คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ย้อนยุค 1 : ไอ้ยมทูตตอเเหล! (Rewrite)
ย้อนยุค 1
ไอ้ยมทูตตอแหล!
ตั้งแต่เล็กจนโตงานอดิเรกอีกอย่างในชีวิตที่เเสนธรรมดาก็คือการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นแนวยุทธภพหรือไซไฟไปจนถึงแนวทั่วไปอย่างเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ เรียกได้มีความช่ำชองถึงขั้นปรมาจารย์!
ถึงจะขาดประสบการณ์จริงเเต่จากการค้นคว้าอันดุเดือดจึงค่อนข้างมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าจะสถานการณ์ของเกมจีบหนุ่ม เอ๊ย ชะตาชีวิตเเสนยิ่งใหญ่ที่มารับช่วงต่อนี้จะมาเเนวไหน ปรมาจารย์ผู้นี้สามารถเคลียร์ได้สำเร็จสวยสดงดงามแน่นอน!
ชะตาของคนคนนี้เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั่วหล้าแสดงว่าเจ้าของร่างต้องงดงามล่มแผ่นดินเเน่นอน! ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นองค์หญิงสูงศักดิ์ ไม่ก็ลูกสาวท่านอ๋องผู้เกรียงไกร หรือจะเป็นฮูหยินของท่านจ้าวสำนักก็ได้
ยิ่งคิดก็ยิ่งหัวเราะในลำคอด้วยความตื่นเต้น วิญญาณที่เพิ่งเดินผ่านข้ามภพปิดสองตาแน่นรอตัวประกอบมาเรียกอย่างลุ้นระทึก
ตึก! ตึก!
อุ้ย มาเเล้ววว
ปึง!
“ตื่นได้แล้ว เจ้าบ้า!”
ซ่าาาาา!
ทว่าสิ่งที่มาเยือนกลับไม่ใช่เสียงอ่อนหวานของเหล่าข้ารับใช้เเต่เป็นน้ำเย็นจัดถึงกระดูกเเทน เธอร้องลั่นห้อง พลิกตัวกระโดดลงจากเตียงมาเต้นแร้งเต้นกาอยู่หน้าเด็กหนุ่มวัยสิกหกปีที่ยังคงถือถังน้ำค้างไว้อยู่
“ทำบ้าอะไรของแกฮะอิเด็กเวร เดี๋ยวเเม่ตบกระเด็นออกนอกโลก มันใช่วันสงกรานต์รึไงยะ!”
ถ้อยคำที่แปลกประหลาดทำให้เด็กหนุ่มแปลกใจเล็กน้อย เขาเบ้ปากใส่ร่างที่โตกว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน “ข้าต่างหากที่ต้องถามว่าเจ้ากำลังทำบ้าอะไรอยู่ ตอนนี้ได้เวลาทำงานแล้วนะ ขืนไปช้าเดี๋ยวลูกพี่ก็กระทืบเจ้าอีกหรอก อยากตายนักรึไง!”
“ทำงาน? ลูกพี่?” เธอทวน ไอ้ตำแหน่งที่เหมือนแก๊งนักเลงปลายแถวนี่มันคืออะไร
เห็นอีกฝ่ายสีหน้างงวยคล้ายคนสติไม่ดี เด็กหนุ่มแอบนึกเห็นใจเล็กน้อย เพราะเมื่อสามวันก่อนเจ้านี่ดันทำงานที่ได้รับมอบหมายผิดพลาดจึงโดนโบยร้อยครั้งจนแทบเอาชีวิตไม่รอด ได้เเต่นอนไข้ขึ้นปากสั่นจนพวกเขาคิดว่าต้องทำโลงศพให้เสียแล้ว
“ช่างเถิดๆ รีบไปผลัดเปลี่ยนผ้าแล้วมาช่วยงานได้แล้ว สือโถว” เด็กหนุ่มโบกมือ เดินออกจากห้องหับเล็กๆ โดยไม่สนใจว่า “สือโถว” ที่ว่ากำลังงงตาแตกมากแค่ไหน
คนที่ถูกเรียกด้วยชื่อใหม่กะพริบตาปริบๆ เด็กนั่นหมายถึงสือโถวที่แปลว่าก้อนหินน่ะเหรอ?
เธอยกมือปาดหยดน้ำออกจากใบหน้า รู้สึกระคายเคืองแถวคางแปลกๆ แต่อากาศที่เย็นยะเยือกที่พัดผ่านร่างวูบทำให้ต้องรีบปัดมันทิ้งอย่างไม่ไยดี
พอเพ่งมองรอบข้างอย่างตั้งใจเธอก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องขนาดเล็กสุดโทรม มีเพียงเตียงเก่าที่แทบจะอยู่รอมร่อวางอยู่เพียงชิ้นเดียวในห้อง
อ้อ ยังมีหมอนกับผ้าห่มสีตุ่นที่เปียกโชกไปด้วยน้ำจากฝีมือไอ้เด็กเวรอีกหนึ่ง
"..."
“…”
สรุปแล้วคือสภาพโคตรอนาถนั่นเอง
ช่างเถอะ มีตั้งหลายเรื่องจะตายที่นางเอกเป็นเเค่สาวใช้ธรรมดามาก่อนที่จะขึ้นมาเป็นใหญ่ แค่นี้ศรีทนได้ค่ะ!!
ฟิ้ววววววว
“ฮัดเช้ย! หนาวชะมัด” ลมหนาวลอดผ่านช่องว่างของเเผ่นไม้จนต้องรีบหันซ้ายหันขวาเพื่อหาเสื้อผ้าแห้งมาเปลี่ยน ไอ้เด็กเวรนั่นก็เล่นสาดซะเปียกตั้งแต่หัวยันตูดเลย คิดว่าตัวเองเป็นโพไซดอนกลับชาติมาเกิดหรือไง!
หญิงสาวมองหาอยู่สักพักก่อนจะเห็นกองผ้าวางกองอยู่มุมหนึ่งใต้เตียง ไม่รอช้าเธอรีบหยิบมันนำมาสวมทันที ในขณะที่กำลังถอดเสื้อผ้าพร้อมกับวางแผนว่าจะทำอย่างไรกับชีวิตในภพต่อไป เธอก็ชักรู้สึกถึงความผิดปกติ…แบบว่าเหมือนมีบางอย่างไม่ถูกต้อง?
มือของเจ้าของร่างนี้ใหญ่ไปมั้ย? ไอ้ความหยาบกร้านไม่นุ่มนิ่มอันนี้พอรับได้ คิดว่าน่าจะเกิดจากการทำงานหนัก แต่ไอ้ทั้งใหญ่และปูดโปนแบบนี้ดูยังไงก็ไม่ค่อยเข้ากับสตรีงดงามที่ (อนาคต) จะมีเหล่าเจ้าชายหล่อเลิศมาหลงรักเท่าไหร่เลยนะ?
"หืม ไม่มีนมด้วย!?" เธอยกมือลูบหน้าอกเพื่อยืนยันความเเบนอีกครั้ง ใบหน้าเริ่มซีดลงเรื่อยๆ
อย่าบอกนะว่า...
มือสั่นเทาค่อยๆ ปลดเชือกของกางเกงออก ทันใดนั้นสองตาเบิกกว้างแทบถลนออกจากเป้า
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!”
ทันใดนั้นจวนที่เคยเงียบสงบก็มีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังออกจากห้องพักคนงาน เหล่าคนที่กำลังก้มทำงานพาสะดุ้งกันเป็นแถวก่อนหันมามองหน้ากันอย่างงงงวย
"...???" เกิดเรื่องอันใดขึ้น เหตุใดถึงได้ร้องเยี่ยงคนถูกเชือดเช่นนั้นกัน
..................
ไม่จริง
เป็นไปไม่ได้!
มัน-ไม่-ควร-เป็น-แบบ-นี้-สิ!
'เธอ' ที่ต้องเปลี่ยนคำเรียกขานเป็น 'เขา' เเทน กำลังพึมพำอย่างสติเเตก สองมือกอดไม้กวาดไว้ในอ้อมแขนเเน่น รู้สึกว่าวิญญาณที่เพิ่งเข้าสิงกำลังจะหลุดออกจากร่างนี้อีกรอบ
ไหนยมทูตบอกว่าจะเกิดเป็น ‘บลา บลา มีชายหญิงมากมายมาหมายปอง’ (เว้นช่วงหน้าไว้เนื่องจากลืมแม่งไปละ) ไง!
แล้วนี่คืออะไร! ร่างไร้นมแถมพ่วงช้างน้อยเป็นของขวัญ จะเอามาให้หญิงสาวบอบบางคนนี้เพื่ออะไร อัพสกิลการเข้าห้องน้ำชายเหรอ?!!
“เฮ้ย!! ไอ้ขี้ข้าตรงนั้นน่ะ อย่าหยุดมือสิวะ!!”
“ขอรับ!”
ทันใดนั้นเสียงกระโชกโฮกฮากก็แหวกอากาศ กระตุ้นให้สองมือต้องรีบกลับมาขยับอีกครั้ง
'สือโถว' คนใหม่กัดฟันกรอด หลังจากกรี๊ดต้อนรับโชคชะตาใหม่จบไปหนึ่งเพลงเด็กหนุ่มที่ใครต่อใครเรียกขานว่า ‘อาเยี่ยน’ ก็วิ่งเอาน้ำเย็นมาสาดอีกรอบเพื่อให้หยุดแหกปาก ยังไม่ทันได้ตั้งสติก็โดนกระชากลากถูออกมานอกห้องทั้ง ๆ ที่ตัวเปียกโชก ยัดเยียดไม้กวาดใส่ในมือแล้วจบด้วยการถีบหัวส่งมาทำงาน
ด้วยสติที่ยังเหลืออยู่น้อยนิดเลยเเอบสอบถามหาข้อมูลจากเพื่อนร่วมงานใหม่ (?) ถึงได้รู้ว่าตัวเองเป็นเพียงเด็กที่ถูกขายเข้าจวนมาเพียงสามอีแปะ ตอนนี้ทำงานหาเลี้ยงท้องวันต่อวันในจวนของมหาเศรษฐีที่ทำอาชีพค้าขาย
เด็กหนุ่มที่ชื่ออาเยี่ยนตบอก "งานหลักของเราคือส่งของออกนอกเมืองล่ะ!"
"..." หลังจากได้ยินคำตอบเเล้วรู้สึกเเดกจุดหนักมาก สรุปว่าโดนรถชนตายเพื่อข้ามภพมาเป็นเดริเวอร์รียุคโบราณหรอกเรอะ?!
ส่วนรายละเอียดที่ว่าเมืองที่อยู่ชื่ออะไร แคว้นตะวันตกหรือตะวันออกก็ช่างหัวแม่มันแล้ว ไม่ขอข้อมูลอะไรยัดหัวอีกต่อไป เจ็บนม (?) โว้ย!!
“เจ้าตรงนั้นน่ะ ขนของดีๆ ถ้าไม่อยากโดนเฆี่ยน!!”
“ขอรับ!”
ตึง!
“ไอ้เด็กเวร กล้าดียังไงมาทำสินค้าของนายท่านตหา!!”
“ขะ ขะ ขออภัยขอรับ! อย่าตีข้าเล- อ้าก!!”
ส่วนสภาพแวดล้อม...แค่ฟังเสียงก็สัมผัสได้ถึงความรื่นเริงสนุกสนานเหมือนอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ของนรก สือโถวคนใหม่อดตัวสั่นแล้วตั้งใจทำงานต่อไม่ได้ จากที่กวาดตาดูแปดส่วนเป็นเพียงเด็กน้อยอายุสิบถึงสิบหกปี อีกสองส่วนเป็นชายหนุ่มหน้าเหี้ยมอายุยี่สิบกว่าที่ทำหน้าที่เฆี่ยนตีให้เด็กพวกนี้ทำงาน
สาวน้อยในร่างชายได้แต่กัดฟันสาปแช่งในใจ ไอ้พวกสารเลว ทำไมต้องมาใช้เด็กน้อยทำงานหนักแบบนี้ ไม่รู้จักกฎหมายแรงงานกันรึไง?!
เพียะ!!
"อึก ฮือ"
"อย่ามาสำออย ลุกขึ้นมาทำงานเดี๋ยวนี้!"
กลางลานกว้างเด็กหนุ่มคนหนึ่งโดนเฆี่ยนตีจนเลือดสาดกระจาย สือโถวร้องกรี๊ดในใจตามจังหวะการลงแส้ โอ๊ย อิหนู อย่ามัวแต่ร้องไห้รีบเอามือบังหน้าไว้สิ!
เพียะ ๆ!!
สือโถวสูดปาก รู้สึกเจ็บเเทนเด็กน้อย แอบชะโงกหน้าดูเด็กผู้เคราะห์ร้ายที่นอนเลือดอาบหน้าหายใจรวยรินภายใต้แส้ที่ตวัดลงมาไม่หยุด
ถามว่าทำไมไม่เข้าไปช่วย?
คำตอบคือ เพราะไม่ได้เดบิวต์มาเป็นนางเอกสายคุณธรรมแต่เป็นตัวประกอบสันดานสารชั่วยังไงล่ะ แค่พยายามยืนกวาดพื้นโดยไม่ล้มพับตรงนี้ก็เป็นบุญแค่ไหนแล้ว!
พอนึกถึงสาเหตุที่ต้องมายืนถือไม้กวาดอยู่ที่นี่ สองมือพลันกำแน่นจนเส้นเสือดปูดโปน
หน็อย อิยมทูตใจหมา บังอาจมาหลอกกันได้ลงคอนะ อย่าให้ได้เจอตัวเชียวแม่จะเอาเครื่องประหารหัวสุนัขยัดตูดแน่!!
.................
ตกเย็น
แสงสีสีส้มยามพระอาทิตย์อัสดงโอบล้อมไปทั่วผืนฟ้า ร่างแห้งเหี่ยวไร้เรี่ยวแรงล้มตัวนอนอย่างเหนื่อยอ่อนอยู่ข้างสระบัว รู้สึกเหมือนเเขนขากำลังจะแยกออกจากกัน
กวาดพื้น ถูห้อง แบกกระสอบข้าวกระทั่งขนหิน
ถึกจนสงสัยว่ายังเป็นผู้หญิงอยู่รึเปล่า เออลืม ตอนนี้เป็นผู้ชายเเล้วนี่หว่า ฮ่ะๆ
ความจริงกลับมากระแทกหน้าจนน้ำตาหวิดจะไหลอาบหน้าอีกรอบ ขอเขียนฟ้องร้องกรมยมทูตจะได้มั้ยนะ
“ยังเจ็บแผลอยู่เหรอ?” เสียงที่ยังไม่แตกหนุ่มดังขึ้นเหนือศีรษะ สือโถวผงกหัวขึ้น พอเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มที่ชื่ออาเยี่ยนเดินมานั่งข้างๆ ก็ทิ้งตัวลงไปนอนเช่นเดิม อดเบะปากประชดประชันไม่ได้
“ถ้าบอกว่าเจ็บแล้วจะเอายามาให้รึไง?”
พอพูดถึงแล้วความเจ็บแสบบนหลังก็เสียดแทงขึ้นมาจนหลุดหัวเราะด้วยความสมเพช คนเรานี่ก็แปลก พอสมาธิไปจดจ้องกับอะไรสักอย่างก็ดันลืมความเจ็บปวดไปหมด ตอนนี้เลยเพิ่งจะมานึกได้ว่าตัวเองบาดเจ็บอยู่
แต่เพราะบาดเเผลนี่สินะ ถึงต้องมาสิงร่างเเทนเจ้าตัวที่ตอนนี้อาจจะกำลังเข้าเเถวรอเกิดใหม่
ชีวิตแม่งเฮงซวย
อาเยี่ยนทรุดตัวนั่งเท้าคางพูดเสียงเอื่อย “ทาสอย่างพวกเรามีสิทธิ์ใช้ของแบบนั้นได้ด้วยเหรอ”
“ความจริงก็ได้” แต่ไม่ใช่ในยุคนี้เเละสถานที่เฮงซวยแบบนี้แน่นอน สือโถวถอนหายใจเฮือก “ช่างเถอะ มีงานที่ต้องทำอีกแล้วเหรอ”
อาเยี่ยนส่ายหัว “เปล่า หลังจากนี้เป็นเวลาพักแล้ว”
เฮ้อ ค่อยยังชั่ว
ขณะกำลังถอนหายใจ ผิวแก้มซีกหน้าซ้ายพลันรู้สึกแสบร้อน สือโถวหันไปด้านข้างก่อนจะพบว่าเด็กที่ชื่ออาเยี่ยนกำลังนั่งขัดสมาธิ เบิกตาจ้องเขม็ง
"...มีอะไร"
"เจ้าดูแปลกไป"
"...ก็นะ" มันต้องแปลกอยู่แล้วสิคะอิน้อง ในเมื่อคนที่นั่งอยู่หน้าหนูตอนนี้ถูกเปลี่ยนไส้ในเรียบร้อยแล้วนี่นา!
"ตั้งแต่ตื่นมาเจ้าไม่ค่อยพูด"
"...ปกติออก" คือเอะอะจะให้เมาท์ไฟแลบเหมือนอยู่ที่นี่มาแต่เกิดก็ไม่ได้มั้ยหนู พี่สาวเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่วันแรกเองนะ มันต้องให้เวลาดูดซับภาษากันก่อนสิ
"ทำตัวปวกเปียกไม่สมกับเป็นบุรุษชาตรี"
"..." จะชายชาตรีได้ยังไง ก็ทางนี้เป็นชะนีสาวไม่ใช่นายสุชาติ!!
"แล้วก็"
"พอเถอะ ไม่ต้องพูดแล้ว" สือโถวยกมือห้าม กลอกตาไปมาเรียบเรียงภาษาของที่นี่ก่อนเปิดปาก "ข้าแค่ยังไม่หายดีเลยไม่อยากพูด ไม่อยากทำตัวสมชาย ไม่อยากทำเหี้- หมายถึง ทำอะไรให้เจ้าดูทั้งนั้น ข้าเหนื่อย เข้าใจมั้ย"
อาเยี่ยนพลันนึกขึ้นได้ เขายกมือขอโทษขอโพย "ข้าลืมไปเลยว่าเจ้าเพิ่งฟื้นจากไข้"
"ไม่เป็นไร"
สือโถวแอบพิจารณาเด็กหนุ่มข้างตัว อาเยี่ยนคนนี้ถึงแม้จะดูมอมแมมไปสักหน่อยแต่หน้าตาไม่เลวเลย คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากหยักลึก ผิวสีแทนจากการตากแดด ยิ่งเวลานี้แสงสีส้มกำลังอาบไล้ใบหน้าด้านข้างของเด็กหนุ่ม…บอกเลยว่า งานดีย์
น้ำลายสายหนึ่งไหลออกจากมุมปากจนต้องรีบปาดทิ้ง พี่สาวขอยืนยัน หลังโตเป็นผู้ใหญ่หนูต้องเป็นหนุ่มหล่อสายดิบเถื่อนแน่นอน!!
ทันใดนั้นสมองก็สว่างวาบ สือโถวยกมือปิดปากร้องอุ้ยตายว้ายกรี๊ดในลำคอ
ลืมไปได้ยังไงกัน นอกจากนางเอกที่ย้อนมายุคโบราณแล้ว บางเรื่องยังมี ‘นายเอก’ ด้วยไม่ใช่เหรอ!
นึกถึงนิยายบีแอลที่เคยอ่านทั้งหลายแล้วก็ใจเต้นตึกตัก ความรักของเหล่าท่านชายเองก็ดีงามไม่แพ้กัน!
สือโถวหันขวับ แสดงว่า...อาเยี่ยนจะเป็นหนึ่งในฮาเร็มในอนาคต?!
จู่ ๆ อาเยี่ยนก็สัมผัสถึงรังสีอันตรายจากคนข้างกาย เด็กหนุ่มหันไปมองก่อนจะผงะเมื่อสบกับสายตาหิวกระหายจากสหายที่อายุน้อยกว่าตนสองปี ทาสตัวน้อยรีบขยับตูดไปสองช่วงแขน “มะ มองข้าอย่างนั้นทำไม”
“หึ หึ ข้ากำลังคิดว่า ทำไมเจ้าถึงเป็นห่วงเป็นใยข้าถึงขนาดนี้กันน้า” สือโถวหน้าแดง ขยับเอวบิดไปมาด้วยความขวยเขิน
“ก็เจ้าเป็นเพื่อนที่เข้าจวนนี้มาพร้อมข้า เดี๋ยวก่อนนะ" ทาสหนุ่มชะงัก "บัดซบ! นี่เจ้าคิดว่าข้า-!!”
อาเยี่ยนอึกอักไม่กล้าเอ่ยต่อ รู้สึกถึงของเหลวในลำไส้ที่พากันปั่นป่วนจนแทบขย้อนออกทางเก่า เขารึอุตส่าห์หวังดี ตะ แต่เจ้าบ้านี่ดันคิดว่าเขาทำไปเพราะเสน่หางั้นเหรอ!
สีหน้าของเด็กหนุ่มพลันมืดครึ้มสลับหวาดกลัวผิดกับสือโถวที่หน้าแดงตาเป็นประกายสดใส อุ้ยตาย น้องชายกำลังเขินด้วยล่ะ!
แหงล่ะ หน้าตาของร่างนี้ต้องงดงามตรงคอนเซ็ปต์นายเอกแน่นอน ถึงว่าทั้งวันไม่มีผู้คุมคนไหนเข้ามาดุด่าทุบตี อย่างมากก็แค่ส่งเสียงตะคอกคำหนึ่งแล้วรีบเดินหนี
ใบหน้าของหนุ่มน้อยตาโตปากจิ้มลิ้ม สองแก้มนุ่มมีเลือดฝาดเล็กน้อยอย่างคนสุขภาพดีปรากฏขึ้นในมโนภาพ สือโถวยิ้มแก้มแทบปริ
“ไม่ต้องอายไปหรอกอาเยี่ยน ถึงแม้ว่าเจ้าจะคิดแบบนั้นกับข้าแต่ความเป็นเพื่อนของเราก็จะไม่เปลี่ยนแปลง” ...เป็นระยะเวลาสี่ปี ไว้เจ้าบรรลุนิติภาวะแล้วข้าค่อยกินก็ยังไม่สาย
อาเยี่ยนอ้าปากค้าง พอสมองทำการประมวลสิ่งที่สหายสนิทพูดเรียบร้อยก็เหวเสียงหลง “เจ้าถูกตีจนเพี้ยนไปแล้วหรือ ข้าเป็นผู้ชายนะ!"
สือโถวยืดอก "อื้ม! ข้าก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน"
อาเยี่ยน "..."
อาเยี่ยน "..."
เด็กหนุ่มส่ายศีรษะเรียกสติที่ปลิวไปไกลกลับมา ลุกขึ้นชี้หน้าสหาย "หน้าตาอย่างเจ้าต่อให้ดับเทียนข้าก็ยังเอาไม่ลงเลย!”
สือโถวโบกมือ “โอ๊ย ไม่ต้องอายๆ”
“อายมารดาเจ้าสิ บัดซบ! เจ้าช่วยพิจารณาหนังหน้าตัวเองหน่อย!”
“หา” ถูกด่าขนาดนี้ต่อให้เป็นคนหน้าด้านก็ต้องเริ่มรู้สึกทะแม่งบ้าง สือโถวกะพริบตาปริบๆ ด้วยความงงงวย
หน้าตาเลวร้ายจริง ๆ? หรือเจ้าเด็กน้อยเขินจนพาลไปทั่วกันเเน่??
จะว่าไปตั้งแต่ตื่นมาก็ยังไม่ได้ลูบคลำร่างใหม่ของตัวเองเลย เพราะทุกวินาทีอุทิศให้กับงานกรรมกรจนอยากจิกหัวยมทูตมาถูพื้นแทนผ้าขี้ริ้ว
แม้ว่าจะแอบมั่นใจในหนังหน้าร่างใหม่ ทว่าเห็นอาเยี่ยนทำหน้าจริงจังขนาดนั้นก็ชักแอบลังเล ดังนั้นเพื่อคลายความสงสัยสือโถวจึงลุกขึ้นนั่งชะโงกตัวไปยังสระบัวใหญ่เบื้องหน้า ก่อนจะแหวกดอกบัวที่สูงพ้นน้ำออก
ภาพแรกที่สะท้อนบนผิวน้ำคือหนวดเคราหนาปิดริมฝีปากตามมาด้วยเส้นผมหยักศกยุ่งเหยิงมัดรวบไว้บนท้ายทอยเเละดวงตาคมปลาบแลดูโหดเหี้ยมที่โผล่พ้นกลุ่มผมที่ปรกใบหน้า
"..."
“…?”
ใครอะ? หน้าตาโคตรโจรได้ใจ
เขาเอียงคอไปทางซ้าย ไอ้หน้าเถื่อนบนน้ำก็เอียงตาม
เขายกมือสองนิ้ว ไอ้โจรชิงสวาทก็ยกตาม
“...”
“...”
“...”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!” ผ่านไปห้าวินาทีเสียงโหยหวนก็ดังขึ้นอีกรอบ คราวนี้อาเยี่ยนไม่ต้องลำบากไปหาบน้ำมาสาดอีก ทาสหนุ่มเพียงแค่ยกเท้าขึ้นถีบเอวอีกฝ่ายดังผลัวะ!
เพียงเเค่นั้นเสียงกรีดร้องก็หายไปพร้อมเสียงน้ำที่เเตกกระจายดังลั่นจวน
“แค่ก แม่งเอ๊ย กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!”
รึเปล่านะ?
.....................
#เป้าหมายของข้าคือฮาเร็ม
ความคิดเห็น