คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : แย้มๆชีวิตมหาวิทยาลัย
พี่ยังนึกไม่ออกว่าจะอัพอะไรต่อดี ก็ว่าไปหมดไส้หมดพุงแล้วอ้ะ
เลยมาแย้มๆชีวิตเด็กอักษรละกัน
อยากบอกว่าที่น้องๆกำลังเตรียมตัวสอบเข้าอยู่นี้ เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
ของจริงอยู่นี่...หลังจากเอนท์เสร็จ
ชีวิตของมหาวิทยาลัยนั้นสังคมจะมองว่าเราเป็นผู้ใหญ่ไปครึ่งตัวแล้ว
มีความรับผิดชอบ จัดการอะไรเองได้
สังเกตได้ว่าตอนเซ็นสัญญาโครงการ อาจารย์สนใจแต่ว่าที่นิสิตนะ
พ่อแม่ผู้ปกครองอยู่ข้างนอก
จะจัดการอะไรก็ทำเอง
แต่ก็ใช่ว่าเราจะเป็นผู้ใหญ่ไปหมดเลย ยังไงก็มีการเชิญผู้ปกครองมาพบเมื่อมีปัญหานะคะ
แต่ไงๆเราก็ไปเป็นผู้ใหญ่แล้วครึ่งตัวนะแหละ
การเรียนมหาวิทยาลัย ไม่มีเตือน ไม่มีครูวิ่งเอาไม้เรียวฟาด
ใครอยากเข้าก็เข้า อยากโดดก็โดด แต่ติดเอฟไปไม่รู้ด้วย
รับผิดชอบตัวเอง ไม่เข้าเรียนก็ต้องตามส่งงาน
จะนัดพบอาจารย์ เราก็ต้องเป็นฝ่ายเข้าไปหา ไม่ใช่อาจารย์มาหาเหมือนมัธยม
อยากทำอะไรก็ทำเลย อยากเนิร์ด (อ่านหนังสือลูกเดียวไม่ทำกิจกรรม) ก็เชิญ
จะทำกิจกรรมหรือไม่ก็ตามใจ
ข้อสอบของมหาวิทยาลัยไม่มีปรนัยดาษดื่นแล้วนะ
เท่าที่พี่สอบมาคือมีไม่กี่ส่วน 10 ข้อ 20 ข้อ จับคู่เติมคำก็ไม่ค่อยจะมีแล้ว
ส่วนใหญ่สอบเขียนอัตนัยหมดเลย โดยเฉพาะคณะอักษรศาสตร์เนี่ย เขียนกันเป็นเล่มๆเลย
อาจารย์บางท่านใจดี บอกข้อสอบก่อน ทำนองว่าเตรียมเขียนมาเลยนะ
อันนี้ก็พอจะช่วยได้ แต่ไม่ทั้งหมดหรอก
ใครไม่ได้เข้าคาบที่ข้อสอบออก เช่น วิชาปริทัศน์ศิลปะการละคร
มีอยู่คาบนึงอาจารย์บอกว่า จะเอาหนังที่เปิดให้ดูนั่นแหละออกข้อสอบ
ใครไม่ไปดูหนังก็เสร็จเลย
ถ้าเกรดไม่ถึง 2.00 ก็ติดโปร คือจวนๆจะถูกรีไทร์อยู่รอมร่อ
ต้องพยุงตัวเองให้เกิน 2 ให้ได้ อะไรงี้
ที่มหาวิทยาลัยจะมีเพื่อนหลายสไตล์ กิจกรรมหลากหลาย
ตอนอยู่ รร.เก่า พี่ว่าพี่บ้าแล้วนะ
มาอยู่นี่...เหอะๆ มีคนบ้ากว่าตูอีกวุ้ย ก็มี
เพราะงั้น น้องๆที่กำลังเตรียมเอนท์ก็ทำใจรับศึกหลังสอบไว้ให้ดีๆนะ
การสอบเข้ามายังไม่เท่ากับการเข้ามาเรียนจริงๆ ขอยืนยัน!
ความคิดเห็น