คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : บทที่ 13 : อาหารมื้อเย็น
บทที่ 13 : อาหารมื้อเย็น
หลังจากที่เขียนจดหมายเสร็จแล้ว แกงส้มก็พับกระดาษแผ่นนั้นใส่ซอง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นเดินไปหยิบแป้งเด็ก (ที่เขาชอบใช้) เทลงไปในซอง
“พี่ให้แป้งเย็นผมมา ผมก็เอาแป้งเด็กผมให้กลับไปนะครับ...อย่า ‘หลงกลิ่นผม’ จนโงหัวไม่ขึ้นล่ะพี่หมี”
พูดจบ แกงส้มก็อมยิ้มจนแก้มป่อง
บางทีความรักก็มักจะทำให้เราสามารถทำอะไรที่เด็กลงได้ (มาก) ทั้ง ๆ ที่สิ่งนั้นมันไม่ใช่ตัวของเราเอง
“แกงจะไปไหนลูก ?” คนเป็นพ่อเอ่ยทักลูกชายของตัวเองที่ซึ่งกำลังใส่รองเท้าอยู่ แกงส้มเงยหน้าไปมองบิดา ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มไปให้
“ผมจะออกไปทำธุระนิดหน่อยครับป๊า แล้วก็ว่าจะเลยไปซื้ออาหารเย็นมาเลยครับ ว่าแต่ว่า...ป๊าตื่นไวจัง”
“หรอ...งั้นป๊าไปด้วยสิ”
“ไม่เป็นไรครับป๊า ไม่ไกลหรอก ป๊าอยู่ที่นี่พักผ่อนไปเถอะ จะได้อยู่คุยกับอาคิมด้วยไงครับ”
“อืม...ถ้างั้นก็ตามใจเราแล้วกัน ไปดีมาดีนะลูก”
“ครับป๊า” แกงส้มรับคำบิดาเสร็จ เขาก็เดินตัวปลิวออกไปจากห้อง
เมื่ออยู่ภายในห้องเพียงลำพัง บิดาของแกงส้มก็เดินไปเคาะห้องคนเป็นน้องสาว
“ว่าไงพี่หนู”
“ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ”
“ได้สิคะ...” เมื่อเห็นใบหน้าที่จริงจังของคนเป็นพี่ชาย คิมก็เดินออกมาจากห้องนอน (ชั่วคราว) พลางสาวเท้าตามคนเป็นพี่ไปนั่งที่โซฟา
“หมอนั่นมันชื่ออะไรนะ”
“ฮั่นค่ะพี่...”
“ชื่อจริงล่ะ”
“อิสริยะค่ะ”
“ชื่อเพราะดีนี่...แล้วมันทำงานที่ร้านเรานานหรือยัง”
“เอ่อ...ก็ประมาณสักเดือนกว่า ๆ ค่ะ”
“เดือนกว่า! แล้วมันไปรู้จักมักคุ้นกับแกงส้มได้ยังไง” เมื่อได้ยินระยะเวลาที่คิมตอบมา บิดาของแกงส้มก็ขมวดคิ้วหนาอย่างไม่ชอบใจทันที
ระยะเวลาแสนสั้นแค่นี้...ทำไมถึงกล้าบอกว่าเป็นแฟนกัน!
“อันนี้พี่ต้องไปถามแกงส้มนะคะ คิมก็ไม่ทราบรายละเอียดหรอกค่ะ รู้แต่ว่าเค้าสองคนเป็นแฟนกันแค่นั้นค่ะ ส่วนรายละเอียดเชิงลึก คิมไม่ได้ถามหลาน เพราะเห็นว่าโตแล้ว ทำงานเลี้ยงตัวเองได้แล้ว เรื่องแฟนเป็นเรื่องส่วนตัวที่เขาคงจัดการได้เอง โดยที่คิมไม่จำเป็นต้องเข้าไปก้าวก่าย” คำตอบของคนเป็นน้อง ทำให้บิดาของแกงส้มชะงักไป
จริงอยู่ที่เขาคิดว่าเป็นเรื่องดีที่แกงส้มมีแฟนแล้ว และคน ๆ นี้ก็น่าจะดูแลแกงส้มได้ แต่อารมณ์หวงลูกมันก็ทำให้เขาไม่อยากให้แกงส้มเป็นแฟนกับนายฮั่นอะไรนี่...
ยังไง...ในส่วนลึกของความรู้สึกคนเป็นพ่อก็อยากให้ลูกชายตัวเองมีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่ดี...
แม้ปากจะพูดว่ารับได้ที่แกงส้มกับฮั่นเป็นแฟนกันก็ตาม!
“แต่พี่หมายมั่นปั้นมือว่าจะให้แกงส้มมันเป็นแฟนกับหนู ‘ปั้นหยา’...”
“ปั้นหยา...? ที่เป็นลูกสาวผู้ว่าชุมพลน่ะหรอคะ”
“ใช่...คนนั้นแหล่ะ เพิ่งเรียนจบกลับมาจากอังกฤษ สวย คม เหมาะกับแกงส้มมาก” บิดาของแกงส้มว่า พลางยิ้มออกมาเล็ก ๆ เมื่อนึกไปถึงใบหน้าของคนที่เขาตั้งใจว่าจะให้มาเป็นแฟนกับลูกชายคนกลางของเขาอย่างแกงส้ม
“เหมาะสมกับแกงส้ม แต่ไม่ใช่คนที่แกงส้มรักนะพี่”
“แล้วแกรู้ได้ยังไงว่าแกงส้มรักนายฮั่น...ดูจากท่าทางของสองคนนี้แล้ว คงเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่นาน อาจจะยังไม่ถึงขั้นรักกันลึกซึ้งก็ได้”
“แล้วพี่รู้ได้ยังไงล่ะคะว่าแกงส้มไม่ได้รักฮั่น”
“ก็...”
“พี่อย่าลืมนะคะว่าพี่เป็นคนย้ำกับแกงมันเสมอเองว่า...’ไม่ว่าแกงส้มจะรักใคร ป๊าก็รักคนนั้น เพราะถ้าแกงส้มรักใครแสดงว่าคน ๆ นั้นคือคนที่พร้อมจะดูแลแกงส้มได้’...พี่พูดเองนะ คิมจำได้”
จบคำพูดของคนเป็นน้อง บิดาของแกงส้มก็เอนหลังพิงโซฟาทันที
มันก็จริงอย่างที่น้องสาวเขาพูด...
หรือเขาควรจะปล่อยวาง แล้วให้แกงส้มเป็นคนตัดสินใจชีวิตตัวเอง...
แต่เขาเป็นพ่อนะ...เขามีสิทธิ์ที่จะหวงลูกชายของเขาสิ!
ถ้าอย่างนั้น...เขาจะยอมรับนายฮั่นเรื่องที่เป็นแฟนกับแกงส้มก็ได้ แต่...
ยังไงนายฮั่นก็ต้องฝ่าด่าน ‘หวงลูก’ ของเขาไปให้ได้เสียก่อน...
เขาถึงจะยอมให้นายฮั่นเป็นคนดูแลแกงส้ม
เจ็ดวันที่เขาอยู่ที่นี่...นายฮั่นจะต้องโดนพิสูจน์ตัวเอง!!
“ก็ได้...พี่จะยอมให้แกงส้มกับฮั่นเป็นแฟนกัน แต่หมอนั่น...จะต้องโดน ‘จัดหนัก’!!!”
จบคำพูดของคนเป็นพี่ชาย คิมก็แอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ท่าทางแผนการที่ฮั่นแกล้งเป็นแฟนปลอม ๆ กับแกงส้ม จะมีอุปสรรคชิ้นโตเสียแล้ว
หึ...ได้พิสูจน์ตัวเองกับพ่อแกงส้ม แล้วก็ยังได้พิสูจน์ความรู้สึกที่มีกับแกงส้มไปพร้อม ๆ กันเลยสินะฮั่นนี่ที่รัก...เดี๋ยวก็รู้...หมู่หรือจ่า...
ทางด้านแกงส้มที่ตอนนี้เดินทางมาถึงหน้าร้านหนังสือแบ่งปันแล้ว ชายหนุ่มก็เดินเข้าไปภายในร้านทันที กลิ่นของหนังสือที่ลอยออกมาทักทาย ทำให้เขายิ้มออกมา
เสียงของท่วงทำนองเพลงรักที่ดังเบา ๆ เคล้าไปกับบรรยากาศที่ดูอบอุ่นเป็นกันเองของผู้คนที่ยืนหลบมุมอ่านหนังสือบ้าง จับคู่คุยกันเรื่องหนังสือบ้าง ยิ่งทำให้แกงส้มยิ้มกว้างมากขึ้น
ปับ!
แรงตบบริเวณไหล่ เรียกดวงตากลมโตให้หันไปมอง
“พี่ป๊อก...”
“เออ...พี่เอง ยืนยิ้มอะไรคนเดียววะ”
“ไม่มีอะไรหรอกพี่ ก็แค่...เห็นบรรยากาศร้านพี่แล้วอบอุ่นดี วันนี้คนเข้าเยอะนะ” แกงส้มว่าก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์ โดยมีร่างเพรียวของป๊อกเดินตามไปนั่งที่เก้าอี้ตัวข้าง ๆ
“อืม...วันนี้คนเยอะอยู่ แวะมาส่งจดหมายล่ะสิ เมื่อตอนบ่าย ๆ คุณหมีเค้าก็แวะเข้ามานะ พี่ก็บอกเค้าตามที่เราบอกนั่นแหล่ะ ว่าแต่...แล้วมีจดหมายมาด้วยไหมเนี่ย ?”
เมื่อได้ยินคำว่าตอนบ่าย ๆ แกงส้มก็หูผึ่งทันที...เวลานั้นมันเป็นเวลาที่พี่ฮั่นขอตัวไปทำงาน...
เป็นคนเดียวกันจริง ๆ สินะ...
เอ๊ะ...หรือว่าแค่บังเอิญ ?
“มีครับ แต่ว่า...คราวนี้ผมจะไม่มารับและส่งจดหมายเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์นะพี่...เพราะผมมีอะไรบางอย่างที่อยากจะพิสูจน์”
“อะไรบางอย่างที่อยากจะพิสูจน์...อะไรวะ ?” ป๊อกถามพลางขมวดคิ้วมุ่น แกงส้มยิ้มออกมานิดหน่อย ก่อนจะหยิบจดหมายในกระเป๋าสะพายออกมา แล้วยื่นส่งให้คนเป็นพี่ ป๊อกยื่นมือออกมารับ ก่อนจะอมยิ้มเมื่อได้กลิ่นแป้ง(กลิ่นเดียวกับที่แกงส้มชอบใช้)ลอยออกมาจากในซองจดหมาย
เป่ามนต์(แป้ง)ใส่คุณหมีสินะแกงส้ม!
“ไม่บอกหรอกพี่ป๊อก เอาไว้พี่รอลุ้นเองแล้วกัน ฝากบอกพี่หมีด้วยว่า...แล้วเจอกันอีก 8 วันข้างหน้า...อ๊ะ! โทรศัพท์มา เดี๋ยวขอรับก่อนนะพี่..”
พูดยังไม่ทันจบประโยคดี โทรศัพท์ของแกงส้มก็แผดเสียงดัง เจ้าตัวรีบล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะต้องตาเบิกโตเมื่อเห็นชื่อที่ขึ้นบนหน้าจอ
‘คุณแฟน’
คุณแฟน = พี่ฮั่น...
อ๊ากกกกกกก ไอ้พี่ฮั่นบ้า! มาตั้งชื่อตัวเองในโทรศัพท์เขาแบบนี้ได้ยังไง บ้าที่สุด!
(รับช้า)
“พี่ไม่ต้องมาพูดเลย ใครใช้ให้พี่มาตั้งชื่อตัวเองแบบนั้นในโทรศัพท์ของผม” แกงส้มโวยวายออกมาเสียงดัง ก่อนที่เขาจะโดนป๊อกตีเข้าที่ไหล่ พลางส่งสายตาไล่ให้ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก เนื่องจากเสียงโวยวายของเขากำลังรบกวนสมาธิคนที่อ่านหนังสือภายในร้าน แกงส้มรีบก้มหัวขอโทษทุกคนที่มองมา ก่อนจะก้าวเร็ว ๆ เดินออกไปคุยโทรศัพท์บริเวณด้านนอกร้าน
(ทำไมอ่ะ เวลาแกงเห็นพี่โทรไป จะได้รู้เลยไงว่าเป็นพี่)
“จะบ้าหรอ! แค่พี่ตั้งชื่อพี่ ผมก็รู้แล้วว่าพี่โทรมา”
(น่า...ชื่อนี้แหล่ะ เหมาะสุดแล้ว เพราะว่าพี่ก็ตั้งชื่อแกงในโทรศัพท์ด้วยชื่อนี้เหมือนกัน...) แล้วคำพูดนี้ของคนปลายสายก็ทำให้คนฟังต้องเม้มปากแน่นอย่างรู้สึกเขินขึ้นมาทันที
“เออ ๆ ๆ จะตั้งชื่ออะไรมันก็เรื่องของพี่ ว่าแต่...โทรหาผมมีอะไรครับ”
(ตอนนี้แกงอยู่ไหน ?)
“อยู่ร้านหนังสือฮะ”
(หรอ...ร้านหนังสือแถวไหนอ่ะ)
“ก็ร้านหนังสือที่พี่เคยมานั่งรอคนพิเศษของพี่ไง” เมื่อแกงส้มพูดจบ เขาก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
ถ้าพี่ฮั่นคือคน ๆ เดียวกับพี่หมี...งั้นแสดงว่าวันนั้นที่พี่ฮั่นนั่งรอคนพิเศษ...ก็แปลว่านั่งรอเขาน่ะสิ!
(อ๋อ...งั้นเดี๋ยวพี่แวะไปรับ)
“หืม...เลิกงานแล้วหรอ นี่มันเพิ่งจะหกโมงเองนะ” คิ้วสวยขมวดคิ้วก่อนจะต้องร้องอ๋อ เมื่อได้ฟังคำอธิบายต่อมาของคนที่อยู่ปลายสาย
(พอดีวันนี้พี่ขอลางาน ทำอาหารเย็นมาฝากพ่อแฟนไง)
คนฟังรู้สึกจั๊กจี้ที่หัวใจเล็ก ๆ กับคำว่า ‘พ่อแฟน’
เพราะมันให้ความรู้สึกที่บอกไม่ถูก...
ส่วนคนพูดเอง เมื่อพูดไปแล้ว เขาก็อดที่จะยกมือมาตบเบา ๆ ที่หน้าอกตัวเองไม่ได้...
ทำไมใจเต้นแรงจังว้า...แค่คุยโทรศัพท์กับไอ้ตัวแสบแค่นี้เอง นี่อย่าบอกนะว่าเขา...กำลังรู้สึกกับเจ้าเด็กแกงส้มมากกว่าแค่หวั่นไหวแล้วน่ะ...
ไอ้บ้าฮั่นเอ๊ย!
“ถ้างั้นเดี๋ยวผมยืนรอหน้าร้านก็แล้วกันครับ อีกนานไหมอ่ะกว่าพี่จะถึง...”
(ไม่เกิน 15 นาที พี่ถึงแล้ว ยืนรอได้เลย)
“ผมก็ต้องยืนรออยู่แล้วพี่ จะให้ผมนอนรอหรือไง” แกงส้มแกล้งตอบฮั่นไปแบบกวน ๆ พลางอมยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงใบหน้าของคนที่อยู่ปลายสาย
ถ้าให้เดา...พี่ฮั่นคงกำลังทำหน้ายู่แบบอยากจะเขกหัวเขาเต็มแก่
(กวนหรอแกงส้ม เดี๋ยวจะโดนนะ)
“กลัวหรอ...แน่ใจก็มาดิ”
(รอให้ไปถึงก่อนเถอะ จะทำโทษเด็กกวน)
“ฮ่า ๆ ๆ รอให้มาทำโทษอยู่นะคร้าบบบบบ”
(หึ ๆ ทำเป็นพูดดีไป...เดี๋ยวเจอบทลงโทษของพี่แล้วเราจะหนาว แค่นี้นะ...แล้วเจอกัน) พูดจบ สายก็ตัดไป ทิ้งให้แกงส้มแลบลิ้นใส่โทรศัพท์อย่างไม่นึกเกรงกลัวกับบทลงโทษของคนปลายสาย
ก็อยากจะรู้เหมือนกัน...ว่าจะทำอะไรเขาได้!
แกงส้มเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้าสีสดใส พลางยิ้มออกมา ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในร้านหนังสืออีกครั้ง
“คุยกับใครน่ะ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะ”
ป๊อกเอ่ยแซวคนที่เดินยิ้มเข้ามา พลางใช้สายตามองจับสังเกตกิริยาอาการของคนเป็นน้อง
“คุยกับคนรู้จักครับ ไม่มีอะไรหรอกฮะ”
“หรอ...อืม ๆ ไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร แต่อย่าให้รู้ว่านอกใจคุณหมีของฉันนะยะ ไม่งั้น...” ป๊อกว่า พลางเอานิ้วมาทำท่าเชือดคอตัวเองเป็นการขู่คนตรงหน้า
“โอ๊ยพี่ป๊อกนี่ก็เวอร์ตลอด...ว่าแต่พี่เหอะ กลับนายตฤณเป็นยังไงบ้างครับ”
“ก็...เรื่อย ๆ แหล่ะ เหมือน ๆ เดิม” คำตอบที่มาพร้อมกับอาการยิ้มนิด ๆ ทำให้แกงส้มอดที่จะเอามือไปผลักไหล่คนเป็นพี่เบา ๆ ไม่ได้
“เหมือนๆ เดิมแต่ยิ้มไม่หุบเนี่ยนะ อิจฉาว่ะ”
“ไม่ต้องมาอิจฉาฉันเลยย่ะ ว่าแต่ว่า...แกจะไม่บอกฉันจริง ๆ หรอว่าทำไมแกถึงจะไม่มาส่งจดหมายให้คุณหมีถึงอาทิตย์หนึ่งน่ะ”
“ไม่บอกหรอกพี่...มันเป็นความลับระหว่างผมกับพี่หมี...ผมไปละ เดี๋ยวมีคนมารับ” พูดจบ แกงส้มก็โบกมือลาป๊อก ก่อนจะเดินออกไปยืนรอฮั่นที่หน้าร้านหนังสือ
ไม่ถึง 15 นาทีอย่างที่ฮั่นบอกไว้ รถเก๋งสีขาวก็มาจอดเทียบหน้าร้าน ฮั่นกวักมือเรียกร่างโปร่งที่ยืนมองท้องฟ้าให้เดินมาขึ้นรถ
“เดี๋ยวรอพี่ตรงนี้แป๊บนะ พี่ขอไปทำธุระก่อน”
เมื่อแกงส้มขึ้นมานั่งที่เบาะข้างคนขับ ฮั่นก็ขอตัวลงไปทำธุระ...
ซึ่งธุระที่ว่าก็คือธุระที่ร้านหนังสือที่เขาแกงส้มเพิ่งจะเดินจากมา
“ชัดขนาดนี้...ต้องเป็นพี่แน่นอนพี่ฮั่น!”
แกงส้มนั่งมองคนที่เดินเข้าไปในร้านจนเขาเดินออกมาจากร้าน ในมือของร่างสูงมีหนังสือเล่มหนามาหนึ่งเล่ม...แต่ไม่มีจดหมาย
เอ๊ะ! หรือว่าเขาจะเอาจดหมายใส่ไว้ในหนังสือ แบบนี้มันต้องลองขอดูแฮะ
“หนังสืออะไรอ่ะพี่ฮั่น ขอดูหน่อยสิฮะ” ทันทีที่ฮั่นนั่งเรียบร้อยแล้ว แกงส้มก็ขอดูหนังสือในมือเขาทันที ฮั่นส่งมาให้คนที่นั่งข้าง ๆ ทันที โดยไม่มีท่าทีลังเล
แกงส้มหยิบหนังสือมาพลิกดูทุกหน้า ก่อนจะพบว่าในนั้นไม่มีสิ่งที่เขาหา...
หรือว่าพี่ฮั่นจะเอาจดหมายใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ...บ้าน่า...จะใส่ได้ไง วันนี้พี่ฮั่นใส่เสื้อยืดสีดำ ไม่มีกระเป๋า!
“เป็นอะไรแกง ทำไมทำหน้าแบบนั้น”
“เปล่าครับ ไม่ได้เป็นอะไร ว่าแต่...พี่เข้าไปยืมหนังสือมาหรอ”
“อื้ม...พอดีพี่นึกอยากจะลองทำอาหารเวียดนามดูน่ะ ก็เลยแวะเข้าไปยืมหนังสือเล่มนี้ ทำไม...เรามีอะไรสงสัยหรอ” ฮั่นเอ่ยถามพลางหันหน้ามามองคนที่นั่งข้าง ๆ
เขาว่าวันนี้แกงส้มทำท่าทางแปลก ๆ เหมือนจะจับผิดเรื่องอะไรเขาสักอย่าง...แต่เขาไม่รู้ว่าเรื่องอะไร
“ไม่มีสงสัยนี่พี่ฮั่น ไม่มีเลย...ฮ่ะ ๆ ๆ ว่าแต่...วันนี้พี่ทำอะไรมาให้พ่อผมทานครับ”
ท่าทางที่มีพิรุธสุด ๆ ของแกงส้ม ทำให้ฮั่นแทบจะหลุดหัวเราะออกมา
เด็กน้อยเอ๊ย...จะโกหกอะไรก็เอาให้มันเนียน ๆ หน่อยสิ เล่นแสดงออกขนาดนี้...ใครมองไม่ออกก็โง่เต็มทนแล้ว!
แต่ก็เอาเถอะ...ไหลตามน้ำน้องไปก่อนแล้วกัน
“ก็มีหลายอย่างนะ ทั้งอาหารอิตาเลียนแล้วก็อาหารไทย พี่ไม่รู้ว่าพ่อแกงชอบทานอะไร ก็เลยทำมาหลายอย่างเลย”
“อะไรบ้างครับ”
“ก็มีลาซานญ่าผักโขม เห็ดอบชีส พาสต้าพริกแกงกุ้งแม่น้ำ ต้มยำทะเล ห่อหมกมะพร้าวอ่อน น้ำพริกมะขาม ปลากะพงนึ่งมะนาว ปลาหมึกยัดไส้ แล้วก็...ข้าวอบสับปะรด”
เมื่อไล่เมนูอาหารจนจบ ฮั่นก็หลุดหัวเราะออกมา เมื่อเห็นดวงตาของแกงส้มที่มองมาที่เขาอย่างอึ้ง ๆ
“เป็นอะไร...ทำไมมองพี่แบบนั้นแกง”
“ก็จะไม่ให้ผมมองได้ยังไงล่ะครับ พี่เล่นทำอาหารมาซะอย่างกับเลี้ยงผมทั้งครอบครัว พ่อผมแค่คนเดียวเองนะพี่”
“ก็พอดีตอนแรกก็ว่าจะทำแค่อย่างสองอย่าง แต่ทำไปทำมาเพลินไปหน่อย เลยหลายอย่างเลย เอาเถอะ เดี๋ยวชวนหมิวกับเพื่อน ๆ มากินด้วยก็ได้ กินข้าวหลาย ๆ คนสนุกดี อ้อ...เดี๋ยวไอ้จ๋าก็จะตามมาอีกคนหนึ่งด้วยนะ”
เมื่อได้ยินว่าฮั่นชวนคนอื่น ๆ มาด้วย แกงส้มถึงได้เข้าใจว่าทำไมชายหนุ่มถึงทำอาหารมาเยอะแยะขนาดนี้ แกงส้มหันไปมองถุงและกล่องใส่อาหารมากมายที่วางอยู่ที่เบาะด้านหลัง ก่อนที่เขาจะหันมายิ้มหวานให้คนที่นั่งขับรถข้าง ๆ มือบางเอื้อมไปหยิบมือที่วางอยู่บนพวงมาลัยมากุมไว้หลวม ๆ ด้วยมือทั้งสองข้าง
“ขอบคุณพี่ฮั่นมาก ๆ นะครับ ที่ช่วยผมมากขนาดนี้ พี่ใจดีกับผมจัง”
“ขอบคุณทำไม...พี่อยากทำให้ พี่ก็ทำ ไม่ได้หวังอะไร”
“จริงอ่ะ...ว้า...ผมว่าจะให้รางวัลความใจดีของพี่ซะหน่อย แต่พี่ไม่ได้หวังอะไร งั้นคงไม่ต้องเอาแล้วล่ะ ไอ้รางวัลนั่นน่ะ” แกงส้มว่า ก่อนจะปล่อยมือที่จับ พลางเสเบนสายตาออกไปมองที่นอกหน้าต่างรถด้านข้างเขา
“หือ...รางวัลอะไรแกง”
“ไม่บอก...ไม่ให้แล้ว”
“แกง...” ฮั่นเรียกชื่อคนที่นั่งข้าง ๆ พลางใช้มือข้างที่โดนกุมเมื่อกี้ไปจับคางเรียวให้หันใบหน้ามามองเขา ดวงตาที่มองสบกัน ทำให้หัวใจเต้นไหวไปตามความรู้สึกที่เกิดขึ้นของคนทั้งสอง
“เอาไว้...กินข้าวเสร็จแล้วผมจะบอกนะ ว่ารางวัลของผมคืออะไร ตกลงไหมครับ”
“ก็ได้ ๆ หวังว่ารางวัลนั้นจะทำให้ถูกใจนะ”
“หึ...ไม่รู้สิครับ”
แล้วแกงส้มก็อมยิ้มออกมา ก่อนจะเขยิบปลายคางตัวเองออกจากการเกาะกุมของคนเป็นพี่ ฮั่นกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง ก่อนที่เขาจะมือขึ้นมาเกาท้ายทอยเพื่อแก้เขิน
ให้ตายเหอะ...บางทีแกงส้มก็น่ารักเกินไปนะ!
“โห...ถืออะไรมาเยอะแยะเลยแกง ฮั่นนี่...”
“อาหารเย็นของเราวันนี้ครับ อ้อ...เดี๋ยวผมกับอาคิมจัดใส่จานเองครับ พี่ฮั่นไปตามสาว ๆ เถอะครับ” เมื่อแกงส้มพูดจบ ฮั่นก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
อากัปกิริยาที่เชื่อฟังแกงส้มของฮั่น ทำให้คิมยิ้มออกมา
ยังไม่ทันจะเป็นแฟนกันจริง ๆ ก็เชื่อฟังเจ้าแกงส้มขนาดนี้...นี่ถ้าเป็นแฟนจริง ๆ คงเดินตามต้อย ๆ เลยมั้งเนี่ย...เฮ้อ...ฮั่นนี่ของฉันกลายเป็นแมวน้อยสุดเซื่องไปแล้วหรอ...เสียดายจัง!
“ป๊าล่ะครับ...?”
“นั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องน่ะ เดี๋ยวก็ออกมา”
“อ้อครับ...”
จากนั้นแกงส้มและคิมก็ช่วยกันจัดอาหารใส่จาน โดยมีสาว ๆ ในชุดนักศึกษาอย่างหมิว ปันปันและฟลุ๊คที่เพิ่งมาถึงช่วยอีกแรงหนึ่ง ฮั่นมองภาพคนเหล่านั้นแล้วเขาก็ยิ้มออกมา
ทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน แต่แค่เพียงอาศัยอยู่ห้องใกล้ ๆ กัน...แต่ความสัมพันธ์แลดูมีสายโยผูกเชื่อมโยงถึงกันมาก คงเพราะมีตัวเชื่อมที่ดี หรือไม่คนเหล่านี้ก็มีความรู้สึกดีต่อกันอยู่แล้ว
คนเรานั้น...แม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ก็สามารถที่จะมีความรักและความรู้สึกดี ๆ ให้กันได้ หากคนเหล่านั้นมีอะไรบางอย่างที่คลิกตรงกัน ไม่จำเป็นต้องชอบในเรื่องเดียวกันหรือมีความคิดความอ่านเหมือนกัน เพียงแค่มีอะไรบางอย่างที่เชื่อมถึงกันได้...แค่นั้นก็สามารถผูกพันและรักกันดั่งคนที่รู้จักกันมานานได้แล้ว...
“ทำไมอาหารมันเยอะแยะมากมายอย่างนี้ แล้วสาว ๆ เหลานี้นี่ใครกัน มาเยอะแยะเชียว” บิดาของแกงส้มเมื่อเดินออกมาจากห้องนอน เขาก็พบว่าบนโต๊ะอาหารตัวยาวมีสมาชิกนั่งอยู่กันเต็มไปหมด
“สวัสดีค่ะ...หนูชื่อจ๋านะคะคุณพ่อน้องแกง...เป็นเพื่อนสนิทของฮั่นค่ะ แล้วคนที่นั่งข้าง ๆ หนูชื่อว่า...”
“หมิวค่ะ เป็นน้องสาวป้าจ๋า...สวัสดีนะคะคุณลุง นี่ป้า...แนะนำตัวเองก็พอไม่ต้องแนะนำคนอื่นหรอก เพราะเค้าแนะนำตัวเองได้” จ๋ายังพูดไม่ทันจบประโยคดี หมิวก็เบรกเธอเสียหัวเกือบทิ่ม จ๋าซึ่งทำอะไรไม่ได้ จึงหันไปแยกเขี้ยวใส่คนเป็นน้องตัวเองทันที
ฝากไอ้ก่อนเถอะไอ้หมิว...ฮึ่ม!
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อฟลุ๊คนะคะ เป็นเพื่อนห้องข้าง ๆ พี่ฮั่นค่ะ”
“สวัสดีค่ะ ส่วนหนูชื่อปันปันค่ะ อยู่ห้องเดียวกับฟลุ๊ค”
“อ้อ...สวัสดีจ้ะเด็ก ๆ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะ ลุงเป็นพ่อของแกงส้ม ถ้ายังไงเรียกว่าพ่อก็ได้ครับ”
“ค่า...คุณพ่อ” แล้วคนที่เพิ่งแนะนำตัวไปก็ประสานเสียงกันเรียกบิดาของแกงส้มว่าพ่อทันที
“เอ่อ...อยากกินไข่เจียว”
แต่ก่อนที่ทุกคนจะลงมือรับประทานอาหารกัน บิดาของแกงส้มก็โพล่งประโยคนี้ออกมา
“ป๊า...กับข้าวเต็มโต๊ะจะอยากกินไข่เจียวไปทำไมเนี่ย” แกงส้มว่าก่อนจะหน้าเบ้เมื่อโดนเตะแข้งเบา ๆ จากคนที่นั่งตรงข้ามเขาอย่างฮั่น
“อยากกินไข่เจียวหรอครับ เดี๋ยวผมไปทำมาให้ครับ” พูดจบ ฮั่นก็ลุกออกจากโต๊ะอาหาร เดินออกไปทางห้องของตัวเองทันที
“หึ ๆ” เสียงหัวเราะของผู้เป็นพ่อ ทำให้แกงส้มรู้ได้ทันทีว่าพ่อของเขากำลังแกล้งพี่ฮั่น
“เอ้า กิน ๆ ๆ ทุกคนกินกันได้เลย เดี๋ยวลุงขอรอไข่เจียวก่อน”
ทุกคนหันมามองหน้ากันก่อนจะค่อย ๆ เริ่มทยอยทานอาหาร แต่แล้วเสียงเปิดประตูเข้ามาของคนร่างสูง ก็เรียกดวงตาทุกคู่ให้หันไปมอง
“โอ๊ะ! ขอโทษที่ขัดจังหวะครับ แต่ขอมาฝากท้องด้วยคนได้ไหมอ่ะ ?”
“พี่โน่! มาได้ไงเนี่ยพี่”
“ขับรถมาดิวะแกง ตักข้าวเผื่อพี่จานหนึ่งด้วย หิว...ลุงหนูสวัสดีครับ” คนมาใหม่เดินมานั่งข้างหมิวซึ่งมีที่ว่างพอดี สายตาคมหันมามองสบตาหญิงสาว ก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้เธอ แต่หมิวกลับเมินหน้าหนีรอยยิ้มนั้น พลางตักข้าวปากอย่างไม่สนใจ
เพล้ง!
เสียงใบหน้าของโตโน่ที่แตกละเอียดเนื่องจากโดนเมิน...
“มาแล้วครับ ไข่เจียวร้อน ๆ” แล้วคนอีกคนหนึ่งที่หายไปทำไข่เจียวก็เดินเข้ามาพร้อมจานที่บรรจุไข่เจียวสีเหลืองนวลน่ารับประทาน ฮั่นวางจานไข่เจียวไว้เบื้องหน้าของบิดาแกงส้ม
“ไม่อยากกินไข่เจียวแล้ว อยากกินผัดผักรวม...”
“ป๊า!”
“ทำไมแกง ป๊าก็อยากกินอะไรที่มันง่าย ๆ บ้าง เพราะไอ้ที่วางอยู่บนโต๊ะเนี่ย...มันดูหรูหราเกินไป ป๊ากินไม่ลง” พูดจบ คนพูดก็หันไปยิ้มตาใสใส่คนร่างสูงที่มีเหงื่อผุดบนหน้าผากเกลี้ยง
“ว่าไง...ทำให้กินได้ไหมเชฟฮั่น...”
“ได้ครับ รอผมสักสิบนาที เดี๋ยวผัดผักรวมจะมาเสิร์ฟครับ” พูดจบ ฮั่นก็วิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเองอีกครั้ง แกงส้มมองตามหลังร่างสูงไป ก่อนที่เขาจะหันมามองคนเป็นพ่อด้วยดวงตาที่แสดงออกถึงความไม่เข้าใจ
ไหนบอกว่ายอมรับไง...แล้วทำไมต้องแกล้งพี่ฮั่นแบบนี้เนี่ย!
ป๊านะป๊า...ว่าแล้วเชียวว่าต้องไม่ยอมง่าย ๆ
จากนั้นไม่ถึงสิบนาที จานผัดผักรวมที่มีไอร้อนลอยเหนือสีเขียวของผักก็ถูกวางตรงหน้าผู้ที่อาวุโสที่สุด
“อืม...น่ากินดีนะ แต่ตอนนี้อยากกินต้มจืดเต้าหู ซดอะไรร้อน ๆ สักหน่อยจะได้คล่องคอ”
“พี่หนู...ต้มยำก็มีนะพี่ ซดร้อน ๆ คล่องคอเหมือนกัน” คิมซึ่งนั่งมองดูอยู่เอ่ยพูดออกมา แต่...
“ต้มยำมันเผ็ด อยากกินจืด ๆ”
“ได้ครับ...เดี๋ยวผมไปทำต้มจืดเต้าหูมาให้ รอสัก 15 นาทีนะครับ” แล้วคนพูดก็วิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเองอีกครั้ง คราวนี้แกงส้มทนไม่ไหวแล้ว เขาลุกขึ้นเตรียมจะเดินตามฮั่นออกไป แต่ถูกมือของผู้เป็นพ่อจับข้อศอกเอาไว้
“จะไปไหนแกง”
“ผมก็จะไปช่วยพี่ฮั่นทำต้มจืดน่ะสิครับ”
“ไปช่วยทำไม ปล่อยให้ทำคนเดียวนั่นแหล่ะ”
“ป๊า...มันจะเกินไปแล้วนะ อาหารที่มีน่ะมันก็เต็มโต๊ะแล้ว และผมก็รู้ด้วยว่าป๊าแกล้งพี่ฮั่นเค้าอ่ะ ไหนบอกว่ายอมรับได้ไง แล้วไหงทำงี้ล่ะ” แกงส้มว่า ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตามแรงดึงของผู้เป็นบิดา
“ป๊ากำลังพิสูจน์ความอดทนของฮั่นอยู่”
“พิสูจน์เพื่อ ?”
“เพื่อทำให้แกงรู้ไงว่าฮั่นจะยอมทำเพื่อแกงได้แค่ไหน ลูกรู้ไหมว่า...ผู้ชายเรามีความอดทนไม่มากนัก หากไม่ใช่คนที่เขารักจริง ๆ เขาจะไม่มีวันยอมอดทนทำอะไรให้เป็นอันขาด และตอนนี้...ป๊าก็กำลังพิสูจน์ให้แกงดูว่าฮั่นเขารักแกงจริงไหม...”
คำพูดของผู้เป็นพ่อ ทำให้แกงส้มนิ่งไป...
พี่ฮั่นไม่ได้รักเขาอย่างที่ป๊าเข้าใจ...
เพราะฉะนั้นที่พี่ฮั่นทำไปนั้น มันไม่ได้มีอะไรแอบแฝงสักนิด ก็แค่ทำไป...เพราะอยากช่วยเขาเท่านั้น...อยากช่วยเพราะสงสารเขา...ไม่ใช่เพราะรักเขาอย่างที่ป๊าคิด...!
“ผมว่าป๊าพอเถอะ วันนี้พี่ฮั่นเขาก็เหนื่อยทำอาหารมาให้เราตั้งเยอะแล้วนะ”
“ก็ได้...ป๊าพอก็ได้ แต่พอสำหรับวันนี้นะ แต่วันพรุ่งนี้...จัดเต็มกว่านี้แน่”
แกงส้มส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมา สายตาของทุกคนที่มองมาที่เขา ทำให้แกงส้มนึกขึ้นมาได้ว่า ทุกคนยังไม่รู้ว่าเขากับพี่ฮั่นแกล้งเป็นแฟนกัน...
ดีนะ...ที่ทุกคนไม่พูดอะไร แม้แต่หมิวที่ชอบพูดอะไรออกมาอย่างใจคิดก็ยังใจดียอมเงียบ...
“ต้มจืดเต้าหู้มาแล้วครับ ร้อน ๆ ควันกำลังฉุยเลย” แล้วเสียงเริงร่าของคนที่เดินถือชามต้มจืดมา ก็เรียกให้ทุกสายตามองไปที่เขา บัดนี้เหงื่อของฮั่นก็ไหลอาบเต็มข้างแก้ม
ร้อนจากการทำอาหาร...
และร้อนจากการวิ่งไปวิ่งมา...แต่เขาก็มีความสุขนะ...
ก็เขาชอบทำอาหารนี่นา~
“เอาล่ะ...อาหารพร้อมแล้ว งั้นกินเลยนะ” แล้วคนพูดก็ตักต้มจืดเข้าปาก พลางกินนู่นกินนี่อย่างเอร็ดอร่อย แกงส้มส่ายหน้าให้กับอาการไม่ทุกข์ร้อนของคนเป็นพ่อ พลางส่งสายตาเป็นเชิงขอโทษไปให้คนที่ใส่ผ้ากันเปื้อนสีหวาน ฮั่นส่งยิ้มกลับมา ก่อนที่ร่างสูงจะทรุดตัวลงนั่งที่เดิม และตักข้าวเข้าปาก
บรรยากาศการรับประทานอาหารเป็นไปอย่างปกติสุขสนุกสนานตามที่มันควรจะเป็น
“เฮ้อ...อิ่มท้องแทบแตกแน่ะ ขอบคุณพี่แกงมาก ๆ เลยนะคะที่บอกให้พี่ฮั่นมาชวนฟลุ๊คกับปันปันมาทานข้าวเย็นด้วย ประหยัดค่าข้าวเย็นไปได้ตั้งหลายบาทแน่ะ” ฟลุ๊คว่าก่อนจะเอามาลูบท้องตัวเองอย่างรู้สึกอิ่มจริง ๆ อย่างที่พูด
“ไม่เป็นไรครับฟลุ๊ค เรื่องแค่นี้เอง ปันปัน...อิ่มไหม ยืนเงียบไม่ยอมพูดเลย”
“อิ่มมากจนพูดไม่ออกแล้วค่ะ อาหารแต่ละอย่างอร่อยเหาะมาก ๆ” ปันปันว่า ก่อนที่เธอจะขอตัวกลับห้อง โดยมีฟลุ๊คเดินตามไปติด ๆ
ส่วนจ๋าที่ยังนั่งคุยอยู่กับคิมที่มุมห้องซึ่งมีโต๊ะไม้เล็ก ๆ ก็เรียกดวงตาของแกงส้มให้มองไปอย่างงง ๆ
“มองอะไรแกง”
“ก็มองอาคิมกับพี่จ๋าน่ะสิครับ...จำได้ว่าเค้าสองคนชอบทะเลาะกันไม่ใช่หรอฮะ แล้วไหงถึงไปคุยกันหนุงหนิงแบบนั้นได้”
“ช่วงนี้สองคนนี้เค้าคงสงบศึกกันชั่วคราวมั้ง เหมือนรู้สึกว่าจะร่วมมือกันทำอะไรบางอย่างอยู่น่ะ...”
“อ้อ...อ้าว...นั่นพี่โน่ไปคุยโทรศัพท์กับใครหว่า...อยากรู้จัก แว๊บไปแอบฟังดีกว่า” พูดจบ แกงส้มก็รีบสาวเท้าเดินตามโตโน่ไปยังระเบียงทันที โดยมีฮั่นเดินตามไป
แต่ก่อนที่แกงส้มจะเดินไปใกล้ เขาก็เห็นหมิวที่ซึ่งยืนดูหนังสืออยู่ใกล้กับระเบียงแอบหลบมุมมองพี่โตโน่
“พี่มากินข้าวบ้านแกงส้มครับกวาง...ไม่มีผู้หญิงครับ มีแต่ผู้ชายทั้งหมดเลย...ยิ่งหมิว...ยิ่งไม่มีครับ...ครับ ๆ พี่จะโกหกกวางทำไม อืม...เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้วครับ แค่นี้นะ...บายครับ”
คนที่ยืนหลบมุมมองน้ำตาร่วงออกมาทันที
ไม่มีผู้หญิงครับ มีแต่ผู้ชายทั้งหมดเลย ยิ่งหมิว...ยิ่งไม่มีครับ...
พี่โน่โกหกผู้หญิงคนนั้น!
โกหก...ทำไมกัน...ใจร้ายที่สุด!
หมิวหมุนตัววิ่งออกไปจากบริเวณนั้นทันที ฮั่นซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เกิดอาการโมโห เขาเดินดุ่ม ๆ ไปกระชากคอเสื้อของโตโน่ทันที
“เฮ้ย! อะไรของคุณเนี่ยคุณฮั่น! อยู่ดี ๆ มากระชากคอเสื้อผมทำไม”
“ผมไม่รู้หรอกนะว่าคุณคุยโทรศัพท์กับใคร แต่คุณทำให้หมิวร้องไห้!”
“อะไรนะ ? หมิวอยู่ตรงนี้ด้วยหรอ”
“ใช่...อยู่ตรงนี้ และได้ยินทุกอย่างที่คุณพูดด้วย”
“เวรเอ๊ย...แล้วหมิวไปไหนแล้วครับ” โตโน่ถาม พลางยกมือขึ้นมาเสยผมตัวเอง
เขาไม่น่าทำแบบนี้เลย...ไม่น่าเลยจริง ๆ
บ้าเอ๊ย!
“คุณไม่ต้องหมิวไป แล้วคุณก็ฟังผมให้ดี ๆ นะ หมิวเป็นเหมือนน้องสาวของผมคนหนึ่ง ถ้าคุณไม่จริงใจกับเธอ คุณก็ไม่ควรมาทำให้เธอต้องเป็นแบบนี้ ถ้าผมรู้ว่าคุณทำให้น้องสาวของผมร้องไห้อีกล่ะก็ คุณเจอดีแน่” พูดจบ ฮั่นก็ยอมปล่อยคอเสื้อของโตโน่ ก่อนที่เขาจะหันหลังเดินออกไปจากบริเวณนี้ แกงส้มที่ซึ่งยืนมองอยู่ห่าง ๆ รีบเดินตามฮั่นออกไปทันที ทิ้งให้โตโน่ยืนขยี้ผมตัวเองอย่างนึกโมโหตัวเองในใจ
“พี่ฮั่น...”
“แกง...”
“พี่โน่เค้าคงไม่อยากทำให้หมิวร้องไห้หรอกครับ”
“อืม...ขอโทษด้วยแล้วกันนะ ที่เผลอโมโหมากจนขาดสติไปหน่อย” ฮั่นว่าก่อนจะต้องตัวแข็งทื่อ เมื่อโดนหลังมือของคนตรงหน้าปาดเหงื่อที่ชื้นบริเวณข้างแก้มของเขา
“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำให้พี่ต้องเหนื่อยแบบนี้ ขอโทษแทนป๊าด้วยนะครับที่แกล้งพี่แบบนั้น...”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก พี่ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอะไร ออกจากรู้สึกสนุกด้วยซ้ำ ไม่ต้องคิดมากเด็กน้อย”
“ครับ...สำหรับเรื่องวันนี้ ผมขอบคุณพี่มาก ๆ เลยนะครับ ถ้าไม่ได้พี่...ผมก็คงแย่เหมือนกัน” แกงส้มว่าก่อนจะส่งยิ้มหวานไปให้คนเป็นพี่ ฮั่นยิ้มตอบก่อนจะวางมือลงบนผมหนา
“พี่ยินดีและเต็มใจช่วยเหลือเรานะ พี่ไปอาบน้ำนอนก่อน แล้วพรุ่งนี้เจอกัน ฝันดีครับ...”
“ฝันดีครับพี่ฮั่น...ขอบคุณอีกครั้งครับ” ฮั่นยิ้มรับคำขอบคุณ ก่อนที่เขาจะหันหลังเดินไปยังห้องตัวเอง แต่ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้อง แกงส้มก็ดึงตัวเขาให้หันมา แล้วประทับจูบเบา ๆ ไปที่แก้มของเขา จากนั้นคนฉวยโอกาสก็วิ่งตื๋อกลับเข้าห้องตัวเองไป
สัมผัสแผ่วเบาราวกับสายลมพัดผ่าน ทำให้ฮั่นเผลอเอามือขึ้นลูบบริเวณที่ถูกสัมผัส ความรู้สึกอุ่นที่ยังประทับอยู่ ทำให้ฮั่นหลุดยิ้มออกมา ดวงตาของชายหนุ่มเปล่งประกายสดใส ความรู้สึกดียิ่งแผ่ขยายออกไปภายในหัวใจของเขามากยิ่งขึ้น...
เพียงสัมผัสแค่นี้...ก็ทำให้รู้สึกดีไปอีกหลายล้านวินาที...
ฟุบ!
ฮั่นทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ก่อนจะหยิบซองจดหมายที่วางอยู่บนหัวเตียงขึ้นมาเปิด กลิ่นของแป้งเด็กอ่อน ๆ ที่ลอยออกมาทักทาย ทำให้คิ้วหนาขมวดเป็นปม
กลิ่นแป้งเหมือนแกงส้มเลย!
ชายหนุ่มค่อย ๆ ไล่สายตาอ่านตัวอักษรที่ปรากฏบนกระดาษทีละคำ ๆ จนจบ...คิ้วที่ผูกหนาเป็นปมก็ยิ่งเป็นปมมากขึ้น...
เขาคนนี้เป็นเชฟเหมือนกับพี่ครับ...ทำอาหารเก่งมากกกกกกกกก แถมยังอร่อยด้วย!
เขาชอบแกล้งผมประจำเลยครับ ไม่รู้ทำไม...สงสัยจะโรคจิต!
แต่ผมก็หัวเราะได้และยิ้มได้ทุกทีที่เขาแกล้งนะครับ (แอบไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน...หรือว่าผมจะโรคจิตตามเขาไปแล้วนะ) ฮ่า ๆ ๆ ๆ
อ๊ะ! เหมือนผมจะรู้สึกนิด ๆ นะครับว่าพี่คือใคร (ในชีวิตจริง)
หวังว่าจดหมายฉบับนี้จะทำให้พี่พอรู้สึกนิด ๆ เหมือนผมนะครับว่าผมคือใคร (ในชีวิตจริง)
แล้วอย่าไปหวั่นไหวหรือหนีไปขอใครเป็นแฟนนะครับ...
...ประโยคเหล่านี้ทำให้ฮั่นนึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อตอนที่เขาไปรับแกงส้มที่ร้านหนังสือ ท่าทีแปลก ๆ ของแกงส้มทำให้ฮั่นฉุกใจขึ้นมา
หรือว่า...แกงส้มกับน้องเคเอสจะเป็นคน ๆ เดียวกัน...
คนที่ทำให้เขารู้สึกดีและคนที่ทำให้เขาหวั่นไหวมาโดยตลอด...คือคน ๆ เดียวกันอย่างนั้นหรอ...
แต่น้องเคเอสบอกว่าในหนึ่งอาทิตย์ต่อจากนี้เราจะไม่ส่งจดหมายหากัน แต่เขียนจดหมายเล่าเหตุการณ์ถึงกัน...
ทำไมต้อง 7 วัน...
ป๊าของแกงส้มมาอยู่ด้วย 7 วัน...
อย่าบอกนะว่า...เป็นคน ๆ เดียวกันจริง ๆ นะ...!?!
ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ความรู้สึกดี ๆ จะไม่มีวันเปลี่ยนไป หากหัวใจของคนสองคนผูกกัน...ความรักที่เกิดขึ้นนั้นจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ถ้าความรู้สึกที่แสดงออกมามันชัดเจนพอ...
//เห็นคนอ่านบอกว่าอยากอ่านเรื่องนี้และชอบกับความเรื่อย ๆ แบบหวาน ๆ ของเรื่องนี้...เค้าก็เลยขออนุญาตมาอัพเรื่องนี้ก่อน ^^
เรื่องราวในตอนต่อ ๆ ไปอีก 7 ตอน ก็จะเป็นเรื่องราวที่พี่น้อง (ที่ถึงแม้จะเหมือนรู้สึกได้แล้วว่าคนในจดหมายกับคนในชีวิตจริงเป็นคนเดียวกัน)จะเขียนบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ถึงกันผ่านตัวอักษร แต่ในชีวิตก็จะมีโมเม้นที่อยู่ด้วยกัน...เอ๊ะ! มันจะเป็นยังไงนะ...ต้องติดตามอ่านกันต่อไปค่ะ สปอยมากเดี๋ยวหมดมุกกันพอดี ฮ่า ๆ ๆ ๆ (จริงๆ แต่ละตอนเค้าก็คิดสด ๆ ในวันนั้นเลยนะคะ เค้าไม่ค่อยได้วางพล็อตไว้ล่วงหน้า แอบประหลาดคนนิดนึงค่ะ) ><
ดีใจ (มากกกกกกกกกกกกกกกก) ที่หลายคนชอบฟิคเรื่องนี้นะคะ ขอบคุณสำหรับทุกการติดตาม ทุกการอ่าน ทุกคอมเม้น ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ แล้วเจอกันในตอนต่อไปค่า ~~ ^^
ปล. มีคำผิดต้องขออภัยด้วยนะคะ รักคนอ่านทุกคนค่ะ และต้องขอโทษมาก ๆ ที่อัพดึกทุกคืนเลย เค้าต้องทำการบ้าน+รายงานก่อนน่ะค่ะ แต่ไม่เคยเบื่อและเหนื่อยเลยนะคะที่มาเขียนเรื่องนี้...
...เพราะเค้ามีความสุขมากกับทุกตัวอักษรที่เขียน ก็หวังว่าทุกคนจะมีความสุขมากกับทุกตัวอักษรและเรื่องราวในฟิคเรื่องนี้เช่นกันค่ะ บาย ๆ ><!
ความคิดเห็น