ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Letter #เพราะโลกนี้มี 'นาย' [FIC HKS]

    ลำดับตอนที่ #19 : บทที่ 17 : จดหมายฉบับที่ 4 ของ ‘เราสองคน’

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 969
      5
      1 ก.ย. 55

    บทที่ 17 : จดหมายฉบับที่ 4 ของ เราสองคน

    ชุดเชฟเดี๋ยวค่อยใส่ก็ได้นะแกง ใส่ผ้ากันเปื้อนไปก่อน ฮั่นว่าพลางส่งผ้ากันเปื้อนสีส้มไปให้คนที่ยืนยิ้ม แกงส้มรับผ้ากันเปื้อนมาถือไว้ก่อนจะคลี่ผ้าออก เขาเอาผ้ากันเปื้อนมาคล้องคอ ก่อนจะเอื้อมมือไปผูกเชือกที่เอวด้วยความไม่ถนัดปนทุลักทุเล ฮั่นเห็นดังนั้นก็เดินเข้ามา ก่อนจะเอื้อมมือไปผูกพันเชือกให้ โดยที่เขายืนหันหน้าเข้าหาแกงส้ม

    ร่างกายที่ชิดใกล้เพียงห่างกันแค่ไม่ถึงฝ่ามือ เรียกเสียงหัวใจของคนสองคนให้เต้นรัว

    หากถามว่า...อะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาอยากทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ให้แกงส้ม

    เขาก็คงตอบไม่ได้...แต่ถ้าถามว่าเขาอยากจะดูแลแกงส้มด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ไหม...

    ตอบได้เลยว่า...อยากดูแลไปตลอด...

    เพราะเขามีความสุขทุกครั้งที่ได้ดูแลใส่ใจในเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของคนที่เขามีความรู้สึกดี ๆ ด้วย เขาว่า...การที่คนเราเอาแต่ไปสนใจดูแลในเรื่องราวใหญ่ ๆ มันอาจจะทำให้เราลืมเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปได้

    ฉะนั้น...เราควรจะหันมาสนใจและใส่ใจในเรื่องราวเล็ก ๆ บ้าง...

    เพราะสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้...คือจุดเริ่มต้นของสิ่งใหญ่ ๆ หลายอย่างนะ!

    เอ่อ...ขอบคุณครับพี่ฮั่น แกงส้มเอ่ยขอบคุณคนตัวใหญ่เบา ๆ ก่อนที่เขาจะเขยิบตัวถอยห่างออกมา พลางเงยหน้าไปสบสายตาคมที่มองมาพอดี

    ไม่เป็นไรหรอกน่าแกง เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ว่าแต่...ตอนนี้คิดออกหรือยังว่าอยากจะเรียนทำอาหารอะไรจากพี่

    อืม...เอาที่ผมคิดแล้วก็อยากกินได้ไหมพี่ฮั่น แกงส้มถามพลางทำหน้าครุ่นคิด

    ได้สิ...อะไรล่ะ ว่ามาเลย ฮั่นว่าก่อนจะเอนหลังพิงเคาน์เตอร์ 

    ใบหน้าหวานที่กำลังทำท่าครุ่นคิดเรียกดวงตาของฮั่นให้เผลอมอง ดวงตากลมโตรับกับจมูกที่โด่ง บวกกับริมฝีปากบางขับให้ใบหน้านั้นหวานมากยิ่งขึ้น ใบหน้าที่กำลังแสดงสีหน้าต่าง ๆ ทำให้คนมองต้องเม้มปากแน่น

    น่ารัก...

    ผมคิดออกแล้วครับว่าผมอยากจะทำอาหารอะไร

    หืม...อะไรล่ะ ?

    ผมอยากจะทำ สปาเกตตี้ต้มยำทะเล กับ แกงส้มชะอมชุบไข่’...” คำตอบของแกงส้มทำเอาคนที่รอฟังซึ่งกำลังใช้ข้อศอกเท้าไปที่เคาน์เตอร์ถึงกับข้อศอกลื่นจนตัวแทบเซทันที

    สปาเกตตี้ต้มยำทะเล กับ แกงส้มชะอมชุบไข่

    มันเข้ากันตรงไหนวะเนี่ย!?!

    เอ่อแกง...อาหารฝรั่งกับอาหารไทย...มันจะไม่ตีกันหรอ?

    โห่พี่ฮั่น...พี่เป็นเชฟจริงป่ะเนี่ย ไม่รู้จักประยุกต์อาหารเลย แกงส้มว่าก่อนจะเบ้ปากใส่หน้าฮั่น ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็หยิบเอาด้ามทัพพีไม้เคาะลงไปบนหัวคนพูดเบา ๆ หนึ่งที

    พี่น่ะรู้จักประยุกต์อาหาร แต่ไอ้เมนูสองอย่างที่เราจะทำกินน่ะ มันดูไม่เข้ากันสักนิด!”

    แต่ผมอยากกิน

    แต่พี่ว่า...

    ไหนพี่บอกว่า...ถ้าผมอยากกินอะไรพี่ก็จะทำให้กินแล้วก็จะสอนผมไง พี่พูดเมื่อเช้านี้เองนะ ยังไม่ทันข้ามครึ่งวันพี่ก็ลืมซะแล้วหรอ ใช่สิ...ผมมันไม่สำคัญนี่ ผมมัน...

    โอเค ๆ ๆ ๆ เดี๋ยวพี่จะสอนเราทำเอง เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเริ่มตีโพยตีพายโวยวายไปใหญ่ ฮั่นก็หยุดการโวยวายนั้นด้วยการรับปากทันที

    เย้! พี่ฮั่นน่ารักที่สุดเลย พูดจบ แกงส้มก็กระโดดไปกอดแขนฮั่นแล้วเอาหน้าไปแนบกับต้นแขนคนข้าง ๆ เบา ๆ เป็นการขอบคุณ ก่อนที่เขาจะกุลีกุจอไปเตรียมอุปกรณ์ในการทำอาหาร

    เอ่อ...ก็ถ้าจะน้องจะน่ารักขนาดนี้...เห็นทีว่าจะอดใจให้ รัก ไม่ได้แล้ว!

    ว้ากกกกกกกก...

     

     

    แกงต้องต้มเส้นสปาเก็ตตี้ทิ้งไว้สัก 15-20 นาทีให้มันสุกดีก่อนนะ แล้วถึงจะเอามาผัดกับซอสต้มยำได้ และในระหว่างที่เรารอให้เส้นสุกเราก็มาทำซอสต้มยำกัน ฮั่นว่าก่อนจะหยิบเส้นสปาเก็ตตี้ใส่ลงไปในหม้อน้ำที่กำลังเดือดพล่าน ควันร้อนที่ลอยพวยพุ่งทำให้แกงส้มต้องหันหน้าหลบ

    อะไรแกง...หันหน้าหลบทำไม

    ก็มันร้อนนี่พี่

    ร้อนแค่นี้ก็ต้องอดทนสิ แล้วไหนบอกว่าชอบทำอาหารไงครับ

    ฮั่นถามพลางขมวดคิ้วและเอียงคอมองคนที่กำลังทำหน้ายู่

    ผมชอบทำอาหาร แต่ผมก็กลัวร้อนบ้างเป็นบางทีน่ะพี่ นิดหน่อยเอง เลิกบ่นแล้วเรามาทำซอสต้มยำเหอะ ว่าแต่...ต้องทำอะไรก่อนครับ

    อืม...แกงเอากระทะตั้งไฟอ่อน ๆ เลย แล้วก็เอาข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดที่เราหั่นเตรียมไว้แล้วใส่ลงไป... แกงส้มทำตามที่ฮั่นบอกทุกประการ...จากนั้นกลิ่นของสมุนไพรก็ลอยออกมาจากในกระทะเมื่อโดนความร้อน

    จากนั้นเราก็ใส่กุ้ง ปลาหมึก ลงไป แต่เนื้อปลายังก่อนนะ เพราะเดี๋ยวมันเละ

    อ้าว...มันเละแต่เนื้อปลาไม่เละก็ไม่เป็นไรนี่ครับพี่ฮั่น ฮ่า ๆ ๆ เล่นมุกเสร็จ แกงส้มก็หัวเราะร่าออกมา เสียงหัวเราะของเขาทำให้คนที่ยืนมองอยู่อดที่จะหัวเราะตามไม่ได้

    ตลกใหญ่แล้วแกง ใส่กุ้งกับปลาหมึกลงไป แกงส้มใส่กุ้งและปลาหมึกลงไป ก่อนที่เขาจะผัดให้กลิ่นของสมุนไพรซึมเข้าไปในตัวกุ้งและปลาหมึก จากนั้นฮั่นก็ตักน้ำซุปที่เขามีอยู่แล้ว หรือที่ภาษาพ่อครัวจะเรียกว่าน้ำสต๊อกไก่ใส่ลงไปในกระทะประมาณครึ่งกระบวย แล้วตามด้วยน้ำมะนาว น้ำปลา

    เอ้า...ลองชิมดูสิแกงว่าโอเคไหม...ถ้าโอเคแล้วจะได้ใส่เนื้อปลาลงไป

    ฮั่นไม่พูดเปล่า แต่เขายังใช้ช้อนโต๊ะตักน้ำที่กำลังเดือดพวยพุ่งในกระทะขึ้นมา แล้วยื่นไปให้คนหน้าหวานที่บัดนี้โดนไอความร้อนเป่าใบหน้าจนหน้ากลายเป็นสีแดงระเรื่อ

    ไม่ต้องถือ เดี๋ยวพี่ป้อน ฮั่นว่า ก่อนจะยื่นช้อนเข้าไปใกล้ริมฝีปากบาง แกงส้มอ้าปากซดน้ำต้มยำก่อนที่เขาจะยกนิ้วโป้งขึ้นมา

    อร่อยอ่ะพี่! เหมือนต้มยำธรรมดาเลย แล้วไงต่อนะครับ

    ใส่เนื้อปลาลงไป แล้วตามด้วยน้ำพริกเผา แกงส้มเทเนื้อปลาลงไปก่อนที่ฮั่นจะตักน้ำพริกเผาลงไป จากนั้นคนที่ถือตะหลิวอยู่ก็ผัดต่อไป

    จากนั้นไม่ถึง 5 นาที ซอสต้มยำก็เสร็จสิ้น เป็นจังหวะเดียวกับที่เส้นสปาเก็ตตี้เริ่มสุกพอดี ฮั่นหรี่ไฟในซอสต้มยำเพื่อให้น้ำมันงวดข้น ก่อนที่เขาจะเริ่มตั้งหม้ออีกหม้อหนึ่งบนเตาข้าง ๆ กัน

    ตักน้ำสต๊อกไก่ใส่หม้อนี้เลยแกง เมื่อได้ยินฮั่นว่าอย่างนั้น แกงส้มก็ตักน้ำสต๊อกไก่ในหม้อใหญ่ใส่ลงไปในหม้อเล็กที่เพิ่งตั้งใหม่

    เยอะไหมอ่ะพี่ฮั่น

    กะแค่ชามเดียวพอครับ ฮั่นว่าพลางมองดูมือบางที่ตักน้ำซุปลงหม้อ แล้วเขาก็แอบอมยิ้ม ใบหน้าของแกงส้มดูจริงจังมาก

    แค่ตักน้ำสต๊อกไก่ทำอย่างกับจะสอบวิชาอะไรสักอย่างภาคปฏิบัติ

    จริงจังสุด ๆ เลยแกงส้มเอ๊ย...ฮ่า ๆ ๆ

    จากนั้นฮั่นก็เอาฝามาปิดหม้อน้ำหม้อนี้ไว้ ก่อนที่เขาจะเดินไปดูเส้นสปาเก็ตตี้ที่ต้มไว้ ฮั่นมองดูสีของเส้นก่อนที่เขาจะกวักมือเรียกให้แกงส้มเดินมาหา

    เดี๋ยวแกงเอาเส้นไปเทลงในอ่างนะ ตรงตะแกรงถี่ ๆ ที่อยู่ตรงนั้น แล้วเมื่อเทเสร็จก็ตักน้ำเย็นที่อยู่ข้าง ๆ กันราดไปบนเส้น ที่เราทำแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้เส้นมันติดกัน...”

    อ๋อ...เข้าใจแล้วครับ แกงส้มพูดแค่นั้น เขาก็ทำตามที่ฮั่นบอก เสร็จแล้วเขาก็เอาเส้นสปาเก็ตตี้เทลงไปในซอสต้มยำที่กำลังเดือดปุด ๆ

    คนเบา ๆ นะแกง เอาล่ะลองชิมดูอีกทีหนึ่ง เผื่อว่ารสชาติมันจืดไป เราจะได้เติมเครื่องปรุงลงไปอีก ฮั่นว่าพลางหยิบส้อมส่งไปให้คนที่กำลังยืนคนสปาเก็ตตี้ แกงส้มรับส้อมนั้นมาถึงไว้ก่อนจะจิ้มลงไปที่เส้นสปาเก็ตตี้แล้วม้วน ๆ ๆ

    พรูด~

    แกงส้มเป่าเส้นสปาเก็ตตี้ ก่อนจะยื่นมันมาทางคนที่ยืนมองเขา

    อ้าปากสิพี่...ชิม...

    ฮั่นยอมอ้าปากแต่โดยดี ก่อนที่เขาจะยกนิ้วโป้งขึ้นมา

    อร่อย ๆ ๆ ใช้ได้แล้ว ปิดแก๊สได้เลยแกง

    เมื่อได้ยินคำว่าอร่อย ใบหน้าหวานก็ระบายไปด้วยรอยยิ้มทันที

    เวลาที่เราคิดจะทำอาหารอะไรสักอย่างแล้วพอได้ทำ...เมื่อมีคนชิม...แล้วคนชิมพูดว่า...

    อาหารของเราอร่อย เชื่อได้เลยว่าร้อยละ 99.99 มักจะยิ้มแก้มแทบแตก

    และตอนนี้แกงส้มก็กำลังเป็นหนึ่งในร้อยละ 99.99 นั้น...!

    เอาล่ะ..ต่อไปเรามาทำแกงส้มชะอมไข่ต่อ

    อันนี้ผมทำได้ ๆ ๆ ๆ

    หืม ? คิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่แกงส้มพูด

    แม่เคยสอนผมทำอยู่ครับ เดี๋ยวผมจะขอทำให้พี่ฮั่นชิมนะครับ แล้วพี่ก็บอกผมด้วยว่ามันเป็นยังไง

    แกงจะบอกว่าให้พี่นั่งเฉย ๆ แล้วดูแกงทำใช่ไหมครับ...? แกงส้มพยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงตอบคำถาม

    โอเค...งั้นเดี๋ยวพี่จะนั่งดูแกงทำก็แล้วกัน

    ดูสิ...ว่าจะคล่องขนาดไหน...

    แกงส้มยิ้มออกมา ก่อนที่เขาตักพริกแกงส้มในถ้วยใส่ลงไปในหม้อ จากนั้นเขาก็คนให้พริกแกงละลายกับน้ำ เมื่อน้ำเริ่มเดือด เขาก็ใส่กุ้งลงไป พลางปล่อยทิ้งไว้ให้น้ำแกงเดือด แล้วแกงส้มก็หันมาสนใจกับการทอดชะอมที่ซึ่งชุบไข่เตรียมไว้แล้ว

    ผ่านไปประมาณ 15 นาที แกงส้มชะอมชุบไข่ของแกงส้มก็เดือดปุด ๆ ส่งกลิ่นหอมฉุย คนทำยืนยิ้มหน้าบานพลางตักน้ำแกงในหม้อมายื่นให้คนที่นั่งมองชิม

    อืม...

    เป็นไงมั่งครับพี่ฮั่น

    ก็...

    ก็...

    อืม... ฮั่นแกล้งเว้นวรรคไว้แค่นั้น แล้วเขาก็ไม่ยอมพูดต่อ ทำให้คนที่ยืนรอลุ้นฟังคำตอบถึงกับเคืองปล่อยเท้าใส่แข้งคนที่กำลังเกรียนใส่เขา

    พี่อย่ามาลีลาได้ป่ะ บอกผมมาเร็ว ๆ ว่ารสชาติมันเป็นยังไง

    ฮ่า ๆ ๆ อร่อยดีครับ...ไม่ยักกะรู้นะเนี่ยว่าแกงส้มจะทำแกงส้มได้อร่อยขนาดนี้ ฝีมือไม่ธรรมดาเลยนะเรา ฮั่นเอ่ยชมออกมาด้วยใจจริง คำชมของเขาทำให้แกงส้มยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวเทียมสิบดวงมารวมกัน

    พี่แกล้งชมให้พี่ดีใจเล่นป่ะเนี่ย

    ไม่ได้แกล้งชมครับ พี่เป็นเชฟนะ ถ้าอร่อยในความหมายของพี่ก็แปลว่าอร่อย...

    พี่ฮั่น ๆ ๆ ๆ แย่แล้วครับ

    หือ...แย่อะไรวะไอ้กร

    พี่จ๋าตบกับลูกค้าครับ!” ทันทีที่ได้ยินคำตอบจากบริกรหนุ่มที่วิ่งกระหืดกระหอบมา ฮั่นก็ลุกพรวดจากเก้าอี้แล้วตรงดิ่งออกไปที่บริเวณด้านนอกห้องครัวทันที โดยมีร่างของแกงส้มวิ่งตามออกมา

    ภาพของหญิงสาวสองคนกำลังเอามือทึ้งผมของกันและกันโดยมีร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งที่แสนคุ้นตายืนเป็นกรรมการห้ามทัพตรงกลางหญิงสาวทั้งสอง ทำให้ฮั่นถึงกับขมวดคิ้วมุ่น

    โตโน่...?

    เกิดอะไรขึ้นน่ะ หยุดเดี่ยวนี้นะ!!!!” เสียงตะโกนของฮั่น สามารถหยุดการกระทำของคนที่กำลังตีกันนัวเนียได้ ทั้งสามคนหันมามองหน้าคนพูดก่อนที่พวกเขาจะต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

    สายตาฮั่น...โหดได้อีก!

    มาคุยกันหลังร้าน!”

     

     

    บอกมาสิ...ว่านี้มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงได้ไปตบกันนัวเนียแบบนั้น มีการศึกษากันหรือเปล่า ทำอะไรสิ้นคิดสิ้นดี!”

    นี่คุณ! มันจะมากเกินไปแล้วนะ อยู่ดี ๆ มาว่าฉันไม่มีการศึกษาได้ยังไง หญิงสาวผมยาวเป็นลอนเอ่ยขึ้นมา ก่อนที่เธอจะส่งสายตาไม่พอใจมาให้คนพูด

    ไม่เอาน่ากวาง...ใจเย็น ๆ สิ

    ก็เฮียดูตานี่สิ อยู่ดี ๆ ก็มาว่าเค้าไม่มีการศึกษา มันใช้ได้ที่ไหนกัน

    ก็แล้วคนที่ชอบใช้กำลัง ถ้ามีการศึกษาจริง ๆ ทำไมไม่ใช้เหตุผลคุยกันล่ะ ฮั่นว่าพลางมองคนที่กำลังมองเขาด้วยสายตาไม่พอใจด้วยดวงตาที่เหมือนมีคำถาม

    ก็ถ้าคนของคุณไม่มาทำร้ายฉันก่อน ฉันก็ไม่ทำหรอก!”

    หมายความว่ายังไงไอ้จ๋า... เมื่อได้ยินคำตอบของหญิงสาวที่ไม่รู้จัก ฮั่นก็หันมาถามเพื่อนสนิทตัวเองทันที จ๋าก้มหน้าหลบสายตาเขาก็จะเริ่มเปิดปากเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ไม่กี่สิบนาที

     

    รับอะไรดีคะ...เฮ้ย!” จ๋าที่ซึ่งออกมารับออร์เดอร์ลูกค้ารายแรกเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่เป็นลูกค้า เธอก็อุทานออกมาทันที

    โตโน่!!!!! มาได้ไงเนี่ย อรุณสวัสดิ์นะ...

    สวัสดีครับพี่จ๋า

    เมื่อเห็นว่าจ๋าเอ่ยทักทาย โตโน่ก็เอ่ยทักทายกลับไป การทักทายของคนสองคนทำให้คนที่นั่งมองอย่างกวางขมวดคิ้วมุ่น

    รู้จักกันด้วยหรอคะ

    เอ่อ..รู้จักครับกวาง คนนี้พี่จ๋าเป็นพี่สาวของหมิว ทันทีที่ได้ยินชื่อของผู้หญิงคนนั้น กวางก็เบ้ปากออกมา

    อ้อ...พี่สาวยัยเด็กคนนั้น!”

    คนนี้ใครหรอโตโน่...ไม่เห็นแนะนำเลย จ๋าเอ่ยแซวออกมาพลางมองใบหน้าของผู้หญิงที่นั่งด้วยดวงตาที่สำรวจตรวจตรา

    ใบหน้าหวานที่กำลังทำสีหน้าแบบไม่ค่อยพอใจเธอ ทำให้จ๋าให้คะแนนความสวยของเธอติดลบ

    คนนี้ชื่อกวางครับ เป็นเอ่อ...

    คนพิเศษของเฮียโน่ค่ะ จบคำพูดของกวาง จ๋าก็ตาโตขึ้นมาทันที

    หมายความว่ายังไงคนพิเศษ...แล้วหมิวน้องสาวเธอล่ะ!?!

    ถ้าคนนี้คือคนพิเศษ แล้วหมิวล่ะ ?

    เอ่อ... โตโน่เกิดอาการติดอ่างขึ้นมา ทำให้คนมองอย่างจ๋ารู้สึกไม่พอใจ

    บางครั้งคำตอบของบางคำถามก็ยากเกินที่จะหามาอธิบาย...

    เพราะว่าคำถามบางคำถามนั้นก็อาจจะไม่มีคำตอบ...

    ว่ายังไงโตโน่!!”

    เลิกพูดถึงคนอื่นสักทีได้ไหมคะ เฮีย...เราสั่งอาหารมาทานสักทีเหอะ หิวจะแย่แล้ว!!!”

    อืม...ผมเอา...

    ปึก! จ๋ากระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะอาหารทันที

    ถ้านายให้คำตอบกับฉันไม่ได้ ฉันก็ไม่ให้นายกินอะไรทั้งนั้น แล้วผู้หญิงคนนี้ใช่ไหมที่ทำให้หมิวมันตกบันได!?!”

    นี่คุณ! อะไรของคุณเนี่ยฮะ จะพูดถึงยัยเด็กที่ชอบพูดจากวนประสาททำไมกัน ไร้สาระสิ้นดี!” กวางไม่พูดเปล่า แต่เธอยังทำหน้าอธิบายคำพูดท้ายประโยคของเธอด้วย

    จ๋าเห็นแบบนั้นแล้วก็อดที่จะโมโหขึ้นมาไม่ได้

    หนอย...คิดว่าหน้าตาดีแล้วฉันจะไม่กล้าทำอะไรหรอยะ!

    ไอ้เด็กกวนประสาทที่เธอว่า...มันน้องสาวฉันนะ!”

    แล้วไง คำพูดที่มาพร้อมกับใบหน้าที่กวนประสาทชวนยั่วอารมณ์สุด ๆ ของกวาง ทำให้จ๋าโมโหมาก เธอนึกอยากจะเอาเล็บที่มีไปข่วนหน้าคนพูดนัก!

    โตโน่...นายรีบ ๆ พาแฟนนายออกไปจากร้านเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่อย่างนั้นฉันต้องอดใจไม่ไหวแน่ ๆ

    นี่ป้า! ฉันเป็นลูกค้าร้านป้านะ กล้าดียังไงมาไล่ฉันออกแบบนี้ ชิ...ร้านนี้ห่วยแตกสิ้นดี!”

    ไม่ไหวแล้วโว้ย!!!!!” จ๋าตะโกนออกมา ก่อนที่เธอจะกระโจนใส่คนพูด

    แล้วคนสองคนก็ตบกันนัวเนีย...อย่างที่ทุกคนเห็น!

    เฮ้อ...นี่สรุปว่าทะเลาะตบตีกันด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้เนี่ยนะ!?!”

    ก็ใช่น่าสิ...แกฟังแล้วรู้สึกไหมล่ะว่ายัยเด็กนี่ปากวอนโดนตบ

    โหป้า...พูดอย่างกับเวลาทำสีหน้าแบบนี้ไม่วอนอย่างนั้นแหล่ะ

    แกเรียกใครป้ายะ!” จ๋าหันมาแหวใส่คนที่เรียกเธอป้า แล้วคนสองคนก็ทำท่าจะกระโจนใส่กันอีกครั้ง

    ฮั่นรีบเข้ามาไปยืนแทรกกลางคนทั้งสองทันที

    พอ ๆ ๆ ๆ จะทะเลาะตบกันให้ตายไปเลยใช่ไหม เรื่องแค่นี้เอง ทำไมไม่คุยกันดี ๆ

    เอ่อ...ผมขอแทรกนิดนึงได้ไหมครับ...คือ...

    คืออะไรแกง...?ฮั่นถามพลางมองตามสายตาของแกงส้มไป...

    พี่กวางครับ...พี่จำผมไม่ได้หรอฮะ ? แล้วคนที่ถูกเรียกชื่อก็หันมามองคนเรียก

    เฮ้ยยยยยยยยยยย ไอ้แกงส้ม!” แล้วกวางก็จำได้ว่าผู้ชายที่มีใบหน้าหวานที่ซึ่งเดินตามหลังผู้ชายหน้าหมีคนนี้คือน้องในชมรมสมัยตอนที่เธอเรียนอยู่มหาวิทยาลัย

    ฮ่า ๆ ๆ พี่กวางจริง ๆ ด้วย ผมว่าแล้วว่าผมคุ้น ๆ หน้าพี่ ไม่เจอกันแค่ไม่กี่ปี สวยขึ้นเป็นกองเลยนะครับ แกงส้มเอ่ยชมพลางจับมือหญิงสาวขึ้นมาแล้วเขย่า ๆ อย่างดีใจ

    ไม่ได้เจอกันตั้งนาน...สวยขึ้นจนเกือบจำไม่ได้...

    เพราะแต่ก่อนพี่กวางแกจะออกเซอร์ ๆ และห้าวมาก ๆ ไม่คิดว่าพอเรียนจบไปแล้ว กลับมาเจออีกที...จะสวยหวานได้ขนาดนี้

    เวลาเปลี่ยน...คนก็เปลี่ยนจริง ๆ สินะ

    เราก็เหมือนกันนั่นแหล่ะ ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่อ่ะ แล้วเป็นไงสบายดีไหม

    สบายดีครับ ก็เรื่อย ๆ ฮะ...พี่ล่ะครับ ?

    ก็สบายดีนะ แต่ช่วงหลัง ๆ มาก็ไม่ค่อยสบายหรอก ต้องคอยคุมความประพฤติของใครบางงคนแถว ๆ นี้ พูดจบ กวางก็ชำเลืองสายตาไปมองยังคนที่นั่งเงียบ

    โตโน่สะดุ้งนิดหน่อยก่อนที่เขาจะส่งยิ้มแหย ๆ ไปให้คนที่เพิ่งพูดถึงเขา

    แล้วนี่เป็นไงมาไงพี่ถึงได้เป็นแฟนพี่โน่ครับเนี่ย ผมเป็นลูกพี่ลูกน้องพี่โน่แท้ ๆ ยังไม่รู้เลยนะเนี่ย

    อืม...จริง ๆ เราสองคนก็ไม่ใช่แฟนกันหรอกนะ เป็นแค่คนพิเศษเฉย ๆ กวางตอบ ก่อนจะจับมือของโตโน่ขึ้นมากุมไว้ พลางมองไปยังคนที่มองเธออย่างจ๋า

    คนพิเศษของพี่โน่ไม่ได้มีแค่พี่คนเดียวหรอกนะแกง...เฮีย...เรากลับกันเถอะ กวางหมดอารมณ์กินแล้วอ่ะ ฤกษ์ดีเกิน... กวางว่าพลางดึงมือให้โตโน่ลุกตาม ซึ่งโตโน่ก็ยอมทำตามอย่างว่าง่าย ใบหน้าคมที่ส่งสายตามาขอโทษทำให้จ๋าถึงกับนึกสงสารผู้ชายคนนี้ขึ้นมา

    นี่คงจะถูกยัยกวางอะไรนี่เผด็จใส่ล่ะสิ...ถึงได้หงอยขนาดนั้น!

    ว่าแต่...แล้วตกลงว่ายัยหมิวกับโตโน่มันอะไรยังไงกันแน่เนี่ย...คลุมเครือจริงโว้ย!

    ผู้หญิงที่ชื่อกวางพูดแบบนี้...แสดงว่าหมิวก็ต้องเป็นคนพิเศษของโตโน่น่ะสิ!?!”

    ฮั่นหันไปถามจ๋า พลางทำหน้าครุ่นคิด

    คนพิเศษที่ไม่ใช่แฟน...มันจำเป็นต้องมีหลาย ๆ คนด้วยหรอ...?

    แค่คน ๆ เดียวที่ทำให้หัวใจมีความสุขมันก็น่าจะพอแล้วนะ!

    แต่จะว่าไปแล้ว...ถ้าเกิดน้องเคเอสกับแกงส้มเป็นคนละคนกันจริง ๆ ...

    เขาก็คงจะเป็นเหมือนโตโน่สินะ...

    ไม่ดีสักนิด...

    การมีหนึ่งหัวใจแล้วต้องไปรู้สึกดีกับใครพร้อม ๆ กันสองคน...ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ

    เพราะคนเรามีเพียงหนึ่งหัวใจ หากต้องรักใคร...มันก็สมควรที่จะเป็นคน ๆ เดียว

    คน ๆ เดียวที่ พิเศษที่สุด สำหรับเรา...

    ไม่รู้ว่ะ...หมิวแม่งไม่เล่าอะไรให้ฟังสักอย่าง โว้ย! หงุดหงิด... จ๋าว่าก่อนจะเดินออกไปจากบริเวณนี้ ทิ้งให้แกงส้มกับฮั่นต้องหันมามองหน้ากัน

    ถ้าพี่ต้องรู้สึกดีกับใครพร้อมกันถึงสองคน...พี่จะทำยังไงครับ

    พี่คงเลือก...ที่จะตัดใจจากใครสักคน แม้จะรู้สึกดีกับคนสองคนมากแค่ไหน แต่คนเรามีหัวใจเดียวครับ เราไม่สามารถที่จะไปรักใครพร้อม ๆ กันสองคนได้...แม้ว่าจะต้องเสียใจและเสียใครสักคนไป แต่พี่ว่ามันก็คุ้มค่าแล้วเพราะคนที่เราเลือกจะให้อยู่...เค้าคือคนที่สำคัญสำหรับเรา...

    พูดจบ ฮั่นก็ส่งสายตาที่มีความหมายไปให้คนถาม แต่ดูเหมือนว่าแกงส้มจะไม่เข้าใจ...

    แล้วถ้าเราเลือกผิดล่ะครับ...คนที่เราเลือกจะให้อยู่ เค้ากลับเป็นคนที่เราคิดไปเองว่าสำคัญ แต่ที่จริงแล้วคนที่เราไม่เลือกต่างหากคือคนที่สำคัญ เพราะเมื่อไม่มีเขา...เรากลับรู้สึกเหมือนหัวใจหลุดหายไป...พี่จะทำยังไงครับ...

    คำถามของแกงส้ม ทำให้ฮั่นชะงัก...

    นั่นสินะ...ถ้าเราเลือกผิดล่ะ ?

    ถ้าเราเลือกผิด...เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เราเลือก บางทีในเรื่องของความรักมันก็ไม่มีคำว่าถูกหรือผิด หรอกแกง มันมีแต่คำว่ารักหรือไม่รัก สุขหรือทุกข์...แกงเชื่อไหมว่าความรักบนโลกใบนี้ยังมีอีกมากมายนับร้อยนับพัน เพียงแต่มันยังเดินทางมาไม่ถึงเรา...คนที่ยังไม่เคยเจอความรักก็มักจะถามหา...ทั้ง ๆ ที่เราไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอะไร สักวันหนึ่ง...ความรักที่เราตามหาก็จะเดินมาให้เจอเราเอง...เหมือนอย่างที่พี่ได้เจอกับแกง...

    ท้ายประโยคเบาราวกับเสียงกระซิบ...

    แต่ในความเบานั้นมันก็ยังสามารถทำให้แกงส้มได้ยิน รอยยิ้มเขินถูกเจ้าตัวแต่งแต้มขึ้นมาบนใบหน้าหวานทันที

    ผมว่า...เรารีบกลับเข้าไปในครัวเถอะครับ...ป่านนี้แกงส้มผมคงเดือดจนน้ำจะแห้งแล้วมั้งฮะ

    ฮั่นพยักหน้ารับคำพูดของแกงส้ม ก่อนที่เขาจะเดินนำหน้าแกงส้มกลับเข้าไปในร้าน คนที่เดินตามหลังบัดนี้กำลังใช้มือขยำชายผ้ากันเปื้อนของตัวเองอย่างรู้สึกเขิน...

    เขิน...ความรู้สึกที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังแก้มร้อน ๆ มือไม้ที่มีเหมือนมันเกะกะทั้ง ๆ ที่มันก็อยู่ของมันดี ๆ

    เขิน...ความรู้สึกที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจแรงและเร็วขึ้นกว่าปกติ

    เขิน...คืออาการที่เรามักจะแสดงออกมาไม่เหมือนกัน บางคนก็หน้าแดง บางคนก็ทำเป็นโวยวายกลบความเขิน บางคนก็ทำเป็นพูดนู่นนี่นั่นเพื่อเบี่ยงเบนประเด็นหรือแม้แต่บางคนที่นั่งอมยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว และมันคืออาการที่เรามักจะเป็นกับคนพิเศษที่ส่งผลต่อความรู้สึกในหัวใจ

     

     

     

    พี่ฮั่น...เมื่อตะกี้ป๊าโทรมาบอกว่าคืนนี้อยากจะไปดูหนัง...ป๊าให้ชวนพี่ฮั่นไปด้วยครับ

    อืม...ได้สิ รอบดึกใข่ไหม ?

    ครับ

    อืม...ตามนั้นเลยแกง

    แกงส้มอมยิ้มออกมา เมื่อพี่ฮั่นยอมตามใจเขาและป๊าทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่พี่ฮั่นจะปฏิเสธก็ได้  แต่พี่ฮั่นก็เลือกที่จะไม่ปฏิเสธ

    ทั้ง ๆ ที่เขาก็บอกป๊าไปแล้วว่าเราสองคนไม่ได้เป็นแฟนกัน และเขาก็เล่าให้พี่ฮั่นฟังแล้วด้วย แต่พี่ฮั่นก็ยังทำเหมือนเดิม...ทำเหมือนเราเป็นแฟนกันจริง ๆ...

    พี่ฮั่นครับ...

    ครับ ?

    เรายังเป็นแฟนกันอยู่ใช่ไหมครับ... ความสงสัยที่มีถีบตัวสูงขึ้นจนทำให้แกงส้มเผลอหลุดปากถามออกไป

    ทำไมแกงถามแบบนั้นล่ะ...

    ก็ป๊ารู้แล้วนี่ครับว่าเราไม่ได้เป็นแฟนกัน พี่ก็ไม่จำเป็นต้องแกล้งเป็นแฟนกับผมแล้วล่ะครับ แกงส้มว่า ก่อนที่เขาจะรู้สึกใจหายวาบ เมื่อเห็นสายตาของพี่ฮั่นที่มองมา

    ดวงตาคมแสดงออกถึงอาการตัดพ้อน้อยใจ...

    พี่รู้ว่าแกงคงเบื่อแล้วการต้องแกล้งเป็นแฟนพี่ แต่ขอแค่จนกว่าจะครบอาทิตย์...แกงช่วยเป็นแฟนพี่ก่อนได้ไหมครับ...พี่อยากซึมซับกับบรรยากาศดี ๆ แบบนี้...นะ... ท้ายประโยคฮั่นทำเสียงอ้อนจนคนที่โดนอ้อนถึงกับอยากลงไปนอนละลายที่พื้น!

    น่ารักมากพี่ฮั่น...

    ตามนั้นก็แล้วกันครับ...เราเป็นแฟนกันอยู่นะ...

    อื้ม... ฮั่นรับคำสั้น ๆ ก่อนที่เขาจะหันกลับไปสนใจกับการทำอาหารต่อ...หันกลับไปแต่สมาธิก็อยู่ที่คนที่ยืนมองเขาทางด้านหลังอยู่ดี

    เขาอยากจะยื้อแกงส้มเอาไว้ก่อน...อยากจะยื้อเอาไว้...

    ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเมื่อถึงวันหนึ่งแกงส้มก็คงจะต้องไป...เพราะเงื่อนไขที่มีกำหนดเวลา

    เมื่อถึงเวลา...มันก็ย่อมต้องเป็นไปตามเงื่อนไขนั้น...

    และเราก็จำเป็นต้อง ยอมรับ มันให้ได้!

     

    ทางด้านแกงส้มเอง...แม้เป็นคนถามแต่หัวใจของเขาก็กลับเลือกที่จะตอบแบบพี่ฮั่น...

    เขาอยากจะรั้งพี่ฮั่นเอาไว้ก่อน...อยากจะรั้งเอาไว้...

    ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเมื่อถึงเวลาเขาก็ต้องปล่อยมือพี่ฮั่น แต่กว่าจะถึงเวลานั้น...เขาก็ขอเก็บความสุขและตักตวงความรู้สึกดี ๆ ที่เรามีให้กันให้ได้มากที่สุด...

    ความรักที่แม้จะมีกำหนดเวลา แต่ทว่าหัวใจสองดวงที่มีความรู้สึกดี ๆ ให้กันก็สามารถที่จะต่อเวลาความสุขไปได้อีกนานแสนนาน...ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ...

    หากหัวใจต้องการอะไร...โปรดทำตามเสียงหัวใจที่เรียกร้องนั้น แล้วคุณจะรู้ว่า...

    สิ่งที่หัวใจต้องการกับสิ่งที่คุณจะทำ...มันก็คือสิ่งที่ทำให้ตัวคุณเองนั่นแหล่ะมีความสุข!

     

     

    ป๊าจะทานป็อปคอร์นไหมฮะ ?

    เอาสิ ๆ ๆ เอารสชีสนะ

    เค็ม...รสหวานดีกว่าป๊า!”

    ไม่เอาอ่ะ...หวาน ๆ ไม่ดี เดี๋ยวเป็นเบาหวาน

    กินเค็ม ๆ เดี๋ยวก็เป็นโรคไตอ่ะป๊า

    แต่ป๊าจะกินรสชีส

    แต่ผมจะกินรสหวาน

    เอ่อ...ซื้อไปทั้งสองรสเลยแล้วกันครับ ฮั่นหยุดการเถียงของสองพ่อลูกด้วยการซื้อป็อปคอร์นสองรส จากนั้นเขาก็ส่งป็อปคอร์นแต่ละรสไปให้คนสองคน ส่วนตัวเขาถือน้ำไปสองแก้ว แล้วคนทั้งสามก็ก็เดินเข้าไปยังทางเดินภายในโรงหนัง...

    แกง...มานั่งนี่... บิดาของแกงส้มเรียกให้ลูกชายของเขาสลับที่กับเขา โดยมีลำดับการนั่งคือ แกงส้ม ป๊า และฮั่น..

    ไม่ได้อยากจะกั้นกลางหรอกนะ...แต่เขาหวง...กลัวว่าสองคนนี้จะแอบจับมือกันตอนดูหนัง...

    เขาไม่ยอมหรอก!

    ยังไงเขาก็ยังหวงลูกชายเขาอยู่นะ!!!!

     

     

    เมื่อเวลาผ่านไป 45 นาที...คนที่บ่นว่าอยากดูก็นอนหลับสนิท ลมหายใจที่เข้าออกสม่ำเสมอเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเจ้าตัวหลับไปแล้ว

    ทางสะดวก...

    แกง...ขอรสหวานหน่อยสิ

    เสียงเรียกเบา ๆ ทำให้แกงส้มหันไปมอง แม้ในโรงหนังจะมืดแต่เขาก็ยังเห็นใบหน้าคมของพี่ฮั่นชัดเจน

    นี่ครับ... พูดจบ แกงส้มก็ยื่นถุงป็อปคอร์นไปให้คนที่ถามถึง

    มือหนาของฮั่นยื่นออกมารับ แต่ด้วยความมืดทำให้ฮั่นคว้าผิดคว้าทั้งถุงป็อปคอร์นและคว้ามือคนถือไป แกงส้มรีบกระตุกมือเบา ๆ เป็นเชิงบอกให้ฮั่นรู้ว่า...เขาคว้าผิดไปนะ ฮั่นหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะยอมปล่อยมือบางให้กลับไปอยู่ยังที่เดิมของมัน

    ใบหน้าคมที่อมยิ้มในความมืด มาพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ...

    แค่เพียงได้สัมผัสเล็ก ๆ น้อย ๆ มันก็สามารถทำให้เรามีความสุข

    อาจเพราะคน ๆ นี้...คือคนที่มีความสำคัญ

    อาจเพราะคน ๆ นี้...คือคนที่ทำให้เรามีความสุข

    อาจเพราะคน ๆ นี้...คือคนที่ทำให้หัวใจเราอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้...

    อาจเพราะคนนี้...

    ส่วนคนหน้าหวานที่บัดนี้กำลังยกมือทั้งสองข้างมากุมที่แก้มของตัวเองก็กำลังบ่งบอกให้เจ้าตัวรู้ได้เป็นอย่างดีว่าคนที่เพิ่งจับมือเขาไปเมื่อสักครู่นี้คือคนที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกเขามากแค่ไหน...

    แค่เพียงสัมผัสมือเพียงชั่วนาที...แต่ทำไมถึงทำให้เขารู้สึกเขินได้ขนาดนี้นะ...

    ไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมต้อง เขิน ทุกครั้ง...

    หรือเพราะเป็นคน ๆ นี้...คนที่มาป่วนในหัวใจจนทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเอง

    หรือเพราะเป็นคน ๆ นี้...คนที่ทำให้เขายิ้มได้

    หรือเพราะเป็นคน ๆ นี้...คนที่ทำให้เขารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้

    หรือเพราะเป็นคน นี้...

     

     

     

    ถึง พี่หมี...เอ๊ะหรือว่าจะเรียกพี่ฮั่นดีนะ...

    จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายฉบับที่ 4 แล้วนะ...เค้ารู้ว่าพี่คงอยากจะพูดความจริงเต็มแก่แล้วสิ!

    แต่ไม่เอาหรอก...มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะได้รู้ความจริงกันแบบเต็มตัว

    เพราะผมยังชอบที่เราสองคนยังทำเป็นกั๊กไม่ยอมพูดความจริง ปล่อยให้อะไร ๆ มันคลุมเครืออยู่แบบนี้

    หึ...ร้ายนะพี่หมี...!

    อยากจะบอกว่า...อาหารที่ทำวันนี้มันอร๊อยอร่อย...

    อย่างที่พี่เคยบอกไว้เลยเนอะว่าอาหารที่ทำด้วยหัวใจมันช่างอร่อยและก็ทำให้เรามีความสุขจริง ๆ

    ผมดีใจนะครับ...ที่พี่เป็นคนแรกที่ได้ชิมแกงส้มฝีมือผม...ไม่อยากจะบอกว่ายังไม่เคยทำให้ใครกินเลยนะ พี่เป็น คนแรก ครับ ><

    ไม่ต้องดีใจจนกระโดดโลดเต้นล่ะ...เดี๋ยวหมิวตื่นมาดุพี่ ฮ่า ๆ ๆ ๆ

    ขอบคุณนะครับสำหรับคำตอบในเรื่องของการถูกเลือก...ผมเชื่อว่าถ้าหากพี่ได้ลองเลือกใครหรือเลือกอะไรไปแล้ว...พี่จะต้องเลือกไม่ผิดอย่างแน่นอน เพราะแค่พี่คิด...พี่ยังเลือกไม่ผิดเลย

    แต่ก็อย่างที่พี่บอกแหล่ะครับว่า...ในเรื่องของความรักไม่มีคำว่าถูกหรือผิด บางคนอาจจะรักคนไม่ดี แต่คนไม่ดีคนนั้นก็มีหัวใจ ^^

    ผมว่า...ความรักมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ความถูกต้อง แต่มันขึ้นอยู่กับหัวใจ...คนสองคนแค่ได้มาเจอกัน รักกัน...มันก็ยากเกินพอแล้ว หากยังต้องใช้ความคิดใช้สมองใช้เหตุผลให้มากมาย ความรัก...ก็คงไม่ใช่ความรัก...เพราะความรักมันต้องใช้หัวใจ ~

    ในโรงหนังน่ะ...อย่านึกว่าผมไม่รู้นะว่าพี่จะหลอกจับมือผม...ร้ายกาจนะพี่หมี!!!!

    ฮ่า ๆ ๆ ๆ พอแล้ว ๆ ง่วงแล้ว...เจอกันพรุ่งนี้นะครับ...^^~

     

     

    ปล.เป็นแฟนเค้าต้องอดทนนะ...เค้าเป็นคนขี้เหวี่ยง ขี้งอน ขี้วีน...แต่เค้าน่ารัก...ฮ่า ๆ ๆ (พูดอะไรออกไปเนี่ย...เขิน >////<)

     

    จาก น้องเค อะ อะ เอส ... อ๊ะ! รู้แล้วใช่ไหมครับว่าเคเอสแปลว่าอะไร...

     

     

    เมื่อเขียนบรรทัดสุดท้ายจบ แกงส้มก็ยิ้มออกมาอย่างรู้สึกตลกตัวเอง นี่เขาเขียนอะไรแบบนี้ออกไปได้ยังไง โคตรจะเพ้อเจ้อเลย! หากย้อนเวลากลับไป เขาคงจะไม่ได้มาทำอะไรแบบนี้...

    แต่เพราะเขาได้รู้จักกับคน ๆ นี้ คนที่เปลี่ยนทุก ๆ อย่างในชีวิตเขา...ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี...

    แต่ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดี ๆ ที่เพิ่มมากขึ้นทุกวันทุกวันนะครับพี่ฮั่น...

    จากนั้นแกงส้มก็พับกระดาษที่เขียนเสร็จแล้วใส่ไว้ในซอง พลางส่งซองนั้นไปไว้บนหัวเตียง ก่อนที่เจ้าตัวจะล้มตัวลงนอนบนเตียง พลางเงยหน้ามองเพดานห้องที่มีรูปดวงดาว...ที่เขาเคยคิดมาตลอดว่าเวลามองเจ้าพวกดาวเหล่านี้แล้วมันจะทำให้เขาเหงา...

    แต่ทำไมวันนี้ เวลานี้...เขามองแล้วรู้สึกอุ่น ๆ ในหัวใจนะ...

    ไม่จำเป็นต้องมีการส่งข้อความหากันทุกคืน

    ไม่จำเป็นต้องมีการโทรบอกรักก่อนนอน

    แต่แค่มีความรู้สึกดี ๆ ที่ห่วงหาอาทรส่งผ่านสายลมและอากาศไปหากัน

    แค่นั้นมันก็ทำให้คน ๆ หนึ่งไม่สิ...คนสองคนต่างหาก...มีความสุขและนอนหลับฝันดี...

     

     

     

    ถึง น้องเคเอส ที่ย่อมาจากคำว่า แกงส้ม!

    หึ...อยากจะบอกความจริงกับน้องจัง ว่าพี่รู้แล้วนะว่าเราคือใคร...แต่...

    ปล่อยให้มันคลุมเครืออย่างนี้ต่อไปก็โอเคนะ...เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้กันมากขึ้นไปอีก

    พี่ชอบจังเวลาที่ได้เขียนเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้เราฟังกันแบบนี้ มันทำให้พี่รู้สึกดี

    มันเหมือนเป็นการเขียนบันทึก...แต่เป็นบันทึกที่ไม่ได้มีแค่เราอ่าน แต่มันมีคนอีกคนหนึ่งที่เข้ามาร่วมอ่าน ร่วมมีความรู้สึกดี ๆ ไปกับเรา...

    ขอบคุณนะครับที่เป็นคน ๆ นั้นให้พี่...

    อาหารที่ทำวันนี้อร่อยทั้งสองอย่างเลยนะ คงเพราะเราทำด้วยหัวใจอย่างที่พี่บอกล่ะสิ...

    ความสุขของคนที่ทานอาหารจากฝีมือของคนทำที่ทำด้วยความรักและหัวใจ มันเป็นความสุขที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้นะ...เพราะความสุขนั้นมันซึมซับลงไปในหัวใจจนทำให้เราอิ่มเอมจนพูดบรรยายออกมาไม่ได้...

    เรียกว่าอะไรนะ...อ้อ...ความสุขที่ล้นจนถึงลิ้นปี่...(เข้าใจสำนวนพี่ใช่ไหมครับ...?) ฮ่า ๆ ๆ ๆ

    ถ้าถามว่าวันนี้...พี่มีอะไรอยากจะบอกแกงไหม...พี่มีนะครับ...

    พี่อยากจะบอกกับแกงว่า...พี่ดีใจที่เรายังเป็นแฟนกัน แม้ว่าเวลาที่มีเหลือนั้นของคำว่าแฟนจะอีกไม่กี่วันก็ตาม แต่พี่จะทำให้ทุกวันที่เหลือให้แกงมีความสุขที่สุด...

    แฟนที่ไม่ใช่แฟนคนนี้ อยากจะทำให้อะไรดี ๆ ให้คุณแฟนได้มีความสุขอีกหลายอย่างนะครับ

    เฮ้อ...บางทีพี่ก็ไม่เข้าใจตัวเองนะว่ามารู้สึกแบบนี้ได้ยังไง

    แต่เพราะว่าหัวใจรู้สึกไปแล้ว ต่อให้หลอกตัวเองว่าไม่รู้สึก...มันก็คงจะไม่ได้

    เพราะการหลอกหัวใจตัวเองเป็นสิ่งที่พี่จะไม่มีวันทำ!

    แกงครับ...สักวันหนึ่งในอีกไม่กี่วัน...พี่จะมั่นใจในความรู้สึกที่มีต่อแกงและจะกล้าที่จะบอกกับแกงว่าพี่รู้สึกอย่างไรกับเรานะครับ...

     

     

    จาก พี่หมี...ฮั่น...

     

    ปล. ในโรงหนังอ่ะ...เค้าไม่ได้จะหลอกจับมือตัวนะ แต่ว่า...เหตุการณ์มันพาไปเฉย ๆ อุ๊บ! เค้าพูดอะไรออกไปนะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ อายจัง >///< (บางทีพี่ก็ดูจริงจัง แต่บางทีพี่ก็ดูปัญญาอ่อนเนอะ ฮ่า ๆ ๆ )

     

     

    รอยยิ้มที่ปรากฏชัดในดวงตาคม ทำให้เจ้าตัวต้องพับกระดาษใส่ซองจดหมายแล้วนำซองนั้นมานอดกอด ไม่รู้ทำไมเขาถึงเป็นได้มากขนาดนี้...เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้...

    และคิดว่าคงอีกนานกว่าเขาจะตอบตัวเองได้...

    ฮั่นหันหน้าออกไปมองที่หน้าต่างซึ่งสามารถมองเห็นแสงไฟจากตึกสูงหลายตึกที่ยังคงส่องสว่างแม้จะเป็นเวลาที่ดึกมากแล้วก็ตาม ชายหนุ่มนึกตลกตัวเองในใจ...

    ถ้าหากเขาไม่เป็นคนชอบเขียนจดหมาย...

    เขาก็คงไม่ได้เจอกับแกงส้ม...

    ถ้าหากเพียงวันนั้นเขาไม่ตัดสินใจไปที่ร้านหนังสือ...

    เขาก็คงไม่ได้เจอกับแกงส้ม...

    แต่เพราะว่าเขาชอบการเขียนจดหมายและเพราะเขาไปร้านหนังสือแห่งนั้น...

    เขาถึงได้เจอกับแกงส้ม...

    ขอบคุณโชคชะตานะครับ...ขอบคุณและขอบคุณ

     

     

     

     

    ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะต้องพบเจอกับอะไร ขอแค่เรามั่นใจว่าเราจะสามารถก้าวต่อไปได้ ไม่ว่าจะมีอุปสรรคขวากหนามเพียงใดก็ตาม...อย่าท้อแม้จะต้องเจอกับลมมรสุม เพราะเมื่อถึงวันที่ฟ้าหลังฝน...มันมักจะสวยงามเสมอ...

     

     

     

     

    //อ๊ายยยยยยยยยยยย หายไปแค่วันเดียว...คิดถึงกันไหมคะ ? ><

    ดึกอีกแล้วสิ...ฮ่า ๆ ๆ ๆ เค้าขอโทษน้า...วันนี้เค้ามัวแต่ไปส่องพี่หมีมาอ่ะ เลยทำนู่นนี่นั่นหลายอย่างเกิ๊น! แหะ ๆ ๆ แต่เค้ามาอัพแล้วนะ...ตามสัญญาเลยว่าจะหายแค่วันสองวัน จะไม่หายไปนาน...เค้ารู้ว่าทุกคนติดฟิคเรื่องนี้ของเค้า...โอเค...เราจะไม่เวิ่นมาก ไปอ่านกันเลยดีกว่าเนอะ...

    สารภาพอย่างหนึ่งว่า...ตอนนี้เริ่มเขียนตอน 4 ทุ่ม นั่งสัปหงกเขียนจะหลับแหล่มิหลับแหล่ตอน 5 ทุ่มมาเรื่อย ๆ ไม่อยากจะเชื่อว่าเค้าจะสามารถเขียนจนเสร็จได้ 555+ (ถ้าเรื่องอึน ๆ ก็ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ เผื่อคนอ่านจะงง ๆ เอ๊ะ...ทำไมมันไม่เหมือนเดิมหว่า..)

    เอาเป็นว่า...ขอให้สนุกกับฟิคตอนนี้ของเค้านะคะ ^^

    (มีคำผิดต้องขออภัยเด้อ...)

     

     

    ปล. คนอ่านเรื่องสั้นจ๋า...เค้าขอโต๊ดนะ วันนี้เค้าเก็บความฟินมาเพียบเลย เดี๋ยวอัพเร็วๆ นี้แน่นอน จริง ๆ ๆ ๆ ๆ ไม่เบี้ยวแล้ว แหะ ๆ ><

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×