คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : บทที่ 11 : ความในใจของผู้ชายคนหนึ่ง
บทที่ 11 : ความในใจของผู้ชายคนหนึ่ง
ส่วนคนที่เข้ามาในห้องนอนแล้ว เขาก็ทิ้งตัวลงนอนต่อบนเตียงนอน พลางยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผากตัวเองทันที
นี่เขากำลังเป็นอะไรกันแน่นะ...ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ
เขากำลังสับสนในความรู้สึกของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน...
ทั้ง ๆ ที่วันเวลาที่เขารู้จักกับคนสองคนนี้มันจะแสนสั้นเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น แต่ความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นในแต่ละวันก็ทำให้เขาไม่สามารถลบเลือนความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจได้เลย
น้องเคเอสหรือคนในจดหมาย...คือคนที่เขารู้สึกดีด้วย (มาก) เพราะน้องทำให้เขารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ทำให้เขารู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้พูดคุยกันผ่านตัวอักษร แม้มันจะผ่านมาแค่ไม่กี่ฉบับ แต่ความรู้สึกอิ่มเอมในหัวใจก็ทำให้เขารู้สึกดีด้วยจนอยากจะยกทั้งหัวใจให้ ถึงแม้ว่าน้องจะไม่ใช่คนที่เขาพบเจอในชีวิตจริง เป็นเพียงแค่คน ๆ หนึ่งที่อยู่ในโลกของจดหมายของเขาเท่านั้น แต่น้องเคเอสก็ทำให้เขารู้สึกดีจนเหมือนว่ามันจะกลายเป็นความรู้สึก ‘รัก’
แต่แล้ว...เขาก็ได้มาพบกับใครอีกคนหนึ่ง...ใครอีกคนหนึ่งที่มีอยู่จริง ที่เขาสามารถสัมผัสจับต้องได้ ใครคนนี้มีชื่อว่าแกงส้ม...เจ้าตัวแสบแกงส้มทำให้เขารู้สึกมีความสุขและสนุกที่ได้แกล้ง ได้อำ และได้หัวเราะทุกครั้งที่เจอ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูก แต่รู้ได้เลยว่าหัวใจของเขาหวั่นไหวมากกับคน ๆ นี้ และมันจะยังคงหวั่นไหวต่อไป หากมีเหตุให้ต้องได้ใกล้ชิดกัน ซึ่งเขาไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น...
แต่เขาเองก็ไม่อยากจะห่างกับแกงส้มเหมือนกัน...
ทำไมการที่เราจะรู้สึกดีกับใครสักคน ทำไมต้องมาพร้อมกันทีเดียวสองคนด้วยนะ...
เฮ้อ...
ฮั่นถอนหายใจออกมายืดยาว ก่อนจะลุกขึ้นนั่งเอาหลังพิงหัวเตียง พลางหยิบสมุดเขียนจดหมายที่บรรจุกระดาษสีชมพูอ่อนซึ่งวางอยู่บนหัวเตียงมา พร้อมกับหยิบปากกาที่วางอยู่ใกล้กันมาด้วย
เขาจะสารภาพความรู้สึกในใจของเขาทั้งหมดให้คนในจดหมายได้รับรู้...เพราะตอนนี้เขารู้สึกอัดอั้นตันใจมาก เขาไม่รู้ว่าจะหาที่ระบายความอึดอัดนี้ที่ไหนแล้ว...และน้องเคเอสก็คือคนที่เขาคุยด้วยและสบายใจที่สุด เพราะฉะนั้น...จดหมายฉบับนี้ที่เขาจะเขียนไปหาน้อง...คงจะยาวและทำให้น้องรู้สึกแปลก ๆ แน่นอน
แต่ก็นะ...
ถึง น้องเคเอส
วันนี้พี่หมีมีเรื่องมาสารภาพครับ...
ตั้งแต่ที่เราคุยกันมา พี่บอกกับเราตลอดใช่ไหมครับ ว่าพี่รู้สึกดี ๆ กับเรามาก เราคือคนที่พิเศษสำหรับพี่ ซึ่งมันเป็นแบบนั้นมาโดยตลอด จนกระทั่งพี่ได้พบกับคน ๆ หนึ่ง...
คน ๆ หนึ่งที่ทำให้พี่รู้สึกพิเศษ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกครับว่ามันพิเศษขนาดไหน...
เขาอาจไม่ทำให้พี่สบายใจทุกครั้งเหมือนที่พี่คุยกับเรา แต่เขาทำให้พี่รู้สึกดี...เขาทำให้พี่ยิ้มได้ หัวเราะได้ แล้วพี่ก็ชอบที่จะได้แกล้งทำให้เขายิ้มและหัวเราะนะครับ...
มันเป็นความสุขเล็ก ๆ ที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ เฮ้อ...
นี่พี่กำลังทำให้เรารู้สึกไม่ดีอยู่หรือเปล่าครับ...ที่มาบอกเล่าเรื่องคนอีกคนหนึ่งให้กับเราฟัง ทั้ง ๆ ที่จดหมายที่เราเขียนถึงกันมันควรจะมีแต่เรื่องของ ‘เรา’...
แต่เพราะเรื่องของ ‘เขา’ ที่ทำให้พี่ต้องมานั่งอึดอัดใจอยู่แบบนี้...อึดอัดใจที่ไปมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเขา ทั้ง ๆ ที่บอกกับตัวเองว่ากำลังรู้สึกดี ๆ กับเราอยู่...
พี่ขอโทษนะครับ...(- -)(_ _)(- -)(_ _)...
ไม่รู้ว่าความผิดนี้ต้องโดนทำโทษอะไร แต่พี่อยากบอกว่า...พี่ไม่ได้อยากจะให้มันเป็นแบบนี้เลยนะครับ
พี่อยากมีแค่น้องเคเอส...แต่ทำไมถึงได้มีเขาเพิ่มมาก็ไม่รู้...
หรือว่าเขาจะเป็นคนพิเศษคนละแบบกับน้องนะ!
ก็ที่เราบอกพี่ไงว่าคนพิเศษคือคนที่ไม่ธรรมดา แต่ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องพิเศษในฐานะคนรักเสมอไป
แต่รู้ไหมครับว่า...เวลาที่พี่ได้อยู่กับเขา...พี่ก็มักจะคิดไปว่า...
ถ้าเขาเป็นน้องเคเอสก็คงจะดี...
แต่พี่ไม่ได้หมายความว่าจะให้เขามาเป็นตัวแทนของเรานะ...พี่แค่รู้สึกว่าเรากับเขาเหมือนจะมีอะไรที่ ‘คล้ายกัน’...ก็เท่านั้นเอง
คนเราไม่มีใครแทนที่ใครได้ และไม่มีใครเหมือนใครได้...
เพราะเราก็คือเรา...เขาก็คือเขา...คนเรามีบางอย่างคล้ายกันได้ แต่ไม่มีวันเหมือนกันได้เป็นอันขาด!
เราคิดเหมือนพี่ไหมครับ ?
เพราะฉะนั้น...ที่พี่เขียนเล่ามาให้เราฟังยืดยาว พี่ก็แค่เพียงอยากจะบอกให้เรารู้ว่า...
ไม่ว่าอย่างไร เราก็ยังเป็นคนพิเศษสำหรับพี่เสมอครับ
แม้พี่จะไม่รู้ว่า...เราจะยังเป็นคนพิเศษของกันและกันไปอีกนานแค่ไหน
แต่ ณ วันนี้...เรายังเป็น ‘คนพิเศษของกันและกัน’ ครับ...
ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้...ความรู้สึกดี ๆ ที่พี่ได้รับจากเรานั้นมันมากมายเสียจนพี่ไม่รู้จะตอบแทนยังไง นอกจากพูดคำว่า ‘ขอบคุณ’ ซ้ำ ๆ แบบนี้ทุกครั้งที่เขียนจดหมายตอบ
เพลงของเราเสร็จแล้วนะครับ...พี่แต่งเนื้อเพิ่มแล้ว เราอยากปรับแก้ตรงไหนก็ตามสบายเลยนะครับ พี่เขียนได้เท่านี้จริง ๆ ... แหะ ๆ
นี่ครับ...เนื้อเพลงของเรา...
เคยคิดว่าบนโลกนี้จะไม่มีใครที่เกิดมาเพื่อฉัน
เคยคิดว่าบนฟากฟ้านั้นลืมฉันที่ต้องอยู่เดียวดาย
แต่เมื่อได้พบเธอก็รู้ว่าใครคือความหมาย
ที่ทำให้ฉันอยากหายใจอยู่ไปเพื่อ...ทุก ๆ วัน
เพราะมีเธอ ฉันจึงยิ้มได้ เพราะหัวใจอบอุ่นกับทุกครั้ง
กับทุกเรื่องราวเวลานาทีที่เรามีร่วมกัน
ทุกสิ่งนั้น...มันคือสิ่งที่มีความหมาย...
อยากให้เธอรู้ว่าเธอคือคนพิเศษ...สำหรับฉัน
เธอคือคนนั้น...ที่ฉันเฝ้าตามหา
อยากให้เธอรู้ว่าเธอคือคนที่มีค่า...กับหัวใจ
หากเลือกได้ฉันจะขอให้เธอไม่ไปไหน
อยากจะขอให้เธออยู่กับฉันตลอดไป...ชั่วนิรันดร์
แต่ความจริงมันไม่อาจเป็นอย่างนั้น
ฉันจึงขอให้เรามีกันและกัน...แค่ทุกวันที่หายใจก็พอ
เพราะเธอคือคนที่พิเศษ...กับหัวใจ
เพราะเธอคือความหมายของการมีชีวิตอยู่
และวันนี้ฉันรู้แล้วว่าใครคือคนที่ฉันเฝ้ารอ...
...และ...คน ๆ นั้น...ก็...คือ...’เธอ’...
ไม่รู้ว่าเราจะชอบมันหรือเปล่านะ...แต่พี่อยากบอกว่าพี่ชอบเนื้อเพลงของเรามากถึงมากที่สุดครับ!
ที่เราบ่นว่าอยากกินแกงเขียวหวาน พี่ทำมาให้เราแล้วนะครับ...ลองกินดูนะว่าจะอร่อยสู้อาหารสองอย่างแรกได้หรือเปล่า...จริง ๆ พี่ไม่ค่อยถนัดทำอาหารไทยเท่าไหร่ แต่เพื่อคนพิเศษแล้ว...ต่อให้ยากกว่านี้ พี่ก็จะหาทำมาให้เราทานครับ
อ๊ะ ๆ ไม่ต้องแอบอมยิ้มล่ะ...เค้ารู้นะว่าตัวเองกำลังเขินเค้าอยู่...หุหุ
แล้วพบกันใหม่ในจดหมายฉบับหน้า...กับเรื่องราวคนพิเศษอีกคนที่เราอยากเล่าให้พี่ฟังนะครับ...
จาก พี่หมี (ครับผม)
ปล. อืม...เราสองคนนี่เหมือนกันเลยนะครับ...คือ...มีคนพิเศษมากกว่าหนึ่งคน...
ปล. อีกที...บอกให้พี่ห่มผ้าตอนนอน เราก็อย่าลืมห่มผ้าเหมือนกันนะครับ แต่ถ้าอยากจะ ‘ห่มรัก’...คนทางนี้รออยู่นะครับ...
เมื่อเขียนจดหมายเสร็จ ฮั่นก็ฉีกกระดาษนั้นออกมาจากสมุด พลางพับกระดาษใส่ซองจดหมายอย่างบรรจง ชายหนุ่มยกจดหมายนั้นขึ้นมาดมนิด ๆ ก่อนจะนึกสนุกด้วยการเดินไปหยิบแป้งเย็นที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นมา แล้วเทใส่เข้าไปในซองจดหมายนั้น จนกระดาษสีชมพูอ่อนเลอะไปด้วยแป้งสีขาว
“...อากาศร้อน ๆ เปิดจดหมายมาจะได้เย็นนะครับน้องเคเอส...”
เมื่อทำภารกิจสำคัญประจำวันเสร็จ ฮั่นก็วางจดหมายฉบับนั้นไว้ที่หัวเตียง ก่อนที่เขาจะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว แล้วเดินหายเข้าห้องน้ำไป
ทิ้งความกังวลใจไว้เพียงแต่บนที่นอน...ซึ่งความกังวลใจนั้นก็ค่อย ๆ ลอยเข้าไปตามพื้นภายในห้องนอน ก่อนจะสลายหายไป...เหลือเพียงแต่ความสุขที่ค่อย ๆ ลอยอบอวลเข้ามาแทนที่
การที่คนเราได้พูดระบายถึงความรู้สึกภายในใจ จะทำให้เรารู้สึกโล่งขึ้นมาได้ และเมื่อเรารู้สึกโล่ง เราก็จะรู้สึกสบายใจขึ้น หัวใจที่หนักอึ้งของเราก็จะค่อย ๆ เบาลง...เบาลงและเบาลง
ปึง!
ฮั่นปิดประตูห้อง ก่อนจะต้องตกใจ เมื่อเห็นร่างโปร่งของแกงส้มที่เดินสะโลสะเหลมาแต่ไกล ผมที่ยุ่งเหยิงบวกกับดวงตาที่ตู่เหมือนคนร้องไห้ทั้งคืน ทำให้เขานึกอยากจะรั้งร่างนั้นให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด แล้วถามว่ามีอะไร ทำไมดวงตาถึงช้ำแบบนั้น
แต่เขาก็จำต้องหักห้ามใจ ทำเป็นมองไม่เห็นแล้วเดินสวนกับแกงส้ม แต่...แรงรั้งบริเวณชายเสื้อยืด ทำให้เขาต้องหันไปมองเจ้าของมือนั้น
“ขอโทษครับพี่ฮั่น...”
“ขอโทษ...? เรื่อง...?”
“ผมไม่รู้ครับ”
“ไม่รู้!...ไม่รู้แล้วนายมาขอโทษพี่ทำไม” ฮั่นถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ
อยู่ ๆ ก็มาขอโทษ พอถามว่าขอโทษทำไม ก็บอกไม่รู้...
นี่แกงส้มมันทำงานดึกจนเบลอหรือไงเนี่ย!
“ผมขอโทษ เพราะว่าผมคิดว่าผมอาจจะทำให้พี่ไม่พอใจอะไรอยู่” แกงส้มตอบ ทั้ง ๆ ที่มือของเขายังรั้งชายเสื้อของคนเป็นพี่
เขาไม่อยากปล่อย...เพราะถ้าเขาปล่อย...เขาอาจจะไม่ได้ปรับความเข้าใจกับคน ๆ นี้
เขาไม่อยากต้องนั่งร้องไห้ทั้งคืนอีกแล้ว...
ใช่! เมื่อคืนเขานั่งร้องไห้ทั้งคืน...เพราะไม่รู้ว่าตัวเองไปทำอะไรให้คนตรงหน้าไม่พอใจ...
เขารู้สึกเจ็บกับความเฉยชาของคน ๆ นี้จนต้องระบายออกมาเป็นน้ำตา
น้ำตา...ที่ไม่รู้ว่าไหลออกมาด้วยสาเหตุอะไร
นี่เขาเป็นอ่อนไหวแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ...!?!
“ทำไมถึงคิดว่าพี่ไม่พอใจอะไรเราล่ะ”
“ก็พี่ทำเฉยชากับผมตอนที่อยู่ในร้านอาคิมเมื่อวานไงครับ”
“พี่ก็แค่...”
“แค่ไม่อยากคุยกับผมแล้ว...อย่างนั้นใช่ไหมครับ”
“มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกแกง”
“ไม่ใช่อย่างนั้นแล้วมันอย่างไหนครับพี่ฮั่น...พี่ตอบผมมาสิ” แกงส้มถามพลางเอามืออีกข้างขึ้นมาเขย่าแขนของฮั่น แรงเขย่าส่งผลให้ปิ่นโตที่อยู่ในมือข้างนั้นของฮั่นหล่นตกพื้นเสียงดังเคร้ง!
แกงส้มหน้าซีดทันที ชายหนุ่มรีบก้มลงไปเก็บปิ่นโตนั้นขึ้นมา ก่อนที่เขาจะเห็นว่ามีน้ำสีเขียวอ่อนไหลออกมาจากปิ่นโต
กลิ่นแกงเขียวหวานหึ่งเลย!
“ผมขอโทษครับพี่ฮั่น ผมไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ ผม...”
“พอแล้วแกง ไม่ต้องพูดหรอก ช่างมันเถอะ พี่ขอตัวก่อนนะ” คนที่บอกว่าช่างมัน คว้าปิ่นโตในมือของแกงส้มมาถือ ก่อนจะหมุนตัวเตรียมจะเดินกลับห้อง หากแต่แรงกอดจากทางด้านหลังทำให้ฮั่นตกใจจนปล่อยปิ่นโตให้หล่นไปตามแรงโน้มถ่วงของโลก (อีกครั้ง)
“พี่จะโกรธผมก็ได้นะ แต่พี่ ‘อย่าเกลียด’ ผมนะ...ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าผมไปทำอะไรให้พี่โกรธจนพี่ไม่อยากพูดกับผมแบบนี้ แต่ผมไม่อยากให้พี่ทำเฉยชากับผมเลย...”
แกงส้มไม่พูดเปล่า แต่เขายังซุกใบหน้าไปที่แผ่นหลังกว้างใกล้ช่วงบ่าของฮั่นอีกด้วย ความชื้นจากหยดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาของคนที่กอดอยู่ด้านหลัง ทำให้คนที่ตั้งใจว่าจะทำใจแข็งให้ถึงที่สุด เป็นต้องพับโครงการนั้นไว้ เพราะฮั่นนั้นใจอ่อนยวบตั้งแต่โดนดึงชายเสื้อแล้ว
แม้ปิ่นโตที่บรรจุแกงเขียวหวานของน้องเคเอสจะถูกเจ้าคนที่กอดอยู่ปัดร่วงพื้น แต่มันก็ไม่อาจทำให้เขารู้สึกโกรธหรือเกลียดแกงส้มเลยแม้แต่น้อย...
อย่าถามว่าเพราะอะไร...เพราะเขาเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน...
“พี่ไม่ได้เกลียดเรา ไม่ได้โกรธด้วย และพี่ก็ไม่ได้ทำเฉยชากับเราสักหน่อย คิดมากไปเองหรือเปล่า แล้วอยู่ดี ๆ มากอดพี่แบบนี้ คิดอะไรกับพี่ใช่ไหม...?” คำถามท้ายประโยคทำให้คนที่กอดแล้วร้องไห้ ต้องรีบผละออกห่างจากคนพูดทันที
แกงส้มรีบใช้หลังมือเช็ดน้ำตาของตัวเองอย่างเร็ว ก่อนจะเขวี้ยงค้อนใส่คนที่บัดนี้กำลังยืนอมยิ้มตาใสใส่เขา
“พี่ฮั่นบ้า! นี่ตกลงว่าที่พี่แกล้งทำเฉยชาใส่ผม พี่แกล้งผมเล่นอีกแล้วใช่ไหม คนนิสัยไม่ดี!”
“เอ้า! อยู่ดี ๆ ก็มาว่าพี่ซะงั้น เราเองต่างหากที่คิดมากไปเอง”
“ไม่ใช่เลยเหอะ พี่นั่นแหล่ะมองผมแบบนั้น แถมยัง...พูดกับผมไม่เหมือนเดิมด้วย เป็นใคร...ใครจะไม่คิดมากบ้างล่ะครับ”
“โอ๋ ๆ ๆ ๆ แต่ช้าแต่ ก๊อกแก๊ก ๆ ขอโทษนะที่ทำให้เราต้องคิดมากแล้วไปร้องไห้จนตาบวมแบบนี้...” ฮั่นไม่พูดเปล่า แต่ยังใช้นิ้วโป้งไล้เช็ดคราบน้ำตาที่ยังเปียกบริเวณใต้ตาของแกงส้มเบา ๆ
สัมผัสนี้ของชายหนุ่มทำให้คนที่เพิ่งจะร้องไห้ไปหมาด ๆ ทำท่าว่าจะร้องไห้ขึ้นมาอีก
ดูเถอะคนเรา...มาทำให้เราคิดมากจนเก็บไปร้องไห้เป็นคืน ๆ พอมาวันนี้ก็กลับมาทำอ่อนโยนจนเราซึ้งอีก...ไอ้พี่ฮั่นบ้า! บ้าที่สุดในโลกเลย!
“ผมงอนพี่ดีไหมนะ!”
“ไม่เอาอ่ะ อย่างอนเลย พี่ง้อคนไม่เป็น” ฮั่นว่า ก่อนจะก้มลงเก็บปิ่นโตที่หล่นพื้นขึ้นมา
“เชอะ! ผมไม่พูดกับพี่แล้วดีกว่า ง่วง...ไปนอนและ”
“เดี๋ยวสิ...กินอะไรมาหรือยัง เอาแกงเขียวหวานไปกินนะ พี่ทำเผื่อเราไว้ จ๋ามันเก็บแช่ไว้ให้ตู้เย็น เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้” พูดจบ ฮั่นก็ไม่รอให้คนตรงหน้าตอบรับหรือปฏิเสธ ร่างสูงก็เดินไปเสียบคีย์การ์ดแล้วเปิดประตูห้องเข้าไป
“แกงเขียวหวานหรอ...หึ! นึกถึงพี่หมีเลยแฮะ ถ้าเกิดพี่หมีทำมาให้ก็คงจะดีสิ...จะได้พิสูจน์กันไปเลยว่าสองคนนี้ใครทำอร่อยกว่ากัน”
“พูดไรคนเดียวอ่ะไอ้แสบ”
“เปล่าครับ...อื้อหือ...กลิ่นหอมจัง น่ากินด้วย” แกงส้มว่าพลางมองแกงเขียวหวานที่อยู่ในชามสวยด้วยดวงตาเป็นประกาย
น่ากินโคตรอ่ะ!
“น่ากินก็กินให้หมดแล้วกัน กินเสร็จก็อาบน้ำนอนเลยนะ เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อน แล้วนี่เราจะให้คิมย้ายของมาอยู่ห้องเราวันไหนอ่ะ”
“วันพรุ่งนี้ครับ วันนี้ผมคงต้องไปเคลียร์งานกับพี่หนึ่งให้เสร็จก่อนน่ะครับ”
ฮั่นพยักหน้าหนึ่งทีเป็นเชิงว่ารับรู้ ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นไปวางบนหัวทุยแล้วโยกเบา ๆ
“ขอโทษนะที่ทำให้เราคิดมาก ต่อไปนี้พี่จะไม่ทำให้เราต้องรู้สึกแย่แบบนั้นอีกแล้ว...”
“ครับ...อย่าทำแบบนั้นอีกนะพี่ ผมรู้สึกไม่ดีจริง ๆ”
ถ้อยคำยืนยันที่มาพร้อมกับใบหน้าจริงจัง ทำให้ฮั่นต้องยกยิ้มขึ้นมา ก่อนจะให้สัญญากับตัวเองในใจว่า...ต่อไปนี้ถึงเขาจะต้องหวั่นไหวกับแกงส้มคนนี้แค่ไหน...เขาก็จะไม่มีวันถอยห่างจากคน ๆ นี้อีกแล้ว
เพราะเขาเองรู้สึกไม่ดีเลย...ที่ต้องทำให้คนที่เขารู้สึกดี ๆ ด้วยเสียใจ
ความเสียใจของคนที่เราแคร์ความรู้สึก มันทำให้เรารู้สึกเสียใจไปด้วยนะ...
“อืม...ไม่ทำอีกแล้ว สัญญา...”
“สัญญาแล้วนะ เอานิ้วก้อยมาเลย...” แกงส้มว่า ก่อนจะยกนิ้วก้อยของตัวเองขึ้นมา ฮั่นอมยิ้มทันทีที่เห็นใบหน้าเด็กน้อยของแกงส้มที่กำลังทำหน้าขึงขังเรียกร้องสัญญา
“สัญญาด้วยเกียรติของนายอิสริยะเลยครับ...” พูดจบ ฮั่นก็เกี่ยวนิ้วก้อยของตัวเองไปกับนิ้วก้อยของแกงส้ม
เมื่อนิ้วก้อยสองนิ้วเกี่ยวกัน เส้นใยด้ายแดง (บาง ๆ) ก็เริ่มทำหน้าที่พันผูกความรู้สึกดี ๆ ของคนสองคนให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น
เส้นด้ายสีแดงบาง ๆ นี้ คงไม่มีใครสามารถมองเห็นมันได้ด้วยตาเปล่า และถึงแม้จะใช้หัวใจในการมองหา เราก็คงไม่เห็น...แต่เชื่อได้เลยว่า...มันมีอยู่จริง!
ขอแค่เรามี ‘ศรัทธา’ ... ศรัทธาในความรัก ศรัทธาในโชคชะตา และศรัทธาในพรหมลิขิต
แล้วสักวันหนึ่ง...มันจะเป็นวันของเรา!
หลังจากที่แยกย้ายกันแล้ว แกงส้มก็ไปนอนหลับอย่างที่บอกไว้กับฮั่นจริง ๆ แต่ก่อนที่เขาจะนอน เขาก็ได้ลิ้มรสแกงเขียวหวานไก่ฝีมือคนห้องตรงข้าม...
ไม่อยากจะบอกเลยว่า...’อร่อยเหาะ’ !!!
นี่ตกลงพี่ฮั่นแกเป็นเชฟอาหารอิตาเลี่ยนหรือว่าเชฟอาหารไทยกันแน่...รสชาติจัดจ้านอร่อยเวอร์!
เฮ้อ...เย็นนี้จะได้กินแกงเขียวหวานไก่ฝีมือพี่หมีไหมน้า...
ว่าแต่ว่า...ตกลงแล้วเขารู้สึกยังไงกับพี่ฮั่นกันแน่นะ!?!
วันนี้ก็ดันไปกอดพี่ฮั่นเขาแบบนั้น แถมยังร้องไห้ให้เขาเห็นอีกด้วย เขาจะคิดยังไงล่ะเนี่ย...เฮ้อ...
“ไอ้แกงส้มเอ๊ยยยยยยยยย แกจะชัดเจนไปไหนวะ เก็บอาการมั่งน่ะเป็นไหม๊!!!”
แกงส้มว่าตัวเอง ก่อนจะยกกำปั้นขึ้นมาทุบหัวตัวเอง (เบา ๆ) หนึ่งทีเป็นการทำโทษ
เขายอมรับกับตัวเองได้เลยว่าเขารู้สึกดี ๆ กับพี่ฮั่นมากกว่าพี่หมี...เพราะว่าเขาคิดว่าคนในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งสัมผัสจับต้องได้ คือคนที่เขาควรจะรู้สึกดี ๆ ด้วยมากกว่า...
แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่า...พี่หมีจะรู้สึกกับเขามากแค่ไหน...
เฮ้อ...บางที่เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงต้องรู้สึกดี ๆ กับคนสองคนพร้อมกันแบบนี้
โชคชะตานี่ก็นะ...ชอบเล่นตลกกับเขาจัง
ให้เจอเนื้อคู่ดี ๆ สักคน...ทำไมต้องมาทีเดียวพร้อมกันสองคนด้วยล่ะ...
เอ๊ะ...แต่สองคนนี้จะใช่ ‘เนื้อคู่’ เขาจริง ๆ หรอ ?
คิดไปคิดมาแล้วปวดหัว...นอนดีกว่า...
ตกเย็น เมื่อพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า คนที่นอนหลับอุตุก็ได้ฤกษ์ตื่นมาพร้อมกับเสียงนาฬิกาที่ดัง แกงส้มยกมือขึ้นมาขยี้ตาตัวเอง ก่อนจะลุกจากที่นอนไปทำธุระส่วนตัว
จากนั้น แกงส้มก็ออกไปทำงานตามหน้าที่ของตัวเองเช่นทุกวัน เสียงของฟ้าที่ร้องครืน ๆ ทำให้ชายหนุ่มไม่ลืมที่จะหยิบร่มสีใสติดมือไปด้วย
ร่มที่มีความทรงจำมากมายในวันที่ฝนตก...
แอ๊ด...
“พี่ป๊อกกกกกกกกกกกกกกก ยู้ฮู้วววว เฮ้ย!” เสียงทักทายของแกงส้มมีอันต้องสะดุดเมื่อเห็นใบหน้าของป๊อกที่มีแผ่นมาร์กหน้าสีขาวแปะอยู่
“ตกใจอะไรของแกไอ้แกง”
“ก็ตกใจหน้าพี่อ่ะดิ ร้อยวันพันปีไม่เห็นเคยรักสวยรักงามเลย วันนี้นึกยังไงเนี่ย ถึงได้เอาที่มาร์กหน้ามาแปะแต่หัววันแบบนี้ ปกติเค้าให้ใช้ก่อนนอนไม่ใช่หรอพี่” แกงส้มว่าก่อนจะทำหน้าแบบติดจะงง ๆ
“ฉันก็เป็นผู้หญิง ฉันก็ต้องรักสวยรักงามบ้างสิยะ แกไม่ต้องพูดมาก เอาจดหมายของแกไปเลย” พูดจบ ป๊อกก็ล้วงมือเข้าไปหยิบจดหมายที่อยู่ในลิ้นชักออกมาส่งให้คนที่ยืนยิ้มแฉ่ง
“แล้วไม่มีอะไรมากับจดหมายหรอพี่ ?”
“อะไรคืออะไร ?”
“ก็...ของอร่อยไงพี่”
“อ๋อ...คุณหมีเค้าบอกว่า เกิดอุบัติเหตุกับ ‘แกงเขียวหวาน’ แกนิดหน่อยน่ะ เค้าเลยเอามาให้ไม่ได้ แต่เค้าบอกว่าเดี๋ยวจะทำมาให้ใหม่นะ” ป๊อกว่าพลางขมวดคิ้วมองใบหน้าหวานติดจะดูดีของแกงส้มที่ซึ่งกำลังขมวดคิ้วมุ่นจนมันแทบจะผูกรวมกันเป็นโบว์
“แกงเขียวหวานเกิดอุบัติเหตุหรอ...?”
“อืม...”
ได้ยินแบบนี้ แกงส้มก็อดหวนนึกไปถึงอุบัติเหตุแกงเขียวหวานที่เขาเผลอปัดของพี่ฮั่นไม่ได้
ทำไมเรื่องราวมันถึงได้บังเอิญเหมือนกันขนาดนี้นะ...
แถมยังเป็นแกงเขียวหวานเหมือนกันอีก!
หรือว่าพี่หมีกับพี่ฮั่น...จะเป็น ‘คนเดียวกัน’...
บ้าน่า! ไม่มีทางเป็นไปได้หรอก...อะไรมันจะโลกกลมขนาดนั้น...
แต่...สองคนนี้ก็เป็นเชฟเหมือนกันนี่...แถมยังทำอาหารอร่อยเหมือนกันด้วย!
โอ๊ย...ปวดหัวจัง!
ถ้าเป็นคน ๆ เดียวกันก็คงจะดี...เอ๊ะ! หรือว่าไม่ดีล่ะ...แต่มันต้องดีสิ!
เขาจะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสองใจแบบนี้ แต่ว่า...แล้วเขาจะหาอะไรมาพิสูจน์ล่ะว่าเป็นคน ๆ เดียวกัน ถ้าขอให้มาเจอกันตรง ๆ
พี่หมีก็คงบ่ายเบี่ยง...
อ่า...เอาไงดีว้า...
เพียะ! แรงตบบริเวณแก้มเรียกสติที่เริ่มหลุดลอยไปของแกงส้มให้กลับคืนมา
“ตบผมทำไมเนี่ยพี่ป๊อก”
“ใจลอยไปถึงไหน ไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวก็สายหรอ นี่จะทุ่มหนึ่งแล้วนะ” เมื่อได้ยินว่าจะทุ่มหนึ่ง คนที่ยืนใจลอย ก็รีบวิ่งออกไปจากร้านทันที
“ไอ้นี่...บทจะมา บจจะไปก็ไป...รวดเร็วทันใจจริง ๆ”
“กลับบ้านดี ๆ นะพี่หนึ่ง”
“เออ ๆ ๆ แกก็ดูแลทางนี้ให้ดีล่ะ...”
“คร้าบบบบบบบบบ พี่สุ...ฝากอาคิมด้วยนะครับว่าอย่าลืมนัดของเราวันพรุ่งนี้”
“จ้า...เดี๋ยวพี่บอกให้นะ” รับคำเสร็จ สุก็เดินนำหน้าแฟนหนุ่มออกไปจากห้องคอนโทรล ทิ้งให้ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด
แกงส้มรีบหยิบจดหมายในกระเป๋าออกมาอ่านทันที
ดวงตาของชายหนุ่มเบิกโตขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งเขาอ่านไปอ่านไป...เขาก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงบางสิ่ง...
คนพิเศษอีกคนหนึ่งที่พี่หมีพูดถึง...ทำไมมันอ่านดูแล้วคล้ายเขาจังนะ...
เขาไม่ได้คิดไปเองแบบเข้าข้างตัวเอง แต่เขารู้สึกอย่างนั้นจริง ๆ
แต่มันจะเป็นไปได้หรอ...บังเอิญ โลกกลม พรหมลิขิต ไปไหม...
เรื่องบังเอิญบนโลกนี้มันคงไม่มีอยู่จริงหรอก...!
เพราะส่วนใหญ่แล้ว...ทุกเรื่องมักเกิดจากความตั้งใจของเราทั้งนั้น อยู่ที่ว่าเราจะยอมรับความจริงได้ไหมว่าเรื่องทุกเรื่องมันเกิดจาก ‘เรา’ ไม่ใช่จาก ‘คนบนฟ้า’...
แต่เรื่องบางเรื่องมันก็เกินกว่าที่เราจะไปตั้งใจให้มันเกิดขึ้น อาทิเช่น...
เรื่องที่เขากับพี่หมีเจอกันโดยบังเอิญนี่ไง!
เขาไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นสักนิด...แต่เป็นเพราะพรหมลิขิตแท้ ๆ ที่ทำให้เขาได้เจอกับพี่หมี และถ้าพรหมลิขิตจะทำหน้าที่อีกครั้งด้วยการทำให้พี่หมีเป็นคน ๆ เดียวกับพี่ฮั่น...เขาก็จะไม่ขัดใจเลยสักนิด!
เพราะเขาเองก็ไม่อยากจะรู้สึกผิด...กับการมีความรู้สึกดี ๆ ให้คนสองคนในเวลาเดียวกัน
เป็นเพราะ ‘แกงเขียวหวาน’ นี่เชียว...ที่ทำให้เขาเริ่มสงสัยถึงบางสิ่งบางอย่าง!!!
พรุ่งนี้เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว!
หากแต่...เขาก็ยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียวว่าสองคนนี้เป็นคน ๆ เดียวกัน...เพราะถึงอย่างไร...โลกนี้ก็คงไม่กลมขนาดนั้น
โดยแกงส้มคงลืมคิดไปว่า...จุดเล็ก ๆ ที่เขาเผลอมองข้ามไปหรือคิดว่ามันไม่ใช่ นั่นแหล่ะคือจุดใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างได้
บางทีคนเราก็ชอบคิดว่าเรื่องเล็กอย่างไรมันก็คือเรื่องเล็ก แต่เราคงลืมไปว่าเรื่องเล็กบางเรื่องคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่แสนยิ่งใหญ่...
“เอ...พี่หมีของเราก็แต่งเพลงเก่งเหมือนกันนะเนี่ย ต่อจากเราได้สวยงามทีเดียว...เก่ง ๆ ๆ”
แกงส้มว่าก่อนจะผุดยิ้มขึ้นมา ดวงตากลมโตมองจดหมายในมือพลางนึกไปถึงคนที่อยู่ห้องตรงข้ามเขา
จะใช่คน ๆ เดียวกันจริงไหมนะ...
“อ้าวแกง...มาแต่เช้าเลย” เสียงทักของคนที่เพิ่งเดินมาไขประตูร้าน เรียกดวงตาของแกงส้มให้เงยไปมอง วันนี้ก็คงเป็นอีกวันที่แสนธรรมดาของใครหลาย ๆ คน แต่วันนี้มันคือวันที่แสนจะพิเศษ...เพราะว่ามันคือวันที่แกงส้มจะมาทำภารกิจอะไรบางอย่าง
โดยภารกิจที่ว่านี้คือ...’ภารกิจจับผิดหมี’ !!
“พี่ป๊อก...ปกติพี่หมีเขาจะมารับหรือส่งจดหมายตอนไหนครับ”
“ก็ประมาณหลังจากที่เรามานั่นแหล่ะ”
“ราว ๆ สัก 9 โมงใช่ไหมพี่”
“อือ...แกถามทำไมวะ ?”
“วันนี้ผมจะดักเจอพี่เค้า!”
เมื่อได้ยินแกงส้มพูดจบ ป๊อกก็ตาโตขึ้นมาทันที
“เอาจริงหรอวะ...?”
“ก็จริงสิพี่ ไมพี่ถามงี้อ่ะ”
“แต่คุณหมีเค้าไม่อยากเจอแกตอนนี้ไม่ใช่หรอ ที่วันก่อนแกบ่นให้พี่ฟังอ่ะ” คำพูดของป๊อกทำให้แกงส้มชะงักไป
จริงด้วยแฮะ...อย่างนี้พี่หมีจะไม่โกรธเขาหรอ...
แต่เขาอยากรู้ความจริงนี่นาว่าพี่หมีกับพี่ฮั่นเป็นคนเดียวกันไหม!!!!
แต่...การอยากรู้ความจริงมันจะทำลายความรู้สึกดี ๆ ไปหรือเปล่านะ...?
ไม่หรอกน่า...ถึงรู้ความจริง...อะไร ๆ ก็คงจะไม่เปลี่ยน...เอ๊ะ! หรือว่าเปลี่ยน...
โอ๊ย...สับสน ๆ ๆ เอาไงดีหว่า...
~อยากมีคนรักคนมีรักมันเป็นแบบบไหน คนอย่างฉันนั้นยังไม่เคยเข้าใจ~
ยังไม่ทันที่แกงส้มจะตัดสินใจว่าควรจะทำอย่างไร เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็เรียกสติของเขาให้กลับคืนมา ชายหนุ่มล้วงมือเข้าไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมา ก่อนจะต้องตาโต เมื่อเห็นชื่อที่ขึ้น
“ป๊า...”
(ป๊าเองไอ้ลูกชาย!!!! ตอนนี้ป๊าขับรถออกมาจากบ้านเราแล้วนะ อีก 8 ชั่วโมงเจอกันเน้อ คิดถึงแกงจังเลยอ่ะ อยากเจอไว ๆ จัง”
ปะ ปะ แปดชั่วโมงงงงงงง เวรแล้ว!
“ป๊ามาแล้วหรอครับ ไหนพี่โน่บอกว่าป๊าจะมาพรุ่งนี้ไง”
(ไอ้โน่มันจำผิดน่ะ เอาเป็นว่าแค่นี้ก่อนนะ แล้วเดี๋ยวเจอกัน) จากนั้นคนเป็นพ่อก็วางสายไป ทิ้งให้คนเป็นลูกต้องล้มเลิกภารกิจจับผิดหมีไปก่อน เนื่องจากตอนนี้เขาต้องไปหาอาคิมก่อน
“พี่ป๊อก...ถ้าวันนี้พี่หมีแวะเข้ามา ฝากบอกเค้าด้วยนะครับว่าผมยังไม่ได้เขียนจดหมายถึงเขา ผมต้องไปแล้วพี่ รีบมาก!” พูดจบ แกงส้มก็วิ่งออกไปจากหน้าร้านหนังสือทันที
ป๊อกยกมือขึ้นมาเกาศีรษะตัวเอง ก่อนจะส่ายหัวเบา ๆ
“อะไรของมันแต่เช้าวะ...”
//มาอัพดึกอีกแล้ว หุหุ...ขออนุญาตอัพเรื่องนี้ก่อนนะคะ (คนอ่านเรื่องสั้นอย่าเพิ่งงอนเค้าน้า...พรุ่งนี้อัพเรื่องสั้นแน่นอนค่ะ) 555+
ส่วนคนอ่านเรื่องยาวที่รักขา...เค้ามีข่าวดีมากระซิบบอกค่ะ ว่า...ใกล้มาก ๆ แล้วที่พี่ฮั่นกับแกงจะได้เจอกัน (แบบรู้จักจริงๆ) ไม่กี่ตอนข้างหน้านี้แหล่ะค่ะ...ฮ่ะ ๆ ๆ
ตอนนี้ก็ยังคงเรื่อย ๆ เหมือนเดิม แต่ไม่ดราม่าแล้วน้า ~~ ><
ตอนหน้า...คงจะมีอะไรสนุก ๆ มาให้อ่าน เพราะคุณป๊าลงมากรุงเทพฯ แล้ว...เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไป โปรดติดตามนะคะ ^^
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้น ทุกกำลังใจ และทุกการอ่านค่ะ รักกันและติดตามกันไปเรื่อย ๆ นะคะ J
ปล. สำหรับคนที่ถามเรื่องเพลงเค้ามา ,, ตัวจะเอาไปดัดแปลงหรือทำอะไรก็ได้ ตามสบายเลยค่า ,, เค้าไม่ได้หวงอะไร ^^~
ปล.อีกที ,,, ใครที่มีอะไรสงสัย สามารถโพสถามหรือว่าพูดคุยกันได้ที่นี่และที่ทวิตเตอร์ของเค้าเลยนะคะ ยินดีตอบทุกคำถามและข้อสงสัยค่ะ (ยกเว้น..การตอบในเรื่องที่ว่า...พี่น้องจะได้เจอกันเมื่อไหร่...อันนั้นขออุบเอาไว้ก่อนค่ะ 555+)
ปล.สุดท้าย หากมีคำผิดต้องขออภัยนะคะ ไปแล้วค่า ,, บาย ๆ ๆ ๆ
ความคิดเห็น