ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เป็นเกมจีบหนุ่มแล้วไง? ข้าขอเล่นแบบเกม Action RPG แล้วกัน!

    ลำดับตอนที่ #61 : 10 ขวบ : ชุมนุมเด็กสาวล่ะ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 506
      56
      25 มิ.ย. 63


    กุกกัก~


    รถม้ากำลังเคลื่อนตัวอย่างเร่งรีบไปยังอาณาเขตลูน่า เพราะว่าฉันย้ำกับคนขับรถม้าว่าเป็นกรณีเร่งด่วน 

    จึงเคลื่อนรถม้าไปอย่างรวดเร็วโดยแลกเปลี่ยนกับการโดยสารที่ไม่สบายตัวนัก


    แต่ว่า ตั้งแต่ที่จดหมายนี้ส่งมาถึง คาดว่าเวลาก็น่าจะผ่านไปหลายวันแล้ว ถ้าหากไม่ใช่เรื่องร้ายก็คงดีอยู่หรอก 

    ฉันคิดเช่นนั้นพลางทำหน้าเครียดในขณะที่เป้าหมายเข้าใกล้มาเรื่อยๆ


    คิดเช่นนั้น แต่.....


    “ยังไงซะก็เป็นเรื่องเข้าใจผิดอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”


    ที่ตรงข้ามฉันมีลาสกำลังจ้องมองมาด้วยสีหน้าเบื่อหน้า หมอนั่นพูดอย่างเหม่อลอยพลางตบยุงที่บินอยู่ข้างๆ


    “อย่าพูดพล่อยๆนะยะ!! ไม่เห็นหรือไง เขียนว่า “ช่วยด้วย” เลยนะ จะต้องมีปัญหาแน่ๆ!


    ฉันพูดออกไปแบบนั้น ส่วนลาสก็ยังคงทำหน้าตาราวกับจะพูดว่า อ๋อ เหรอครับ แล้วหลังจากนั้นเราก็

    เข้าสู่หมู่บ้านลูน่า พอถึงจุดจอดรถ ฉันก็รีบวิ่งลงจากรถม้าและมุ่งตรงเข้าไปยังบ้านของผู้ใหญ่บ้านทันที


    ปึง!!


    อมาเรีย!!


    ฉันร้องเรียกเต็มเสียง ด้วยใบหน้าที่เป็นห่วงอย่างสุดฤทธิ์และทันใดนั้น


    “ว้าย ท่านเอลิเชีย มาหาฉันเหรอค้า~


    เสียงของอมาเรียได้ดังขึ้นพร้อมกับผ้ากันเปื้อนสีสมพู เธอวิ่งมาหาฉันด้วยสีหน้าร่าเริงกว่าปกติ


    หะ?


    “นั่นไงว่าแล้วเชียว”


    ลาสที่ตามมาทีหลังก็พูดขึ้นอย่างสบาย ทำให้ฉันยืนอย่างไหล่ตก และหลังจากที่ตกอยู่ในสภาพงงงวย

    อยู่อย่างนั้น ฉันก็เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้อมาเรียฟัง


    “เอ๋~ ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย ท่านเอลิเชียไม่ได้อ่านหรือคะ เศร้าใจจัง”


    ดูเหมือนพออมาเรียรู้ว่าฉันอ่านจดหมายของเธอไม่หมด เธอก็แสร้งทำเป็นนั่งร้องไห้ ในขณะที่ฉันยังคงงงๆ

    อยู่ อันที่จริง จดหมายปึกหนาขนาดนั้นคิดว่าใครจะอ่านหมดกันคะ แม่คุณ


    “ใช่แล้วล่ะ คุณหนู มันเสียมารยาทนะครับ ท่านอมาเรียอุตส่าห์เขียนมาว่า จะทำเค้กวันเกิดให้ท่านเอลิเชีย

    พร้อมกับมีท่านเนทิเลียมาช่วยด้วย น่ะครับ”


    เอ็งอ่านจบงั้นเรอะ!!!!!


    “พอดีว่า กะจะเขียนจดหมายถึงท่านเอลิเชียที่ไม่ได้เจอกันมานานสัก 200 หน้าน่ะค่ะ แต่พอเขียนไปสัก 100 หน้า

    ก็เกิดง่วงขึ้นมา เลยหยุดที่เรื่องที่ว่ามีท่านเนทิเลียมาช่วยทำเค้กวันเกิดให้ด้วย ในหน้าสุดท้ายที่ หน้า 101 แล้ว...

    ท่านพ่อคงคิดว่าฉันเขียนเสร็จแล้วจึงส่งไปทั้งอย่างนั้นมั๊งคะ? ช่างน่าเสียดายจริงๆ”


    สรุปว่า ช่วยด้วย ในหน้าสุดท้ายคือต่อจากหน้าที่ 101 ที่มีเนื้อความว่า เค้กวันเกิดของฉันมีเนทิเลียมา”ช่วยด้วย” 

    อย่างนั้นสินะ ว่าแต่ จดหมาย 200 หน้าเนี่ย คิดจะเล่าเรื่องอะไรกันคะคุณ อย่าหาทำเลยนะยะ!!


    พอคิดว่าไม่มีเหตุด่วนเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นแล้วก็ทำให้เข่าอ่อนทันที คงจะเป็นเพราะโล่งใจกระมัง ฉันนั่งตัวอ่อน

    ถอนหายใจอยู่บนโซฟาเสียอย่างนั้น


    “ก็ถึงบอกไงครับว่าเข้าใจผิด”


    โดยมีลาสมาคอยซ้ำเติมอีกรอบน่ะนะ.....


    “แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกล่ะยะ!!!!


    แน่นอนว่าพอบ่นออกไป ลาสก็ทำหน้ารำคาญใส่ หนอย เจ้าคนสวนไม่ได้เรื่องนี่!~


    “แล้ว.....ทีนี้จะเอายังไงดีล่ะเนี่ย ยังเหนื่อยไม่หายเลย ถ้ากลับบ้านตอนนี้มีหวังเป็นลมกลางทางแน่เลย”


    พอทุกอย่างเป็นเรื่องเข้าใจผิด ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต่อ แต่หลังจากที่เดินทางมาอย่างทุลักทุเลในตอนต้น 

    ทำให้ขยาดการนั่งรถม้าอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ดังนั้นจึงบ่นออกไปเช่นนั้นและทางอมาเรียเองหลังจากได้ฟังก็ยิ้มแฉ่ง


    “ถ้าเช่นนั้น ไปเที่ยวกับดิฉันก่อนกลับไหมคะ?”


    “เที่ยวงั้นหรือคะ?”


    “ใช่ค่ะ จะว่าเที่ยวก็ไม่เชิง ในวันนี้ที่กลางเมืองจะมีการนัดกลุ่มเด็กสาวมาพูดคุยกันน่ะค่ะ ท่านเนทิเลียก็จะมา

    เข้าร่วมด้วย ถ้าไม่รังเกียจมาคุยเล่นด้วยกันก่อนไหมคะ?”


    คุยเล่นกับเด็กผู้หญิงคนอื่นงั้นเหรอ? จริงสิ ที่ผ่านมาถึงแม้จะมีเพื่อนผู้หญิง แต่ก็มีไม่มากเท่าไหร่ ถ้าหากผูกมิตร

    กับผู้คนอีกหลายๆคน ก็อาจจะได้แนวทางการใช้ชีวิตเพิ่มมากขึ้นก็ได้ นับว่าเป็นข้อเสนอที่ไม่เลวเลย ดังนั้นฉันจึง

    ยิ้มรับและตอบตกลงกับอมาเรียไป


    “เข้าใจแล้วค่ะ ขอฝากตัวด้วยนะคะ”


    แน่นอนว่าอมาเรียก็ยิ้มรับและจับมือฉันไว้แน่น


    “ไว้ใจได้เลยค่ะ~


    และแล้วพวกเราก็ออกไปที่กลางเมืองของเขตลูน่า พร้อมกับไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆของลูน่า นับรวมๆแล้ว 

    ตอนนี้กลุ่มเรามีกันอยู่หกคน 


    คนแรกก็คือฉันเอง


    “สวัสดีค่ะ เอลิเชียค่ะ ยินดีที่ได้พบกับทุกท่านนะคะ”


    “สวัสดีค่ะ เนทิเลีย เป็นซิสเตอร์ฝึกหัดอยู่ที่โบสถ์ส่วนกลางค่ะ อ๊ะ ท่านเอลิเชีย ไม่ได้พบกันนานเลยนะคะ”


    “สวัสดีค่ะ เอโกะค่ะ เป็นลูกสาวพ่อค้าขายไข่อยู่ในตลาดค่ะ”


    “สวัสดีค่ะ บีบี้ค่ะ เป็นลูกสาวพ่อค้าขายหอยค่ะ”


    “สวัสดีค่ะ อมาเรีย ลูน่า ค่ะ วันนี้มากับท่านเอลิเชียค่ะ”


    “สวัสดีค้า~ หนูชื่อลาสค่ะ มากับท่านเอลิเชีย แล้วก็ท่านอมาเรีย~♪


    มีส่วนเกินมาด้วยค่ะคุณแม่ขา~ แล้วไหงเอ็งมาอยู่ในกลุ่มได้ฟร่ะ!!!!!


    พอแนะนำตัวกันครบทุกคนก็เห็นลาสมานั่งอยู่กลางวงเสียแล้ว พอมองไปรอบๆก็พบแต่กลุ่มเด็กผู้หญิง

    ทั้งนั้น การที่มีผู้ชายเพียงหนึ่งเดียวมานั่งกลางกลุ่มผู้หญิงแบบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยหรือไง


    “เอาล่ะ เรามาพูดเรื่องความรักกันดีกว่า~


    แล้วไหง เอ็งถึงเนียนมาเปิดประเด็นเกิร์ลทอล์กกันกลางวงแบบนี้ล่ะเฮ้ย!! ยางอายไม่มีเลยรึไงยะ


    ลาสพูดเช่นนั้นพลางนั่งจ้องทุกคนด้วยสีหน้าผ่อนคลาย ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกน่า จู่ๆมีผู้ชายวัยรุ่น มานั่ง

    ในกลุ่มเด็กสาว ทุกคนคงจะประหม่าอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง?


    “บีบี้มีแอบชอบคุณพี่ร้านคู่แข่งค่ะ”


    “เอโกะชอบคนเดียวกันกับบีบี้ค่า~


    “ค่าๆๆๆ อมาเรียชอบท่านเอลิเชียมากๆๆๆๆๆ ค่ะ!!


    “ดิฉันเป็นคนของโบสถ์เพราะฉะนั้นคงมีความรักไม่ได้ แต่จะขออวยพรให้กับทุกคนนะคะ”


    ไม่ประหม่ากันหรอกเรอะ!!! แล้วทำไมถึงตอบกันอย่างสนิทสนมขนาดนั้นเลยล่ะเห้ย!! นี่ฉันบ้าคิดมาก

    คนเดียวใช่ไหมเนี่ย!!


    จู่ๆก็รู้สึกเหนื่อย คงเป็นเพราะตบมุกในใจแบบรัวๆไปหน่อย แต่การที่ลาสได้รับการยอมรับเร็วขนาดนี้นับว่าเป็น

    เรื่องที่ไม่เคยคิดถึงมาก่อนเลย เพราะว่าลาสนั้นเป็นคนประเภท ซิสค่อน ที่มักจะปิดกั้นตัวเองอยู่เสมอ 


    เพราะว่าคนที่เขาจะเปิดใจก็คือ ลิลลี่ ดังนั้นเมื่อเขาอยู่กับคนอื่น ก็มักจะปล่อยออร่าที่บ่งบอกว่า “อย่ามาเข้า

    ใกล้ชั้นนะ” ออกมาอยู่เสมอๆ


    แต่ลาสในวันนี้ต่างออกไป เขาสามารถใช้คำพูด ท่าทาง กลมกลืนไปกับผู้คน เฉกเช่นเหมือนอย่างคนที่มีมนุษย์

    สัมพันธ์ดีมาตั้งแต่เกิด ลาสที่เป็นแบบนี้เนี่ย เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ?


    โดยที่ไม่รู้ตัว ลาสคนเดิมในเกม เปลี่ยนไปจนกลายเป็นคนละคนแบบนี้เลยงั้นหรือ?


    “แล้ว? คุณหนูล่ะครับ ความรักของคุณหนูเป็นแบบไหนหรือครับ”


    เพราะว่าอยู่ในความคิดของตัวเองมากไป ทำให้เผลอสะดุ้งออกมา ในขณะที่ลาสทักขึ้น ดูเหมือนว่าทุกคน

    จะตอบคำถามกันหมดแล้ว ดังนั้นคนต่อไปก็คือฉัน


    อุตส่าห์ให้เข้าร่วมวงทั้งที ถ้าหากทำตัวแปลกแยก ฉันจะต้องกลายเป็นแกะดำแน่ อย่างนี้ไม่ดีแล้ว! ความรัก 

    ความรักงั้นเหรอ?


    “ดิฉันรักท่านพ่อกับท่านแม่ค่ะ”


    “ตอบคำถามได้น่าเบื่อชะมัด”


    ลาสพ่นลมหายใจออกมาทันที พลางทำท่าเยาะเย้ยใส่ เด็กผู้หญิงสองคนอย่างเอโกะกับบีบี้ ก็ทำหน้าสงสาร

    ใส่ฉันด้วยเช่นกัน


    นี่พวกเอ็งสนิทกันถึงขนาดรวมหัวมาสมเพชใส่ฉันเลยงั้นรึ?


    “เอาเถอะ เรื่องของฉันช่างมันเถอะ!!!! แล้วนายล่ะลาส ความรักของนายคือใครกันล่ะ!!!!!


    ลิลลี่แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่รึไงกัน!!! ฉันถามอะไรของฉันไปเนี่ย เพราะกระแสความเขินมาพุ่งตรงมาที่ฉัน 

    จึงมีความคิดอยากจะแก้แค้นขึ้นมา เลยถามออกไป แต่พอมารู้สึกตัวอีกที ก็พบว่าสิ่งที่ตัวเองทำ มันไม่ได้

    ส่งผลกระทบอะไรมากมายกับลาสเท่าไหร่ เพราะเจ้าตัวเองนั้นรักลิลลี่ และไม่เคยอายที่จะต้องบอกว่ารัก

    กับน้องสาวของตัวเองอยู่แล้ว


    แต่.....ทั้งๆที่คิดแบบนั้นจู่ๆหมอนั่นก็หยุดชะงักลง


    "อะ....เอ๋ ไม่ใช่เหรอ?"


    ไม่มีการตอบในทันทีเหมือนอย่างที่คิด ทันทีที่หมอนั่นมองหน้าฉัน หน้าของหมอนั่นก็แดงจนกลาย

    เป็นลูกมะเขือเทศ


    เอ๋ๆๆ ท่าทางแบบนั้นมันอะไรกันเนี่ย!!! หรือว่า...นี่ฉันถูกโกรธอยู่งั้นเหรอเนี่ย?


    “ฮะ เห้ ลาส ขอโทษ เล่นมากไปหน่อยน่ะ... โกรธเหรอ?”


    หรือว่าบางที พออายุมากขึ้นอาจจะมีความคิดในฐานะผู้ใหญ่ที่ไม่อยากให้เด็กอย่างเรารู้ก็ได้ ฉันเอง

    ตอนในโลกก่อนก็มีเรื่องที่ไม่อยากให้น้องสาวรู้เหมือนกัน คงจะเป็นฉันเองที่มองลาสผิดไป จึงขยับเข้า

    ใกล้ๆ แต่หมอนั่นกลับขยับหนี


    เอ๋ โกรธขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ?


    สีหน้าของฉันเริ่มจ๋อยแล้วนะ บรรยากาศขากที่เฮอาก็เริ่มมาคุยังไงไม่รู้แล้วสิ ในขณะที่คิดแบบนั้น เนทิเลีย

    ที่ยิ้มอยู่จนถึงบัดนี้ก็หุบยิ้มลง และคว้าคอลาสที่กำลังจะหนีกลับมา


    “เหวอ~


    “ลาสคะ เปิดประเด็นนี้เองอย่าหนีสิคะ”


    “ก็มัน.....”


    ไม่มีคำตอบอะไรไปมากกว่านี้ ลาสเองก็ยังคงทำสีหน้ากระอักกระอ่วนอยู่ ทำเอาฉันรู้สึกผิดขึ้นมาเลย


    “ไม่เป็นไรหรอกเนทิเลีย ลาสเองจนถึงก่อนหน้านี้ก็ยังเป็นพวกไม่สนใจโลกอยู่เลยค่ะ การให้คุยมากๆคง

    จะฝืนตัวเขาอยู่แล้ว ฉันไม่ถือหรอกค่ะ”


    จริงสิ ลาสอาจจะกำลังผืนตัวเองให้เข้ากับทุกคน ทั้งๆที่ตัวเองไม่ชอบอยู่สินะ 


    ก็ลาสในตอนนี้เป็นหนึ่งในบอดี้การ์ดของฉันนี่นา คงคิดว่าการพบปะพูดคุยคงจะเป็นหน้าที่หนึ่งของ

    บอดี้การ์ดแน่ๆ จนฝืนตัวเองถึงขนาดนั้น การที่ฉันไปทำลายบรรยากาศของเกิร์ลทอล์กที่ลาสสร้างขึ้น 

    โดยการถามคนที่ลาสชอบ คงเป็นสาเหตุให้เขาโกรธสินะ


    “กำลังคิดอะไรแปลกๆอยู่ใช่ไหมคะเนี่ย”


    แต่จู่ๆฉันก็ถูกหยุดความคิดไปโดยซิสเตอร์เนทิเลีย โดยที่มือยังคงดึงคอเสื้อลาสอยู่ เธอมองตรงมาที่ฉัน

    ด้วยแววตาที่น่าเชื่อถือ ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ จากแม่ชีซุ่มซ่ามเมื่อหลายปีก่อน กลายเป็นคนที่น่าเชื่อถือ

    แบบนี้ไปเสียแล้ว


    “แค่รู้สึกผิดน่ะค่ะที่ทำให้บรรยากาศเสีย แล้วก็รู้สึกผิดต่อลาสด้วย.......”


    “ถ้าเช่นนั้นขอฝากเด็กคนนี้ด้วยนะคะ ถึงจะเป็นเด็กที่พูดยากไปบ้าง แต่ก็เป็นเด็กดีค่ะ”


    ทั้งๆที่ฉันพูดไปเช่นนั้น จู่ๆเนทิเลียก็ก้มลงพร้อมกับจับลาสก้มหัวไปพร้อมกัน อะไรกันน่ะ ฉากแม่ผัว

    ฝากลูกชายให้กับลูกสะใภ้แบบนี้?


    จู่ๆทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้เนี่ย?


    “เอ๋...เนทิเลีย เอ่อ ไหงจู่ๆ.....”


    “พอดีว่าฉันเริ่มเหนื่อยแล้วน่ะค่ะ ทั้งสองคนบื้อซะขนาดนั้นขืนพูดกันต่อไปคงจะยาว เลยขอชิงตัดจบบท

    สนทนาซะเลย เอาเป็นว่าตามนั้นนะคะ~~


    พูดจบก็ยิ้มร่า


    อา....


    ส่วนฉันก็ตอบกลับอย่างงๆ สรุปว่าเหตุการณ์เป็นยังไงกันแน่นะ ท้ายที่สุดแล้วหลังจากบอกลากับทุกคน 

    ฉันกับลาสก็เดินทางกับไปยังคฤหาสน์ของเรา ในขณะที่ยังเก็บความงงนี้เอาไว้ในใจ


    อ๊ะ จริงสิ ต้องเตรียมงานวันเกิดด้วยนี่นา


    จู่ๆก็คิดถึงเรื่องที่จะทำได้ เอาเป็นว่าในตอนนี้ ขอพักข้อสงสัยเรื่องนี้เอาไว้ก่อนก็แล้วกัน____________

    ***  

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×