ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : รับมือกับความเครียด
เหอะๆ...เครียด
อยากสารภาพว่าพี่ก็เป็นคนที่คิดมาก เครียด เอาจริงเอาจังอยู่พอสมควรทีเดียว
พอถึงเวลาที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต พี่ก็เครียดมาก
โดยเฉพาะระบบแอดมิสชั่นที่หาความแน่นอนไม่ชัดเจน ก็ยิ่งเครียดดดดดดด!!!!
พี่ก็เลยรับมือกับความเครียด ดังนี้
1. เขียนกลอนระบาย
น้องไม่ต้องทำตามพี่ก็ได้ เพราะความแค้นมันจะไม่เข้มข้นพอ วิญญาณกวีไม่เกิด 555+ คือตอนเครียด วาดรูป เขียนหนังสือ หรืออะไรก็ได้ ระบายอารมณ์ออกมาอย่างสร้างสรรค์ แต่พี่ขอแนะนำว่าเขียนกลอนเลย เวลาอารมณ์ขึ้นมันลื่นไหลดี ฝึกฝีมือ เอิ๊กๆ
ทำแล้วมันหายเครียดดี
2.นั่งสมาธิ สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ
วิธีพระพุทธเจ้า อันนี้พี่ทำบ่อยมาก ทำแล้วจะสบายใจขึ้นหน่อย เวลาตื่นเต้นก็ใช้วิธีนี้ได้เหมือนกันนะ
3.ศึกษาธรรมะบางหัวข้อ
ทุกอย่างเป็นอนิจจัง เปลี่ยนแปลง ไม่มีที่เรียนก็ใช่ว่าจะตาย มหาลัยเอกชนก็มี ปลงๆ อย่าหวังมาก ขอทานข้างบ้านเขาลำบากกว่าเราแยะ คนแขนขาด คนพิการเขาแย่กว่าเราแยะ คนปัญญาอ่อน ไม่รู้เรื่องรู้ราว เดินๆไปไฟฟ้าชอตตาย นั่นก็แย่กว่าเราเยอะ คนโกงชาติ อินี้แมร่งแย้กว่าเราเยอะ (เฮ้ย!)
ฝึกให้รู้จักดูคนที่เขาไม่มีโอกาสได้เรียนถึง ม.6 หรือคนอื่นๆที่ชีวิตเขาแย่กว่าเรา จะทำให้เราฮึดสู้ แล้วก็พยายามอย่ายึดติดกับชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ไม่จำเป็นต้องเอาเกียรติไปเดิมพันกับการสอบ แข่งขันกับตัวเองดีที่สุด
จริงๆเราควรศึกษาทุกหัวข้อแหละ ไม่ใช่แค่ศาสนาพุทธที่พี่ยกมานะ น้องๆที่นับถือศาสนาอื่นก็ลองศึกษาธรรมของศาสนาน้องดู พี่ว่ามันช่วยได้ จะทำให้เราสบายใจขึ้น
จริงๆพี่ไม่เคยคิดที่จะเข้าอักษรจุฬาเลย อยากเข้าศิลปากรมากกว่าหรือที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีที่เรียนก็พอ ตอนนั้นพี่คิดแต่ว่า ทำให้ดีที่สุด เท่านั้น
4.เตรียมความพร้อมเยอะๆ ทำให้เรามั่นใจตัวเองมากๆ
พูดง่ายทำยาก ดูหนังสือมากๆ เดี๋ยวก็จะมั่นใจตัวเองเองแหละ
โอเคนะ ไม่เครียดนะน้อง ทำให้ดีที่สุดจ้า!!!
อยากสารภาพว่าพี่ก็เป็นคนที่คิดมาก เครียด เอาจริงเอาจังอยู่พอสมควรทีเดียว
พอถึงเวลาที่เป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต พี่ก็เครียดมาก
โดยเฉพาะระบบแอดมิสชั่นที่หาความแน่นอนไม่ชัดเจน ก็ยิ่งเครียดดดดดดด!!!!
พี่ก็เลยรับมือกับความเครียด ดังนี้
1. เขียนกลอนระบาย
น้องไม่ต้องทำตามพี่ก็ได้ เพราะความแค้นมันจะไม่เข้มข้นพอ วิญญาณกวีไม่เกิด 555+ คือตอนเครียด วาดรูป เขียนหนังสือ หรืออะไรก็ได้ ระบายอารมณ์ออกมาอย่างสร้างสรรค์ แต่พี่ขอแนะนำว่าเขียนกลอนเลย เวลาอารมณ์ขึ้นมันลื่นไหลดี ฝึกฝีมือ เอิ๊กๆ
ทำแล้วมันหายเครียดดี
2.นั่งสมาธิ สูดลมหายใจเข้าออกลึกๆ
วิธีพระพุทธเจ้า อันนี้พี่ทำบ่อยมาก ทำแล้วจะสบายใจขึ้นหน่อย เวลาตื่นเต้นก็ใช้วิธีนี้ได้เหมือนกันนะ
3.ศึกษาธรรมะบางหัวข้อ
ทุกอย่างเป็นอนิจจัง เปลี่ยนแปลง ไม่มีที่เรียนก็ใช่ว่าจะตาย มหาลัยเอกชนก็มี ปลงๆ อย่าหวังมาก ขอทานข้างบ้านเขาลำบากกว่าเราแยะ คนแขนขาด คนพิการเขาแย่กว่าเราแยะ คนปัญญาอ่อน ไม่รู้เรื่องรู้ราว เดินๆไปไฟฟ้าชอตตาย นั่นก็แย่กว่าเราเยอะ คนโกงชาติ อินี้แมร่งแย้กว่าเราเยอะ (เฮ้ย!)
ฝึกให้รู้จักดูคนที่เขาไม่มีโอกาสได้เรียนถึง ม.6 หรือคนอื่นๆที่ชีวิตเขาแย่กว่าเรา จะทำให้เราฮึดสู้ แล้วก็พยายามอย่ายึดติดกับชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ไม่จำเป็นต้องเอาเกียรติไปเดิมพันกับการสอบ แข่งขันกับตัวเองดีที่สุด
จริงๆเราควรศึกษาทุกหัวข้อแหละ ไม่ใช่แค่ศาสนาพุทธที่พี่ยกมานะ น้องๆที่นับถือศาสนาอื่นก็ลองศึกษาธรรมของศาสนาน้องดู พี่ว่ามันช่วยได้ จะทำให้เราสบายใจขึ้น
จริงๆพี่ไม่เคยคิดที่จะเข้าอักษรจุฬาเลย อยากเข้าศิลปากรมากกว่าหรือที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีที่เรียนก็พอ ตอนนั้นพี่คิดแต่ว่า ทำให้ดีที่สุด เท่านั้น
4.เตรียมความพร้อมเยอะๆ ทำให้เรามั่นใจตัวเองมากๆ
พูดง่ายทำยาก ดูหนังสือมากๆ เดี๋ยวก็จะมั่นใจตัวเองเองแหละ
โอเคนะ ไม่เครียดนะน้อง ทำให้ดีที่สุดจ้า!!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น