ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Letter #เพราะโลกนี้มี 'นาย' [FIC HKS]

    ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4 : ใกล้กันอีกนิด...และอีกนิด...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.1K
      4
      16 ส.ค. 55

     

    บทที่ 4 : ใกล้กันอีกนิด...และอีกนิด...

    หลังจากที่อ่านจดหมายจบ ฮั่นก็เก็บจดหมายฉบับนั้นใส่เข้าไปในกระเป๋าเสื้อเชิ้ตของตัวเอง ตอนนี้หัวใจของเขากำลังรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด แค่ตัวอักษรไม่กี่ร้อยตัวทำไมถึงทำให้เขารู้สึกดีได้ขนาดนี้นะ...

    ~อยากมีคนรัก คนมีรักมันเป็นแบบไหน คนอย่างฉันมันยังไม่เคยเข้าใจ บอกก็คงไม่รู้ ดีแค่ไหนก็คงไม่รู้ คงต้องหาสักคนมาเป็นเนื้อคู่~

    เสียงโทรศัพท์ที่แผดดัง เรียกสติที่หลุดลอยไปกับจดหมายฉบับนั้นของฮั่นให้กลับคืนมา

    หมิว

    ชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ ทำให้ฮั่นรีบรับสายทันที

    เอ่อหมิว...

    (พี่ฮั่นนนนนนนน พี่หายไปไหนเนี่ย! ประทานโทษเถอะนะคะ ถ้าพี่จะชวนหนูมานั่งแกร่วรอพี่นานขนาดนี้ คราวหน้าพี่ก็ไม่ต้องพาหนูกับปันปันมานะคะ) เสียงโวยวายของคนที่อยู่ปลายสายทำให้ฮั่นสำนึกตัวได้ว่า...เขาลืมหมิวกับปันปันไว้ที่ร้านกาแฟ!

    น้องตั้ง 2 คน...กูลืมไปได้ไงวะ!!!

    ฮั่นคิดในใจ ก่อนจะเอามือมาเขกหัวตัวเอง (เบาเบา) หนึ่งที

    พี่ขอโทษนะหมิว เดี๋ยวพี่จะรีบไปหาเราเดี๋ยวนี้เลย

    (มันก็ต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วล่ะค่ะ) พูดจบ สายก็ถูกตัดไป ฮั่นรีบลงจากรถ แล้วกดล็อกประตู พลางสาวเท้าเดินไปยังร้านกาแฟที่อยู่ไม่ไกลอย่างรวดเร็ว เมื่อเดินเข้าไปภายในร้าน ฮั่นก็เห็นหมิวนั่งกอดอกมองมาทางเข้า เด็กสาวทำหน้าหงิกบ่งบอกอาการบอกบุญไม่รับ ส่วนปันปันนั้นนั่งอ่านหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่อย่างไม่ทุกข์ร้อน ชายหนุ่มรีบทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตรงข้ามคนที่เป็นน้องสาวเพื่อน พลางยกมือขึ้นมาเป็นเชิงแสดงออกว่าเขารู้สึกผิดและขอโทษจริง ๆ

    ถ้าไหว้แล้วน้องไม่อายุสั้น ไหว้ไปแล้วนะเนี่ย!!!!

    ขอโทษนะหมิว พอดีพี่ออกไปทำธุระด่วนที่สำคัญมากมาอ่ะ แล้วนี่เราสั่งอะไรกันหรือยัง ?

    โอ๊ย!!!! เค้าสั่งกันจนอิ่มไปแล้วค่ะพี่ฮั่น ตอนนี้อยากกลับบ้านไปนอนพักแล้วด้วย ปวดแผล!!!”

    แต่เรายังไม่ได้คุยกันเรื่องที่มาที่ไปของแผลนี้เลยนะ

    หมิวแค่ซุ่มซ่ามตกบันไดเองค่ะ พี่ฮั่นจะมาคาดคั้นหมิวหาอะไรคะหมิวว่า ก่อนจะต้องหลบสายตาคมที่มองมาแบบเหมือนจะรู้ทัน ว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่

    จ๋ายังไม่รู้เรื่องนี้ใช่ไหม ?

    ค่ะ...

    เลือกเอาว่าจะให้พี่บอกจ๋าหรือว่าจะบอกพี่... ฮั่นยื่นตัวเลือกที่ทำให้คนต้องเลือก หน้าเครียดขึ้นมา

    เธอไม่อยากบอกใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นยัยป้าจ๋าหรือว่าพี่ฮั่น!

    หมิวยังไม่พร้อมจะบอกใครทั้งนั้นแหล่ะค่ะ หมิวพูดแค่นั้น ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืนแบบทุลักทุเล

    ต่อให้พี่ฮั่นคาดคั้นหมิวให้ตาย หมิวก็ไม่มีอะไรจะบอกพี่ค่ะ

    ฮั่นถอนหายใจออกมา ก่อนที่เขาจะลุกเดินไปประคองคนที่ข้อเท้าเดี้ยง มือหนาควักเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้วส่งให้ปันปันเอาไปจ่ายค่าเครื่องดื่มของเธอสองคน จากนั้นคนทั้งสามก็เดินออกไปจากร้าน โดยมีสายตาของเจ้าของร้านอย่างจอยมองตาม

    ผู้ชายคนนี้กับน้องแกงส้มหน้าหวานคนนั้นทำไมดูเคมีเข้ากันจังแฮะ...หรือว่าที่เจ้าน้องนิวพูดจะเป็นจริง...แต่นี่มันผู้ชายกับผู้ชายนะ...อุ๊ย! ไอ้จอยเพ้อใหญ่แล้ว พอ ๆ เลิกมโน

     

     

     

    พี่หมิว ปันปัน...เป็นไงกันมั่งเนี่ย ได้ข่าวว่าไปมีเรื่องกับ....อุ๊บ!!!” ยังไม่ทันที่จะเสียบคีย์การ์ดเปิดประตูห้อง สาวน้อยหน้าใสในแว่นกรอบสีเหลืองสดก็วิ่งออกมาจากห้องตรงข้ามกับห้องของฮั่น เด็กสาวถามคนที่เพิ่งมาถึง ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัย แต่ยังถามไม่ทันจบประโยคดี มือของปันปันก็เอื้อมไปปิดปากคนถามไว้เสียก่อน

    พี่ไม่ได้เป็นอะไรมากฟลุ๊ค แค่เป็นแผลที่ข้อเท้านิดหน่อยเอง ว่าแต่เราเหอะเข้าไปทำอะไรที่ห้องพี่ดาวอ่ะ หมิวพยายามพูดตัดบทเพื่อไม่ให้ผู้ชายร่างสูงที่จับตามองเธออยู่นึกสงสัยอะไรไปมากกว่านี้ ก่อนที่เธอจะเบี่ยงเบนประเด็นด้วยการถามถึงห้องตรงข้าม ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะได้ผล เพราะดวงตาคมของฮั่นหันไปมองยังห้องตรงข้ามทันที

    คือพี่ดาวเค้าจะย้ายออกแล้วค่ะ

    หือ..? ย้ายออก ?

    ก็คือว่าพี่ดาวเค้าจะไปอยู่กับแฟนเค้าที่ต่างประเทศแล้วค่า...แถมแฟนพี่ดาวก็หล่อมากกกกก แถมยังรวยโคตร ๆ ด้วย ตอนนี้ห้องพี่ดาวก็เลยจะกลายเป็นห้องว่างแล้วค่ะ! แล้วพอดีฟลุ๊คกลับมาจากม.เร็ว ก็เลยทันเห็นพอดี พี่ดาวเห็นฟลุ๊คว่าง ๆ อยู่ก็เลยไหว้วานให้ฟลุ๊คช่วยเก็บของลงลังน่ะค่ะ

    อ๋อ...แล้วพี่ดาวเค้าไปวันไหนอ่ะครับน้องฟลุ๊ค

    วันนี้เลยค่ะพี่ฮั่น เดี๋ยวเก็บของเสร็จก็ไปสุวรรณภูมิกันเลย อ๊ะ! ฟลุ๊คไปช่วยพี่ดาวเก็บของต่อก่อนนะคะ พี่หมิว...เดี๋ยวถ้าฟลุ๊คเก็บของเสร็จแล้ว ฟลุ๊คจะมาอยู่เป็นเพื่อนพี่นะคะ

    ฟลุ๊คว่าพลางส่งยิ้มหวานให้กับฮั่นและหมิว

    แกจะไปทำอะไรก็ไปทำเหอะ ฉันอยู่เป็นเพื่อนพี่หมิวอยู่แล้ว ปันปันว่าก่อนจะเอามือไปผลักศีรษะฟลุ๊คเบา ๆ หนึ่งที คนโดนผลักหัวหันมาแยกเขี้ยวใส่คนผลัก ก่อนที่เธอจะเดินดุ่ม ๆ ไปยังห้องที่ซึ่งกำลังจะกลายเป็นห้องว่างในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้

    เมื่อฟลุ๊คไปแล้ว ฮั่นก็เริ่มต้นเปิดประตูห้องอีกครั้ง และเมื่อประตูเปิดออก เขาก็เข้าไปประคองคนเจ็บให้เดินเข้าห้อง โดยมีปันปันเดินตามเข้ามาอีกคน

     

    อย่าเขยิบมาใกล้ ช่วยขยับไปไกล ๆ ขอได้ไหมหัวใจผมวายวอดกันพอดี...เฮ้ ๆ เสียงฮัมเพลงที่มาพร้อมกับท่าทางแรพโย่วประกอบเรียกดวงตาหลายคู่ให้มองมาที่ร่างโปร่ง ใบหน้าหวานที่กำลังแย้มยิ้มเมามันส์ในอารมณ์เพลง ทำให้คนที่มองเหล่านั้น คล้ายกับโดนสะกดด้วยมนต์ ความเท่และความมีเสน่ห์ ของชายหนุ่มหน้าหวานคนนี้

    แกงส้มไม่เคยอายใครเวลาที่เขาต้องร้องเพลงแล้วเต้นแบบนี้ เพราะเวลาที่เขาอารมณ์ดี เขาจะชอบฮัมเพลงและเต้นแบบนี้ประจำ

    ใครจะมองเขาอย่างไรเขาก็ไม่สนใจ

    ก็เขาไม่ได้ไปเต้นบนหัวใครนี่นา...ทำไมเขาจะต้องแคร์ด้วยล่ะว่าใครจะมองเขาไม่ดี จริงไหม!

    แต่แล้วอารมณ์ที่ดีของแกงส้มก็มีอันต้องสะดุด เพราะเมื่อเขาเดินมาจนถึงหน้าคอนโดของตัวเอง...

    คอนโด H2H ปิดปรับปรุงชั่วคราวเป็นเวลา 1 เดือน

    ปิดปรับปรุงคอนโดชั่วคราวหนึ่งเดือน!!!!!!

    บ้าไปแล้ว !!!! คอนโดปิดปรับปรุง แล้วเขาจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ!?!

    ข้อความตัวใหญ่เท่าบ้าน บนกระดานไม้แผ่นใหญ่ที่ปักอยู่ตรงบริเวณสนามหญ้าหน้าคอนโด เรียกให้เท้าของแกงส้มออกเดินไปยังห้องพักของ เจ๊ม้า ผู้ดูแลและเป็นเจ้าของคอนโดแห่งนี้ทันที

    เจ๊ม้า!!!!!! เจ๊หมายความว่ายังไงเนี่ยที่บอกว่าจะปิดปรับปรุงคอนโด!!!!” เมื่อเปิดประตูห้องพักเข้าไปได้ แกงส้มก็โวยวายเสียงดังใส่ผู้หญิง(ครึ่งเดียว)ที่มีผมบ็อบสั้น ซึ่งเธอกำลังนั่งดูรูปหนุ่มหล่อเปลือยท่อนบนอยู่ ร่างบางของเจ๊ม้าสะดุ้งเฮือกพลางรีบเอาหลังมือปาดปากตัวเองทันที จากนั้นเธอก็ปิดหน้าต่างในหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว

    แกงส้ม!!!! เจ๊เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าก่อนจะเข้าห้องเจ๊ให้เคาะประตูก่อน ทำไมไม่เคยจำเลยนะ เกิดเจ๊โป๊อยู่จะทำยังไงล่ะ!!!” เจ๊ม้าโวยวายกลับมา แต่แกงส้มก็หาได้สนใจไม่ ชายหนุ่มเดินไปหาคนที่ยืนจัดผมเผ้าตัวเอง ก่อนที่เขาจะทุบมือลงไปบนโต๊ะคอมส์ดังปังใหญ่!

    เจ๊ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ อธิบายมาให้เคลียร์ ๆ เลยว่าไอ้เรื่องปิดปรับปรุงคอนโดนั่นมันยังไง

    เจ๊ยังต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีกหรอ ป้ายมันก็บอกชัดเจนอยู่แล้วนี่ อีกอย่างเจ๊ก็จำได้นะว่าเจ๊เคยส่งจดหมายชี้แจงเรื่องนี้ไปตามห้องแต่ละห้องแล้ว เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี่เอง นี่เราไม่รู้เรื่องกับเค้าบ้างเลยหรอ ?

    เฮ้ย! ส่งมาตอนไหวเจ๊ ผมไม่เห็นได้เลย ไอ้จดหมายชี้แจงอะไรนั่นอ่ะ

    อันนั้นเจ๊ก็ไม่รู้นะ แต่เราไม่สังเกตบ้างหรือไงว่าตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา คอนโดของเราคนน้อยลงทุกวัน ๆ แถมบรรยากาศก็เงียบเหงาสุด ๆ ด้วย

    ง่ะ! ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปสังเกตล่ะเจ๊ ผมทำงานกลางคืนกลับบ้านตอนบ่าย ๆ ทุกวัน แล้วพอกลับมาถึงคอนโด แม้มันจะเงียบเหงา ผมก็คิดว่าเป็นเพราะตอนกลางวันคนไปทำงานกันหมด คอนโดมันจะไปคึกคักได้ยังไง

    แล้วเราไม่ได้ยินเสียงคนขนของบ้างรึ?

    จะไปได้ยินอะไรล่ะเจ๊ ผมทำงานกลางคืนนะคร้าบบบบ กลับมาถึงห้องก็หลับเป็นตายแล้ว!!!”

    ถ้าอย่างนั้น...เราก็จงรู้ไว้ซะนะว่า...ภายในวันพรุ่งนี้เที่ยงคืน เราจะต้องขนของออกไปให้หมด เพราะวันมะรืนช่างจะเข้ามาทำงานแล้ว พูดจบ เจ๊มาก็เอามือมาเชยคางผมให้ปากที่อ้าเหวอแบบตกใจสุดขีดของผมให้ประกบเข้าหากัน

    ขนของออกภายในเที่ยงคืนพรุ่งนี้!!!!!

    เจ๊ม้า!!!! แล้วผมจะย้ายไปอยู่ที่ไหนอ่ะ ญาติผมก็ไม่มีที่กรุงเทพ เพื่อนผมก็ไม่มีที่อยู่ใกล้ ๆ อ๊ากกกก เจ๊ทำกับผมแบบนี้ได้ยังไง แกงส้มโวยวายออกมาเสียงดังลั่น จากนั้นมือบางก็ขยุ้มผมตัวเองอย่างคนคิดไม่ตก ขายาวเดินวนไปมาภายในห้องของเจ๊ม้าอย่างใช้ความคิด

    ไปอยู่ที่ไหนดีวะ...?

    เอ...เดี๋ยวนะ เดี๋ยวเจ๊ลองเช็กกับอีกคอนโดนึงของเจ๊ก่อน รู้สึกเหมือนเมื่อเช้ายัยแหววหลานเจ๊มันโทรมาบอกว่ามีคนย้ายออกไปห้องนึง...แกงส้มรอแป๊บนึงนะ เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ๊ม้าพูด แกงส้มก็เหมือนมีแสงสว่างปลายทางอุโมงค์ทันที ชายหนุ่มยืนบีบมือตัวเองแน่นอย่างรอคอยความหวัง และเมื่อเจ๊ม้าเดินมาหาเขาพลางยิ้มหวาน แกงส้มก็เริ่มยิ้มตามอย่างมีหวัง

    ...คอนโด H2-8H ของเจ๊...มีห้องว่างให้เราห้องหนึ่งจ้ะ พรุ่งนี้เตรียมขนของย้ายเข้าไปได้เลย เดี๋ยวตอนนี้เจ๊บอกทางเราก่อน ว้าย!!!!” เมื่อเจ๊ม้าพูดจบ แกงส้มก็วิ่งเข้าไปกอดคนพูดทันที

    ผมรักเจ๊ม้าที่สุดในโลกเลยคร้าบบบบบบบบ

     

     

    ตึกไหนวะเนี่ย... คนที่กำลังถือแผนที่ที่บอกสถานที่ของคอนโดที่เขาจะมาอยู่ใหม่ กำลังเงยหน้ามองชื่อตึกแต่ละตึกอย่างใจเย็น แต่ลมที่พัดแรงก็ทำให้กระดาษแผ่นนั้นปลิวหลุดมือไป แกงส้มรีบวิ่งตามไปเก็บอย่างรวดเร็ว และเพราะมัวแต่วิ่งไม่ดูทาง ทำให้เขาวิ่งไปชนกับร่างของคนที่เดินออกมาจากตึก ๆ หนึ่งอย่างแรง

    ตุบ!

    โอ๊ย!”

    เป็นอะไรหรือครับน้อง พี่ขอโทษครับที่เดินออกมาขวางทางน้องที่กำลังรีบ ฮั่นเอ่ยปากขอโทษคนที่วิ่งมาชนเขา ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปดึงแขนคนที่นั่งกองกับพื้นให้ลุกขึ้น และเมื่อคนที่ล้มก้นจ้ำเบ้าพื้นยืนขึ้นเต็มความสูง ฮั่นก็ถึงกับตะลึง...

    เฮ้ย...เด็กน้อยขี้โวยวายบนรถไฟฟ้านี่นา!!!!”

    คุณว่าใครเป็นเด็กน้อยขี้โวยวายน่ะฮะคุณป๋าโรคจิต!!!”

    คนโดนเรียกคุณป๋าโรคจิตถึงกับหน้าเบ้ขึ้นมาทันที

    หล่อ เท่ ดูดีมีชาติตระกูลอย่างเขาเนี่ยนะ เป็นคุณป๋าโรคจิต!?!

    ก็ว่านายน่ะสิ แล้วนี่...วิ่งตามเก็บอะไรมาน่ะ ไม่ดูทางเลย เกิดวิ่งออกไปถนนใหญ่แล้วรถชนตายขึ้นมา ทำยังไงฮะ!!!” คนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเริ่มบ่นคนที่อายุน้อย คนโดนบ่นทำปากจู๋ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเขาวิ่งตามมาเก็บอะไร

    เฮ้ย! ซวยแล้ว! ทำไงดีวะเนี่ย!?!”

    อะไรซวย ?

    ก็กระดาษแผ่นนั้นน่ะ ผมเขียนแผนที่คอนโด H2-8H เอาไว้ แกงส้มว่าก่อนจะเอามือไปขยี้ผมตัวเองอย่างรู้สึกเคืองในอารมณ์และเคืองในสายลมที่พัดแรงในตอนนี้ด้วย

    นายจะไปทำอะไรที่คอนโดนั่น เมื่อได้ยินชื่อคอนโดที่เด็กหนุ่มตรงหน้าพูดถึง ฮั่นก็ถามออกมาทันที

    ก็คอนโดนั่น...มันคอนโดที่เขาอยู่น่ะสิ แถมยังเป็นคอนโดที่เขากับเจ้าเด็กคนนี้กำลังยืนอยู่ข้างหน้าด้วย!

    ผมจะไปทำอะไร มันก็เรื่องของผม เกี่ยวกับอะไรกับคุณด้วยล่ะ

    เอ๊ะ! ฉันถามนายดี ๆ นะ

    ก็แล้วผมตอบคุณไม่ดีตรงไหนล่ะครับ...เฮ้ย!!! ฝนตกนี่หว่า พูดจบ ฝนเม็ดใหญ่ก็ตกลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว ทำให้สองหนุ่มที่ยืนเถียงกัน ต้องรีบวิ่งเข้าไปหลบฝนที่หน้าคอนโด

    ฝนบ้า! นึกจะตกก็ตก โรคจิต!”

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มหน้าหวานที่กำลังเอามือปัดน้ำฝนที่เกาะบริเวณท้ายทอยกร่นด่าสายฝนที่โหมกระหน่ำ ฮั่นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นแข่งกับเสียงฝน

    นี่คุณหัวเราะอะไรของคุณเนี่ย

    ก็หัวเราะนายน่ะสิ ฝนตกมันเป็นเรื่องธรรมชาติมาก ๆ เลยนะ เพราะนี่มันฤดูฝน ถ้าไม่ให้ฝนตกนายจะให้หิมะตกหรือไง

    ผมรู้ว่านี่มันฤดูฝน แล้วฝนจะต้องตก แต่ ผมเกลียดฝนเพราะสายฝนทำให้ผมต้อง ถูกทิ้ง ผมไม่ชอบมัน...มันทำให้ผมอ้างว้างและเหน็บหนาว... เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ วงแขนของแกงส้มก็โอบรัดรอบเอวตัวเอง ใบหน้าหวานที่หม่นหมองลง ทำให้คนที่ยืนมองอยู่อดรู้สึกหดหู่ตามไม่ได้

    เขาเข้าใจความรู้สึกของคนถูกทิ้งดี...เพราะเขาเองก็เคยเป็น คนถูกทิ้ง มาก่อน...

    แต่นายก็ต้องทนอยู่กับมัน...

    ใช่ครับ...ผมต้องทนอยู่กับสิ่งที่เกลียดหลายเดือน แม้เหตุการณ์นั้นมันจะผ่านมานานมากแล้ว แต่ความทรงจำที่เลวร้าย ต่อให้อยากลบลืมมันแค่ไหน มันก็ไม่สามารถทำได้...

    ดวงตากลมโตที่ฉายชัดถึงความปวดร้าว ทำให้ผมนึกอยากจะดึงตัวคนที่ยืนกอดตัวเองให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด

    หมับ...

    แต่เพราะไม่รู้ว่าอะไรดลใจผมเหมือนกัน...ทำให้ผมคว้าตัวคนที่ยืนไม่ไกลให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดตามที่คิดจริง ๆ ร่างที่บางกว่าผมดิ้นขลุกขลักไปมา ผมจึงออกแรงกอดให้แน่นกว่าเดิม พลางกระซิบที่ข้างหูคนที่อยู่ในอ้อมกอดว่า

    ขอแค่ 5 นาที...นะ...”

    คนที่โดนกอด ตอนแรกก็รู้สึกไม่ดีที่อยู่ ๆ ก็โดนคนไม่รู้จัก แถมยังเป็นคนที่เขาเคยคิดว่าเป็นไอ้โรคจิตด้วย ดึงตัวเขาเข้าไปกอด หากแต่พอได้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของคน ๆ นี้ เขาก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นอย่างน่าประหลาด วงแขนแกร่งที่โอบรัดอยู่รอบเอว ทำให้เขารู้สึกดี...

    ความเหน็บหนาวจากสายลมที่หอบเอาความชื้นของสายฝนเข้ามา ไม่สามารถทำให้หัวใจของคนสองคนรู้สึกอ้างว้าง เพราะอ้อมกอดของพวกเขา ต่างเติมเต็มซึ่งกันและกัน...

    พะ พะ พอแล้ว...เกิน 5 นาทีแล้วลุง!” คนโดนเรียกลุงยอมถอยห่างออกมา แต่มิวายฮั่นก็ปล่อยมะเหงกเขกลงกลางศีรษะคนที่เรียกเขาว่าลุง

    ลามปามใหญ่แล้ว เดี๋ยวเหอะ! ใครเป็นลุงนายมิทราบ

    ก็ยืนกันอยู่สองคน อายุอย่างผมก็คงจะเป็นลุงไม่ได้หรอกฮะ...ฮ่า ๆ ๆ เสียงหัวเราะของแกงส้ม ทำให้ฮั่นอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ใบหน้าหวานของคน ๆ นี้ ทำให้เขานึกไปถึงคนในจดหมาย...

    เคเอสจะหน้าหวานและน่ารักเหมือนคน ๆ นี้ไหมนะ...?

    ซ่า!!!!!!!

    แต่แล้วในระหว่างที่เขากำลังเหม่ออยู่นั้น น้ำที่สาดเข้ามาจากล้อรถกระบะคันใหญ่ก็ทำให้ทั้งเขาและเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เปียกโชกไปหมด

    ไอ้บ้าเอ๊ยยยยยยย จะรีบไปตายที่ไหนวะ แม่ง! เละหมดเลย เวรเอ๊ย!!!!!!” แกงส้มสบถด่าเจ้าของรถกระบะคันนั้น ก่อนที่เขาจะเอามือไปลูบหน้าที่เปียกชุ่มของตัวเอง จากนั้นเขาก็หันไปมองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ สภาพของคน ๆ นี้ก็ไม่ต่างไปจากเขา แต่ท่าทางที่สงบราวกับไม่ขุ่นเคืองนั่น ทำให้แกงส้มแปลกใจ

    นี่ลุงไม่โกรธไอ้รถคันนั้นเลยหรอ

    โกรธสิ

    อ้าว...โกรธแล้วทำไมไม่เห็นด่าเลยอ่ะ

    ก็ด่าไปแล้วเขาได้ยินไหมล่ะ ก็ไม่ได้ยิน...เปลืองน้ำลายเปล่า ๆ ว่าแต่เราเหอะ...สภาพเน่าขนาดนี้ ไปล้างเนื้อล้างตัวก่อนไหม ฮั่นว่าก่อนจะมองร่างของคนตรงหน้าขึ้นลงอย่างสำรวจตรวจตรา แล้วเขาก็ต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เมื่อเห็นว่าเสื้อยืดสีขาวบางของคนตรงหน้าเวลามันเปียกน้ำ ชวนให้จินตนาการต่อมากแค่ไหน...

    จะให้ไปล้างที่ไหนอ่ะ

    ก็ห้องพี่ไง

    คนที่แทนตัวว่าพี่ ยกมือขึ้นมาเกาหัวตัวเองทันที...นี่เขาไปสนิทกับเจ้าเด็กคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมถึงได้แทนตัวเองได้สนิทสนมขนาดนั้น! แถมยังชวนเจ้าเด็กนี่ขึ้นห้องอีก!

    โอ้...ไอ้ฮั่นแรงว่ะ!

    เอ่อ...ผมว่าไม่เป็นไรดีกว่า เดี๋ยวผมรอให้ฝนหายแล้วผมไปล้างที่คอนโด H2-8H เลยทีเดียวดีกว่า แกงส้มว่า ก่อนจะเริ่มมองคนตรงหน้าด้วยสายตาแปลก ๆ

    เฮ้ย! นี่นายอย่าเข้าใจพี่ผิดนะ พี่ไม่ได้จะชวนนายไปทำอะไรอย่างที่นายเข้าใจนะ แต่แค่...จะให้นายไปล้างเนื้อล้างตัวเฉย ๆ โอ๊ย! ยิ่งพูดยิ่งทำให้นายเข้าใจผิด เอาเป็นว่า...ไอ้คอนโดที่นายตามหาอยู่น่ะ มันคือคอนโดนี้ ที่นายเหยียบอยู่นี่แหล่ะ!”

    เมื่อฮั่นพูดจบ สายตาของแกงส้มก็เงยไปมองที่ประตูกระจกหน้าคอนโดทันที

    ‘H2-8H ยินดีต้อนรับ

    เวร! นี่เราปล่อยไก่ไปตัวเบอเริ่มเทิ่มเลยหรอวะเนี่ย!?!

    ถ้าอย่างนั้น...ผมขอรบกวนพี่หน่อยแล้วกันครับ พูดจบ แกงส้มก็เห็นแววตาที่ฉายชัดถึงความดีใจของคนตรงหน้า เขาอมยิ้มออกมา ก่อนจะรีบปั้นหน้าขรึม

    ให้ตายเหอะ...นี่เขาจะไว้ใจผู้ชายคนนี้มากไปหรือเปล่านะ...

    พี่หมีครับ...ถ้าผู้ชายคนนี้ทำอะไรผม พี่หมีต้องมาช่วยผมนะ!!!

    งั้นตามมาเลยครับ

    แล้วฮั่นก็เดินนำหน้าแกงส้มเข้าไปในตัวคอนโด สายฝนที่โหมกระหน่ำก็ยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไป...หน้าที่ทำให้คนสองคนได้ใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น...

     

     

    หมิว...ปันปัน เมื่อเข้ามาภายในห้อง ฮั่นก็พบว่าทั่วท้องห้องมืดสนิท และเมื่อเขาเปิดไฟ เขาก็ไม่พบใครอยู่ในนั้น มีเพียงกระดาษโน้ตสีชมพูที่แปะไว้บริเวณสวิตต์ไฟ

    หมิวไปนั่งเล่นที่ห้องปันปันค่ะ กลับมืด ๆ

    ห้องน้ำอยู่ทางด้านขวา เดินเข้าไปล้างได้เลย เดี๋ยวพี่เอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อยืดและกางเกงไปให้

    เสื้อผ้าไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวผมคุยธุระเสร็จ ผมก็กลับแล้ว

    เอางั้นหรอ...ถ้างั้นก็ตามใจนายแล้วกัน พูดจบ คนพูดก็เดินหายลับเข้าไปในห้อง ๆ หนึ่ง ทิ้งให้แกงส้มต้องยืนคว้างอยู่กลางห้อง สายตาที่มองสำรวจทุกพื้นที่ภายในห้อง กำลังจดจำรายละเอียดของสิ่งเหล่านี้ไว้...

    การตกแต่งภายในที่เน้นสีขาวชมพู ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ ในใจ ผู้ชายร่างโตสูงใหญ่กับสีชมพู มันดูไม่เข้ากันสักนิด แต่ก็นะ...ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขานี่นา...

    คิดได้แบบนี้ แกงส้มก็เดินไปทางขวามือที่ซึ่งมีห้องน้ำอยู่ จากนั้นเขาก็จัดการล้างหน้าและแขนขาเพื่อชำระคราบสกปรกออกไป มือบางที่ไล้ไปตามท่อนแขนเรียกดวงตาของคนที่ยืนมองอยู่นอกห้องน้ำให้หยุดจุดโฟกัสไว้ที่นี่...

    หัวใจที่เต้นโครมครามอย่างรุนแรงทำให้ฮั่นนึกโมโหตัวเองในใจ เขาไม่เคยต้องรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่กับคน ๆ นี้...ทำไมกันนะ...

    น้องเคเอสช่วยพี่ด้วย!!!!!

    อะ เอ่อ...นี่ผ้าเช็ดตัว เมื่อตบอกเรียกสติของตัวเองให้กลับมาได้แล้ว ฮั่นก็เดินไปยื่นผ้าเช็ดตัวให้คนที่อยู่ในห้องน้ำ แกงส้มหันมายิ้มหวานก่อนจะรับผ้าเช็ดตัวผืนนั้นไปเช็ดที่ใบหน้าแล้วไล่ต่ำลงมา ก่อนจะหยุดที่ซอกคอขาว...

    พี่ว่าเราเปลี่ยนเสื้อดีกว่านะ...เดี๋ยวไม่สบาย พูดจบ คนร่างสูงก็หมุนตัวกลับแล้ววิ่งไปเอาเสื้อยืดสีดำของตัวเองมา แล้วยื่นส่งให้คนที่บัดนี้ออกมายื่นเด่นอยู่ตรงห้องรับแขกแล้ว

    ขอบคุณครับ พี่ใจดีจัง

    อ่า...รีบ ๆ เข้าไปเปลี่ยนเสื้อเถอะ

    ครับ ๆ รับคำเสร็จ แกงส้มก็เดินหายกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ทิ้งให้ฮั่นยืนทึ้งผมตัวเองอย่างหมดสภาพ ชายหนุ่มเอาผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่รอบคอตัวเองขึ้นมากัด พลางนับหนึ่งถึงสิบในใจ

    ยุบหนอ พองหนอ น้องขาวหนอ เฮ้ย!!!! กูเป็นบ้าอะไรของกูวะเนี่ย!?!”

    เสร็จแล้วครับ อ๊ะ...พี่เป็นอะไรไปครับ ทำไมสภาพเป็นแบบนั้น เมื่อออกมาจากห้องน้ำ แกงส้มก็แทบจะหลุดขำพรืดออกมา เมื่อเห็นสภาพของคนที่ยืนทึ้งผมตัวเอง

    เปล่า ๆ ๆ เอ่อ...นายจะอยู่ต่อหรือว่ากลับเลย หรือว่าจะยังไง...?

    ผมคงไปทำธุระของตัวเองต่อแหล่ะครับ ยังไงก็ขอบคุณพี่มาก ๆ นะฮะ สำหรับเสื้อแล้วก็ความใจดีวันนี้...ผมต้องขอโทษที่เรียกพี่ว่าคุณป๋าโรคจิตและลุงนะครับ... แกงส้มว่าก่อนจะทำหน้าแบบว่าสำนึกผิด คนที่ยืนมองอยู่อดไม่ได้ที่เอื้อมมือไปโยกหัวคนที่กำลังทำหน้าน่ารักนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว

    ไม่ต้องขอโทษหรอก พี่ไม่ได้โกรธอะไร

    ถ้างั้น...ผมขอตัวก่อนนะครับ

    อืม...หวังว่าเราคงได้พบกันอีกนะ

    ผมคิดว่าเราคงจะต้องได้พบกันอีกแน่ ๆ ครับ พูดจบ แกงส้มก็ยักคิ้วพลางส่งกวนชวนละลายใจมาให้ ฮั่นที่ซึ่งยืนมองอยู่ ต้องยกมือขึ้นจับที่อกข้างซ้ายของตัวเอง พลางตบเบา ๆ ไปหลายที

    ใจเย็นไว้ไอ้ฮั่นใจเย็นไว้...โอ๊ย! น่ารักชิบ!

    น้องเคเอส พี่ขอโทษ...คืนนี้พี่จะเขียนจดหมายสารภาพบาปทั้งหมดเลย...ฮั่นคร่ำครวญในใจ พลางมองร่างที่เปิดประตูออกไปจนลับตา

    เมื่อเดินมาจนถึงลิฟต์ แกงส้มก็ยกมือขึ้นมาตบเบา ๆ ที่อกตัวเอง พลางถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

    ทำไมเขาถึงใจเต้นแรงได้ขนาดนี้นะ!

    แค่เพียงสายตาคู่นั้นมองมาที่เขา...แค่เพียงเท่านั้น...

    ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าตัวเองกำลังไม่เป็นตัวของตัวเอง...นี่เขาเป็นอะไรไป

    พี่หมีครับ...ผมเป็นอะไร...พี่รู้ไหมนะ...?

     

     

    เมื่อลงลิฟต์มาแล้ว แกงส้มก็ถามรปภ.ที่ยืนประจำอยู่แถวนั้นว่าเขาจะไปหาคนดูแลคอนโดได้ที่ไหน แล้วเขาก็ได้รับคำตอบ จากนั้นเขาก็เดินไปยังห้องพักของคนดูแลคอนโด

    ก๊อกก๊อก

    เชิญค่ะ

    เมื่อเปิดประตูเข้าไป...แกงส้มก็พบกับหญิงสาวผมสั้นหน้าตาน่ารักกำลังถือกล้องถ่ายรูปถ่ายภาพดอกไม้ในแจกันอยู่

    เอ่อ...สวัสดีครับ คุณ แหวว หรือเปล่าครับ?

    ค่ะใช่ค่ะ ถ้าให้แหววเดา คุณคือ น้องแกงส้มของเจ๊ม้าใช่ไหมคะ

    ครับ ผมแกงส้ม

    ถ้าอย่างนั้นเชิญนั่งก่อนค่ะ แหววเอ่ยปากเชิญให้คนที่มาใหม่นั่ง จากนั้นเธอก็เอากล้องถ่ายรูปวางไว้ที่โต๊ะ ก่อนจะเดินไปรินน้ำใส่แก้วมาให้ชายหนุ่มที่นั่งยิ้มหวาน

    นี่คีย์การ์ดห้องคุณค่ะ ห้องที่ 828 นะคะ เมื่อนั่งลง แหววก็หยิบคีย์การ์ดที่วางอยู่บนโต๊ะก่อนแล้วส่งให้ชายหนุ่มหน้าหวานตรงหน้า

    เอ่อ...เราไม่ต้องคุยรายละเอียดอย่างอื่นกันเลยหรอครับ

    โอ๊ยไม่ต้องคุยหรอกค่ะ ยังไงเรื่องสัญญาเช่ามันก็เหมือนเดิม แค่เพียงคุณมาอยู่ที่นี่ชั่วคราวรอคอนโดนู้นปรับปรุงเสร็จก็เท่านั้น ยินดีต้อนรับนะคะ ถ้ามีอะไรขาดเหลือหรือว่าสงสัยข้องใจอะไร ก็มาที่นี่ได้ค่ะ แหววเปิดห้องพักรับ 24 ชั่วโมงแข่งกับ 7-11 พูดจบ คนพูดก็ส่งยิ้มสดใสมาให้ แกงส้มยิ้มรับก่อนจะหยิบคีย์การ์ดในมือหญิงสาวนมาถือไว้

    ถ้าอย่างนั้น...ผมขอตัวก่อนนะครับ

    เชิญค่ะ แล้วพบกันใหม่นะคะ อ้อ! แหววลืมบอกคุณไปเลย ห้องตรงข้ามคุณน่ะมียัยป้าคนหนึ่งที่คลั่งไคล้คุณมาก ๆ อยู่นะคะ ถ้ายังไง ๆ ก็ระวังตัวหน่อยค่ะ

    เอ่อ...คุณแหววหมายความว่ายังไงครับ

    ก็หมายความตามที่พูดนั่นแหล่ะค่ะ เดี๋ยวคุณเจอยัยป้าคนนั้น...คุณก็จะรู้เอง โชคดีนะคะคุณแกงส้ม!” แล้วแหววก็ส่งสายตาและรอยยิ้มที่มีเลศนัยมาให้

    แกงส้มขมวดคิ้วสวยเข้าหากันทันที แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรต่อ

    ปึก! เมื่อเดินออกมาได้ไม่ไกล ร่างของแกงส้มก็ชนเข้ากับผู้หญิงร่างสูงคนหนึ่ง หญิงสาวคนนั้นเมื่อถูกชน เธอเซไปที่ด้านหลังทันที แกงส้มรีบคว้าเอวของเธอไว้

    เป็นอะไรหรือเปล่าครับ...?

    กะ แกงส้ม!!!!!!” เสียงอุทานดังลั่นที่เอ่ยเป็นชื่อของเขา ทำให้แกงส้มตกใจเผลอปล่อยมือที่คว้าเอวไว้ ส่งผลให้ร่างของจ๋าหล่นลงไปนั่งกองที่พื้นทันที

    อูย...เจ็บ!”

    ขะ ขอโทษครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าฮะ แกงส้มเอ่ยขอโทษก่อนจะฉุดแขนคนที่นั่งกับพื้นให้ลุกยืนขึ้น สัมผัสในระยะประชิดทำให้จ๋าถึงกับหน้าแดงก่ำ

    เจ้ไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะน้องแกง เจ้สบายดี เพราะเจ้แข็งแรงมาก ปล่อยแขนเจ้เถอะ เจ้ยืนไหว

    งั้นหรอครับ... แล้วแกงส้มก็ปล่อยมือที่จับแขนออก สายตาของจ๋าที่มองมา ทำให้แกงส้มนึกขนลุก

    เพราะมันหวาน...จนเขารู้สึกว่าถ้ามีมดแถวนี้ ป่านนี้ตัวเขาคงพรุนไปแล้ว!

    เอ่อ...น้องแกงมาทำอะไรที่นี่จ๊ะ

    ผมมาทำธุระน่ะครับ ว่าแต่พี่รู้จักชื่อผมได้ยังไงครับ

    จะไม่ให้รู้จักได้ยังไงล่ะจ๊ะ ก็พี่เป็นแฟนคลับน้องแกงนี่นา...อุ๊ย! เดี๋ยวขอเจ้รับโทรศัพท์แป๊บหนึ่งนะ...

    เมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่บอกว่าเป็นแฟนคลับเขาหันไปคุยโทรศัพท์ แกงส้มก็อาศัยจังหวะนั้นเดินหนีไปอีกทางหนึ่งทันที โดยที่จ๋าไม่ทันได้รู้ตัว

    อะไรนะยัยหมิว ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเรียกฉันว่าป้า!!! เออน่ะ...กำลังขึ้นไป ก็ใช่น่ะสิ!!!! บ่นมากจริง ฝนมันตกเว้ยฉันเลยมาช้า อ๊ายยยยยยย ถ้าเรียกฉันว่าป้าอีกคำเดียว แกอดกินแน่ไอ้ข้าวต้มเนี่ย เฮ้ย!!!น้องแกงของเจ้หายไปไหนแล้วอ่ะ

    เมื่อเห็นว่าคนที่เธอปลื้มมากหายตัวไปแล้ว จ๋าก็แทบจะพ่นไฟใส่คนที่โทรศัพท์เข้ามาทันที

    ยัยหมิวนะยัยหมิว...เธอทำให้ฉันไม่ได้คุยกับน้องแกงงงงงงง

    อ๊าย!!!!! ฉันจะเอาข้าวต้มไปละเลงใส่แผลเธอ!!!!

    ฟึดฟัด ๆ กับตัวเองเสร็จ จ๋าก็เดินที่ลิฟต์พลางทำหน้าเพ้อถึงใบหน้าหวานและสัมผัสที่กระชั้นชิดเมื่อสักครู่นี้อย่างฟินในอารมณ์...

     

     

    ตกดึกคืนนั้น...

    ร่างสูงที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะเขียนหนังสือภายในห้องนอนที่เปิดไฟสว่างจ้า กำลังจรดปลายปากกาเขียนจดหมายหาคนที่เขาอยากคุยด้วยมากที่สุดในตอนนี้...

     

     

     

    ถึง น้องเคเอส...

    เอ๊...เราบอกว่าอยากกินอาหารฝีมือพี่ใช่ไหมครับ...ได้เลย...อยากกินอะไรโปรดบอกมา เดี๋ยวเชฟหมีคนนี้จะทำไปให้กินครับ รับรองว่าต้องอร่อยติดใจแน่นอน!!!

    พี่จะบอกว่า...พี่ชอบฟังเพลงมาก ๆ ๆ ๆ ๆ ครับ...ชอบฟังเพลงแนวฮิพฮอพด้วยนะ ถึงแม้ว่าหน้าไม่ให้แต่ใจรักมากครับ ขอบอก! ว่าง ๆ เราก็แต่งเพลงมาให้พี่ลองอ่านดูบ้างนะครับ รออ่านอยู่นะ...

    วันนี้ฝนตกหนักมากเลยครับ กว่าพี่จะไปทำงานได้ ก็เล่นเอาทุลักทุเลพอสมควรเลย แถว ๆ บ้านพี่ฝนตกแล้วแถว ๆ บ้านน้องล่ะ...ฝนตกไหม...?

    วันนี้พี่เจอคนที่บอกว่า เกลียดฝน ด้วยครับ...พี่เพิ่งเคยเจอคนที่บอกแบบนี้นะ...รู้สึกแปลก ๆ มากเลย เพราะว่าพี่ชอบสายฝน มันทำให้พี่ชุ่มชื้น และรู้สึกสดชื่น แล้วเราล่ะ...? ชอบฝนเหมือนพี่หรือว่าเกลียดฝนเหมือนกับคนที่พี่เล่า...

    เอ้อ...แล้วคนที่พี่เจอมาวันนี้นะ เขาทำให้พี่คิดถึงเราเลยรู้เปล่า...เขาทำให้พี่อยากเจอเรามากขึ้น พี่เคยบอกกับตัวเองไว้ว่า ตราบใดที่เรายังเขียนจดหมายโต้ตอบกันไม่ถึงฉบับที่ 8 พี่จะไม่ยอมไปเจอหน้าเราเลย แต่สงสัยว่าพี่จะต้องผิดคำพูดของตัวเองซะแล้ว พี่อยากเจอเราแล้วครับ...เรามาเจอกันนะ...พี่จะรอเราอยู่ที่ร้านหนังสือ...ถ้าโชคชะตากำหนดมาให้เราเจอกัน...เราก็คงจะได้เจอกันนะครับ แต่ถ้าโชคชะตายังไม่กำหนดให้เราเจอกัน...ก็ไม่เป็นไร...เพราะพี่ยังเชื่อว่า สักวันหนึ่ง เราจะต้องได้พบกันอย่างแน่นอน

    รู้ไหมครับว่าไม่ใช่แค่เราเท่านั้นนะ...ที่รู้สึกเพลินและรู้สึกดีที่ได้เขียนจดหมายแบบนี้ แต่พี่เองก็รู้สึกไม่ต่างไปจากเรา...ขอบคุณทุกตัวอักษรที่เราเขียนมานะ...พี่ยิ้มจนแก้มแทบแตกทุกครั้งที่อ่านเลยรู้ไหม...

    อยากบอกว่า รู้สึกดี ที่ได้คุยกับเราแบบนี้...จริง ๆ นะ...

     

    จาก พี่หมี

     

    ปล. อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแค่เม็ดยา 8 ชั้นแผงสีส้ม ยี่ห้อ ริปลี่ย์คงไม่พอ...คงต้องพึ่งความห่วงใยที่ปล่อยผ่านสายลมไปดูแลเราอีกแรงหนึ่งนะ...ดูแลตัวเองด้วยครับ โรคจิตเดี๋ยวนี้มันเยอะ แต่คนดี ๆ ก็ยังมีอีกเยอะเหมือนกันครับ ^^

     

    เมื่อเขียนเสร็จ คนเขียนก็ยกยิ้มขึ้นมาจนใบหน้าคมขรึมกลายเป็นใบหน้าสดใส สายตาที่มองทอดออกไปทางหน้าต่าง คล้ายต้องการจะมองไปให้ถึงคนที่เขาไม่รู้จักและอาจจะอยู่ไกลแสนไกล โชคชะตาจะเล่นตลกไปถึงไหนกันนะ...เขาล่ะอยากรู้จริง ๆ

     

    หากความรักเปรียบได้กับนักเดินทาง คนที่ยังไม่พบจุดหมายปลายทาง ใช่ว่าคน ๆ นั้นจะไม่สามารถได้พบเจอกับความรัก การไม่ได้พบเจอในวันนี้...ใช่ว่าวันข้างหน้าจะไม่มีนี่...จริงไหม...?

    หากคนเราอดทนเพื่อจะรอคอยสิ่งใด...เชื่อเถอะว่าสิ่งที่รอคอยนั้นย่อมเป็นสิ่งที่แสนจะมีค่าและวิเศษสุดเสมอ...

     

     

     

     

     

     

    //อ๊ายยยยยยยย มาอัพดึกมากมาย...ขอโทษนะคะสำหรับคนที่รอฟิคตอนนี้ของเค้า ><!!! เค้าผิดไปแล้ว ยอมให้คนอ่านลงโทษแต่โดยดี....และแล้วพี่น้องก็ได้เจอกัน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นคนในจดหมาย อิ๊ยย่ะ!!! เค้าไม่ได้จะทรมาณคนอ่านหรือว่าทรมาณพี่น้องนะ....แต่ของแบบนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไปนะจ๊ะ ~ เอ๊...แต่เหมือนตอนหน้าพี่หมีจะดักรอเจอน้องแล้ว เอ๊ะๆๆๆ เค้าจะได้เจอกันไหม๊นะ...? หุหุ ไม่บอกหรอก ต้องให้คนอ่านรอติดตามเอาเอง....(หากมีคำผิดต้องขออภัยด้วยค่า...)

    ตัวละครก็จะมีเพิ่มเติมเรื่อย ๆ แต่จะไม่ออกทีเดียวพร้อมกันเยอะ ๆ หรอกนะคะ ซึ่งอยากจะบอกว่า...ฟิคตอนนี้มันเป็นฟิคที่เกิดจากแรงบันดาลใจดี ๆ ของเค้าที่อยากจะเขียนฟิคเรื่องนี้ไว้เป็นความทรงจำของสมาชิกชาวบ้านคู่น่ะค่ะ...เพราะฉะนั้นหากตัวละครเยอะไปจนทำให้คนอ่านอึดอัดและปวดหัวต่อการจำ เค้าก็ต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ แต่อยากจะบอกว่า...เค้ามีความสุขมากๆ  ที่ได้เขียนฟิคเรื่องนี้จริง ๆ เค้าก็หวังว่าคนอ่านจะมีความสุขมาก ๆ กับการอ่านฟิค(ที่ไม่ค่อยจะเหมือนฟิค)เรื่องนี้เช่นกันนะคะ ^^

    ติชม เม้นคุยกันได้ตามสบายเลยนะคะ แอบน้อยใจเล็ก ๆ ที่เม้นน้อยลง...ฮือ ๆ เค้าแต่งไม่สนุกหรอ....? แต่ยังไงเค้าก็รักคนอ่านทุกคนมาก ๆ ค่ะ....สามารถไปทักทายพูดคุยกันได้ที่ทวิตนะคะ ... บาย ๆ ๆ ค่า~แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้าเน้อ จุ๊บๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×