ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO:KrisLay&Exo] Best Husband

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 7 มิ.ย. 57











    Chapter 5

     

     

     

     

    หลังจากที่คริสออกไปทำธุระ อี้ชิงเองก็เบื่อที่จะอยู่บ้านเฉยๆเหมือนกันเลยออกไปซื้อของเข้าครัวและของใช้ของทั้งของเขาเอง ของคริสและของฟานฟ่านและเพราะคิดว่าคริสคงจะกลับมาเย็นๆเลยไม่ได้รอออกไปพร้อมกัน  แต่หลังซื้อของครบทุกสิ่งอย่างที่พอจะนึกออกก็รีบพาลูกสาวตัวน้อยกลับมานอนกลางวันแต่พอมาถึงก็นึกแปลกใจเพราะดูเหมือนว่าคนตัวสูงจะกลับมาเร็วกว่าที่คิดแถมไม่ได้มาคนเดียวด้วย

     

     

    “ถอดเสื้อสิ...อายอะไรฉันเคยเห็นของนายมาหมดแล้วน่า” 

    “คยองซู!..” 

    “เออน่า..เร็วสิเดี๋ยวอี้ชิงมาก็เห็นหรอก หรืออยากให้อี้ชิงรู้?”

    “ก็ได้ๆ”                                              

    “โอ่ย! คยองซู เบาๆหน่อยสิเจ็บนะ!

    “ทีเมื่อกี้ละทำเป็นเก่ง..โอเคๆ เบาๆก็เบาๆ” 

    “โอ่ย! ซี๊ดดด..คยองซู! อ่า..เบาๆสิ” 

    “นี่ก็เบาแล้วนะ..ยังไม่ทันได้ลงแรงอะไรเลย  อ่อนว่ะ”

     “เร็วๆสิ...เสร็จรึยังเดี๋ยวอี้ชิงกลับมาเห็น” 

    “ใกล้แล้วๆ...นี่ ช่วยจับหน่อยสิมันเอาไม่ออกอ่ะ”

     “จับคนละข้าง..ดึงเลย ทำแบบนี้มันไม่ออกหรอก” 

    “โอ๊ย!!/อ๊ะ!! 

    “ออกแล้ว! ลุกขึ้นมาเลยคริสเร็วจะได้เสร็จๆ” 

    “โอ่ย!คยองซู นายนี่รุนแรงจังนะ..” 

    “เอ้า! เสร็จแล้ว..กินยาแก้ปวดด้วยละแล้วก็นอนพักสะ..ฉันต้องไปธุระต่อ ขอบคุณมากนะที่วันนี้นายช่วยฉันได้เยอะเลย และก็ขอโทษด้วยที่ทำให้นายเจ็บตัวแบบนี้”

    “ยินดี..ขอบคุณมากนะที่ช่วยฉันเหมือนกัน” 

    “อื้ม..ไปล่ะบาย..”

     

     

    สองเท้าที่กำลังจะก้าวเดินพาลูกเข้าไปนอนในห้องกลับหยุดชะงักงันกำบทสนทนาของคนสองคนที่คนหนึ่งเป็นสามีของเขาและอีกคนเป็นแฟนเก่าสามีที่กลายมาเป็นเพื่อนกันแล้ว  อี้ชิงจะไม่อะไรเลยถ้าบทสนทนาที่หูได้ยินนั้นมันจะวาบหวามชวนให้คิดลึกแบบนี้และเขาเองก็คิดเกินเลยไปแล้วด้วย  หยาดน้ำใสไหลรินลงมาอย่างไม่รู้ตัว...นี่เขากำลังร้องไห้ให้กับคนเดิมๆ...เรื่องเดิมๆ

    อี้ชิงรีบอุ้มเจ้าตัวน้อยที่ผล็อยหลับคาอกเข้าไปในครัวเมื่อรู้ว่ากำลังมีใครสักคนเดินออกมาจากห้องนอนของเขา  ไม่ใช่ใครที่ไหน โด คยองซู จริงๆด้วย  และหลังจากคนตาโตเดินออกจากคอนโดไปได้ไม่นานคริสก็เดินออกมา

     

     

     

    “อ้าว..อี้ชิง  กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”  คริสที่เมื่อคยองซูทำแผลให้เสร็จเรียบร้อยก็เปลี่ยนเสื้อใหม่ใส่เดินออกมาจากห้องหวังจะมาหยิบยาแก้ปวดกินตามที่เพื่อนตาโตสั่งเอาไว้  แต่เมื่อออกมาก็พบกับอี้ชิงที่เดินออกมาจากครัวก็อดที่จะตกใจไม่ได้  ที่ตกใจเพราะว่าเขากลัวอี้ชิงจะรู้เรื่องที่เขาโดนทำร้ายมา

    “มะ..เมื่อกี้นี้เอง  นายกลับมานานแล้วเหรอ?”  ไม่ใช่แค่คริสที่ตกใจ  อี้ชิงเองก็ตกใจเหมือนกันเกือบเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มไม่ทันแต่ก็พยายามทำตัวไม่ให้มีพิรุธมากที่สุด  เขาจะเก็บเรื่องที่เขาคิดเอาไว้เองคนเดียว  เขาจะไม่บอกคริสว่าเขาได้รับรู้อะไรมาเลยเลือกที่จะโกหกไป

    “สักพักเหมือนกัน..เอ้อ ฟานฟ่านหลับเหรอ? มาเดี๋ยวฉันพาลูกไปนอนเอง”  คริสเดินเข้าเตรียมจะอ้าแขนรับฟานฟ่านน้อยที่หลับไม่ได้สนใจเลยว่าคุณป๊ากับคุณม๊าตอนนี้อารมณ์อึมครึมขนาดไหน  แต่อี้ชิงกลับเอี้ยวตัวหลบไม่ให้คริสเข้ามาอุ้มหรือส่งฟานฟ่านไปให้ตามที่อีกคนบอก

    “ไม่ต้อง..เอ่อ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันพาลูกไปนอนเอง”  พูดจบก็เดินเข้าห้องไป

     

     

     

     

    “อี้ชิงอ่า..นายเป็นอะไรรึเปล่า? ทำไมเงียบๆไปล่ะหืม?”  เป็นคริสที่เอ่ยพูดขึ้นก่อนอีกครั้งหลังจากที่เขาพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจตัวเองไปอยู่กับหนังสือขณะที่อี้ชิงจัดของที่ซื้อเข้ามาอยู่ในครัว  แต่ก็เพราะสงสับว่าอี้ชิงดูแปลกไปก็ทนไม่ได้ต้องวางหนังสือในมือลงและเดินเข้ามาถามคนตัวขาวให้รู้แล้วรู้รอดไป

    “เปล่าหนิ”  ไม่ใช่ว่าเขาอยากจะแสดงออกมาแบบนั้น  แต่เป็นเพราะว่ามันรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองได้ยินอะไรมามันก็ยากที่จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่ต้องการจะทำ

    “มีแน่..มีอะไรอี้ชิงครับ บอกคริสไม่ได้เหรอ?”  แค่อี้ชิงอ้าปากเขาก็รู้แล้วว่าสิ่งที่อี้ชิงพูดโกหกทั้งนั้น  ไอที่ว่าเปล่านี่ต้องมีอะไรแน่ๆและมากด้วย  คริสเดินเข้าไปสวมกอดอี้ชิงจากด้านหลังตามด้วยการซบคางที่ไหล่มนถูไปมาอย่างออดอ้อน

    “อย่าทำแบบนี้เลย”  ไม่รู้ว่าคริสต้องการอะไรกันแน่  มาทำแบบนี้กับเขาได้ยังไงทั้งๆที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เขาทำอะไรต่างๆกับคนอื่น 

    “ทำไมละครับ..ทำไมเค้าจะทำแบบนี้กับคนที่เค้ารักไม่ได้?”  แม้อี้ชิงจะแปลกไปจริงๆแต่ก็ไม่ได้หยุดการกระทำนี้แม้แต่น้อยทั้งๆที่คนตัวขาวในอ้อมกอดพยายามแกะมือที่โอบรอบเอวบางออกแต่คริสกลับยิ่งกระชับกอดแน่นขึ้นไปอีก

     

     

     

    “หึ..รักฉันเหรอ?”  ไม่ได้ตั้งใจจะทำเสียงออกมาแบบนั้นแต่มันก็ออกมาจากจิตใต้สำนึก  รักเขาแต่ไม่เคยให้เกียติกันเลยหน่ะเหรอ

    “ใช่สิ  รักมาด้วยรู้รึเปล่า...ทำไมอี้ชิงทำเสียงแบบนี้ล่ะ ต้องมีอะไรแน่ๆบอกมา”  แม้ว่าจะพยายามคาดคั้นอี้ชิงยังไงแต่คนตัวขาวก็เอาแต่เงียบไม่พูดอะไรสักคำ

    “เปล่า..ฉันจะไปดูลูก”  พูดปฏิเสธจบก็แกะมือออกจากเอวของตัวเอง  เดินเลี่ยงไปอีกทางแต่กลับถูกมือหนาคว้าข้อมือบางเอาไว้เสียก่อน  แม้จะหยุดเดินแต่ก็ไม่ได้หันหน้ามาเผชิญหน้ากัน

    “อี้ชิง..มีอะไร  ทำไมนายเป็นแบบนี้..รู้มั้ยว่าฉันเจ็บนะที่นายเมินเฉยต่อกันแบบนี้  มีอะไรก็บอกกันสิอย่าเอาแต่เงียบใส่กัน”  เขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่เพิกเฉยของอี้ชิงที่มีต่อเขา  เขาทำอะไรผิด? หรือว่าอี้ชิงจะเข้าใจอะไรเขาผิด  เพียงแค่อยากให้อี้ชิงพูดมาแต่อีกคนก็เอาแต่เงียบ หลีกเลี่ยงที่จะพูดอยู่ดี

    “ไม่มีจริงๆ....ฉันไม่มีอะไรแค่ปวดหัวและก็จะไปดูลูก..ปล่อยก่อนสิ”  ปฏิเสธเสียงแข็ง ที่จริงเขาจะพูดออกมาถึงในสิ่งที่เขาได้ยินเพียงแต่เขายังไม่อยากพูดตอนนี้  บางทีเขาอาจจะคิดมากไปหรือเข้าใจผิดไปก็ได้แต่ถ้าเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆเขาก็จะยิ่งไม่พูดอะไรออกมา  เพราะถ้ามันเป็นจริงต่อให้เขาพูดออกมาคริสก็คงจะไม่หยุดทำ

    “โธ่..คนดีครับ..ไม่ว่าอะไรฉันก็อยากขอโทษ  ไม่ว่าสิ่งที่ทำให้นายเมินฉันเป็นเพราะอะไรแต่ฉันก็อยากขอโทษ..อย่าเมินเฉยต่อกันแบบนี้นะครับ..ไม่เอานะรู้มั้ย?”  ดึงอีกคนเข้ามากอด  แม้จะไม่รู้ว่าที่อี้ชิงเป็นแบบนี้เป็นเพราะเขาหรือเป็นเพราะอะไรแต่เขาก็อยากขอโทษ  อย่างน้อยแม้อี้ชิงจะไม่รู้เรื่องที่เขาไม่บอกว่าโดนทำร้ายแต่ก็อยากขอโทษ

    “อื้ม..งั้นไปดูลูกพร้อมกันนะ”  แม้จะหนักอยู่ในใจแต่ก็เลือกที่จะไม่พูดออกมาอยู่ดี  กอดอีกคนกลับเพื่อซ่อนหยดน้ำตาที่ไหลออกมาช้าๆ  เจ็บแต่ก็ทำอะไรไม่ได้..

     

     

     

     

    “อี้ชิง..วันนี้ฉันจะไปธุระนะเดี๋ยวเจอกันตอนเย็น”

    ตอนเช้าลืมตาตื่นขึ้นมาก็ไม่พบกับร่างของสามีนอนอยู่ข้างกาย  มองดูเวลาก็พึ่งจะเช้ายังไม่สายเลยจะไปทำงานตอนนี้มันก็ไม่ใช่..เห็นเพียงกระดาษโน้ตที่แปะเอาไว้บนรูปข้างหัวเตียง  เกิดคำถามขึ้นทันทีที่อ่านจบ...ธุระ? ตอนเช้าแบบนี้นี่นะธุระที่ไหน  หรือจะมีประชุมแต่ก็น่าจะปลุกกันบ้าง  โทร.ไปก็ไม่รับสายจะเป็นอะไรรึเปล่าก็ไม่รู้

    “ป๊า..ปัมมัมมัม..ป๊า ฮึก แงงงงง! ป๊า!  เสียงฟานฟ่านดังขึ้นทำให้อี้ชิงต้องหลุดออกจากภวังค์ที่สร้างขึ้นหันมามองลูกน้อยบนเตียงเด็กเล็กที่ส่งเสียงร้องจ้าเรียกหาแต่ไม่ใช่เขา  ฟานฟ่านร้องเรียกหาคุณป๊าต่างหาก

    “ฟานฟ่านลูก..โอ๋ๆ ไม่เอานะคนเก่งไม่ร้องรู้มั้ย? คุณป๊าไปทำงานแล้วนะคะ คนเก่งของมะม๊าไม่ร้องนะคนดี..”  ไม่บ่อยครั้งหรอกนะที่ฟานฟ่านตื่นขึ้นมาแล้วจะร้องหาคริส  ปกติก็ร้องหาแต่เขาเท่านั้นสงสัยวันนี้จะคิดถึงคุณป๊าตัวโตแต่เช้าเลย  แต่เจ้าตัวกลับไม่อยู่สะนี่

    “ฮึก! ..ป๊ะป๊ะ..อึกฮือออ..”  เด็กน้อยยังคงร้องต่อไป  สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่แต่ปากกลับร้องหาแต่คุณป๊าที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน  สายตาเด็กน้อยก็กวาดมองไปทั่วห้องแต่ก็ไม่พบร่องรอยของผู้เป็นพ่อก็ยิ่งส่งเสียงร้องไห้จ้าหนักกว่าเก่า

    “ฟานฟ่าน..ไม่ร้องนะคะไม่ร้องนะ..”  เห็นลูกร้องแบบนี้อี้ชิงก็อดไม่ได้ที่จะไม่ร้องตาม  เห็นลูกเจ็บปวดแบบนี้คนเป็นแม่กลับเจ็บปวดมากกว่า

     

     

     

    “ฮัลโหล..ฮึก! คริส..”  ตัดสินใจลองโทร.ไปหาคนตัวสูงอีกครั้งและเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับ  แต่พอได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกอื้นของคนรักก็แทบจะทำให้สติกระเจิง  ไหนจะเสียงร้องจ้าที่ดังแทรกมาของลูกสาวตัวน้อยอีก

    “อี้ชิง! ฟานฟ่าน! เป็นอะไรกัน?! เกิดอะไรขึ้น?”  จากที่นั่งอยู่กลับต้องลุกพรวดขึ้นมาทันที  เมื่อเช้าเขาว่าจะรอให้อี้ชิงกับฟานฟ่านตื่นก่อนแต่เพราะว่ากลัวว่าจะไม่ทันการเพราะว่าเขามีประชุมเลยรีบออกมาช่วยคยองซูก่อน

    “ลูก..อึก ลูกร้องหาแต่นาย ฮึก! น้องฟ่านเอาแต่ร้องหาป๊าอย่างเดียวเลย..คริส นายอยู่ไหน? ฉันสงสารลูก..ฮือออ”   ปากก็พูดโทรศัพท์ไปแต่ในอ้อมแขนก็กอดโอ๋ลูกสาวคนเดียวไปด้วย  ยิ่งมองใบหน้าที่อาบน้ำตาของลูกแล้วเขาก็ยิ่งสงสาร

    “โอ๋ๆๆ  ใจเย็นๆนะคนดี..ฉันติดธุระอยู่ไปไม่ได้จริงๆนะ”  แต่ใจจริงอยากจะหายตัวไปที่คอนโดเสียเดี๋ยวนี้  เพียงได้ยินอี้ชิงกับฟานฟ่านร้องไห้เขาคนนี้ก็จะร้องตามอยู่แล้ว

    “ฮึก..ทำยังดี..น้องฟ่านไม่หยุดร้องเลย...ฮือออ ป๊ะป๊ะ..ฮึก ฮือออ ป๊า!.. อี้ชิงพูดสายไปแต่เสียงฟานฟ่านที่ยังไม่หยุดร้องก็ดังแทรกไปด้วย

    “เอาอย่างนี้นะ..ยื่นโทรศัพท์ให้น้องฟ่านทีอี้ชิง”

     

     

     

    ไม่รู้ว่าสิ่งที่คริสกำลังจะทำมันจะช่วยอะไรได้มากมั้ยแต่อี้ชิงก็ยอมทำตามแต่โดยดี  ยื่นโทรศัพท์ที่มีคริสอยู่ในสายไปทาบที่หูน้อยของลูกรัก

    “ฮัลโหล..คนดีของปะป๊า..เป็นอะไรค่ะคนดี? ร้องไห้ทำไมเอ่ย?” ช่วยได้มากมั้ยน่ะเหรอ?  ได้เยอะเลยทีเดียว  เพียงแค่ได้ยินเสียงคริสเด็กดื้อที่ร้องงอแงแต่เช้าก็เงียบเสียงร้องไห้ลงเพื่อนฟังเสียงชัดๆ แต่ก็เพียงไม่นานก็ต้องร้องออกมาอีก

    “ปะป๊า..มา..มามา..ฮึก มามา”  ไม่มีใครรู้ว่าเด็กน้อยพูดว่าอะไรและแปลว่าอะไร  แต่ถ้าลองฟังดีๆฟานฟ่านเหมือนว่ากำลังจะบอกให้คริสกลับมา  มาหาน้องฟ่านที่น่ารักและคุณม๊า

    “ค่ะลูก..เดี๋ยวปะป๊าเสร็จธุระแล้วจะรีบกลับไปหานะคะ...ไม่ร้องนะคะคนเก่ง อย่าดื้อกับมะม๊าสิลูก” เขาเข้าใจในสิ่งที่ลูกพูด  เขาก็อยากกลับไปแต่ก็ยังไม่ใช่ตอนนี้  แต่ยังไงตอนเย็นเขาก็ต้องกลับมารับอี้ชิงกับฟานฟ่านอยู่ดี  ไม่ใช่แค่ฟานฟ่านที่คิดถึงเขา เขาเองก็คิดถึงฟานฟ่านมาก  อี้ชิงก็ด้วย

    “ป๊า..มา..ม๊า..อึก..”  เสียงเด็กร้องไห้เริ่มเงียบเสียงลงอีกครั้ง  ใบหน้าที่ยู่เพราะตะเบงเสียงร้องตอนนี้กลับผ่อนคลายลง  แม้ว่ายังสะอึกเบาๆอยู่แต่อย่างน้อยอี้ชิงกับคริสก็วางใจได้ว่าหนูน้อยจะไม่ปล่อยโฮออกมา

    “เก่งมากคะคนเก่งของปะป๊า.......อี้ชิงอ่า  เดี๋ยวตอนเย็นเจอกันนะ..รักมากรู้มั้ย ฟานฟ่านด้วย..แต่แค่นี้ก่อนนะเดี่ยวขอไปทำธุระก่อน” พูดจบก็ตัดสายไปไม่รอให้อี้ชิงได้ตอบอะไรกลับมา..อะไรของเขา?  จะทำอะไรก็ไม่เคยบอกกันท่าทางมีลับลมคนนัยแปลกๆแต่ก็พยายามที่จะไม่คิดมาก หันมาสนใจลูกสาวอีกครั้งที่ก็กำลังมองเขาตาแป๋วเหมือนกัน

    “เดี๋ยวปะป๊าก็มานะคะ..ฟอดด!

     

     

     

     

     

     

    หลังจากวางสายจากอี้ชิงแล้วคริสก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่  ไม่รู้ว่าป่านนี้น้องฟ่านจะหยุดร้องไห้งอแงกับอี้ชิงรึยัง  เป็นห่วงอี้ชิงก็อีกต้องเหนื่อยแต่เช้าแต่เขากลับช่วยอะไรไม่ได้สักอย่าง

    “เฮ้อ..”  ถอนหายใจออกมาไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของเช้าวันนี้  เสียงถอนหายใจหนักของคนตัวสูงดังไปจนถึงอีกคนที่ก็ดูยุ่งไม่แพ้กัน

    “อะไรกันคุณป๊า..มาให้ช่วยแค่นี้ทำเป็นถอนหายใจหรือไง?”  คยองซูเอ่ยแซวขึ้น  เขารู้หรอกว่าที่คริสถอนหายใจเพราะอะไรตอนที่คุยโทรศัพท์กับอี้ชิงคริสก็ทำหน้าเหมือนกับว่าจะร้องไห้ออกมาก็ไม่ปราน  เขาเองก็ผิดเหมือนกันที่วานให้คริสออกมาช่วยแต่เช้าแบบนี้  วันนี้เป็นวันเกิดของจงอินเขากะว่าจะจัดเซอร์ไพรส์คนผิวเข้มสักหน่อยแต่ว่าตอนช่วงกลางวันถึงเย็นเขาก็มีงานถ่ายแบบถ้าจะมารอจัดตอนเสร็จงานก็กลัวว่าจะไม่ทันก็เลยต้องจัดแต่ตอนเช้าแบบนี้แถมยังต้องรบกวนคริสมาช่วยอีก  เสร็จงานนี้เขาคงต้องขอโทษอี้ชิงยกใหญ่แน่ๆ

     

     

     

    “ขอโทษนะ..แต่ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วนายกลับไปหาอี้ชิงกับน้องฟ่านเถอะ  เหลืออีกนิดเดียวเดี๋ยวฉันจัดการเอง”  ตอนนี้ก็สายมากแล้วและเขาก็รบกวนเวลาของคริสมามากก็เกรงใจแม้ว่าคริสจะเต็มใจช่วยแต่ความเกรงใจก็ไม่เข้าใครออกมาใครหรอก 

    “ไม่ละ เดี๋ยวฉันต้องเข้าประชุมคงกลับไปหาอี้ชิงไม่ได้  เดี๋ยวค่อยไปรับอี้ชิงตอนเย็นทีเดียวดีกว่า....เอ้อ นายก็ต้องเข้าบริษัทไม่ใช่เหรอ?  ไปพร้อมกันมั้ย?”  ใจจริงก็อยากจะกลับไปหาอี้ชิงกับฟานฟ่านเหมือนที่อีกคนบอกแต่ก็กลัวว่าจะไม่ทันประชุมสำคัญวันนี้  เดี๋ยวตอนเย็นก็ต้องมาไปรับมางานวันเกิดจงอินอยู่ดี

    “อ๋อ ไม่ดีกว่าเดี๋ยวฉันต้องไปทำธุระที่อื่นต่อ”

    “หืม? ธุระอะไร?”  ไม่ได้จะอยากเป็นคนเสียมารยาทหรอกเพียงแต่มันถามออกมาโดยอัตโนมัติก็เท่านั้น

    “เออ...พอดีฉันลืมสั่งเค้กน่ะสิ..”  นึกได้ก็อยากจะตบหัวตัวเองแรงๆที่ลืมของสำคัญในงานวันเกิดได้ ดีนะที่นึกขึ้นได้ตอนเช้าไม่อย่างนั้นต้องแย่แน่ๆ

    “ของสำคัญสะด้วนะนั่นที่ลืม..โอเคๆ งั้นฉันไปก่อนนะเดี๋ยวสายแล้ว เจอกันตอนเย็น”  เห็นเพื่อนยิ้มก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ท่าทางความสัมพันธ์ของเพื่อนตาโตกับคนผิวเข้มจะไปได้สวยทีเดียว  มองดูนาฬิกาก็เกือบจะได้เวลาเริ่มประชุมแล้วเลยจำต้องขอตัวก่อน

    “โอเค..ขอบคุณมากนะแล้วก็ฝากขอโทษอี้ชิงด้วย..เจอกันตอนเย็น”

    “บาย”

     

     

     

     

     

    อี้ชิงอุ้มฟานฟ่านน้อยลงมาจากรถแท็กซี่หลังจากที่โทร.นัดเพื่อนตัวเล็กไว้  นี่ก็สักพักเหมือนกันที่ไม่ได้เจอกันนึกแล้วก็คิดถึง  สองขาเรียวก้าวมาตามทางเดินของร้านอาหารริมน้ำที่บรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการนั่งคุยสบายๆของเขากับเพื่อนรักในวันนี้จริงๆ  แต่สองขาข้างก็ต้องหยุดชะงักงันเมื่อมีใครบางคนมาขวางทางเดินเอาไว้  ใบหน้าหวานเงยขึ้นและกลับต้องแปลกใจมากเข้าไปอีกเมื่อคนที่ยืนขวางอยู่คือ..

    “เซฮุน!?”

    “หวัดดีอี้ชิงของผม”  เสียงทุ้มเอ่ยทักทายกลับด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มที่หากสาวๆที่ไหนได้มองเป็นอันต้องละลายกันเป็นแน่  แต่กลับอี้ชิงมันเป็นรอยยิ้มที่กวนประสาทและน่ารังเกียจมาก

    “มาได้ไง?”  แม้จะตกใจที่ไม่นึกว่าจะได้เจอกับผู้ชายคนนี้อีกแล้วหลังจากร้านอาหารวันนั้น  แต่ที่ยิ่งไปกว่าความแปลกใจคือความหงุดหงิดมากกว่า

    “ก็ตามคุณมาจากจากหน้าคอนโดของคุณ  เรื่อยๆมาจนถึงคุณนั่งแท็กซี่มาจนถึงที่นี่ ผมรีบจอดรถเพื่อนวิ่งมาดักหน้าคุณให้ทัน แล้วก็มายืนคุยกับคุณตรงนี้”  นิ้วเรียวยาวชี้ทิ่มลงที่พื้นเพื่อบอกว่าเขายืนอยู่ตรงนี้  ที่พูดไปก็เป็นความจริงไม่ได้อยากจะกวนเท่าไหร่หรอก...เขาดักรออี้ชิงที่หน้าคอนโดตั้งแต่เช้าตอนจะขับออกไปแต่อี้ชิงกลับออกมาสะก่อนเลยขับรถตามมาจนถึงที่นี่ และถ้าถามว่าเขารู้ที่อยู่คอนโดอี้ชิงได้ยังไงก็คงต้องบอกว่าสงสัยจะเป็นพรมลิขิตเพราะเมื่อวานเขาเจออี้ชิงที่ห้างตอนที่เขาออกไปเจอเพื่อนและเห็นอี้ชิงกับ...เด็กคนนี้ที่อี้ชิงพามาด้วย

     

     

     

    “แล้วนายจะตามฉันมาทำไม..ต้องการอะไรอีก?”  ที่จริงก็ไม่อยากจะเสวนาคุยด้วยกับคนแบบนี้หรอกนะ แต่ที่ถามเพราะอยากจะรู้ว่าอีกคนต้องการอะไรจากเขาอีก  แค่ที่เรื่องร้านอาหารก็ยังไม่พอแกใจอีกหรือยังไง

    “คุณ..ผมต้องการคุณ”  ตอบสั้นๆง่ายๆแต่แสดงจุดประสงค์ได้ชัดเจนทุกอย่าง  ที่จริงเขาก็ไม่ได้รักอี้ชิงแล้วหรอกแต่ก็เพราะอี้ชิงเป็นรักแรกของเขา เป็นคนแรกที่ทำให้เขาตกหลุมรักได้เพียงไม่นานดังนั้นแม้ว่าตอนนี้เขาจะไม่ได้รักอี้ชิงแล้วก็ตามแต่ความรู้สึกดีๆมันก็ไม่เคยจางหายไปและที่สำคัญไปกว่านั้น...เขาต้องการจะเอาชนะคริส

    “ประสาท!  พูดจบก็เดินเลี่ยงมาอีกทางเพื่อที่จะเดินเข้าไปในร้านไม่ได้สนใจในสิ่งที่อีกคนบอกแต่อย่างใด ป่านนี้แบคฮยอนคงจะมารอเขาแล้ว

    “เดี๋ยวสิครับ..เด็กคนนี้....เออ..เป็น?....”  แต่ก่อนที่อี้ชิงจะได้เดินหนีไปเซฮุนก็เดินมาดักหน้าอีกครั้งพร้อมเอ่ยถามถึงเด็กผู้หญิงที่อี้ชิงอุ้มอยู่  ก็พอจะเดาออกอยู่หรอกว่าอาจจะเป็นลูกของคนตัวขาวกับคริสเพราะคริสเคยบอกไว้ตอนที่เจอกันครั้งแรก  แต่ในใจก็ไม่เชื่อและขอให้ไม่เป็นแบบที่เขาเดาเถอะ

    “ลูกสาวฉันเอง..น้องฟานฟ่าน เป็นลูกของฉันกับคริส  แต่ดูเหมือนว่าความจริงจะเป็นสิ่งที่ไม่อาจแปรผันได้ตามความต้องการของมนุษย์ซึ่งก็รวมถึงเขาด้วยเช่นกัน  ทันทีที่อี้ชิงบอกมาและตรงกับสิ่งที่เดาเอาไว้เซฮุนก็มีสีหน้าหดลงนิดหน่อยแต่ก็กลับมาเป็นปกติในเสี้ยววินาที

    “น้องฟานฟ่าน?  น่ารักเหมือนคุณเลยนะครับอี้ชิง...ผมขออุ้มแกได้มั้ย?”  แม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกรักมากมายกับเด็กคนนี้และควรจะเกลียดด้วยซ้ำที่เป็นลูกของศัตรูอย่างคริส  แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เอ็นดูเด็กคนขึ้นมา

     

     

     

    “จะดีเหรอ?..นายไม่ชอบเด็ก”  ใช่ เซฮุนไม่ชอบเด็ก  เกลียดเด็กซนมากเป็นที่หนึ่งและจะมาอุ้มลูกของเขาเซฮุนจะไม่โยนน้องฟ่านลงพื้นหรือยังไง?  แต่เหมือนว่าอี้ชิงจะแสดงสีหน้าและท่าทางลังเลออกมาชัดเจนมากเกินไปทำให้เซฮุนหลุดขำออกมา

    “ฮึ...ผมไม่ชอบเด็กซนแต่น้องฟ่านยังเด็กเกินไปที่จะซน..ผมถือว่าไม่รวมอยู่ในจำพวกนั้น...อี้ชิงจำได้ด้วย..ดีใจจังครับ”  ดีใจจริงๆอย่างที่พูด  เขาคิดว่าอี้ชิงจะเกลียดเขาจนลบความทรงจำความรู้สึกดีๆเกี่ยวกับเขาทิ้งไปหมดทุกอย่าง  แต่อี้ชิงก็ยังจำได้ว่าเขาชอบไม่ชอบอะไร

    “ไม่ต้องมาดีใจ...จะอุ้มก็อุ้มดีๆนะถ้านายคิดร้ายกับน้องฟ่านฉันจะฆ่านาย”  ปากก็พูดไปอย่างนั้นแต่ก็ยอมส่งลูกรักให้ตามคำขอ  ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขารู้สึกไว้ใจชายคนนี้ได้อยู่....

    “น้องฟานฟ่าน..นี่คุณอาเซฮุนนะครับ..ไหนเรียกอาฮุนสิครับ อาฮุน...”  สงสัยความน่ารักน่าชังของฟานฟ่านจะดึงดูดเซฮุนผู้ไม่ชอบเด็กเอาสะแล้วเมื่อคนตัวสูงยื่นหน้าไปฟัดแก้มยุ้ยๆอย่างหมันเขี้ยว...ฟอด!

    “ฮันฮัน..คิกๆ ฮันฮัน”  แต่คำว่าเซฮุนคงจะยากเกินไปสำหรับเด็กที่ยังไม่ได้ขวบดี  แต่เพียงแค่พูดออกมาด้วยคำที่ใกล้เคียงผู้ใหญ่ทั้งสองก็ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะได้เลย

    “ฮะฮะฮะฮะๆๆ!

     

     

     

     

    “แบคฮยอน!  เมื่อพูดคุยกันพอเป็นพิธีอี้ชิงเลยชวนเซฮุนเข้ามาข้างในร้านด้วยกันโดยที่เขาเป็นคนเดินนำและมีเซฮุนที่อุ้มฟานฟ่านเดินตามเข้ามาทีหลัง  เมื่อเดินเข้ามาก็เห็นว่าแบคฮยอนกำลังนั่งเปิดเมนูดูอยู่พอดี

    “อี้ชิงอา..น้องฟาน...เซฮุน!!  แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นมาจากเมนูอาหารที่กำลังจะสั่งไว้รออี้ชิงกับน้องฟานฟ่าน หันมาทักเพื่อนตัวขาวและไม่ลืมทีจะทักทายหลานสุดที่รักที่มีใครอุ้มมา..และใครคนนั้นก็ทำให้ร่างเล็กลุกพรวดขึ้นทันทีด้วนความตกใจ

    “หวัดดี..แบคฮยอน”  และก็เป็นเหมือนๆอย่างเคยที่เซฮุนจะพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มกวนประสาทแบบนี้  แม้ว่าแบคฮยอนจะดูตกใจมากที่เจอเขาแต่เขากลับไม่แปลกใจสักเท่าไหร่เพราะพอจะรู้อยู่แล้วว่าถ้าเจออี้ชิงก็คงจะได้เจอแบคฮยอนเข้าสักวัน  และวันนั้นก็คือวันนี้

    “นาย! นายยังกล้าเสนอหน้ามาให้ฉันสองคนเห็นหน้าอีกหรือยังไงห๊ะ! ฉันคิดว่านายตายไปแล้วสะอีก!!  เสียงเล็กที่ดังกังวานไปทั่วร้านทำให้คนหันมามองกันหมดแต่ดีที่ยังไม่มีคนเยอะและโต๊ะนี้เป็นโต๊ะด้านนอกระเบียงที่มีกระจกกลั้นจากภายในทำให้ไม่มีคนแตกตื่นเพราะเสียงวีนของแบคฮยอน

     

     

     

     

    แบคฮยอนรู้จักกับเซฮุนดีและดีมากพอๆกับที่อี้ชิงรู้จัก เซฮุน เขาและอี้ชิงเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยที่เรียนอยู่มหาลัย แต่เซฮุนพึ่งมารู้จักกับเขาสองคนตอนที่อยู่ปีสองเพราะซิ่วมาจากที่อื่นและเป็นเพราะว่าเซฮุนเข้ากับใครต่อใครไม่ค่อยได้ทำให้มีโอกาสได้ทำโปรเจ็คร่วมกันกับเขาและอี้ชิง  เอาจริงๆแบคฮยอนเองก็ไม่ค่อยชอบขี้หน้าเซฮุนมาแต่ไหนแต่ไรแล้วก็เพราะเหตุผลเดียวกับที่คนอื่นๆไม่ชอบนั่นก็คือเซฮุนเป็นโรคชอบกวนประสาทไปทั่ว!  แต่ก็อย่างว่าในหมู่คนมากย่อมมีคนแปลกไปกว่าพวกนั่นก็คืออี้ชิง...อี้ชิงเป็นคนใจดี  มองโลกในแง่บวกและไม่เคยถือสาเซฮุนเลยที่เอาแต่ทำหน้ากวนเบื้องล่างทำให้สองคนนี้สนิทกันมากขึ้น มากขึ้นและมากขึ้นจนเซฮุนเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนกันสามคนไปโดยปริยาย

     

     

    และเพราะเหตุนี้ที่อี้ชิงเองก็เป็นคนดีทำให้เข้าขากับเซฮุนได้ดีทำให้เกิดความใกล้ชิดกันในทุกๆวันจนเกิดเป็นความรัก  เซฮุนขออี้ชิงเป็นแฟน แม้ตอนแรกแบคฮยอนจะไม่เห็นด้วยเพราะไม่ชอบเซฮุนที่ไม่ค่อยจริงจังอะไรก็เพราะเป็นห่วงอี้ชิง  แต่ลองมานึกดูก็มีเรื่องนี้เรื่องเดียวที่เป็นข้อเสียแต่เรื่องอื่นเซฮุนก็ดีหมด เรียนเก่งแต่ที่ซิ่วมาเพราะไม่ชอบ  นิสัยใจคอถ้าตัดเรื่องกวนออกไปก็คุยสนุก ฐานะทางบ้านก็จัดว่ารวยมากและที่สำคัญดูเหมือนว่าเซฮุนจะรักอี้ชิงเพื่อนของเขาจริงๆเลยยอมให้อี้ชิงตกลงคบ  เขาสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนจนถึงทำงานก็ประมาณแปดปี และอี้ชิงกับเซฮุนเป็นแฟนกันมาก็ประมาณหกปีได้ก็ดูเหมือนว่าจะรักกันดีมาตลอด

     

     

     

     อี้ชิงรักและทุ่มให้เซฮุนมากเพราะเป็นรักแรกของอี้ชิง ซึ่งเซฮุนก็เช่นกัน ทุกอย่างกำลังไปได้สวย สองคนนั้นเกือบจะได้แต่งงานกันแล้ว  แต่วันนั้นที่เซฮุนนัดกับอี้ชิงไปคุยเรื่องงานแต่งงานที่โบสถ์และเซฮุนไม่มา อี้ชิงเลยไปตามไปหาที่คอนโดด้วยความเป็นห่วงแต่สิ่งที่เห็นและได้ยินกลับทำให้อี้ชิงช๊อคอยู่ตรงนั้นเลย

     

    “ซะ..เซฮุน..อื้มมม อ๊ะ!

    “อา..นายองอา..เธอนี่มัน..อา..”  เสียงครางของคนสองคนดังออกมาจากห้องนอนสุดหรู  อี้ชิงมาที่นี่บ่อยจึงมีคีย์การ์ดของเซฮุนเพราะเจ้าตัวเป็นคนให้เอง  สองขาเรียวค่อยก้าวเข้าไปเปิดประตูห้องนอนออกช้าๆด้วยมือที่สั่นเทาแต่น้ำตาที่ไหลนองใบหน้า

    “อ๊ะ! เซฮุน! ..อ๊า!. อื้ออออ..” 

    “นายอง..นายอง..อ่า..”  ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะขยับเขยื้อน  ภาพกิจกรรมรักของคนสองคนที่กำลังนัวเนียกันอยู่เบื้องหน้าทำให้อี้ชิงแทบขาดลมหายใจ

    “เซฮุน!!!เสียงที่กว่าจะเปล่งออกมาได้นั้นช่างยากเย็น แต่ก็ดังพอๆกับความเจ็บปวดในใจทำให้เจ้าของชื่อร่างสูงชะงักงัน  ใบหน้าคมค่อยๆหันมาตามเสียงเรียกและดวงตาคมต้องถลึงโตขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเห็นอี้ชิงยืนอยู่หน้าประตู  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเห็นทุกอย่าง

    “อี้ชิง!!

     

     

     

    “อี้ชิง!! เดี๋ยวอี้ชิงฟังผมอธิบายก่อน!  ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ใกล้มือเพียงแค่พอปกปิดเรือนร่างได้ก็ขอหยิบมาใช้ก่อน  สองขายาวรีบวิ่งมาดักหน้าอี้ชิงที่กำลังจะเดินออกมาจากห้องโดยไม่ได้ฟังเสียงหวีดร้องของแม่สาวนายองแม้แต่น้อย..

    เพี๊ยะ!!

    “เลว! นายมันเลวที่สุด!!

    “ไม่นะอี้ชิง ผมขอโทษคุณได้โปรดฟังผมอธิบายก่อนสิ”

    “อธิบาย! อธิบายว่าอะไรเหรอ?  อ๋อนายกำลังจะบอกว่าแม่นั่นมันยั่วนายและเพราะนายเป็นผู้ชายนายเลยห้ามตัวเองไม่ได้! หรือว่าที่ฉันเห็นเป็นภาพลวงตาที่จริงนายกับแม่นั่นกำลังนั่งประชุมกันอยู่สินะ!! หึ ชุดหล่อแหลมดีนิ!!

    “ไม่ใช่นะอี้ชิง...แต่ผมขอโทษ..ขอโทษที่ผิดนัดขอโทษที่นอกกาย  แต่ผมไม่เคยนอกใจอี้ชิงของผมเลยนะครับ”

    “แล้วทำไมนายต้องนอกกายฉันด้วยเซฮุน!! ฮึก! นายนัดฉันไปคุยเรื่องงานแต่งที่โบสถ์แต่นายกลับมามั่วผู้หญิงอยู่ที่ห้อง!! ฮึก ฮือออ.. เลว เลวที่สุด!!! เราจบกัน!  พูดจบก็เดินออกไปเพราะไม่สามารถที่จะยืนมองหน้าอีกคนได้อีกต่อไปแล้ว  แต่ดูเหมือนว่าเจ้าของห้องจะไม่ยอมให้ออกไปได้ง่ายๆ

    “อี้ชิง! ไม่นะอย่าไปผมขอโทษ..เป็นเพราะว่าคุณให้ผมไม่ได้ผมเลยต้องไปลงที่คนอื่นแต่ใจผมให้คุณหมดแล้วตั้งแต่วันที่เราเป็นแฟนกัน..อี้ชิงผมขอโทษ..เซฮุนขอโทษนะครับ”  ร่างเปลือยท่อนบนโอบเข้ากอดร่างเล็กจากด้านหลังทันทีเพื่อยื้อไม่ให้ไป

    “อ๋อ งั้นฉันก็ผิดที่ฉันไม่ยอมมีอะไรกับนาย..ฉันเป็นคนผิดสินะ..งั้นก็เชิญ นายเชิญทำเรื่องที่ฉันให้ไม่ได้กับใครที่ไหนก็เชิญ!!! เรา!-เลิก!-กัน!! อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!!

    “ไม่นะอี้ชิงไม่..” ไม่ใช่อี้ชิงคนเดียวที่ร้องไห้ออกมาให้กับความโง่ของตัวเองที่รักไม่ลืมหูลืมตาแต่เซฮุนก็เช่นกันร้องไห้ออกมาให้กับความโง่ของตัวเองที่ไม่รักษาของที่ดีที่สุดไว้ได้

    “ปล่อย! ปล่อยฉันเซฮุนบอกให้ปล่อย!!! ฮึก ปล่อย!...อึก อึก อึก.”  เพราะความเครียดมากเกินไปบวกกับความเสียใจทำให้อี้ชิงเกิดอาการช็อคขึ้นมาทันที

    “อี้ชิง!!!

     

     

     

     

    “โอ เซฮุน!!!

    ผลั๊วะ!

    แบคฮยอนที่ได้รับโทรศัพท์จากเซฮุนก็รีบมาที่โรงพยาบาล เพียงแค่เห็นหน้าก็ไม่รอให้อธิบายอะไรออกมาทั้งนั้นก็สาดหมัดหนักๆใส่ทันที  ไม่ต้องให้บอกก็รู้ว่าที่อี้ชิงต้องช็อคเข้าโรงพยาบาลอาการหนักแบบนี้เป็นเพราะใคร  ก็คนสุดท้ายที่อี้ชิงอยู่ด้วยคือเซฮุน

    “นายทำอะไรเพื่อนฉัน!! นายทำอะไรอี้ชิงเพื่อนฉันบอกมา!!

    “ฉัน....ขอโทษแบคฮยอน..ขอโทษ..”

    “ฉันไม่ต้องการคำขอโทษ..ฉันต้องการรู้ว่านายทำอะไรเพื่อนฉันบอกมาโอ เซฮุน!!  ก่อนที่แบคฮยอนจะสาดหมัดใส่หน้าเซฮุนอีกครั้งคุณหมอก็เดินออกมาจากห้องไอซียูเสียก่อน  ทั้งสองคนผละออกจากกันและตรงไปที่คุณหมอทันที

    “เพื่อนผมเป็นยังไงบ้างครับหมอ?!

    “เพื่อนคุณปลอดภัยแล้วครับ แต่คงต้องให้ดูอาการสักพัก  หมอขอตัวนะครับ”

    “ขอบคุณมากครับ”

     

     

    หลังจากวันที่อี้ชิงฟื้นขึ้นมาและแบคฮยอนรู้เรื่องทุกอย่างก็พยายามกีดกันไม่ให้เซฮุนได้ง้อหรือมีโอกาสเข้าใกล้อี้ชิงอีกเลย และสุดท้ายก็เป็นอี้ชิงเองที่ตัดความสัมพันธ์ของเขากับเซฮุนขาดอย่างไร้เยื่อใย  แม้จะเจ็บปวดแต่ก็คงดีกว่าโง่ทนเจ็บไปเรื่อยๆ ประจวบกับที่เซฮุนต้องไปทำงานแทนคุณพ่อที่จีนทำให้หลังจากนั้นเขาสองคนก็ไม่ได้เจอเซฮุนอีกเลย เป็นเวลาเกือบสามปี จนกระทั่งวันนี้.....

     

     

     

     

     

     

     

    “ที่ฉันกลับมาเพราะไม่ได้อยากจะมาเจอนายหรอกนะแบคฮยอน”  ลืมบอกไปว่านอกจากชานยอลสามีของเขาแล้วนี่ก็มีเซฮุนอีกคนที่กล้ากวนประสาทกับคนอย่างเขา

    “เหอะ! คิดว่าฉันอยากเหรอ?  แล้วนายยังจะกลับมาวุ่นวายอะไรกับอี้ชิงอีก..ไม่รู้หรือไงว่าอี้ชิงน่ะเขาแต่งงานมีลูกมีผะ..เออ สามีแล้ว..แล้วนั่น! นายกล้าดียังไงมาอุ้มหลานรักของฉัน! ส่งน้องฟ่านมานี่นะ!  สองแขนเล็กๆเอื้อมไปไขว่ขว้าจะอุ้มหลานบ้างแต่เซฮุนกลับถอยหลังหนี  และก็อย่างที่รู้ๆกันว่าเดิมทีน้องฟ่านก็ไม่ค่อยจะให้เขาอุ้มอยู่แล้วแม้พักหลังๆมานี้จะสนิทกันดีแต่ก็เป็นธรรมชาติของเด็กที่ถ้าได้เพื่อนเล่นใหม่ก็ลืมเพื่อนเล่นเก่า...อย่างเขา

    “สงสัยว่าน้องฟ่านจะชอบฉันมากกว่านายนะแบคฮยอน”  เซฮุนพูดเยาะเย้ยขึ้นเมื่อเท่าที่ดูน้องฟ่านกอดคอเขาแน่นทันทีที่แบคฮยอนจะอุ้มก็เดาได้ไม่อยาก

    “เชอะ! แล้วแต่นายจะคิดสิ! 

    “เอาล่ะๆ เลิกทะเลาะกันได้รึยัง..แบคฮยอนนายก็อย่าไปสนใจหมอนี่เลยช่างเถอะ..ส่วนนายถ้าไม่อยากให้ฉันไล่ก็นั่งเงียบๆ”  อี้ชิงที่ไร้บทพูดมานานเอ่ยห้ามทัพขึ้นก่อนที่จะโดนไล่ออกจากร้านเพราะเสียงแบคฮยอนที่ดังไม่เกรงใจใคร

    “เชอะ!/เหอะ!

     

     

     

    “แล้วนี่เป็นไงบ้าง ได้คุยกับหมอชานยอลเรื่องนั้นรึยัง?”  ถ้าแบคฮยอนไม่พูดเซฮุนไม่กวนโต๊ะอาหารก็เข้าสู่สภาวะปกติ  อี้ชิงเอ่ยถามถึงเรื่องที่แบคฮยอนมาปรึกษาตอนนั้นว่าเป็นยังไงบ้างแล้ว

    “เออ...ที่จริงฉันก็ยังไม่ได้คุยเลยอาอี้..”   ก็ว่าจะคุยหลายครั้งแล้วแค่เมื่อลองมานึกๆดูแล้วเขาเองก็อยากมีลูกจริงๆนั่นแหละ เขาเลยไม่กล้าที่จะโกหกว่าทำใจยังไม่พร้อมที่จะมีตอนนี้ได้หรอก

    “เฮ้อ..ค่อยๆคุยกันล่ะ  แล้วนี่จะไปฮันนีมูนกันเมื่อไหร่ละ แต่งกันมาสักพักแล้วนะ”  ปากก็พูดไปแต่มือก็ป้อนเค้กชิ้นกระจิ๋วให้ลูกสาวที่นั่งอ้าปากรับอยู่บนตักของเซฮุน  และเซฮุนเมื่อได้ยินสิ่งที่อี้ชิงพูดก็แทบจะสำลักน้ำ

    “แค่กๆ! นี่แบคฮยอน นายแต่งงานแล้ว?”

    “เออ..ทำไมมันน่าตกใจน่าแปลกตรงไหนไม่ทราบ?”  ว่าแล้วเชียวว่าจะต้องถูกเซฮุนแซว

    “เปล๊า..ก็แค่เกิดสงสารคนโชคร้ายคนนั้น..แหม..น่าจะฉลาดกว่านี้นะ..โอ๊ย!..”  ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคก็ถูกกล่องใส่ทิชชู่ปาเข้าให้กลางหัวด้วยฝีมืออันแม่นยำของแบคฮยอนนั่นเอง

    “ปากหมา! นายนี่มัน..ทำไม ว่าแต่ฉันนายแต่งงานรึยังหรือว่าไม่มีใครเอาเหมือนกันห๊ะ!?”

    “ก็ตะ...เออ..ดูสินายปามาได้ไงถ้าโดนน้องฟ่านจะทำไง?”  เกือบจะพูดความจริงไปแล้วแต่สายตาคมก็หันไปสบกับตาอี้ชิงเสียก่อน  เลยหลีกเลี่ยงที่จะพูดออก เขาต้องการไม่ให้อี้ชิงรู้..

     

     

     

    “เอ้ออี้ชิงอา..นายนัดฉันมามีธุระอะไรรึเปล่า?”  คราวนี้เป็นแบคฮยอนบ้างที่ถามขึ้นหลังจากที่รบเร้ากันจนเหนื่อยจนอี้ชิงต้องให้เซฮุนพาฟานฟ่านไปเดินเล่นข้างนอกโต๊ะอาหารก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

    “มีสิ..แบค..คือ  เมื่อวันก่อนโน้นตอนที่ฉันเจอเซฮุนครั้งแรกคริสก็อยู่ด้วย..”  ที่จริงก็เพราะว่ามีเรื่องที่ค้างคาใจอยู่เลยนัดแบคฮยอนออกมาเพื่อขอคำปรึกษา

    “อะไรนะ!?..แล้วไม่เกิดเรื่องเหรอ?”  ไม่อยากจะนึกเลยแค่เซฮุนกลับมาเจออี้ชิงก็ว่าร้ายแรงเกินไป  เขายังนึกอยู่เลยว่าคริสจะรู้มั้ยและสุดท้ายก็เป็นอย่างที่เขากลัว  แถมคริสยังรู้ก่อนเขาด้วยสิ

    “เกิดสิ...เซฮุนโกหกคริสว่าตอนที่เราเคยเป็นแฟนกันเราเคยมีอะไรกันมาก่อน..ทำให้คริสเกิดระแวงเรื่องฟานฟ่านขึ้นมา”  นึกแล้วใจมันก็กระตุกขึ้นมาอีก  แม้จะทำใจยอมรับสิ่งที่คริสทำแล้วแต่มันก็เป็นเรื่องที่เสียความรู้สึกมากอยู่ดี

    “ได้ยังไง? แล้วอย่าบอกว่าคริสเชื่อ และคิดว่าฟานฟ่านไม่ใช่ลูกของเขานะ”  พูดดักทางไว้ก่อนและขอให้อย่าเป็นอย่างที่คิดเลย  แต่ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะแกล้งกันให้เรื่องร้ายๆที่เขาคิดเป็นจริงเสมอ

    “อยากบอกว่าไม่แต่มันใช่...คริสพาฟานฟ่านไปตรวจ DNA..”

    “อะไรนะ! ตรวจ DNA! นี่มันมากไปรึเปล่า?”  เป็นอีกครั้งที่แบคฮยอนไม่สามารถควบคุมเสียงที่คอยจะดังอยู่เรื่อยได้ ก็คนมันตกใจไม่คิดว่าคริสจะกล้าทำร้ายจิตใจกันแบบนี้

    “เบาๆสิแบค...แต่ก็ดี ฉันจะได้พิสูจน์ให้ชัดไปเลยจะได้ไม่ต้องมาระแวงกันอีก..เพราะฉันมั่นใจว่าน้องฟ่านเป็นลูกคริส”

    “ก็ถ้านายคิดได้แบบนี้ก็ดี...ไม่ต้องไปคิดมากนะอี้ชิง”

    “อื้อ”

     

     

     

    บทสนทนาของอี้ชิงกับแบคฮยอนที่คุยกันไม่ได้มีเพียงคนสองคนที่ได้ยิน  แต่มีอีกหนึ่งคนที่ได้ยินทุกอย่างเช่นกัน  เซฮุนเดินกลับเข้ามาในร้านเมื่อเห็นว่าน้องฟ่านเริ่มงอแงหาอี้ชิงแต่จังหวะที่กำลังจะเปิดประตูออกก็บังเอิญได้ยินสิ่งที่ไม่ควรได้ยิน  แต่พอได้ยินแล้วมันช่างเป็นเรื่องน่ายินดี  โชคกำลังช่วยเขาจริงๆ

    นิ้วเรียวยาวเลื่อนโทรศัพท์เพื่อหาเบอร์เพื่อนสมัยเรียนทันที  ไม่รอช้ากดโทร.ออกทันทีที่เจอ

     

     

     

     

     


     

     

     

    “ฮัลโหล..ไอหมอ แกยังทำงานอยู่ที่ห้องแล็บอยู่เปล่าว่ะ...โอเคแล้วเจอกัน..”

     

     

     

     

     

     

    .................................

    TBC.

    แท๊นแทนแท้นนนนนนนนนนนนนนน!!!!!

    มาต่อภาคสองแล้วน้า  ตามที่ใครๆต้องการรรรรรรรรรรรรรรรร (ใครย่ะ??)

    มาต่อแล้วววว มาช้ามากกกกก ขอโทษมากจริงงงๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!

    ตอนนี้เอาเบื้องหลังความเจ็บของอาอี้มาฝาก อย่าถามว่านายองเป็นใคร เพราะไรท์....ไม่รู้ 5555555 มันอ่านว่า นา-ยอง นะเผื่อใครอ่านผิดเป็น นาย-อง ที่ไรท์เอาชื่อนี้เพราะไม่อยากพาดพิงถึงใครคนไหนคิดว่าชื่นนี้น่าจะไม่มีแต่ถ้ามี..ก็ขอโทษไว้นะที่นี้ด้วยค้าบบบบบ

    ใครที่กำลังคิดถึงคู่ไคโด้ ตอนหน้าได้หวานละมุนแน่  ส่วนใครที่รอชานแบคไม่นานเกินรอแต่รับรองด้วยปลายนิ้วเลยว่า มันส์! แน่นอน 5555555

    อยากให้เข้ามาอ่านกันเยอะๆ ฝากเค้าแชร์ด้วยนะตัวเองและเค้าจะรีบมาต่อ ปุ๊อิ้งๆ

    *0**0**0*

    ฝากแชร์ ฝากโหวต และที่สำคัญ

    อย่าลืม  เม้นท์!!!!!!!

    @eiraklay

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×