คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 15 : จดหมายฉบับที่ 2 ของ เราสองคน
บทที่ 15 : จดหมายฉบับที่ 2 ของ ‘เราสองคน’
แสงแดดอ่อน ๆ ที่สาดส่องเข้ามาภายในห้องนอนสีหวานเรียกดวงตาที่หลับสนิทให้ค่อย ๆ ลืมขึ้น ฮั่นยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเอง ก่อนจะตวัดผ้าห่มที่คลุมกายออก ชายหนุ่มหันหน้าไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ที่อยู่ปลายเตียง
06.00 น.
“อ่า...ได้เวลาไปฟิตร่างกายแล้วสินะเรา” ฮั่นพูดกับตัวเอง ก่อนที่เขาจะเดินหายเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว แล้วออกมาหยิบเสื้อผ้าชุดวอร์มไปเปลี่ยน
ไม่ถึง 10 นาที ฮั่นก็ออกมาพร้อมกับชุดที่จะออกไปวิ่งออกกำลังกาย แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกจากห้องไป เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขาน่าจะชวนคนที่อยู่ห้องตรงข้ามให้ไปด้วยกัน
วิ่งกระชับสัมพันธ์ยามเช้า...น่าจะดีนะ~
คิดได้แบบนี้ฮั่นก็เดินไปหยิบเครื่องมือสื่อสารที่วางอยู่บนโต๊ะหนังสือขึ้นมา ก่อนจะกดโทรออกหาอีกคนที่อยู่ไม่ไกล
(ฮัล...โหล...) เสียงยานคางแบบคนยังไม่ตื่นนอน ทำให้ฮั่นอมยิ้ม
เด็กน้อยเอ๊ย...
“แกง ตื่น ๆ ๆ ๆ ๆ ไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะกัน”
(ใครง่ะ...) คนปลายสายถาม ก่อนจะยกโทรศัพท์ออกห่างหู ชื่อที่ปรากฏหราบนหน้าจอ ทำให้คนที่ยังไม่ตื่นดี ดวงตาเบิกโตขึ้นทันที
(พี่ฮั่น!)
“อื้ม...พี่เอง ตกลงว่ายังไง จะไปวิ่งด้วยกันไหมไอ้ตัวแสบ” ฮั่นถาม พลางยืนใช้ปลายนิ้วเท้าเขี่ยไปที่พรมลายหมีภายในห้องนอนของตัวเองอย่างลุ้น ๆ
ทำไมเขาถึงได้ลุ้นคำตอบของแกงส้มอย่างกับลุ้นผลสลากกินแบ่งรัฐบาลขนาดนี้นะ!?!
(อืม...ไปวิ่งออกกำลังกายใช่ไหมพี่)
“อื้อ...”
(ได้ครับ เดี๋ยวผมไปด้วย ขอเวลาผมอาบน้ำแต่งตัวครึ่งชั่วโมง)
เจอคำตอบนี้ของแกงส้มเข้าไป ฮั่นถึงกับเซ...
“ขอเวลาครึ่งชั่วโมงไปอาบน้ำแต่งตัว...เอิ่ม...นี่ไปอาบน้ำหรือไปขัดส้วมเนี่ยแกง”
(ไปอาบน้ำดิพี่ฮั่น! แต่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหรอก ยืนรอผมที่หน้าห้องได้เลยครับ แค่นี้นะ...) แล้วคนปลายสายก็กดวางไป ทิ้งให้ฮั่นกระโดดตัวลอยอยู่คนเดียวภายในห้อง
“ยิปปี้!”
ว่าแต่...แค่แกงส้มไปวิ่งด้วย ดีใจอย่างกับถูกหวย เวอร์ไปไหมกู...
ไม่เวอร์นะ...ก็แค่ดีใจ...โอ๊ะ! ออกไปรอน้องที่หน้าห้องดีกว่า
คิดได้แบบนี้ฮั่นก็วิ่งตึงตังออกไปรอแกงส้มที่หน้าห้อง เสียงวิ่งของชายหนุ่มทำให้คนที่นอนอ่านหนังสืออยู่ภายในห้อง ต้องเปิดประตูออกมาแล้วตะโกนไล่หลังฮั่น
“เบา ๆ หน่อยได้ไหมเนี่ยพี่ฮั่น หมิวจะอ่านหนังสือนะ! ถ้าหมิวสอบตก หมิวจะโทษว่าเป็นความผิดพี่!”
ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงอย่างที่แกงส้มบอก ร่างโปร่งก็ออกมาในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงวอร์มสีดำ รองเท้าผ้าใบ ผมยุ่ง ๆ ของคนที่เพิ่งเดินออกมา ทำให้ฮั่นต้องเอื้อมมือไปปัด ๆ ลูบ ๆ ให้มันเข้าที่เข้าทาง ใบหน้าหวานจึงถูกขับให้เด่นออกมาทันที
“น่ารักและ”
“ผมก็น่ารักทุกวันแหล่ะครับ” แกงส้มว่าก่อนจะยิ้มหวาน ฮั่นเห็นแบบนั้นก็อดที่จะเอามือไปผลักหน้าผากมนอย่างหมั่นเขี้ยวไม่ได้
“หลงตัวเองตลอดเลย”
“ผมหลงตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่พี่อย่ามาหลงผมก็แล้วกัน...แล้วจะหาว่าคนหล่อน่ารักไม่เตือน” พูดจบ แกงส้มก็เอานิ้วไปบีบจมูกคนเป็นพี่อย่างหยอกล้อ
“อื้อออออออ ไม่มีทางหรอก ชิ! เราต่างหากที่จะต้องมาหลงพี่” ฮั่นว่า พลางเอามือของตัวเองดึงมือที่บีบจมูกเขาอยู่ออก
“ไม่มีทาง ผมมีคนให้หลงแล้วเหอะ”
“ใคร!”
“ไม่บอก...ว่าแต่นี่เราจะมายืนเถียงเรื่องหลงไม่หลงอะไรนี่อีกนานไหมครับ จะไม่ไปวิ่งแล้วใช่เปล่า?”
“วิ่งสิ...ไป ๆ ๆ เลิกเถียงกันก็ได้”
พูดจบ ฮั่นก็เดินนำแกงส้มไปตามทางเดินที่ทอดยาว แกงส้มมองตามแผ่นหลังกว้าง พลางก้าวเดินตามไปอย่างช้า ๆ
แต่ทว่า...เขาก็เดินทันร่างสูงนั้นนะ เหมือนคนที่เดินนำจะรู้ว่าเขาเดินช้า จังหวะการก้าวของฮั่นจึงเหมือนคล้ายจะรอ...
สุดท้ายคนสองคนก็เดินไปพร้อม ๆ กัน...
อย่าเดินนำหน้าฉัน เพราะฉันอาจเดินตามเธอไม่ทัน
อย่าเดินตามหลังฉัน เพราะเราอาจพลัดหลงกันไป
ส่งมือเธอมาให้ฉัน เราจะเดินเคียงข้างกันไป
ให้ทุกวัน...คือวันเวลาของเรา
“พี่ฮั่นโว้ยยยยยยยยย จะวิ่งเร็วไปไหนวะ วิ่งตามไม่ทันแล้วนะ!” แกงส้มตะโกนไล่หลังคนที่วิ่งนำไปหลายช่วงขา คนที่วิ่งนำ ต้องวิ่งถอยหลังกลับมา
“อะไรกันเด็กน้อย วิ่งแค่ 8 รอบก็เหนื่อยแล้วหรอ ทำไม ‘อ่อน’ จังอ่ะ” ถ้อยคำที่คล้ายจะดูถูกไปกลาย ๆ ทำให้คนที่เหนื่อย เกิดแรงฮึด
“ใครอ่อน ไม่มี! มา...วิ่งแข่งกันเลยดีกว่า” พูดจบ แกงส้มก็ออกวิ่งไปก่อน โดยมีร่างสูงของฮั่นวิ่งตาม ขายาวที่คล้ายจะล้มแหล่มิล้มแหล่ ทำให้ฮั่นต้องฉุดแขนคนที่วิ่งนำหน้า พลางรั้งให้หยุดวิ่ง
“ฮื้อ! อะไรของพี่เนี่ยพี่ฮั่น มาดึงให้ผมหยุดวิ่งทำไม”
“ขาเราเหมือนจะหมดแรงแล้วนะ พักก่อนเถอะ”
“ไม่พัก! ผมไม่ยอมให้โดนว่าอ่อนเป็นครั้งที่สองหรอก”
ป๊อก!
มะเหงกถูกเขกลงบนหน้าผากมนเบา ๆ
“พี่ก็แค่ว่าเราเล่น ๆ ตั้งใจจะล้อ ไม่ได้จะทำให้เราต้องมาฮึดจนบ้าพลังแบบนี้ เดี๋ยววันนี้ก็ไปทำงานที่ร้านไม่ไหวหรอก พอ ๆ ๆ เดี๋ยวนั่งรอพี่อยู่ตรงนี้ เดี๋ยวพี่ไปซื้อน้ำมาให้”
พูดจบ ฮั่นก็ผลักให้ร่างบางเดินไปนั่งที่ม้าไม้ริมสระน้ำขนาดใหญ่ ก่อนที่เขาจะเดินไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งมีร้านขายน้ำตั้งอยู่
แกงส้มทรุดตัวลงนั่ง พลางหันหน้ามองไปที่สระน้ำ แสงแดดสีเหลืองอ่อนที่สาดส่องกระทบผิวน้ำ เรียกรอยยิ้มละมุนให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน อากาศที่เย็นสบายทำให้ร่างกายที่ร้อนค่อย ๆ คลายความร้อนลง
วาบ!
ความเย็นที่วางแนบกับผิวแก้ม ทำให้แกงส้มสะดุ้งเฮือก ชายหนุ่มหันขวับไปมองคนที่ยืนถือขวดน้ำ ก่อนที่เขาจะต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
น้ำเย็นที่ถูกเทรดใบหน้า แล้วไหลเรื่อยลงมาที่ลำคอ แล้วหยุดลงที่เสื้อสีขาว น้ำที่แทรกซึมเข้าไปที่เนื้อผ้า ทำให้เสื้อตัวบาง...บางจนเห็นไปถึงแผ่นอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามดูดีอย่างคนชอบออกกำลังกาย
พี่ฮั่นหุ่นดีชะมัด!
อ๊ากกกกกกกก ไอ้แกงส้มหื่นอ่ะ! ไปมองอะไรพี่ฮั่นเขาวะ!!!!!
“เป็นอะไรแกง ส่ายหัวดุ๊กดิ๊กเลย แล้วนี่เราแอบมองอะไรพี่อ่ะ...เห็นกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อก ๆ อย่าบอกนะว่า...ตัวกำลังคิดลามกกับเค้าอยู่อ่ะ!”
ฮั่นเอ่ยแซว พลางมองใบหน้าหวานที่ส่ายศีรษะไปมาด้วยรอยยิ้ม แกงส้มหยุดการกระทำของตัวเอง ก่อนที่เจ้าตัวจะเอาขวดน้ำที่ยังไม่ได้เปิดฝาในมือเขามาฟาดที่ไหล่เขาอย่างแรง
“โอ๊ย!”
“ใครคิดลามกพี่ฮั่น อย่ามาพูดจาแบบนี้นะ มั่วตลอดเลยพี่อ่ะ! เปิดขวดน้ำให้ด้วยเลย ไม่มีแรงเปิดแล้ว” แกงส้มว่า พลางยื่นขวดน้ำในมือไปให้คนที่ทำหน้าเบ้ ฮั่นรับขวดน้ำนั้นมา ก่อนที่เขาจะบิดเปิดให้ แล้วยื่นกลับไปให้คนที่แบมือรอ
“ขอบคุณครับ...” แกงส้มพูดขอบคุณ ก่อนที่เจ้าตัวจะคว้าขวดน้ำในมือฮั่นไปดื่มอย่างรวดเร็ว
“เอ้า ๆ ๆ ดื่มช้า ๆ หน่อยแกง เดี๋ยวก็สำลักน้ำหรอก เฮ้ย!!!!!!!!”
พรวดดดดดดดดด!
ฮั่นพูดยังไม่ทันจบประโยคดี คนที่ดื่มน้ำอย่างรวดเร็ว ก็เกิดอาการสำลักน้ำ ก่อนที่เจ้าตัวจะพ่นน้ำออกมาใส่หน้าคนพูดแบบเต็ม ๆ
“แค่ก ๆ เฮ้ย! ขอโทษพี่ฮั่น ผมไม่ได้ตั้งใจว่ะ...สำลักน้ำ” แกงส้มรีบละล่ำละลักขอโทษคนที่กำลังเอามือปาดน้ำที่มีน้ำลายของเขาปนอยู่ออก แกงส้มรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนาของตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเช็ดไล่จากหน้าผากเรื่อยลงมาที่ข้างแก้ม ก่อนจะหยุดที่ปลายคาง...
ดวงตาคมมองสบมาที่ดวงตาหวาน จากนั้นใบหน้าของคนทั้งคู่ก็ค่อย ๆ เลื่อนเขยิบเข้าไปใกล้กันตามความรู้สึกภายในจิตใจ...
ตุบ!
เสียงของวัตถุบางอย่างที่กระแทกมาเต็ม ๆ หลังของฮั่น ก็ทำให้ใบหน้าของเขากระแทกเข้ากับใบหน้าหวานที่อยู่ใกล้อย่างแรงทันที แรงกระแทกส่งผลให้คนทั้งสองต้องรีบยกมือขึ้นมาคลำหน้าผากของตัวเอง
“ขอโทษครับพี่...ผมไม่ได้ตั้งใจจะเตะบอลมาทางนี้ครับ พวกพี่เป็นอะไรไหมฮะ”
คำพูดที่มาพร้อมกับเด็กชายวัยประมาณสิบขวบ ทำให้คนสองคนที่เจ็บอยู่ต้องส่ายศีรษะไปมาเป็นเชิงบอกให้เด็กน้อยรู้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นอะไร ทั้ง ๆ ที่ภายในใจนึกอยากจะกระโดดฟรีคิกเด็กนี่สักสิบที ข้อหาขัดจังหวะเอ๊ยไม่ใช่...ข้อหาทำให้เจ็บตัวแบบนี้!
“ฮ่า ๆ ๆ เจ็บมากหรือเปล่าแกง พี่ขอโทษนะ”
“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษพี่ที่พ่นน้ำใส่หน้าพี่ไปแบบนั้น”
“ไม่เป็นไรหรอก...พี่ว่าเรากลับห้องกันดีกว่า ป่านนี้พ่อแกงคงใกล้ตื่นแล้วมั้ง เดี๋ยวพี่จะได้รีบไปทำโจ๊กร้อน ๆ ไปให้ท่านทาน” ฮั่นว่า ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง โดยมีคนที่นั่งข้าง ๆ ลุกขึ้นยืนตาม
“พี่ฮั่น...”
“หืม ?”
“ขอบคุณนะครับ”
“เรื่อง...?”
“ก็ทุก ๆ เรื่องครับ”
“อืม...แค่นี้จิ๊บ ๆ มากกว่านี้ก็ทำให้ได้” ฮั่นว่า ก่อนจะเอามือไปโยกศีรษะทุยเบา ๆ
“ถ้าผมจะขอเหตุผล...พี่จะมีให้ผมไหมครับ” แกงส้มถาม พลางคว้ามือที่โยกศีรษะเขามากุมไว้หลวม ๆ
“มี...แต่ไม่บอกตอนนี้ครับ” พูดจบ ฮั่นก็ขยับมือที่กุมมือเขาไว้ให้นิ้วทั้งห้าของเขาและของแกงส้มเกี่ยวกระหวัดกัน
“...”
“บางที...คนเราก็มีเหตุผลที่ยังไม่สามารถบอกได้ในตอนนี้นะแกง พี่เองก็อยากจะบอกแกงนะว่าทำไมพี่ถึงทำแบบนี้ แต่พี่ก็ยังอยากให้อะไร ๆ มันแน่ใจและแน่นอนมากกว่านี้ก่อน...พี่ไม่อยากพูดไปแล้วต้องมากลับคำ พี่ ‘จริงจัง’ ในทุกความรู้สึกนะครับ...พี่ไม่อยากแค่เล่น ๆ ไม่ว่าจะกับความรู้สึกของคนอื่นหรือกับความรู้สึกของตัวเอง เพราะพี่รู้ดีว่า...การที่เราไปเล่นกับความรู้สึกของใคร ผลสุดท้าย...คนที่เจ็บที่สุดก็ไม่พ้น ‘ตัวเรา’...”
จบคำพูดที่แสนยืดยาวของฮั่น แกงส้มก็ยกยิ้มขึ้นมา ก่อนที่เขาจะเพิ่มความแน่นของการจับมือ พลางเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนพูด
“ผมจะรอจนกว่าจะถึงวันที่พี่แน่ใจนะครับ เพราะเมื่อถึงวันนั้น...ผมเองก็มีอะไรจะบอกพี่เหมือนกัน”
“ครับ...เราจะรอจนถึง ‘วันของเรา’ นะครับ”
แกงส้มพยักหน้ารับกับคำพูดของฮั่น ก่อนที่คนสองคนจะเดินจับมือกันออกไปจากสวนสาธารณะ สายลมที่พัดเอื่อย ๆ ให้ความรู้สึกเรื่อย ๆ แต่สบาย ๆ
ความรักที่ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ย่อมทำให้หัวใจรู้สึกสบายมากกว่าความรักที่เร่งร้อนจนเกินความต้องการ เพราะจริง ๆ แล้วหัวใจของเราก็ยังเต้นแบบเรื่อย ๆ ทุกวัน ๆ ไม่ได้เร่งร้อนเพื่อเต้นให้เร็วขึ้น...เพราะฉะนั้นอะไรที่พอดี ๆ ย่อมเป็นอะไรที่ดีเสมอ...
เช้าวันนี้ดูเหมือนว่าบิดาของแกงส้มจะเงียบผิดปกติ เพราะนอกจากท่านจะไม่พูดป่วนฮั่นแล้ว ท่านยังกินข้าวเงียบ ๆ แล้วบอกว่าจะนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องไม่ไปไหน แต่ตอนเย็นให้แวะมารับท่านไปทานข้าว ซึ่งพฤติกรรมนี้ของท่านทำให้ทั้งแกงส้ม คิมและฮั่นต่างรู้สึกแปลกประหลาดในใจมาก แต่ก็ไม่มีใครพูดหรือว่าโวยวายอะไร ทุกคนก็ยอมไปทำงานของตัวเองเงียบ ๆ พลางเก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ
ตกเย็น...
วันนี้คิมตัดสินใจปิดร้านเร็ว เพื่อจะพาพี่ชายของตัวเองไปหาอะไรอร่อย ๆ ทานก่อนจะพาไปเปิดหูเปิดตายังแหล่งสถานบันเทิงที่อยู่ไม่ไกลจากร้านอาหารเธอ โดยมีสมาชิกภายในร้านออย่างสุ หนึ่ง (ซึ่งขอติดสอยห้อยตามแฟนสาวมา) จ๋า ฮั่น แกงส้มและเธอไปด้วย
ซึ่งความจริงแล้วไอ้ที่บอกว่าจะพามาเปิดหูเปิดตายังแหล่งสถานบันเทิงนั้นเธอไม่ได้เป็นคนคิด แต่พี่ชายของเธอต่างหากที่เป็นคนคิด...ไม่รู้อยู่ดี ๆ คนรักเมียสุดหัวใจอย่างพ่อแกงส้มนึกยังไง ถึงได้อยากจะไปเที่ยวกลางคืนเอาตอนนี้
แต่ก็เอาเถอะ...เขาไม่อยากขัดใจพี่ชายที่นาน ๆ จะลงมาหาทีนึง!
22.28 น.
‘Root Love’
ป้ายไฟที่มีตัวอักษรประดับไฟสีม่วงขาว เรียกดวงตาของแกงส้มให้เงยไปมองอย่างตื่นตาตื่นใจ
ตั้งแต่เขามาอยู่ที่กรุงเทพ เขาก็ไม่เคยเข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มา แถมมาพร้อมกับคนที่เขาไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่า...
เค้าก็เพิ่งจะเคยมาที่นี่ครั้งแรกเหมือนกับเขา!
ใช่ครับ...พี่ฮั่นเพิ่งเคยมาเที่ยวที่แบบนี้เป็นครั้งแรก!
ตอนแรกที่ฟังพี่ฮั่นบอกกับผม ผมก็ไม่เชื่อหรอกครับ ผู้ชายท่าทางเจ้าชู้จ๋าขนาดนั้น จะไม่เคยมาเที่ยวที่แบบนี้ได้ยังไง แต่พอพี่จ๋ายืนยันด้วยอีกคน ผมก็ถึงกับแทบจะหลุดหัวเราะออกมาชุดใหญ่เลย...
ไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะครับ...แต่มันคือความจริงฮะ!
“เอาล่ะ ๆ ถึงแล้ว...ร้านนี้คิมกับจ๋าขอคอนเฟิร์มเลยว่า...เด็ด!”
“อะไรคุณคิม อย่าเอาจ๋าไปเอ่ยถึงดิ ร้านนี้คุณคิมเป็นคนบอกว่าเด็ดเองนะ จ๋าแค่ตามน้ำคุณคิมไปเฉย ๆ กรุณาอย่ามาทำให้ภาพพจน์ของจ๋าเสียค่ะ” จ๋าว่า ก่อนจะต้องหลบฝ่ามือที่วาดมากลางอากาศของคิม
“หนอยแน่ะ! คิดจะเอาดีเข้าตัวเองแล้วโยนชั่วให้ฉันเลยนะยะ ไหนบอกว่าช่วงนี้เราจะสงบศึกกันชั่วคราวไง ลืมแล้วหรอยะ...” คิมว่าพลางสบสายตากับจ๋าอย่างต้องการจะสื่อความหมายในบางคำพูด จ๋าเมื่อเห็นสายตานั้นเธอก็เข้าใจได้ในทันทีว่าคิมหมายถึงสงบศึกกันเพื่อเรื่องอะไร
“อ้อ...จ๋าขอโทษค่ะ พอดีฟินที่ได้มาเที่ยวกับน้องแกงมากไปหน่อย โอเค ๆ ๆ ๆ จริง ๆ แล้วจ๋าเองก็เห็นด้วยกับคุณคิมเหมือนกันค่ะ ที่เราจะมาเที่ยวกันที่นี่ เพราะว่าที่นี่...เจ๋งจริง ๆ”
“งั้นขอเข้าไปพิสูจน์ความเจ๋งหน่อยแล้วกันนะ” หนึ่งว่าก่อนจะเดินนำหน้าเข้าไปเป็นคนแรก แต่...
“เยอะไปนะหนึ่ง เดี๋ยวจะโดน” สุว่าก่อนจะปล่อยมือที่ดึงหูแฟนหนุ่ม หญิงสาวส่งสายตาเขียวปั้ดไปให้คนเป็นแฟนจนหนึ่งต้องยอมถอยกลับมายืนข้างเธอเหมือนเดิม พลางส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้แฟนสาว
“ขอโทษจ้ะ ว่าแต่...หนึ่งไม่เดี๋ยวจะโดนนะสุ เพราะหนึ่งโดนไปแล้ว...”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” เมื่อหนึ่งพูดจบ ทุกคนที่ยืนมองอยู่ก็พร้อมใจกันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
เอ้อ...มีแฟนดุมันก็ต้องทำใจอ่ะนะ!
“ไป ๆ เข้าไปข้างในกันดีกว่า” คิมว่า ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายเดินนำเข้าไป โดยมีบิดาของแกงส้มเดินตาม และต่อด้วย สุ หนึ่ง จ๋า แกงส้มและฮั่น
เมื่อคนทั้งหกเดินเข้าไปภายในนั้น...แสงไฟหลากสีสันที่สาดแสงไปมา บวกกับเสียงเพลงที่ดังจนแทบจะทะลุทะลวงเข้าไปในโสตประสาทหู ผสมกับกลิ่นบุหรี่และกลิ่นแอลกอฮอล์ที่ลอยวนในอากาศ ทำให้คนที่ไม่เคยเข้ามาสัมผัสกับบรรยากาศเหล่านี้อย่างฮั่นและแกงส้มต้องยกมือขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้าง พลางกลั้นหายใจเป็นระยะ ๆ
ให้ตายเหอะ...ทำไมบรรยากาศมันชวนกลับบ้านขนาดนี้นะ!
หมับ! มือที่ปิดหูของแกงส้มข้างหนึ่งถูกมือหนาของคนที่เดินตามหลังคว้าไปกุมไว้หลวม ๆ
“จับมือกันไว้...เดี๋ยวหลง พี่ขี้เกียจออกตามหาเด็กน้อยขี้หลงทาง”
“เฮอะ! ผมโตแล้วนะพี่ฮั่น ไม่ใช่เด็กอนุบาลที่พอเดินไปทางไหนแล้วต้องมีคนคอยจับมือตลอดน่ะ” แกงส้มว่าพลางย่นจมูกใส่คนที่จับมือเขาไว้ แม้เขาจะรู้ว่าพี่ฮั่นไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้ชัด เพราะความมืดของที่นี่ แต่เขาก็อดที่จะแสดงอาการต่าง ๆ เหล่านี้ผ่านใบหน้าของเขาไม่ได้อยู่ดี
“นี่ดีนะว่าที่นี่ไม่มีลูกโป่งขาย ไม่งั้นพี่จะซื้อลูกโป่งแล้วเอามาผูกข้อมือเราไว้ เวลาหลงทางจะได้หากันเจอ” ฮั่นก้มหน้าลงมากระซิบใกล้ ๆ กับใบหูของอีกฝ่าย เนื่องจากเสียงเพลงที่ดังทำให้เขาไม่ค่อยได้ยินว่าแกงส้มพูดอะไร และเขาเองก็กลัวแกงส้มจะไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูดเหมือนกัน
“บ้าและพี่ฮั่น พอเหอะ...รีบ ๆ เดินเลย อาคิมเดินไปถึงโต๊ะแล้วน่ะ” พูดจบ แกงส้มก็เร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ฮั่นรีบก้าวเท้าตาม พลางหัวเราะกับตัวเองเบา ๆ นี่ถ้าไฟสว่างกว่านี้เขาคงเห็นว่าแกงส้มกำลังทำหน้าอย่างไร
เสียดายจัง...อยากเห็นหน้าหวาน ๆ เหวี่ยง...
“เดินช้าไปนะสองคนนี้น่ะ” บิดาของแกงส้มว่าก่อนจะลดสายตามองต่ำมาที่มือซึ่งกำลังจับกันอยู่ของคนทั้งสอง แกงส้มรีบปล่อยมือออกจากฮั่นทันที แต่ฮั่นก็คว้ามือแกงส้มมากุมไว้อีกครั้ง พลางส่งยิ้มไปให้คนพูด
“ผมเดินช้าเพราะไม่อยากให้แกงส้มต้องเดินเร็วจนเกินไป เนื่องจากผมกลัวน้องจะเดินไปชนคนอื่นครับ”
“ลูกชายฉันคงไม่เซ่อซ่าถึงขนาดเดินไปชนคนอื่นหรอก”
“แน่ใจหรอครับ...”
เจอประโยคคำถามนี้ของฮั่นเข้าไป คนถูกถามก็ชะงักกึก
แกงส้มลูกชายของเขา...ซุ่มซ่ามและขี้โวยวาย หากไม่คุมไว้ดี ๆ ก็อาจจะไปมีเรื่องได้...
เจ้าฮั่นมันรู้จักนิสัยข้อนี้ของแกงส้ม จึงต้องกุมมือไว้และเดินช้า ๆ เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น...รอบคอบดี
แต่...บทพิสูจน์สำหรับค่ำคืนนี้ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นเลย...เพราะฉะนั้นเขาคงยังไม่ให้ผ่าน...หึ ๆ
“มานั่งกันได้แล้ว จะยืนอีกนานไหม”
เมื่อได้ยินแบบนี้ คนสองคนจึงเดินมานั่งที่โซฟาคู่ที่นั่งสำหรับสองคน
เครื่องดื่มที่มีทั้งแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์หลากหลายสีสัน ถูกนำมาเสิร์ฟ แกงส้มตั้งใจจะคว้าแกงสีฟ้าที่มีลูกเชอรี่สีแดงลอยอยู่มาดื่ม แต่เขาก็โดนฮั่นตีหลังมือเสียก่อน
“ง่ะ! ผมอยากลองชิมนี่ครับ”
“ไม่ได้...ของแกงน่ะเป๊บซี่ กินเข้าไปเลย”
“โหยพี่ฮั่น...มาผับทั้งทีให้ผมกินเป๊บซี่เนี่ยนะ เสียชาติเกิดตายเลย ให้ผมกินของอาคิมเถอะ ผมอยากลองชิมอ่ะ” แกงส้มว่าพลางหันไปทำตาอ้อนใส่คนที่นั่งหันหน้ามาทางเขา แต่ฮั่นส่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะยกแก้วเป๊บซี่มาส่งให้
“เลือกเอาว่าจะกินเป๊บซี่หรือน้ำเปล่า...”
“พี่ฮั่นใจร้าย!” แกงส้มว่าเสร็จ เขาก็คว้าแก้วเป๊บซี่ในมือฮั่นมาถือไว้ ก่อนจะทำปากจู๋แก้มป่องอย่างติดจะงอน ๆ ฮั่นไม่พูดง้ออะไร แต่เอื้อมวงแขนไปโอบหลังคนงอนแล้วเขยิบให้ร่างนั้นเข้ามาชิดตัวเองอย่างเนียน ๆ
คิดว่าทำแบบนี้แล้วเขาจะหายงอนหรอ...
แกงส้มเขยิบตัวออกห่าง แต่ฮั่นก็ยังใช้วงแขนดึงให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดให้กลับมานั่งที่เดิม
ภาพของคนสองคนที่เดี๋ยวเขยิบ เดี๋ยวกอด เดี๋ยวโอบ ทำให้คนที่นั่งมองอยู่อย่างคิมและจ๋าถึงกับหันมามองหน้ากันแล้วคอตก
หมดสิทธิ์จริง ๆ สินะเรา...
อ๊ากกกกกกกกกกกก น้องแกงของเจ๊ต้องเป็นของไอ้ฮั่นจริง ๆ ใช่ไหม...ฮือ ๆ ๆ คร่ำครวญ ๆ ทำไมน้องแกงถึงไม่มองเจ๊บ้าง...ถึงเจ๊จะไม่สวย ไม่ใส แต่เจ๊ก็จริงใจกับน้องแกงที่ซู๊ดดดดดด ฮือ ๆ ๆ
ทางด้านคิมเอง...ก็ได้แต่กรีดร้องคร่ำครวญในใจเหมือนกับจ๋า
ว้ากกกกกกกกกกกก ฮั่นนี่ที่รักทำไมถึงทำกับเค้าแบบนี้...คนมีเป็นล้าน ไปคว้าไอ้แกงหลานตัวแสบของเค้าทำไม ฮือ ๆ ๆ ๆ เค้าออกจะสวย รวย ดูดีขนาดนี้...ทำไมฮั่นนี่ถึงมองข้ามเค้าไปล่ะ ฮือ ๆ ๆ ๆ
แล้วคนที่นั่งคร่ำครวญความเศร้าในหัวใจก็หันมาสบตากัน...ก่อนที่คนทั้งคู่จะคว้ามือของกันและกันมากุมไว้ ราวกับเข้าใจในความรู้สึก
“ยัยจ๋า...ฉันว่าเราออกไปเต้นระบายความเศร้ากันดีกว่า”
“เอาสิคุณคิม...ไป ๆ”
แล้วคิมกับจ๋าก็ลุกขึ้นยืน
“ใครจะไปเต้นกับเค้าสองคนบ้าง...”
“พี่ไม่ไปนะ...เดี๋ยวเป็นลม” พ่อของแกงส้มว่าพลางส่งยิ้มไปให้คนเป็นน้อง คิมพยักหน้ารับก่อนจะหันไปมองคนอื่น ๆ
“สุคงไม่ไปค่ะ นั่งฟังเพลงแล้วดูคุณคิมแล้วก็คนอื่น ๆ เต้นท่าทางจะสนุกกว่า...หนึ่งก็ไปเต้นกับคุณคิมสิ”
“หือ...หนึ่งไปได้หรอ ?”
“ไปได้สิ...ทำไมจะไม่ได้ล่ะ วันนี้สุอนุญาต หนึ่งเต็มที่เลย!!!”
เมื่อได้รับอนุญาตจากแฟนสาว หนึ่งก็ลุกขึ้นยืนเป็นรายต่อไป
“ไอ้ฮั่น น้องแกง ออกไปเต้นด้วยกันสิ เพลงกำลังมันส์เลย” จ๋าเอ่ยชวนคนที่นั่งตัวติดกันจนแทบจะนั่งตัก
“ไม่เอาหรอกไอ้จ๋า ฉันไม่ถนัดเต้น”
“นั่นน่ะสิครับ ผมถนัดแต่เต้นฮิพฮอพบีบอยแบบต้องใช้พื้นที่กว้าง ๆ เต้นที่แคบ ๆ เบียด ๆ กันแบบนี้ ผมเต้นไม่ได้หรอกครับ”
“โอ๊ย...ไปเต้นเถอะ ไม่ต้องลีลาหรอก เอามันส์อย่างเดียวพอ” พูดจบ จ๋าก็เดินมาฉุดข้อมือฮั่นและแกงส้มให้ลุกขึ้นยืน คนสองคนหันมามองหน้ากัน ก่อนที่เขาจะยอมเดินตามจ๋าไป
ลองดูสักครั้งก็คงไม่เสียหายอะไร...เอามันส์!
เมื่อทุกคนออกไปเต้นแล้ว บิดาของแกงส้มก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนที่เขาจะพิมพ์ข้อความอะไรบางอย่าง...รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้สูงวัย สุที่นั่งมองอยู่ขมวดคิ้วมุ่นทันที
ท่าทางพ่อของแกงส้มแปลก ๆ แฮะ...เหมือนกำลังวางแผนจะทำอะไรเลย...
หวังว่าคงจะไม่ใช่แผนการแกล้งฮั่นอย่างที่จ๋าเล่าให้ฟังหรอกนะ...เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นเธอไม่อยากจะคิดเลยว่า...ฮั่นจะต้องเป็นยังไง เพราะดูจากสีหน้าของพ่อแกงส้มตอนนี้แล้ว...บอกได้เลยว่า...
เสียวสันหลังวาบ!
“วู้~ สนุกจังเลย” คิมร้องออกมา พลางโยกย้ายร่างกายไปตามจังหวะดนตรี โดยมีจ๋าและหนึ่งเหวี่ยงร่างกายไปมาอยู่ใกล้ ๆ คนสองคนที่โยกเบา ๆ อย่างขัดกับดนตรีอย่างฮั่นและแกงส้มนั้นต่างหันมามองหน้ากันแล้วอมยิ้ม
“ยิ้มอะไรพี่ฮั่น”
“อยากยิ้ม”
“ไม่ต้องมากวนประสาทผมเลยนะ บอกมาว่ายิ้มอะไร” แกงส้มถามพลางจับคางของคนเป็นพี่ให้หันมามองหน้าเขา ฮั่นจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโต ก่อนที่เขาจะคว้ามือที่จับคางเขาเอามาถือไว้หลวม ๆ
“ถ้าพี่บอกว่าพี่ยิ้มเพราะว่าพี่มีความสุขที่ได้ใช้เวลาอยู่กับแกง...แกงจะเชื่อพี่ไหมครับ”
“แล้วพี่เอาคนพิเศษที่พี่เล่าให้ผมฟังไปไว้ที่ไหนล่ะครับ”
“เค้าก็ยังอยู่ที่เดิมของเขา เหมือนกับเราที่ยังอยู่ในที่เดิมของเรา...”
พูดจบ ฮั่นก็พยายามจะใช้สายตาสื่อความหมายบางอย่างไปให้คนตรงหน้าได้รับรู้ แต่แล้วแรงกระชากบริเวณต้นแขน ทำให้ร่างของฮั่นเขยิบออกห่างจากแกงส้มทันที
“ฮั่นคะ...เนยคิดถึงคุณจังเลย มาเที่ยวที่นี่ทำไมไม่บอกเนยคะ เนยจะได้พามา” ผู้หญิงที่แต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันตั้งแต่หัวจรดเท้าเอ่ยพูดพลางบดเบียดหน้าอกที่ดันจนล้นออกมาจากเสื้อกล้ามของเธอกับท่อนแขนของฮั่นอย่างจงใจยั่วยวนชายหนุ่ม แต่...
“คุณเป็นใครครับ”
“แน่ะ...ฮั่นก็ทำเป็นไม่รู้จักเนยไปได้ เนยไงคะ...’กิ๊ก’ คุณน่ะ”
ทันทีที่ได้ยินคำว่ากิ๊ก ฮั่นถึงกับผงะ!
คนอย่างเขาเนี่ยนะมีกิ๊ก...แค่แฟนยังไม่มีเลย แล้วจะไปมีกิ๊กได้ยังไง!?!
“เอ่อ...คุณเนี่ยนะครับเป็นกิ๊กผม ผมจะมีกิ๊กได้ยังไงในเมื่อผมยังไม่มีแ...”
“ผมขอตัวก่อนนะพี่ฮั่น...” ฮั่นยังพูดไม่ทันจบประโยคดี คนที่ยืนเงียบมาหลายนาทีก็โพล่งพูดขึ้นมา ก่อนที่แกงส้มจะเดินกระแทกไหล่ของฮั่นออกไปจากบริเวณนี้
ฮั่นรีบแกะมือที่กอดแขนของเขา แต่ผู้หญิงคนนี้มือปลาหมึกชะมัด!
“ขอโทษนะครับ...ผมไม่รู้จักคุณจริง ๆ แล้วผมก็ไม่ชอบผู้หญิงด้วย คนที่เดินออกไปเมื่อกี้ เป็น ‘แฟนผม’ครับ เพราะฉะนั้น...กรุณาปล่อยผมเถอะครับ”
คำพูดที่มาพร้อมกับใบหน้าจริงจัง ทำให้มือที่รัดแน่นบริเวณท่อนแขนค่อย ๆ คลายพันธนาการออก หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้ฮั่น ก่อนที่เธอจะสารภาพความจริงให้ชายหนุ่มฟัง
“พ่อของน้องคนนั้นเขาจ้างให้เนยมาบอกว่าเป็นกิ๊กคุณ เพื่อให้คุณกับแฟนเข้าใจผิดกัน เนยขอโทษนะคะที่เนยต้องทำ เนยต้องการเงินจริง ๆ”
คำสารภาพของหญิงสาวทำให้ฮั่นโกรธเธอไม่ลง
“ช่างมันเถอะครับ ผมเข้าใจคุณ” พูดแค่นั้น ฮั่นก็รีบวิ่งตามแกงส้มออกไปทันที คิม จ๋าและหนึ่งเมื่อเห็นแกงส้มและฮั่นวิ่งออกไป ทั้งสามคนก็รีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อวิ่งมาถึงโต๊ะ ฮั่นก็เจอแต่สุนั่งอยู่คนเดียว
“สุ...แกงส้มกับป๊าล่ะ”
“กลับไปแล้วล่ะ มีเรื่องอะไรกันหรอ สุเห็นเหมือนแกงส้มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยนะ...” สุว่าก่อนที่เธอจะต้องยกมือขึ้นมาโอบบ่าคนที่ทรุดตัวลงนั่งข้างเธอ
“มีเรื่องอะไรกันวะไอ้ฮั่น”
“พ่อของแกงส้มจ้างผู้หญิงคนหนึ่งมาบอกกับแกงส้มว่าเธอเป็นกิ๊กของฉัน...”
“เวร!”
“จั๊ดง่าว!”
“งามไส้เลย!”
“ทำไงดีวะ...เฮ้อ...แกงเข้าใจกูผิดไปเลย” ฮั่นว่าพลางยกมือขึ้นมาขยี้ผมตัวเองอย่างไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดี
จะตามไปง้อ...พ่อของแกงส้มต้องกีดกันแน่ ๆ
แต่ถ้าไม่ไปอธิบาย...รับรองได้ว่าแกงส้มได้งอนจนยกเลิกการเป็นแฟนชัวร์ ๆ
เอ๊ะ...แต่เขากับแกงก็ไม่ได้เป็นแฟนกันจริง ๆ นี่นา...แล้วแกงจะโกรธเขาจนจะร้องไห้ทำไม
หรือว่า...แกงจะรู้สึก ‘อะไร’ กับเขา...
คิดได้แบบนี้ ฮั่นก็ตัดสินใจได้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไปดี
“กลับบ้านก่อนนะ...มีอะไรต้องไปทำว่ะ”
ถึง น้องเคเอส...
เฮ้อ...ตอนนี้พี่กำลังครุ่นคิดแผนการง้อแฟนของตัวเองอยู่ครับ...ไม่รู้ว่าจะง้อสำเร็จไหม
ป๊าของแฟนพี่เค้าเล่นแรงมาก ถึงขนาดไปจ้างใครก็ไม่รู้มาบอกว่าเป็นกิ๊กของพี่ ทั้ง ๆ ที่คนอย่างพี่เนี่ยนะจะไปมีกิ๊กได้ แค่แฟนเป็นตัวเป็นตนสักคนยังหาไม่ได้เลย...
เฮ้อ...
แต่เขาก็เข้าใจพี่ผิดไปแล้วครับ พี่ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีแล้วตอนนี้...หวาดหวั่นในใจมาก!!!
พี่ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนที่พี่แคร์ได้มากขนาดนี้...เขาเป็นคนที่ทำให้พี่ไม่เป็นตัวของตัวเองเลยเวลาที่อยู่กับเขา ต่างจากเวลาที่พี่อยู่กับเรานะ เพราะเวลาที่พี่อยู่กับเราพี่จะรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง...แต่รู้ไหมครับว่าพี่มีความสุขทุกนาทีที่ได้ลองไม่เป็นตัวของตัวเอง...
วันนี้เราได้ไปวิ่งกันตอนเช้า...และเกือบจะ...’จุ๊บ’ กันแล้ว...ถ้าไม่มีลูกบอลของเด็กบ้าคนหนึ่งลอยมาขัดเสียก่อน แต่คงเป็นเพราะมันยังไม่ถึงเวลาของเราสองคนมั้งครับ...เราก็เลยยังไม่สามารถที่จะทำตามที่ใจเราต้องการได้
เฮ้อ...
และนอกจากเราจะได้ไปทำกิจกรรมวิ่งกระชับความสัมพันธ์กันในตอนเช้าแล้ว ตอนมืดเรายังได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงด้วยกันอีก เป็นครั้งแรกนะครับที่พี่ได้ไปสถานที่แบบนี้...และเป็นครั้งแรกของแฟนพี่เหมือนกันที่ได้ไป...เราได้มีประสบการณ์การมาเที่ยวผับครั้งแรกด้วยกัน...ช่างน่าประทับใจจริง ๆ
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์อย่างที่พี่บอกไว้ข้างต้น เฮ้อ...
ทำยังไงดีครับ...
ทำยังไงดี...
พี่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง...ขอไปนอนคิดก่อนนะครับ ถ้าคิดได้แล้วและได้ผลเป็นอย่างไร พี่จะมาเขียนเล่าให้เราฟังพรุ่งนี้นะครับ
นอนหลับฝันดีนะน้องเคเอส...อยากเจอน้องเร็ว ๆ แล้วนะครับ ^^
จาก พี่หมี...
ปล. น้องเคเอสเป็นกำลังใจให้พี่ง้อแฟนสำเร็จด้วยนะครับ...หวังว่าคนสำคัญอย่างเราจะเป็นกำลังใจให้พี่นะครับ...ดูแลตัวเองด้วยเน้อ...พี่คนนี้เป็นห่วง...
เมื่อเขียนมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย ฮั่นก็ได้รู้ตัวเองทันทีว่า...หากน้องเคเอสกับแกงส้มเป็นคนละคนกัน เขาก็รู้หัวใจตัวเองแล้วว่าเขาจะเลือกใครหากต้องถึงเวลาที่ต้องเลือกขึ้นมาจริง ๆ แต่หากคนทั้งสองเป็นคน ๆ เดียวกัน เขาก็จะรู้สึกยินดีปรีดาเป็นที่สุด...
ว่าแต่...แล้วเขาจะง้อแกงส้มของเขายังไงล่ะเนี่ย!
ฮั่นล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างพลางยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผาก สายตาคมมองเพดานสีขาวแล้วนึกไปถึงคนอีกคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล
ป่านนี้แกงส้มจะเป็นยังไงบ้างนะ...
ถึง พี่หมี
ฮึก ๆ ฮือออออออออออ คนใจร้าย!
มีกิ๊กด้วย!
ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!
ทำไมไม่บอกก่อนว่ามีใครอยู่แล้ว...
บ้าที่สุด! ไอ้พี่ฮั่นบ้าที่สุด!
พี่หมีครับ...ทำไมพี่คนนั้นถึงทำกับผมแบบนี้! เขามีใครแล้วทำไมเขาถึงไม่บอกผม...ชอบผู้หญิงอกอึ๋มแต่มาทำให้ผมหวั่นไหว มันใช้ได้ที่ไหนกัน!
ผมเสียใจมาก...มาก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ตอนนี้ผมรู้แล้วนะครับว่าผมรู้สึกอย่างไรกับเขา...ผมคงคิดกับเขามากเกินกว่าคนรู้จักทั่ว ๆ ไป มากเกินกว่าพี่น้อง มากกว่าเกินกว่าเพื่อน...แต่จะมากถึงไหนนั้น...ผมไม่อาจรู้ได้จริง ๆ
บางทีผมอาจจะต้องขอบคุณกิ๊กคนนั้นของเขา เพราะมันทำให้ผมรู้หัวใจตัวเองมากขึ้น...
ทั้ง ๆ ที่พยายามบอกตัวเองแล้วแท้ ๆ ว่าอย่าไปมีความรู้สึกอะไรกับเขา แต่ผมก็ห้ามตัวเองไม่ได้ ผมรู้สึกไปแล้ว และผมก็เรียกความรู้สึกนั้นกลับคืนมาไม่ได้...
ผมควรทำยังไงดีครับ...
ทำยังไงดี...
นาทีนี้ผมคิดอะไรไม่ออกจริง ๆ...
ถ้าพี่หมีอยู่ข้าง ๆ ผมตอนนี้ก็คงจะดีสินะครับ...
ป่านนี้เขาจะคิดมาอธิบายเรื่องราวให้ผมฟังไหมนะ...หรือว่า...เขาจะปล่อยให้ผมเสียใจไปคนเดียวแบบนี้...ถ้าพี่หมีรู้ว่าเขาจะทำยังไง พี่หมีมาบอกผมทีนะครับ...
วันนี้ผมคงไม่มีอะไรจะเขียนเล่าให้พี่ฟัง นอกจากความรู้สึกที่อยากจะระบาย...ขอโทษที่ทำให้พี่หมีต้องเสียเวลาอ่านข้อความไร้สาระพวกนี้นะครับ...
แค่ผมอยากให้พี่รู้ว่า...’ผมเสียใจ’...
จาก น้องเคเอส
ปล. ถ้าหากพี่มีความรู้สึกดี ๆ ให้ใคร พี่ก็อย่าไปทำให้เค้าต้องเสียใจแบบพี่ฮั่นคนนี้นะครับ...เพราะน้ำตาที่รินไหล...อาจทำให้ความรู้สึกที่มีไม่เหมือนเดิมก็ได้...แล้วเจอกันใหม่ฉบับหน้าครับ
น้ำตาที่หยดลงไปบนตัวอักษรตัวสุดท้าย ถูกเจ้าตัวใช้นิ้วซับมันออก แต่รอยจางของหมึกก็ทำให้คนเขียนรู้ว่า...ตอนนี้เขากำลังร้องไห้อยู่...
เขารู้ตัวแล้วว่า..คนที่มีความสำคัญกับเขาในตอนนี้ก็คือพี่ฮั่น...คือคนที่อยู่ในชีวิตจริง ไม่ใช่คนในจดหมาย และหากคนสองคนไม่ใช่คนเดียวกันอย่างที่เขาคิด...คนที่เขาจะเลือกก็คือคนที่ทำให้เขาต้องร้องไห้...แต่หากเป็นคน ๆ เดียวกัน...มันก็คงจะดี
ว่าแต่...แล้วคนที่ทำให้เขาเสียใจ จะมาง้อเขาไหมนะ...
หรือว่าจะปล่อยให้เขาเข้าใจไปแบบนี้!
เฮ้อ...ไม่อยากนอนหลับเลย...
แกงส้มครุ่นคิดในใจก่อนที่เขาฟุบหน้าลงกับตุ๊กตาสนูปปี้ตัวโต น้ำใสที่ไหลซึมออกมาจากดวงตากำลังเปียกกระจายไปเป็นวงกว้าง...
หากความเสียใจถูกระบายออกมาเป็นหยาดน้ำตา...เขาก็อยากให้คนที่อยู่ไม่ไกลจากเขารู้ว่า...ตอนนี้เขากำลังรู้สึกอย่างไร...
พื้นฐานของความรัก...ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของคนสองคน...ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลเป็นของตัวเอง ไม่ว่าใครก็มักจะคิดว่าเหตุผลของตัวเองถูกเสมอ โดยที่เราคงจะลืมคิดไปว่า...เหตุผลของเรากับเหตุผลของอีกคนบรรทัดฐานความถูกต้องไม่ได้มาจากบรรทัดฐานเดียวกัน...จงเปิดใจยอมรับฟังเหตุผลของอีกคนแล้วหาจุดที่เป็นกึ่งกลาง แล้วความรักที่ไม่เข้าใจก็จะสามารถหลอมละลายเป็นความรักเดียวกัน...
//วันนี้มาอัพไม่ดึกมาก (หรอ?) ฮ่า ๆ ๆ ๆ เอาเป็นว่า...มาอัพแล้วนะค้า ~ เรียกได้ว่าช่วงนี้หมกมุ่นอยู่กับฟิคยาวจริง ๆ ตั้งใจว่าจะอัพฟิคสั้นให้ทันวันฮั่นแกง แต่คาดว่าคงไม่ทัน แต่จะพยายามเขียนให้ได้มากที่สุดแล้วกันนะคะ...อ่านฟิคยาวรอไปพลาง ๆ ก่อนเนอะ...
สุขสันต์วันฮั่นแกงเดย์ (ที่สามารถมีได้ทุก ๆ วัน) นะคะ ^^
ทั้ง ๆ ที่ชาวบ้านชาวช่องเขาเขียนกันหวานหยดย้อย แต่ตอนนี้ของเค้ากลับมีมาม่ามาซะได้! โถๆๆๆๆ พี่ฮั่นโดนป๊าแกล้งแรงเนอะ ฮ่า ๆ ๆ แต่อุปสรรคก่อให้รักบังเกิดนะคะ...เอาใจช่วยพี่ฮั่นให้คิดแผนง้อน้องแกงให้สำเร็จกันนะคะ ~~ ><
ขอบคุณทุกการติดตามมาก ๆ ค่ะ รักคนอ่านทุกคนจริง ๆ แล้วพบกันตอนต่อไปค่ะ
(มีคำผิดต้องขออภัยนะคะ)
หวังว่าฟิคตอนนี้จะทำให้คนอ่านยิ้ม อิน ฟินและมีความสุขเหมือนทุกครั้งนะค้า >O<~
ความคิดเห็น