ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : วาฬและโลมา2
วาฬและโลมา2
การว่ายน้ำ
วาฬเป็นนักว่ายน้ำที่น่าทึ่ง พวกมันเคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยอาศัยครีบหน้า หาง และลำตัวที่มีผิวหนังเนียนเรียบ พวกมันจำเป็นต้องว่ายน้ำเก่งเพื่อหาอาหารและหลบหนีสัตว์อื่นที่อาจจะทำร้ายมัน
การพุ่งไปข้างหน้า
วาฬมีกล้ามเนื้อที่ทรงพลังอยู่ 2 ชุด เพื่อช่วยให้มันขยับหางขึ้นลง กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดถูกใช้เพื่อขยับหางขึ้น การเคลื่อนที่ลักษณะนี้เรียกว่า การพุ่งไปข้างหน้า
นักว่ายน้ำที่ปราดเปรียว
การเคลื่อนที่ผ่านน้ำยากกว่าผ่านอากาศ เมื่อน้องๆ ว่ายน้ำ น้ำจะฉุดร่างกายของน้องๆ ไว้ ทำให้น้องๆ ว่ายน้ำได้ช้าลง วาฬมีผิวหนังที่มันซึ่งช่วยให้น้ำไหลผ่านตัวมันง่ายขึ้น ชั้นไขมันยังเคลื่อนที่รอบๆ ใต้ชั้นผิวหนังขณะที่มันว่ายน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำไม่รั้งตัวมันไว้มากเกินไป
วาฬกระโจน
วาฬมักกระโจนขึ้นสู่อากาศโดยเอาหัวขึ้นมาก่อน และทิ้งตัวลงทำให้น้ำแตกกระจาย การกระทำเช่นนี้เรียกว่า บริชชิง หรือการทิ้งตัวให้น้ำกระจาย ไม่มีใครทราบแน่ว่าทำไมพวกมันจึงทำเช่นนั้น มันอาจเป็นการส่งสัญญานกัน เป็นการหาอาหารเหนือน้ำ หรือเพื่อความสนุก
วาฬเพชฌฆาตตัวนี้กระโจนขึ้นสู่อากาศ
วาฬกระโจนขึ้นมาโดยการว่ายน้ำขึ้นมาที่ผิวน้ำและใช้กล้ามเนื้อที่ทรงพลังของมันดันตัวเองขึ้นมาจากน้ำ
คอแข็ง
วาฬส่วนใหญ่มีคอสั้นและแข็งแรง เพื่อว่าพวกมันจะได้ขยับหัวขึ้นและลงได้เท่านั้น ไม่ใช่จากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่ง สิ่งนี้จะช่วยไม่ให้หัวของพวกมันแกว่งไปมาขณะที่ว่ายน้ำ ซึ่งจะทำให้พวกมันช้าลง ในการมองไปรอบๆ วาฬจะต้องหันไปทั้งตัวโดยใช้ครีบหน้าและแพนหาง
ประสาทสัมผัสพื้นฐาน
วาฬมีสัมผัสเบื้องต้น 4 ประเภท ซึ่งเข้ากันได้ดีมากกับชีวิตใต้น้ำของพวกมัน สัมผัสที่ว่าคือ การมองเห็น การสัมผัส การรับรส และการได้ยิน เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ แต่ไม่เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นตรงที่วาฬส่วนใหญ่ไม่มีประสาทสัมผัสในการรับกลิ่น
การสัมผัส
วาฬมีผิวหนังที่ไวต่อความรู้สึก ดังนั้นพวกมันจึงไวต่อการสัมผัส พวกมันใช้การสัมผัสเพื่อการติดต่อสื่อสารกัน โลมามักจะแสดงให้โลมาตัวอื่นเห็นว่าเป็นเพื่อนกัน โดยการเอาท้องไปถูหรือโดยการเอาครีบหน้าไปตีพวกมันเบาๆ
การได้ยิน
เมื่อเสียงเดินทางจะก่อให้เกิดการสั่นสะเทือน วาฬสามารถได้ยินเสียงโดยการรับรู้การสั่นสะเทือนนั้นด้วยหูที่อยู่ข้างในหัวของมัน เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด การสั่นสะเทือนบางอย่างไปถึงหูของพวกมัน โดยผ่านช่องเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตาแต่ละข้าง แต่เสียงส่วนใหญ่เดินทางไปถึงหูของพวกมันโดยการสั่นสะเทือนไปตามขากรรไกรล่างของพวกมัน
การรับรส
ลิ้นของวาฬไวต่อการรับรส พวกมันใช้ประสาทสัมผัสนี้ เพื่อตัดสินว่าอาหารชนิดใดกินได้ นักวิทยาศาสตร์คิดว่าวาฬตัวอื่นได้ด้วย เพื่อบอกว่าวาฬเหล่านั้นเป็นมิตรหรือไม่
ข้างบนและข้างล่าง
วาฬส่วนใหญ่มีสายตาดีและบางพันธุ์สามารถปรับสายตาให้มองเห็นได้ดี ทั้งตอนที่อยู่ในอากาศและในน้ำ วาฬมักโผล่หัวขึ้นมาเหนือผิวน้ำเพื่อมองไปรอบๆ ลักษณะนี้เรียกว่า การโผล่ขึ้นมาสำรวจ
การมองเห็นในทะเล
สัตว์ทุกชนิดต้องการแสงเพื่อสามารถมองเห็น แต่วาฬส่วนใหญ่สามารถเห็นได้ดีแม้ในน้ำขุ่นและมืด ที่ด้านหลังของตาของวาฬเป็นชั้นที่สะท้อนแสงเรียกว่า ทาพีทัม ชั้นนี้จะสะท้อนแสงกลับเข้าไปในตาของวาฬ ซึ่งจะช่วยให้มันใช้ประโยชน์จากแสงสลัวๆ ในน้ำได้
http://www.plawan.com/dophins/content/d2.html
การว่ายน้ำ
วาฬเป็นนักว่ายน้ำที่น่าทึ่ง พวกมันเคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยอาศัยครีบหน้า หาง และลำตัวที่มีผิวหนังเนียนเรียบ พวกมันจำเป็นต้องว่ายน้ำเก่งเพื่อหาอาหารและหลบหนีสัตว์อื่นที่อาจจะทำร้ายมัน
การพุ่งไปข้างหน้า
วาฬมีกล้ามเนื้อที่ทรงพลังอยู่ 2 ชุด เพื่อช่วยให้มันขยับหางขึ้นลง กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดถูกใช้เพื่อขยับหางขึ้น การเคลื่อนที่ลักษณะนี้เรียกว่า การพุ่งไปข้างหน้า
นักว่ายน้ำที่ปราดเปรียว
การเคลื่อนที่ผ่านน้ำยากกว่าผ่านอากาศ เมื่อน้องๆ ว่ายน้ำ น้ำจะฉุดร่างกายของน้องๆ ไว้ ทำให้น้องๆ ว่ายน้ำได้ช้าลง วาฬมีผิวหนังที่มันซึ่งช่วยให้น้ำไหลผ่านตัวมันง่ายขึ้น ชั้นไขมันยังเคลื่อนที่รอบๆ ใต้ชั้นผิวหนังขณะที่มันว่ายน้ำ ซึ่งจะทำให้น้ำไม่รั้งตัวมันไว้มากเกินไป
วาฬกระโจน
วาฬมักกระโจนขึ้นสู่อากาศโดยเอาหัวขึ้นมาก่อน และทิ้งตัวลงทำให้น้ำแตกกระจาย การกระทำเช่นนี้เรียกว่า บริชชิง หรือการทิ้งตัวให้น้ำกระจาย ไม่มีใครทราบแน่ว่าทำไมพวกมันจึงทำเช่นนั้น มันอาจเป็นการส่งสัญญานกัน เป็นการหาอาหารเหนือน้ำ หรือเพื่อความสนุก
วาฬเพชฌฆาตตัวนี้กระโจนขึ้นสู่อากาศ
วาฬกระโจนขึ้นมาโดยการว่ายน้ำขึ้นมาที่ผิวน้ำและใช้กล้ามเนื้อที่ทรงพลังของมันดันตัวเองขึ้นมาจากน้ำ
คอแข็ง
วาฬส่วนใหญ่มีคอสั้นและแข็งแรง เพื่อว่าพวกมันจะได้ขยับหัวขึ้นและลงได้เท่านั้น ไม่ใช่จากข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่ง สิ่งนี้จะช่วยไม่ให้หัวของพวกมันแกว่งไปมาขณะที่ว่ายน้ำ ซึ่งจะทำให้พวกมันช้าลง ในการมองไปรอบๆ วาฬจะต้องหันไปทั้งตัวโดยใช้ครีบหน้าและแพนหาง
ประสาทสัมผัสพื้นฐาน
วาฬมีสัมผัสเบื้องต้น 4 ประเภท ซึ่งเข้ากันได้ดีมากกับชีวิตใต้น้ำของพวกมัน สัมผัสที่ว่าคือ การมองเห็น การสัมผัส การรับรส และการได้ยิน เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ แต่ไม่เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นตรงที่วาฬส่วนใหญ่ไม่มีประสาทสัมผัสในการรับกลิ่น
การสัมผัส
วาฬมีผิวหนังที่ไวต่อความรู้สึก ดังนั้นพวกมันจึงไวต่อการสัมผัส พวกมันใช้การสัมผัสเพื่อการติดต่อสื่อสารกัน โลมามักจะแสดงให้โลมาตัวอื่นเห็นว่าเป็นเพื่อนกัน โดยการเอาท้องไปถูหรือโดยการเอาครีบหน้าไปตีพวกมันเบาๆ
การได้ยิน
เมื่อเสียงเดินทางจะก่อให้เกิดการสั่นสะเทือน วาฬสามารถได้ยินเสียงโดยการรับรู้การสั่นสะเทือนนั้นด้วยหูที่อยู่ข้างในหัวของมัน เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด การสั่นสะเทือนบางอย่างไปถึงหูของพวกมัน โดยผ่านช่องเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังตาแต่ละข้าง แต่เสียงส่วนใหญ่เดินทางไปถึงหูของพวกมันโดยการสั่นสะเทือนไปตามขากรรไกรล่างของพวกมัน
การรับรส
ลิ้นของวาฬไวต่อการรับรส พวกมันใช้ประสาทสัมผัสนี้ เพื่อตัดสินว่าอาหารชนิดใดกินได้ นักวิทยาศาสตร์คิดว่าวาฬตัวอื่นได้ด้วย เพื่อบอกว่าวาฬเหล่านั้นเป็นมิตรหรือไม่
ข้างบนและข้างล่าง
วาฬส่วนใหญ่มีสายตาดีและบางพันธุ์สามารถปรับสายตาให้มองเห็นได้ดี ทั้งตอนที่อยู่ในอากาศและในน้ำ วาฬมักโผล่หัวขึ้นมาเหนือผิวน้ำเพื่อมองไปรอบๆ ลักษณะนี้เรียกว่า การโผล่ขึ้นมาสำรวจ
การมองเห็นในทะเล
สัตว์ทุกชนิดต้องการแสงเพื่อสามารถมองเห็น แต่วาฬส่วนใหญ่สามารถเห็นได้ดีแม้ในน้ำขุ่นและมืด ที่ด้านหลังของตาของวาฬเป็นชั้นที่สะท้อนแสงเรียกว่า ทาพีทัม ชั้นนี้จะสะท้อนแสงกลับเข้าไปในตาของวาฬ ซึ่งจะช่วยให้มันใช้ประโยชน์จากแสงสลัวๆ ในน้ำได้
http://www.plawan.com/dophins/content/d2.html
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น