ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Letter #เพราะโลกนี้มี 'นาย' [FIC HKS]

    ลำดับตอนที่ #24 : บทที่ 22 : เมื่อวันเวลาของเรามาบรรจบกัน (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.ย. 55


    บทที่ 22 : เมื่อวันเวลาของเรามาบรรจบกัน

    ป๊า...ขับรถกลับบ้านดี ๆ นะ ฝากหอมแก้มแม่จ๋ากับพี่ข้าวด้วย อ้อ...ไอ้ขนมอีกคนหนึ่ง

    อืม...แล้วเมื่อไหร่เราจะกลับบ้านไปหอมเองล่ะ คนเป็นพ่อถามก่อนจะรับกระเป๋าใบใหญ่จากมือของคนเป็นลูกมายัดไว้ที่ท้ายรถ

    อ่า...เดี๋ยวรอเคลียร์งานดีเจให้มันลงตัวกว่านี้ก่อนป๊า แล้วผมจะขึ้นไป

    จะรอเคลียร์งานหรือรอเคลียร์อะไร คำถามที่มาพร้อมกับสายตาที่รู้ทัน ทำให้คนโดนแซวแต่เช้าเกิดอาการเขินขึ้นมา

    ป๊าอ่ะ...จะมาแซวอะไรผมแต่เช้าเนี่ย

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ ป๊าเพิ่งเคยเห็นแกเป็นได้ขนาดนี้นะเจ้าแกง คนเป็นพ่อว่าพลางยกมือขึ้นลูบผมคนเป็นลูกเบา ๆ หนึ่งที ก่อนจะส่งยิ้มไปให้คนที่เพิ่งเดินมาถึง

    ขับรถกลับดี ๆ นะพี่หนู คิมว่าพลางส่งยิ้มให้พี่ชายของตัวเอง

    เดินทางปลอดภัยค่ะคุณพ่อน้องแกง จ๋าไม่พูดเปล่าแต่เธอยังส่งยิ้มหวานแบบเอาใจสุด ๆ ไปให้ชายสูงวัยตรงหน้าอย่างเนียน ๆ

    ลุงหนูฮะ ยังไงก็ไม่ต้องห่วงเจ้าแกงมันนะครับ เดี๋ยวทางนี้ผมช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง โตโน่ว่าก่อนจะยกมือเป็นเชิงให้สัญญากับบิดาของแกงส้ม

    โหย...ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดูดีเลยพี่โน่ พี่จะหาเรื่องมาเจอกับหมิวล่ะสิ ผมรู้ทันพี่หรอกน่า

    อะไรไอ้แกง...อย่ามาทำเป็นรู้ทันหน่อยเลย

    ก็แล้วมันจริงไหมล่ะครับ พอได้ชัดเจนหน่อยก็เอาใหญ่เลยนะ คำแซวนี้ของแกงส้มทำให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ร่างสูงของโตโน่เกิดอาการหน้าแดงขึ้นมา

    หมิวนึกอยากจะเอาอะไรสักอย่างไปอุดปากแกงส้มไว้ เพื่อไม่ให้เขาเอ่ยแซวเรื่องเธอกับคนที่ยืนข้าง ๆ แต่เธอก็ไม่สามารถทำได้ เพราะขืนเธอทำแบบนั้น มีหวังพี่ฮั่นคงได้เตะก้านคอเธอเป็นแน่

    หมั่นไส้!” คนที่ยืนกอดอกเงียบอยู่นานก็โพล่งพูดขึ้นมา

    หมั่นไส้อะไรยัยกวาง

    ไม่ได้หมั่นไส้ป้าก็แล้วกัน

    อ๊าย...นี่หล่อนจะหาเรื่องเกรียนแต่เช้าเลยใช่ไหม จ๋าเกิดอาการของขึ้นขึ้นมาทันทีที่เห็นใบหน้าหวานกำลังท่าทางยียวนกวนประสาทเธอ

    ให้ตายเหอะ! พอเธอหยุดสงครามกับคุณคิม ก็มียัยเด็กแสบนี่มา...

    ทำไมชีวิตฉันถึงต้องเจอแต่คนเกรียน ๆ ก็ไม่รู้!

    เอาล่ะ ๆ เลิกทะเลาะกันเถอะ เช้า ๆ อากาศดี ๆ ก็พูดจากันดี ๆ หน่อย ฮั่นว่าก่อนจะยื่นกล่องไม้สี่เหลี่ยมในมือไปให้บิดาของแกงส้ม

    นี่ข้าวเหนียวกับหมูทอดกระเทียมครับป๊า เอาไว้ทานระหว่างทางกันหิว

    ขอบใจมาก นี่ตื่นมาทำให้แต่เช้าเลยสิ

    ก็...ปกติผมก็แต่เช้าอยู่แล้วครับ เดินทางปลอดภัยนะฮะ ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้

    ฝากดูแลเจ้าแกงด้วยนะ ถ้ายังไงว่าง ๆ ก็...พากันไปเที่ยวที่สวนส้มนะ ไร่ชัยอรรถรอต้อนรับเสมอ

    ครับป๊า

    แล้วบิดาของแกงส้มก็ได้ฤกษ์ขึ้นรถ ก่อนที่รถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำสนิทคันใหญ่จะขับออกไป โดยมีสายตาของคนหลายคนที่ยืนส่งมองตามไป

    พี่ฮั่น...เช้านี้มีอะไรกินคะ กวางเอ่ยถามคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยดวงตาที่เป็นประกาย

    ใครเชิญเธอไปกินยะ แต่ยังไม่ทันที่ฮั่นจะตอบ จ๋าก็ตอบแทรกขึ้นมาก่อน

    ไม่มีใครเชิญค่ะ แต่หนูเชิญตัวเอง ไปค่ะพี่ฮั่น เราไปกินข้าวเช้ากันดีกว่า พูดจบ กวางก็เดินเบียดร่างของจ๋าที่มายืนขวางเธอไว้แล้วไปกอดแขนของฮั่นที่ยืนทำหน้าเหวอ อากัปกิริยานี้ของกวางทำให้แกงส้มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ฮั่นเริ่มทำหน้าเหวอตาม

    พี่กวาง...พี่ฮั่นของผมนะ!!!!!

    หมับ!

    แต่ยังไม่ทันที่กวางจะได้เดินไปไหน หมิวก็เดินมาดึงผมที่มัดเป็นหางม้าของกวางเอาไว้ ทำให้หญิงสาวไม่สามารถเดินไปไหนได้

    พี่กวางยังไปไหนไม่ได้ค่ะ พี่ต้องคุยกับหมิวก่อน

    คุยอะไรอีกอ่ะ รู้สึกเมื่อวานจะคุยไปแล้วไม่ใช่หรอ กวางตอบพลางสะบัดผมหางม้าของตนออกจากการเกาะกุมของคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง ก่อนที่เธอจะหันมาเผชิญหน้ากับหมิว ฮั่นที่ซึ่งเป็นอิสระรีบเขยิบเดินไปยืนข้างแกงส้มทันที

    บางทีกวางก็มือไวไปนะ...

    เอาซะตั้งตัวไม่ติดเลย!

    พี่ยังไม่เคลียร์เรื่องที่อยู่ ๆ พี่ที่เกลียดหมิวแทบตายกลับมาดีกับหมิวง่าย ๆ แบบนี้ มันไม่ดู ง่ายไปหน่อย หรอคะ

    พี่ดีแล้ว...ก็ดีแล้วไง

    มันก็ดีค่ะ แต่หมิวยังไม่หายข้องใจ

    เรื่องของเธอ ไม่ใช่เรื่องของฉัน!” กวางตอบ ก่อนจะทำท่าเดินออกไปจากบริเวณนี้ แต่เสียงเรียกชื่อที่ดังขึ้นก็ทำให้กวางต้องหยุดฝีเท้าตัวเอง...

    พี่กวาง!”

    หมิว...เรื่องบางเรื่อง ถ้ายังไม่ถึงเวลาของมัน เธอก็ยังไม่ควรรู้นะ เอาเป็นว่า...ถ้าพี่อารมณ์ดี เดี๋ยวพี่จะเล่าให้เธอฟังก็แล้วกันนะ แต่วันนี้ยังไม่เล่า... พูดแค่นั้น กวางก็เดินลอยหน้าลอยตาออกไปจากบริเวณนี้

    ทิ้งความสงสัยให้ลอยเกาะกุมในหัวใจของคนถาม หมิวหันมาหาร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ไกลทันที

    เฮียบอกว่าเฮียสนิทกับพี่กวางมาก เฮียรู้ใช่ไหมคะ ว่าทำไมจู่ ๆ พี่กวางถึงได้เลิกแกล้งหมิวง่าย ๆ แบบนี้ แถมเฮียเองก็ชัดเจนกับหมิวง่ายไปเหมือนกัน โอ๊ย! นี่พวกพี่สองคนจะทำให้หมิวเริ่มสงสัยหนักขึ้นไปอีกแล้วนะ ไอ้ที่ว่าเคลียร์ไม่เห็นจะเคลียร์เลย

    เอาเป็นว่า...เดี๋ยวเฮียจะเล่าให้หมิวฟังนะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ครับ แล้วโตโน่ก็เดินตามคนที่เพิ่งเดินไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หมิวต้องฟึดฟัดกับตัวเอง

    แปะ ๆ

    แรงตบบริเวณบ่าทำให้หมิวต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง

    ของแบบนี้มันคงต้องใช้เวลามั้งหมิว แค่โตโน่ชัดเจนขึ้นก็น่าจะพอแล้ว เรื่องอื่นก็ค่อยเป็นค่อยไปแล้วกัน และพี่ว่า...เราควรจะเดินตามสองคนที่เดินไปแล้วนะ เดี๋ยวถ่านไฟเก่าคุหรอก ฮั่นว่าก่อนจะออกแรงดันหลังหมิวให้เดินตามสองคนที่เพิ่งเดินไป

    ถ่านไฟเก่าอะไรล่ะพี่ฮั่น เค้าไม่ได้เป็นแฟนเก่ากันซะหน่อย

    ก็ไม่แน่นะหมิว...อะไร ๆ ก็ไม่แน่เสมอคิมที่ยืนเงียบมองเหตุการณ์มานานเอ่ยพูดขึ้น ทำให้คนที่ไม่ได้คิดอะไร เริ่มจะคิดอะไรขึ้นมา

    เอ่อ...งั้นหมิวว่าเราควรจะรีบเดินขึ้นห้องกันไปให้เร็วที่สุดทั้งหมดนี่แหล่ะค่ะ!”

     

     

     

    หอม~

    คนที่ก้มหน้าลงมาสูดกลิ่นที่เสื้อยืดสีขาวลายการ์ตูนกระต่าย Bloody bunny ของตัวเองเอ่ยชมกลิ่นน้ำหอมที่เขาเพิ่งฉีดลงไปที่เสื้อในใจ ปกติเขาจะไม่ค่อยชอบใส่น้ำหอมเท่าไร เพราะเขารู้สึกว่าตัวเขาหอมอยู่แล้ว ไม่สิ...แต่เพราะเขารู้สึกว่า...กลิ่นของคนเรามีความหอมในแบบของตัวเองอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน...

    พร้อมไหมแกงส้ม.. แกงส้มถามตัวเองเบา ๆ พลางมองเงาที่สะท้อนในกระจก

    ชายหนุ่มหน้าหวานที่อยู่ในเสื้อยืดสีขาวลายการ์ตูนกระต่าย Bloody bunny สุดเท่เข้ากับกางเกงยีนส์สีซีดขนาดพอดีตัวบวกกับรองเท้าผ้าใบคู่ใหญ่สีส้มแสบตาสุดฮิพฮอพ และหมวกแก๊ปสีดำสนิทสกรีนตัวหนังสือว่า ‘KS’ สีส้มสะท้อนแสงเด่นบนศีรษะทุย

    เมื่อมองตัวเองจนพอใจแล้ว แกงส้มก็ยิ้มหวานให้เงาที่สะท้อนในกระจก ก่อนที่เขาจะหมุนตัวเดินไปหยิบกล่องใส่จดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือมาใส่ไว้ในกระเป๋าเป้สะพายหลังใบใหญ่ เมื่อรูดซิปปิดเสร็จแล้ว แกงส้มก็เดินดุ่ม ๆ ออกไปจากห้องนอน สวนกับคิมที่เดินมาพอดี

    จะไปไหนน่ะแกง แต่งตัวจะหล่อเชียว

    อ๋อ...ไปทำธุระนิดหน่อยครับอาคิม

    แล้วจะเข้าร้านไหมวันนี้

    คงไม่ครับ ผมว่า...ธุระของผมคงลากยาวยันดึก แกงส้มตอบพลางก้มหน้าลงหลบสายตาที่เหมือนจะรู้ทันของคนเป็นอา

    ธุระที่ว่า...คงไม่เกี่ยวกับฮั่นนี่ที่รักของอาใช่ไหม

    ไม่รู้สิครับ อาจจะเกี่ยวหรืออาจจะไม่เกี่ยวก็ได้ ผมไปแล้วครับ บาย ๆ แล้วคนพูดก็รีบก้าวเร็ว ๆ ออกไปจากห้องทันที

    เพราะขืนอยู่ต่อ...เขาคงโดนคนเป็นอาซัก...จนขาวสะอาดแน่ ๆ!

     

    แกง...

    พี่ฮั่น!”

    แกงส้มตะลึงไปทันทีที่เห็นคนตรงหน้า...

    ชายหนุ่มรูปร่างสูงที่ซ่อนแผ่นอกกว้างไว้ในเสื้อยืดสีขาวลายหมีน้อยรีลัคคุมะซึ่งสวมทับด้วยเสื้อยีนส์ฟอกสีซีดกับช่วงขายาวที่อยู่ในกางเกงยีนส์เดนิมสีเข้ากับเสื้อขนาดพอดีตัวขับให้รูปร่างของฮั่นดูเด่นขึ้นมา ผมที่ปกติมักจะถูกเจ้าตัวเปิดขึ้นก็ถูกปล่อยให้กลายเป็นหน้าม้า ทำให้ใบหน้าของชายหนุ่มดูเด็กลง

    วันนี้พี่ฮั่นดูดีโคตร ๆ!

    ตะลึงในความหล่อของพี่จนพูดไม่ออกเลยหรอแกง

    อะ เอ่อ...ไม่ใช่ซะหน่อยพี่ฮั่น อย่ามามั่วนะ คนที่สติหลุดลอยไปกับความดูดีของคนตรงหน้ารีบตอบกลับอย่างเร็ว

    แม้จะแอบยอมรับในใจว่าคนตรงหน้าดูดีมากจนทำให้สติหลุดจริง ๆ ก็เถอะ

    ฝ่ายฮั่นเองก็ใจเต้นแรงเมื่อได้เห็นคนตรงหน้าแต่งตัวแบบนี้ คือมันอาจจะไม่ได้ดูแปลกไปจากทุกวัน แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกได้ว่าวันนี้แกงส้มพิเศษกว่าทุกวัน เพราะ...เขาได้กลิ่นของน้ำหอมที่ลอยออกมาจากตัวของคน ๆ นี้

    ปกติแค่ได้กลิ่นแกงส้มเบา ๆ ก็เพ้อไปหลายวันแล้ว...และนี่ยังมีการฉีดน้ำหอมเพิ่มเสน่ห์อีก...

    เออ...เอาเข้าไป...จะเอาให้รักให้หลงจนถอนตัวไม่ขึ้นกันเลยใช่ไหม!

    แต่เขาก็ยอมนะ...

    นี่พี่แต่งตัวซะหล่อเลย จะไปไหนครับ

    แล้วแกงล่ะ แต่งตัวซะน่ารักเชียว จะไปไหน

    ผมถามพี่ก่อนนะ พี่ก็ตอบผมก่อนสิ

    อ่ะ ได้ ๆ วันนี้พี่มี นัด...

    คำว่ามีนัดของฮั่นทำให้แก้มของแกงส้มแดงขึ้นมาทันที

    นัดของเรา สินะ...

    พี่ตอบแล้ว...แล้วแกงล่ะ

    ผมก็มี นัด เหมือนกันครับ

    คำว่ามีนัดของแกงส้มทำให้ใจของฮั่นเต้นแรงขึ้นมา

    นัดของเรา สินะ...

    ให้พี่ไปส่งไหม

    ไม่เป็นไรครับ ผมไปเองได้ งั้นผมขอตัวก่อนนะฮะ

    อืม...

    แล้วคนสองคนก็ไม่กล้าที่จะมองสบตากัน ต่างฝ่ายต่างก็เดินก้มหน้าก้มตาไปจนถึงลิฟต์

    ความรู้สึกตอนนี้...มันบอกไม่ถูกจริง ๆ...

    แต่ที่แน่ ๆ มันมีความเขินลอยปะปนอยู่เต็มไปหมดเลย!

     

     

    แฮ่ก ๆ ๆ...ทำไมแกถึงได้หนักขนาดนี้ฮะเจ้าโหด!” แกงส้มเอ่ยบ่นใส่เจ้าตุ๊กตากระต่าย Bloody bunnyที่เขาอุ้มเข้าเอว

    ใช่แล้ว...ของขวัญสุดพิเศษที่เขาตั้งใจจะนำมาให้กับคนในจดหมายของเขาก็คือเจ้ากระต่าย Bloody bunny สีขาวตาโตที่ทำหน้าโหด...

    ถามว่ามันมีความหมายนัยยะอะไรแอบแฝงหรือเปล่า...ตอบได้เลยว่า...มี!

    ก็เจ้ากระต่าย Bloody bunny เนี่ย...มันแทนความเป็นตัวเขาได้ดีนะ คือกระต่ายแสดงถึงความอ่อนโยนน่ารัก น่าทะนุถนอมแต่แอบซน แต่ความโหดที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้ากระต่าย Bloody bunny ก็แสดงถึงอีกตัวตนหนึ่งของเขาได้...เพราะความจริงแล้ว...เขาน่ะทั้งโหด ทั้งเหวี่ยงเลยนะจะบอกให้!

    แต่ที่ยังไม่ค่อยเห็นกันเท่าไหร่...เพราะมันยังไม่ถึงเวลา...หึๆ!

    ทำไมร้านพี่ป๊อกมันอยู่ไกลจังวะ...

    บ่นเสร็จ แกงส้มก็มองซ้ายมองขวาเพื่อจะข้ามถนน

    เมื่อเห็นว่าถนนเริ่มโล่ง คนที่แบกตุ๊กตาเข้าเอวก็รีบเดินข้ามอย่างรวดเร็วด้วยความทุลักทุเล โดยที่แกงส้มไม่ทันได้มองว่ามีรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งวิ่งสวนเลนขึ้นมา

    แกงส้ม ระวัง!!!!!!!”

    แกงส้มหลับตาปี๋ทันทีที่ได้เขามองเห็นรถมอเตอร์ไซค์ที่กำลังวิ่งเข้าใส่เขา

    เอี๊ยดดดดดดดดดดด!

    ร่างของแกงส้มถูกใครบางคนกระแทกเข้าอย่างจัง แรงกระแทกส่งผลให้แกงส้มลงลงไปนอนแผ่หราที่พื้นโดยมีร่างหนาของใครบางคนรับอยู่เบื้องล่าง

    แกง...เป็นอะไรหรือเปล่า

    เอ่อ...ผม...ไม่ได้โดนรถชนใช่ไหมครับ แกงส้มเอ่ยถามคนที่อยู่ด้านล่าง ก่อนจะค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้น

    ถ้าโดนชนเราจะมาถามแบบนี้ไหม...โอ๊ย... ฮั่นว่าก่อนจะยันตัวลุกตาม ความเจ็บที่แล่นมาจากข้อศอกที่กระแทกพื้นทำให้ชายหนุ่มหน้าเหยเก

    เจ็บตรงไหนพี่ฮั่น

    เจ็บตรงข้อศอกน่ะ สงสัยที่กระแทกพื้นเมื่อกี้ แต่ไม่เป็นอะไรหรอก เราไปเก็บเจ้าตุ๊กตาที่หล่นพื้นเถอะ เดี๋ยวก็โดนรถเหยียบหรอก

    แกงส้มเมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็รีบเก็บเจ้าโหดที่หล่นพื้นมาปัด ๆ ทันที ก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปประคองร่างสูงที่ยืนตัวตรงเรียบร้อยแล้ว

    ไปทำแผลกันพี่ฮั่น

    ไม่เป็นไรหรอก ไกลหัวใจตั้งเยอะ ว่าแต่เราเถอะ ทำไมถึงได้ถือตุ๊กตาแบบนั้น แทนที่จะเอาสะพายไว้ข้างหลัง มาอุ้มเข้าเอวแบบนี้ มันก็บังทางน่ะสิ ฮั่นบ่นก่อนจะจัดการคว้าตุ๊กตาในมือของแกงส้มมาวางไว้บนหลังของชายหนุ่ม แล้วเขาก็เอามือของกระต่างโอบรอบคอแกงส้มไว้ จากนั้นฮั่นก็คว้ามือบางให้จับไว้ที่มือทั้งสองข้างของเจ้ากระต่าย

    แบบนี้ค่อยเข้าท่าหน่อย

    แต่มันหนักหลังอ่ะพี่ฮั่น

    แต่มันก็ทำให้แกงมองทางชัดขึ้น

    เฮ้อ...โยนทิ้งข้างทางซะดีมั้ง ขี้เกียจแบกแล้ว แกงส้มว่า ก่อนจะต้องหัวเราะออกมาเมื่อเห็นใบหน้าคมกำลังทำหน้ายู่

    แล้วแกงซื้อมาทำไมตั้งตัวเบอเริ่มเทิ่มล่ะ

    ก็ผมอยากให้คนที่ได้มันไป เอามันไปกอดเพื่อเป็นตัวแทนผมไงครับ พูดจบ คนพูดก็รู้สึกเขินขึ้นมา

    อ๊าก...ไอ้แกงส้มมมมมมม แกพูดอะไรออกไป!!!!

    งั้นหรอ...แล้วนี่ตกลงว่าจะให้พี่ไปส่งเราไหม พี่ว่าพี่น่าจะผ่านทางที่เราจะไปนะ

    ไม่อ่ะครับ ผมอยากแบกเจ้านี่ไปเอง ผมอยากให้เค้ารู้ว่าผมใช้ความพยายามแค่ไหนกับการหาสิ่ง ๆ นี้มาให้เค้า

    แค่เพียงคำพูดประโยคนี้ที่ทำให้ฮั่นรู้สึกตื้นตันในใจ...

    ไม่จำเป็นต้องมีถ้อยคำหวานหูลึกซึ้งอะไร แต่แค่เพียงแสดงออกด้วยคำพูดที่ตรงและจริงใจ แค่เพียงเท่านี้...หัวใจก็รู้สึกดี...

    คนเราไม่จำเป็นต้องพูดกันด้วยถ้อยคำที่หวานจนทำให้รู้สึกเลี่ยน แต่แค่มีคำพูดที่แสดงออกถึงความรู้สึกที่ดีในใจตามสไตล์ของตัวเอง...แค่เพียงเท่านั้น...คนฟังก็สามารถที่จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่มาพร้อมกับคำพูดเหล่านั้น

    ถ้างั้นก็ตามใจ งั้นพี่ขอตัวก่อนแล้วกัน

    ครับผม...เออพี่ฮั่น...

    หืม...

    ขอบคุณที่ช่วยผมเมื่อตะกี้นะครับ ถ้าไม่ได้พี่ ผมคงพาเจ้านี่ไปทัวร์นรกแล้ว แกงส้มว่าพลางอมยิ้มขึ้นมาทันที เมื่อมือหนาของคนตรงหน้าเอื้อมมาขยี้ผมเขาเบา ๆ

    ขอบคุณทำไมกัน...พี่แค่ไม่อยากให้นรกต้องรับคนเพิ่มตอนนี้ ฮ่า ๆ ๆ ไปและ ๆ

    เกรียนชะมัดพี่ฮั่นบ้า!

    แต่ก็เอาเถอะ...ให้อภัยที่มาช่วยชีวิตเขาไว้ทัน...

    เฮ้อ...เกือบได้ไปนรกแต่วันแล้วไหมล่ะไอ้แกง ไป ๆ เจ้าโหด...ได้เวลาออกเดินทางอีกครั้งแล้ว

    แล้วร่างโปร่งก็ออกเดินไปตามฟุตบาธที่ทอดยาว โดยมีเจ้ากระต่าย Bloody bunny อยู่บนหลัง ผู้คนที่เดินสวนไปสวนมารวมทั้งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของอยู่ริมถนนต่างมองมาที่แกงส้มเป็นจุดเดียว ทุกสายตาต่างมีเครื่องหมายคำถามแปะไว้หราบนหน้าผาก แน่นอนว่า...แกงส้มไม่แคร์สายตาใครสักนิด

    ก็เขาไม่ได้ทำอะไรผิดนี่....ทำไมต้องแคร์ว่าใครจะคิดยังไง...

     

     

    ฮั่นที่ขับรถตามแกงส้มมาห่าง ๆ ส่ายหัวให้กับพฤติกรรมของคนที่แบกเจ้ากระต่ายนี้ไว้อย่างติดจะเอ็นดูปนเอือมเล็ก ๆ

    ดื้อจริง ๆ เลยแกงเอ๊ย...ถ้ามากับพี่ก็ไม่ต้องลำบากแบกเจ้าหน้าโหดนั่นอย่างนั้น แต่ก็นะ...นับถือในความพยายามจริง ๆ เนอะเจ้ามายเดียร์ ประโยคสุดท้ายฮั่นหันมาถามตุ๊กตาหมีรีลัคคุมะในชุดเชฟตัวใหญ่เกือบเท่าตัวเขาที่นั่งอยู่ที่เบาะข้างคนขับ

    ใช่...ของขวัญที่เขาตั้งใจจะมอบให้คนในจดหมายคือ เจ้าตุ๊กตาหมีรีลัคคุมะสีน้ำตาลอ่อนตัวนี้ มันอยู่ในชุดเชฟที่บ่งบอกความเป็นตัวเขามากที่สุด!

    แค่เห็นหน้าเจ้าหมีตัวนี้ที่เขาตั้งชื่อว่า มายเดียร์ ... คนที่ได้รับมันจะต้องคิดถึงเขา...

    เอาล่ะ...ได้เวลาแล้ว

    พูดจบ ฮั่นก็เร่งเครื่องก่อนจะรีบขับรถแซงคนที่เดินแบกกระต่ายไป...

     

     

    กริ๊ง~

    รับอะไรดีคะ อ้าว...หายไปนานเลยนะคะคุณฮั่น แล้วนั่นแบกหมีมาซะตัวใหญ่เลย จะเอาไปให้ใครคะ จอยเอ่ยทักคนที่แบกตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ ก่อนที่เธอจะต้องตกใจเมื่อร่างของคนเป็นหลานสาววิ่งออกมาจากในห้องครัวที่อยู่หลังร้าน

    พี่ชายยยยยยยยยย คิดถึงจังเลยค่า~~”

    พี่ชายก็คิดถึงน้องนิวครับ ว่าแต่...น้องนิวช่วยอะไรพี่ชายหน่อยได้ไหมคะ

    ว่ามาเลยค่ะ...น้องนิวพร้อมช่วยเสมอ น้องนิวรู้ว่าพี่ชายจะให้น้องนิวขอให้คุณแม่สอนพี่ชายทำเค้กเลมอนชีสใช่ไหมคะ... เด็กน้อยแก้มใสตรงหน้าไม่ถามเปล่า แต่เธอยังจูงมือชายหนุ่มให้เดินตามเธอเข้าไปในห้องครัวด้วย

    ว้า...น้องนิวรู้ทันพี่ชายอีกแล้ว

    แม้จะแปลกใจที่เด็กน้อยตรงหน้ารู้ทันเขา...แต่ฮั่นก็ไม่สนใจอะไรนัก....เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจคือสูตรการทำเค้กเลมอนชีสมากกว่า

    เขาจะทำเค้กเลมอนชีสให้คนที่จะมาตามนัดของเขาวันนี้!

    คุณแม่คะ คนที่น้องนิวบอกว่าจะมาเรียนทำเค้กเลมอนชีสกับคุณแม่มาแล้วค่ะ

    อ้าวคุณนั่นเอง

    ครับ...รบกวนด้วยนะครับ

    ค่ะ...

    แล้วฮั่นก็วางเจ้าตุ๊กตาหมีที่เขาถือมาไว้ที่เก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล ก่อนที่เขาจะรับผ้ากันเปื้อนจากมือของเด็กน้อยตรงหน้า

    เขาพร้อมแล้ว...กับการทำ ของขวัญสุดพิเศษ อีกอย่างหนึ่ง...

     

     

    แอ๊ด...

    ทันทีที่เปิดประตูเข้ามา กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกลิลลี่สีขาวที่ปักอยู่ในแจกันตรงเคาน์เตอร์ก็ส่งกลิ่นมาทักทายผู้ที่มาเยือน

    ร่างสูงของผู้ชายที่อยู่ในชุดนักศึกษาที่กำลังจัดเรียงหนังสืออยู่ที่ชั้น ทำให้แกงส้มยกยิ้มขึ้นมา ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวามองหาคนที่เขาต้องการ แล้วเขาก็เห็นว่าคนที่เขามองหากำลังง่วนอยู่กับการจดรายชื่อหนังสือที่มาใหม่

    พี่ป๊อก...

    อ้าวเจ้าแกง มาได้ไงเนี่ย!?! แล้วนั่นแบกอะไรมาวะ...ป๊อกเอ่ยถามพลางยืดตัวขึ้นจากการนั่งยอง ๆ ที่พื้น หญิงสาวเดินมาจับเจ้าตัวที่อยู่ด้านหลังแกงส้ม ก่อนจะยิ้มออกมา

    กลิ่นแป้งเด็กเต็มตัวเจ้ากระต่ายนี่เลย...

    อย่าเพิ่งถามมากพี่...พี่ช่วยอะไรผมก่อนดิ

    อะไรวะ...

    คือ...

    แล้วแกงส้มก็อธิบายสิ่งที่เขากำลังจะทำให้กับคนเป็นพี่ฟัง โดยมีคนอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลร่วมฟังและร่วมเป็นผู้ช่วยด้วย

    คนสองคนที่กำลังเตรียมความเซอร์ไพร์สให้แก่กัน ทำให้คนที่คอยลุ้นและคอยเชียร์แต่ละฝั่งต้องหายใจไม่ทั่วท้อง...

    บางทีคนเราก็มักจะลุ้นในความรักของคนอื่นมากกว่าที่จะลุ้นความรักของตัวเอง ซึ่งจริง ๆ แล้ว...การได้เฝ้าดูความรักของคนอื่นนั้น มันเหมือนเป็นความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตของคนเราบางคนนะ เพราะการที่เราได้เห็นคนที่เขารักกัน แสดงออกถึงความรักที่มีต่อกันในรูปแบบต่าง ๆ มันก็ทำให้เราได้ลองนำมาย้อนดูกับเรื่องราวของตัวเอง...

     

     

     

     

    แอ๊ด...

    กลิ่นของดอกลิลลี่สีขาวที่ปักอยู่ในแจกันตรงเคาน์เตอร์ส่งกลิ่นทักทายฮั่นจนเขาต้องสูดลมหายใจเข้าปอดยาว ๆ ในมือของเขามีจดหมายฉบับหนึ่ง ใบหน้าคมหันซ้ายหันขวามองหาคนเป็นเจ้าของร้าน

    จึก ๆ

    แรงสะกิดบริเวณหัวไหล่ เรียกใบหน้าของฮั่นให้หันไปมอง

    คุณ ?

    นี่ครับ... ผู้ชายหน้าใสคนนี้ยื่นซองจดหมายสีส้มอ่อนมาให้คนที่ยืนมอง ฮั่นรับจดหมายฉบับนั้นมาถือไว้ ก่อนที่ผู้ชายคนนั้นจะหมุนตัวเดินหายเข้าไปหลังเคาน์เตอร์

    จดหมาย...

    ฮั่นรีบเปิดจดหมายในมือ กลิ่นแป้งเด็กที่ลอยออกมาทำให้คนเปิดอมยิ้ม

    ยังโปรยเสน่ห์ไม่เลิกนะแกงส้ม~

     

     

    ของขวัญที่ผมจะให้พี่อยู่ด้านในบริเวณชั้นหนังสือ...แต่จะเป็นชั้นหนังสือหลังไหนนั้น พี่ต้องเดินหาเอาเองนะครับ แต่ผมมีคำใบ้ให้พี่นะ...พี่ลองดูที่ชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหน้าสุดสิครับ...

    หวังว่าพี่คงจะทายคำใบ้แต่ละคำของผมออกนะครับ

                                                                       ^^

     

     

    ตัวหนังสือที่ถูกเขียนด้วยลายมือน่ารักคุ้นตาทำให้คนที่อมยิ้มเปิดรอยยิ้มกว้างขึ้น ฮั่นเดินไปที่ชั้นหนังสือด้านหน้าสุด มีกระดาษโพสอิทสีส้มสะท้อนแสงแปะอยู่ ชายหนุ่มหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมา พลางไล่สายตาอ่านตัวอักษรทีละตัว

    ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย...หมายเลขดนตรี

    ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย...หมายความว่าไงวะ ? คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันพลางนึกแปลความหมายของคำใบ้นี้

    ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย...

    ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา!!!!!”

    เมื่อได้คำตอบจากคำใบ้ ฮั่นก็เดินเลี้ยวขวาไปพลางเดินมองไล่ไปตามชั้นหนังสือจนหยุดอยู่ที่ชั้นหนังสือหมวดดนตรี กระดาษโพสอิทสีเดิมก็ถูกแปะอยู่ ฮั่นรีบหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาอ่าน

    โด เร มี ฟา ซอล ลา Tree...

    Tree...

    “Tree...ต้นไม้!!!!!”

    เมื่อได้คำตอบ ฮั่นก็รีบสาวเท้าเดินเลี้ยวไปทางซ้ายซึ่งมีชั้นหนังสือหมวดต้นไม้อยู่ แล้วสายตาคมก็มองเห็นกระดาษโพสอิทสีเดิม

    ต้นรักนั้นปลูกง่าย แต่จะดูแลอย่างไรให้คงอยู่นาน ๆ นะ...

    การดูแลต้นรักงั้นหรอ...ความรักถ้าจะดูแลให้ดีก็ต้องอาศัยความเข้าใจ ดูแลกันไปด้วยความรู้สึกดี ๆ อืม...แล้วมันจะหาคำใบ้ต่อจากไหนหว่า... งึมงำกับตัวเองเบา ๆ สายตาของฮั่นก็เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มหนึ่งที่สันเลยออกมาจากหนังสือเล่มอื่น ๆ มือหนาเอื้อมไปหยิบหนังสือเล่มนั้นออกมา

    การดูแลต้นไม้...คือต้องดูแลด้วย หัวใจ

    ชื่อหนังสือเล่มนี้ที่เน้นคำว่า หัวใจ ทำให้ฮั่นยิ้มออกมา ชายหนุ่มเดินไปที่ชั้นหนังสือเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์ซึ่งอยู่ถัดจากชั้นหนังสือนี้ไปสองหลังทันที แล้วเขาก็เห็นกระดาษโพสอิทสีส้มแปะอยู่

    มนุษย์นั้นล้วนใช้ สมองในการไตร่ตรองและคิดเรื่องราวต่าง ๆ...

    คำว่าสมองที่ถูกเน้น เรียกนิ้วเรียวให้ไล่ไปตามสันหนังสือ ก่อนที่ฮั่นจะสะดุดที่ชื่อหนังสือเล่มหนึ่ง ชายหนุ่มหยิบหนังสือเล่มนั้นออกมา

    สมองนำทาง...

    คำแรกถูกใช้เป็นคำใบ้ไปแล้ว งั้นก็ต้องเป็นนำทาง...นำทาง...นำทางไปไหนวะ... ฮั่นยืนครุ่นคิดถึงคำใบ้นี้อยู่หลายนาที ก่อนที่เขาคล้ายจะนึกอะไรได้ ชายหนุ่มรีบเดินไปที่ชั้นหนังสือซึ่งอยู่ข้างกันทันที

    หนังสือหมวด ท่องเที่ยว...

    เอ...แล้วคำใบ้อยู่ไหนน้า...นำทางหรอ...ทะเล!!!!!” เมื่อนึกได้ ฮั่นก็มองหาหนังสือที่เกี่ยวกับทะเลทันที แล้วเขาก็ได้หนังสือเล่มหนึ่งออกมา เป็นหนังสือที่พูดถึงทะเลในประเทศไทย (ซึ่งฮั่นเองก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่เล่มนี้ไหม แต่ความรู้สึกบางอย่างก็บอกเขาว่าน่าจะใช่เล่มนี้) ฮั่นเปิดหนังสือเล่มนี้ดูทุกหน้าจนมาถึงหน้าสุดท้าย เขาก็เจอกับกระดาษโพสอิทที่ต้องการ...

    พูดถึงทะเลแล้วก็นึกถึงท้องฟ้าสีสดใสเนอะ...โอ้ทะเลแสนงาม ~ ฟ้าสีครามสดใส ~ ดวงดาวมากมายอยู่บนฟากฟ้านั้น ~

    ข้อความที่มาเป็นเนื้อเพลง ทำให้คนอ่านยิ้มออกมา แกงส้มนี่อารมณ์ดีจริง...แถมยังแสนซนเสียด้วย!

    งืม...ท้องฟ้าหรอ...ดวงดาวหรอ...งั้นก็ต้องชั้นหนังสือหมวดดาราศาสตร์สิ ฮั่นคิด ก่อนจะเดินไปที่ชั้นหนังสือหมวดดาราศาสตร์ ชั้นหนังสือนี้ถูกตกแต่งด้วยรูปภาพเกี่ยวกับจักรวาลมีลูกโลกกลมแบน ดวงอาทิตย์ และดาวเคราะห์ในระบบสุริยะจักรวาล และที่ดาวเคราะห์ดวงที่อยู่ไม่ไกลจากโลกอย่างดาวอังคารก็มีกระดาษโพสอิทที่ฮั่นต้องการแปะอยู่

    ดาวอังคาร...เทพเจ้าแห่งสงคราม!

    คำใบที่มีเพียงแค่นั้น ทำให้คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอีกครั้ง...

    เทพเจ้าแห่งสงคราม...สงครามหรอ ?ฮั่นหันซ้ายหันขวามองหาชั้นหนังสือหมวดสงครามทันที ก่อนที่เขาจะนึกได้ว่าชั้นหนังสือหมวดนี้มันไม่มี

    อ้าว...แล้วสงครามมันจะไปต่อที่ชั้นหนังสือไหนว้า... ฮั่นเคาะนิ้วกับสันหนังสือไปมา พลางใช้ความคิดเกี่ยวกับการหาคำตอบของคำใบ้นี้ แล้วจู่ ๆ ฮั่นก็นึกถึงหนังสือที่เกี่ยวกับสงครามเล่มหนึ่งขึ้นมาได้

    สามก๊ก!

    คิดได้แบบนี้ ชายหนุ่มก็รีบสาวเท้าไปที่ชั้นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ทันที แล้วหนังสือที่เขาต้องการก็ถูกวางไว้บนหนังสือที่เรียงตัวกันสวยงาม กระดาษโพสอิทสีเดิมที่แปะอยู่ทำให้ฮั่นอมยิ้ม

    เก่งนะครับมาถึงบันไดขั้นที่ 7 แล้ว...บันไดขั้นสุดท้าย ผมรู้เลยว่าพี่คงเดาไม่ยาก...

    จุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักกัน...อยู่ที่ไหนนะ...

    จุดเริ่มต้นที่ทำให้เรารู้จักกันงั้นหรอ...หมี สินะ...

    เมื่อได้คำตอบ ฮั่นก็เดินไปที่ชั้นหนังสือของเขา...

     

     

    คนที่ยืนแอบอยู่ที่มุมชั้นหนังสือซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชั้นหนังสือหมวดหมี ยกมือขึ้นมาปาดเหงื่อที่ไหลข้างแก้ม หัวใจที่เต้นรัวและเร็วคล้ายลุ้นอย่างเต็มที่ว่า...คนที่จะเดินมาที่ชั้นหนังสือนี้จะเป็นคนที่เขาคิดมาโดยตลอดหรือไม่

    หากไม่ใช่...เขาจะทำอย่างไร...

    เขาจะจัดการกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในหัวใจให้มันเป็นไปในทิศทางไหน...

    แล้วถ้าหากใช่...หัวใจของเขาจะดีใจแค่ไหนกันนะ...

    แกงส้มบีบมือเข้าหันทันทีที่เห็นเงาที่ทอดยาวของคนที่กำลังเดินมา...

     

    ก่อนที่ฮั่นจะเดินเลี้ยวมาถึงชั้นหนังสือที่เป็นจุดหมายปลายทาง หัวใจของชายหนุ่มก็เต้นไม่เป็นจังหวะ

    หากคนที่ยืนรอเขาอยู่ไม่ใช่คนที่เขาคิด...เขาจะเป็นยังไง

    ความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นมาตลอด เขาจะจัดการมันอย่างไร...

    และถ้าหากคนที่ยืนรอเขาอยู่เป็นคนที่เขาคิด...หัวใจของเขาจะยิ้มแค่ไหนกันนะ...

    ฮั่นบีบมือเข้ากันทันที ร่างสูงก้าวช้า ๆ อย่างรู้สึกลุ้นระทึกกับสิ่งที่รออยู่เบื้องหน้า...

     

     

    เมื่อเดินมาถึงชั้นหนังสือหมวดหมี ฮั่นก็เห็นโต๊ะญี่ปุ่นสี่เหลี่ยมตัวหนึ่งตั้งอยู่ กลางโต๊ะนั้นมีกล่องกระดาษสีส้มที่มีลายดอกไม้สีชมพูอ่อนตัดกับสีเขียวของต้นหญ้าที่เพียงแค่ใช้สายตามองก็รู้ว่าคนเป็นเจ้าของเพ้นท์เองกับมือ

    และไม่ไกลกันนั้นมีตุ๊กตากระต่าย Bloody bunny นั่งทำหน้าโหดอยู่...

    รอยยิ้มแต่งแต้มขึ้นบนใบหน้าคมทันที!

    เป็นคนที่เขาคิดจริง ๆ ... เป็น แกงส้ม จริง ๆ ...

     

    ทางด้านแกงส้มเอง ก็ถึงกับดีใจจนน้ำตาซึมออกมา...

    เป็นคนที่เขาคิดไว้จริง ๆ ... เป็น พี่ฮั่น จริง ๆ ...

    แกงส้มทำท่าจะเดินออกจากมุมที่เขายืนแอบอยู่เพื่อเดินไปหาคนที่เขารอพบเจอ หากแต่คนที่ทำท่าจะก้าวออกไปต้องชะงักฝีเท้าตัวเอง เมื่อฮั่นอุ้มเจ้าตุ๊กตา Bloody bunny ขึ้นมา ก่อนที่เขาจะวางจดหมายฉบับหนึ่งไว้แทนที่เจ้าตุ๊กตาตัวนั้น พลางคว้ากล่องกระดาษสีส้มมาถือไว้อีกมือหนึ่ง ก่อนที่ฮั่นจะหมุนตัวเดินออกไปจากบริเวณนี้อย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าคนเป็นพี่เดินออกไปแล้ว แกงส้มก็รีบเดินออกจากที่ซ่อน แล้วหยิบจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาเปิดอ่านทันที

     

    ร้านข้าง ๆ มีของขวัญสุดพิเศษรออยู่นะครับ...ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอะไร ก็ต้องรีบไปอย่างไวนะเออ...ช้าหมด...อดได้ ของดี นะ...อ้อ! ขอเตือนว่าให้เตรียมใจก่อนจะเดินเข้าไปด้วยครับ เพราะเมื่อเจอสิ่งที่คาดไม่ถึง อาจจะทำให้ตะลึงจน ใจตก = ‘ตกใจ ได้ครับ >__<!!!

     

    แกงส้มยิ้มกว้างออกมาทันทีที่อ่านจดหมายฉบับนี้จบ...

    เรื่องเวอร์นี่ขอให้บอกจริง ๆ เลยพี่ฮั่นเอ๊ย...ว่าแต่...ของขวัญสุดพิเศษของพี่มันคืออะไรนะ... ถามกับลมกับชั้นหนังสือเสร็จ แกงส้มก็ก้าวยาว ๆ ออกไปจากบริเวณนี้

    เมื่อเขาเดินมาถึงร้านกาแฟข้าง ๆ เขาก็พบกับความพิเศษที่แม้จะยังไม่ทันก้าวเข้าไปในร้าน เพราะบริเวณทางเดินที่ทอดไปบริเวณประตูร้านถูกตกแต่งด้วยกระถางต้นกุหลาบสีขาวสลับกับสีชมพู และเมื่อเปิดประตูร้านเข้าไป ร่างของเด็กน้อยที่มัดผมสองแกละที่อยู่ในชุดนางฟ้าสีชมพูหวานก็เดินมาดักหน้าแกงส้มไว้

    พี่หน้าหวานยังเข้าไปไม่ได้ค่ะ เพราะพี่หน้าหวานต้องปิดตาก่อน

    หืม...ต้องปิดตาด้วยหรอครับ

    ใช่สิค้า~ คุกเข่าค่ะ...น้องนิวจะได้ผูกตาให้พี่หน้าหวาน คำสั่งของเด็กน้อยตรงหน้าที่มาพร้อมกับรอยยิ้มน่ารัก ทำให้แกงส้มต้องคุกเข่าลง พลางยื่นหน้าไปหาเด็กน้อย จากนั้นน้องนิวก็จัดการเอาผ้าผูกตาสีดำที่อยู่ในมือมาผูกตาคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยความชำนาญจากการถูกสอนมาเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว

    กี่นิ้วค้า~~” น้องนิวถามพลางชูนิ้วขึ้นมาสองนิ้ว คนที่โดนผูกตาอยู่ ซึ่งตอนนี้มองไม่เห็นแล้ว ส่ายหัวพลางตอบออกไปอย่างไม่รู้คำตอบจริง ๆ

    ห้านิ้วมั้งครับ

    อ่า...แสดงว่าน้องนิวผูกตาแน่นแล้ว พี่หน้าหวานลุกขึ้นยืนเลยค่า...แล้วส่งมือมาให้น้องนิวจูงด้วย

    เมื่อเห็นว่าแกงส้มมองไม่เห็นจริง ๆ น้องนิวก็ออกคำสั่งต่อไปอีกครั้ง แกงส้มยอมทำตามคำสั่งแต่โดยดี โดยที่เขายืดตัวเต็มความสูงและยื่นมือไปให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า จากนั้นเด็กน้อยก็คว้ามือบางไปกุมไว้ ก่อนจะค่อย ๆ พาแกงส้มให้เดินตามเธอไป

     

     

    กลิ่นหอมของขนมเค้กที่อบใหม่ ๆ ทำให้กระเพาะอาหารของแกงส้มเริ่มทำงาน ตอนนี้ชายหนุ่มถูกเด็กน้อยที่พามาด้วย ผลักเบา ๆ ให้นั่งลงที่โซฟาตัวนุ่มตัวหนึ่ง เสียงเพลงที่เปิดคลอเบา ๆ ทำให้แกงส้มรู้สึกผ่อนคลาย ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้มือที่ชื้นไปด้วยเหงื่อจากความตื่นเต้นค่อย ๆ แห้งสนิท...

     

    เมื่อมองย้อนไปในวันเวลาของเรา มันเริ่มต้นขึ้นเมื่อใด หรือจะนับวันฉันพบเธอ

    วันที่ยิ้มละไมกับความจริงใจง่ายงามที่เราให้กัน แต่ก่อนนั้นหรือเราจะเคยพบพาน

    ต่างตามหาหัวใจ เหนื่อยเท่าใดในคืนและวัน ถ้าเราไม่มาเจอกัน ชีวิตคงหลงทาง

     

    เพลงนี้...ทำให้รอยยิ้มของคนที่ใช้หัวใจฟังเพลงปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน นิ้วเรียวที่เคาะไปตามจังหวะดนตรี เรียกขายาวของคนที่ยืนมองอยู่ให้ก้าวเดินเข้าไปนั่งที่บริเวณที่เท้าแขนของโซฟาตัวนั้น

    มือหนาที่เอื้อมมาปลดผ้าผูกตาออก ทำให้แกงส้มต้องกระพริบตาถี่ ๆ สองสามครั้งเพื่อให้ดวงตาชินกับแสง แล้วเขาก็ต้องตกตะลึงกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า

    เค้กเลมอนชีสก้อนโตที่มีสีขาวสลับเหลืองนวลเนียนตรงหน้า ถูกตกแต่งด้วยลูกสตอเบอรี่สีแดงสด ตรงกลางของเค้กเขียนข้อความที่ทำให้แก้มขาวของแกงส้มขึ้นสีแดง...

    เพื่อน้องเคเอส...หรือน้องแกงส้มคนแสบของพี่หมีฮั่น <3 ’

    นอกจากเค้กเลมอนชีสก้อนโตแล้ว ตุ๊กตาหมีรีลัคคุมะที่อยู่ในชุดเชฟซึ่งมีดอกกุหลาบสีขาวสลับกับสีชมพูอยู่ในมืออีกหนึ่งช่อใหญ่ก็ทำให้แกงส้มยิ้มหวานออกมา ไม่ไกลกันนักมีกล่องไม้สีน้ำตาลอ่อนที่แค่มองก็รับรู้ได้ว่าเจ้าของกล่องทำเองกับมือ ตุ๊กตาป๊อบอัพเป็นรูปหมีน้อยตัวเล็ก ๆ น่ารักที่เด้งขึ้นมาจากกล่องทำให้คนที่เห็นมันยิ่งยิ้มหวานมากขึ้น

    พี่ฮั่น...หวานมาก!

    เค้กก้อนนี้พี่ทำเองกับมือเลยนะครับ...คอนเฟิร์มว่าอร่อยมาก คนที่นั่งมองเสี้ยวด้านข้างของใบหน้าหวานเอ่ยพูดขึ้นมา ก่อนที่เขาจะต้องตกใจเมื่อคนที่นั่งอยู่ที่โซฟาหันมากอดเอวเขาเอาไว้ พลางซุกใบหน้าไปที่หน้าท้องของเขา ความชื้นที่ทำให้ฮั่นรู้สึกได้ว่าคนที่กำลังกอดเขาอยู่ร้องไห้ เรียกมือหนาให้ยกขึ้นมาลูบผมของแกงส้มทันที

    ร้องไห้ทำไมครับแกง...

    ผมตื้นตันใจครับ...มันบอกไม่ถูก...ความรู้สึกมันปนกันไปหมด...ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี...คำพูดที่มาพร้อมกับแรงกอดที่แน่นขึ้นทำให้ฮั่นต้องก้มตัวลงไปพลางยกสองแขนของเขาโอบรอบตัวคนที่กำลังตื้นตันใจ

    พี่เองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากแกงนะครับ...ถ้าให้พี่พูดว่าตอนนี้พี่รู้สึกอย่างไร พี่ก็คงพูดไม่ออกเหมือนกัน...ความรู้สึกมันมีมากมายจนไม่สามารถพูดออกมาได้ทั้งหมด...

    ฮั่นหยุดพูดแค่นั้น เพราะหัวใจของเขากำลังเต้นแรงมาก...ถึงมากที่สุด...

    คำตอบของทุกคำถามที่เขาเคยสงสัยเกี่ยวกับคนในจดหมายได้ถูกเฉลยออกมาแล้ว...เฉลยออกมาพร้อมกับความรู้สึกตื้นตันในหัวใจ

    คงไม่มีคำพูดใดที่แสดงออกมาได้ดีเท่ากับ อ้อมกอด นี้อีกแล้ว...

    อ้อมกอดแนบแน่นที่บอกเล่าทุกความรู้สึกตื้นตันที่มีของคนสองคน...

    อ้อมกอดที่ใช้แทนคำพูด...ที่ไม่สามารถพูดอธิบายออกมาได้...

    บางครั้งการกระทำก็สำคัญกว่าคำพูดเพราะการกระทำอาจแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกที่มีในหัวใจได้ชัดเจนกว่าคำพูด

    เหมือนกับการบอกรัก...บางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องพูดคำว่า รัก แต่แค่เราแสดงออกว่ารักด้วยความจริงใจ...แค่เพียงเท่านั้น...คนที่เรารักก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกรักที่เรามีให้เขา...

    คนสองคนกอดกันแน่น...นิ่ง...และเนิ่นนาน...

     

     

     

    แกง...กินให้มันดี ๆ หน่อยสิครับ เลอะปากแล้วเห็นไหม ฮั่นว่าพลางหยิบกระดาษทิชชู่ไปเช็ดที่บริเวณมุมปากของคนหน้าหวาน ที่ซึ่งบัดนี้นั่งตักเค้กเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย ใบหน้าหวานที่ระบายยิ้มออกมาตลอดเวลา ทำให้คนที่นั่งมองต้องพลอยยิ้มตามไปด้วย

    เลอะปากก็ไม่เป็นไรเลย เพราะยังไงผมก็มีคนคอยเช็ดให้อย่างพี่ฮั่นอยู่แล้ว แกงส้มว่าก่อนจะตักเค้กเข้าปากไปอีกคำใหญ่ จากนั้นเขาก็ยกแก้วน้ำชาเขียวปั่นมาดูดตามไปอีกอึกใหญ่

    เอ้อพี่ฮั่น...พี่ชอบหมีรีลัคคุมะหรอครับ

    อื้ม...ชอบมาก

    พี่นี่เอาแต่ใจชะมัดซื้อสิ่งที่ตัวเองชอบมาให้ผม แกงส้มว่า พลางตักเค้กเข้าปากไปอีกคำใหญ่ ฮั่นเห็นดังนั้นก็ส่ายศีรษะไปมา

    อ้าว...ก็พี่อยากให้มันเป็นตัวแทนของพี่ไง เวลาที่แกงเห็นมัน แกงจะได้คิดถึงพี่...เวลาที่แกงกอดมัน แกงจะได้รู้สึกเหมือน กอดพี่ อยู่...

    ใบหน้าคมอมยิ้มเล็ก ๆ เมื่อเห็นคนที่กำลังเคี้ยวขนมเค้กตุ้ย ๆ เกิดอาการหน้าแดงเถือก มือที่จับช้อนเค้กปล่อยช้อนหลุดจากมือจนกระทบกับจานเค้กเสียงดัง บ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังเขินหนักแค่ไหน

    เฮอะ...ผมไม่เห็นจะอยากคิดถึงพี่เลย

    หรอ...งั้นแกงก็ไม่ต้องเอาไปแล้วกัน เอาแต่กล่องใส่จดหมายพอ ฮั่นว่าพลางทำท่าจะดึงเจ้าหมีตัวใหญ่ที่แกงส้มวางไว้ข้างตัวมาอยู่กับเขา แต่มือบางที่เอื้อมมือมาจับเจ้าหมีตัวนี้ไว้อย่างรวดเร็วก็ทำให้ฮั่นยิ้มกว้างมากขึ้น

    ของผมนะ! พี่ให้ผมแล้วจะมาเอาคืนได้ไง อีกอย่าง...พี่ก็มีเจ้าโหดแล้วด้วย เราแลกของขวัญกันแล้ว เพราะฉะนั้น...ผมไม่ให้พี่เอาคืนหรอก แกงส้มว่าพลางเอาหัวของตัวเองไปถูเบา ๆ ที่หัวของตุ๊กตาหมีบ่งบอกอาการว่าเจ้าหวงเจ้าหมีตัวนี้มากแค่ไหน

    ก็คนมันเบอร์ห้าอ่ะ...ใครจะทำไม!

    โอเค ๆ ๆ ใครจะไปเอาคืนเล่า ก็ให้ไปแล้วนี่...ว่าแต่...เจ้านี่ชื่อเจ้าโหดใช่ไหม งั้นแกงก็รู้ไว้ด้วยว่าเจ้านั่น...มันชื่อมายเดียร์...

    มายเดียร์...?

    อื้ม...มายเดียร์...ที่แปลว่า ที่รัก...ไงครับ

    จบคำพูดของฮั่น แกงส้มก็หน้าแดงขึ้นมา(อีกครั้ง)ทันที

    พี่ฮั่นนนนนนนนน หวานไปนะบางที!!!!

    เขินเฟ้ย!!!!

    เอ่อ...มายเดียร์ไม่ได้แปลว่า...กวางของฉันหรอครับ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังเขินจนถึงขีดสุด แกงส้มก็จำเป็นต้องเกรียนกลบเกลื่อน

    หืม...กวางของฉันคงไม่ได้ครับ เพราะว่าสำหรับพี่มีแต่ แกงของฉัน เท่านั้น...โอ๊ย!!” ฮั่นยังพูดไม่ทันจบประโยคดี แกงส้มก็เอื้อมมือไปฟาดที่ไหล่ของคนพูด

    อย่ามา ๆ พี่ฮั่น...ผมไปเป็นของพี่ตั้งแต่เมื่อไหร่

    ก็ตั้งแต่แรกพบสบตามั้งครับ โอ๊ย...พอแล้ว ๆ ๆ ไม่พูดแล้วก็ได้ โหดจริงวุ้ย!” คนพูดรีบยกมือเป็นเชิงว่ายอมแพ้ ก่อนที่เขาจะตักเค้กเข้าปากเพื่อหยุดคำพูดที่หวานเวอร์ของตัวเอง

    ก็คนมันดีใจมากไปหน่อย ก็เลยหวานไปนิด...

    เข้าใจกันหน่อยสิคร้าบบบบบ!

    แกง...

    ครับ...?

    เค้กเลมอนชีสของพี่เป็นไงบ้างครับ เห็นแกงกินเอา ๆ ไม่พูดชมสักที พี่รอคำชมอยู่นะ

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ อ้าว...แล้วก็ไม่บอก เค้กมัน...รสชาติบอกไม่ถูกว่ะพี่... แกงส้มว่าพลางทำท่าหยุดคิด ทำให้คนรอฟังเริ่มรู้สึกใจไม่ดี หรือว่าที่เห็นแกงตักกินเอาตักกินเอานี่กินเอาใจ...

    โอ้...ไม่นะ!

    มันเป็นยังไงแกง บอกพี่มาตามตรงได้เลยนะ พี่รับได้!”

    มัน...มัน...มันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกก ผมไม่เคยกินเค้กเลมอนชีสที่ไหนอร่อยเท่านี้มาก่อนเลยครับ! พี่นี่โคตรมีพรสวรรค์ในด้านการทำอาหารและขนมจริง ๆ ข้าน้อยขอคารวะ คำพูดที่มาพร้อมกับท่าทางที่คารวะแบบจอมยุทธ์จีนก็ทำให้ฮั่นหัวเราะออกมา

    ตัวแสบเอ๊ย!

    มาทำให้เขาใจเสียหมดเลย...

    กวนนักนะแกงส้ม เดี๋ยวจะโดนลงโทษ

    กะ กะ กลัวที่ไหน...ฮ่า ๆ ๆ มันอร่อยจริง ๆ นะพี่ฮั่น โคตร ๆ เลย คำชมที่มาพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ทำให้คนมองยิ้มออกมาจนปากแทบฉีกจนถึงใบหู

    คำชมจากคนที่รัก...มันทำให้รู้สึกดีในหัวใจอย่างนี้เอง!

    จริงสิ...พี่มีของขวัญให้ผมตั้งสองอย่าง แต่ผมมีให้พี่อย่างเดียวเอง งั้น...พี่เอาหน้ามาใกล้ ๆ ผมสิ ผมมีของขวัญพิเศษจะมอบให้พี่... แกงส้มว่าพลางอมยิ้มออกมา สายตาหวานที่คล้ายจะเชิญชวนเล็ก ๆ ทำให้ฮั่นรู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังเต้นรัว...

    ใบหน้าคมค่อย ๆ ยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าหวานทีละนิด...ทีละนิด...

    พี่หน้าหวานนนนนนนน พี่ชายยยยยยยย น้องนิวขอกินเค้กด้วยคนสิค้า~” เสียงเล็กที่ตะโกนมาแต่ไกล ทำให้คนสองคนที่กำลังยื่นหน้าเข้าไปใกล้กัน ต้องรีบถอยใบหน้าออกห่างกันอย่างรวดเร็วทันที

    น้องนิวมาขัดจังหวะอะไรหรือเปล่าค้า ~” คำถามที่มาพร้อมกับดวงตาซื่อใส ทำให้ผู้ใหญ่สองคนพร้อมใจกันส่ายหน้าพรืดทันที

    ไม่ได้ขัดอะไรเลยครับน้องนิว มา ๆ ๆ ๆ มากินเค้กกันดีกว่า แกงส้มว่า พลางตบโซฟาตัวข้าง ๆ เป็นเชิงเรียกให้เด็กน้อยมานั่งข้างเขา ฮั่นซึ่งมองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงระเรื่อยกยิ้มขึ้นมาอย่างรู้สึกเขินในหัวใจ

    ถ้าหากเมื่อกี้น้องนิวไม่เข้ามา...เขาก็คงได้รับของขวัญพิเศษจากแกงส้มไปแล้ว...

    แต่ไม่เป็นไรหรอกเนอะ...ไม่ได้วันนี้...ก็ยังมีวันต่อ ๆ ไป...

    เพราะเมื่อวันเวลาของเขากับแกงส้มได้มาบรรจบกันอย่างสมบูรณ์แล้ว...เขาก็เชื่อว่ามันจะมีวันสำหรับเขาสองคนอีกมากมาย...ความรู้สึกดี ๆ ที่เริ่มต้นมานานค่อย ๆ ถักทอสายใยความผูกพันให้มันแนบแน่นมากยิ่งขึ้น วันนี้เมื่อเขาสองคนได้มาเจอกันในโลกของความเป็นจริงแล้ว...ก็ใช่ว่าโลกในจดหมายของพวกเขาจะต้องจบลง...เพราะทุกความรู้สึกและทุกความประทับใจที่มีในโลกนั้นจะยังคงมีเรื่อย ๆ ต่อไปอย่างแน่นอน...แต่มันจะเป็นไปในรูปแบบไหน...ก็คงต้องคอยดูกันต่อไป...

    ทางด้านแกงส้ม เมื่อน้องนิวมานั่งข้าง ๆ เขาแล้ว เขาก็ตักเค้กใส่จานให้เด็กสาวตัวน้อย พลางเอียงคอมองดูมือเล็กที่ตักเค้กเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยด้วยความรู้สึกเอ็นดู จากนั้นสายตาของเขาก็หันกลับมามองคนที่นั่งอมยิ้มมองเขาอยู่

    ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านสายตาทำให้แกงส้มรู้สึกว่าเขากำลังแก้มร้อน ๆ อีกแล้ว...

    เมื่อตะกี้เขาตั้งใจจะมอบของขวัญพิเศษบางอย่างให้กับคนเป็นพี่...แต่น้องนิวเข้ามาเสียก่อน แต่ไม่เป็นไร...เพราะวันพิเศษแบบนี้ไม่ได้มีแค่วันนี้วันเดียวอย่างแน่นอน...

    เพราะนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เขาจะทำให้ทุกวันที่มีของเขากับพี่ฮั่นคือวันดี ๆ ที่แสนพิเศษในหัวใจของเราสองคน เพราะเมื่อเขากับพี่ฮั่นได้มาเจอกันและรู้จักกันอย่างคนที่อยู่ในโลกความจริงและโลกของจดหมายแล้ว เขาก็คิดว่าเขากับพี่ฮั่นจะต้องมีเรื่องราวดี ๆ เกิดขึ้นต่อไปอีกมากมายอย่างแน่นอน แต่ถึงแม้จะไม่ได้มีแค่เรื่องดี ๆ แต่ทุกเรื่องราวนับต่อจากนี้ไปจะเป็นเรื่องราวที่ทำให้หัวใจสองดวงยิ่งผูกพันกันมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน

    เพราะนี่เป็นเพียงแค่ จุดเริ่มต้น เท่านั้น...

     

     

     
     

     

     

     

    ตกลงคือพรหมลิขิตใช่ไหมที่เขียนให้เป็นแบบนั้น...ตกลงให้เรารักกันใช่ไหม...ไม่ว่าจะเพราะอะไร...แต่วันนี้การที่คนเราได้มารู้จัก พบเจอ พูดคุยและสร้างเรื่องราวร่วมกัน มันคือสิ่งที่ดี แม้ว่าเรื่องราวที่เราร่วมสร้างกันนั้นอาจจะไม่ได้มีแค่เพียงความสุข แต่ทุกเรื่องราวนั้นจะเป็นความทรงจำที่ดีที่มีความหมายที่ทำให้เราได้เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกกว้างใบนี้ด้วยความเข้มแข็ง เพราะทุกเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มันคือทุกความทรงจำที่มีค่า...ขอแค่เราเลือกถูกว่าเราควรจะเก็บเรื่องราวใดไว้ในความทรงจำ...และควรจะปล่อยให้เรื่องราวใดผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านเลยไป...

     

     

     

     

     




     

     

     

     

     

    ว้ากกกกกกกกกกกกก จบตอนนี้แล้วแบบสมบูรณ์ 100 % แล้ว

    คุณพระ!!!! ไม่เคยเขียนตอนไหนยาวเท่าตอนนี้มาก่อนเลย ฮ่า ๆ ๆ ๆ อยากจะบอกว่า...ปวดหัวมากกับการคิดมุกบิ๊กเซอร์ไพร์สของสองพี่น้อง ไม่รู้ว่าจะถูกใจคนอ่านมากน้อยแค่ไหนนะคะ แต่แบบว่า...แบบว่า...แบบว่าเค้าคิดได้แค่นี้จริงๆ อ่ะ...มันอาจจะไม่หวานหรือชวนประทับใจเท่าที่เค้าโปรยไว้ แต่อยากให้รู้ว่า...เค้าเขียนด้วยความรู้สึกทั้งหมดที่มีจริง ๆ นะคะ หวังว่าคงจะพอถูกใจกันค่ะ ><

    คืออยากจะบอกว่า...ทุกคนไม่ต้องกลัวว่าเรื่องนี้จะมีดราม่าหนักนะคะ เค้าไม่เคยคิดจะให้เรื่องนี้มีดราม่าหนักแบบร้องไห้เป็นน้ำตาเผาเต่าเลยนะคะ จะมีดราม่าก็คงจะเป็นแบบเล็ก ๆ พอให้สะเทือนใจนิด ๆ เท่านั้น เพราะงั้น...คนอ่านสบายใจได้ค่า ~ เค้าชอบบริโภคของหวานเป็นชีวิตจิตใจ เพราะงั้นฟิคที่เขียนตามใจเค้าสุด ๆ อย่างเรื่องนี้ก็จะหวานแบบเวอร์ ๆ ๆ ๆ ๆ เสมอค่ะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ

    ถ้าคนที่ไม่ชอบของหวานอาจจะเบื่อได้นะคะ...แต่สำหรับคนที่ชอบก็หวังว่ามันจะไม่ทำให้เป็น เบาหวาน กันไปก่อนนะคะ ^^

    ติดตามกันต่อไปเรื่อย ๆ นะคะ...ถึงคนสองคนจะได้เจอกันแล้ว แต่เรื่องราวที่โต้ตอบกันผ่านจดหมายจะยังมีให้อ่านอย่างแน่นอนค่ะ เพราะว่าเรื่องมันเชื่อว่า The letter นี่นา...แต่จะเป็นแบบไหนนั้น...คงต้องตามลุ้นตามอ่านกันต่อไปค่ะ...

    ขอบคุณที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้นะคะ ... ปลื้มในหัวใจจริง ๆ ขอให้สนุกกับฟิคตอนนี้และทุกๆ ตอนในเรื่องนี้ของกวางค่ะ...

     

     

    ปล. ด้วยความพิเศษของ "เรื่องสั้นที่เดินมาถึงบทเพลงที่ 28(เลขสวย)"   กวางก็เลยคิดว่าจะเขียนฟิคตอนนี้ด้วยเรื่องราวที่กวางอยากเขียนมานานมากกกกกกกกกก (แต่ไม่รู้ว่าคนอ่านจะรับได้หรือเปล่านี่สิ...เพราะมันจะไม่ใช่เรื่องราวแบบที่คนอ่านจะคิดว่ากวางจะเขียนแน่นอน!) กวางว่า...กวางเริ่มลังเลแล้วว่าจะเขียนดีไหม แต่...ด้วยความเกรียนไม่สิด้วยความชอบส่วนตัว ก็คงจะเขียนแบบที่กวางอยากเขียน เพราะกวางอยากให้คนอ่าน...ได้อ่านอะไรที่เป็นความรู้สึกและความนึกคิดที่เป็นของกวางจริงๆ เนื่องจากกวางคิดว่า...ถ้าการที่คนเราจะชอบอะไรสักอย่างของคน ๆ หนึ่งก็ต้องชอบในแบบที่เขาเป็นตัวเขา มากกว่าจะชอบในแบบที่เราอยากให้เขาเป็น...จริงไหมคะ ^^

    แล้วเจอกันตอนต่อไปค่า ~~ (แอบโปรโมทฟิคสั้นในฟิคยาว โคตรเกรียนเลยเนอะ) ฮ่า ๆ ๆ ๆ (ลืมบอกค่ะว่าไม่ใช่ NC อย่างที่ทุกคนคิดนะคะ) อิอิ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×