ่วางอยู่มุมซ้ายมือ เขาก็วางลงกระสอบบนบ่าลงพลางยกมือปาดเหงื่อข้างแก้มก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อเผลอแตะโดนแผลที่ยังไม่สมานกัน
ย้อนไปในวันแห่งความเจ็บปวด…หลังจากปีนขึ้นจากสระบัว สือโถวก็พุ่งตรงไปยังห้องนอนรูหนูของตนเอง หมายมั่นว่าต้องโกนหนวดรุงรังนี่ทิ้งซะ! บะ บางทีความงามอาจจะหลบอยู่ในหนวดรุงรังนี่ก็ได้!!
แต่ดันลืมไปว่าเขาเป็นผู้หญิงมาก่อนนี่หว่า ภพก่อนนอกจากโกนขนหน้าแข้งแล้วจะไปมีทักษะโกนหนวดได้ไงวะ
แต่ด้วยความสตรอง สตรีนั้นไซร้แกร่งกว่าใครในโลก โกนหนวดแค่นี้ไม่มีปัญหา!!
ไม่มีมีด? โอ๊ย เรื่องเล็ก! หยิบจอบจากหน้าห้องแทนแม่งเลย ยังไงก็ของมีคมเหมือนกัน ใช้แทนกันได้ดิ (??)
หลังจากนั้นน่ะเหรอ? ฮ่ะๆ เลือดก็สาดกระจายเต็มหน้าจนต้องร้องกรี๊ดเป็นรอบที่สาม แต่มันทำให้เขาบรรลุได้ว่าจอบกับที่โกนหนวดมันใช้แทนกันไม่ได้ นอกจากหนวดจะไม่ได้โกนยังได้แผลใหญ่มาประทับหน้าจนชาวบ้านแอบลือกันว่าเขาไปท้าประลองกับหมีท้ายภูเขามา แถมหลังเชือดมันเสร็จก็ฉีกเลือดเนื้อมันกินแบบสดๆ ซะด้วย
ในที่สุดสือโถวก็ตัดสินใจได้ว่า…เลิกหวังถึงชะตาอันยิ่งใหญ่แล้วยืดอกใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชายไปเถอะ มันน่าจะดีกว่าการเอาแต่วาดฝันว่าจะมีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาพาออกจากที่นี่น่ะนะ
ขนาดเขายังรับหน้าโจรของตัวเองไม่ได้ คิดหรือว่าคนเหล่านั้นจะปลื้ม แค่ยืนคุยกันตามปกติชายอกสามศอกยังสั่นกึกๆ ให้มาเกี้ยวพาราสี เกรงว่าพวกพี่แกคงกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายกันก่อนพอดี
“หน็อย ไอ้ยมทูตเวรนั่น” สือโถวกัดฟันกรอด
รอให้ตายอีกรอบก่อนเถอะ แม่จะกระทืบให้ขี้แตกออกไปตามจับวิญญาณไม่ถูกกันเลยทีเดียว!
“พี่สือโถว”
“อะไร!”
“อึก!” เด็กน้อยสะดุ้งโหยง น้ำตาคลอเบ้าแบบสั่งได้
สือโถว “…” อุตส่าห์พูดอ่อนโยนด้วยแล้วนะ เจ้าเด็กนี่จะร้องไห้ทำแมวอะไร ยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่าหา?!!
ทาสตัวน้อยอึกอัก “มะ มะ มี”
สือโถวเลิกคิ้วขึ้น “แม่?”
หรือหนูน้อยจะคิดถึงแม่เลยมาหาสาวสวยหลบในอย่างเขา?
คิดได้ดังนั้น สือโถวก็กางสองแขนออกพรึบ บ่งบอกว่าจิตวิญญาณความเป็นแม่ในตัวพร้อมปลอบใจหนูเสมอ สองแขนสองขากางออกพลางย่อเข่าลงคล้ายรอรับลูกบอล ตะโกนคำรามปลุกใจว่า “มาเลยอิหนู!!”
ความเป็นเเม่ของพี่สาวจะปลอบโยนหนูเอง!
“แง๊งงงงงงงงงงงงงงงง!!!”
แต่ดูเหมือนเด็กน้อยวัยสิบเอ็ดขวบจะไม่เข้าใจ ทาสน้อยจึงหันหลังวิ่งออกจากเรือนทันที ทิ้งให้สือโถวยืนกะพริบตาปริบๆ อยู่ที่เดิม เอ้า อะไรของน้องมันวะ
“เจ้าคิดจะบดซานอวี้ให้เละเป็นก้อนเนื้อหรือไร”
“เหอะ” คนที่กล้าพูดเล่นกับเขาในจวนมีเพียงคนเดียวเท่านั้น สือโถวแค่นหัวเราะ เก็บแขนเก็บขาเดินไปหาสหายที่ยืนกอดอกรออยู่ตรงขอบประตู “ข้าแค่อยากจะปลอบใจ”
เด็กน้อยที่ออกจากอ้อมอกแม่เพียงอายุแค่นี้ต้องเหงาเป็นธรรมดา...อุตส่าห์แปลงร่างเป็นนางฟ้าแต่ดันมาทำหน้าอย่างกับเห็นภูตผีปีศาจซะได้อิเด็กผี!
"แฮ่ม เก็บสีหน้าหน่อย"
“ช่างข้าเถอะ แล้วเจ้ามาหาข้ามีเรื่องอะไร”
อาเยี่ยน “วันนี้มีเด็กใหม่มาเพิ่ม”
สือโถวขมวดคิ้วมุ่น ใบหน้าที่ประดับด้วยเครารกครึ้มแลดูเหี้ยมเกรียมกว่าเดิมโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
ยังจะรับเพิ่มอีก? แค่เด็กน้อยตาใสที่อยู่ที่นี่ก็มีตั้งหลายร้อยชีวิต นายท่านคิดจะเปลี่ยนที่นี่เป็นโรงเชือดเด็กรึไง
จวนนี้มันไม่ปกติแล้ว
สือโถวถาม “ครั้งนี้มีกี่คน?”
อาเยี่ยนตอบเสียงเรียบ “คร่าวๆ สักยี่สิบคนได้”
พวกเขาสองคนมุ่งหน้าออกไปยังเรือนพักของทาส โชคดีที่งานชิ้นสุดท้ายที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้นพอดี สือโถวลูบคางที่เต็มไปด้วยหนวดเคราเกินอายุอย่างครุ่นคิด พิจารณาสภาพแปลกประหลาดที่มองข้ามมาตลอดภายในจวน
อาเยี่ยนเหลือบมองสหายก่อนเอ่ยสิ่งทำให้เขาต้องมาหาอีกฝ่าย “ข้าต้องการให้เจ้าดูแลเด็กพวกนี้”
“หือ?" สือโถวหลุดจากภวังค์ เขารีบโบกมือปฏิเสธ “ไม่ไหวหรอก”
ถึงพี่สาวอยากจะดูแลให้แค่ไหนก็ตาม แต่ช่วยดูด้วยว่าขนาดทาสที่คุ้นหน้ากันดียังกลัวขนาดนี้ เด็กใหม่แม่งไม่วิ่งร้องไห้เอาหัวโขกกำแพงตายเลยเรอะ!
“ขอร้องล่ะสหาย ตอนนี้ข้างานยุ่งจริงๆ สินค้าใหม่เพิ่งเข้ามา ข้าไม่สามารถปลีกตัวไปดูแลหนูน้อยพวกนั้นได้เลย”
"..."
"สือโถว"
อาเยี่ยนส่งสายตาเว้าวอน พอเห็นว่าสหายหน้าหนวดของตัวเองเบือนหน้าหนี อาเยี่ยนรีบพุ่งเข้าไปบีบนวดแขนพลางส่งเสียงนุ่มออดอ้อน กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมช่วย
…หารู้ไม่ว่าสหายที่ว่ากำลังกุมจมูก พยายามหยุดเลือดกำเดาที่ใกล้จะไหล ด้านดีด้านชั่วต่อสู้กันอย่างหนัก
อย่ามาทำสายตาหมาน้อยใส่สิน้องชาย! แถวนี้มีแต่พงหญ้าเกิดพี่สาวหน้ามืดคว้าทำสามีขึ้นมาจะทำยังไง!
กรี๊ดดดดดด พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ถึงจะพยายามทิ้งตัวตนสาวน้อยแค่ไหน แต่เนื้อแท้ก็เคยเป็นผู้หญิงมายี่สิบกว่าปีเชียวนะ ไม่รู้รึไงว่าสตรีน้อย (?) ที่ขาดผู้ชายเยียวยามานานมันน่ากลัว!!
“สือโถว”
ยัง ยังไม่หยุดอีก!
“พอ พอ พอแล้ว! ข้ายอมช่วยเจ้าแล้ว เอามือออกไปไกลๆ ด้วย!!” ไม่งั้นอีกสิบวินาทีได้มีกิจกรรมในพงหญ้าแน่!
“ต้องอย่างนี้สิสหาย!" อาเยี่ยนปล่อยมือ เด็กหนุ่มฉีกยิ้มกว้าง "เช่นนั้นข้าขอตัวไปจัดการตรวจสอบสินค้าก่อนนะ อ้อ เด็กพวกนั้นอยู่แถวเรือนตะวันตก ฝากเจ้าดูแลด้วยล่ะ!!”
ว่าแล้วก็วิ่งปรู๊ดหายไปยังทิศทางตรงกันข้ามทันที
สือโถวถอนหายใจพลางยิ้มเศร้า ๆ สองตาเหม่อมองท้องฟ้าอย่างปลงตกในสัจธรรมที่เพิ่งค้นพบ
อา ความรู้สึกที่มีอาหารอันโอชะอยู่ตรงหน้าแต่กินไม่ได้เป็นอย่างนี้เองสินะ
.................
“หนูน้อยคนงาม มาเล่นกับพี่มั้ยจ๊ะ”
“ฮึก”
“เฮ้ยๆ น้องชายร้องไห้แล้วเห็นมั้ย เจ้ามานี่ดีกว่า เดี๋ยวพี่คนนี้ให้ขนมน้า”
ร่างสูงเกินเด็กวัยเดียวกันชะงักกึก สือโถวหันไปทางต้นเสียงก่อนจะเห็นกลุ่มเด็กหนุ่มอายุสิบห้าสิบหกปีกำลังล้อมลงอะไรบางอย่างด้วยท่าทางหื่นกระหาย
เขากลอกตาขึ้นฟ้า เคาะนิ้วครุ่นคิด
อืมมม จะว่าไปที่นี่คือเรือนตะวันตกที่อาเยี่ยนบอกสินะ?
...แสดงว่าเป้าหมายที่เขาต้องดูแลกำลังถูกเด็กหนุ่มหน้าลิงพวกนั้นรุมอยู่ใช่มั้ย?
"หนูน้อยคนงาม"
"ไม่เอาน่า อย่าเขินไปเลย"
“ว่าไงจ๊ะ ไปเล่นห้องพี่ชายมั้ยเอ่ย?”
“แหม แหม ขอน้องชายคนนี้ไปเล่นด้วยคนได้หรือไม่เล่า โอ-นี่-จัง”
ขณะที่เหล่าเด็กหนุ่มวัยกำหนัดกำลังรังแกคน จู่ ๆ เสียงทุ้มเย็นชาก็ดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับเงาดำที่ทาบทับ พวกเขาหันขวับก่อนจะทำหน้าเหมือนเห็นผี
“สะ สะ สือ”
“หึๆ มาเล่นกันเถอะ ข้าจะดูแลพวกพี่ชายอย่างดีเลยล่ะ” สือโถวเอียงคอยิ้มเหี้ยมพลางดัดนิ้วดังกร็อบ
คนเราสามารถหื่นได้ อันนี้พี่สาวเข้าใจ เเต่การที่พวกแกมาหื่นกับเด็กไม่กี่สิบขวบ อันนี้แม่งสมควรตายโว้ยไอ้พวกเด็กนรก!
สือโถวหัวเราะในลำคอ "ในเมื่ออยากได้เพื่อนเล่นกันนัก ข้าก็จะเป็นเพื่อนให้เอ-"
“ว้ากกกกกกกกกกกก” ยังทันจบประโยคพวกเด็กนรกก็ร้องเสียงหลงวิ่งแตกฮือหนีกันไปคนละทิศละทาง
“...”
สือโถวยิ้มค้างโดยมีใบไม้ปลิวเป็นฉากหลัง คาดไม่ถึงว่าพวกเด็กเปรตจะมีปฏิกิริยาตอบรับอันน่าประทับใจขนาดนี้
เมื่อก่อนไม่เคยมีผู้ชายเข้ามา ส่วนตอนนี้ก็โดนผู้ชายวิ่งหนี ช่างเป็นความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูกเสียจริง
“ฮึก” เสียงสะอึกสะอื้นจากก้อนกลมบนพื้นดึงสติของสือโถวที่หลุดออกจากภวังค์ไปชั่วขณะให้กลับเข้าร่าง เขาเดินไปนั่งยองๆ ข้างก้อนกลมนั้นก่อนจะหาไม้มาเขี่ยๆ “เฮ้ย เจ้าน่ะ ตอนนี้ปลอดภัยดีแล้วนะ เงยหน้าขึ้นมาเถอะ”
เจ้าก้อนกลมค่อยๆ ขยับร่างกาย หัวทุยผงกขึ้นมองอย่างกล้าๆ กลัวๆ
ลมหายใจพลันสะดุดเมื่อเห็นหน้าของเด็กน้อยตรงหน้า ไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะมีใบหน้าแบบนี้ สือโถวตกตะลึงเพียงครู่ วินาทีต่อมาก็กลับมาเป็นปกติ ดวงตาใต้กลุ่มผมหยักศกหรี่ตาลง
สมควรแล้วที่โดนรุม ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยบุรุษเพศไร้ซึ่งสตรี การที่ของสวยงามน่ารักน่าดึงดูดจะโผล่ออกมาสักครั้ง ชายหนุ่มวัยขบเผาะนิสัยหมาย่อมเผยสันดานเสียเป็นธรรมดา
เเต่ต่อให้ใจหมาแค่ไหนก็ไม่ควรมาหื่นกับเด็กโว้ย!
ดูอย่างเขาสิ! ทุกวันนี้ยังนับวันรอให้อาเยี่ยนโตเป็นผู้ใหญ่เลย!
เด็กน้อยเอียงคอ “...เจ้า?”
สือโถวยกมือกุมแก้ม ขนาดเสียงยังน่ารักเลยวุ้ย
“ข้าชื่อสือโถว ไม่เป็นไรแล้วนะ” มือสากจากการทำงานหนักช่วยพยุงเด็กน้อยน่ารักขึ้นจากพื้นพลางปัดฝุ่นบนเสื้อผ้าอีกฝ่ายให้ด้วย “เจ้าชื่ออะไร?”
“ฮึก” เด็กน้อยน้ำตาคลอ สือโถวไม่แปลกใจเท่าไหร่ ขนาดเด็กผีพวกนั้นเห็นเขายังวิ่งหนีแตกกระเจิงอย่างกับเจอหน้าบรรพบุรุษ จะเอาอะไรกับเด็กน้อยที่สูงเลยช่วงอกเขามานิดเดียวกัน
“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่ทำอะไรหรอก เห็นแบบนี้แต่พี่ชายใจดีน่าดูเลยน้า” สือโถวขยิบตา ยกมือทำนิ้วสู้ตายเสริมความน่ารัก
เด็กน้อยทำหน้าผวา ถอยกรูดไปสิบก้าว
"..."
หน้าตาดีเกินไปแม่งเป็นปัญหาจริง ๆ เวรเอ๊ยยยยยยยย
“เอาเป็นว่า ข้าได้รับคำสั่งให้มาดูแลเจ้า นอกจากบุรุษกล้ามแน่นหน้าตาดี ข้าสามารถตบมันได้หมดเพื่อปกป้องเจ้า โอเคมั้ย?”
“โอเค?”
“เอ่อ หมายความว่าตกลงหรือไม่น่ะ”
ดวงตากลมโตหลุบมองพื้น สักพักจึงมีเสียงตอบกลับมาแผ่วเบา “อืม”
สือโถวแอบปาดเหงื่อ ให้ไปทำข้อสอบเข้ามหาลัยยังง่ายกว่ากล่อมเด็กเลยมั้งเนี่ย!
“งั้นขอพี่ชายรู้ชื่อเจ้าหน่อยสิคนดี”
“จ้- มู่หลี่หลง” เด็กน้อยงึมงำในลำคอ
สือโถวเกาหลังคอ ออกเสียงยากชะมัด
“หลงเอ๋อ” ใช่มั้ยวะ? เคยได้ยินว่าเป็นคำเรียกแสดงความเอ็นดู
มู่หลี่หลงส่งสายตาระแวง โอเค๊ แสดงว่าไม่ผ่าน
สือโถวย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกับมู่หลี่หลง “หลี่หลง ตอนนี้... เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว?”
มู่หลี่หลงทำหน้างุนงงแต่ก็ยอมตอบแต่โดยดี “สิบปี”
“งั้นหรือ” ฉับพลันใบหน้าดุดันเต็มไปด้วยหนวดเคราของสือโถวก็ปรากฏริ้วรอยแห่งความอ่อนโยนจางๆ มู่หลี่หลงตะลึงกับสีหน้าอ่อนละมุนนั้น ไม่ทันได้ตั้งตัวสือโถวก็อุ้มเขาด้วยสองมือจนสองขาลอยไม่ติดพื้น “เดี๋ยวพี่ชายจะพาเจ้าไปอาบน้ำชำระกายแล้วพาทัวร์ แฮ่ม แนะนำสถานที่แห่งนี้เองนะ!”
“ปล่อยข้า...ลง” มู่หลี่หลงเค้นเสียงลอดผ่านไรฟัน
“เอาน่าๆ ตอนนี้เจ้าคงเหนื่อยจนล้าไปทั้งตัวแล้วสิ พี่ชายยินดีบริการอย่างดีเชียว!”
ข้าไม่ต้องการ!!
มู่หลี่หลงตะโกนก้องในใจ พยายามดีดดิ้นเพื่อหลุดออกจากวงแขน ทว่าไม่ว่าจะใช้แรงเพียงใดอีกฝ่ายก็ไม่สะเทือนเลยสักนิด เด็กน้อยจึงได้แต่น้ำตาคลอเป้าปล่อยให้ตัวเองถูกอุ้มไปที่แม่น้ำอย่างไม่มีทางเลือก
“เอาล่ะ ไปอาบน้ำกันเถอะหนูน้อย!”
“วะ ว่าไงนะ ไม่เอา!”
“เล็ทสะโกววววววววว”
.........................
ความคิดเห็น