ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Ep7
Ep7 ไปมหาลัย ^^
ตึงงงงงงงงง ตึงงงงงงงงง
"แบมมมมมมม"
ตึง
"แบม ตื่นได้แล้วนี้มันเที่ยงแล้วน่ะ"
ตึก
"โอ้ยยยยยย"
ผมขยี่ตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆและก็พบกับคนร่างข้อนข้างใหญ่ยืนอยู่เบื่องบนง่าาาาาาา ผมจะนอนน่ะเนี้ย
"เที่ยงแล้ว ตื่น"
เสียงของคนร่างใหญ่พูดขึ้นพร้อมเอาเท้ามาเขี่ยๆร่างของผม ง่าาาาบอกว่าจะนอนไง
"แบมตื่น"
เสียงดุดันของคนร่างใหญ่พูดขึ้นอีกรอบ อืมๆๆๆตื่นก็ตื่น ผมลุกขึ้นยืนอย่างมึนทำให้คนตรงหน้าต้องช่วยพยุงผมเพราะกลัวผมจะล่วงลงไปนอนกับพื้นอีกรอบ
"ไหวไหมแบม"
เสียงของคนร่างใหญ่พูดขึ้นด้วยความอ่อนโยนขึ้นกว่าเมื่อกี้ ผมหันไปมองเขา
"พี่มาร์ค แบมง่วงนอนนนนนนนน"
พี่มาร์ควางผมลงบนที่นอนแล้วนั่งลงข้างๆก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้านิดๆว่า
"แต่เราต้องไปโรงเรียนน่ะแบม"
พี่มาร์คก้มลงมามองสภาพของผมตอนนี้ก่อนที่จะส่ายหัวอย่าเหนื่อยใจ อืม ผมได้ยินเสียงถอนหายใจพี่มาร์คด้วย
"แล้วแต่แบมแล้วกัน แม่ดุไม่รูด้วยน่ะ"
ง่า เมื่อกี้ใครบอกแม่ดุ ผมนี่รีบลุกขึ้นเลยครับ ผมวิ่งฉิวไปหยิบผ้าเช็ดตัวและวิ่งเข้าห้องน้ำอย่ารวดเร็ว
........ที่มหาลัย.........
อะไรกันเนี้ยคนที่อยู่มหาลัยมันไม่ใช่ผมซักหน่อยแล้วทำไมผมต้องมาด้วยเนี้ย ก็ในเมื่อคนที่อยู่มหาลัยคือพี่มาร์คนี่
"แบม แบมฟังอยู่เปล่าเนี้ย"
เสียงพี่มาร์คดังขึ้นมาทำให้ผมหลุดจากภวังความคิดของผม
"ครับ เมื่อกี่พี่มาร์คพูดว่าอะไรน่ะครับ"
ผมหันไปตอบพี่มาร์คด้วยคำถามและผมก็ได้ยินพี่มาร์คถอนหายใจอีกแล้วววว
"พี่บอกว่าตอนพี่สอบอ่ะ จะไปไหนก่อนก็ได้จะไปเที่ยวก็ได้"
"ถ้าอย่างนั้นผมไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะครับ"
ผมหันไปถามพี่มาร์คด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ พี่มาร์คพยักหน้ารับหลายครั้ง
"งั้นพี่มาร์คก็กลับบ้านเองสิน่ะครับ เย้ "
"เปล่า ก็ให้แบมมารับพี่ไง"
ผมเพลอพูดสิ่งที่ผมไม่ควรพูดอย่างมากกกกก โอ้ไม่ พี่มาร์คพูดเสร็จก็เดินจากไปเฉยเลยไม่บอกลากันสักคำใจร้ายจัง ที่เวลาอ้อนเราให้มาส่งที่มหาลัยนี้แหมเสียงหวานเชียวชิ๊งอล เอะนั้นพี่มาร์คเดินไปหาใครอ่ะเนี้ย
เสียงจียองพูดสะดุดนิดๆทำเอาทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันหันกลับกันหมดไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ที่อยู่ๆเหตุการณ์ก็เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง
O W E N TM.ตึงงงงงงงงง ตึงงงงงงงงง
"แบมมมมมมม"
ตึง
"แบม ตื่นได้แล้วนี้มันเที่ยงแล้วน่ะ"
ตึก
"โอ้ยยยยยย"
ผมขยี่ตาตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆและก็พบกับคนร่างข้อนข้างใหญ่ยืนอยู่เบื่องบนง่าาาาาาา ผมจะนอนน่ะเนี้ย
"เที่ยงแล้ว ตื่น"
เสียงของคนร่างใหญ่พูดขึ้นพร้อมเอาเท้ามาเขี่ยๆร่างของผม ง่าาาาบอกว่าจะนอนไง
"แบมตื่น"
เสียงดุดันของคนร่างใหญ่พูดขึ้นอีกรอบ อืมๆๆๆตื่นก็ตื่น ผมลุกขึ้นยืนอย่างมึนทำให้คนตรงหน้าต้องช่วยพยุงผมเพราะกลัวผมจะล่วงลงไปนอนกับพื้นอีกรอบ
"ไหวไหมแบม"
เสียงของคนร่างใหญ่พูดขึ้นด้วยความอ่อนโยนขึ้นกว่าเมื่อกี้ ผมหันไปมองเขา
"พี่มาร์ค แบมง่วงนอนนนนนนนน"
พี่มาร์ควางผมลงบนที่นอนแล้วนั่งลงข้างๆก่อนที่จะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้านิดๆว่า
"แต่เราต้องไปโรงเรียนน่ะแบม"
พี่มาร์คก้มลงมามองสภาพของผมตอนนี้ก่อนที่จะส่ายหัวอย่าเหนื่อยใจ อืม ผมได้ยินเสียงถอนหายใจพี่มาร์คด้วย
"แล้วแต่แบมแล้วกัน แม่ดุไม่รูด้วยน่ะ"
ง่า เมื่อกี้ใครบอกแม่ดุ ผมนี่รีบลุกขึ้นเลยครับ ผมวิ่งฉิวไปหยิบผ้าเช็ดตัวและวิ่งเข้าห้องน้ำอย่ารวดเร็ว
........ที่มหาลัย.........
อะไรกันเนี้ยคนที่อยู่มหาลัยมันไม่ใช่ผมซักหน่อยแล้วทำไมผมต้องมาด้วยเนี้ย ก็ในเมื่อคนที่อยู่มหาลัยคือพี่มาร์คนี่
"แบม แบมฟังอยู่เปล่าเนี้ย"
เสียงพี่มาร์คดังขึ้นมาทำให้ผมหลุดจากภวังความคิดของผม
"ครับ เมื่อกี่พี่มาร์คพูดว่าอะไรน่ะครับ"
ผมหันไปตอบพี่มาร์คด้วยคำถามและผมก็ได้ยินพี่มาร์คถอนหายใจอีกแล้วววว
"พี่บอกว่าตอนพี่สอบอ่ะ จะไปไหนก่อนก็ได้จะไปเที่ยวก็ได้"
"ถ้าอย่างนั้นผมไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะครับ"
ผมหันไปถามพี่มาร์คด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจ พี่มาร์คพยักหน้ารับหลายครั้ง
"งั้นพี่มาร์คก็กลับบ้านเองสิน่ะครับ เย้ "
"เปล่า ก็ให้แบมมารับพี่ไง"
ผมเพลอพูดสิ่งที่ผมไม่ควรพูดอย่างมากกกกก โอ้ไม่ พี่มาร์คพูดเสร็จก็เดินจากไปเฉยเลยไม่บอกลากันสักคำใจร้ายจัง ที่เวลาอ้อนเราให้มาส่งที่มหาลัยนี้แหมเสียงหวานเชียวชิ๊งอล เอะนั้นพี่มาร์คเดินไปหาใครอ่ะเนี้ย
……...ฮาจิฮจิมา~~~~………
หลังจากที่พี่มาร์คเดินไปถึงผู้หญิงคนนั้นพอดี เสียงโทรศัพน์ของผมก็ดังขึ้นมาผมก้มลงไปหยิบโทรศัพน์มือถือในกระเป๋ากางเกงยีนยาวถึงตาตุ่ม ผมมองเบอร์ที่โทรมาก็ได้พบกับความว่างและว่างเปล่าในสมองของผมเพราะคนที่โทรมานั้นเป็นคนที่ผมรอคอยมานาน
"แบมจะกลับก่อนก็ได้น่ะไม่ต้องรอพี่สมัครสอบแล้วก็ได้พี่มีเพื่อนแล้ว"
เสียงพี่มาร์คดังขึ้นมาเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาด้วย ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นแต่ไม่วายเสียงโทรศัพน์ของผมก็ยังดังอยู่
"แบม...."
ผมหยุดเดินและหันไปสบตากับคนที่เรียกผมเอาไว้
"ครับ พี่มาร์ค"
ผมพูดตอบพี่มาร์คแล้วทำหน้างงว่าพี่มาร์คจะเรียกทำไม
"ทำไมไม่รับโทรศัพน์อ่ะ มันหนวกหู"
ผมก้มลงมองโทรศัพน์ที่ยังคงดังอยู่เช่นเคย และก็เงยหน้าพี่มาร์คและตอบพี่มาร์คไปด้วยสีหน้ากวนๆ เอ้าก็มันเกียวกันไหมหล่ะผมกับพี่อยู่กันตั้งไกลแต่กลับได้ยินเองทำไมอีกอย่างผมจะรับหรื อไม่รับมันก็เรื่องของผมจริงไหมหล่ะครับ
"ครับ เดียวขึ้นรถผมค่อยรับครับ"
หลังจากที่ผมหันไปตอบพี่มาร์คแล้วผมก็หันกลับมาเดินต่อเพื่อความสบายใจของพี่มาร์คเขา
~~~ลานจอดรถ~~~
ติ้ด
"สวัสดีครับ"
ผมรับโทรศัพท์จากคนปลายสายแล้วพูดทักทายไปด้วยเสียงปกติ
(แบม มีไรหรอที่จะคุยกับพี่)
คนปลายสายทักมาแต่ไม่ได้เป็นประโยคคำถามผมนิ่งเงียบไปไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย ผมค่อยๆก้มหน้าลงแล้วก็ต้องหยิบกุญแจออกจากกระเป๋ากางเกงข้างซ้ายก่อนที่จะกดปุ่มปลดเล็ค ตี๊ดๆ เสียงสัญญาณรถดังขึ้นผมเอื้อมมือไปเปิดประตูแต่คนปลายสายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อมาอีกเลยผมเปิดประตูและเอื้อมขาเข้าไปนั่งที่คนขับก่อนที่จะสตาร์รถและปิดประตู
"ที่ผมจะพูดก็คือเรื่องที่เรา..."
ก๊อกๆๆๆ
"แบมๆเปิดประตูให้เค้าหน่อยสิ"
เสียงเคาะกระจกทางฝั่วคนขับดังขึ้นทำให้ผมสะดุ่งและหันไปมองหน้าผู้มาเยือน
(เสียงใครอ่ะแบม)
คนปลายสายพูดถามผมด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมผมเปิดกระจกให้กับผู้สาเยือนแล้วยิ้มให้น้อยๆอ่าคนคนนี้หน้าคุ้นๆแหะแอะว่าแต่เมื่อกี่คนคนนี้เรียกขื่อผมงั้นหรอเขารู้จักผมด้วยหรอ
"อ่อเพื่อนมั้งครับ งั้นแค่นี้ก่อนน่ะครับ"
ติ้ด ผมกดวางสายและเก็บโทรศัพท์ลงก่อนที่จะหันหน้าไปมองคนข้างๆ
"ไง ไม่เจอกันนานเลยน่ะแบม สบายดีมัย"
เสียงคนคนนี้ก็คุ้นเหมือนกัน อืมมมมผมเคยเจอคนคนนี้ด้วยหรอเนี้ยทำไมผมจำไม่ได้เลยหล่ะ คนคนนั้นทำหน้างงก่อนที่จะส่งยิ้มอีกทีให้ผมคนคนนั้นใส่เสื้อสีดหลืองครีมมีหมวกสีน้ำตาลห้อยอยู่ข้างหลังใส่กางเกงยีนสียีนเข้มยาวจนถึงข้อเท้าร้องเท่าสีดำสวยเป็นรองเท้าผ้า โห!!! ดูท่าคนคนนี้จะรวยใช่เล่นเลยน่ะเนี้ย
"หืออะไรกันจำกันไม่ได้หรอแบม"
คนคนนี้พูดออมสงสัยเห็นผมเงียบไปนานคงรู้ว่าผมนึกถึงเขาไม่ออก คนคนนั้นดูสีหน้าเศร้าศร้อยอย่างเห็นได้ชัดผมก้มหน้าลงเพื่อคิดทบทวนใบหน้าหวานหล่อของคนคนนี้ผมเงยหน้าขึ้นปรากฎว่าใบหน้าของเราห่างกันเพียงคืบเดียวคนคนนั้นยิ้มกว้างให้ผมก่อนที่จะพูดกับผมว่า
"ถ้างั้นเดียวผมจะทำให้แบมจำผมได้เอง ^^"
พูดจบคนคนนั้นก็ยื่นหน้าเข้ามาเลื่อยๆทำให้ผมต้องขยับหนีแต่คนคนนั้นก็เอื่อมมือมาดึงตัวผมไวทำให้ตอนนี้หน้าเราอยู่ห่างกันไม่ถึง2นิ้วแล้วผมหลับตาปรี๋ก่อนที่จะนึกคำที่ทำให้ตัวเองรอดจากการกระทำของคนคนนี้
"ผะ ผมขอ คำใบ้หน่อยครับ"
คนคนนั้นหยุดนิ่งก่อนที่จะยิ้มลางๆให้ผมก่อนที่จะดันตัวเองออกจากผมและเขาก็ได้ยืนนิ่งมือข้างนึงท้าวเอวอีกข้างนึงจับคางทำสีหน้าเหมือนกำลังขุ่นคิดอะไรอยู่และอยู่เขาก็ได้ดีดนิ้วเป็นเชิงว่านึกออกแล้ว
"อ่อๆๆๆ แบมตอนเด็กไงตอนเด็ก"
ตอนเด็กหรอ ตอนเด็กผมเคยมีเพื่อนด้วยหรออืมมมนึกไม่ออกแหะผมเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะส่ายหน้าให้กับคนคนนั้น
"เฮ้ยยยยังสินะ อืม!! สวัสดีแบมมาเป็นเพื่อนกับเรามัย"
ห้ะ??? อะไรกันอ่ะประโยคนี้ดูคุ้นๆชอบกลแหะเหมือนผมเคยได้ยินมันมาจากไหนสักที่นึงแต่ก็จำไม่ได้ว่าที่ไหน ผมเงยหน้าอีกครั้งแต่ครั้งนี้ผมยังไม่ได้ทำอะไรคนคนนั้นก็ได้ถอนหายใจออกมาก่อน ห้ะๆๆคงจะรู้แล้วสิน่ะว่ายังไงผมก็จำไม่ได้อ่ะ
"เราชื่อยูคยอม แบมชอบเรียกเราว่ายูคมี่ จำได้มัยแบมมี่"
แบมมี่หรอ??? นึงสิแบมนึก อืมมมม ขอโทดน่ะยูค แบมจำยูคไม่ได้อ่าฮืออออออออ ผมหันไปมองหน้ายูคยอมก่อนที่จะส่ายหน้าให้เล็กน้อยผมเห็นว่าสีหน้าของยูคยอมดูเจือจางลงไปอย่างเห็นได้ข่อนข้างชัด จากที่ยิ้มกว้างใบหน้าแจ่มใจตอนนี้รอยยิ้มนั้นได้หายไปจากใบหน้าที่หวานหล่อของยูคยอม ผมยิ้มบางๆให้ยูคก่อนที่จะพูดบางอย่างออกไปเพื่อทำใหคนคนนั้นยิ้มได้อีกครั้งถึงแม้มันจะเป็นอะไรที่เวลาคนคนนั้นรู้และทำให้รู้สึกเจ็บปวดก็ตาม
"อ่อๆ ยูคยอมมี่นี้เอง อ่อๆๆจำได้แล้วๆ เป็นไงบ้างสบายดีมัยเพื่อน ฮ่าๆๆๆ"
ผมหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนว่ากำลังโกหกแต่ดูท่างคนคนนั้นจะไม่มีท่าทีอะไรเลยคนคนนั้นหันไปมองสายลมที่พัดผ่านมาเบาๆก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าผมต่อ
"ไม่ต้องโกหกหรอ ผมรู้ว่าแบมจำผมไม่ได้ ไม่ต้องฝืนทำเป็นจำได้หรอกแบม"
เสียงยูคยอมดูเบาและเศร้าลงจากทีแรกที่เจอกัน
"อะเออ ถ้าอย่างนั้นก็เดียวแบมพายูคไปเลี้ยงข้าวเอามัยเผื่อว่าแบมจะจำยูคได้เอามัยยูคเดียวแบมเลี้ยงเอง"
"ก็น่าสนนะ ไปสิ"
~~~ร้านอาหารJYP restaurant~~~
"อ่าพี่สาวครับขอเมนูหน่อยครับ"
ผมพายูคยอมมาที่ร้านอาหารประจำของผมร้านนี้ผมกับจินยองชอบมากินด้วยปันอยู่บ่อยๆตอนที่พี่เขายังอยู่ที่นี้ ผมหันไปมองหน้ายูคยอมก่อนจะยิ้มให้บางๆก่อนที่สาวเสิร์ฟจะยื่นเมนูมาให้เราสองคน
"แหมน้องแบมวันนี้หนุ่มพามาเลี้ยงหรอจร๊า น่ารักเชียว"
เสียงสาวเสิร์ฟทักขึ้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนที่จะยิ้มให้แล้วตอบไปแบบเขิลๆว่า
"ฮ่าๆๆ คนเลี้ยงคือผมต่างหากครับพี่จีน่า"
ผมตอบไปหัวเราะแก้เกลอไปพี่จีน่าที่เป็นสาวเสิร์ฟยิ้มให้ก่อนที่ตะเดินออกไปจากโต๊ะ ผมหันไปมองหน้ายูคยอมก่อนที่จะก้มลงดูเมนูต่อ
"รู้สึกไม่ค่อยหิวเลยอ่า ค่อยกินได้ม่ะ"
เสียงของยูคยอมทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมาจากเมนูก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆแล้วค่อยๆวางเมนู
"แล้วยูคยอมจะไปไหนหล่ะ"
ผมถามยูคยอมแล้วลุกขึ้นเพื่อนที่จะไปเดินเล่นกับยูคยอมแต่ยูคยอมกับส่ายหน้าก่อนที่จะยิ้มให้ผมและเดินมากดตัวผมให้นั่งลงไปเหมือนเดิมยูคยอมเดินไปนั่งที่ก่อนที่จะเอามือท้าวคางและเอียงคอเล็กน้องด้วยตากลมเล็กสบตากับผม
"นี่แบมเล่าเรื่องตอนที่อยู่ม.ต้นให้ฟังหน่อยสิ"
ยูคยอมนั่งมองหน้าผมและยิ้มน้อยๆคำพูดของยูคยอมทำให้ผมสะอึกเล็กน้อยส่วนตัวผมยังไม่อยากขุดมันออกมาเลยแต่ยูคยอมขอมาทั้งทีก็ต้องทำให้อ่ะน่ะค่าที่จำเพื่อนสมัยประถมไม่ได้ ผมก้มหน้าลงก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้ยูคยอม
"คือเรื่องตอนม.ต้นผมลืมไปแล้วอ่ะ ฮ่าาาๆๆๆ"
ผมหัวเราะกลบเกลื่อนเผื่อให้คนตรงหน้าจับผิดไม่ได้
"จริงหรอ ที่ว่าจำไม่ได้อ่ะ"
เสียงนี้คุ้นๆจังผมจ้องหน้ายูคยอมแต่ยูคยอมก็สายหัวให้ผมและใช้นิ้วชี้มาทางข้างหลังผม ผมหันกลับไปมองตามนิ้วของยูคยอมและก็ต้องตกใจเมื่อพบกับเจ้าของเสียง
"พี่จะ จินยอง!!!!"
"ไงแบม"
ผมอุทานออกไปทำให้จินยองยิ้มให้ผมแต่หลังจากที่ผมทักจินยอง(ทักแบบอึ่งๆ)ก็มีใครอีกคนหนึ่งกระโดดออกมาทางข้างหลังของจินยองแต่พอคนคนนั้นเห็นผมก็ได้ทักผมขึ้นด้วยท่าทางร่าเริง
"พี่แจ็คสัน"
ผมเอ่ยทักคนที่มากับจินยอง อ่าพี่แจ็คสันหล่อขึ้นเยอะเลยน่ะเนี้ยผมลุกขึ้นยืนและหันกลับไปเผชิญหน้ากับจินยองและพี่แจ็คสัน ผมยิ้มให้พี่แจ็คสันเล็กน้อยก่อนที่จะหันมาสบตาจินยองต่อแต่สิ่งที่ผมพบคือสายตาที่เย็นชาและเยือกเย็น สงสัยจินยองคงงอลที่ผมพูดแบบนั้นออกไปสิน่ะ เฮ้ยผมขอโทษครับ
"ฮ่าๆๆ มานั่งด้วยกันมัยครับพี่ชาย"
ผมไม่ได้พูดน่ะประโยคนี้อ่ะ ผมหันควับไปหายูคยอมทันทียูคยอมส่งยิ้มให้ผมก่อนที่จะลุกขึ้นมาดึงเก้าอี้ออกที่ยูคยอมทำนี้อาจจะหมายความว่า'เชิญมานั่งได้เลยครับ'
"อืมจิน ก็ดีเหมือนกันน่ะ ไปนั่งกับน้องเข้าเถอะ"
พี่แจ็คสันพูดขึ้นและหันไปทางจินยองผมเห็นจินยองยืนคิดเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าก่อนที่จะเดินตามพี่แจ็คสันไปนั่งลงข้างๆยูคยอมผมส่งสีหน้าเคืองนิดหน่อยให้จินยองและหันไปสบตากับพี่แจ็คสันและเราก็นั่งลงข้างๆกัน
"เอ้ากินไรกันดีจินเอาไรๆ เดียวเลี้ยงๆเอง"
พี่แจ็คสันหยิบเมนูไปจากมือผมก่อนที่จะหันไปถามเพื่อนตรงหน้าและหันกลับมาดูเมนูดังเดิม
"เอาแบบเดิม"
จินยองพูดตอบพี่แจ็คสันก่อนที่จะหันไปถามยูคยอมต่อ
"นายหล่ะ สั่งอะไรหรือยัง"
ยูคยอมส่ายหัวและหันมาหยิบเมนูที่อยู่ตรงหน้าและเปิดดูอาหารผมหันไปมองรายชื่อเมนูกับพี่แจ็คสันแต่พี่แกเปิดเร็วมากต้องการจะหาอะไรกันครับเนี้ย
"อ้ะเจอแล้ววว พี่สาวครับมารับออเดอร์ด้วยครับ"
ผมมองเมนูพี่แจ็คสันพี่เขาสั่งได้น่ากินและยังมีประโยคแต่ดูท่าจะเลี้ยนๆด้วยผมว่าราคาตองไม่แพงแน่เลย ผมเลื่อนสายตาลงไปเล็กน้อย เห้ยยยยยย ราคา 4550 บาท ทำไมมันแพงแบบนี้เนี้ย ผมเงยหน้าไปมองพี่แจ็คสันด้วยสายตาอึ้งๆ ที่ผมอึ้งคือ 1.พี่เขากินของมีประโยช 2.พี่เขากินของราคาแพง 3.พี่เขากินของหรูๆ
"ได้ค่ะรอแปบน่ะค่ะ"//พี่จีน่า
"เออนี้ๆ แบมยังไม่ได้สั่งอะไรใช่มัยหล่ะ"
พี่แจ็คหันมามองหน้าผมและส่งยิ้มให้เล็กน้อย
"ครับ"//ผม
"งั้นพี่แนะนำน่ะ..."//พี่แจ็คสัน
"เขามีอาหารที่จะกินแล้วแกไม่ต้องไปแนะเขาหรออีกอย่างจุดประสงค์แกฉันรู้ไอ้แจ็ค"
จินยองพูดขัดพี่แจ็คสันก่อนที่จะหันมามองหน้าผมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแต่หันไปหายูคยอมแทน
"ยูคหล่ะมีอาหารที่อยาก..."
ตึ้ง
เสียงทุบโต๊ะของใครบางคนทำให้ทั้งร้านตกอยู่ในความเงียบทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง
"ผมรู้ว่าผมงี่เง่าแต่ทำไมหล่ะผมมันไม่ดีตรงไหน"
"นายไม่ดีตรงที่นายงี่เง่าไงมาร์ค"
"แต่ผมรักคุณจียอง"
"แต่ฉันไม่ได้รักนาย ฉันรักจินยองได้ยินมั้ยมาร์คว่าฉันรักจินยอง"
"มันดีกว่ามาร์คตรงไหน มันดีตรงไหน"
"เขาดีตรงที่เขาไม่งี่เง่าแบบมาร์คไง มาร์คอะงี่เง่า"
"จียอน"
ต้นเสียงคือพี่มาร์คกับจียอนสิน่ะแต่เมื่อกี่จียอนพึ่งสารภาพรักกับจินยองไปสิน่ะ
"ทั้งคู่พอเถอะครับ คุณหนูครับพอเถอะครับคนในร้านมองกันหมดแล้วน่ะครับ"
เสียงของบอร์ดี้การ์ดของจียองพูดห้ามทั้งคู่เพราะว่าตอนนี้ทั้งสองคนเป็นจุดเด็นของทั้งร้านไปแล้ว แต่อ้ะ อยู่ๆจินยองก็ลุกขึ้นทำไมเนี้ยลุกทำไมอย่าคิดที่จะทำอะไรงี่เง่าเชียวน่ะจินยองหยุดน่ะอย่าเดินไปตรงนั้นน่ะจินยอง ฮืออออ จินยองเดินออกจากโต๊ะไปและเดินตรงไปทางพี่มาร์คและจียองผมและพี่แจ็คลุกขึ้นพร้อมกันเพราะถ้าเกิดต้นเหตุเดินเข้าไปหาละก็มีหวังได้แย่แน่นอนเชื่อได้เลยท่าตอนนี้พี่มรร์คเห็นหน้าจินยองเมื่อไหร่หล่ะก็จินยองได้โดนพี่มาร์คกระทืบเอาแน่ๆผมและพี่แจ็คสันเลยรีบวิ่งไปคว้าตัวจินยองไม่ให้เดินไปทางนั้น
"ผมไม่รู้หรอกน่ะครับว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่แต่ผมว่าคุณนั่งนิ่งๆอยู่ตรงนี้ดีกว่าเดินเข้าไปและทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปมากกว่านี้น่ะครับ" เ
สียงยูคยอมดังขึ้นทำให้จินยองถึงกับหยุดกึกและเราสามคนก็หันไปมองที่ยูคยอมและตอนนี้กำลังยืนมองพวกเราอยู่และสักพักก็เดินออดจากโต๊ะไปอีกคนแหมยูคทำเป็นบอกว่าอย่าไปเลยๆแต่ตัวเองกลับไปเองปัดโธ่เอ้ยย
"พี่ครับสมัครสอบเสร็จแล้วหรอครับ ถ้าเสร็จแล้วทำไมไม่กลับบ้านครับ"
ยูคยอมเดินตรงไปหาทางพี่มาร์คกับจียองยูคยอมพูดทักจียองไปทำให้จียองสะดุงสีหน้าเธอตอนนี้ดูซีดมาก
"คุณยะ ยูคยอม"
หลังจากที่พี่มาร์คเดินไปถึงผู้หญิงคนนั้นพอดี เสียงโทรศัพน์ของผมก็ดังขึ้นมาผมก้มลงไปหยิบโทรศัพน์มือถือในกระเป๋ากางเกงยีนยาวถึงตาตุ่ม ผมมองเบอร์ที่โทรมาก็ได้พบกับความว่างและว่างเปล่าในสมองของผมเพราะคนที่โทรมานั้นเป็นคนที่ผมรอคอยมานาน
"แบมจะกลับก่อนก็ได้น่ะไม่ต้องรอพี่สมัครสอบแล้วก็ได้พี่มีเพื่อนแล้ว"
เสียงพี่มาร์คดังขึ้นมาเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตาด้วย ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นแต่ไม่วายเสียงโทรศัพน์ของผมก็ยังดังอยู่
"แบม...."
ผมหยุดเดินและหันไปสบตากับคนที่เรียกผมเอาไว้
"ครับ พี่มาร์ค"
ผมพูดตอบพี่มาร์คแล้วทำหน้างงว่าพี่มาร์คจะเรียกทำไม
"ทำไมไม่รับโทรศัพน์อ่ะ มันหนวกหู"
ผมก้มลงมองโทรศัพน์ที่ยังคงดังอยู่เช่นเคย และก็เงยหน้าพี่มาร์คและตอบพี่มาร์คไปด้วยสีหน้ากวนๆ เอ้าก็มันเกียวกันไหมหล่ะผมกับพี่อยู่กันตั้งไกลแต่กลับได้ยินเองทำไมอีกอย่างผมจะรับหรื อไม่รับมันก็เรื่องของผมจริงไหมหล่ะครับ
"ครับ เดียวขึ้นรถผมค่อยรับครับ"
หลังจากที่ผมหันไปตอบพี่มาร์คแล้วผมก็หันกลับมาเดินต่อเพื่อความสบายใจของพี่มาร์คเขา
~~~ลานจอดรถ~~~
ติ้ด
"สวัสดีครับ"
ผมรับโทรศัพท์จากคนปลายสายแล้วพูดทักทายไปด้วยเสียงปกติ
(แบม มีไรหรอที่จะคุยกับพี่)
คนปลายสายทักมาแต่ไม่ได้เป็นประโยคคำถามผมนิ่งเงียบไปไม่ได้พูดอะไรออกไปเลย ผมค่อยๆก้มหน้าลงแล้วก็ต้องหยิบกุญแจออกจากกระเป๋ากางเกงข้างซ้ายก่อนที่จะกดปุ่มปลดเล็ค ตี๊ดๆ เสียงสัญญาณรถดังขึ้นผมเอื้อมมือไปเปิดประตูแต่คนปลายสายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อมาอีกเลยผมเปิดประตูและเอื้อมขาเข้าไปนั่งที่คนขับก่อนที่จะสตาร์รถและปิดประตู
"ที่ผมจะพูดก็คือเรื่องที่เรา..."
ก๊อกๆๆๆ
"แบมๆเปิดประตูให้เค้าหน่อยสิ"
เสียงเคาะกระจกทางฝั่วคนขับดังขึ้นทำให้ผมสะดุ่งและหันไปมองหน้าผู้มาเยือน
(เสียงใครอ่ะแบม)
คนปลายสายพูดถามผมด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียมผมเปิดกระจกให้กับผู้สาเยือนแล้วยิ้มให้น้อยๆอ่าคนคนนี้หน้าคุ้นๆแหะแอะว่าแต่เมื่อกี่คนคนนี้เรียกขื่อผมงั้นหรอเขารู้จักผมด้วยหรอ
"อ่อเพื่อนมั้งครับ งั้นแค่นี้ก่อนน่ะครับ"
ติ้ด ผมกดวางสายและเก็บโทรศัพท์ลงก่อนที่จะหันหน้าไปมองคนข้างๆ
"ไง ไม่เจอกันนานเลยน่ะแบม สบายดีมัย"
เสียงคนคนนี้ก็คุ้นเหมือนกัน อืมมมมผมเคยเจอคนคนนี้ด้วยหรอเนี้ยทำไมผมจำไม่ได้เลยหล่ะ คนคนนั้นทำหน้างงก่อนที่จะส่งยิ้มอีกทีให้ผมคนคนนั้นใส่เสื้อสีดหลืองครีมมีหมวกสีน้ำตาลห้อยอยู่ข้างหลังใส่กางเกงยีนสียีนเข้มยาวจนถึงข้อเท้าร้องเท่าสีดำสวยเป็นรองเท้าผ้า โห!!! ดูท่าคนคนนี้จะรวยใช่เล่นเลยน่ะเนี้ย
"หืออะไรกันจำกันไม่ได้หรอแบม"
คนคนนี้พูดออมสงสัยเห็นผมเงียบไปนานคงรู้ว่าผมนึกถึงเขาไม่ออก คนคนนั้นดูสีหน้าเศร้าศร้อยอย่างเห็นได้ชัดผมก้มหน้าลงเพื่อคิดทบทวนใบหน้าหวานหล่อของคนคนนี้ผมเงยหน้าขึ้นปรากฎว่าใบหน้าของเราห่างกันเพียงคืบเดียวคนคนนั้นยิ้มกว้างให้ผมก่อนที่จะพูดกับผมว่า
"ถ้างั้นเดียวผมจะทำให้แบมจำผมได้เอง ^^"
พูดจบคนคนนั้นก็ยื่นหน้าเข้ามาเลื่อยๆทำให้ผมต้องขยับหนีแต่คนคนนั้นก็เอื่อมมือมาดึงตัวผมไวทำให้ตอนนี้หน้าเราอยู่ห่างกันไม่ถึง2นิ้วแล้วผมหลับตาปรี๋ก่อนที่จะนึกคำที่ทำให้ตัวเองรอดจากการกระทำของคนคนนี้
"ผะ ผมขอ คำใบ้หน่อยครับ"
คนคนนั้นหยุดนิ่งก่อนที่จะยิ้มลางๆให้ผมก่อนที่จะดันตัวเองออกจากผมและเขาก็ได้ยืนนิ่งมือข้างนึงท้าวเอวอีกข้างนึงจับคางทำสีหน้าเหมือนกำลังขุ่นคิดอะไรอยู่และอยู่เขาก็ได้ดีดนิ้วเป็นเชิงว่านึกออกแล้ว
"อ่อๆๆๆ แบมตอนเด็กไงตอนเด็ก"
ตอนเด็กหรอ ตอนเด็กผมเคยมีเพื่อนด้วยหรออืมมมนึกไม่ออกแหะผมเงยหน้าขึ้นมาก่อนที่จะส่ายหน้าให้กับคนคนนั้น
"เฮ้ยยยยังสินะ อืม!! สวัสดีแบมมาเป็นเพื่อนกับเรามัย"
ห้ะ??? อะไรกันอ่ะประโยคนี้ดูคุ้นๆชอบกลแหะเหมือนผมเคยได้ยินมันมาจากไหนสักที่นึงแต่ก็จำไม่ได้ว่าที่ไหน ผมเงยหน้าอีกครั้งแต่ครั้งนี้ผมยังไม่ได้ทำอะไรคนคนนั้นก็ได้ถอนหายใจออกมาก่อน ห้ะๆๆคงจะรู้แล้วสิน่ะว่ายังไงผมก็จำไม่ได้อ่ะ
"เราชื่อยูคยอม แบมชอบเรียกเราว่ายูคมี่ จำได้มัยแบมมี่"
แบมมี่หรอ??? นึงสิแบมนึก อืมมมม ขอโทดน่ะยูค แบมจำยูคไม่ได้อ่าฮืออออออออ ผมหันไปมองหน้ายูคยอมก่อนที่จะส่ายหน้าให้เล็กน้อยผมเห็นว่าสีหน้าของยูคยอมดูเจือจางลงไปอย่างเห็นได้ข่อนข้างชัด จากที่ยิ้มกว้างใบหน้าแจ่มใจตอนนี้รอยยิ้มนั้นได้หายไปจากใบหน้าที่หวานหล่อของยูคยอม ผมยิ้มบางๆให้ยูคก่อนที่จะพูดบางอย่างออกไปเพื่อทำใหคนคนนั้นยิ้มได้อีกครั้งถึงแม้มันจะเป็นอะไรที่เวลาคนคนนั้นรู้และทำให้รู้สึกเจ็บปวดก็ตาม
"อ่อๆ ยูคยอมมี่นี้เอง อ่อๆๆจำได้แล้วๆ เป็นไงบ้างสบายดีมัยเพื่อน ฮ่าๆๆๆ"
ผมหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนว่ากำลังโกหกแต่ดูท่างคนคนนั้นจะไม่มีท่าทีอะไรเลยคนคนนั้นหันไปมองสายลมที่พัดผ่านมาเบาๆก่อนที่จะหันกลับมามองหน้าผมต่อ
"ไม่ต้องโกหกหรอ ผมรู้ว่าแบมจำผมไม่ได้ ไม่ต้องฝืนทำเป็นจำได้หรอกแบม"
เสียงยูคยอมดูเบาและเศร้าลงจากทีแรกที่เจอกัน
"อะเออ ถ้าอย่างนั้นก็เดียวแบมพายูคไปเลี้ยงข้าวเอามัยเผื่อว่าแบมจะจำยูคได้เอามัยยูคเดียวแบมเลี้ยงเอง"
"ก็น่าสนนะ ไปสิ"
~~~ร้านอาหารJYP restaurant~~~
"อ่าพี่สาวครับขอเมนูหน่อยครับ"
ผมพายูคยอมมาที่ร้านอาหารประจำของผมร้านนี้ผมกับจินยองชอบมากินด้วยปันอยู่บ่อยๆตอนที่พี่เขายังอยู่ที่นี้ ผมหันไปมองหน้ายูคยอมก่อนจะยิ้มให้บางๆก่อนที่สาวเสิร์ฟจะยื่นเมนูมาให้เราสองคน
"แหมน้องแบมวันนี้หนุ่มพามาเลี้ยงหรอจร๊า น่ารักเชียว"
เสียงสาวเสิร์ฟทักขึ้นทำให้ผมเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนที่จะยิ้มให้แล้วตอบไปแบบเขิลๆว่า
"ฮ่าๆๆ คนเลี้ยงคือผมต่างหากครับพี่จีน่า"
ผมตอบไปหัวเราะแก้เกลอไปพี่จีน่าที่เป็นสาวเสิร์ฟยิ้มให้ก่อนที่ตะเดินออกไปจากโต๊ะ ผมหันไปมองหน้ายูคยอมก่อนที่จะก้มลงดูเมนูต่อ
"รู้สึกไม่ค่อยหิวเลยอ่า ค่อยกินได้ม่ะ"
เสียงของยูคยอมทำให้ผมเงยหน้าขึ้นมาจากเมนูก่อนที่จะถอนหายใจเบาๆแล้วค่อยๆวางเมนู
"แล้วยูคยอมจะไปไหนหล่ะ"
ผมถามยูคยอมแล้วลุกขึ้นเพื่อนที่จะไปเดินเล่นกับยูคยอมแต่ยูคยอมกับส่ายหน้าก่อนที่จะยิ้มให้ผมและเดินมากดตัวผมให้นั่งลงไปเหมือนเดิมยูคยอมเดินไปนั่งที่ก่อนที่จะเอามือท้าวคางและเอียงคอเล็กน้องด้วยตากลมเล็กสบตากับผม
"นี่แบมเล่าเรื่องตอนที่อยู่ม.ต้นให้ฟังหน่อยสิ"
ยูคยอมนั่งมองหน้าผมและยิ้มน้อยๆคำพูดของยูคยอมทำให้ผมสะอึกเล็กน้อยส่วนตัวผมยังไม่อยากขุดมันออกมาเลยแต่ยูคยอมขอมาทั้งทีก็ต้องทำให้อ่ะน่ะค่าที่จำเพื่อนสมัยประถมไม่ได้ ผมก้มหน้าลงก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้ยูคยอม
"คือเรื่องตอนม.ต้นผมลืมไปแล้วอ่ะ ฮ่าาาๆๆๆ"
ผมหัวเราะกลบเกลื่อนเผื่อให้คนตรงหน้าจับผิดไม่ได้
"จริงหรอ ที่ว่าจำไม่ได้อ่ะ"
เสียงนี้คุ้นๆจังผมจ้องหน้ายูคยอมแต่ยูคยอมก็สายหัวให้ผมและใช้นิ้วชี้มาทางข้างหลังผม ผมหันกลับไปมองตามนิ้วของยูคยอมและก็ต้องตกใจเมื่อพบกับเจ้าของเสียง
"พี่จะ จินยอง!!!!"
"ไงแบม"
ผมอุทานออกไปทำให้จินยองยิ้มให้ผมแต่หลังจากที่ผมทักจินยอง(ทักแบบอึ่งๆ)ก็มีใครอีกคนหนึ่งกระโดดออกมาทางข้างหลังของจินยองแต่พอคนคนนั้นเห็นผมก็ได้ทักผมขึ้นด้วยท่าทางร่าเริง
"พี่แจ็คสัน"
ผมเอ่ยทักคนที่มากับจินยอง อ่าพี่แจ็คสันหล่อขึ้นเยอะเลยน่ะเนี้ยผมลุกขึ้นยืนและหันกลับไปเผชิญหน้ากับจินยองและพี่แจ็คสัน ผมยิ้มให้พี่แจ็คสันเล็กน้อยก่อนที่จะหันมาสบตาจินยองต่อแต่สิ่งที่ผมพบคือสายตาที่เย็นชาและเยือกเย็น สงสัยจินยองคงงอลที่ผมพูดแบบนั้นออกไปสิน่ะ เฮ้ยผมขอโทษครับ
"ฮ่าๆๆ มานั่งด้วยกันมัยครับพี่ชาย"
ผมไม่ได้พูดน่ะประโยคนี้อ่ะ ผมหันควับไปหายูคยอมทันทียูคยอมส่งยิ้มให้ผมก่อนที่จะลุกขึ้นมาดึงเก้าอี้ออกที่ยูคยอมทำนี้อาจจะหมายความว่า'เชิญมานั่งได้เลยครับ'
"อืมจิน ก็ดีเหมือนกันน่ะ ไปนั่งกับน้องเข้าเถอะ"
พี่แจ็คสันพูดขึ้นและหันไปทางจินยองผมเห็นจินยองยืนคิดเล็กน้อยแต่ก็พยักหน้าก่อนที่จะเดินตามพี่แจ็คสันไปนั่งลงข้างๆยูคยอมผมส่งสีหน้าเคืองนิดหน่อยให้จินยองและหันไปสบตากับพี่แจ็คสันและเราก็นั่งลงข้างๆกัน
"เอ้ากินไรกันดีจินเอาไรๆ เดียวเลี้ยงๆเอง"
พี่แจ็คสันหยิบเมนูไปจากมือผมก่อนที่จะหันไปถามเพื่อนตรงหน้าและหันกลับมาดูเมนูดังเดิม
"เอาแบบเดิม"
จินยองพูดตอบพี่แจ็คสันก่อนที่จะหันไปถามยูคยอมต่อ
"นายหล่ะ สั่งอะไรหรือยัง"
ยูคยอมส่ายหัวและหันมาหยิบเมนูที่อยู่ตรงหน้าและเปิดดูอาหารผมหันไปมองรายชื่อเมนูกับพี่แจ็คสันแต่พี่แกเปิดเร็วมากต้องการจะหาอะไรกันครับเนี้ย
"อ้ะเจอแล้ววว พี่สาวครับมารับออเดอร์ด้วยครับ"
ผมมองเมนูพี่แจ็คสันพี่เขาสั่งได้น่ากินและยังมีประโยคแต่ดูท่าจะเลี้ยนๆด้วยผมว่าราคาตองไม่แพงแน่เลย ผมเลื่อนสายตาลงไปเล็กน้อย เห้ยยยยยย ราคา 4550 บาท ทำไมมันแพงแบบนี้เนี้ย ผมเงยหน้าไปมองพี่แจ็คสันด้วยสายตาอึ้งๆ ที่ผมอึ้งคือ 1.พี่เขากินของมีประโยช 2.พี่เขากินของราคาแพง 3.พี่เขากินของหรูๆ
"ได้ค่ะรอแปบน่ะค่ะ"//พี่จีน่า
"เออนี้ๆ แบมยังไม่ได้สั่งอะไรใช่มัยหล่ะ"
พี่แจ็คหันมามองหน้าผมและส่งยิ้มให้เล็กน้อย
"ครับ"//ผม
"งั้นพี่แนะนำน่ะ..."//พี่แจ็คสัน
"เขามีอาหารที่จะกินแล้วแกไม่ต้องไปแนะเขาหรออีกอย่างจุดประสงค์แกฉันรู้ไอ้แจ็ค"
จินยองพูดขัดพี่แจ็คสันก่อนที่จะหันมามองหน้าผมแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อแต่หันไปหายูคยอมแทน
"ยูคหล่ะมีอาหารที่อยาก..."
ตึ้ง
เสียงทุบโต๊ะของใครบางคนทำให้ทั้งร้านตกอยู่ในความเงียบทุกคนหันไปมองทางต้นเสียง
"ผมรู้ว่าผมงี่เง่าแต่ทำไมหล่ะผมมันไม่ดีตรงไหน"
"นายไม่ดีตรงที่นายงี่เง่าไงมาร์ค"
"แต่ผมรักคุณจียอง"
"แต่ฉันไม่ได้รักนาย ฉันรักจินยองได้ยินมั้ยมาร์คว่าฉันรักจินยอง"
"มันดีกว่ามาร์คตรงไหน มันดีตรงไหน"
"เขาดีตรงที่เขาไม่งี่เง่าแบบมาร์คไง มาร์คอะงี่เง่า"
"จียอน"
ต้นเสียงคือพี่มาร์คกับจียอนสิน่ะแต่เมื่อกี่จียอนพึ่งสารภาพรักกับจินยองไปสิน่ะ
"ทั้งคู่พอเถอะครับ คุณหนูครับพอเถอะครับคนในร้านมองกันหมดแล้วน่ะครับ"
เสียงของบอร์ดี้การ์ดของจียองพูดห้ามทั้งคู่เพราะว่าตอนนี้ทั้งสองคนเป็นจุดเด็นของทั้งร้านไปแล้ว แต่อ้ะ อยู่ๆจินยองก็ลุกขึ้นทำไมเนี้ยลุกทำไมอย่าคิดที่จะทำอะไรงี่เง่าเชียวน่ะจินยองหยุดน่ะอย่าเดินไปตรงนั้นน่ะจินยอง ฮืออออ จินยองเดินออกจากโต๊ะไปและเดินตรงไปทางพี่มาร์คและจียองผมและพี่แจ็คลุกขึ้นพร้อมกันเพราะถ้าเกิดต้นเหตุเดินเข้าไปหาละก็มีหวังได้แย่แน่นอนเชื่อได้เลยท่าตอนนี้พี่มรร์คเห็นหน้าจินยองเมื่อไหร่หล่ะก็จินยองได้โดนพี่มาร์คกระทืบเอาแน่ๆผมและพี่แจ็คสันเลยรีบวิ่งไปคว้าตัวจินยองไม่ให้เดินไปทางนั้น
"ผมไม่รู้หรอกน่ะครับว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่แต่ผมว่าคุณนั่งนิ่งๆอยู่ตรงนี้ดีกว่าเดินเข้าไปและทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปมากกว่านี้น่ะครับ" เ
สียงยูคยอมดังขึ้นทำให้จินยองถึงกับหยุดกึกและเราสามคนก็หันไปมองที่ยูคยอมและตอนนี้กำลังยืนมองพวกเราอยู่และสักพักก็เดินออดจากโต๊ะไปอีกคนแหมยูคทำเป็นบอกว่าอย่าไปเลยๆแต่ตัวเองกลับไปเองปัดโธ่เอ้ยย
"พี่ครับสมัครสอบเสร็จแล้วหรอครับ ถ้าเสร็จแล้วทำไมไม่กลับบ้านครับ"
ยูคยอมเดินตรงไปหาทางพี่มาร์คกับจียองยูคยอมพูดทักจียองไปทำให้จียองสะดุงสีหน้าเธอตอนนี้ดูซีดมาก
"คุณยะ ยูคยอม"
เสียงจียองพูดสะดุดนิดๆทำเอาทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันหันกลับกันหมดไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่ที่อยู่ๆเหตุการณ์ก็เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง
สวัสดีค่ะ ต้องขอบคุณทุกคนมากน่ะค่ะที่เข้ามาอ่าน
มีอะไรก็สามารถติดต่อไรน์ได้ที่
FACEBOOK:KUNPIMOOK'K BOTH'TH
IG:KUVIEW_NATTA
LINE:KUVIEW_IGOT7_15
LINE:KUVIEW_IGOT7_15
เอาไว้ทวงฟิคๆๆ ทักมาได้นะถ้าอ่านแล้วงงตรงไหนจะได้อธิบายให้เข้าใจ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น