ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Letter #เพราะโลกนี้มี 'นาย' [FIC HKS]

    ลำดับตอนที่ #11 : บทที่ 10 : ปั่นป่วนในหัวใจ

    • อัปเดตล่าสุด 24 ส.ค. 55


     

    บทที่ 10 : ปั่นป่วนในหัวใจ

    ไม่ใช่เรื่องของนาย เอาเรื่องของตัวเองให้รอดเถอะ ไหนจะเรื่องแฟนที่ต้องมี ไหนจะเรื่องที่อยู่ ไหนจะเรื่องงาน จัดการให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 3 วันด้วย ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าคนหล่อไม่เตือน... พูดจบ โตโน่ก็เดินออกไปจากตรงนี้ ทิ้งให้แกงส้มต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

    นั่นสินะ...จะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดีวะกู...

    บ่นอะไรแต่เช้าน่ะไอ้ตัวแสบ

    เสียงทักของคนที่โผล่หน้าออกมาจากห้อง เรียกใบหน้าของแกงส้มให้หันไปมอง

    ผู้ชายหน้าใสที่มีผมสีดำยาวปรกใบหน้า(แลดูคล้ายผมม้า) เดินออกมาจากห้องนอนด้วยชุดเสื้อยืดสีกล้ามสีดำ โชว์กล้ามขาว และกางเกงเลสีชมพูอ่อน...

    เอ่อ...พี่ฮั่นแกออกมาจากห้องด้วยสภาพอย่างนี้เนี่ยนะ!

    เหมือนเด็กน้อยเลยอ่ะ...น่ารักชิบ!

    แกงส้มคิดในใจก่อนจะส่ายศีรษะไปมาขับไล่ความคิดนี้ให้ออกไป

    ให้ตายเหอะ...มันชักจะมากไปแล้วนะ ไอ้ความรู้สึกหวั่นไหวเนี่ย!!!

    เฮ้! พี่ถามไม่ได้ยินหรือไง คำพูดที่มาพร้อมกับมือหนาที่โบกไปมาเบื้องหน้า เรียกสติของแกงส้มให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็วทันที

    ถะ ถามอะไรครับ

    เวร...นี่นายตื่นหรือยังเนี่ย

    ตื่นแล้วสิพี่ ถ้าผมยังไม่ตื่น พี่จะเห็นผมตรงนี้ไหมล่ะ แกงส้มว่า ก่อนจะเอี้ยวตัวหลบกำปั้นที่เตรียมจะทุบลงมาที่กลางหน้าผากเขา

    กวนแต่เช้า เดี๋ยวจะโดน...แต่เมื่อกี้พี่ถามเราว่า บ่นอะไรแต่เช้า ทำหน้าอย่างกับโดนรถเหยียบเท้า

    ผมก็บ่นไปตามเรื่องตามราวน่ะพี่ ไม่มีอะไรหรอกฮะ ว่าแต่...ทำหน้าเหมือนโดนรถเหยียบเท้ามันเป็นยังไงวะพี่ฮั่น ? แกงส้มถามพลางขมวดคิ้วสวยอย่างสงสัย ฮั่นเดินยิ้มกริ่มออกมาจากห้อง ก่อนจะเอานิ้วจิ้มไปที่แก้มของคนถาม

    ก็ทำหน้าแบบนี้ไง ฮ่าๆ ๆ ๆ

    พี่ฮั่น! นี่พี่เป็นอะไรกับแก้มผมมากหรือเปล่าเนี่ย จิ้มจังเลย!” แกงส้มบ่นก่อนจะทำแก้มป่องใส่คนที่ยืนหัวเราะ

    โอ๋ย...ก็แก้มนายนิ่มดีนี่นา พี่ก็เลย...ชอบจิ้มแก้มเราอ่ะ!” ฮั่นตอบ ก่อนที่เขาจะอมยิ้มจนแก้มป่องออกมาเหมือนกัน คนสองคนยืนยิ้มอย่างนั้นอยู่หลายนาที ก่อนที่ต่างฝ่ายจะต่างหันหน้าหนีไปคนละทาง

    เขิน...อีกแล้ว

    เอ้อ...พี่ทำข้าวต้มหมูสับไว้เยอะเลย ไปกินด้วยกันสิ เมื่อรู้ว่าหากยังยืนเขินกันอยู่แบบนี้ เขาสองคนก็คงจะไม่ได้ทำอะไรต่อไป ฮั่นจึงเลือกที่จะเอาเรื่องอาหารมาล่อคนตรงหน้า

    อ่า...งั้นเดี๋ยวผมขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวผมจะไปฝากท้องที่ห้องพี่ แกงส้มว่าก่อนจะยิ้มหวานออกมาเมื่อนึกไปถึงรสชาติของอาหารที่เขากินเมื่อคืน

    ฝีมือการทำอาหารของพี่ฮั่นขั้นเทพเลยล่ะ!

    นี่ถ้าเอามาแข่งกับพี่หมีของเขานะ...รับรองได้เลยว่า กินกันไม่ลง’!

    ไม่คิดจะปฏิเสธเลยรึ ?

    โอ๊ย! จะปฏิเสธทำไม...ของฟรีเอามาให้ตรงหน้า เป็นพี่...พี่จะปฏิเสธหรอกฮะ

    ฮ่า ๆ ๆ ไอ้เด็กเห็นแก่กินเอ๊ย!!!!”

    เค้าไม่ได้เรียกเห็นแก่กินพี่ฮั่น เค้าเรียกว่ารู้จักใช้โอกาสที่ได้รับมาคุ้มค่าต่างหาก พูดจบ แกงส้มก็โดนฮั่นดีดมะกอกเข้าหน้าผากไปหนึ่งที

    ไม่ได้เกี่ยวกันเลย ไป ๆ อาบน้ำได้แล้ว เหม็น~” ฮั่นว่า พลางทำจมูกฟุดฟิด ๆ

    เหม็นตรงไหน ตัวผมออกจะห๊อมหอม ไม่เชื่อพี่ดมดิ แกงส้มไม่พูดเปล่า แต่เขายังยื่นท่อนแขนของเขาไปให้คนตรงหน้าพิสูจน์กลิ่นอีกด้วย

    จะบ้าหรอ...ไม่เอา

    น่าพี่...ดมนิดนึงดิ ผมตัวหอมจริง ๆ นะ แกงส้มยังไม่หยุดตื้อ เขายื่นท่อนแขนของตัวเองไปจนเกือบชิดจมูกโด่ง แต่ฮั่นก็ถอยใบหน้าหนี

    ไม่เอาแกง...

    โด่...พี่ไม่กล้าดมเพราะกลัวติดใจกลิ่นผมล่ะสิ~” แกงส้มว่า ก่อนจะยืนกอดอกยักคิ้วอย่างกวน ๆ ไปให้คนที่ยืนตรงหน้า

    ไอ้เด็กบ้า! ที่พี่ไม่ดม เป็นเพราะกลัวว่าถ้าเกิดดมไป แล้วพี่จะหัวใจวายเพราะกลิ่นเรามันแรงจนพี่รับไม่ได้ต่างหาก

    โหยพี่ฮั่น แรงว่ะ! กลิ่นตัวผมไม่ใช่กลิ่นซากหนูตายนะ จะได้กลิ่นแรงจนเกินรับได้น่ะ เชอะ! ไม่พูดกับพี่แล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า พูดจบ คนพูดก็สะบัดหน้าใส่คนที่ยืนมองเขา แต่ก่อนที่แกงส้มจะได้เดินเข้าไปในห้องของตัวเอง คนที่เดินตามหลังมา ก็คว้าท่อนแขนข้างขวาของแกงส้มขึ้นมา ก่อนจะฝังจมูกโด่งลงไปที่ท่อนแขนนั้น พลางสูดลมหายใจเข้าปอดลึก

    อืม...หอมจริง ๆ ด้วย...ถ้าเกิดพี่ ติดใจกลิ่นแกง ขึ้นมา...แกงต้องรับผิดชอบพี่นะ... คำพูดที่มาพร้อมกับดวงตาที่สื่อความหมายบางอย่าง ทำให้แกงส้มหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมา

    หากหัวใจกำลังเต้นไหวกับสัมผัสที่เกิดขึ้นจนเกินควบคุม...แสดงว่าเรากำลังรู้สึกพิเศษกับคน ๆ นั้นจริง ๆ สินะ...

    พูดบ้าอะไรของพี่เนี่ย แล้วไหนบอกว่าจะไม่ดมไง แล้วมาดมทำไมมิทราบ!” แกงส้มว่า ก่อนจะดึงท่อนแขนออกจากเกาะกุมของฮั่น จากนั้นเขาก็เอามือขึ้นมาลูบที่แก้มของตัวเองไปมาเพื่อดับอาการร้อนบริเวณนี้

    แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ช่วยอะไรเลย...เพราะแก้มทั้งสองข้างของเขาก็ยังคงร้อนอยู่ดี

    ก็ไหนใครแถวบอกว่าคนเราต้องรู้จักใช้โอกาสที่ได้รับมาให้คุ้มค่า...พี่ก็เลยต้องใช้โอกาสที่แกงยื่นมาให้คุ้มค่ายังไงล่ะ...

    คำพูดของตัวเองที่ย้อนกลับมาหาเจ้าของคำพูดนั้น ทำให้แกงส้มต้องย่นจมูกอย่างเคืองนิด ๆ

    เลียนแบบ!”

    เค้าไม่ได้เรียกเลียนแบบ แต่เรียกว่าเอาคำพูดนั้นย้อนกลับมาหาเจ้าของต่างหาก

    เฮอะ! ผมไม่พูดกับพี่และ

    เถียงสู้ไม่ได้ล่ะสิ ฮั่นว่าก่อนจะเอามือมายีผมของแกงส้มอย่างหมั่นเขี้ยวกับท่าทางที่เจ้าตัวกำลังแสดงออกมา

    ใบหน้าหวานที่กำลังทำแก้มป่อง ทำให้ฮั่นนึกอยากจะเอานิ้วไปจิ้มแก้มป่อง ๆ นั่นอีกหลาย ๆ ครั้ง แต่ติดอยู่ที่ว่า เขาไม่อยากจะรู้สึกดีกับสัมผัสเหล่านี้ไปมากกว่าที่เป็นอยู่...

    แค่กลิ่นที่ติดปลายจมูกกับสัมผัสนุ่มละมุนจากเส้นผมของแกงส้ม เขาก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงให้สัมผัสเหล่านี้ห่างหายไปจากความรู้สึกของเขาแล้ว

    ไม่รู้ไม่ชี้ ไปอาบน้ำดีกว่า

    แล้วคนที่ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ก็เดินหายเข้าไปในห้องของตัวเอง ทิ้งให้คนที่มองตามอย่างฮั่น ต้องยืนนิ่งเพื่อครุ่นคิดกับอะไรบางอย่าง

    เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว...ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถทนรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้

    การมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับคนสองคนพร้อมกัน...ไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนาสักนิด!

     

     

     

    โอ๊ยยยยยยยยยย น้องแกงรู้ไหมว่าเจ้ไม่เคยกินข้าวเช้ามื้อไหนแล้วรู้สึกสุขในหัวใจเท่ามื้อนี้มาก่อนเลยอ่ะ จ๋าพูด พลางหันไปมองใบหน้าหวานที่กำลังตักข้าวต้มเข้าปากอย่างหวานหยดย้อย

    เวอร์ไปเปล่าป้าจ๋า หนูเห็นป้าก็มีความสุขกับอาหารที่พี่ฮั่นทำทุกมื้ออ่ะ

    โครม! (เสียงซาวน์ประกอบอาการโดนเบรกจนหัวทิ่ม)

    ถึงจะมีความสุขกับทุกมื้อ แต่มื้อนี้มีความสุขที่สุด!”

    งั้นพรุ่งนี้แกงไม่ต้องมากินข้าวที่นี่แล้วนะ เพราะจ๋ามันมีความสุขที่สุดแค่วันนี้วันเดียว ฮั่นว่า ก่อนจะต้องเบี่ยงหน้าหลบขวดซอสแมกกี้ที่จ๋าปามา

    ไอ้ฮั่น...ถ้าแกจะไม่รวมหัวกับไอ้หมิวเบรกฉันสักวัน ฉันก็ไม่ว่าอะไรแกหรอกนะ!”

    ไม่ได้หรอกว่ะ ฉันเป็นคนรักน้อง เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องเข้าข้างน้องว่ะ

    แต่ได้ข่าวว่าไอ้หมิวมันเป็นน้องฉัน

    อ้าวหรอ...ฮ่า ๆ ๆ ๆ แล้วใบหน้าคมที่ทำหน้ากวนสุดติ่ง ก็เรียกรอยยิ้มให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคนที่ลอบมอง

    ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่มีรอยยิ้มที่สวย...เพราะเขายิ้มจนเห็นฟันแทบจะครบ 32 ซี่ แถมยังเป็นยิ้มที่กว้างแบบจริงจังไม่ปิดบังความรู้สึกอีกต่างหาก

    แบบนี้เขาเรียกว่า ยิ้มเปิดเผย สินะ...

    พี่หมีครับ...เวลาพี่ยิ้ม...พี่ยิ้มแบบนี้หรือเปล่าฮะ...

    ผมอยากเห็นรอยยิ้มของพี่จัง!

    เลิกเถียงกันเถอะค่ะ เอาเป็นว่า...รีบ ๆ กินแล้วก็รีบ ๆ แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองดีกว่าค่ะ เมื่อหมิวพูดจบ ทั้งโต๊ะก็ตกอยู่ในความเงียบ สายตาสามคู่หันไปมองเธอเป็นตาเดียว ต่างครุ่นคิดในใจเหมือนกันว่า...

    หมิว...อินดี้จริง ๆ!

     

     

    หลังจากที่อิ่มจากอาหารมื้อเช้าที่แสนจะเอร็ดอร่อยแล้ว แกงส้มก็เตรียมตัวไปเคลียร์ปัญหาของตัวเองทันที วันนี้เขาคงต้องเข้าไปลางานกับพี่หนึ่งในช่วงเวลาที่ป๊ามาอยู่ด้วย แล้วเขาก็คงต้องไปคุยกับอาคิมเรื่องที่อยู่และงานที่เขาจะเข้าไปทำในร้านชั่วคราว แล้วไหนจะเรื่องแฟนที่ต้องหาให้ได้ภายในสามวันอีก...

    โอ๊ย! ป๊านะป๊า...

    แต่ก่อนที่เขาจะไปทำทั้งสามเรื่อง มีเรื่องหนึ่งที่เขาต้องทำก่อนสามเรื่องนั้น นั่นก็คือ...

    แอ๊ด...

    ไอ้แกงส้มมมมมมมม โผล่หัวมาแล้วหรอ...”

    โหพี่ป๊อก...ทักน้องซะเสียงดังเลยนะ เดี๋ยวหนุ่ม ๆ มาเห็น เขาก็หนีพี่ไปหมดหรอก แกงส้มว่าก่อนจะต้องตกใจเมื่อป๊อกทำมือเป็นเชิงไม่ให้เขาส่งเสียงดัง พลางชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปทางชั้นหนังสือด้านใน

    อะไรของพี่อ่ะ...

    อย่าเอ็ดไปนะ ถ้าฉันจะพูดอะไรให้แกฟัง

    อืม...ว่ามาโลดเลยพี่ พูดจบ ป๊อกก็ดึงหัวของแกงส้มให้เขยิบเข้ามาใกล้ก่อนที่เธอจะกระซิบถ้อยคำบางอย่างบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้คนเป็นน้องฟัง

    เฮ้ยจริงดิ!!!!!!!!”

    ไอ้บ้าแกง! แกจะตะโกนหาพระแสงอะไรวะ เบา ๆ สิโว้ย... ป๊อกว่าก่อนจะปล่อยมะเหงกเขกลงบันหัวทุยหนึ่งที โทษฐานเสียงดัง

    นี่ผู้ชายคนนั้น...เขามาจีบพี่หรอ

    เออ...ก็อย่างที่ฉันเล่านั่นแหล่ะ

    ว้าว! พี่ผมจะขายออกแล้วหรอเนี่ย ดีใจว่ะ!” แล้วแกงส้มก็ต้องหยุดพูดแค่นั้น เมื่อคนที่เขาพูดถึงเดินถือหนังสือออกมาหลายเล่ม

    ป๊อกครับ...เดี๋ยวผมยืมหนังสือพวกนี้กลับบ้านนะครับ เอ่อ...แล้วเดี๋ยวเย็น ๆ ผมจะเข้ามาใหม่

    ค่ะ...ขับรถกลับบ้านดี ๆ นะคะตฤณ’”

    ครับ...คุณเองก็...อย่าเผลอหลับหน้าเคาน์เตอร์อีกล่ะ ไม่งั้นโดนผมฉุดกลับบ้าน ผมไม่ส่งคืนที่นี่แล้วนะ คำพูดที่มาพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่มชวนให้ใจละลาย ทำให้ป๊อกถึงกับเขินอายม้วนต้วน บิดชายเสื้อตัวเองจนมันแทบจะขาดติดมือ

    บ้าน่าตฤณ รีบกลับ ๆ ไปเลย พูดอะไรอายน้องมันมั่ง

    เอ่อ...ไม่ต้องสนใจผมก็ได้ครับ คิดซะว่าผมเป็นอากาศธาตุก็แล้วกัน พูดจบ แกงส้มก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทั้ง ๆ ที่ยืนหัวโด่แทบจะกั้นกลางคนสองคน

    งั้นผมกลับจริง ๆ แล้วครับ เย็น ๆ เจอกันป๊อก... พูดจบ คนพูดก็ยกมือขึ้นมาโบกลาคนเป็นเจ้าของร้าน รอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าหล่อ ยิ่งทำให้คนมองรู้สึกเขินและเคลิ้มจนแทบจะไม่เป็นทำอะไร

    แม้ว่านี่มันอาจจะเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น...ที่ไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดมันจะเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อย...การที่เราได้เริ่มต้นอะไรที่มันดี ๆ ระหว่างและและปลายทางก็น่าจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นนะ...

     หวานเกิ๊น!”

    อะไรไอ้แกง...แกอย่ามาแซวฉัน

    ไม่ให้แซวได้ไงล่ะ ก็พี่เล่นเขินจนเค้าจับทางได้แบบนั้นน่ะ หัดเก็บอาการบ้างก็ได้นะพี่

    แหมมมมมมมม พ่อคนเก็บอาการได้ แค่แกอ่านจดหมายคุณหมีของฉัน แกยังเขินทั้ง ๆ ที่ไม่เห็นหน้าเค้าเลย ใครกันแน่ที่เก็บอาการไม่ได้ ป๊อกว่า ก่อนจะต้องยิ้มออกมาอีกรอบ เมื่อมือถือของเธอขึ้นว่ามีคนส่งข้อความมา และเมื่อเปิดข้อความนั้นอ่าน...หญิงสาวก็ต้องยิ้มหวานอย่างอารมณ์ดี

    เดินออกมาแค่ไม่กี่นาที...ก็รู้สึกคิดถึงป๊อกแล้ว...อยากเดินกลับไปหาจัง...

    หวานซ๊า...

    เฮอะ! ไม่พูดกับพี่แล้ว เอานี่จดหมาย...มีแฟนแล้วก็อย่าละเลยหน้าที่ล่ะแกงส้มว่าก่อนจะยื่นซองจดหมายในมือไปให้คนเป็นพี่ ป๊อกรับมาก่อนจะหย่อนเก็บเข้าไปที่เดิม

    แฟนบ้าอะไรเล่า เพิ่งจะทำความรู้จักกันเว้ย

    อ้อหรอ...อืม ๆ งั้นผมขอไปเคลียร์ชีวิตก่อนนะพี่ เจอกันพรุ่งนี้ครับ พูดจบ แกงส้มก็ยกมือขึ้นมาโบกลาคนเป็นพี่บ้าง แต่ก่อนที่เขาจะเดินพ้นประตู ร่างโปร่งก็หันกลับมาพูดเตือนอะไรบางอย่างกับป๊อก

    อย่าเพิ่งไว้ใจใคร ถ้าเราเพิ่งจะได้ทำความรู้จักกับเขา เพราะว่าคนเรา...รู้หน้าไม่รู้ใจนะพี่ อะไรที่เราเห็นว่าดี มันอาจจะไม่ได้ดีอย่างที่เห็น เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ความดีนะครับ...

    เมื่อแกงส้มเดินออกไปแล้ว ป๊อกก็มานั่งคิดทบทวนกับคำพูดของคนเป็นน้อง

    นั่นสินะ...หรือว่าเรื่องของตฤณ...เธอจะยังไม่ควรให้ทั้งหัวใจ...

    หลังจากที่แกงส้มออกไปได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง ร่างสูงของฮั่นก็ก้าวเข้ามาภายในร้านหนังสือ ป๊อกซึ่งยืนจัดหนังสืออยู่ที่ชั้น ก็เดินออกมาพลางส่งยิ้มไปให้ชายหนุ่มที่ยืนผิวปาก

    แหม่...อารมณ์ดีมาจากไหนแต่เช้าเลยคะคุณหมี

    อารมณ์ดีเพราะคนบางคนน่ะครับ ว่าแต่...น้องเค้าเอาจดหมายมาส่งหรือยังครับ

    ส่งแล้วค่ะ มาก่อนคุณหมีสักชั่วโมงหนึ่งได้ ว่าแต่...วันนี้ไม่มีของอร่อย ๆ มาฝากป๊อกหรอคะ ป๊อกถามพลางมองไปที่มือหนาของชายหนุ่ม ที่ซึ่งบัดนี้ว่างเปล่าไม่มีอะไรติดมือมาสักอย่าง

    อ่อ...ขอโทษทีครับคุณป๊อก พอดีเมื่อคืนผมไม่ได้ไปซื้อวัตถุดิบน่ะครับ เช้านี้ก็เลยทำแค่ข้าวต้มง่าย ๆ ให้คนที่บ้านกินอย่างเดียว ต้องขอโทษด้วยนะครับที่ปล่อยใหคุณป๊อกต้องรอ ฮั่นว่าพลางก้มหัวเป็นเชิงขอโทษหญิงสาวตรงหน้าอีกด้วย

    ว้าย! คุณหมีไม่ต้องมาขอโทษป๊อกหรอกค่ะ ป๊อกก็แค่แซวเล่นไปอย่างนั้นเองแหล่ะค่ะ

    ครับ...งั้นวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับคุณป๊อก

    ค่า...บาย ๆ ค่ะคุณหมี เดินทางไปทำงานดี ๆ นะคะ

    ครับ ๆ รับคำสั้น ๆ ฮั่นก็เดินออกไปจากร้านหนังสือ

     

     

    ยิ้มจนแก้มแทบแตก...

    เมื่ออ่านจดหมายจบ ความรู้สึกของฮั่นก็คือ...ยิ้มจนแก้มแทบแตก!

    ตอนนี้เขาเหมือนคนบ้ามาก ๆ ที่นั่งอ่านจดหมายอยู่ในรถแล้วยิ้มตั้งแต่อ่านบรรทัดแรกจนถึงบรรทัดสุดท้าย ทำไมน้องเคเอสถึงได้เขียนจดหมายได้น่ารักขนาดนี้นะ...

    แถมเนื้อเพลงของน้องก็ยังความหมายดีจนเขาอ่านแล้วอินตาม...

    แต่...โอ๊ย! จะให้เขาแต่งต่อเนี่ยนะ...!

    คนอย่างไอ้หมีฮั่นคนนี้เนี่ยนะจะแต่งเพลง...ให้เขาไปทำอาหารยังจะง่ายกว่าเลย

    (ทำอาหารก็ต้องง่ายกว่าอยู่แล้วสิ...ก็เขาเป็นเชฟนี่!) ฮ่ะ ๆ ๆ

    แต่...คนเราก็จำเป็นต้องทำอะไรที่มันไม่เป็นตัวเองเพื่อคนพิเศษบ้าง...จริงไหม...

    งั้นลองดูสักตั้งก็แล้วกัน!

     

    เคยคิดว่าบนโลกนี้จะไม่มีใครที่เกิดมาเพื่อฉัน

    เคยคิดว่าบนฟากฟ้านั้นลืมฉันที่ต้องอยู่เดียวดาย

    แต่เมื่อได้พบเธอก็รู้ว่าใครคือความหมาย

    ที่ทำให้ฉันอยากหายใจอยู่ไปเพื่อ...ทุก ๆ วัน

     

    เพราะมีเธอ ฉันจึงยิ้มได้ เพราะหัวใจอบอุ่นกับทุกครั้ง

    กับทุกเรื่องราวเวลานาทีที่เรามีร่วมกัน

    ทุกสิ่งนั้น...มันคือสิ่งที่มีความหมาย...

     

    อยากให้เธอรู้ว่าเธอคือคนพิเศษ...สำหรับฉัน

    เธอคือคนนั้น...ที่ฉันเฝ้าตามหา

    อยากให้เธอรู้ว่าเธอคือคนที่มีค่า...กับหัวใจ

     

    หากเลือกได้ฉันจะขอให้เธอไม่ไปไหน

    อยากจะขอให้เธออยู่กับฉันตลอดไป...ชั่วนิรันดร์

    แต่ความจริงมันไม่อาจเป็นอย่างนั้น

    ฉันจึงขอให้เรามีกันและกัน...แค่ทุกวันที่หายใจก็พอ

     

    เพราะเธอคือคนที่พิเศษ...กับหัวใจ

    เพราะเธอคือความหมายของการมีชีวิตอยู่

    และวันนี้ฉันรู้แล้วว่าใครคือคนที่ฉันเฝ้ารอ...

     

    ...และ...คน ๆ นั้น...ก็...คือ...เธอ’...

     

    เมื่อเขียนมาจนถึงคำสุดท้าย...ฮั่นก็หยิบกระดาษที่เขาเขียนเนื้อเพลงขึ้นมา แล้วจรดริมฝีปากลงไปที่คำสุดท้าย...แม้เขาจะหวั่นไหวและรู้สึกดีแค่ไหนกับแกงส้ม...แต่เขาก็ยังรู้หัวใจตัวเองดีว่า...

    เขารู้สึกดีกับน้องเคเอสมากกว่า เพราะ...น้องเคเอสคือที่เข้ามาอยู่ในโลกของเขา...

    โลกที่เขาสร้างขึ้นมา...แม้มันจะไม่ใช่โลกแห่งความเป็นจริง แต่มันก็เป็นโลกที่เป็นความสุขที่สุดของชีวิตเขา...เขาเองก็ไม่อาจรู้ได้หรอกว่า...โลกของแต่ละคนเป็นอย่างไร

    แต่โลกของเขา...คือโลกที่มีน้องเคเอส คือโลกที่เขาสบายใจทุกครั้งที่ได้ก้าวเข้ามาในโลกใบนี้

    มันอาจดูเหมือนงมงาย...แต่มันคือ ความสุขทางใจ ของเขาจริง ๆ...

    หรือเขาจะเป็นนางวันทองสองใจจริง ๆ นะ...

    ฮั่นพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะพับกระดาษที่เขาจดเนื้อเพลงใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อยีนส์ ก่อนที่เขาจะติดเครื่องรถแล้วขับออกไปทำงาน

     

     

    อะไรนะแกง!”

    ผมบอกว่า...ผมขอลางานพี่หนึ่งอาทิตย์หนึ่งครับ

    จะบ้าหรอแกงงงงงงงง ลางานอาทิตย์หนึ่งพี่ก็ตายสิ ไอ้พีมมันก็ไปต่างจังหวัดด้วย หนึ่งว่า ก่อนจะต้องยกมือขึ้นมากุมขมับ

    แต่ผมจำเป็นจริง ๆ นะพี่หนึ่ง ถ้าพี่หนึ่งไม่ให้ผมลางานนะ ผมอาจจะไม่ได้มาทำงานกับพี่อีกเลยก็ได้!”

    นี่อย่าบอกนะว่าเรายังไม่ได้บอกพ่อเรื่องที่มาทำงานเป็นดีเจน่ะ แกงส้มพยักหน้าอย่างรัว ๆ ก่อนจะส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้คนเป็นพี่

    ให้ตายเถอะแกง...ทำไมถึงไม่บอกความจริงกับพ่อไปล่ะ

    ก็พ่อเค้าอยากให้ผมไปทำงานกับอาคิมนี่ครับ แต่ผมไม่อยากทำ แต่ผมก็ไม่อยากปฏิเสธให้พ่อเสียใจ พ่อตั้งความหวังไว้กับผมเยอะนะพี่ พูดจบ แกงส้มก็ถอนหายใจออกมายาว ๆ

    เอ้าสองหนุ่ม...ทำหน้าเครียดอะไรกันจ๊ะ เสียงทักของหญิงสาวที่มาใหม่ เรียกดวงตาของสองหนุ่มให้หันไปมอง

    ก็แกงส้มอ่ะดิสุ จะขอลางานกับหนึ่ง...หนึ่งอาทิตย์!”

    อ้อ...จะไปทำงานกับคุณคิมสิใช่ไหมแกง สุถามพลางส่งยิ้มหวานมาให้แกงส้ม

    ครับ...หนึ่งอาทิตย์ที่ป๊าลงมากรุงเทพ ผมคงต้องไปทำงานกับอาคิม

    ถ้าอย่างนั้นหนึ่งก็ให้แกงลางานเถอะจ้ะ ประโยคนี้สุหันมาพูดกับแฟนหนุ่ม

    แต่ถ้าแกงไม่อยู่ ก็เหลือหนึ่งคนเดียวเลยนะสุ พีมมันก็ไปต่างจังหวัดด้วย หนึ่งว่า พลางทำหน้ายู่อย่างคนที่เริ่มจะออกอาการงอน (บ้าง)

    เรื่องอะไรมาปล่อยให้เขาทำงานคนเดียวล่ะ...เขาก็อยากจะมีเวลาไปสวีทกับแฟนเขาบ้างนะ!

    เอางี้นะ...เดี๋ยวสุมาช่วยหนึ่งที่นี่ก็แล้วกัน เราสลับหน้าที่กันดีไหมน้องแกง

    เจ๋งเป้งไปเลยพี่สุ ว่าแต่...พี่สุทำงานตำแหน่งอะไรที่ร้านอาคิมนะพี่ ?

    ผู้ช่วยเชฟฮั่นจ้ะ!” จบคำพูดของสุ แกงส้มก็แทบหงายหลังตกเก้าอี้

    ผู้ช่วยเชฟฮั่น!

    ว้ากกกกกกกกกกก ถ้าเขาสลับหน้าที่กับพี่สุ เขาก็ต้องไปทำงานกับไอ้พี่ฮั่นน่ะสิ!

    ไม่เอาหรอก...หวั่นไหวตายกันพอดี ช่วงนี้เขายิ่งอยากจะอยู่ห่าง ๆ ผู้ชายคนนี้อยู่

    เอ่อ...

    ก่อนจะปฏิเสธพี่...แกงก็ช่วยหาทางเลือกที่ดีกว่าทางเลือกที่พี่เสนอให้ได้ก่อนนะจ๊ะ

    เมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของสุ แกงส้มก็ยกมือขึ้นมากุมขมับแทนหนึ่งที่บัดนี้ยิ้มหน้าบานอย่างอารมณ์ดีที่จะได้สวีทกับแฟนสาวอย่างเต็มที่ เกือบ 24 ชั่วโมง

     

     

    เอาอย่างนั้นหรอ...ก็ได้นะ...แต่แน่ใจนะว่าแกจะทำไหวน่ะไอ้แกง

    คิมเมื่อได้ยินคำเสนอของสุที่มาพูดพร้อมกับแกงส้ม เธอก็ตกปากรับคำทันที จริง ๆ เธอเองก็อยากจะให้แกงส้มทำตำแหน่งนี้อยู่แล้ว เพราะเธออยากให้หลานชายของเธอได้เรียนรู้สูตรการทำอาหารจากฮั่นเหมือนกัน เพราะในอนาคตวันข้างหน้า ร้านนี้ก็ต้องตกเป็นของแกงส้ม

    ไหวสิครับอา แค่นี้สบายมาก!”

    ถ้าแน่ใจงั้นเดี๋ยวอาเรียกฮั่นนี่ของอาออกมาคุยเลยแล้วกัน

    ไม่ต้องเรียกหรอกครับ ผมได้ยินหมดแล้ว... คำพูดที่มาพร้อมกับร่างสูงในชุดเชฟก็ทำให้คิมแปลกใจ

    ปกติถ้าลองฮั่นได้เข้าครัวแล้ว เขาก็จะไม่ค่อยออกมาอยู่ข้างนอกเป็นอันขาด แต่นี่...ฮั่นกลับมายืนฟัง ทั้ง ๆ ที่เข้าครัวไปแล้ว...มันน่าแปลกใจจริง ๆ

    หรือแกงส้มจะมีอิทธิพลบางอย่างต่อฮั่นจริง ๆ อย่างที่ยัยจ๋าพูด...!

    ไม่ได้การและ...นักสืบอย่างคิมคงต้องออกโรงเสียแล้วงานนี้...

    แล้วจะเริ่มงานวันไหน..?

    อีก 2 วันครับ

    อืม...ถ้างั้นก็...เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน สั่งจบ ฮั่นก็หมุนตัวเดินเข้าครัวไป ปฏิกิริยาที่นิ่งและเฉยชา ทำให้แกงส้มอดแปลกใจไม่ได้

    เมื่อเช้ายังเล่นหยอกล้อกับเขาอยู่เลย...แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้ทำเฉยขนาดนี้นะ!

    แล้วทำไมเราต้องสนใจด้วยล่ะว่าไอ้คุณพี่ฮั่นนี่จะเป็นอะไร...อยากจะเฉยแบบนี้ก็ช่างเขาสิ

    ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเราเลย!!!!!

    แต่...ทำไมเราต้องรู้สึกโหวง ๆ ในท้องด้วยล่ะ...?

    แล้วเรื่องที่อยู่แกจะเอายังไงแกง

    ผมคงต้องขอรบกวนให้เจ๊ไปอยู่กับผมที่คอนโดนะครับ ผมไม่อยากย้ายของอ่ะ

    อืม...ก็ได้ ถ้าไม่เพราะแกอยู่ห้องตรงข้ามกะฮั่นนี่นะ ฉันไม่ยอมย้ายไปอยู่ห้องแกแน่ ๆ ว่าแต่...แกกับฮั่นนี่ทะเลาะกันหรือเปล่า ทำไมแลดูบรรยากาศมันดูอึมครึมชอบกล ?

    คำถามของคนเป็นอา ทำให้แกงส้มยิ่งรู้สึกโหวงในท้องเข้าไปใหญ่

    ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันครับ งั้นผมขอตัวไปทำงานก่อนนะอา ส่วนเรื่องย้ายของ...เดี๋ยวพรุ่งนี้เราค่อยไปจัดการก็แล้วกัน...

    อืม...

    บทสนทนาหยุดลงเพียงเท่านั้น แกงส้มก็เดินออกไปจากร้าน โดยมีสายตาของคนร่างสูงมองตามไป

    พี่ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอกนะแกง...แต่พี่เองก็ไม่อยากรู้สึกผิดต่อคนอีกคนที่มีค่าต่อหัวใจของพี่ครับ

     

     

    ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ดึกสงัด เรียกดวงตาแกงส้มที่วันนี้กำลังเข้าเวรเป็นดีเจกะกลางคืนให้หันหน้าออกไปมองยังหน้าต่างบานเล็ก

    ดวงดาวสีขาวสุกสกาวที่กระจายเกลื่อนท้องฟ้า ให้ความรู้สึกที่เงียบเหงาจนจับขั้วหัวใจ...

    ดวงดาวนับร้อยนับพันยังมีกันอยู่ข้าง ๆ ไม่ห่างไปไหน แต่เขาที่ซึ่งมีคนสองคนอยู่ในหัวใจกลับรู้สึกเหงาอย่างไม่ทราบสาเหตุ...

    เขาอาจเหงาเพราะสายตาที่เฉยชาคู่นั้นของพี่ฮั่น

    หรืออาจเหงา...เพราะความรู้สึกในใจที่ไม่ชัดเจนของตัวเขาเองที่มันทำให้เขาต้องรู้สึกแบบนี้

    จริง ๆ แล้วเขารู้สึกอย่างไรกับพี่หมีกันแน่...

    แล้วความรู้สึกที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับพี่ฮั่นอีกล่ะ...มันคืออะไรกัน...

    เฮ้อ...ทำไมความรักมันยากที่จะเข้าใจจังนะ!

     

     

    สายลมที่พัดมาปะทะผิวกายเรียกวงแขนแกร่งให้ยกขึ้นมาโอบรอบตัวเอง ดวงดาวที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เรียกนิ้วเรียวของฮั่นให้ชี้ขึ้นไปที่ท้องฟ้านั้น

    หากตรงนี้ข้าง ๆ เขา...มีน้องเคเอสมายืนดูดาวด้วย...ก็คงจะดีสินะ

    หรืออย่างน้อย...มีเจ้าตัวแสบแกงส้มมายืนดูด้วยก็ยังดี...

    เอ๊ะ! แล้วทำไมเขาต้องคิดถึงคนสองคนพร้อมกันอีกแล้วเนี่ย!

    จับสองคนนี้มาเขย่า ๆ รวมกันได้ไหมนะ...คงไม่ได้ล่ะสิ...

    เฮ้อ...แย่จัง

     

     

    รุ่งเช้า...

    อื้อหือออออออ กลิ่นแกงเขียวหวานลอยมาจากไหนน้า~~~” จ๋าที่ซึ่งพึ่งลุกออกมาจากที่นอน รีบวิ่งตามกลิ่นหอมของพริกแกงที่ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้องครัวมาหยุดยืนที่หน้าหม้อแกงซึ่งวางตั้งอยู่กลางโต๊ะอาหาร

    หอมจังเลยอ่ะไอ้ฮั่น แกงเขียวหวานอะไรวะ

    ไก่..

    หืม...น่ากินชะมัดเลย

    อืม

    เฮ้ย! นี่แกเป็นอะไรเนี่ย ถามคำตอบคำ ตีนไก่ติดคอหรือไง จ๋าว่า พลางมองหน้าเพื่อนหนุ่มอย่างสงสัย

    ทำหน้าเหมือนหมาหงอยเลยไอ้ฮั่น...ต้องมีอะไรแน่ ๆ เลย ปกติเวลามันทำอาหาร มันจะยิ้มทุกครั้งนี่หว่า แต่ทำไมครั้งนี้ทำหน้าแบบนี้วะ!

    ตีนไก่บ้านแกดิไอ้จ๋า ไม่ต้องพูดมากหรอกน่ะ ในหม้อนี้ของแกนะ ตักแจกเด็ก ๆ ด้วย ส่วนอีกหม้อหนึ่งของคนพิเศษฉัน แกห้ามยุ่ง!...เดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อน ฝากทางนี้ด้วยแล้วกัน

    พูดจบ ฮั่นก็เดินไปทางห้องนอน ทิ้งให้คนเป็นเพื่อนมองตามหลังไปอย่างไม่เข้าใจ

    ส่วนคนที่เข้ามาในห้องนอนแล้ว เขาก็ทิ้งตัวลงนอนต่อบนเตียงนอน พลางยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผากตัวเองทันที

    นี่เขากำลังเป็นอะไรกันแน่นะ...ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริง ๆ

     

     

     

     

     

     

    บางครั้งคนเราก็คิดว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังคิดนั้นถูกต้อง...ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงแล้ว ไม่มีอะไรที่เรียกว่าถูกต้องหรือว่าผิด...มีแต่สิ่งที่เราคิดอยากจะทำและทำไปแล้วทั้งนั้น...ความสับสนใจหัวใจย่อมเกิดขึ้นได้กับคนทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนที่คิดมั่นเสมอว่าตัวเองไม่เคยสับสนกับอะไร...

     

     

     

     

     

     

    //มาอัพเรื่องนี้ก่อน เพราะว่าพล็อตมันวิ่งอยู่ในหัวเยอะมากเลยค่ะ ,,, แหะ ๆ ๆ วันนี้คงไม่มีอะไรเวิ่นมาก เพราะตอนนี้ฝนบ้านเค้าตกหนักกกกกกกกก และเค้าก็รีบเขียนอย่างไวค่ะ เพราะฉะนั้น...ขอให้สนุกกับฟิคตอนนี้ของเค้านะคะ อาจจะดูอึน ๆ เหมือนจะดราม่า ,,, แต่ก็ติดตามตอนต่อไปนะคะ บาย ๆ ๆ ๆ ๆ (มีคำผิดต้องขออภัยนะคะ)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×