ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เป็นเกมจีบหนุ่มแล้วไง? ข้าขอเล่นแบบเกม Action RPG แล้วกัน!

    ลำดับตอนที่ #70 : 10 ขวบ : วางแผนหลบหนีล่ะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 365
      35
      29 ก.ค. 63


    รู้สึกตัวอีกทีพวกฉันก็อยู่ในรถม้าที่ไม่รู้จักแล้ว


    “เอ๋? เรา...ถูกลักพาตัวงั้นเหรอ?”


    พอหันไปมองรอบๆก็พบว่า ที่ข้างๆกันมีอาเจนโต้และเจ้าหญิงอาเรียหลับอยู่ พวกเราทั้ง3นั้นถูกจับ

    มัดไว้ด้วยเชือก


    ดูเหมือนจะเป็นเชือกธรรมดานะ?


    แล้ว....ทำไมพวกเราถึงถูกจับได้ล่ะ


    ย้อนกลับไปช่วงก่อนหน้านี้ ในขณะที่ท่านพ่อและทหารคุ้มกันออกไปสู้กับเหล่ามือลอบสังหาร

    ที่ล้อมรอบรถม้า


    ฉันก็ดันตัวของอาเจนโต้และเจ้าหญิงอาเรียให้หลบมุมเข้าไว้ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้แกร่งอะไรมากนัก 

    แต่ถ้าหากมีคนแปลกหน้าโผล่เข้ามาในรถม้า ฉันมั่นใจว่าฉันสามารถเล่นงานเจ้านั่นทีเผลอได้


    แต่แล้ว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น


    นั่นคือหนึ่งในจุดอ่อนของท่านพ่อ.....จุดอ่อนที่ว่า ถ้าหากศัตรูเล่นตุกติกล่ะก็ท่านพ่อจะไม่มีทาง

    รู้ตัวได้เลย เพราะท่านไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ยังไงล่ะ


    และเหตุการณ์ที่ว่าคือฝ่ายลอบสังหาร ที่สามารถใช้เวทมนตร์ธาตุมืดได้  


    จากคำกล่าวของท่านพี่ที่เคยสอนเอาไว้ เวทมนตร์ธาตุมืดนั้นจะเป็นเวทมนตร์ประเภทมายา 

    และเวทมนตร์ประเภทคำสาป พูดง่ายๆตามหลักการของเกมก็คือ ดีบัพนั่นแหละ และเวทย์

    ล่องหนก็เป็นหนึ่งในนั้น


    หนึ่งในพวกของโจรลักพาตัวพวกเราโดยการร่ายเวทย์ล่องหนแล้วลอบเข้ามาในรถม้าโดยที่ฉัน

    ไม่รู้ตัวและหลังจากนั้นก็เสกเวทย์หลับใส่พวกเรา ก่อนที่จะนำตัวพวกเราออกมายังรถม้าที่เรา

    อยู่ในตอนนี้


    และเมื่อจับตัวพวกเราเสร็จ กลุ่มโจรเหล่านั้นก็ถอนกำลังออกไป


    ฉันได้ยินเสียงกรีดร้องของท่านพ่อดังไปทั่วป่าเลยล่ะ ป่านนี้ท่านคงจะทราบว่าพวกเราได้หาย

    ไปแล้ว


    แต่ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถติดตามตัวพวกเราได้ พวกเราถูกเคลื่อนย้ายไปในเส้นทางอื่น และ

    ตอนนี้ได้ห่างไกลจากท่านพ่อไปช่วงหนึ่งแล้ว


    หนทางที่ขลุขละ พื้นถนนที่ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อให้รถม้าวิ่ง ตอนนี้พวกเรากำลังอยู่บนเส้นทางนั้นและ

    ล้อมรอบของพวกเรานั้นถูกคุ้มกันไปด้วยเหล่าโจรลักพาตัว


    ฉันหันไปมองอาเจนโต้และเจ้าหญิงอาเรียอีกที ดูเหมือนว่าคนที่ตื่นจากเวทมนตร์ในตอนนี้จะมีแค่

    ฉันเพียงเท่านั้น นั่นคงเป็นเพราะสกิลพิเศษของผู้ที่ครอบครองเวทมนตร์ธาตุว่างเปล่าก็เป็นได้


    แล้ว...ตอนนี้ฉันควรทำยังไงดีล่ะ


    อาเจนโต้และเจ้าหญิงอาเรียยังไม่ตื่น ถ้าหากฉันหนีไปคนเดียวเพื่อขอความช่วยเหลือในตอนนี้

    คงจะทำได้ แต่ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองหรือเปล่า


    ถ้าหากทั้งสามคนหนีไปพร้อมกันก็คงไม่ไหว อย่างน้อยในสถานการณ์ที่ถูกล้อมอยู่รอบด้าน ฉันเอง

    ก็ไม่มั่นใจว่าจะปกป้องทั้งสองได้หรือไม่....


    ไม่สิ แต่เดิมแล้วพวกนั้นคิดจะลักพาตัวตั้งแต่แรกแล้ว จึงพาขึ้นรถม้าโดยไม่ฆ่าเช่นนั้น เพราะฉะนั้น

    คนที่ตกอยู่ในอันตรายมากที่สุด น่าจะเป็นฉันที่โดนลากเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากกว่า


    “แล้ว..... จะทำยังไงต่อดีล่ะ”


    เสียงหนึ่งดังขึ้นจากทางข้างหน้ารถม้า น่าจะเป็นเสียงของกลุ่มคนที่ลักพาตัวพวกเรามา ฉันจึงแกล้ง

    หลับก่อนเผื่อมีใครลอบมองเข้ามาด้านในรถม้า


    “หมายความว่ายังไง?”


    “ก็ เจ้าพวกเด็กที่ลักพาตัวมายังไงล่ะ จุดมุ่งหมายหลักคือสังหารอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไม

    ถึงต้องพาตัวกลับประเทศด้วยล่ะ ทางเราเองก็เสียพรรคพวกไปเยอะพอสมควรเลยนะ 

    น่าจะจบๆเรื่องไปเสียที น่าจะดีกว่านะ”


    “นี่ อย่าให้คนใหญ่คนโตได้ยินเชียวนะ ทางนั้นเขาสั่งมาก็ทำตามไปเถอะ เห็นว่าจะทรมาณ

    เค้นความลับก่อน แล้วค่อยฆ่าให้ตาย ก่อนจะส่งรูปศพกลับประเทศน่ะ”


    “ชิ รสนิยมแย่จริงๆนะ เก่งแต่กับเด็กและเรื่องลอบกัดเนี่ย”


    เสียงของโจรลักพาตัวดังขึ้นแสดงท่าทางไม่พอใจ แต่อย่างน้อยก็เข้าใจจุดมุ่งหมายของพวกนั้น

    ในตอนนี้แล้ว สิ่งที่พวกนั้นต้องการก็คือความลับของประเทศ และการส่งรูปศพของเจ้าชายไป

    เหยียดหยามองค์ราชาสินะ......


    ถึงแม้จะเป็นเจ้าชายที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจจากพระองค์ก็เถอะ ก็ยังไงก็ตาม มันก็เป็นการ

    หยามหน้าอยู่ดี


    อือ....


    ในขณะที่คิดพร้อมกับเหงื่อตก เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ฉันหันไปมองตามเสียงนั้น รู้สึกเหมือนอาเจนโต้

    จะฟื้นแล้ว


    แต่จะให้ส่งเสียงดังแบบนี้ไม่ได้ ฉันจึงปิดปากหมอนั่นเอาไว้


    “อำอะไออ๋องเออเอี่ย?”


    “เงียบๆหน่อย อาจจะยังสับสนอยู่นะ แต่ตอนนี้เราถูกลักพาตัวแล้วล่ะ”


    อาเจนโต้แสดงสีหน้าตกใจออกมา ก่อนที่จะทำตัวสงบลง แน่นอนว่าสีหน้ายังไม่สู้ดีนัก 

    ฉันจึงจ้องหน้าอาเจนโต้พลางกระซิบ


    “ตอนนี้พวกนั้นยังคิดว่าพวกเรากำลังหลับอยู่ เพราะฉะนั้นอย่าส่งเสียงดังล่ะ ฉันเองก็กำลัง

    คิดแผนการณ์ที่จะหนีอยู่ด้วย”


    “หนีงั้นเหรอ?”


    “ใช่ โชคยังดีที่เจ้าหญิงอาเรียยังไม่ตื่นนะ เพราะฉะนั้นขอบอกนายก่อนเลยแล้วกัน เป้าหมายของ

    พวกนั้นคือพานายกลับประเทศ เค้นข้อมูลของประเทศเรา และฆ่าพวกนายทิ้ง”


    “วะ...ว่าไงนะ! แล้วเราจะทำยังไงดีล่ะ”


    “ถึงตอนนี้จะยังไม่มีโอกาสก็เถอะ แต่ฉันได้คิดเอาไว้แล้วแหละ”


    ว่าแล้วฉันก็เขยิบเข้าไปใกล้ๆอาเจนโต้มากกว่าเดิมและทำการกระซิบอีกครั้ง นี่คือข้อมูลจากที่

    ฉันได้เคยศึกษามาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นทำให้มั่นใจเรื่องภูมิศาสตร์ของทวีปมากพอสมควร


    อาณาจากไทรเทียน่านั้นเป็นอาณาจักรที่อยู่กลางทะเล และรายล้อมด้วยเกาะเล็กเกาะน้อย

    มากมาย ตัวอาณาจักรนั้นเชื่อมต่อกับทางใต้ของอาณาจักรบีกินเนีย...


    “ทางใต้งั้นหรือ ที่นั่นเป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยผู้สนับสนุนท่านพี่สินะ....”


    พอคุยเรื่องแผนการกันนิดหน่อย อาเจนโต้ที่แตกตื่นก็เริ่มสงบลง ดูเหมือนเขาจะตามทันกับ

    ความคิดของฉันที่เล่าออกไป สมแล้วกับที่เป็นเจ้าชายล่ะนะ แต่ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ


    “ใช่แล้ว ฝ่ายสนับสนุนเจ้าชายลำดับที่1 ซึ่งฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกนั้นได้ร่วมมือกับไทรเทียน่า

    หรือเปล่า”


    “มั่นใจได้เลยว่าพวกตาแก่เฒ่าพวกนั้นต้องร่วมมือกันอยู่แล้วแหละ ก็พวกนั้นมันทั้งโลภมากแล้วก็

    โง่ด้วยนี่นา”


    พูดดังนั้นพร้อมทำแววตาเลื่อนลอยนิดหน่อย ฉันเข้าใจความหมายของอาเจนโต้นะ ฝ่ายสนับสนุน

    องค์ชายอันดับที่1 ส่วนใหญ่นั้นเป็นคนโง่ พวกนั้นเห็นแก่ยศถาบรรดาศักดิ์และทรัพย์สินเงินทอง จึง

    มาเข้าร่วมกับเข้าชายอันดับ1ที่ดูเหมือนจะโง่และหลอกง่าย แต่หารู้ไม่ว่า เจ้าชายรอยด์เองก็แกล้งทำ

    ตัวโง่เพื่อรวบรวมเสียงจากสุนัขจิ้งจอกเหล่านั้น แล้วค่อยเขี่ยทิ้งในภายหลัง ฉันเองถ้าไม่รู้จักเจ้าชาย

    รอยด์มาก่อน คงจะคิดเหมือนกับขุนนางเหล่านั้นเช่นกัน.....


    “เรื่องนั้นก็ส่วนเรื่องนั้นนะ แต่หนทางที่เราจะหนีได้มีเพียงแค่จุดเดียวคือตอนลงจากเรือยังไงล่ะ”


    “เรืองั้นหรือ?”


    ฉันมั่นใจอย่างร้อยเปอร์เซ็นต์เลยว่าพวกเราจะต้องถูกพาตัวไปที่อาณาจักรไทรเทียน่าแน่ๆ และ

    หนทางเดียวที่จะไปก็คือการนั่งเรือ


    “ถึงแม้ตอนขึ้นเรือจะเป็นไปไม่ได้ เพราะถึงจะหันหลังกลับ ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเขตแดนของมิตรหรือ

    ศัตรูอยู่ดี แต่ถ้าเป็นตอนลงเรือล่ะก็ น่าจะมีโอกาสอยู่แน่ๆ เราจะใช้โอกาศนั้นกระโดดลงทะเลไป”


    พูดแบบนั้นอาเจนโต้ก็เบิกตากว้าง


    “สติแตกไปแล้วงั้นเหรอ? จะหนีลงทะเลเนี่ยนะ? กับข้าน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่อาเรียนี่สิ ไม่น่าจะ

    ดำน้ำได้นานหรอกนะ..”


    “ทราบอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะแบบนั้นจึงต้องใช้เวทมนตร์เข้าช่วยไงคะ อาเจนโต้? จำได้ไหมว่า

    เวทมนตร์ของฉันคืออะไร?”


    “ธาตุว่างเปล่า.....”


    “ใช่ค่ะ ธาตุว่างเปล่า เวทมนตร์เสริมกำลังกาย เพียงแค่ลงทะเลได้ ฉันก็จะพานายกับเจ้าหญิงอาเรีย

    ขึ้นฝั่งด้วยสปีดที่เร็วที่สุด นายใช้เวทมนตร์น้ำได้ใช่ไหมล่ะ? ถ้าเช่นนั้นก็สร้างฟองอากาศปกคลุมศรีษะ

    พวกเรา ถ้าพวกเราอยู่ใต้น้ำพวกนั้นก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกเราไปทางไหน ทีนี้ หลังจากนั้นพอพวกเราขึ้นฝั่ง 

    ชัยชนะก็เป็นของพวกเราแล้วล่ะ”


    “แล้ว พวกเราจะไปขึ้นฝั่งที่ไหนล่ะ? ยังไงเธอก็ไม่สามารถว่ายน้ำได้นานขนาดขึ้นถึงฝั่งอาณาจักร

    และชั้นเองก็ไม่สามารถร่ายเวทมนตร์ได้นานขนาดนั้นด้วย.....”


    “เพราะแบบนั้นเราจึงต้องไปพักระหว่างเกาะค่ะ อาณาจักรไทรเทียน่านั้นมีเกาะน้อยใหญ่อยู่มากมาย 

    เราจะไปพักกันในแต่ละเกาะเหล่านั้น และกลับเข้าสู่อาณาจักรให้ได้”


    “เราจะไม่พูดถึงตอนโดนจับกลางทาง หรือตอนผิดพลาดกลางทางนะ แต่ถ้าเราไปถึงฝั่งแล้วมีพวกนั้น

    มารอดักอยู่ที่จุดหมายปลายทางล่ะ?”


    ขี้สงสัยจังเลยนะ? นี่หมอนี่ไม่เชื่อแผนการของฉันหรือไงเนี่ย?


    “เพราะแบบนั้นเราจึงไม่กลับไปที่ทางใต้ไงคะ....”


    “ตกลงหมายถึงอะไรเนี่ย ยิ่งฟังเธอพูดยิ่งงงเข้าไปใหญ่แล้วนะ”


    “เราจะกลับเข้าไปทางฝั่งตันออกเฉียงเหนือค่ะ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจำแผนที่ได้หมดแล้วล่ะ รวมถึง

    เกาะต่างๆด้วย ไทรเทียน่ามาเกาะน้อยใหญ่อยู่เยอะนะ มั่นใจได้เลยว่า มีโอกาสที่พวกนั้นจะติด

    ตามมาได้น่ะ มีน้อย ได้โปรดเชื่อใจฉันเถอะนะคะ”


    “เพราะเป็นเธอเลยไม่ค่อยอยากเชื่อใจไง”


    พูดแล้วก็หรี่ตาด้วยสีหน้าเรียบเฉย หมายความว่ายังไงยะ!! คิดว่าฉันมันไว้ใจไม่ได้ขนาดนั้น

    เลยหรือไง?


    ในขณะที่กำลังคิดแบบนั้นอยู่ในใจนั้น


    “กรี๊ด!!!!!


    เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น เจ้าหญิงอาเรียนั่นเอง ดูเหมือนเธอจะตื่นขึ้นมาในสถานการณ์ที่ผิดปกติ 

    แถมยังอยู่ในที่ๆไม่รู้จักอีกด้วย สำหรับเด็กแล้วคงเป็นเรื่องน่ากลัวอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแต่ว่า......


    “อะไรน่ะ!! ข้างในตื่นแล้วงั้นเรอะ!!


    พวกข้างนอกที่ได้ยินเสียงนั้นได้รู้สึกตัวเข้าแล้ว ฉันหันไปมองเจ้าหญิงอาเรียอีกครั้งสลับกับ

    ภายนอกรถม้า อีกไม่นานก็คงจะมีคนเข้ามาในรถม้าแห่งนี้


    แย่ล่ะ.....ขืนเป็นแบบนี้เราได้ถูกโปะยาสลบอีกรอบแน่ โดนคราวนี้ไม่รู้ว่าจะตื่นอีกทีเมื่อไหร่ 

    ขืนเป็นแบบนี้แผนก็จะพังเอาน่ะสิ


    แย่แล้วล่ะ.....ตอนนี้แย่สุดๆเลยล่ะ.............

    ***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×