คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : บทที่ 23 : รางวัลพิเศษ
บทที่ 23 : รางวัลพิเศษ
“ก็ของขวัญพิเศษที่ผมบอกว่าจะให้พี่อีกอย่างหนึ่งไงครับ...”
ฮั่นมองใบหน้าหวานที่กัดริมฝีปากตัวเองด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
เขาเขิน...
เขารู้สึกดี...
และตอนนี้หัวใจของเขาก็เต้นแรงมาก...
เขาไม่เคยต้องเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน...แม้จะถูกคนอื่นสัมผัสมากกว่านี้ แต่เขาก็ไม่เคยใจเต้นแรงขนาดนี้ แต่นี่แค่เพียงสัมผัสที่แผ่วเบาราวกับสายลมผ่าน แต่ทำไมมันถึงทำให้หัวใจเป็นได้ขนาดนี้
คงเพราะเป็น ‘แกงส้ม’
“แกงลืมอะไรหรือเปล่า”
“หืม...ลืมอะไรครับ” คนที่เสสายตามองออกไปที่ท้องฟ้าสีมืดหันมามองหน้าคนถาม ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วสวยด้วยความสงสัย
“ก็ที่บอกแกงว่าพี่มีรางวัลของสำหรับคำตอบที่น่ารักสุด ๆ ของแกง...ที่มันจะ ‘พิเศษ’ จนแกงแทบลืมไม่ลงไงครับ...” จบคำพูดของฮั่น แกงส้มก็ยิ้มออกมา พลางจับแขนคนเป็นพี่เขย่าเบา ๆ เพื่อเร่งเร้าให้ฮั่นบอกเกี่ยวกับรางวัลที่แสนพิเศษสำหรับคำตอบของเขาเมื่อบ่าย
“รางวัลของพี่คืออะไรครับ”
“จริง ๆ สิ่งที่พี่จะให้แกงเป็นรางวัลน่ะ ไม่ใช่สำหรับคำตอบตอนนั้นหรอกครับ แต่มันเป็นสิ่งที่พี่อยากจะทำให้แกงตั้งแต่ที่พี่ได้ก้าวเข้าไปในโลกของแกงแล้วครับ...แกงอยากรู้ไหมว่ามันคืออะไร”
“โหยพี่ฮั่น...ผมไม่อยากรู้เลยดิ ถามพี่ขนาดนี้อ่ะ ดูหน้าผม...อยากรู้โคตร ๆ เลยคร้าบบบบบบบ” แกงส้มไม่พูดเปล่า แต่ยังแสดงอากัปกิริยาที่บ่งบอกให้ฮั่นรู้ว่าเจ้าตัวอยากรู้แค่ไหน คนมองหลุดขำออกมา ก่อนจะยกมือขึ้นไปโคลงศีรษะของคนตรงหน้าเบา ๆ
“โอเค ๆ ๆ ๆ ถ้าอยากรู้งั้นก็ตามมาที่ห้องพี่”
“เฮ้ย! นี่พี่จะหลอกผมไปทำมิดีมิร้ายป่ะเนี่ย...โอ๊ย!” พูดยังไม่ทันจบประโยคดี จากมือที่โคลงก็กลายเป็นปล่อยมะเหงกลงไปแทน
“นั่นปากหรอที่พูดน่ะ พูดแบบนี้ไม่ต้องเอาเลยดีกว่า” คนพูดไม่พูดเปล่า แต่ยังทำหน้าเหมือนงอนด้วย แกงส้มเห็นดังนั้นก็ยกมือขึ้นมาแล้วทำท่าและทำหน้าเหมือนอ่าง เถิดเทิงเป็นเชิงง้องอนร่างสูง
“โอ๋เอ๋ ๆ ก๊อกแก๊ก ๆ ล้อเล่งน่า...”
“อืม ๆ ๆ ๆ...เพื่อนเล่นหรอ” ถามพลางทำหน้านิ่ง ทำให้คนที่กำลังยิ้มหน้าเป็นหน้าสลดวูบ
“เฮ้ยพี่ฮั่น! นี่โกรธจริงหรอ...”
“แล้วแกงคิดว่าไงอ่ะ”
“ฮื้อ...ทำไมพี่ต้องโกรธผมจริงด้วยอ่า...ผมแค่แกล้งแซวพี่เล่นเองนะ”
แกงส้มว่าพลางทำปากจู๋ สายตาที่มองคนเป็นพี่เริ่มเว้าวอนนิด ๆ ฮั่นเห็นแบบนั้นก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้
ก็น่ารักแบบนี้...จะให้โกรธลงได้ยังไงเล่า!
แต่ขอแกล้งอีกหน่อยเถอะ...
“แกงแซวแบบนี้เหมือนไม่ไว้ใจพี่เลยอ่ะ พี่เสียความรู้สึกเล็ก ๆ นะ”
“ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่เสียความรู้สึกนะพี่ฮั่น พี่อย่าคิดมากดิ” แกงส้มไม่พูดเปล่า แต่เขายังทำหน้าตาจริงจังประกอบคำพูดอีกด้วย ทำให้ฮั่นไม่สามารถทนแกล้งคนตรงหน้าได้อีกต่อไป เพราะเขาหลุดขำออกมาระลอกใหญ่
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ โอเค...พี่ไม่คิดมากแล้ว จริง ๆ คือไม่ได้คิดมากตั้งแต่แรกเลยมากกว่า”
“นี่...พี่แกล้งผมหรอ”
“อื้อ ก็ใช่อ่ะดิ โอ๊ย!! ฮ่า ๆ ก็แกล้งเด็กแถวนี้แล้วสนุกดีนี่นา” แล้วคนพูดที่พูดไปหัวเราะไปก็โดนมือบางของแกงส้มฟาดไปที่ไหล่หนาหลายที แต่ถึงจะโดนตีจนแทบน่วม แต่ฮั่นก็หยุดหัวเราะไม่ได้
ถ้ารู้ว่าแกล้งคน(น่ารัก)แล้วมันสนุกแบบนี้...สงสัยคงต้องแกล้งทุกวัน
“คนนิสัยไม่ดี”
“ฮ่า ๆ ๆ”
“หยุดหัวเราะเลยนะพี่ฮั่น”
“ฮ่า ๆ ๆ หยุดไม่ได้หรอก หยุดไม่ได้หรอก จะให้ทำอย่างนั้นมันไม่ได้หรอก~” เนื้อเพลงที่ฮั่นร้องออกมายิ่งทำให้คนที่ทำหน้างอยิ่งหน้างอหนักเข้าไปอีก คนขี้แกล้งเห็นแบบนั้นจึงหยุดแกล้ง ก่อนที่ฮั่นจะเอามือดึงแก้มคนที่ทำหน้างอเบา ๆ เป็นเชิงง้อ
“โอ๋ ๆ ๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ ไป ๆ ๆ เดี๋ยวพาไปดูรางวัลพิเศษ”
“ชิ...ไม่ไปแล้ว!” คนงอนว่า พลางปัดมือที่ดึงแก้มออก
“อ้าวไหงงั้นอ่ะ! นี่ตกลงว่าเราจะงอนกันงอนกันมาอยู่แบบนี้ใช่ไหม”
“ไม่รู้ไม่ชี้” แกงส้มว่าพลางทำแก้มป่องบ่งบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวกำลังงอน...จริง ๆ
“ก่อนจะงอนจริงจัง เอาเป็นว่าแกงไปดูรางวัลพิเศษที่พี่จะให้แกงก่อน ถ้าไม่ถูกใจ พี่ยอมให้แกงงอนพี่นาน ๆ เลย แต่ถ้าถูกใจ...แกงต้องหายงอนพี่นะครับ” ฮั่นว่า พลางจับมือคนตรงหน้าขึ้นมาแล้วออกแรงกระตุกเบา ๆ เป็นเชิงให้คนที่กำลังงอนให้เดินตาม ซึ่งแกงส้มก็ยอมเดินตามฮั่นไปแต่โดยดี
ถึงจะงอนอยู่...นิด ๆ แต่เขาก็อยากรู้ว่ารางวัลของพี่ฮั่นคืออะไรนะ...
ตามทางเดินที่มืดสนิทมีเพียงแสงไฟฉายที่ส่องนำทางทำให้คนที่เดินตามหลังจับมือของคนที่เดินนำหน้าแน่นขึ้น ระยะห่างในตอนแรกที่มีมากค่อย ๆ เขยิบจนเหลือเพียงน้อยนิด จากที่เดินตามหลังกลายเป็นเดินข้าง ๆ จนท่อนแขนเบียดกัน
“กลัวหรอแกง...”
“นิดหน่อยครับ”
“ก็พี่บอกแล้วไงว่าแกงไม่ต้องกลัว...ตอนนี้แกงไม่ได้อยู่คนเดียว แต่แกงมี ‘พี่’ อยู่ด้วย” ฮั่นว่าพลางกระชับมือที่อยู่ในอุ้งมือให้แน่นขึ้น เพื่อเป็นการยืนยันให้คนที่จับมือกับเขาได้รู้สึกว่า...คำพูดของเขาเชื่อถือได้
เขาพร้อมจะอยู่ข้าง ๆ แกงส้มเสมอ...
ไม่ว่าจะเป็นวันที่สุขหรือวันที่ทุกข์
วันที่ยิ้มหรือวันที่ร้องไห้
เพราะเขาอยากอยู่ข้างคน ๆ นี้ในทุก ๆ วัน...
เพราะสำหรับคนที่รักแล้ว เราก็ต้องอยู่ด้วยกันในทุกวันที่สุขหรือทุกข์ ยิ้มหรือร้องไห้ เพราะเราจะต้องก้าวเดินไปด้วยกันในทุก ๆ วันที่หายใจ...ก้าวเดินไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความรัก...
“ครับ...”
รับคำเพียงสั้น ๆ แต่บีบมือเบา ๆ ทำให้หัวใจของฮั่นรู้สึกดี
ไม่ต้องพูดอะไรให้มากกว่านี้ แต่แค่แสดงกิริยาแบบนี้...แค่นี้เขาก็รู้แล้ว
รู้แล้วว่า...เขาไม่อยากจะปล่อยมือแกงส้มเลย...
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในอนาคตก็ตาม
“โห...สวยอ่ะพี่ฮั่น” แกงส้มอุทานออกมาทันทีที่ประตูห้องของคนเป็นพี่ถูกเปิดออก ภายในห้องกว้างสีชมพูขาวถูกประดับไปด้วยเทียนหอมที่อยู่ในโหลแก้วเล็ก ๆ หลายสิบโหล ทำให้ห้องสว่างไสว ผสมกับกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของเทียนหอม ทำให้คนที่เพิ่งเดินเข้ามารู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก
“สวยใช่ไหมล่ะ...ฝีมือไอ้จ๋ากับหมิวน่ะ” ฮั่นว่าพลางชี้มือไปที่คนสองคนที่นั่งอยู่ที่พื้นบริเวณห้องรับแขก แกงส้มเดินไปหาคนสองคนนั้นด้วยความรวดเร็ว แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าจ๋ากับหมิวกำลังนั่งโขกหมากรุกกันอย่างเคร่งเครียด
“พี่จ๋ากับหมิวเล่นหมากรุกเป็นด้วยหรอครับ” แกงส้มถามออกไป พลางนั่งยอง ๆ มองกระดานหมากรุกตรงหน้า จ๋ากับหมิวเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จ๋าจะยิ้มหวานให้คนถาม
“ถ้าเล่นไม่เป็นจะเห็นหมิวเล่นหรอแกง” หมิวพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนที่เธอจะเพ่งสมาธิไปที่กระดานหมากรุกอีกครั้ง
แป่ว!
เจอคำตอบของหมิวเข้าไป แกงส้มแทบเซ
บางทีหมิวก็เกรียนแบบหน้าตายนะ!
“ไอ้หมิว...แกอย่ามาเกรียนกับน้องแกงของเจ้ดิวะ” จ๋าว่าพลางเอามือไปผลักหน้าผากคนเป็นน้องเบา ๆ หมิวย่นจมูกใส่ก่อนที่เธอจะพูดโต้กลับไปด้วยคำพูดที่ทำให้จ๋าแทบหงายเงิบ
“น้องแกงของเจ้...กล้าพูดนะป้า รู้สึกว่าแกงจะเป็นของพี่ฮั่นนะ ขี้ตู่ตลอดอ่ะ”
“อ๊ายยยยยยย ไอ้หมิว! แกจะไม่ขัดคอขัดขาฉันสักวัน แกจะตายใช่ไหม” จ๋าโวยวายออกมาเสียงดัง จนฮั่นต้องยกนิ้วขึ้นมาอุดหู ส่วนแกงส้มที่ไม่ค่อยได้เห็นสงครามย่อย ๆ ของจ๋าและหมิวก็ยิ้มออกมาอย่างรู้สึกสนุกเล็ก ๆ
“ป้าเสียงดังอีกแล้ว พอสู้ไม่ได้ก็เอาเสียงเข้าข่มตลอด เฮอะ!” หมิวว่าพลางพ่นลมขึ้นจมูก ก่อนที่เธอจะส่ายหน้าเบา ๆ
“ไอ้หมิว!”
“เรียกอยู่ได้ป้าจ๋า มีอะไรก็ว่ามาดิ...โอ๊ะ! อย่าเพิ่งพูดนะ เฮียโทรมา...” แล้วหมิวก็ลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ของโตโน่ ทิ้งให้จ๋ามองตามแล้วแยกเขี้ยวใส่ตามหลัง
“แกนี่น้าไอ้จ๋า ก็รู้อยู่ว่าสู้ความเกรียนหมิวมันไม่ได้ ก็ยังจะไปสู้กับมันอีก” ฮั่นว่า ก่อนจะนั่งยอง ๆ ข้างแกงส้มก่อนที่เขาจะออกแรงผลักหัวเพื่อนตัวเองเบา ๆ หนึ่งที
“แกก็พูดได้นี่ไอ้ฮั่น แกไม่ใช่คนที่ต้องสู้รบปรบมือกับมันทุกวันอย่างฉันนี่หว่า ว่าแต่นี่แกพาน้องแกงมาที่ห้องอย่าบอกนะว่าจะพาน้องแกงของฉันมาทำมิดีมิร้ายน่ะ” คำพูดของจ๋า เรียกศอกของฮั่นให้ฟาดไปที่หน้าผากคนพูดเบา ๆ
“อย่าใช้ตูดพูดไอ้จ๋า ใช้ปากพูดบ้าง”
“กรี๊ด! ไอ้ฮั่น! ไอ้เพื่อนปากมอม แกว่าฉันใช้ตูดพูดหรอ อ๊ายยยยยยย ฉันเกลียดแก!!!!!” คนที่โดนรังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างจ๋าโวยวายออกมาเสียงดัง พลางเอามือไปผลักไหล่เพื่อนที่นั่งยอง ๆ แรง ๆ หนึ่งที โดยที่คนโดนผลักไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ร่างหนาของฮั่นเซไปกระแทกกับร่างที่บางกว่าของแกงส้มที่นั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ เป็นผลให้ร่างของฮั่นทับไปบนตัวของแกงส้ม
“โอ๊ย...” แกงส้มร้องออกมา ก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นว่าใบหน้าคมอยู่ห่างจากใบหน้าของเขาเพียงนิด แกงส้มนอนตัวแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ ส่วนคนที่อยู่ด้านบนเองก็ไม่ต่างกัน ฮั่นกระพริบตาถี่ ๆ หลายครั้งติดต่อกัน ก่อนจะรีบเขยิบตัวเองออกห่างจากแกงส้มทันที
เสียงหัวใจที่เต้นแรงทำให้คนทั้งคู่ไม่กล้าหันมามองหน้ากัน
ทั้ง ๆ ที่ใกล้กันก็ออกจะบ่อย...แต่ทำไมหัวใจถึงยังเต้นแรงทุกครั้งที่ใกล้กันก็ไม่รู้
ไม่เข้าใจตัวเองเลย!!!
ส่วนคนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุชวนใจแตกก็ได้แต่นั่งเอามืออุดปาก ดวงตาของจ๋าเบิกโตอย่างคนที่ได้เห็นอะไรดี ๆ
ก็เห็นอะไรดี ๆ จริง ๆ นี่นะ...อย่างนี้ต้องรีบโทรหาคุณคิมด่วน!
“เอ่อแกง...พี่ว่า...เรารีบเข้าไปเอาของที่พี่จะให้ดีกว่านะ....” ฮั่นซึ่งเหมือนจะตั้งสติได้ก็รีบพูดออกมา พลางผุดตัวลุกขึ้นยืนพลางสาวเท้าเร็ว ๆ เดินไปที่ห้องของตัวเอง โดยมีร่างของแกงส้มที่ค่อย ๆ ผุดตัวลุกขึ้น เดินตามไปห่าง ๆ
“ป้าจ๋า...สองคนนั้นเค้าเป็นอะไรอ่ะ ทำไมหน้าแดง ๆ” หมิวที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จเอ่ยถามออกมา แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้รับคำตอบ จ๋าก็ผุดลุกขึ้น
“ไม่รู้สักเรื่องก็ได้มั้งไอ้หมิว ฮ่ะ ๆ ๆ”
พูดจบ จ๋าก็เดินออกไปจากบริเวณนี้ ทิ้งให้หมิวมองตามไปด้วยสายตาเคืองเล็ก ๆ
“ฝากไว้ก่อนนะป้าจ๋า...ชิ!”
“โห...ห้องพี่โคตรเป็นระเบียบเลยอ่ะพี่ฮั่น” คนที่เดินตามมาทีหลังเอ่ยชมออกมาจากใจจริง ก่อนที่แกงส้มจะใช้สายตาสำรวจภายในห้อง ภายในห้องมีเทียนหอมวางอยู่เป็นจุด ๆ ส่องให้เห็นว่าในห้องนี้มีเครื่องเรือนอะไรบ้าง
ตู้เสื้อผ้าสีน้ำตาลเข้มตัดกับกำแพงที่ทาสีขาวซึ่งตั้งเรียงกันอยู่สามตู้ไม่ไกลจากประตูห้องน้ำ ทำให้แกงส้มยิ้มออกมา
สงสัยกลัวหยิบเสื้อผ้าไม่ทันเข้าห้องน้ำแหง ๆ เลยพี่ฮั่น...เอาตู้เสื้อผ้าไว้ใกล้ห้องน้ำขนาดนั้น
อ๊ะ...แล้วนั่นชั้นหนังสือสีชมพูเข้มสีเดียวกับชั้นหนังสือที่ร้านพี่ป๊อกเลยนี่!
ให้ตายเหอะพี่หมี...ชอบสีนี้จริง ๆ สินะ
แล้วนั่นอะไร...ตู้ใส่ตุ๊กตาหมีรีลัคคุมะหลากหลายคอลเลคชั่นหรอ...
คุณพระ! อะไรมันจะคลั่งไคล้ขนาดนั้น...แกงส้มตาลุกวาวทันทีที่เห็นตุ๊กตาหมีรีลัคคุมะเกือบร้อยตัวที่อัดแน่นอยู่ในตู้ไม้สีครีมซึ่งตั้งอยู่ข้างชั้นหนังสือ
แต่สิ่งที่เรียกความสนใจของแกงส้มได้ดีที่สุดก็คงจะเป็นโต๊ะเขียนหนังสือที่มีโคมไฟสีส้มอ่อนตั้งอยู่แล้วมีสมุดเขียนจดหมายนับสิบเล่มวางอยู่บนนั้น ขายาวของแกงส้มก้าวไปที่โต๊ะนั้นอย่างรวดเร็ว มือบางเอื้อมหยิบสมุดเขียนจดหมายมาพลิกดูทีละเล่ม
แต่ละเล่มมีสีที่แตกต่างกัน และจะมีอยู่เล่มหนึ่งที่พี่ฮั่นใช้เขียนโต้ตอบกับเขา...
กระดาษสีส้มชา...
“แกง...พี่มีอะไรจะอวด” คนโดนเรียกชื่อหันไปมองคนเรียก ก่อนที่เขาจะเห็นว่าพี่ฮั่นกวักมือเรียกเขาให้เดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่
วิวของยอดตึกที่มีแสงไฟส่องสว่างดูสวยงามละลานตา ราวกับตอนนี้เขาอยู่บนพื้นดินแล้วมองขึ้นไปเห็นดวงดาวที่ส่องแสงระยิบระยับบนพื้นท้องฟ้าที่ทาด้วยสีดำสนิท
“ว้าว!!!! ทำไมห้องพี่ฮั่นมองเห็นวิวตึกสวยกว่าห้องผมอ่ะ”
“ก็มันชดเชยกับการที่ห้องพี่ไม่มีระเบียงไงแกง”
“แต่ถึงห้องพี่จะไม่มีระเบียง แต่ผมก็ชอบห้องพี่มากกว่าห้องผมนะ เพราะว่ามันมองเห็นวิวตึกสวยดี” แกงส้มว่า พลางมองยอดตึกที่มีแสงไฟเบื้องหนาด้วยดวงตาเป็นประกาย อาการนี้ของแกงส้มบ่งบอกให้คนมองรู้ว่าเจ้าตัวรู้สึกชอบจริง ๆ อย่างที่ปากพูด
แสดงออกชัดเจนเสมอนะแกงส้ม!
“ถ้าชอบขนาดนี้ก็ย้ายมาอยู่ที่นี่เลยสิ...”
“ฮะ!?! พี่ว่าอะไรนะพี่ฮั่น” คำพูดเมื่อสักครู่นี้ที่ออกมาจากปากของคนเป็นพี่ ทำให้คนฟังถึงกับต้องหันมามองหน้าคนพูดอย่างรวดเร็วทันที ซึ่ง ณ บัดนี้...คนพูดกำลังยกมือขึ้นมาบีบคอตัวเองอยู่
เมื่อฮั่นเห็นว่าแกงส้มมองอยู่ เขาก็รีบเอามือลงจากคอตัวเองทันที พลางปั้นหน้าเรียบนิ่ง
“ทำอะไรของพี่น่ะพี่ฮั่น”
“ปะ เปล่า...ไม่ได้ทำอะไรเลย”
“ไม่ได้ทำอะไรได้ไง ก็ผมเห็นอยู่ว่าพี่กำลังบีบคอตัวเอง เป็นบ้าอะไรครับ อยู่ดี ๆ ก็บีบคอตัวเอง” แกงส้มไม่พูดเปล่า แต่เขายังขมวดคิ้วสวยทำหน้างงงวยกับพฤติกรรมของคนเป็นพี่ประกอบคำพูดอีกด้วย
“ช่างมันเถอะแกง อย่าสนใจเลย เอาเป็นว่าแกงมานั่งตรงนี้ดีกว่า พี่จะได้ให้รางวัลพิเศษกับแกงสักที” ฮั่นว่าพลางจูงมือคนเป็นน้องให้เดินไปนั่งที่เตียง ก่อนที่เขาจะเดินไปหยิบกีตาร์ที่วางพิงอยู่ที่ตู้ตุ๊กตาหมี แล้วเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ แกงส้ม
“พร้อมหรือยังแกง...”
“พร้อมครับ”
“ถ้างั้นก็...เปิดใจฟังเพลงที่พี่กำลังจะร้องด้วยนะครับ...” พูดแค่นั้น ฮั่นก็เริ่มดีดกีตาร์เป็นท่วงทำนองที่หวานละมุนเบาสบาย
เสียงกีตาร์ที่หนักเบาตามอารมณ์ของคนดีดทำให้คนฟังรู้สึกเคลิ้มไปกับเสียงนี้ ใบหน้าคมที่กำลังแย้มยิ้มละมุนยิ่งทำให้เสียงกีตาร์ดูอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น
“เคยคิดว่าบนโลกนี้จะไม่มีใครที่เกิดมาเพื่อฉัน
เคยคิดว่าบนฟากฟ้านั้นลืมฉันที่ต้องอยู่เดียวดาย
แต่เมื่อได้พบเธอก็รู้ว่าใครคือความหมาย
ที่ทำให้ฉันอยากหายใจอยู่ไปเพื่อ...ทุก ๆ วัน”
ทำนองที่ถูกแต่งขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับเนื้อเพลง ทำให้คนฟังอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
เพลงนี้...มัน ’เพลงของเรา’...นี่นา
ไม่อยากจะเชื่อว่าพี่ฮั่นจะเอาเนื้อร้องที่เราสองคนช่วยกันแต่งไปทำดนตรีใส่แบบนี้
“...เพราะมีเธอ ฉันจึงยิ้มได้ เพราะหัวใจอบอุ่นกับทุกครั้ง
กับทุกเรื่องราวเวลานาทีที่เรามีร่วมกัน
ทุกสิ่งนั้น...มันคือสิ่งที่มีความหมาย...
อยากให้เธอรู้ว่าเธอคือคนพิเศษ...สำหรับฉัน
เธอคือคนนั้น...ที่ฉันเฝ้าตามหา
อยากให้เธอรู้ว่าเธอคือคนที่มีค่า...กับหัวใจ...”
สายตาคมที่ทอดมองคนที่นั่งยิ้มอยู่ข้างตัวคล้ายจะสื่อให้คนข้างตัวรู้ว่า...ทุกคำร้อง ทุกท่วงทำนองที่เขาเขียนขึ้นมานั้นมันคือทั้งหมดทุกความรู้สึกในหัวใจ
เพลงรักที่อาจไม่หวานเท่าใคร แต่ก็สามารถทำให้หัวใจเต้นไหวไปกับความรู้สึกดีที่ส่งผ่านถึงกัน มันก็ ‘หวาน’ จนใครเทียบไม่ได้แล้ว...
“...หากเลือกได้ฉันจะขอให้เธอไม่ไปไหน
อยากจะขอให้เธออยู่กับฉันตลอดไป...ชั่วนิรันดร์
แต่ความจริงมันไม่อาจเป็นอย่างนั้น
ฉันจึงขอให้เรามีกันและกัน...แค่ทุกวันที่หายใจก็พอ
เพราะเธอคือคนที่พิเศษ...กับหัวใจ
เพราะเธอคือความหมายของการมีชีวิตอยู่
และวันนี้ฉันรู้แล้วว่าใครคือคนที่ฉันเฝ้ารอ...
...และ...คน ๆ นั้น...ก็...คือ...’เธอ’...”
คำร้องจบลงแต่ท่วงทำนองเพลงหวานละมุนยังคงไม่จบลง เพราะเสียงกีตาร์ยังคงดังต่อไปจนจบเพลง รอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้าหวานทำให้คนที่มองอยู่ (เกือบตลอดเวลา) อย่างคนเล่นอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
ฮั่นหยุดปลายนิ้วไว้แค่นั้นก่อนที่เขาจะหันมาทั้งตัวเพื่อคุยกับคนที่นั่งข้าง ๆ
“ชอบไหมแกง...พี่ใช้เวลานานมากเลยนะกว่าจะได้ทำนองนี้มาอ่ะ” ฮั่นว่าพลางยกกีตาร์มากอดไว้แนบอก
“ถ้าผมบอกว่าเฉย ๆ พี่จะรู้สึกยังไงครับ”
“ก็คง...รู้สึกแย่นิด ๆ แต่ก็ยอมรับได้ครับ”
“แล้วถ้าผมบอกว่ามันเจ๋งมาก ๆ พี่จะรู้สึกยังไงครับ”
“ก็คง...รู้สึกดี แต่คิดว่าแกงโม้ เพราะว่าพี่คิดว่า...เสียงทำนองมันยังเพี้ยน ๆ อยู่ เหมือนมันยังไม่ถูกคีย์ยังไงไม่รู้” ฮั่นตอบพลางมองหน้าคนที่นั่งทำหน้านิ่งตรงหน้าด้วยสายตาที่ลุ้นมาก
แกงจะชอบไหมนะ...
เขาไม่ใช่นักดนตรีมืออาชีพ ถนัดแต่ฟังเพลง ร้องก็พอได้นิดหน่อย เขียนเนื้อเพลงหรอ...ก็ตอนที่เขียนให้แกงส้มนี่แหล่ะครั้งแรก แต่ทำนองที่เขาได้มานี้...เขาเปิด You tube ศึกษาเลยนะ!
ทุ่มเทมาก...แต่เขาเคยบอกกับแกงส้มว่าเขาอยากรู้จักโลกของแกงส้มให้มากกว่านี้...
เพราะฉะนั้นถ้าเขาอยากจะรู้จักโลกของแกงส้มให้ได้ดีที่สุด
เขาก็ต้องพยายามเรียนรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับโลกของแกง...
และ ‘ดนตรี’ ก็เป็นส่วนหนึ่งในโลกของแกง
“พี่คิดถูกแล้วล่ะครับ คีย์พี่เพี้ยนจริง ๆ แหละฮะ แต่มันเป็นเพราะว่าพี่ใช้โน้ตผิดต่างหาก พี่อาจจะวางนิ้วผิดนะผมว่า...เอางี้...เดี๋ยวผมจะสอนการวางนิ้วในโน้ตที่พี่ผิดให้พี่เอง” พูดจบ แกงส้มก็ค่อย ๆ ถอดรองเท้าแล้วเดินอ้อมไปนั่งด้านหลังของฮั่น
“เอ้าพี่ฮั่น...หยิบกีตาร์ขึ้นมาสิครับ วางแบบเมื่อกี้นี้เลย”
“อ่ะ ครับ ๆ” ฮั่นรับคำก่อนที่เขาจะหยิบกีตาร์มาวางไว้ในตำแหน่งเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือมีสองแขนที่โอบผ่านลำตัวเขามาจับนิ้วที่วางอยู่บนคอร์ด ใบหน้าหวานที่ชะโงกมามองนิ้วของเขา ทำให้ใบหน้าของเราสองคนใกล้กันมาก...แผ่นหลังของเขาที่สัมผัสได้ถึงแผ่นอกของคนที่เบียดอยู่ด้านหลังทำให้ฮั่นรู้ว่า...
เขากับแกงส้มใกล้กันมากแค่ไหน...ใกล้จนได้กลิ่นหอมที่ลอยออกมาจากคนที่อยู่ด้านหลัง
ใกล้จนแทบจะรวมเป็นร่างเดียวกัน!
“เอาล่ะพี่ฮั่น ลองดีดใหม่ตามทำนองเดิมเลยนะครับ” คำพูดที่ลอยวนอยู่ไม่ไกลทำให้ฮั่นรีบดีดท่วงทำนองเพลงรักของเขาสองคนด้วยความรู้สึกที่ล้น
ล้นไปด้วยความรู้สึกเขิน...
ใช่! เขินอีกแล้ว...แต่นอกจากความเขิน ท่วงทำนองที่ร่วมกันเล่นก็ทำให้เขารู้สึกดี
เสียงกีตาร์ที่ลอยละล่องภายในห้องได้พาให้หัวใจของคนสองคนลอยไปกับความละมุนละไมของความรู้สึกที่กลั่นกรองออกมาเป็นเสียงดนตรี ยิ่งยามที่ใบหน้าหวานชะโงกไปดูนิ้วเรียวของคนหน้าคมแล้วปล่อยยิ้มพึงใจออกมา ก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกดี ๆ ลอยตลบอบอวลไปทั่วห้องนี้
นี่สินะ...’รางวัลพิเศษ’ ที่พี่ฮั่นพูดถึง...
รางวัลพิเศษที่ใช้หัวใจในการซึมซับและสัมผัสมัน...ท่วงทำนองที่แต่งออกมาจากหัวใจ แม้มันจะเพี้ยนหรือว่าไม่ตรงคีย์ไปบ้าง แต่แค่มันตรงใจตรงกับความรู้สึกที่มี...แค่นี้ท่วงทำนองนี้ก็ ‘เพราะจับใจ’ จนหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
เพราะจะมีเพลงที่มีท่วงทำนองที่สมบูรณ์แบบแค่ไหน แต่ถ้าหากไม่ได้เขียนมาจากความรู้สึกในหัวใจ มันก็เป็นแค่เพียงเพลง ๆ หนึ่งที่ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย...
“เป็นไงพี่...ทำนองถูกแล้วนะ”
“อื้ม...ว่าแต่...แกงชอบรางวัลพิเศษที่พี่ให้แกงไหมครับ” ถามพลางกอดกีตาร์อีกครั้ง แกงส้มเห็นแบบนั้นก็อดยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าคมไม่ได้
“ชอบสิครับ...ถ้าไม่ชอบ จะช่วยสอนให้มันถูกทำนองหรอ” แกงส้มไม่พูดเปล่า แต่ยังเอามือไปบีบจมูกโด่งของคนตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนที่เขาจะถอนใบหน้าออกมาแล้วหัวเราะเบา ๆ
“จริง ๆ นะ...”
“โกหกแล้วได้โล่หรอครับ ผมชอบจริง ๆ หายงอนแล้วด้วย” ตอบพลางยิ้มกว้าง ซึ่งรอยยิ้มนี้ก็ทำให้ฮั่นยิ้มตาม ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาตบเบา ๆ ที่อก(ข้างซ้าย)ของตัวเอง
“ตบอกตัวเองทำไมพี่ฮั่น”
“ดีใจจนใจเต้นแรงไปหน่อยอ่ะแกง ฮ่ะ ๆ ๆ ๆ” ตอบเสร็จ ฮั่นก็หัวเราะออกมา คำตอบของเขาทำให้แกงส้มหัวเราะตาม
“พี่นี่น้า...ตลกกลบเกลื่อนอาการเขินตลอดเลย”
“อะไรแกง ใครตลกกลบเกลื่อน ไม่มีบ้างเหอะ”
“ไม่มีแล้วหน้าแดงทำไมอ่ะพี่” แกงส้มเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ
“พอ ๆ ๆ ๆ เลิกแซวพี่สักที กลับห้องตัวเองไปเลย” ฮั่นเอ่ยปากไล่โดยลืมไปว่าตอนนี้ไฟฟ้ายังไม่มา มานึกได้ก็ตอนที่แกงส้มเอ่ยพูดโต้กลับ
“กลับได้ไงอ่ะ ไฟยังไม่มาเลย อ๊ะ!!!! ไฟมาพอดี”
แกงส้มพูดยังไม่ทันจบประโยคดี ไฟที่เพดานภายในห้องก็สว่างขึ้น
“ไฟมาแล้ว งั้นผมกลับห้องเลยก็ได้”
“งอนป่ะเนี่ย”
“ไม่งอน...ทำไมผมต้องงอนด้วย” แกงส้มถามพลางอมยิ้มเล็ก ๆ เมื่อเห็นใบหน้าคมคล้ายมีความกังวลฉายชัดในดวงตา
“จริงอ่ะ...”
“จริง ๆ พี่ฮั่น ผมไม่ได้งอน เจอกันพรุ่งนี้ครับ ขอบคุณมาก ๆ สำหรับรางวัลพิเศษของพี่วันนี้...ผมมีความสุขมากที่ได้รู้ว่าเพลงของเรามีทำนองแล้ว...ขอบคุณที่พี่ยังนึกถึงเพลงนี้นะครับ” แกงส้มว่าก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมราวกับต้องการจะมองให้ลึกเข้าไปถึงก้นบึ้งในหัวใจของคน ๆ นี้
บางทีเขาว่าเขาก็รู้นะว่าพี่ฮั่นรู้สึกอย่างไรกับเขา...
แต่บางทีเขาก็ไม่กล้าเดาว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นถูกต้องมากน้อยแค่ไหน
บางสิ่งที่เราคิดว่าแน่นอนที่สุดมันอาจจะเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีความแน่นอนเลยก็ได้...
“จะไม่ให้พี่นึกถึงเพลงนี้ได้ยังไง ก็เพลงนี้มันเป็น ‘เพลงของเรา’ นี่ครับ พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณแกงที่ทำให้เพลงนี้มันมีส่วนเติมเต็มจนทำให้เพลงมันสมบูรณ์เป็นเพลง คือมีทั้งคำร้องและทำนอง ตอนที่พี่คิดทำนองเพลงนี้ขึ้นมา พี่กำลังคิดถึงแกงอยู่ครับ รู้ไหม...”
จบคำพูดของฮั่น หน้าของคนฟังก็ระบายเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
อย่าถามนะว่ารู้สึกดีแค่ไหนที่มีคนมาเขียนทำนองเพลงให้...
เพราะถ้าจะตอบว่ารู้สึกแค่ไหน...คงนับให้ไม่ได้...เพราะมัน ‘นับไม่ถ้วน’ จริง ๆ
ถ้าหากวัดความรู้สึกดี ๆ เป็นหน่วยได้...มันก็คงจะเป็นหน่วยที่เกินคณานับนักสำหรับผู้ชายคนนี้...
“โอ๊ย...ขืนผมยังอยู่ตรงนี้...ผมคงเขินจนเดินกลับห้องไม่ได้แหง ๆ ผมไปแล้วจริง ๆ...ไม่ต้องรั้งผมไว้ด้วยคำพูดหวาน ๆ นะ...ฝันดีครับพี่หมีของผม...” พูดจบ แกงส้มก็รีบวิ่งจู๊ดออกไปจากห้องทันที ทิ้งให้คนที่มองตามหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ก็อยากจะบอกเหมือนกันนะแกงว่าถ้าแกงยังยืนอยู่ตรงนี้อีกสักนาทีเดียว พี่ก็คงไม่ให้แกงกลับห้องตัวเองแล้วล่ะ...โอ๊ย! คนบ้าอะไรน่ารักชิบ!!!!!”
ฮั่นบ่นกับตัวเองก่อนจะเดินไปดับเทียนหอมที่อยู่ภายในห้องทีละอัน...กลิ่นของเทียนหอมผสมกับกลิ่นของความรู้สึกดี ๆ ทำให้ฮั่นยกยิ้มหวานออกมา
วันนี้เขายิ้มไปกี่ล้านรอบแล้วนะ...นี่ขนาดยังไม่ได้อ่านจดหมายสักฉบับนะเนี่ย...
ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเขาอ่านจดหมายจบทุกฉบับ เขาจะเป็นยังไง ว่าแล้วก็ไปอ่านจดหมายแกงส้มดีกว่า...!
ทางด้านแกงส้มที่เดินกลับมาที่ห้องตัวเอง เขาก็ทิ้งตัวนอนบนเตียง ก่อนที่เขาจะรู้สึกได้ถึงสายลมที่พัดเย็นเข้ามาภายในห้อง
“ตายโหง! ลืมปิดประตูระเบียงหรอวะเนี่ย เวรแล้วไอ้แกงงงงงงง คืนนี้คงได้โดนยุงหามแหง ๆ” บ่นเสร็จ แกงส้มก็รีบลุกไปปิดประตูระเบียง ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอีกครั้ง พลางหยิบกล่องไม้ที่วางอยู่ข้างตัวขึ้นมาวางบนอก
“อ่านจดหมายพี่ฮั่นดีกว่า...”
ใบหน้าของคนสองคนที่อยู่ต่างสถานที่กันแต่กำลังยิ้มกว้างจนเรียกได้ว่าริมฝีปากฉีกยิ้มได้สุดแค่ไหน คนทั้งคู่ก็ยิ้มได้สุดแค่นั้น...ความรู้สึกที่ถ่ายทอดผ่านตัวอักษรมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้คนสองสนได้รู้จักกันและกันมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้พวกเขาได้รับรู้ว่า...ในตอนที่เขากำลังรู้สึกแบบนี้ อีกฝ่ายกำลังรู้สึกแบบไหน จากเหตุการณ์เดียวกัน...
แน่นอนว่านอกจากจะทำให้ยิ้มได้แล้ว...มันยังทำให้เขินจนไม่รู้ว่าจะกลิ้งไปไหนไดแล้ว เพราะถ้ากลิ้งกันมากกว่านี้ก็คงต้องไปกลิ้งกับพื้นแล้ว
เพิ่งเข้าใจคำว่า ‘เขินตัวแตก’ ก็วันนี้แหล่ะ...
“พี่ฮั่นบ้า!!!!!! ทำไมถึงได้เขียนได้เขินขนาดนี้วะ...อ๊ากกกกกกกกก เขินโว้ยยยยยยยยยยยย” แกงส้มตะโกนประโยคนี้ออกมา พลางเอาจดหมายฉบับสุดท้ายที่อยู่ในมือมาปิดหน้าตัวเองแล้วกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้สำหรับค่ำคืนนี้
ฮื้อ...เขินจริง ๆ นะ
“แกงส้มเอ๊ย!!!!!! ทำไมถึงได้น่ารักขนาดนี้ฮะ...!!! ว้ากกกกกกกกกก น่ารักไปแล้วนะ...แถมยังมาทำเป็นขงเขินในนี้อีก...เขินเหมือนกันนะเฮ้ยยยยยบยยยยยย” ฮั่นตะโกนประโยคสุดท้ายออกมาก่อนจะกลิ้งตัวเอาหน้าไปซุกกับหมอนแล้วกัดเข้าไปคำใหญ่
ฮื้อ...เขินโคตร ๆ เลย...จริง ๆ นะ
แล้วคนเขินสองคนก็นอนหลับไปพร้อมกับความเขินที่กระจายตัวอยู่ในหัวใจ รุ่งเช้าที่สดใสจะทำให้ความเขินลดลงหรือไม่...รู้กัน!
“ไอ้ฮั่นนนนนนนน ทำไมโจ๊กไก่แกมันถึงได้หวานขนาดนี้วะ ใส่น้ำตาลลงไปหรือไง” เสียงบ่นของจ๋า ทำให้คนเป็นพ่อครัว ต้องรีบตักโจ๊ะในหม้อมาชิมทันที
“อี๋...แหวะ! ทำไมมันหวานแบบนี้วะ”
“ก็นั่นน่ะสิ!!!! ทำไมมันหวานแบบนี้ ไอ้บ้า! ฉันไม่กินโจ๊กแกแล้ว เดี๋ยวเป็นเบาหวานตาย ฮึ่ย! อารมณ์เสียว่ะ” บ่นเสร็จ จ๋าก็เดินดุ่ม ๆ ออกไปจากห้อง ทิ้งให้ฮั่นมองหม้อต้มโจ๊กที่มีโจ๊กอยู่เต็มหม้อด้วยความอนาถใจในตัวเอง
สงสัยจะตักผิด...เกลือกับน้ำตาลคงสลับกัน (มั้ง)
แล้วเช้าวันนี้ฮั่นก็ไปทำงานด้วยอาการที่เอ๋อสุดขีด เพราะนอกจากเขาจะต้มโจ๊กด้วยสูตรที่หวานเกินปกติแล้ว เขายังเดินไปที่รถโดยไม่เอากุญแจรถลงไปด้วยอีก...ทำให้เขาต้องเสียเวลาเดินขึ้นมาเอากุญแจรถ และพอได้กุญแจรถ เขาก็ลืมกระเป๋าสะพายของตัวเอง กว่าจะได้ฤกษ์ไปทำงานที่ร้านก็เกินเวลาทำงานไปเกือบชั่วโมง ทั้ง ๆ ที่ปกติเขาจะมาตรงเวลาสม่ำเสมอ
เพราะจดหมายเจ็ดฉบับเมื่อคืนนั่นแหล่ะที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้...
เออรักเออเร่อ...สินะ
ทางด้านแกงส้มที่นอนยาวจนตื่นอีกทีเกือบเที่ยง ก็เกิดอาการเออรักเออเร่อไม่ต่างกัน เพราะว่าเขาเดินเข้าห้องน้ำหยิบขวดยาสระผมมาเทใส่ตัวแล้วถูซะจนเกิดฟอง เพราะคิดว่าเป็นสบู่เหลวที่ใช้ประจำ กว่าจะรู้สึกตัวก็อีตอนที่กำลังจะล้างตัวแล้วรู้สึกว่ากลิ่นมันแปลก ๆ นอกจากจะหยิบสบู่กับยาสระผมสลับกันแล้ว แกงส้มยังอึนถึงขนาดที่ว่าต้มมาม่าเอาไว้แล้วลืมกิน นึกได้อีกทีก็ตอนที่เขากำลังจะต้มซองใหม่
เพราะจดหมายเจ็ดฉบับเมื่อคืนนั่นแหล่ะที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้...
เออรักเออเร่อ...สินะ
ตกเย็น...
ความเขียวชอุ่มของต้นหูกวางที่กำลังผลิยอดอ่อนสวยบริเวณด้านหน้าตึกสูงที่เป็นสถานที่ทำงาน เรียกดวงตาของแกงส้มให้หยุดมอง ใบหน้าหวานแย้มยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี แม้วันนี้เขาจะเออเร่อเพราะจดหมายเจ็ดฉบับนั้นแต่เขาก็รู้ได้ว่าหัวใจของเขากำลังรู้สึกดีมาก
มันให้ความรู้สึกที่บอกไม่ถูก...บรรยายไม่ได้...
รู้แค่ว่า...มัน ‘ดี’...จนไม่รู้จะอธิบายยังไง...
“พี่หนึ่ง หวัดดีครับ” แกงส้มเอ่ยทักทายคนเป็นพี่ที่นั่งจัดรายการอยู่ในห้องคอนโทรล ก่อนที่เขาจะทรุดตัวนั่งลง แต่ยังไม่ทันที่หนึ่งจะทักทายน้องตอบ ร่างสูงของคนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ก็เรียกดวงตาของหนึ่งให้เบิกโตขึ้น
“คุณข้าวฟ่าง!!!!”
ชื่อที่ออกมาจากปากของหนึ่ง เรียกดวงตาของแกงส้มให้หันไปมองด้านหลังของเขา ดวงตาของคนสองคนสบกันก่อนที่ผู้มาใหม่จะตรงดิ่งเข้าไปรวบตัวแกงส้มให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด
“คิดถึงแกงที่สุดเลย!!!! ไม่ได้เจอกันตั้งหลายเดือน สบายดีหรือเปล่า แล้วนี่ผอมไปไหม ทำไมพี่กอดแล้วไม่เต็มกอดเหมือนเดิมเลยล่ะ”
ปากก็พูด แขนก็โอบรัดแน่นขึ้นจนแกงส้มแทบจะหายใจไม่ออก คนที่ตั้งตัวไม่ติดพยายามจะดันตัวเองออกจากอ้อมกอดนั้น แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน
พี่ข้าวฟ่างกอดแน่นโคตร ๆ เลย!
แต่แล้วในระหว่างที่แกงส้มกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดของผู้มาใหม่ ร่างสูงของคนที่เพิ่งเดินขึ้นมาสองคนก็ชะงักไปทันทีที่เห็นภาพนี้
“แกง...”
“พี่ฮั่น!!!!!” เมื่อเห็นว่าใครมา แกงส้มรีบผลักร่างของข้าวฟ่างให้ออกห่างตัวอย่างรวดเร็วทันที
“อะไรอ่ะแกง ผลักพี่แรงทำไม อ๊ะ! ยัยตัวร้าย!!!!” ข้าวฟ่างที่กำลังงงกับการกระทำของแกงส้มก็หันไปมองตามสายตาของดวงตากลม แล้วเขาก็พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเพิ่งได้พบเจอเมื่อหลายวันก่อน
“คุณ!”
แล้วคนสี่คนที่ยืนเผชิญหน้ากันก็เกิดความรู้สึกหลากหลาย...ความรู้สึกหลากหลายที่อาจทำให้ชีวิตของคนสองคนหรือมากกว่าสองคนต้องปั่นป่วน เรื่องราวที่เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นของใครบางคนอาจทำให้เรื่องราวที่เริ่มถักทอเป็นรูปเป็นร่างของคนสองคนวุ่นวาย แต่หากในความวุ่นวายนั้นจะทำให้คนสองคนมั่นคงต่อกันมากขึ้น มันก็อาจจะเป็นการคุ้มค่า...ที่จะต้องมีใครบางคนเข้ามาก็เป็นได้...
ไม่ว่าความรักจะดำเนินไปในทิศทางไหน ขอแค่ให้เรารู้จักประคับประคองความรักนั้นไว้ สุดท้าย...ความรักของเราก็จะอยู่รอดไปได้ตลอด...อย่าหวั่นไหวกับคลื่นลมที่พัดเข้ามา...เพราะเรือที่มั่นคงเท่านั้นถึงจะสามารถต้านทานพายุร้ายได้...
//ดึกมากกกกกกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆ ดึกที่สุดเท่าที่เคยอัพมาเลย (ใช่ไหมคะ?) น่าจะใช่นะ...วันนี้เจออุปสรรคหลากหลายมากเลย ทั้งฝนตก ฟ้าร้อง และอุปสรรคทางอารมณ์ของคนเขียนนี่แหล่ะค่ะ...แหะๆ
ขอโทษจริง ๆ นะคะที่ตอนนี้อาจจะไม่สนุกอย่างที่ทุกคนรอและคาดหวัง...รางวัลของพี่ฮั่น...กวางไม่เคยคิดว่าจะให้มัน NC อย่างที่คนอ่านบางคนต้องการ (ก็เค้าบอกแล้วว่าคอนเซปเรื่องนี้ใส ๆ ใครขอมางอน~)
ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ มันจึงเป็นแบบนี้แทนนะคะ...ถ้าหากฟิคตอนนี้มันไม่สนุกเหมือนเดิม หรือว่าทำให้คนอ่านรู้สึกไม่ดี กวางต้องขอโทษนะคะ (...ทำไมรู้สึกกังวลใจแบบนี้นะ...) คงเพราะอารมณ์วันนี้ของกวางมันไม่เหมือนเดิมจริง ๆ แต่ไม่ได้เกี่ยวกับฟิคหรือพี่น้องนะคะ เป็นความนอยด์ส่วนตัวมาก ๆ ขอโทษอีกครั้ง...
โอ๊ย...ขอโทษเยอะไปแล้ว
ยังไงก็...สนุกกับฟิคตอนนี้นะคะ แล้วพบกันตอนหน้าค่ะ...แอบมีตัวละครเพิ่มมาอีกแล้ว (ฮ่า ๆ ๆ...) >< ย้ำเสมอและทุกครั้ง...ขอบคุณที่ติดตามนะคะ รักทุกคนค่ะ ~
ความคิดเห็น