ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO:KrisLay&Exo] Best Husband

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 57











    Chapter 2

     

     

     

     

     

    “ม๊า..มัม..ม๊า ม๊า..”  เสียงเด็กน้อยที่ตอนนี้กำลังคลานไปทั่วพื้นห้องส่งเสียงเรียกผู้เป็นแม่ที่กำลังยุ่งอยู่กับการเก็บกวาดทำความสะอาดอยู่  วันนี้คริสออกไปทำงานตั้งแต่เช้า  ที่จริงแล้วคนตัวสูงนั้นไม่ได้อยากไปสักนิดแต่จำยอมต้องไปตามระเบียบอี้ชิงเลยอยู่ที่คอนโดกับฟานฟ่านสองคน

    “ฟานฟ่านมานี่มาลูกมา..”  มือบางวางผ้าที่เช็ดโต๊ะลงในกะละมัง เช็ดมือที่เปียกกับกางเกงก่อนจะกวักมือเรียกให้ลูกรักคลานเข้ามาหา  ซึ่งก็เป็นตามคาดที่เมื่อเห็นคุณม๊ากวักมือเรียกก็แทบจะคลานเร็วๆมาหาทันที

    “ฮ่ะๆๆ..คิกๆ”  เด็กน้อยหัวเราะร่าเมื่อถูกคุณแม่จี้เข้าที่เอว  ฟัดเข้าที่แก้มยุ้ยอย่างหมันเขี้ยว

    “เด็กซนๆ อย่างนี้ต้องโดนทำโทษ ฮ่ะๆๆ”

    “ม๊า! คิกๆๆ!” เด็กน้อยที่พึ่งพูดได้เพียงคำสองคำก็พูดไปหัวเราะไปอย่างอารมณ์ดี  พลางมือน้อยๆก็พยายามปัดมือที่รังแกตัวเองอยู่แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ทันมือคุณแม่ที่แกล้งไปทั่ว

     

     

    กริ๊ง! กริ๊ง!

     

                ในขณะที่สองแม่ลูกกำลังสนุกอยู่บนพื้นนั้น  เสียงออดก็ดังขึ้น  พลันใบหน้าหวานก็เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนังห้องดูเวลา  พลางในใจก็นึกว่าตอนนี้มันก็ไม่ใช่เวลาที่คริสจะกลับบ้าน  แต่ถึงจะนึกอยู่อย่างนั้นสองขาเรียวก็สาวเท้าเดินไปเปิดประตูให้ผู้มาเยือน

    “คุณคยองซู? เออ เชิญครับ..”  แม่จะแปลกใจที่เห็นคนตัวเล็กมาหาถึงที่แต่ก็มีมารยาทพอที่จะผายมือเชิญให้อีกคนเข้ามาในห้อง  ที่แปลกใจไม่ใช่ว่ากลัวหรือไม่พอใจที่อีกคนมา  ความรู้สึกแบบนั้นมันไม่มีอีกแล้ว  ตอนนี้เขากับคยองซูเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแล้ว  เพียงแต่แค่สงสัยว่าทำไมมาในเวลาแบบนี้

    “ขอบคุณครับ”  โค้งขอบคุณน้อยๆแต่ก็เดินตามเจ้าของห้องไปในห้องรับแขกที่มีเด็กน้อยกำลังนั่งเล่นตุ๊กตาอยู่ที่พื้น  ก็ไม่รอช้าปรี่เข้าไปอุ้มทันทีด้วยความเอ็นดู

    “คุณคยองซูมีธุระอะไรรึเปล่าครับ?  หรือว่ามาหาคริส ตอนนี้...”  เอ่ยถามอีกคนเมื่อเห็นว่าพอมาถึงก็ไม่ได้พูดจุดประสงค์การมาที่นี่ แต่เอาแต่อุ้มลูกเขาอย่างเดียว แต่ยังไม่ทันได้พูดจบประโยคคนตาโตก็พูดขึ้นมาก่อน

    “เปล่าเปล่า..พอดีฉันมาหาจงอินน่ะ  แต่เขาไม่อยู่..เออ ฉันขอโทษนะ แต่ฉันขอรอเขาที่นี่ได้มั้ย ฉันไม่อยากมาเสียเที่ยว”  ส่ายหน้าปฏิเสธทันที  จริงวันนี้เขากะว่าจะมาเซอร์ไพรส์จงอินสักหน่อย  แต่ดูเหมือนว่าจะมาเร็วเกินไปเลยขอแวะมารอคนผิวเข้มที่ห้องอี้ชิง  แม้จะเกรงใจอยู่มากแต่ก็ไม่อยากจะเสียเที่ยวขับรถกลับ

    “อ๋อ! ครับๆ ยินดีเลยครับ งั้นตามสบายนะครับเดี๋ยวผมขอไปทำความสะอาดต่อ..เอ่อ  ฝากฟานฟ่านด้วยนะครับ”  เมื่อเข้าใจจุดประสงค์ของอีกคนก็ร้องอ๋อทันที...รู้สึกโล่งใจเบาๆอย่างบอกไม่ถูกเหะ

    “ได้เลยครับ!

     

     

     

     

    “อี้ชิง นายมีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย?”  คยองซูเดินเข้ามาในครัวหลังจากที่เล่นกับฟานฟ่านจนเจ้าตัวน้อยหลับคาอ้อมกอดก็เลยพาไปนอนบนโซฟาตัวยาว  ได้ยินเสียงดังออกมาจากครัวก็เลยถือวิสาสะเดินเข้ามาดูเผื่อว่าคนตัวขาวจะมีอะไรให้ช่วย

    “อ่อ!คุณคยองซู...ฟานฟ่านหลับแล้วเหรอครับ”  แม้จะตกใจจนสะดุ้งเบาๆเมื่ออยู่ๆอีกคนก็เดินเข้ามาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง  ถามถึงลูกสาวพลางก็ชะเงื้อหน้าออกไปทางห้องนั่งเล่น

    “รายนั้นหลับไปเรียบร้อยแล้วละ..นี่นายทำอะไรอยู่?”  เมื่อเห็นท่าทางดูเป็นห่วงลูกของคนตังขาวก็อดที่จะอมยิ้มไม่ได้

    “อ๋อ คือทำความสะอาดนั่นแหละครับ..คุณคยองซูหิวรึเปล่า? ให้ผมทำอะไรให้ทานดีมั้ยครับ”  พูดจบก็เตรียมจะเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อเตรียมทำอาหารให้แขก  แต่สองขาเรียวก็หยุดชะงักทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงอ้อมกอดจากด้านหลัง

    “..อี้ชิง..”  เสียงเรียกเบาๆมาจากด้านหลัง  พร้อมกับที่อี้ชิงก็รู้สึกถึงหยดน้ำอุ่นๆบนแผ่นหลัง  สองตาเบิกกว้างด้วยความตกใจและรีบหันมามองอีกคน

    “คุณคยองซู! เป็นอะไรครับ คุณร้องไห้ทำไม?”  อี้ชิงรีบเอื้อมมือมาปาดน้ำตาให้อีกคนที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาร้องไห้ออกมาอย่างเดียว 

    “ฮึก ฉันขอโทษนะอี้ชิง...ขอโทษทุกอย่างเลยนะ ฮึก”  สองมือเล็กเอื้อมมากอบกุมมือบางเอาไว้ เอ่ยขอโทษเสียยกใหญ่จนอีกคนตกใจมากทีเดียว  แต่ไม่รู้ว่าทำไมเพียงแค่เห็นรอยยิ้มของอี้ชิง และไหนจะมาทำดีกับเขาอีกทั้งๆที่เขาเคยร้ายด้วยสารพัด  ความผิดเมื่อครั้งก่อนก็ห้วนมาให้นึกถึง  ไม่เคยเลย  ไม่เคยมีเวลาหรือวันไหนที่เขาจะลืมสิ่งเลวร้ายที่เขาเคยทำไว้  เขารู้สึกผิดมาตลอด  มันเหมือนกับสิ่งน่ากลัวที่คอยหลอกหลอนเขาเรื่อยมา

     

     

     

    “ไม่เป็นอะไรนะครับ..ไม่เอานะไม่ร้องสิครับ  ผมไม่โกรธคุณหรอกนะ”  ดึงอีกคนเข้ามากอดปลอบเบาๆ  เขาเข้าใจว่าคยองซูคงจะรู้สึกผิดมาก  เพราะสิ่งที่คนตัวเล็กทำนั้นมันก็ร้ายแรงจริงๆ  แต่อี้ชิงเองก็ลืมมันไปหมดแล้ว เขาไม่นึกโกรธคยองซูอีกต่อไป  ไม่อย่างนั้นเขาจะมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทำไม

    “อี้ชิง..นายยกโทษให้ฉันเหรอ? ทำไม ทั้งๆที่ฉันร้ายกับนายสารพัดแต่ทำไม?  ทำไมนายไม่โกรธ ไม่เกลียดฉัน”  ดันตัวออกช้าๆ  มองหน้าอีกคนด้วยสีหน้าที่มีแต่คำถาม  ขนาดเขาเองเขายังไม่ให้อภัยตัวเองเลยที่ทำสิ่งผิดพลาดนั้นไป  แต่ทำไมอี้ชิงพูดเหมือนกับว่าไม่คิดอะไรอย่างนั้นแหละ

    “ใช่..ผมยกโทษให้คุณ  นานแล้วด้วย..ผมรู้และเข้าใจว่าสิ่งที่คุณทำคุณไม่ตั้งใจหรอก...ที่คุณทำไปตอนนั้นเพราะคุณรักคริสมาก  ผมเองก็ผิดที่เข้ามาทีหลัง..คนเรามันมีเหตุผลในการทำสิ่งต่างๆด้วยกันทั้งนั้น  และผมก็เข้าใจคุณ..และอีกอย่าง  ตอนนี้คุณก็กลับมาเป็นคยองซู คนดีเหมือนเดิม..เราเป็นเพื่อนกัน เหตุผลแค่นี้มันก็เพียงพอต่อการที่ผมจะให้อภัยคุณแล้วละ”  คำพูดทั้งหมดมันออกมาจากใจของอี้ชิงจริงๆและนั่นมันก็ทำให้คยองซูยิ้มออกทั้งๆที่น้ำตายังรินไหล  ถ้าเขาย้อนเวลากลับไปได้  เขาจะไม่มีวันเกลียดและทำร้ายอี้ชิงเลย

    “ขอบคุณ  ขอบคุณมากอี้ชิง..เออ แต่..แต่ตอนนี้ฉันไม่ได้รักคริสแล้วนะ นายอย่าเข้าใจผิดนะอี้ชิง”  ขอบคุณด้วยใจจริง  แต่ก็รีบแก้ต่างทันที  กลัวว่าอี้ชิงจะเข้าใจเขากับคริสผิดอีกละยุ่งเลย

    “ผมรู้ๆ..เพราะว่าตอนนี้คนที่คุณรักคือ..คุณคิม จงอิน ต่างหาก ฮ่ะๆ”  ส่ายหน้ากับความน่ารักของอีกคนที่พยายามแก้ต่างเพื่อไม่ให้เขาเข้าใจผิด  ตบท้ายด้วยการแซวเบาๆให้อีกคนได้หน้าขึ้นสี

    “อี้ชิง! ไม่ใช่สักหน่อยนะ..ไม่ใช่อย่างที่นายคิดสักหน่อย...บ้าจริง”

     

     

     

     

     

    “จงอิน!  คยองซูตะโกนเรียกอีกคนเบาๆเมื่อตอนแรกกะว่าจะออกมาดูสักหน่อยว่าคนผิวเข้มกลับมารึยัง  แต่พอเปิดประตูออกมาจากห้องอี้ชิงก็เห็นอีกคนกำลังจะเดินเข้าไปในห้องพอดี

    “คยองซู?  มาตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วเข้าไปทำอะไรในห้องคุณอี้ชิงอ่ะ?”  เมื่อหันมาเห็นคนตัวเล็กที่เดินออกมาจากห้องอี้ชิง  คำถามมากมายก็ผุดขึ้นมา  ตั้งแปลกใจและก็ดีใจไปด้วยที่เห็นอีกคนยืนอยู่ตรงนี้

    “ก็มาหานายนั่นแหละ  แต่นายยังไม่กลับมาฉันขี้เกียจมาเสียเที่ยวเลยขอไปรอนายที่ห้องอี้ชิง...ทำไม? คิดว่าฉันจะทำอะไรอีกรึไง?”  บอกจุดประสงค์การมาที่นี่ให้อีกคนได้กระจ่างแต่ก็ไม่ลืมที่จะถามข่อนขอดกลับไป

    “อะไรกัน  เปล่าสักหน่อย  ว่าแต่มาหาผม....คิดถึงอ่ะดิ”  ส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวันกลัวว่าคนตัวเล็กจะเข้าใจเขาผิดอีก  ยิ่งง้อยากอยู่ด้วย

    “ไม่ได้คิดถึงเหอะ! ก็...แค่มาหาไม่ได้รึไงก็คนมันว่างอ่ะ...งั้นฉันกลับก็ได้”  ไม่รู้ว่าทำไมต้องรู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าก็ไม่รู้  รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังหน้าแดงมากๆแค่ได้ยินคำถามแบบนั้นก็ถึงกลับไปไม่ถูกกันเลยทีเดียว 

    “ไม่กลับ!ๆๆ มารอผมตั้งนานเชียวนะ  ป่ะ เข้าไปในห้องกัน”  รีบวิ่งไปรั้งข้อมือบางเอาไว้เมื่อคนตัวเล็กพูดจบก็เตรียมหันหลังเดินไป

     

     

     

    “ผมแวะไปหาคุณที่ห้องมาด้วย  แต่ไม่เจอ”  พอเลิกงานแล้วจงอินก็แวะไปหาคยองซูที่คอนโดเหมือนกับทุกๆวันจนมันกลายเป็นกิจวัตประจำวันไปเสียแล้ว  แต่ก็ไม่เจอโทร.หาก็ไม่รับสายเขาเลยคิดว่าคนตัวเล็กคงจะมีงานเลยขับรถกลับคอนโดตัวเองแต่ก็ไม่นึกว่าจะมาเจออีกคนที่นี่

    “เจอได้ไงก็ฉันมารอนายที่นี่นิ”  ต่อว่าอย่างไม่จริงจังนัก  ก็รู้อยู่ว่าเขาอยู่ที่นี่แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดเรื่องนี้  แต่คยองซูไม่รู้หรอกว่าที่จงอินยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดเพราะเขาไม่รู้ว่าจะคุยเรื่องอะไรดี  เวลาอยู่กับคนตัวเล็กคนนี้ทีไรหัวใจมันก็เต้นแรงทุกครั้งไป  ชอบทำตัวไม่ถูก  ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรหรือพูดอะไรดี

    “นั่นสิ...ว่าแต่คุณมาหาผมมีอะไรรึเปล่า?”  หัวเราะหึๆในลำคอให้กับความซื่อบื่อของตัวเอง  พลางมือก็ยกขึ้นเกาท้ายทอยแก้เขิน

    “เอ่อ...ก็แค่มาหา..ฮึ่ม มาหาเพราะ...อยากมา”  เอาแล้วไง เขาว่าเขาพยายามที่จะควบคุมอารมณ์และการแสดงออกของตัวเองให้เป็นปกติแล้วนะ  แต่คยองซูก็รู้สึกไม่ต่างกับจงอินนั่นแหละ  รู้สึกใจเต้นแรงทุกครั้งที่อยู่กับคนผิวเข้มสองต่อสองแบบนี้ 

    “จริงเหรอ..อยากมาหาผม..ดีใจนะเนี่ย” แม้ว่าคยองซูจะพูดเบาๆท้ายประโยคแต่ก็คนที่ตั้งใจฟังอย่างดีอย่างคิม จงอิน ก็ได้ยินมันได้ไม่อยาก...ชัดเจนมากด้วย 

    “ดีใจบ้าอะไรของนาย...ก็แค่มาหาแค่นี้ เวอร์!  ว่าเข้าให้เพื่อปกปิดความเขินอาย  พอเขามาหาเข้าให้หน่อยทำเป็นดีอกดีใจ   ที่ตอนที่ไปหาเขาได้ทุกวี่ทุกวันที่คอนโดเขายังไม่แสดงออกขนาดนี้เลยว่า...ก็ดีใจเหมือนกัน

     

     

     

     

    “นี่นาย! ออกไปรอข้างนอกเลยไป เกะ-กะ!    เสียงหวานเอ่ยว่าคนตัวสูงที่ไม่ได้เข้ามาช่วยอะไรเลยแถมยังมาเดินเพ่นพ่านเกะกะในครัวอีก  วันนี้เขาอุตส่าห์ยอมลงมือทำอาหารให้แต่ยังไม่วายตามมาก่อกวนกันอีก

    “ไล่อีกแล้ว  ก็บอกว่าไม่ไปๆ นี่ถ้าคุณไล่อีกทีผมจะ...จะ..”

    “จะอะไร? นายจะทำอะไร?”  ไม่พูดเปล่ายังถือตะหลิวขึ้นทำท่าเหมือนกับว่าพร้อมจะตีอีกคนได้ทุกเมื่อถ้าหากยังไม่เลิกก่อกวนเขา  แต่ดูเหมือนว่าคนถูกขู่จะไม่ได้รู้สึกกลัวสักเท่าไหร่ เพราะมือหนารีบเอื้อมมาคว้าข้อมือบางเอาไว้ก่อนที่จะโดนฟาด

    “จูบ...จุ๊บๆๆๆๆๆ! ไงคร้าบบบบบ..”  พูดพร้อมกับเลื่อนหน้าเข้าใกล้อีกคนอย่างรวดเร็วแต่ไม่ได้ทำจริงอย่างที่พูด  ใบหน้าคมค้างใบหน้าไว้เพียงไม่ถึงคืบ  ใกล้จนสามารถสัมผัสลมหายใจอีกคนได้อย่างชัดเจน  แต่ก็ต้องรีบผละออกเมื่อโดนมืออีกข้างที่เขาไม่ได้จับเอาไว้ฟาดลงมาที่แขนอย่างแรง

    “ไอบ้า! โรคจิต! 

    “โอ่ย! เจ็บนะคยองซูย่า...ถ้าไม่อยากโดนผมจูบก็อย่าไล่กันสิ”  ลูบที่แขนตัวองป้อยๆ เห็นตัวเล็กแค่นี่แต่มือหนักชะมัด  แม้จะเจ็บตัวไปแบบนั้นแต่บนใบหน้าก็เปื้อนรอยยิ้มอยู่

    “ไม่ไล่ก็ไม่ไล่..เอ้า! หั่นสะ แล้วอย่าเกะกะด้วย”  วางตะกร้าหัวหอมให้อีกคนได้มีหน้าที่ทำจริงๆจังๆจะได้ไม่เดินเกะกะเขา

    “รับทราบครั้บผม!

     

     

     

    “ซี๊ดดด..คยองซูย่า ...โอ่ยๆ คยองซู..”  เสียงทุ้มเผลอครางออกมา  เรียกชื่ออีกคนเมื่อรับรู้ถึงอาการแสบที่ตา  มันแสบจนไม่สามารถลืมตาได้เลยแต่ดูเหมือนว่าอีกคนจะไม่ได้หันมาสนใจกันสักนิด

    “เรียกทำไม?”  แม้จะขานรับออกไปแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองสภาพอีกคนที่ตอนนี้แซบตามาก

    “อ่า..แสบ..โอ่ย แสบตาๆๆ คยองซูย่า! โอ่ยแสบตาๆๆๆๆ! ช่วยด้วยสิ”  คราวนี้เหมือนว่าจะทนไม่ไหวแล้ว  จะเดินไปล้างหน้าเองก็มองไม่เห็นทาง  ตะโกนเรียกอีกคนจนตอนแรกกะว่าจะไม่สนใจแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อได้ยินอีกคนร้องเรียกเสียงหลง

    “จงอิน!..ไปๆล้างตาเร็ว..นิ่งๆสิเดี๋ยวก็ล้ม บอกให้นิ่งๆ!  เข้าไปช่วยพาอีกคนเดินไปที่อ่างล้างจานเพื่อล้างตา  แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้จงอินจะไม่มีสติแล้ว  ก็คนมันแสบตาหนิ พยายามที่จะเดินเร็วๆแต่ด้วยความที่มองไม่เห็นทางทำให้จะเดินชนของล่น

    “แสบอ่า..โอ่ยๆ ซี๊ดดด..”

    “เอ้าก้มๆ...ลืมตาสิไม่งั้นมันจะล้างยังไงเล่า..ลืมตา..”   เมื่อเห็นว่าให้ก้มก็เงอะๆงะๆก็จัดการกดหัวให้ก้มเองสะเลย  จะมาว่าเขาใจร้ายไม่ได้นะก็แค่อยากช่วย..

     

     

     

    “เป็นไง?”  เมื่อล้างหน้าล้างตาเสร็จก็พาตัวปัญหาเดินมานั่งที่โซฟา  ดูเหมือนว่าจงอินจะโดนพิษของหัวหอมเล่นงานเข้าให้แล้ว

    “แสบอ่ะ..”  ยกมือขึ้นเตรียมจะขยี้ตาแต่ก็ถูกตีเสียก่อน  เขาแสบจริงๆนะไม่ได้แกล้ง  ดีนะที่แสบแค่ตาเดียวไม่อย่างนั้นแย่แน่เลย

    “ไปหาหมอมั้ย?..นี่! บอกว่าอย่าขยี้ตา ไป เดี๋ยวพาไปหาหมอ”  ตีมือหนาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเตรียมจะยกขึ้นขยี้ตาอีกแล้ว  ขอยอมรับได้มั้ยว่าที่จริงที่เขาให้จงอินหั่นหอมเพราะเขาตั้งใจจะแกล้งอีกคนที่มาวุ่นวายตอนที่เขากำลังทำอาหาร  แต่ไม่คิดว่ามันจะรุนแรงขนาดนี้สักหน่อย

      “คุณแกล้งผมเหรอ?  รู้นะ”  ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก  แต่ที่พูดไปก็ไม่รู้จริงๆอย่างที่พูดด้วย  แต่ขอให้พูดดักทางเอาไว้ก่อน

    “อะไร? นายอย่ามาใส่ร้ายฉันนะ ไปหาหมอเร็วๆ”  อุทานออกมาเสียงสูง  ดึงอีกคนให้รีบลุกขึ้นเพื่อพาไปหาหมอ  ปล่อยไว้แบบนี้เดี๋ยวจะอักแสบ

    “แหม..เสียงสูงเชียว ไปก็ไป แสบตาจะแย่แล้ว..”

     

     

     

     

     

    “อี้ชิงอ่า...ที่ร้ากก อี้ชิงงง”  เสียงทุ้มตะโกนเรียกภรรยาตัวขาวของตัวเองเสียงดังโหวกเหวกโวยวายทันทีที่กลับมาจากที่ทำงาน

    “คริส! ชู่ววว ลูกนอนอยู่”  อี้ชิงรีบวิ่งออกมาจากห้องนอนแทบจะทันทีที่ได้เย็นเสียงโวยวายของสามี  พลางวิ่งมาถึงก็ตรงเข้าไปตีแขนแกร่งทันทีเมื่อมาตะโกนไม่รู้เวล่ำเวลาเอาเสียเลย

    “โอ่ย..อี้ชิงอ่า  ขอโทษครับ  ลูกหลับเหรอ?”  เมื่อเห็นสีหน้าของคนตัวขาวที่อมลมจนแก้มป่องก็รีบเข้าไปออดอ้อนทันทีเพราะรู้ว่าตัวเองทำผิด

    “อื้ม..ทำไมกลับมาเร็วจังวันนี้ เหนื่อยมั้ย?”  เตรียมจะเดินเข้าไปในครัวเพื่อหยิบน้ำออกมาให้คนรัก  แต่ก็ถูกอีกคนโอบกอดจากด้านหลังเอาไว้ทำให้ไม่สามารถเดินต่อไปได้  แต่ก็ยินยอมที่จะให้มันเป็นแบบนั้น

    ฟอดดด! ไม่เหนื่อยเลย  ขอรางวัลหน่อยสิครับ”  ฝังจมูกลงบนผิวแก้มเนียน กระชับอ้อมกอดให้แน่นมากขึ้นอีก

    “ไหนบอกว่าไม่เหนื่อย..แล้วมาขอรางวัลทำไม” 

    “ง่า..ใจร้าย”

     

     

     

    “คริสไปอาบน้ำป่ะ เดี๋ยวฟานฟ่านตื่นจะได้กินข้าวกัน”  อี้ชิงเรียกให้คนตัวสูงที่นอนกอดลูกสาวอยู่บนที่นอนให้ไปอาบน้ำ

    “เออ! อี้ชิงลืมบอกไปอ่ะ  วันนี้คุณแม่อยากให้เราไปกินข้าวที่บ้านใหญ่ ท่านอยากจะเจอเราสามคน”  กระเด้งตัวขึ้นเตรียมจะเดินเข้าไปอาบน้ำตามที่อีกคนบอก  พลันก็นึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อตอนกลางวันคุณแม่ของเขาโทรศัพท์มาบอกว่ากลับมาจากดูงานที่ต่างประเทศแล้ว  อยากเจอเขา อี้ชิงและก็ลูก  เพราะตั้งแต่คราวนั้นที่อี้ชิงโกรธเขาจนหนีไปอี้ชิงกับฟานฟ่านก็ไม่ได้เจอคุณแม่ของเขาเลย  ส่วนเขานั้นก็เจอบ้างเพราะคุณนายอู๋ก็มาอยู่เป็นเพื่อนเขาบ่อยเหมือนกันตอนที่เฮิร์ทหนักๆ แต่เพราะว่าคุณนายอู๋จะต้องไปดูงานที่ต่างประเทศบ่อยๆทำให้ไม่ค่อยได้เจอกัน  แต่ว่าแม่เขาพึ่งกลับมาก็อยากจะเจอทั้งลูกชายลูกสะใภ้แล้วก็หลานสาวสุดที่รัก

    “เหรอ! ก็ดีเหมือนกันนะ นายรีบไปอาบน้ำไปเดี๋ยวฟานฟ่านก็จะตื่นแล้ว”  ก็ดีเหมือนกันเพราะเขาก็อยากจะเจอคุณนายอู๋เหมือนกัน  เพราะก็ไม่ได้เจอกันมานานแล้ว

    “อาบด้วยกันสิ..”  ชั่วพริบตาเดียวร่างสูงก็เข้ามายืนประชิดตัวอี้ชิงแล้ว  ไม่พอยังก้มตัวลงมากระซิบข้างหูชวนขนลุกได้ดี

    “มะ ไม่เอาแล้ว”  ถดคอหนีทันทีที่ถูกจมูกโด่งซุกเข้าที่ซอกคอขาว  เอาอีกแล้ว  มาแบบนี้อีกแล้วถ้าอี้ชิงไม่รีบห้ามตอนนี้มีหวังวันนี้ไม่ต้องได้ไปหาคุณนายอู๋แน่ๆ

    “เอาอะไรอี้ชิง...นายคิดอะไรของนาย ฉันไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย ไปอาบน้ำดีกว่า...ฮึฮึฮึ”  พูดทิ้งไว้เท่านั้นก็เดินผิวปากอารมณ์ดีที่ได้แกล้งอีกคนได้สำเร็จ  ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากทำอะไรอย่างที่ใจนึกเพียงแต่มันยังไม่ถึงเวลา  เพราะว่าวันนี้เขามีแผนแล้ว  หึหึ

     

     

     

     

    “อี้ชิงอ่า! ฟานฟ่าน! หลานย่า...”  ทันทีที่รถคันหรูของลูกชานจอดที่หน้าบ้าน  คุณนายเจ้าของบ้านที่แทบอดใจรอเวลานี้ไม่ไหวก็รีบวิ่งเข้ามาต้อนรับลูกสะใภ้กับหลานรักทันที

    “สวัสดีครับคุณแม่..สวัสดีคุณย่าสิคะคนเก่ง”  อี้ชิงโค้งให้อย่างนอบน้อมพร้อมกับบอกให้ลูกสาวที่อยู่ในอ้อมกอดทักทายคุณย่าด้วย  เด็กน้อยแม้จะยังไม่รู้เรื่องอะไรมากมายแต่ก็ยิ้มออกทันทีที่เห็นใบหน้าของผู้เป็นย่า  ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจอกันนานมากแต่เพราะความสัมพันธ์ของย่าหลานก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย

    “แอร๊! ฮ่ะๆๆ อุมอุม ยา ยา คิกๆ!  หนูน้อยอ้าแขนออกไปเป็นสิ่งที่แสดงว่าอยากให้คุณย่าอุ้ม  พอคุณนายอู๋เข้ามาอุ้มก็หัวเราะคิกคักอย่างมีความสุข

    “ต๊าย! คิดถึงคุณย่าเหรอคะลูก  น่ารักน่าชังจัง อี้ชิงเข้าบ้านลูก ข้างนอนอากาศหนาว เข้าบ้านกันนะคะคุณหลาน”  คุณนายเจ้าของบ้านที่ตอนนี้มีความสุขมากที่สุดเอ่ยชวนลูกสะใภ้ให้เข้าบ้าน  พลางตัวเองก็เดินนำเข้าไปก่อนแล้ว

    “เอาอีกแล้ว..คุณแม่ลืมฉันอีกแล้ว”  คริสเอ่ยขึ้นเมื่อลับหลังคุณนายอู๋  เป็นแบบนี้ทุกครั้งไปที่อี้ชิงมาหา แม่ของเขาก็แทบจะไม่เห็นหัวเขาอยู่แล้ว  และครั้งนี้ฟานฟ่านมาด้วย คริสอู๋ได้กลายเป็นคนไร้ตัวตนแน่คราวนี้

    “ฮึ เอาน่า...เข้าบ้านกัน” 

     

     

     

    “ไหนคะลูก  อันนี้หนูทานได้มั้ย?...ฮ่ะๆ เก่งจังเลยหลานย่า”  ตอนนี้บนโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยอาหารมากมายและที่เหมือนจะมีมากมายจนล้นห้องก็คงไม่พ้นความสุขที่ฟุ้งกระจายจนใครๆก็รับรู้ได้

    “แมมๆๆ”  ส่วนฟานฟ่านก็ช่างเอาอกเอาใจผู้เป็นย่าเสียเหลือเกิน  ไม่ว่าคุณนายอู๋จะป้อนอะไรให้ก็กินได้หมด

    “คุณแม่ครับ เดี๋ยวยัยหนูก็จุกหรอก”  คริสที่ก็พึ่งจะได้เอ่ยพูดกับผู้เป็นแม่เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาถึง  เขาทนมองอยู่นานแล้ว  แม่เขาเอาแต่ป้อนๆๆ  ส่วนลูกสาวเขาก็เอาแต่กินๆๆจนอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้  หันไปหาอี้ชิงเขาก็มองออกว่าอี้ชิงก็คิดไม่ต่างจากเขาแต่อี้ชิงน่ะ  ไม่กล้าพูดออกมาหรอก  เขาทนไม่ได้เลยพูดออกมาแทน

    “ยุ่ง!  แต่ก็คำเดียวจบ

    “คุณแม่...”  แม้จะเหนื่อยใจแต่ก็รู้ว่าทำอะไรไม่ได้  เพราะคำพูดของคุณแม่นั่นศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าอะไร  เขาเคยบอกไปแล้วว่าเขาไม่กล้าเสี่ยงกับอิทธิพลของผู้เป็นแม่

    “ไม่เอาน่าคริส...”  อี้ชิงเองก็ไม่อยากให้คริสอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ก็เอ่ยปากห้ามก่อน

    “อี้ชิงอ่า  ดูคุณแม่สิ..”  เอาอีกแล้ว  ได้โอกาสเมื่อไหร่ก็ขอให้ได้ออดอ้อนนิดๆหน่อยๆก็ยังดี

    “คริส...”  เสียงหวานกดต่ำลงเพื่อให้รู้ว่ามันไม่ใช่เวลาที่จะมาทำตัวงอแง  และดูเหมือนว่าคริสก็จะเชื่อด้วยสิ  ก็ดูสีหน้าอี้ชิงตอนนี้สิ  ยังกะจะขย้ำเขาได้ทุกเมื่อ

    “ครับ..”

     

     

     

    “นี่ฟานฟ่านกี่เดือนแล้วนะอี้ชิง”  หลังจากเสร็จสิ้นมื้อค่ำกันแล้วทั้งหมดก็มานั่งพูดคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคุณนายอู๋ก็ยังคงอุ้มหลานไว้อย่างนั้น

    “จะสิบเดือนแล้วครับ”  ตอบออกไปพลางใบหน้าหวานก็เปื้อนยิ้มอยู่ตลอด  วันเวลานั้นเร็วมาก เผลอแปบเดียวลูกสาวคนเดียวของเขาก็จะได้ฉลองครบรอบหนึ่งปีแล้ว

    “เหรอลูก? เร็วจังเลยน้าคุณหลานรัก  เอางี้นะคะ ถ้าหนูโตขึ้นอยากได้อะไรคุณย่าจะหามาให้หมดเลยนะคนดี”  เขาละปลื้มมาก  เขารักหลานคนนี้ที่สุดเลย รักดั่งดวงใจ  คอยดูนะเขาจะตามใจทุกอย่างและก็จะเป็นคุณย่าที่ดีที่สุดให้ได้

    “คุณแม่จะเลี้ยงลูกผมแบบตามใจไม่ได้นะครับ”  คริสที่นั่งเงียบมากนาน  ซึ่งมันเป็นปกติอยู่แล้วเอ่ยขึ้น  เมื่อรู้สึกว่าขัดใจกับคำพูดของแม่ตัวเอง  แต่ก็เหมือนว่าจะพูดไม่เข้าหูเอาสะเลย

    “เงียบไปเลยนะตาคริส! เดี๋ยวเถอะ คดีเก่ายังไม่ได้ชำระเลยนะที่ทำให้ลูกสะใภ้กับหลานสุดที่รักของแม่ต้องหนีไปเป็นครึ่งๆปีแบบนั้น  แหมตอนนั้นละฉันไม่น่าเข้าไปปลอบใจแกเลย  น่าจะให้ตรอมใจไปสะ  บังอาจมาทำร้ายจิตใจของลูกสะใภ้แม่ได้”  นึกแล้วมันก็น่าโมโหจริงๆ  ตอนแรกที่ชานยอลบอกว่าอี้ชิงพาฟานฟ่านหนีลูกชายตัวเองไปก็อยากจะตรงดิ่งไปฆ่าลูกชายตัวแสบให้มันรู้แล้วรู้รอด  แต่เพราะตอนนั้นเห็นสภาพที่แย่มากๆก็นึกสงสาร แต่พอมาวันนี้เห็นนั่งอี๋อ๋อกระหนุงกระหนิงกับเมียแล้วมันหมันไส้!

    “โธ่..คุณแม่ครับ..”

    “ไม่ต้องพูดแล้ว!  อี้ชิง..วันนี้ให้ฟานฟ่านมานอนกับแม่นะลูก  แม่อยากนอนกลับหลานนะลูก”  พูดกับลูกชายตัวเองนี่เสียงแข็งเชียว  แต่พอหันมาพูดกับลูกสะใภ้ตัวขาวนี่เสียงอ่อน  สองมาตรฐานอย่างเห็นได้ชัดเลย 

    “เออ...คือ..”  กึกกังนิดหน่อย  ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้ลูกมานอนกับย่า  แต่เพราะว่าเกรงใจคุณนายอู๋เพราะฟานฟ่านชอบตื่นตอนเช้าแล้วก็ร้องงอแง  และอีกอย่างฟานฟ่านไม่เคยนอนกับคนอื่นที่ไม่ใช่เขาก็กลัวว่าจะร้องอีก

    “ทำไมละอี้ชิง..นอนครับนอนเลย  ฝากฟานฟ่านด้วยนะรับคุณแม่”  พอเห็นว่าอี้ชิงอึกๆอักก็ตอบแทนเลย  ดีแล้วที่คุณแม่เขาพูดขึ้นมาจะได้เข้าแผนเขาพอดี

    “ดีมาก  นี่อี้ชิงลูก  ไม่ต้องห่วงหนอกนะ  ฟานฟ่านไม่อ้อนหรอก” 

    “ก็..ก็ได้ครับ  ฝากลูกด้วยนะครับ”

     

     

     

    “ฟานฟ่านลูก  วันนี้หนูนอนกับคุณย่านะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มะม๊ากับปะป๊าจะมารับนะ”  ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วก็ไม่อยากจะรบกวนเวลาของคุณนายอู๋ไหนจะฟานฟ่านที่งอแงขึ้นมาเพราะความง่วงทั้งอี้ชิงกับคริสเลยขอตัวกลับ

    “นี่อี้ชิง ไม่ต้องรับก็ได้ คุณแม่ครับถ้าคุณแม่คิดถึงหลานคุณแม่ก็อยู่กับหลานหลายๆวันก็ได้นะครับ”  แต่คริสกลับไปคิดเหมือนอี้ชิง  ไม่ใช่ว่าคริสไม่ห่วงไม่คิดถึงลูกแต่ก็เข้าใจคุณแม่ด้วยว่าท่านก็อยากจะอยู่กับหลานนานๆ

    “เอาล่ะๆ เดี๋ยวค่อยว่ากัน  นี่ก็ดึกแล้วเดี๋ยวแม่จะพาหลานไปนอน  เราสองคนก็กลับกันดีๆละ  คริส!แกห้ามขับรถเร็วรู้มั้ย?”  แม้จะเห็นด้วยกับลูกชายเต็มร้อยแต่ก็เข้าใจอี้ชิงด้วย  คุณนายอู๋ก็รู้ว่าอี้ชิงทั้งหวงทั้งห่วงลูกเลยตัดปัญหาโดยให้ทั้งสองคนกลับไปก่อน

    “ครับๆคุณแม่  ป่ะ อี้ชิง...ฟานฟ่านลูกปะป๊ากลับก่อนนะคะ ฟอด!  ตรงเข้าไปหอมแก้มลูกสาวหนึ่งทีก่อนจะโค้งลาคุณแม่แล้วเดินขึ้นรถ  ซึ่งอี้ชิงก็ทำเหมือนกัน  แต่ก่อนที่ทั้งสองจะเดินขึ้นรถไปนั้นคุณนายอู๋ก็เรียกคนตัวขาวเอาไว้ก่อน

    “เดี๋ยวอี้ชิงลูก”

    “ครับคุณแม่?”  เสียงหวานขานรับพร้อมกับหันหน้าไปหา  แต่ก็ต้องก้มหน้าฉับพลันด้วยความอายของประโยคที่คุณแม่ของสามีพูด

    “นี่..รีบมีหลานให้แม่อีกสักคนสองคนนะอี้ชิงอ่า..ฟานฟ่านจะได้มีเพื่อน”

    “เอ่อ..คะ ครับ..”

     

     

     

     

     

    “นี่อี้ชิงอ่า...เมื่อกี้ที่คุณแม่พูดอ่ะ  ตรงใจฉันเลยรู้มั้ย?”  ตั้งแต่ออกมาจกบ้านของคุณนายตระกูลอู๋จนกลับมาอาบน้ำเตรียมเข้านอนแล้วอี้ชิงก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ  ในหัวก็คิดอยู่เสมอว่าวันนี้คริสต้องทำอะไรเขาแน่ๆเพราะว่าฟานฟ่านไม่อยู่  พลันนึกแล้วก็สงสัยว่านี่เป็นแผนของคนตัวสูงรึเปล่า

    “รู้สิก็นายเคยบอกกับฉันแบบนั้นเหมือนกัน” 

    “งั้นเราอย่าช้ากันเลยนะ...”  พูดจบก็ผลักร่างอีกคนให้ล้มลงบนเตียงกว้างทันที  เขาละนึกขอบคุณคุณแม่มากจริงๆที่ขอให้ฟานฟ่านไปนอนด้วย  เข้าแผนพอดี คราวนี้แหละอยู่กันสองต่อสองกับอี้ชิงแบบนี้อี้ชิงไม่มีทางรอดแน่

    “คริส! เออ...นี่เป็นแผนนายใช่มั้ยที่ให้ลูกไปนอนบ้านคุณแม่อ่ะ!?”  ในที่สุดก็ถามออกไปจนได้  พลางมือก็ค่อยปักป่ายมือหนาที่สอดเข้ามาในเสื้อนอนตัวบาง

    “ที่เตรียมไว้ก็แบบนั้น..แต่พอดีว่าคุณแม่พูดขึ้นก่อน..ก็ตรงแผนเป๊ะ!  พูดจบก็ประจบริมฝีปากเรียวลงบนริมฝีปากอวบอิ่มทันที  เนิ่นนานช่วงช้า  อ่อนโยนและค่อยๆเร่งเร้าขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ

    “อะ อื้ม คะคริส..เดี๋ยว..คริส หายใจ...ไม่ออก”  อี้ชิงรีบท้วงขึ้นเมื่อรู้สึกเหมือนลมหายใจขาดห้วงซึ่งคริสก็ผละริมฝีปากออกช้าๆและไม่รอให้เสียเวลาก็ประกบริมฝีปากลงไปอีกครั้ง

     

     

     

     

    “อื้ม..อี้ชิงอ่า..อะไรอีกครับ”  เสียงทุ้มทักขึ้นเมื่อกำลังไปได้สวยคนตัวเล็กก็เบี่ยงหน้าหลบการสัมผัสไปมา

    “คริส...ฉันถามจริงๆนะ นายอยากมีลูกหรือนายแค่ต้องการตัวฉัน”  ไม่รู้ว่าอะไรฉุกให้เขาคิดแบบนั้น  แต่ก็คิดจริงๆ  เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าที่คริสทำแบบนี้กับเขาบ่อยๆเป็นเพราะอยากมีลูกอีกคนเหมือนที่ปากบอกหรือเป็นเพียงเพราะความโหยหาหื่นกระหายในตัวของเขากันแน่

    “ทำไมถามแบบนั้น?”  ตอนนี้อารมณ์ความต้องการเมื่อกี้หายไปเกือบหมดแล้ว  มีแต่ความสงสัย  อี้ชิงถามเขาแบบนี้หมายความว่ายังไง

    “ฉันแค่ไม่แน่ใจว่านายทำแบบนี้เพียงเพราะรักฉัน...หรือต้องการ ตัว ฉันกันแน่....”  พูดไปก็รู้สึกร้อนผ่าวๆที่ขอบตาขึ้นมาเสียดื้อๆ  ไม่รู้ว่าทำไมถึงเกิดคิดขึ้นมาแบบนั้น  ไม่รู้ว่าทำไมถึงถามออกไปแบบนั้น  แค่ได้ยินเสียงที่ดูเหมือนว่าสะกดอารมณ์โกรธของคริสที่ถามกลับมามันยิ่งทำให้อยากร้องไห้ขึ้นมา

    “ฉันถามว่าทำไมนายถึงถามแบบนั้น!!  อารมณ์ตอนนี้มีเพียงอย่างเดียวคือโกรธ  นี่อี้ชิงเห็นเขาเป็นอะไร  เห็นเขาเป็นไอบ้าหื่นกามขนาดนั้นเลยหรือยังไงกัน  การที่เขาอยากจะมีอะไรกับคนที่เขารักมันผิดมากขนาดนั้นเลยหรือยังไงกัน

    “ฮึก! ฉันไม่รู้ แค่อยากรู้เฉยๆ ฮึก นายโกรธเหรอ..”  น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่  แค่คริสตะคอกกลับมาแบบนั้นมันก็ทำให้หัวใจกระตุกทันที

    “ฉันรักนาย! ที่ฉันอยากมีอะไรกับนายเพราะฉันรักนายได้ยินมั้ยว่าฉันรักนายอี้ชิง! ...เฮ้อ  ฉันอยากมีลูกอีกคน...แต่ถ้านายยังไม่พร้อมนายก็บอกฉันสิ”  เผลอตะโกนใส่อีกคนไปเพราะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้และนั่นก็ยิ่งทำให้อี้ชิงยิ่งปล่อยโฮออกมาอีก

    “ฮึก ฉันรู้แล้ว..ขอโทษนะ ฮึก ฉัน แค่อยากรู้เฉยๆ ทำไมนายต้องดุด้วยละคริส? ใจร้ายชะมัดเลย ฮือ...”  ที่ถามก็ไม่ใช่ว่าคิดแบบนั้นจริงๆจังๆอะไร เพียงแต่แค่อยากถามเพื่อความแน่ใจเฉยๆแต่ดันถูกดุสะอย่างนั้น

    “โอ๋ๆ อี้ชิง  ไม่ร้องนะไม่ร้องแล้วนะครับ...ขอโทษนะ ฉันแค่ไม่เข้าใจว่านายถามทำไม แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วนะ ไม่เป็นอะไรนะครับ เค้าขอโทษนะอี้ชิงอ่า...”  ดึงอีกคนเข้ามาโอบกอดปลอบโยน  อยากจะทึ้งหัวตัวเองให้แรงๆสะทีสองทีที่พูดทำร้ายคนตัวเล็กคนนี้

    “อื้อ..แต่..อึก แต่นายอย่าดุฉันอีกนะ..ไม่เอาแล้วนะ”  กอดกลับอีกคน  ฝังใบหน้าเข้ากับอกแกร่งที่อบอุ่นเสมอ

    “ครับๆ สัญญาเลยว่าจะไม่ดุอีกแล้ว  คราวหน้าถ้านายไม่อยากหรือไม่พร้อมนายก็บอกฉันสิ..”

    “ก็พยายามบอก..แต่นายเคยฟังที่ไหนกัน”  บ่นข่อนขอดเบาๆกับตัวเอง  ทำมาเป็นพูดดีไป  เขาห้ามทีไรก็ไม่สามารถหยุดได้เลยสักทีจนสุดท้ายเขาก็ต้องยอมทุกครั้งไป

    “ก็ฉันรักนายนี่  แค่เห็นหน้ากดอดใจไม่ไหวแล้ว”

    “บ้า..เวอร์ไป”

    “พูดจริงนะอี้ชิงอ่า...งั้นคราวนี้  ถ้าฉันขอ...นายจะยอมมั้ย?”  เอาล่ะ คราวนี้เขาจะต้องสะกดอารมณ์ให้ได้  เขาจะขออี้ชิงและให้อี้ชิงอนุญาตก่อนเขาถึงจะทำ

    “...มาแบบนี้อีกแล้ว...”

    “ขอ..ได้มั้ยครับ...ที่รักของผม”

    “ขอดีๆแบบนี้...ยอมก็ได้..”

    “เยส! รักอี้ชิงที่สุดเลยครับ...”

     

     

     

     

     

     

     

    ค่ำคืนนี้มันอีกแสนยาวไกล....คุณว่ามั้ย?

     

     

     

     

     

    .................................

    TBC.

    แท๊นแทนแท้นนนนนนนนนนนนนนน!!!!!

    มาต่อภาคสองแล้วน้า  ตามที่ใครๆต้องการรรรรรรรรรรรรรรรร (ใครย่ะ??)

    มาต่อแล้วน้าที่ร้ากกกกกกกกกกกกก

    ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรมากนะ  บางคนอาจจะแบบ พี่คริสแกจะมาอารมณ์ไหนค่ะ!!

    ตอนนี้ขอมาเอาใจคู่ไคโด้เขาหน่อย  หวานกันเบาๆอิอิอิ

    ต่อไปนี้อาจจะเจอบทหื่นของพี่คริสอีกนะ  แอบสงสารอี้เบาๆที่ต้องนับศึกหนัก ฮ่ะๆๆๆๆ

    ไม่มีอะไรจะพูดแล้วอ่ะ  ชอบไม่ชอบยังไงก็เม้นท์บอกกันเยอะน้า เป็นกำลังใจให้เค้า 5555555

    ฝากแชร์ ฝากโหวต และที่สำคัญ

    อย่าลืม  เม้นท์!!!!!!!

    @eiraklay

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×